ณ บ้านศิริโชติ “อะไรนะคะคุณแม่ ให้ลินไปทานข้าวกับอีตา อะ เอ่อ พี่มาร์ท งั้นเหรอคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงตกใจสุด ใครจะไปนึกล่ะว่าคุณแม่จะขอร้องแกมบังคับให้ฉันไปทานข้าวกับเขา ไปเป็นตัวช่วยของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คนที่ไล่ฉันออกมาจากวงโคจรของเขา ยิ่งคิดมันก็ยิ่งแค้น“ใช่แล้วล่ะลูกสาวคนสวยของแม่” แม่ฉันพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มสุด ๆ“ไม่ค่ะคุณแม่ ยังไงก็ไม่เด็ดขาด เขาทำหนูเจ็บหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้หนูไม่ยอมเด็ดขาด” ฉันพูดกับคุณแม่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง“หึ ใช่สิ ลูกไม่รักแม่แล้วนี่ โอเค แม่ไม่บังคับลูกก็ได้ ลูกจะทำอะไรก็ทำเลย แม่มันแก่แล้ว มีลูกกับเขาอยู่แค่คนเดียวแต่เขาก็ไม่สนใจ ใช่สิ ไอ้เรามันก็ใกล้จะ…”“ก็ได้ค่ะคุณแม่ ลินไปก็ได้ คุณแม่เลิกตัดพ้อต่อว่าลินสักทีเถอะค่ะ”ฉันที่ทนคำตัดพ้อของคุณแม่สุดที่รักไม่ไหว จึงต้องรับปากคุณแม่ออกไปอย่างไม่ชอบใจนัก พอฉันรับปากเท่านั้นแหละ คุณแม่ก็ยิ้มหน้าบานมาเชียวเฮ้อ อยากจะขัดใจก็ทำไม่ลง ให้ตายเถอะ ใครก็ได้ช่วยฉันที“ดีจ้ะหนูลิน งั้นเตรียมแต่งตัวสวย ๆ เลยนะคะ วันนี้หนึ่งทุ่มตรงตามาร์ทจะมารับไปทานข้าวเย็น” เมื่อเห็นลูกสาวสุดสวยอย่างฉันรับปาก คุณแม่บังเกิดเก
“แล้วนี่แกมาทำไมเหรอ” ยัยมีนเมื่อเห็นฉันนั่งเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาถามทันที“ฉันแค่จะมาขอบใจแกที่ยอมตีสนิทกับไอ้ดนัยให้น่ะ ขอบใจนะ ว่าแต่แกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เห็นยัยแพรวบอกว่าคนของไอ้โทมัสคุมตัวไอ้ดนัยแจเลย” ฉันเอ่ยขอบคุณยัยนี่เสร็จ ก็ไม่ลืมซักถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรเลยจ้ะ คนสวยซะอย่าง สบายใจได้” ยัยมีนพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ก็ดี ที่ไม่เป็นอะไร ฉันรับรองเสร็จจากงานนี้ ฉันจะพาพวกแกไปเที่ยว” ฉันพูดจบยัยมีนก็ทำตาลุกวาวทันที เหอะ เรื่องเที่ยวนี่ไวกันจริง ๆ“เอ่อ ว่าแต่แกจะจัดการยังไงกับนายดนัยงั้นเหรอ” ฉันเลิกคิ้วขึ้นด้านหนึ่ง เมื่อยัยแพรวถามว่าฉันจะทำยังไง ฉันกระตุกยิ้มมุมปากให้มันหนึ่งที“ได้เวลาที่ฉันต้องเข้าบริษัทจริง ๆ ซะแล้ว ฉันจะเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้รู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับบริษัทของฉัน” ฉันพูดด้วยสายตาเหี้ยม ๆ ทุกคนคงสงสัยล่ะสิ ว่าฉันจะทำอะไร ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวรู้แน่ เตรียมรับมือได้เลย“แล้วนี่แกจะไปไหนต่ออะ” ยัยมีนเลือกถามฉันหึ จ้างให้ฉันก็ยังไม่ยอมออกจากห้องนี่ง่าย ๆ หรอก เรื่องอะไรล่ะ นี่ก็เพิ่งจะเที่ยงครึ่งเอง ยังไม่มีอะไรต้องไปไหนสักหน่อย ฉันแกล้งล้มตัวลงนอนที่โซฟา แล้ว
18:30 ของบ้านศิริโชติ เสียงรถของผมพุ่งเข้ามาจอดในรั้วบ้านเรียบร้อยแล้วหืม หืม อารมณ์ดีจริงโว้ย อิอิ จอดรถเสร็จผมก็เดินเข้าไปในบ้านโดยมีแม่นมของลินนำเข้าไปทันที“คุณพ่อคะ เตรียมห้องไว้ให้ลินด้วยนะคะ ลินจะเข้าบริษัท” ผมได้ยินเสียงคนที่แสนจะคิดถึงพูด“แน่นอนอยู่แล้วลูกรัก พ่อจะเตรียมตำแหน่งรองประธานไว้ให้”และไม่นานผมก็ได้ยินเสียงคุณน้าไกรศรพ่อของลินพูดขึ้นบ้าง นึกยังไงน้า ลินถึงจะเข้าบริษัทที่ตัวเองอิดออดมาตลอด และตอนนี้ผมก็มาถึงห้องนั่งเล่นที่สามพ่อแม่ลูกคุยกันอยู่เรียบร้อยแล้ว“สวัสดีครับ คุณน้าคุณอา” ผมสวัสดีคุณแม่และคุณพ่อของลลิน“อ้าวตามาร์ท มาพอดีเลย มานั่งก่อนสิจ๊ะ”คุณน้ารัตนาพูด แต่คุณอาไกรศรน่ะสิครับมองผมตาเขียวเชียว ไม่เป็นไรอยากได้ลูกสาวเขาหนิ เพราะฉะนั้นเราต้องกล้า ด้านได้อายอดไอ้มาร์ท สู้เว้ย“หึ มาแล้วเหรอตามาร์ท” คุณอาไกรศรพูด“เอ่อ ครับคุณอา งั้นผมขอพาน้องไปเลยนะครับ นี่ก็หกโมงครึ่งแล้ว” ผมพูดพร้อมมองหน้าคุณน้า/อาทั้งสอง“จ้ะ จ้ะ ไปเลยจ้ะ ตามาร์ท น้าฝากน้องด้วยนะ” คุณน้าพูด“คุณแม่อะ” เสียงยัยตัวแสบก็ขัดขึ้นมา พร้อมหน้าตาที่บอกบุญไม่รับ“ครับ รับรองปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็
ปัง ปัง ปังปัง ปังเสียงปืนอีกหลายนัดดังตามมาติด ๆ ทำให้ผมกับลินรีบลงจากรถโดยใช้ประตูรถขวางวิถีกระสุนไว้ ปัง ปังปัง ปัง ผมและลินจึงยิงสวนมันออกไปบ้าง และเท่าที่ดูตอนนี้มันมีประมาณแปดคน เพราะคนขับรถหนึ่งนั้นลินยิงไปแล้ว ผมคาดว่ามันน่าจะมาคันล่ะห้าคน และที่บอกว่าเหลือแปดเพราะคนเมื่อกี้ผมเป็นคนสอยมันเอง“พวกมันมีอยู่แปดคน ลินรอพี่ตรงนี้นะ พี่จะอ้อมไปทางด้านหลังพวกมัน พี่จะเก็บห้า ส่วนลินสาม โอเคไหม” ผมพูดจบก็มองหน้าเธอด้วยสายตาเป็นห่วงสุดฤทธิ์“ไม่ค่ะ คนละสี่เท่ากัน เราสองคนคนละครึ่ง” เธอปฏิเสธผมทันควันปัง ปัง“อย่ามัวมุดหัวอยู่หลังรถสิวะ แน่จริงอะโผล่หัวออกมาสิ” เสียงมันคนหนึ่งตะโกนออกมาท้าทายผม สาบานเลย ผมเก็บมันไว้แน่“อย่าดื้อนะลิน พี่ห้า ลินสาม” ผมหันมาคุยกับร่างบางตรงหน้าอีกครั้ง“ไม่ค่ะ” ผมจบเธอก็วิ่งออกไปทันที“ลิน!!”“ปัดโธ่เว้ย”ผมได้แต่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ผมเห็นเธออ้อมไปด้านหลังแล้ว ปัดโธ่เอ้ย โหดคูณสองสินะปัง ปัง ปังผมยิงสวนมันตรงหน้า เพื่อเรียกความสนใจปัง ปังมันก็ยิงสวนกลับมาที่ผมเหมือนกัน ผมหันไปมองลินอีกครั้ง เห็นลินอยู่ข้างหลังพวกมันเรียบร้อยแล้ว ผม
เอี๊ยด!รถคันหรูถูกจอดที่โรงจอดรถใต้คอนโดอีกครั้งหนึ่ง ทันทีที่รถจอดฉันก็ลงจากรถเดินขึ้นมายังชั้นบนสุดเพื่อเข้าคอนโดส่วนตัวทันทีเฮ้อ คิดถึงไลออน ไทเกอร์ชะมัดตุบ ตุบ ตุบ เสียงคนวิ่งตามมา“ลิน รอพี่ด้วยสิ”กึกฉันถึงกับหยุดทันที ที่ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อฉัน มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“ตามมาทำไม กลับบ้านคุณไปสิ” ฉันหันกลับไปหาคนที่ทำหน้าแหยใส่ฉันอยู่“เอ่อ คือพี่ปวดท้องอะ ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ” เขาพูดหึ ปวดท้องเหรอ“แน่ใจนะ ว่าอยากเข้าไปจริง ๆ อะ” ฉันพูดจบก็ยกยิ้มที่มุมปาก แววตามีแต่ความขบขัน แล้วหรี่ตามองลง“แน่ใจครับ” เมื่อได้ยินเสียงเขาตอบ ฉันก็ยิ้มออกมาทันที“งั้นก็ตามมา” คิดว่าฉันไม่รู้รึไงไอ้ที่ว่าปวดท้องอะ โกหกทั้งเพอยากเข้าก็จะให้เข้า ดื้อด้านดีนัก ต้องจัดสักหน่อยแอ๊ดเสียงฉันเปิดประตูเข้าไป แล้วเดินไปหยิบแก้วน้ำ รินน้ำออกมายังห้องนั่งเล่นสองแก้ว ของฉันแก้ว ของพี่มาร์ทแก้ว“ขอบคุณจะเมียจ๋า”ฉันหันไปมองคนพูดตาเขียวปั๊ด ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม แก้เขินนะ หึหึ“แล้วนี่ไหนบอกปวดท้อง ไม่เข้าไงห้องน้ำอะ” ฉันถามคนที่นั่งยิ้มอยู่ พอเจอคำถามปุ๊ป เขาก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ แล้วมองหน้าฉันย
ร่างใหญ่กอดรัดร่างบางจากทางด้านหลัง แผ่นหลังข่าวเนียน ลาดไหล่บางเบา ถูกร่างสูงนามว่าคุณาวุฒิฟอนเฟ้นขบเม้มจนเกิดรอยแดง ชายหนุ่มวกกลับเข้ามาที่ต้นคอขาวของหญิงสาวแล้วทำการขบเม้มอีกครั้ง ก่อนจะไล่ต้อนขบเม้มติ่งหูเล็กทำให้หญิงสาวเกิดความสยิว ชายหนุ่มก็ยังไม่ลดละที่จะปลุกเร้าหญิงสาวให้ตื่นไปกับรสสัมผัสของเขาขณะที่หญิงสาวนั้น หัวใจเริ่มจะแกว่งไกวเพราะความที่ด้อยประสบการณ์ทำให้ชายหนุ่มชักนำไปได้โดยง่าย ชายหนุ่มพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มคล้อยตาม แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมแพ้พยายามต่อต้านความรู้สึกภายใน“อ๊ะ ปล่อยสิ อื้อ”ร่างบางพยายามครางประท้วง หากแต่ชายหนุ่มหาได้สนใจไม่พรึ่บร่างบางถูกจับหันมาหาร่างแกร่ง ก่อนที่ปากหนาจะตะโปมจูบร่างบางอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อร่างบางไม่ยอมเปิดปาก ร่างใหญ่จึงย้ายเป้าหมายมาที่ซอกคอขาวแล้ววกกลับขึ้นไปจูบริมฝีปากบางใหม่อีกครั้ง“อ๊ะ อย่า อื้อ” ร่างบางพยายามห้ามเมื่อมือของร่างหนาเริ่มอยู่ไม่สุข แต่ก็ถูกริมฝีปากหนานั้นประกบปิดปากอีกครั้ง ชายหนุ่มไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กที่พยายามหลบหลีกเรียวลิ้นหนา ทั้งสองเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นไปมาอย่างสนุกสนาน คุณาวุฒิค้นพบว่าร
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด 07:30 เสียงนาฬิกาปลุกของฉันเองแหละ ฉันเอามือไปกดปิดนาฬิกาที่ตอนนี้มันรบกวนเวลานอนของฉัน กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว ไอ้บ้านั่นหื่นฉิบ ระบมหมดทั้งตัวแล้วฉัน ว่าแต่กี่โมงแล้วล่ะเนี่ย อ้อ เจ็ด โมงครึ่งอะไรนะเจ็ดโมงครึ่ง ให้ตายเถอะ วันนี้ฉันจะต้องเข้าบริษัทในฐานะรองประธานบริษัทหนิ ตาย ๆ ตายแน่ ประชุมเก้าโมง อ๊าย ฉันลุกขึ้นแล้วก็ต้องหน้าแดง เพราะร่างกายฉันมันมีแต่รอยรักที่เขาฝากไว้เต็มตัวไปหมดโอ๊ย หงุดหงิด แล้วไอ้คนทำมันก็นอนหลับสบายไม่รู้เลยหรือไงว่าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนเนี่ยตุบเพียงแค่ฉันเก้าขาลงจากเตียง ฉันก็ทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นทันทีเวรละไง แสบฉิบ ไอ้บ้านี่มาเล่นฉันหนักจริง ๆ ง้อบ้านไหนให้ง้อแบบนี้ ฮือ เจ็บ โดนยิงยังไม่เป็นแบบนี้เลย ฮืออ ฉันกัดฟันพยายามประคองร่างตัวเองไปในห้องน้ำ กว่าจะลากสังขารตัวเองมาถึงห้องน้ำก็กินเวลาไปหลายนาที ฉันใช้เวลาอาบน้ำ แค่ยี่สิบนาที พอออกมาจากห้องน้ำไอ้คนที่ทำฉันเป็นแบบนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ฮึ่ย ฉันได้แต่กัดฟัดหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จฉันก็กำลังจะเดินออกไปจากห้องเพราะนี่ก็กินเวลาไปแปดโมงตรงแล้ว เหล
“ขอโทษนะครับ ผมว่าไม่ได้อภิสิทธิ์เกินไปเหรอครับ คือคุณลลินเป็นลูกสาวท่านประธาน มีเพียงเกียรตินิยมที่มาจากอเมริกาว่าเก่ง แต่อย่าลืมนะครับว่าเรียนกับการทำงานจริงมันต่างกัน” พอนายดนัยพูดจบประโยคนั้นก็มีเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง นายดนัยมองฉันยิ้ม ๆ หึ เย้ยไป“ผมว่า ให้เธอลองทำตำแหน่งอื่นก่อนดีไหมครับ เหมือนทดลองงาน แล้วค่อยให้คณะกรรมการท่านโหวตว่าเธอสมควรได้รับตำแหน่งรองประธานบริษัทหรือไม่ หรือทุกคนคิดว่าไงครับ” นายนั่นหันมาพูดใส่ฉันแล้วหันไปขอความคิดเห็นกับท่านอื่น ๆ ต่อ ตอนนี้ทั้งห้องประชุมเงียบจนแทบได้ยินเสียงหายใจของกันและกันเลยล่ะ คุณพ่อของฉันมีสีหน้าที่เป็นกังวลอย่างได้ชัด“ขอโทษนะคะทุกท่าน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ถึงลินจะมารับรองตำแหน่งท่านประธานวันนี้วันแรก แต่ใช่ว่าลินจะไม่รู้เรื่องที่เกี่ยวกับบริษัทที่เป็นของตระกูลเลยนะคะ แน่นอนที่สุดที่คุณดนัยกล่าวว่า เรียนกับทำงานมันต่างกันงั้นลินขอพิสูจน์ให้ทุกท่านได้รู้ถึงความสามารถของลินเลยนะคะ” ฉันพูดจบก็หันไปหานายดนัยที่ตอนนี้ยังแสร้งยิ้มให้ฉันอยู่“เวกัส อ้อนี่เวกัส เลขาของดิฉันเองค่ะ เวกัสแจกเอกสาร”ฉันแนะนำนายเวกัสกับคณะกรรมการก่อนจะสั่งให้เ
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา
"จะหนีไปไหน""นั่นสิอย่าหนีให้เหนื่อยเลยเพราะยังไงก็ไม่มีทางรอด""อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่า""ยอมไปกับพวกเราดี ๆ ดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว"เสียงชายที่ล้อมรอบต่างพากันพูดด้วยรอยยิ้มของนักฆ่า"หึ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน" นายริชาร์ดพูด"เป็นใครไม่สำคัญ รู้แค่ว่าแกต้องไปกับพวกเราก็พอ" หนึ่งในสิบพูดขึ้น"ไม่มีวัน" นายริชาร์ดพูดก่อนจะเข้าไปต่อยหนึ่งในสิบตุบ ผละ ผัวะทั้งหมัดเข่าศอกถูกกระแทกจนเกิดเสียงดังเป็นการปะทะที่รุนแรงในสายตาคนธรรมดา แต่มันไม่ใช่สำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกฝึกมาจากแดนนรก!อ๊ากกกกกกเสียงของนายริชาร์ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกจับแขนไพล่หลังตุบเพล้งมือขวาคนสนิทกระโดดถีบชายที่ทำร้ายเจ้านายของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งตุบ ผละ ผัวะหมัดแลกหมัด ต่างฝ่ายต่างแลกการปล่อยหมัดใส่กันและกัน รวมถึงชั้นเชิงในการหลบหลีกตุบ ผัวะ"หนีไปครับนายเดี๋ยวผมถ่วงเวลาไว้ให้"ตุบ ผัวะ อ๊ากกกก"แต่ว่า""ไม่มีแต่ครับนายไปสิครับ"ตุบ ผละ ผัวะอ๊ากกกถึงแม้นายริชาร์ดไม่อยากทิ้งลูกน้องคนสนิทไว้ที่นี่ แต่เขาจำเป็นต้องออกไป"หึ นายแกหนีเอาตัวรอดไปแล้ว คิดว่าแกจะรอดเหรอ" ชายหน
"ฮัลโหลแพรว ฉันเอาเกมให้พวกนั้นเล่นแล้ว""หึ เห็นแล้วค่ะไวจริง ๆ" ยัยแพรว"รีบเจาะเอาฐานข้อมูลมาซะ""รับทราบค่ะนายใหญ่" แพรวพูด"เปิดระบบตัวสัญญาณการติดต่อติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ หลังจากนี้แพรวจะพูดผ่านสายเดียวแต่รับรู้ร่วมกันและเราสามารถติดต่อกันได้ทุกคน""อืม" พูดจบฉันก็วางสายทันทีฉันตัดสินใจขับรถมาแถว ๆ เขตปลอดคนเพราะฉันสังเกตได้ว่ามีคนตามมา แต่พอมองดี ๆ ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถ้าคนพวกนี้เป็นคนของทอมสันติ๊ดติ๊ดติ๊ด"ทดสอบ ๆ ได้ยินกันไหมคะ" แพรว"ได้ยิน" ฉันปรางค์มีนและปีเตอร์"เย่ นายใหญ่คะ เจาะฐานข้อมูลได้แล้วค่ะ ถล่มได้เลย" ยัยแพรว"บอกพิกัดมา" ฉัน"ไปที่โกดังร้างเขตชานเมืองนะคะ นายโทมัสอยู่ที่นั่นระวังตัวด้วยนะคะ มันเอาคนไปเยอะเหมือนกัน" แพรวพูด"อืม" ฉัน"ฉันกำลังไปสมทบนะ" ยัยมีน"แกจัดการเรื่องของแกเสร็จแล้วเหรอ""ค่ะนายใหญ่ พอดีมีคนเก็บกวาดไว้แล้วน่ะค่ะ ฉันไปก็ปิดบัญชีกับมันเลย" ยัยมีนพูด"ส่วนฉันก็กำลังไปเหมือนกัน คาดว่าไม่เกินสิบนาทีถึงตัวนายใหญ่แน่นอนค่ะ" ยัยปรางค์"ฉันกำลังไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงพิกัดแน่นอน" ปีเตอร์"แกสองคนแพรวนาวหลังจากเจาะฐานข้อมูลและทำลายข้อมูลของมันเรี
"จบสิ้นกันสักทีนะเสี่ยบรรจง" ผมมองตามเสี่ยบรรจงที่เดินออกไปจากเกาะของผมอย่างช้า ๆ ภาพการตายของนายสินยังติดตาของผมอยู่ว่าแล้วผมว่าเสี่ยบรรจงก็น่าสงสารเช่นกัน แต่ทำไงได้อะ เรื่องก็ต้องดำเนินต่อไป ต่อให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม"ไอ้มาร์ทครับ กระผมเรียนเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับรวมถึงพวกคุณมึงและเอ่อคุณลุงด้วยนะครับ" ไอ้ภูมินทร์พูดผมมองหน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตอบมันไป"เออ""ผมว่าพี่มาร์ทคงได้ปฏิวัติเกาะครั้งใหญ่เลยล่ะครับ สภาพเกาะตอนนี้นึกว่าเขตชายแดนไทยพม่าซะอีก" ไอ้มาร์คัสพูด"คงงั้น" ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่สายตาผมจะมองหาคุณลุงคนนั้นผมคิดว่าท่านคงไม่ธรรมดา"เฮ้ยไอ้มาร์ท ลุงคนนั้นอยู่ไหนวะ" ไอ้คิมถามผมมองตามันก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างที่ดูสมบูรณ์ยืนหันหลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาทันที"เอ่อขอโทษนะครับ""อ้าวมาพอดีเลย หึ" ชายตรงหน้าพูดยิ้ม ๆ ทำให้พวกผมหันมองหน้ากันอย่างสงสัย"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วย" ผมพูด"ใช่ครับ การยิงนี่เด็ดขาดและก็แม่นสุด ๆ เลย" ไอ้คิมพูด"นั่นสิครับ คุณลุงดูเหมือนพ