“ขอโทษนะครับ ผมว่าไม่ได้อภิสิทธิ์เกินไปเหรอครับ คือคุณลลินเป็นลูกสาวท่านประธาน มีเพียงเกียรตินิยมที่มาจากอเมริกาว่าเก่ง แต่อย่าลืมนะครับว่าเรียนกับการทำงานจริงมันต่างกัน” พอนายดนัยพูดจบประโยคนั้นก็มีเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง นายดนัยมองฉันยิ้ม ๆ หึ เย้ยไป“ผมว่า ให้เธอลองทำตำแหน่งอื่นก่อนดีไหมครับ เหมือนทดลองงาน แล้วค่อยให้คณะกรรมการท่านโหวตว่าเธอสมควรได้รับตำแหน่งรองประธานบริษัทหรือไม่ หรือทุกคนคิดว่าไงครับ” นายนั่นหันมาพูดใส่ฉันแล้วหันไปขอความคิดเห็นกับท่านอื่น ๆ ต่อ ตอนนี้ทั้งห้องประชุมเงียบจนแทบได้ยินเสียงหายใจของกันและกันเลยล่ะ คุณพ่อของฉันมีสีหน้าที่เป็นกังวลอย่างได้ชัด“ขอโทษนะคะทุกท่าน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ถึงลินจะมารับรองตำแหน่งท่านประธานวันนี้วันแรก แต่ใช่ว่าลินจะไม่รู้เรื่องที่เกี่ยวกับบริษัทที่เป็นของตระกูลเลยนะคะ แน่นอนที่สุดที่คุณดนัยกล่าวว่า เรียนกับทำงานมันต่างกันงั้นลินขอพิสูจน์ให้ทุกท่านได้รู้ถึงความสามารถของลินเลยนะคะ” ฉันพูดจบก็หันไปหานายดนัยที่ตอนนี้ยังแสร้งยิ้มให้ฉันอยู่“เวกัส อ้อนี่เวกัส เลขาของดิฉันเองค่ะ เวกัสแจกเอกสาร”ฉันแนะนำนายเวกัสกับคณะกรรมการก่อนจะสั่งให้เ
“เวกัส เวกัส ไอ้เวกัส ไอ้เวร!!” ฉันโทรเรียกเลขาหน้าห้องตอนแรกก็เรียกดี ๆ แต่มันไม่ตอบก็เลยนั่นแหละ ชื่อเฉพาะ“ครับ มาแล้วครับ โธ่ ชื่อก็มี เรียกซะเสียเลย” มันบ่น ฉันมองมันตาเขียวปั๊ด“ไปเอาประวัติผู้หญิงที่คุยกับฉันเมื่อตอนมาถึงให้หน่อย” ฉันพูดดูหน้ามันสิ จะตกใจอะไรนักหนา“นี่ คุณลินจะไล่เขาออกเหรอครับ โอ้ ไม่นะ เขาเป็นแบบนี้แหละครับ คุณลินอย่าถือสาเลย” น่านไง ไอ้เรื่องคิดไปเองเนี่ยไวจริง ลูกน้องฉัน“ฉันไม่ได้ไล่ออก ฉันแค่อยากรู้จัก ไปเร็วไปเอามา อะไร ส่งมาอยู่บริษัทก่อนแค่เดือนเดียว สนิทกับเขาแล้วเหรอ” ฉันพูดตามที่ได้ยินแหละค่ะ จริง ๆ แล้วฉันให้มันมาอยู่บริษัทได้หนึ่งเดือนแล้ว ให้มันมาสืบความเป็นไปของบริษัท ฉันถึงได้กลิ่นไม่ดีของนายดนัย แล้วให้ยัยมีนแกล้งตีสนิท ให้ยัยแพรวแฮกข้อมูลไงล่ะ หึ เป็นไงเหนือความคาดหมายไหมล่ะ ฉันน่ะฉลาดจะตายไป“ครับ ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ทันทีที่มันรับปากมันก็ออกไปทันที ฉันก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องคนเดียวจูบอะไรวะเนี่ย จะนึกถึงจูบอีตาบ้านั่นทำไมกัน ไม่เอาน่าลลิน อย่าคิดถึงจูบบ้า ๆ นั่นเลย เลิกคิด เลิกคิดโอ๊ย ออกไปจากหัวนะ ยัยลิน เลิกฟุ้งซ่านได้แล
พลั่ก ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของลิน ผมก็เห็นไอ้หน้าอ่อนนั่นมันยืนอยู่ในห้อง มันคือใคร คำ คำนี้มันอยู่ในหัวของผม และดูเหมือนคนในห้องจะตกใจเล็กน้อย ผมตรงดิ่งไปกระชากคอเสื้อไอ้หน้าอ่อนนั่น และกำปั้นของผมที่ลอยไปอยู่ตรงหน้าหมอนั่นหมับไม่ทันที่กำปั้นของผมจะถูกใบหน้าหมอนั่นก็โดนลินจับไว้ซะก่อน ผมตวัดสายตามาหาลินอย่างโกรธ คนอุตส่าห์อารมณ์ดีหลังจากตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็น ไอ้เราก็กะว่าจะชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ดูสิอะ ผมท้าวความก่อนที่ผมจะมาที่บริษัทลินแล้วกันเหตุการณ์ก่อนผมมาที่บริษัท‘โอ๊ย กี่โมงแล้ววะเนี่ย’ผมพูดกับตัวเองหลังจากที่ลุกขึ้นมาแล้วควานมือไปหาร่างบางที่ผมนอนกอด แต่ไม่เจอ จนทำให้ผมลืมตาดู และตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว ผมหยิบเสื้อผ้าตัวเมื่อวานขึ้นมาใส่ แล้วจัดการเดินหาลินจนทั่วแต่ก็ไม่พบ หวังว่าคงไม่โกรธนะ ผมเดินออกจากห้อง ก็เห็นไอ้สองเสือมันนอนเฝ้าประตูอยู่โฮก กรัน กรันผมมองมันยิ้ม ๆแล้วเดินเข้าไปหามันทั้งสองตัว‘ไง เจ้าของไปไหนแล้ว ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวจะเอาของกินมาฝาก ไก่เหลืองใช่มะ ฉันได้ยินเสียงนายแกแว่ว ๆ ว่าไก่เหลืองนายชอบ ฉันไปละ” โฮกกรัน กรันผมบอกเสือสองต
“หึ ฮ่า ฮ่า ฮึก พี่รู้ไหม ว่าลินรอให้พี่บอกมันกับลินนานแค่ไหน ฮึก ลินรอคำนี้นานมาก มากจนคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ยิน ทุกครั้งที่พี่ทำร้ายลิน ลินอยากโกรธพี่นะ อยากเกลียด แต่ลินก็โกรธเกลียดพี่ไม่ลง เพราะว่าลินรักพี่ไงคะ ฮึก ฮือ”แล้วเธอก็พูดแล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ผมใช้มือเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของเธออย่างแผ่วเบา“ไม่ต้องพูดแล้วนะครับ ไม่ต้องพูด” ผมบอกเธอ เมื่อเห็นเธอน้ำตาไหลไม่หยุด เจ็บว่ะ เห็นคนรักตัวเองน้ำตาไหลเหมือนโดนใครเอาหัวใจเราออกมาเหยียบขยี้เล่นซะอย่างนั้น“ฮือ ฮึก พี่จำได้ไหม วันนั้น ครั้งแรกที่ลินบอกชอบพี่ แล้วพี่บอกไม่ชอบลิน ลินก็เจ็บมากพอแล้ว แต่พี่กลับไล่ลินออกจากชีวิต มันใจร้ายแค่ไหน ที่พี่ไล่ผู้หญิงเล็ก ๆ คนนึง ลินเสียใจจนทนมองหน้าพี่ไม่ไหว ฮึก ลินคิดแค่ว่าต้องไปจากพี่ ไปให้ไกล ลินตัดสินใจไปเรียนเมืองนอก เพื่อหวังจะตัดใจ ฮึก แต่สุดท้ายหัวใจบ้า ๆ มันกลับคิดถึงและรักแต่พี่แค่คนเดียว ฮึก ฮือ”“วันที่ลินกลับมาที่นี่ ลินเห็นหน้าพี่ ลินก็พยายามทำตัวเองให้เข้มแข็ง จะได้ไม่เจ็บอีก แต่พี่ก็เข้ามา ฮึก ลินบอกกับตัวเองว่าลองอีกสักตั้งก็ไม่เสียหายอะไร ในเมื่อลินยังรักพี่อยู่ลินมีความสุขมาก
“จะอีกนานไหมครับคุณลิน ปรับความเข้าใจกันเสร็จหรือยัง กระผมหิวแล้วครับ” นายนั่นก็พูดทันที แถมยังมองหน้าผมกวน ๆ อีกด้วย“ไปสิ ไปกินข้าวเถอะค่ะพี่มาร์ท” เธอก็เอ่ยชวนและลุกขึ้น“เฮียครับ อย่าหึงเลย ผมไม่มีทางชอบยัยโหดอย่างยัยลินแน่นอน”นายเวกัสพูด ผมก็อมยิ้มเพราะมันทำให้คนตัวเล็กหันไปมองมันอย่างเคืองแทบจะทันที“พูดอะไรระวังปากด้วยไอ้เวรตอนนี้แกอยู่ในสถานะเลขาไม่ใช่เพื่อน เดี๋ยวความแตกขึ้นมา เกมของฉันก็จบเห่กันพอดี” ลินรีบพูดทันที“โอ๊ะ กระผมลืมตัว ต้องขอโทษด้วยนะครับท่านรองประธาน แล้วก็ไม่ต้องเรียกชื่อผมแบบนั้นด้วย บอกว่าเว ชอบเรียกจังไอ้ชื่อเฉพาะเนี่ย เฮ้อ”และนายนั่นก็ทำหน้ากวนๆ ใส่ลิน จนลินต้องถลึงตาใส่มันอีกครั้ง“ไปกันได้แล้ว” ผมพูด“เฮียเลี้ยงนะ”นายเวกัสอะไรนั่นก็หันมาหาผม ผมจึงพยักหน้าตอบมัน แต่ผมไปสนิทกับมันตอนไหนวะ ถึงเรียกผมว่าเฮียเนี่ย แล้วเราสามคนก็ออกมาขึ้นลิฟต์ลงไปยังชั้นล่างทันที และทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ผมก็กำลังจะเดินไปยังประตูแต่ก็ถูกลินดึงไว้ก่อน เธอพาผมไปยังหน้าประชาสัมพันธ์ที่มีสาวหน้าหวานยืนก้มหน้าอยู่“เที่ยงแล้วไม่ใช่เหรอ” ลินเอ่ยถามผู้หญิงตรงหน้า“เอ่อค่ะ” สา
“ลินครับ อยากได้อะไรเพิ่มไหมครับ เดี๋ยวพี่สั่งให้เด็กเอามาให้” ผมหันไปถามลิน หลังจากที่เราสองคนมาถึงห้องทำงานที่บริษัทของผมแล้ว “อ๋อ ไม่ล่ะค่ะ ลินยังอิ่มอยู่ พี่มาร์ทตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวลินนั่งโซฟาตัวนี้แหละ” ร่างบางตอบกลับผม ผมจึงหันไปสนใจเอกสารบนโต๊ะต่อ เฮ้อ เหนื่อยจริง อะไรก็ไม่รู้เต็มโต๊ะไปหมด“นายครับ นี่ครับเอกสารที่ผมโทรไปแจ้งให้นายทราบครับ” แล้วไอ้กวินมันก็พรวดพราดเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู แล้วมันก็ต้องตกใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอกับลินที่นั่งยิ้มให้มันอยู่“ขอโทษครับ” มันเอ่ยขอโทษที่ไม่เคาะประตู แล้วก้มหน้าลง เมื่อเห็นว่าผมจ้องตามันอยู่“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่วิน พี่มาร์ทก็เลิกมองพี่วินแบบนั้นได้แล้วค่ะ”แล้วร่างบางก็พูด จนผมต้องหันไปค้อนให้เธอ แล้วเธอก็ถลึงตาให้ผมเป็นเชิงบอกว่าให้ดูเอกสาร“ไหน เอามาสิ” ผมพูดจบไอ้วินมันก็เอาเอกสารที่มีมาให้ผม จริงด้วยมันแปลกเอกสารฉบับนี้ เป็นเอกสารที่บ่งบอกเกิดการก็อบปี้เอกสารขึ้น มันเป็นเอกสารที่ค่อนข้างจะเป็นความลับของทางบริษัทแต่มันกลับถูกใครไม่รู้ถ่ายเอกสารไว้ แถมไอ้เอกสารนี้ก็เป็นเอกสารที่สำคัญกับบริษัทมาก ๆ เพราะถ้ามันหลุดออกไปให้ศัตรูรั
‘ลินครับ ลินเป็นใครกันแน่’ ประโยคนี้ฉันถึงกับสะดุ้งทันที ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยถามนะ เขาเคยถามมาแล้ว แต่ฉันยังไม่ยอมตอบเขาต่างหาก แต่ครั้งนี้ในเมื่อเขาถามฉันก็จะตอบ เขาจะได้เลิกถามฉันซะที ที่สำคัญฉันจะได้ไม่มีความลับอะไรปิดเขาอีก แต่ไม่ทันที่ฉันจะตอบอะไรก็มีเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นมาซะก่อน“ฮัลโหล ว่าไง” ฉันถามคนปลายสาย ใช่คนที่โทรมานั่นไม่ใช่ใคร แต่เป็นยัยนาว โทรมาทำไมก็ไม่รู้เบื่อจริง ๆ“อะไรนะ ฉันให้แกกับปีเตอร์จัดการไปแล้วไม่ใช่เหรอ”ฉันตกใจทันที ที่ปลายสายบอกว่าไอ้ณรงค์ที่มันแทรกซึมเข้าไปในองค์กรนั้นไม่ยอมตอบอะไรพวกมันเลย ทั้งทรมานก็แล้ว จนทำให้ไอ้ปีเตอร์หัวหมุน อยากจะฆ่ามันวันละหลาย ๆ รอบ และที่ทนไม่ไหวโทรมาก็เพราะว่ายัยนาวกลัวนายปีเตอร์ฆ่าไอ้ณรงค์ซะก่อน แล้วพอฉันเงยหน้าไปมองก็เห็นพี่มาร์ทมองมาด้วยความสงสัย“ช่างมันเถอะ แล้วนี่แกอยู่ไหน” ฉันถามยัยนาวอย่างเหนื่อยหน่ายใจ บางทีการอยู่ในจุดสูง ๆ มันก็ทำให้เราล้านะ‘ฉันอยู่เมืองไทย ปีเตอร์ก็ด้วย รวมทั้งนายณรงค์นี่ด้วย ต่างก็อยู่เมืองไทย’ฉันแทบจะบ้าตาย เมื่อยัยนี่บอกว่าอยู่เมืองไทย แถมยังพานายณรงค์มาด้วย เหอะ พวกมันคิดอะไรอยู่“นี่แกจ
“พี่มาร์ทรู้จักองค์กร Fuck ไหมคะ” ฉันไม่ตอบเสียที่เดียวแต่หันไปถามคนข้างกายแทน เขามีสีหน้าประหลาดใจ“อื้มรู้จักสิ ในวงการมาเฟีย ไม่มีใครไม่รู้จักองค์กรนี้ ถึงจะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่มันก็ดังแล้วก็ขึ้นชื่อเรื่องความโหดของหัวหน้าองค์กรผู้ก่อตั้ง ถึงจะโหดแล้วตั้งชื่อองค์กรแบบนี้ แต่องค์กรนี้ก็ดีอยู่อย่างคือไม่เคยข่มเหงลูกค้า ทำการค้าขายตรงไปตรงมา ถึงบางกรณีจะเป็นอาวุธเถื่อนแต่ก็ไม่เคยไประรานใคร แถมดูท่าจะมีลูกค้าบางรายค่อนข้างจะชอบในองค์กรนี้ซะอีก แต่พี่ก็ไม่เคยใช้บริการองค์กรนี้หรอก เพราะไอ้คิม ไอ้ติน พี่ก็มีเบื้องหลังที่ค่อนข้างจะไม่ดีไว้เหมือนกัน แต่พี่ก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้กลายเป็นถูกกฎหมายแล้วนะ”ร่างหนาตอบฉัน แล้วหันมาบอกฉันว่าจะทำถูกกฎหมาย สงสัยกลัวว่าฉันจะกลัวตัวเองละมั้ง ฉันยิ้มให้น้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าจะบอก ฉันไม่อยากมีความลับอีกต่อไปแล้ว“นั่นแหละค่ะ องค์กร Fuck”ทันทีที่ฉันพูดจบ รถก็ถูกเบรกอย่างกะทันหัน และมันก็มาจอดอยู่ใต้คอนโดฉันพอดี แล้วร่างสูงก็หันมามองฉันอย่างตะลึง เหมือนจะไม่เชื่อฉันลงจากรถแล้วขึ้นไปบนคอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ร่
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา
"จะหนีไปไหน""นั่นสิอย่าหนีให้เหนื่อยเลยเพราะยังไงก็ไม่มีทางรอด""อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่า""ยอมไปกับพวกเราดี ๆ ดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว"เสียงชายที่ล้อมรอบต่างพากันพูดด้วยรอยยิ้มของนักฆ่า"หึ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน" นายริชาร์ดพูด"เป็นใครไม่สำคัญ รู้แค่ว่าแกต้องไปกับพวกเราก็พอ" หนึ่งในสิบพูดขึ้น"ไม่มีวัน" นายริชาร์ดพูดก่อนจะเข้าไปต่อยหนึ่งในสิบตุบ ผละ ผัวะทั้งหมัดเข่าศอกถูกกระแทกจนเกิดเสียงดังเป็นการปะทะที่รุนแรงในสายตาคนธรรมดา แต่มันไม่ใช่สำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกฝึกมาจากแดนนรก!อ๊ากกกกกกเสียงของนายริชาร์ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกจับแขนไพล่หลังตุบเพล้งมือขวาคนสนิทกระโดดถีบชายที่ทำร้ายเจ้านายของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งตุบ ผละ ผัวะหมัดแลกหมัด ต่างฝ่ายต่างแลกการปล่อยหมัดใส่กันและกัน รวมถึงชั้นเชิงในการหลบหลีกตุบ ผัวะ"หนีไปครับนายเดี๋ยวผมถ่วงเวลาไว้ให้"ตุบ ผัวะ อ๊ากกกก"แต่ว่า""ไม่มีแต่ครับนายไปสิครับ"ตุบ ผละ ผัวะอ๊ากกกถึงแม้นายริชาร์ดไม่อยากทิ้งลูกน้องคนสนิทไว้ที่นี่ แต่เขาจำเป็นต้องออกไป"หึ นายแกหนีเอาตัวรอดไปแล้ว คิดว่าแกจะรอดเหรอ" ชายหน
"ฮัลโหลแพรว ฉันเอาเกมให้พวกนั้นเล่นแล้ว""หึ เห็นแล้วค่ะไวจริง ๆ" ยัยแพรว"รีบเจาะเอาฐานข้อมูลมาซะ""รับทราบค่ะนายใหญ่" แพรวพูด"เปิดระบบตัวสัญญาณการติดต่อติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ หลังจากนี้แพรวจะพูดผ่านสายเดียวแต่รับรู้ร่วมกันและเราสามารถติดต่อกันได้ทุกคน""อืม" พูดจบฉันก็วางสายทันทีฉันตัดสินใจขับรถมาแถว ๆ เขตปลอดคนเพราะฉันสังเกตได้ว่ามีคนตามมา แต่พอมองดี ๆ ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถ้าคนพวกนี้เป็นคนของทอมสันติ๊ดติ๊ดติ๊ด"ทดสอบ ๆ ได้ยินกันไหมคะ" แพรว"ได้ยิน" ฉันปรางค์มีนและปีเตอร์"เย่ นายใหญ่คะ เจาะฐานข้อมูลได้แล้วค่ะ ถล่มได้เลย" ยัยแพรว"บอกพิกัดมา" ฉัน"ไปที่โกดังร้างเขตชานเมืองนะคะ นายโทมัสอยู่ที่นั่นระวังตัวด้วยนะคะ มันเอาคนไปเยอะเหมือนกัน" แพรวพูด"อืม" ฉัน"ฉันกำลังไปสมทบนะ" ยัยมีน"แกจัดการเรื่องของแกเสร็จแล้วเหรอ""ค่ะนายใหญ่ พอดีมีคนเก็บกวาดไว้แล้วน่ะค่ะ ฉันไปก็ปิดบัญชีกับมันเลย" ยัยมีนพูด"ส่วนฉันก็กำลังไปเหมือนกัน คาดว่าไม่เกินสิบนาทีถึงตัวนายใหญ่แน่นอนค่ะ" ยัยปรางค์"ฉันกำลังไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงพิกัดแน่นอน" ปีเตอร์"แกสองคนแพรวนาวหลังจากเจาะฐานข้อมูลและทำลายข้อมูลของมันเรี
"จบสิ้นกันสักทีนะเสี่ยบรรจง" ผมมองตามเสี่ยบรรจงที่เดินออกไปจากเกาะของผมอย่างช้า ๆ ภาพการตายของนายสินยังติดตาของผมอยู่ว่าแล้วผมว่าเสี่ยบรรจงก็น่าสงสารเช่นกัน แต่ทำไงได้อะ เรื่องก็ต้องดำเนินต่อไป ต่อให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม"ไอ้มาร์ทครับ กระผมเรียนเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับรวมถึงพวกคุณมึงและเอ่อคุณลุงด้วยนะครับ" ไอ้ภูมินทร์พูดผมมองหน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตอบมันไป"เออ""ผมว่าพี่มาร์ทคงได้ปฏิวัติเกาะครั้งใหญ่เลยล่ะครับ สภาพเกาะตอนนี้นึกว่าเขตชายแดนไทยพม่าซะอีก" ไอ้มาร์คัสพูด"คงงั้น" ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่สายตาผมจะมองหาคุณลุงคนนั้นผมคิดว่าท่านคงไม่ธรรมดา"เฮ้ยไอ้มาร์ท ลุงคนนั้นอยู่ไหนวะ" ไอ้คิมถามผมมองตามันก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างที่ดูสมบูรณ์ยืนหันหลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาทันที"เอ่อขอโทษนะครับ""อ้าวมาพอดีเลย หึ" ชายตรงหน้าพูดยิ้ม ๆ ทำให้พวกผมหันมองหน้ากันอย่างสงสัย"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วย" ผมพูด"ใช่ครับ การยิงนี่เด็ดขาดและก็แม่นสุด ๆ เลย" ไอ้คิมพูด"นั่นสิครับ คุณลุงดูเหมือนพ