Share

บทที่ 929

Author: จูน
การหารือไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ก็ทำให้เกิดการคาดเดามากมายในวงกว้าง

ลือกันว่าจักรพรรดิเรียกอ๋องเยี่ยเข้าวังเป็นการส่วนตัว อ๋องเยี่ยคนนี้ก็ประหลาด เข้ากับสมาชิกราชวงศ์ไม่ได้เลยสักคน ความสัมพันธ์กับพี่น้องก็ไม่ดี มีเพียงคนเดียวที่เขาสนิทด้วยคือ องค์ชายผู้สำเร็จราชการมู่หรงเจี๋ย

ครั้งที่แล้วเขาก็ร่วมหารือเกี่ยวกับผู้เข้าชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทเช่นกัน แต่ไม่ได้ออกความคิดเห็นใด ๆ เลย แค่เข้าร่วมเท่านั้น

จื่ออันเองก็ได้ยินข่าวว่าจักรพรรดิเรียกเขาเข้าวังเป็นการพิเศษ จึงถามมู่หรงเจี๋ยว่า “ไม่สิ ไหนว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับราชวงศ์ไง? ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่าเขาถูกขับออกแล้วมิใช่หรือ”

“เขาถูกขับออก นั่นเพราะทำให้เสด็จพี่จักรพรรดิโกรธ” มู่หรงเจี๋ยกล่าว

“หรือเป็นเพียงข่าวลวง?

“ไม่ใช่ข่าวลวงหรอก ตอนนั้นเขาถูกขับออกไปจริง แต่ชื่อยังไม่ถูกลบออกจากราชวงศ์ เขายังคงเป็นองค์ชาย แต่ถูกเปลี่ยนชื่อจากอ๋องเยี่ย เพื่อให้ได้รับความอับอาย”

“ชื่ออ๋องเยี่ยน่าตลกอย่างไรกัน?” จื่ออันนึกถึง ไนท์ คิง ในซีรีส์โทรทัศน์เรื่องมหาศึกชิงบัลลังก์ของอเมริกา ตัวละครนี้เป็นชายร่างใหญ่หน้าตาสยดสยอง ไม่ได้ดูต
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Angsana Santy
เพิ่มอีกตอนสองตอนได้ไหมคะต่อวัน .........
goodnovel comment avatar
Khuntup Chithorn
สนุกน่าติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 930

    มู่หรงเจี๋ยส่ายหน้า “เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าเคยอยากสร้างพันธมิตรกับเหล่าฟูเหรินมาก่อนหรือไม่?”“ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะทำเพื่ออะไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเป็นพันธมิตรกับนาง” จื่ออันปฏิเสธอย่างเด็ดขาด“ใช่ เป่ยโม่และเซียนเปยเคยเป็นเช่นนี้ พวกเขาเกลียดชังกันมาก ไม่มีแม้กระทั่งพื้นฐานสำหรับความไว้วางใจ ไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนมาเป็นพันธมิตรที่ร่วมมือกันได้ อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ต้องมีจุดสนใจร่วมกัน เจ้ากล่าวว่าอาจจะเป็นเพราะดินแดนต้าโจว แต่ทุกคนรู้ดีว่าเป่ยโม่ไม่ยอมแบ่งที่ดินให้เซียนเปยแม้แต่หนึ่งนิ้ว ด้านเซียนเปยเองก็ไม่ยอมแบ่งที่ดินครึ่งหนึ่งให้กับเป่ยโม่เช่นกัน การต่อสู้ที่กินเวลายาวนานพิสูจน์ให้เห็นถึงจุดนี้ ฉะนั้นจักรพรรดิของทั้งสองแคว้นเห็นชอบการสร้างพันธมิตรเพราะเหตุใด? ต่อให้อยากเปลี่ยนใจผูกไมตรีกับศัตรูจริง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรวดเร็วเช่นนี้”จู่ ๆ จื่ออันก็เกิดความสงสัยขึ้นมา ทันใดนั้นคนคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในความคิดของนาง สนมอี้ตัวตนของสนมอี้ค่อนข้างเป็นเรื่องลึกลับ เป็นไปได้หรือไม่ว่านางเป็นสายลับจริง ๆ?ทว่านางเป็นบุตรีของกวงลู่ต้าฟู บิดาของนางเป็นสมาชิกระดับสูงของท้องพ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 931

    เมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน นอกเหนือจากการขาดแคลนจ่าฝูงแล้ว ต้าโจวยังมีความพร้อมในด้านอื่น ๆ เป็นอย่างดีก่อนที่มู่หรงเจี๋ยจะออกเดินทาง เขาได้ตรวจสอบเงินคงเหลือในคลัง และจัดการเงินสำหรับแผนกเสบียงทหาร ด้านวังหลังมีจื่ออันคอยควบคุมค่าใช้จ่าย และพยายามไม่เพิ่มแรงกดดันต่อท้องพระคลังในขณะนี้ สนมอี้เป็นคนริเริ่มอย่างเหนือความคาดหมายย ในการสั่งให้เหล่านางสนมในวังหลังบริจาคทองคำ เงินและเพชรพลอย เพื่อนำไปขายเป็นค่าใช้จ่ายทางการทหารสิ่งนี้น่าประหลาดใจมาก แต่ไม่มีใครล่วงรู้ลึกถึงแรงจูงใจเบื้องหลังของนาง เนื่องจากท้องพระโรงต้องการเงินยิ่งมากยิ่งดีแน่นอน แรงจูงใจนั้นสามารถคาดเดาได้ไม่ยาก นางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดขององค์ชายเจ็ด หากนางได้รับการยกย่อง องค์ชายเจ็ดก็จะได้รับการยกย่องตามไปด้วย ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทขึ้นสองค่ำเดือนสอง วันมังกรผงาดมู่หรงเจี๋ยได้รับคำสั่งให้ออกเดินทาง จื่ออันตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อสวมชุดเกราะให้เขาเมื่อเห็นเขาทรงอำนาจน่าเกรงขามมาก จื่ออันทั้งรู้สึกภูมิใจและเศร้าใจ นางแต่งงานกับองค์ชายผู้สำเร็จราชการ ก็ต้องการช่วยเขาบริหารกิจการรัฐ นางแต่งงาน

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 932

    จื่ออันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจ้าไม่อยากให้ทักษะเสียเปล่า จึงคิดใช้มันไปกับการเข่นฆ่าคนงั้นหรือ?”“เพื่อฆ่าศัตรูต่างหาก!” ตาวเหล่าต้าแก้ไข “ข้าต้องการปกป้องบ้านเมืองและประเทศของเรา ป้องกันไม่ให้ศัตรูต่างชาติรังแกประชาชน!”จื่ออันมองไปที่เขา มองเห็นความมุ่งมั่นในดวงตา ถึงรู้ว่าเขาจริงจัง ที่แท้เขาก็อยากออกรบเพื่อเข่นฆ่าศัตรู ปกป้องผู้คนและประเทศชาติจู่ ๆ หัวใจของจื่ออันก็เกิดความตื้นตันขึ้นมา แม้แต่เสี่ยวตาวยังรู้ว่าทุกคนย่อมมีส่วนร่วมกับความเจริญรุ่งเรืองและตกต่ำของแว่นแคว้น ฉะนั้นต้าโจวไม่มีวันปราชัย“เอาล่ะ หากเจ้าอยากเป็นทหาร ข้าจะแนะนำให้เจ้าไปฝึกที่ค่ายทหาร หลังจากท่านอ๋องได้รับชัยขนะกลับมา”“ข้าอยากไปตอนนี้เลยขอรับ”“หากเจ้าไปแล้วใครจะปกป้องคุ้มครองพระชายา?” เสี่ยวซุนเบิกตากว้าง “ทำไมเจ้าถึงโง่เขลานัก? เจ้าไม่เคยไปอยู่ค่ายทหาร ไม่เคยได้รับการฝึกอบรมมาก่อน เจ้าจะวิ่งกรูเข้าสู่สนามรบและฆ่าศัตรูง่าย ๆ ได้อย่างไร? คิดว่าตนเองสามารถเฉือนใครด้วยดาบยักษ์ก็ได้งั้นหรือ? หากพลาดฆ่าฟันพวกเดียวกันขึ้นมาเล่า? ในสนามรบมีกองกำลังนับแสน แยกไม่ออกว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู จิตใจของเจ้ายังไม่แ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 933

    ที่แท้ก็มาเพื่อขับไล่นางออกไปเองหรือ? รอยยิ้มเยาะเย้ยบนริมฝีปากของจื่ออันชัดเจนขึ้น “พระราชวังออกจะใหญ่โตถึงเพียงนี้ เหตุใดจะไม่มีที่สำหรับเซี่ยจื่ออัน? หากสนมอี้ต้องการขับไล่ข้า เช่นนั้นข้าต้องไปถามฝ่าบาทก่อนว่าทรงเห็นด้วยหรือไม่?”“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อถวายการรักษาอีกต่อไปแล้ว ข้าจะบอกพระองค์ว่าเจ้าป่วยเป็นโรคร้ายแรง ไม่สามารถถวายการรักษาพระองค์ได้อีกต่อไป” สนมอี้พูดอย่างเย็นชา“ข้าจำได้ว่าตอนแรกที่สนมอี้เข้ามา ท่านบอกว่าตนเองมาที่นี่เพื่อปลอบโยนข้านี่ วิธีการปลอบโยนคือการขับไล่ข้าออกไปหรือ?” จื่ออันอยากรู้นัก นางไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงคิดว่าตนสามารถขับไล่นางออกไปอย่างไรก็ได้?“เซี่ยจื่ออัน ข้าเชิญเจ้าออกไปก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง หากเจ้าอยู่ที่จวนจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าจะยังคงเป็นพระชายา สามารถเพลิดเพลินไปกับเกียรติยศและความมั่งคั่งที่ตนพึงมี แต่ในพระราชวังแห่งนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะมีชีวิตที่มั่นคง”“ขอบคุณสนมอี้ยิ่งนัก แต่ข้าเป็นคนต่ำต้อย ไม่มีเกียรติยศหรือความมั่งคั่งให้ได้ดื่มด่ำเพลิดเพลิน ดังนั้นข้าขอใช้ชีวิตที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ต่อไป

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 934

    วันนี้องค์จักรพรรดิตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันที่มู่หรงเจี๋ยนำกองทัพของเขาออกเดินทาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าองค์จักรพรรดิรักและหวงแหนแคว้นนี้มากที่สุด จนสามารถเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างได้เขาถอนหายใจอยู่หลายครั้ง พลางรำพึงว่ามันจะดีเพียงใดหากตนไม่เจ็บป่วยเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจ ความรู้สึกมากมายก็ประเดประดังเข้ามา ชีวิตคนเราไม่เที่ยงเสียจริง ชายหนุ่มผู้เดือดดาลเป็นฟืนไฟอาจตายในสนามรบได้ในชั่วพริบตา และชีวิตหญิงงามก็อาจพังพินาศได้ภายในพริบตาเช่นกัน“เจ้าเบื่อหน่ายที่ได้ยินข้าพูดเช่นนั้นรึ?” องค์จักรพรรดิหันมองจื่ออันด้วยสายตาผ่อนคลาย“ไม่... ไม่ใช่เช่นนั้นเพคะ” จื่ออันหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สถานการณ์ในตอนนี้ของแคว้นต้าโจวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พวกเราคิด ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลไปเลยเพคะ”“ข้าไม่ได้กังวลสักหน่อย เพียงแค่กำลังวิงวอนต่อสวรรค์เท่านั้น ข้าไม่อยากให้พสกนิกรของข้าพลัดถิ่นไปอยู่ที่อื่นอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว”พึ่งพาตนเองดีกว่ารอคอยความเมตตาจากสวรรค์ถึงกระนั้นจื่ออันก็ยังประทับใจในความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีต่อประเทศชาติและประชาชนแม้องค์จักรพรรดิจะตกอยู่ในอันตราย

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 935

    ความจริงแล้วจื่ออันและจ้วงจ้วงต่างรู้ดีว่า ไม่ว่าพวกนางจะย้ายอาศัยอยู่ที่ตำหนักใด สนมอี้ก็จะวางแผนการและออกกลอุบายหลอกลวงพวกนางอยู่เสมออีกเหตุผลหนึ่งที่สนมอี้ไม่ต้องการให้พวกนางอาศัยอยู่ที่ตำหนักฉางเฉิง เพราะที่นั่นตั้งอยู่ใกล้กับวังซีเหวย ซึ่งหากนางลงมือทำบางอย่าง เรื่องนั้นอาจจะดังไปถึงหูของจักรพรรดิ ทั้งยังง่ายต่อการขอความช่วยเหลืออีกด้วยตอนนี้ตำหนักฮุ่ยชิงอยู่ห่างไกลจากวังซีเหวยมาก ด้านหน้าของตำหนักติดกับตำหนักเสี้ยวหนิง ซึ่งเป็นที่พำนักของกุ้ยไท่เฟยและอ๋องหนานหวาย ด้านซ้ายติดกับตำหนักฉางเฉิงที่ถูกทิ้งร้าง และวังอี้หลานของสนมอี้ ด้านขวาติดกับตำหนักไฉ่อี้ของชุ่ยกุ้ยผินที่มีความสัมพันธ์อันดีกับสนมอี้ นั่นหมายความว่าจื่ออันกำลังตกอยู่ในกำมือของนางกล่าวได้ว่า บ้านของนางถูกศัตรูขนาบทั้งหน้าทั้งหลังมู่หรงเจี๋ยกล่าวก่อนที่เขาจะจากไปว่า อ๋องเหลียงและอ๋องอันจะเป็นผู้ดูแลที่นี่ ทว่าตอนนี้อ๋องอันจำเป็นต้องนำกองทัพออกรบเช่นกัน ดังนั้นจึงเหลืออ๋องเหลียงเพียงผู้เดียวอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขายกทัพออกไปแล้วสามวัน จู่ ๆ องค์ฮ่องเต้ก็มีพระราชโองการแต่งตั้งให้อ๋องเยี่ยเป็นไท่เวย และยึดอำนา

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 936

    ไม่สิ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ปกครองโฮ่วกง จ้วงจ้วงก็ออกคำสั่งสามข้อเช่นกันข้อแรก ย้ายกุ้ยไท่เฟยไปยังตำหนักสีอัน ซึ่งเป็นตำหนักที่หวงไท่โฮ่วเคยประทับอยู่ เพราะกุ้ยไท่เฟยอยากจะอยู่ตำหนักสีอันมาโดยตลอด ครั้งนี้จ้วงจ้วงจึงอนุญาตให้นางเข้าไปอยู่ แต่ด้วยธรรมเนียมไว้ทุกข์ เดิมทีหลังจากเจ็ดสิบเก้าวัน ก็จะสามารถถอนที่ตั้งป้ายวิญญาณบรรพบุรุษได้แล้ว แต่จ้วงจ้วงบอกว่าเพื่อแสดงความเศร้าโศก จึงจะจัดตั้งป้ายวิญญาณเป็นเวลาถึงสามปีซึ่งหมายความว่ากุ้ยไท่เฟยจะต้องไว้ทุกข์ให้พี่สาว ในนามของพระสนม โดยไม่อาจออกจากตำหนักสีอันตามความประสงค์ได้เป็นเวลาสามปีข้อสอง เลื่อนสถานะของสนมอี้ให้เป็นกุ้ยเฟย นี่เป็นข่าวดีสำหรับสนมอี้ เพราะในที่สุดนางก็ได้อยู่เหนือนางสนมทุกคน ตอนนี้ไม่มีฮองเฮาในวังหลังแล้ว สถานะของนางจึงถือว่าสูงสุดแต่ก็เป็นดั่งคำโบราณว่าไว้ ยิ่งตำแหน่งสูง ความรับผิดชอบยิ่งมากองค์หญิงเจิ้นกั๋วบอกว่าตนสุขภาพไม่ดี ทำให้ไม่สามารถดูแลกิจการน่าเบื่อหน่ายของโฮ่วกงได้ นางจึงมอบหมายงานบางส่วนให้สนมอี้ เช่นการปรับลดงบประมาณประจำปีในวังหลวง บอกให้นางช่วยอธิบายให้นางสนมฟังทีละคน และวางแผนจัดงานทั้งงานเล็ก ง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 937

    การต่อสู้ระหว่างนางสนมในวังมีสองวิธี วิธีที่หนึ่ง คือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปราน การต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานนี้ เป็นการใช้กลอุบายต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของจักรพรรดิ แต่ตอนนี้จักรพรรดิกำลังประชวร จึงไม่อาจใช้วิธีนี้ได้ เพราะพวกนางไม่แม้แต่จะได้เห็นหน้าจักรพรรดิเลยด้วยซ้ำวิธีที่สอง คือการใช้ตำแหน่งของตนแอบวางยานางสนมคนอื่น ๆ ในวัง นอกจากวางแผนใช้ยาพิษแล้ว การนำยาพิษเข้ามาในวังหลวงก็ไม่ง่ายนัก หากสาวใช้และขันทีออกไปซื้อของข้างนอก ก็จะเป็นที่สะดุดตา เพราะทหารรักษาพระองค์จะตรวจค้นเป็นครั้งคราว หากพบยาพิษติดตัวอยู่ก็คือหายนะมีคนประเภทหนึ่งในวังหลวงที่สามารถสัมผัสพิษได้ นั่นคือคนของสำนักแพทย์หลวง หากสำนักแพทย์หลวงถูกควบคุม วังหลังก็จะสงบลงชั่วคราว เรื่องนี้จะไม่ทำให้พวกนางเสียสมาธิ เพื่อจะได้จดจ่ออยู่กับการจัดการสนมอี้และคนอื่น ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้มากมายแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มีนางสนมคนใดบ้างที่ไม่เคยคิดวิธีเช่นนั้น? ทุกคนต่างเคยเกี่ยวข้องกับสำนักแพทย์หลวง เมื่อจื่ออันเข้าครอบครองสำนักแพทย์หลวงแล้ว นางสนมเหล่านั้นจึงต้องประจบประแจงนาง เพื่อให้นางไม่เป

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status