“พี่มาร์ทรู้จักองค์กร Fuck ไหมคะ” ฉันไม่ตอบเสียที่เดียวแต่หันไปถามคนข้างกายแทน เขามีสีหน้าประหลาดใจ“อื้มรู้จักสิ ในวงการมาเฟีย ไม่มีใครไม่รู้จักองค์กรนี้ ถึงจะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่มันก็ดังแล้วก็ขึ้นชื่อเรื่องความโหดของหัวหน้าองค์กรผู้ก่อตั้ง ถึงจะโหดแล้วตั้งชื่อองค์กรแบบนี้ แต่องค์กรนี้ก็ดีอยู่อย่างคือไม่เคยข่มเหงลูกค้า ทำการค้าขายตรงไปตรงมา ถึงบางกรณีจะเป็นอาวุธเถื่อนแต่ก็ไม่เคยไประรานใคร แถมดูท่าจะมีลูกค้าบางรายค่อนข้างจะชอบในองค์กรนี้ซะอีก แต่พี่ก็ไม่เคยใช้บริการองค์กรนี้หรอก เพราะไอ้คิม ไอ้ติน พี่ก็มีเบื้องหลังที่ค่อนข้างจะไม่ดีไว้เหมือนกัน แต่พี่ก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้กลายเป็นถูกกฎหมายแล้วนะ”ร่างหนาตอบฉัน แล้วหันมาบอกฉันว่าจะทำถูกกฎหมาย สงสัยกลัวว่าฉันจะกลัวตัวเองละมั้ง ฉันยิ้มให้น้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าจะบอก ฉันไม่อยากมีความลับอีกต่อไปแล้ว“นั่นแหละค่ะ องค์กร Fuck”ทันทีที่ฉันพูดจบ รถก็ถูกเบรกอย่างกะทันหัน และมันก็มาจอดอยู่ใต้คอนโดฉันพอดี แล้วร่างสูงก็หันมามองฉันอย่างตะลึง เหมือนจะไม่เชื่อฉันลงจากรถแล้วขึ้นไปบนคอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ร่
หลังจากนั้นเราทั้งสองคนก็ขับรถไปที่ k ผับ ทันที ฉันรู้สึกมีความสุขมาก แถมยังหันไปมองคนข้างกายเป็นระยะ และก็เห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขเหมือนกัน“แน่ใจนะคะ ว่าถ้าเห็นความโหดของลินแล้ว จะไม่เลิกรักลิน”ฉันถามคนข้างกายยิ้ม ๆ เขาก็หันมาตอบฉันทันทีที่รถติดไฟแดงเป็นสัญญาณว่าให้หยุด“ไม่ครับ ความรักที่พี่มีให้ลินมันมาจากหัวใจ ต่อให้ลินจะเลวร้ายน่ากลัว ฆ่าคนอีกกี่คนพี่ก็รัก เพราะพี่ก็ฆ่าคนเหมือนกัน รักลินนะครับ”ฉันถึงกับยิ้มขึ้นมา เมื่อน้ำเสียงของเขามันบ่งบอกถึงความหนักแน่น สายตาที่มองฉันมันทำให้ฉันรู้ว่า เขาไม่มีทางโกหก หลังจากจบบทสนทนานี้แล้วรถก็มุ่งตรงสู่จุดหมายปลายทางทันทีไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง รถของพี่มาร์ทก็จอดอยู่ที่จอดรถวีไอพีหน้าผับของพี่คิมทันที เราทั้งสองคนเลือกที่จะเข้าด้านหน้าคลับ เพราะมันจะได้ไม่เป็นที่สนใจของใคร ทั้งผับก็ยังเพิ่งจะแค่ทุ่มกว่า ๆ คนไม่เยอะมาก เลยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจ ฉันกับพี่มาร์ทจึงมุ่งไปยังชั้นสองห้องวีไอพีที่ฉันคาดว่าตอนนี้ทุกคนคงรออยู่แล้ว แต่ฉันก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อยัยปรางค์ยังไม่มา เห็นแต่พี่ตินที่ยังนั่งอยู่ ฉันกับพี่มาร์ทจึงเดินไปนั่งโซฟาที่ว่างอยู่ทันที
“มันชื่อณรงค์ปลอมตัวเข้าไปโดยใส่หน้ากากอำพราง ต้องยกความดีความชอบให้นาวเพราะถ้านาวไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่ามันใส่หน้ากากอยู่ เหตุผลที่มันเข้าไปก็อย่างที่ฉันบอกไปนั่นแหละ แต่มันก็ยังไม่ยอมสารภาพว่าใครจ้างมันมา และจ้างมาเพื่ออะไร” นายปีเตอร์พูด ฉันยืนฟังนิ่งไม่ไหวติง“นายก็เลยพามันมาทั้ง ๆ ที่ฉันยกมันให้นายจัดการไปแล้วเนี่ยนะ”ฉันพูดขึ้นมาแล้วจ้องไปที่มันด้วยสายตาไม่พอใจ“เอ่อ ก็กลัวฆ่ามันหนิครับ ผมขอโทษ”แล้วมันก็เอ่ยออกมาด้วยความสำนึกผิด ก่อนจะพูดว่าขอโทษ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ถึงฉันจะหงุดหงิดที่มันไม่จัดการให้เรียบร้อย แต่ทำไงได้ล่ะ มันเอามาแล้วหนิ ฉันเลยกลอกตามองบน เท่านั้นล่ะไอ้คนที่เพิ่งจะสำนึกผิดก็ยิ้มออกมาทันทีเลย ฉันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง“ยังจะมายิ้ม เดี๋ยวจะให้ไปอยู่กับไอ้เสือ”พูดแค่นั้นมันก็หน้าสลดวูบทันที แน่นอนสิเพราะมันเคยรู้ฤทธิ์ของเจ้าเสือสองตัวของฉันแล้วว่ามันเป็นยังไง และแน่นอนว่าตอนนี้ฉันแอบสั่งให้ไอ้เวกัสเอาเสือสองตัวมาให้ฉันเรียบร้อยแล้ว คาดว่าไม่นานคงจะถึง“ทำให้มันตื่น” ฉันสั่งออกไปเท่านั้นแหละ ยัยมีนก็จัดการให้มันฟื้นจากยาสลบโดยให้มันสูดดมยาที่ถูกยัยนาวคิดค้
ทุกคนหันไปตามเสียงแต่ก็เห็นเพียงเวกัสเท่านั้นแน่นอนล่ะ เพราะเสือสองตัวจะไม่ยอมออกมา ถ้าไม่ได้ยินเสียงฉัน ฉันยกยิ้มขึ้นมาทันที เมื่อตัวช่วยของฉันมันมาแล้ว แล้วฉันก็ต้องสะดุ้งเมื่อคนตัวโต จับมือฉันกุมไว้ แล้วมองไปยังนายเวกัสด้วยความสงสัย ฉันยิ้ม ก่อนจะบอกเขาทางสายตาว่าให้ปล่อย เขาจึงยอมปล่อย“นายแน่ใจนะว่าจะไม่บอก” ฉันถามมันอีกครั้ง“ไม่”“ซวยแล้วมึง” ปีเตอร์ / เวกัส“ฉิบหายแล้ว” มีน/ปรางค์“พระเจ้า” แพรว/นาวเสียงเพื่อนของฉันก็ดังขึ้นติด ๆ กันทันที ฉันยกยิ้มให้เพื่อน ๆ ของฉันที่พากันกลืนน้ำลาย“ไทเกอร์”โฮก กรัน กรันทันทีที่เสียงเรียกของฉันดังขึ้น เจ้าไทเกอร์ก็เดินออกมาจากกรงที่เวกัสใส่มาทันที ทุกคนต่างพากันมองอย่างตกใจ ยกเว้นเพื่อนฉันน่ะนะ แล้วมันก็มาหยุดที่ข้างซ้ายข้างกายของของฉัน“ไลออน”โฮก กรัน กรัน โฮกและตัวนี้ก็กระโดดออกจากกรงมาหยุดข้าง ๆ กายฉันที่ข้างขวา บอกแล้วว่ามันคือองครักษ์ของฉัน หึหึ ฉันจ้องมองไปที่นายณรงค์ที่ตอนนี้ตาเหลือก พยายามจะหนี แต่จะหนีไปไหนพ้นล่ะ“ละลิน” พี่มาร์ทเรียกฉันเสียงสั่น ฉันจึงมองค้อนให้เขา ก่อนจะมองไปยังนายณรงค์อีกครั้ง“เห็นผู้ชายตรงหน้าไหม มันทำให้ฉั
ผมนักนึกถึงข้อความที่ผมพูดคุยกับไอ้ดนัยแล้วพาลโมโห มันบอกผมว่าลลินเข้าไปรับตำแหน่งรองประธานบริษัทเรียบร้อยแล้ว แถมยังสงสัยเรื่องข้อมูลที่รั่วไหลของบริษัทอีก นั่นไม่เท่ากับมันบอกให้ผมช่วย แล้วไงคุณคิดว่าผมต้องช่วยมันไหม ถ้าผมช่วยก็คงช่วยได้อย่างเดียว คือ ช่วยให้มันไปลงนรก แต่ไม่ได้ไปคนเดียวนะ ต้องไปทั้งครอบครัว เสือกโง่ทำให้ลินสงสัยทำไมผมอารมณ์เสียกับเรื่องที่สายที่ผมส่งไปให้คอยสืบเรื่ององค์กรบ้า ๆ นั่น มันบอกผมว่า วันนี้มันจะติดต่อ แต่กลับกลายเป็นว่า มันหายหัวไป ผมต้องมาตกใจกับข้อความที่ว่า‘อยากรู้จักนายใหญ่ทำไมไม่บอกกันดี ๆ ทำอย่างนี้ไร้มารยาท รับไม่ได้ เตรียมตัวไว้ให้ดี แล้วเราจะได้เจอกัน โทมัส หึหึ’ ผมไม่รู้ว่าข้อความบ้า ๆ นี่ถูกส่งมาจากใคร ส่งมาเพื่ออะไร ต้องการอะไร ขู่คนอย่างผมอย่างนั้นเหรอ แวบหนึ่งที่ผมคิดว่าคงส่งมาขู่ แต่หลังจากที่ผมดูข้อความนั่นหลาย ๆ รอบ ลางสังหรณ์มันบอกผมว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับผมแน่นอน มันก็อดกลุ้มไม่ได้ และผมก็มาคิดได้ว่าข้อความนี้ต้องมาจากไอ้องค์กรบ้า ๆ นั่นแน่ ๆ สายของผมคงถูกจับได้แล้วล่ะ แล้วผมจะทำไงดีล่ะกลุ้ม นั่งหน้านิ่งจนไม่มีใครกล้าเข้าใก
หลังจากที่ลินบอกให้ผมพาเธอขึ้นมาด้านบนผับ ก็รีบเข้าไปประคองร่างแสนรักมาไว้ในอ้อมกอดแล้วพาเดินออกมาโดยไม่สนใจว่าใครจะตามมา แล้วเราก็มานั่งโซฟามุมที่เราสองคนชอบรอพวกที่เหลือเฮ้อ ผมละเพลียจิต ไม่คิดว่าลินจะเล่นหนักขนาดนี้ ทั้งยาปลุกเซ็กซ์ ทั้งเสือ ก่อนจะเชือดแบบนิ่ม ๆบรึ๋ย ภาพยังติดตาผมอยู่เลย เมียใครวะ โหดฉิบเลย“เป็นอะไรคะ เห็นถอนหายใจหลายรอบแล้วนะ” แล้วผมก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงหวานดังขึ้นขัดความคิดของผม“เปล่าจ้า แค่คิดว่า เมียใครวะ โหดจัง” เพี้ยะผมพูดจบก็โดนฝ่ามือน้อย ๆ ของลินตีเข้าที่แขนล่ำของผม จริงอยู่ที่มันไม่แรงมาก แต่มันก็ทำให้ผมเจ็บเหมือนกัน ผมลูบแขนตัวเองป้อย ๆ แล้วทำหน้างอนหวังจะให้เธอง้อ แล้วรู้ไหมเป็นไง เธอไม่ง้อผมครับฮึ่ย มันต้องเอาคืนอีกแล้วเหรอวะเนี่ย แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรดั่งใจคิด ก็มีเสียงที่ผมเกลียดขัดขึ้นซะก่อน“สวัสดีครับ คุณลิน มาเที่ยวเหรอครับ”“ไอ้โทมัส!!!”ผมเรียกชื่อมันทันที หลังจากที่มันยืนอยู่ตรงหน้าแถมยังมองลินด้วยสายตาหวานเชื่อมแบบนั้นอีกกรอด คือเสียงกัดฟันของผม แต่ก็โดนมือน้อยจับมือผมไว้เบา ๆ เช่นเดียวกัน“ค่ะ ลินมาเที่ยว แล้วนี่คุณโทมัสก
“แล้วแกจะกลับวันไหน”“พวกฉันว่าจะกลับพรุ่งนี้” เสียงน้องนาวตอบหลังจากที่ลินถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ คงกลับเมืองนอกสินะ“แล้วนั่นหน้าคู่หมั้นแกเป็นไร หน้าบูดเป็นอะไรเชียว หึหึ”ผมตวัดสายตาไปหาไอ้ปีเตอร์แถมมันยังหอมแก้มแฟนมันโชว์ผมอีก ลินหันกลับมามองผมแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกมันต่อ“หึ อย่าสนใจเลย แค่เรียกร้องความสนใจนะ งอนไม่เข้าเรื่อง เบื่อจิต”หน้าผมก็ยิ่งงอหนักเข้าไปอีก หลังจากที่ลินพูดแบบนั้นออกมา น้อยใจ คำ ๆ นี้อยู่ในหัวของผม ไม่คิดจะง้อกันเลยหรือยังไง ตุบ เอาอีกแล้วเสียงไอ้ตินวางแก้วเหล้ารอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ยเฮ้อ เบื่อพวกมัน“เฮ้ย มึงจะกินให้ตายเลยไง๊” ไอ้คิมคงทนไม่ไหว มันดึงแก้วเหล้าออกจากมือไอ้ตินแล้วกระชากเสียงถาม“เรื่องของกู อย่ามายุ่ง”มันตะคอกใส่ไอ้คิมก่อนจะกระชากแก้วเหล้าไปกระดกอีกครั้ง แต่สายตาของมันก็มองมาที่น้องปรางค์นิ่ง ๆ ปรางค์ไม่สนใจมันเลย“เฮียพอเถอะ” เสียงไอ้มาร์คัสก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ที่ยังเห็นมันกินไม่ยอมหยุด“กูบอกว่าอย่ามายุ่ง” แล้วมันก็ตะคอกออกมาอีกครั้งเออว่ะ แปลกจริง มันเย็นที่สุดในกลุ่มแต่วันนี้มันกลับโวยวายโดยไม่สนใจอะไรเลย ทะเลาะกันแหง ๆพรึ่บผมกระชากล
นั่นไงผมว่าแล้วยัยตัวแสบต้องอารมณ์เสีย ก็ผมเดินมาช้าแถมยังส่งสายตาให้ผู้หญิงอื่นด้วย ไม่รู้ล่ะก็ผมงอนนี่ คุยกับใครไม่คุย ดั้นไปคุยกับไอ้โทมัส ผมไม่ทำโทษยัยตัวแสบตอนที่อยู่ในผับนั่นก็บุญเท่าไหร่แล้ว พอผมทำมั่งเป็นไงล่ะ ยืนหน้าตูมอยู่นั่น พอผมกดเปิดรถเธอก็แทรกตัวเข้าไปนั่งรอในรถแถมยังปิดประตูใส่หน้าผมซะดังปั้งเลยเชอะ จ้างให้ก็ไม่ง้อหรอก ทำผมก่อนทำไมล่ะผมค่อย ๆ เดินไปเปิดประตูรถแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่ง เธอหันมามองผมแวบหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร ผมก็ค่อย ๆ ถอยรถและขับไปอย่างสบายอารมณ์ ภายในรถเงียบจัด จนน่าอึดอัด แต่ผมจะไม่ยอมเป็นฝ่ายพูดด้วยก่อนหรอก ต้องดัดกันบ้างนิสัยอะ ผมตามใจมาเยอะแล้ว มีอย่างที่ไหน เป็นถึงมาเฟียจอมเย็นชาได้รับฉายาปีศาจในคราบเทพบุตร ต้องมากลัวผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างลลิน อย่าหวังเลย เหอะต่อไปนี้ผมจะไม่ใจอ่อนกับลินอีกแล้ว ให้มันรู้ไปสิว่าผมเป็นผัวจะกำราบเมียสุดโหดอย่างหัวหน้าองค์กร fuckไม่ได้ ผมขับรถไปโดยไม่สนใจคนตัวเล็กข้าง ๆ เลย ยัยตัวแสบมองผมเป็นระยะ ๆ แล้วก็ถอนหายใจ คงอึดอัดล่ะสิ“นี่ พี่มาร์ท จะเงียบแบบนี้เลยหรือไง”น่านไง ผมว่าแล้ว ทนได้ไม่นานหรอก ผมหันไปมองแป๊บแล้วก็กลับมาส
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา
"จะหนีไปไหน""นั่นสิอย่าหนีให้เหนื่อยเลยเพราะยังไงก็ไม่มีทางรอด""อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่า""ยอมไปกับพวกเราดี ๆ ดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว"เสียงชายที่ล้อมรอบต่างพากันพูดด้วยรอยยิ้มของนักฆ่า"หึ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน" นายริชาร์ดพูด"เป็นใครไม่สำคัญ รู้แค่ว่าแกต้องไปกับพวกเราก็พอ" หนึ่งในสิบพูดขึ้น"ไม่มีวัน" นายริชาร์ดพูดก่อนจะเข้าไปต่อยหนึ่งในสิบตุบ ผละ ผัวะทั้งหมัดเข่าศอกถูกกระแทกจนเกิดเสียงดังเป็นการปะทะที่รุนแรงในสายตาคนธรรมดา แต่มันไม่ใช่สำหรับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกฝึกมาจากแดนนรก!อ๊ากกกกกกเสียงของนายริชาร์ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกจับแขนไพล่หลังตุบเพล้งมือขวาคนสนิทกระโดดถีบชายที่ทำร้ายเจ้านายของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งตุบ ผละ ผัวะหมัดแลกหมัด ต่างฝ่ายต่างแลกการปล่อยหมัดใส่กันและกัน รวมถึงชั้นเชิงในการหลบหลีกตุบ ผัวะ"หนีไปครับนายเดี๋ยวผมถ่วงเวลาไว้ให้"ตุบ ผัวะ อ๊ากกกก"แต่ว่า""ไม่มีแต่ครับนายไปสิครับ"ตุบ ผละ ผัวะอ๊ากกกถึงแม้นายริชาร์ดไม่อยากทิ้งลูกน้องคนสนิทไว้ที่นี่ แต่เขาจำเป็นต้องออกไป"หึ นายแกหนีเอาตัวรอดไปแล้ว คิดว่าแกจะรอดเหรอ" ชายหน
"ฮัลโหลแพรว ฉันเอาเกมให้พวกนั้นเล่นแล้ว""หึ เห็นแล้วค่ะไวจริง ๆ" ยัยแพรว"รีบเจาะเอาฐานข้อมูลมาซะ""รับทราบค่ะนายใหญ่" แพรวพูด"เปิดระบบตัวสัญญาณการติดต่อติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ หลังจากนี้แพรวจะพูดผ่านสายเดียวแต่รับรู้ร่วมกันและเราสามารถติดต่อกันได้ทุกคน""อืม" พูดจบฉันก็วางสายทันทีฉันตัดสินใจขับรถมาแถว ๆ เขตปลอดคนเพราะฉันสังเกตได้ว่ามีคนตามมา แต่พอมองดี ๆ ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถ้าคนพวกนี้เป็นคนของทอมสันติ๊ดติ๊ดติ๊ด"ทดสอบ ๆ ได้ยินกันไหมคะ" แพรว"ได้ยิน" ฉันปรางค์มีนและปีเตอร์"เย่ นายใหญ่คะ เจาะฐานข้อมูลได้แล้วค่ะ ถล่มได้เลย" ยัยแพรว"บอกพิกัดมา" ฉัน"ไปที่โกดังร้างเขตชานเมืองนะคะ นายโทมัสอยู่ที่นั่นระวังตัวด้วยนะคะ มันเอาคนไปเยอะเหมือนกัน" แพรวพูด"อืม" ฉัน"ฉันกำลังไปสมทบนะ" ยัยมีน"แกจัดการเรื่องของแกเสร็จแล้วเหรอ""ค่ะนายใหญ่ พอดีมีคนเก็บกวาดไว้แล้วน่ะค่ะ ฉันไปก็ปิดบัญชีกับมันเลย" ยัยมีนพูด"ส่วนฉันก็กำลังไปเหมือนกัน คาดว่าไม่เกินสิบนาทีถึงตัวนายใหญ่แน่นอนค่ะ" ยัยปรางค์"ฉันกำลังไปไม่เกินหนึ่งชั่วโมงถึงพิกัดแน่นอน" ปีเตอร์"แกสองคนแพรวนาวหลังจากเจาะฐานข้อมูลและทำลายข้อมูลของมันเรี
"จบสิ้นกันสักทีนะเสี่ยบรรจง" ผมมองตามเสี่ยบรรจงที่เดินออกไปจากเกาะของผมอย่างช้า ๆ ภาพการตายของนายสินยังติดตาของผมอยู่ว่าแล้วผมว่าเสี่ยบรรจงก็น่าสงสารเช่นกัน แต่ทำไงได้อะ เรื่องก็ต้องดำเนินต่อไป ต่อให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะน่าสงสารแค่ไหนก็ตาม"ไอ้มาร์ทครับ กระผมเรียนเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับรวมถึงพวกคุณมึงและเอ่อคุณลุงด้วยนะครับ" ไอ้ภูมินทร์พูดผมมองหน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตอบมันไป"เออ""ผมว่าพี่มาร์ทคงได้ปฏิวัติเกาะครั้งใหญ่เลยล่ะครับ สภาพเกาะตอนนี้นึกว่าเขตชายแดนไทยพม่าซะอีก" ไอ้มาร์คัสพูด"คงงั้น" ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนที่สายตาผมจะมองหาคุณลุงคนนั้นผมคิดว่าท่านคงไม่ธรรมดา"เฮ้ยไอ้มาร์ท ลุงคนนั้นอยู่ไหนวะ" ไอ้คิมถามผมมองตามันก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร่างที่ดูสมบูรณ์ยืนหันหลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าหาทันที"เอ่อขอโทษนะครับ""อ้าวมาพอดีเลย หึ" ชายตรงหน้าพูดยิ้ม ๆ ทำให้พวกผมหันมองหน้ากันอย่างสงสัย"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่ช่วย" ผมพูด"ใช่ครับ การยิงนี่เด็ดขาดและก็แม่นสุด ๆ เลย" ไอ้คิมพูด"นั่นสิครับ คุณลุงดูเหมือนพ