แชร์

บทที่ 199

ผู้แต่ง: จูน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อองค์รัชทายาทเห็นว่าอ๋องฉีออกไปแล้ว ก็หยุดเล่นละครอีก จึงเอ่ยเสียงเรียบว่า “ใช่ หม่อมฉันไปเยี่ยมเสด็จอา มีปัญหาอะไรหรือ?”

พาคนพันคนไปซุ่มรอบจวนอ๋อง แต่กลับบอกว่าไปเยี่ยมข้างั้นหรือ" มู่หรงเหยาเอียงศีรษะพูดเบา ๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่ในหูของทุกคนได้ยิน กลับรู้สึกหวาดกลัวราวกระบี่คมกริบ

องค์รัชทายาทกล่าวว่า “พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันพาคนไปปกป้องเสด็จอา เห็นได้ชัดว่าบางคนไม่รับน้ำใจของหม่อมฉัน และไม่ยอมให้หม่อมฉันเข้าไป”

“หากไม่มีคําสั่งของข้า ใครจะอนุญาตให้เจ้าระดมทหารหนึ่งพันคนเข้ามา? ใครให้อํานาจนี้แก่เจ้า?" เมื่อมู่หรงเหยาเปลี่ยนสีหน้า เขาก็ถามออกไปด้วยน้ําเสียงดุดัน

องค์รัชทายาทชะงักไปก่อนจะลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นด้วยความโกรธ "ก็แค่ทหารหนึ่งพันนายไม่ใช่หรอกหรือ?หม่อมฉันเป็นรัชทายาทในราชสํานัก ต้องได้รับอนุญาตจากผู้สำเร็จราชการก่อนหรือถึงจะระดมคนนับพันคนเข้ามาได้?”

มู่หรงเจี๋ยตวาดเสียงเข้ม "เสนาบดีกรมกรมทหารอยู่ที่ไหน”

เสนาบดีกรมทหารรีบออกมา “กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ!”

“บอกองค์รัชทายาท การที่ระดมพลทหารม้ามามากกว่าพันนายโดยพลการ บทลงโทษคือสิ่งใด?”

เสนาบดีกรมกรมทหารตอบว่า "หากทูลท่านอ๋อง ห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 200

    เสนาบดีสำนักตรวจราชการทหารไม่ลังเลที่จะกล่าวว่า “ทูลท่านอ๋อง ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ ท่านแม่ทัพไป๋เย่ไม่ได้ยื่นหนังสือคำร้องต่อกรมทหาร และหลังจากนำทหารไปมาแล้ว ก็ไม่ได้ไปรายงานตัวที่กรมทหาร เป็นฝ่ายระดมพลโดยพลการ ตามกฏของกองทัพ สมควรถูกประหารชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”มู่หรงเจี๋ยเงยหน้าขึ้น “ซูชิง!”“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูชิงก้าวออกไป คำนับแล้วพูดมู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างน่าเกรงขามว่า “ถือจดหมายนี้ที่เขียนด้วยลายมือของข้า ไปจับไป๋เย่ และประหารทันที เพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”เหลียงไท่ฟู่หน้าเขียว “ช้าก่อน!”เขาก้าวไปข้างหน้าจ้องมองไปที่มู่หรงเจี๋ย กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาสั่นเทา ความโกรธแผ่ซ่านไปในดวงตา “ท่านอ๋อง แม้ว่ากฎหมายจะสําคัญ แต่แม่ทัพไป๋ระดมกําลังทหารเพื่อปกป้องท่านอ๋องนะพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าจะเกิดขึ้นแล้ว แม้เคยมีแต่ความภักดีต่อท่านอ๋อง หากท่านอ๋องยืนกรานที่จะสังหารแม่ทัพที่ซื่อสัตย์และภักดี มันยิ่งจะทำให้หัวใจของเหล่าทหารหมดกำลังใจ ไม่มีประโยชน์อันใดในต้าโจวของท่าน ข้าเชื่อว่าหากฝ่าบาทอยู่ที่นี่ในตอนนี้ คงไม่เห็นด้วยกับการกระทําของพระองค์”ฮองเฮายังเอ่ยอีกด้วยว่า “ใช่แล้ว ท่านอ๋อง ท่านแม่ทัพไป๋คนน

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 201

    ทุกคนต่างมองไปที่มู่หรงเจี๋ย การยั่วยุขององค์รัชทายาทเห็นได้ชัดว่าจงใจยั่วโมโหเขา แม้ว่าเขาจะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ จึงสามารถดุและสั่งสอนองค์รัชทายาทได้ แต่ที่กล่าวว่าไม่รู้ว่าเขาจะสามารถนั่งบนตำแหน่งรัชทายาทได้อีกนานแค่ไหนนั้น คำพูดพวกนี้ดูออกจะทำเกินอำนาจไปสักหน่อย อันที่จริงแล้วคำพูดนี้มีเพียงองค์จักรพรรดิเท่านั้นที่จะสามารถพูดได้เขาวางท่าเป็นองค์จักรพรรดิใช้อำนาจจัดการงานราชกิจ แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่องค์จักรพรรดิอยู่ดีมู่หรงเจี๋ยก็ไม่ได้โกรธเคืองแม้แต่น้อย เขาเพิ่งสั่งให้คนไปเชิญตัวเปากงกงผู้ซึ่งเป็นข้ารับใช้ของฝ่าบาทกลับมา เปากงกงปรนนิบัติรับใช้ฝ่าบาทมานานหลายปี ทั้งยังเคยปรนนิบัติรับใช้องค์จักรพรรดิพระองค์ก่อน เป็นผู้อาวุโสในวัง ขนาดหวงไท่โฮ่วยังต้องไว้หน้าเขาหลายส่วนเปากงกงมาถึงก็โค้งตัวคำนับแล้วกล่าว "ถวายบังคมฮองเฮา ถวายบังคมท่านอ๋อง"“ลุกขึ้น!” ฮองเฮามองมู่หรงเจี๋ยอย่างไม่พอใจ “เปากงกงกำลังถวายการปรนนิบัติรับใช้ฝ่าบาทอยู่ เจ้าให้เขามาทำไม?”มู่หรงเจี๋ยไม่ได้ตอบกลับฮองเฮา เพียงแต่กล่าวว่า "เปากงกง อัญเชิญพระราชโองการฉบับที่สองของฝ่าบาท"ดูเหมือนว่าเปากงกงได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 202

    คืนนี้เขาคำนวณผิดพลาดไปจริง ๆ ติดกับดักของอ๋องหนานหวายอย่างคาดไม่ถึง และยิ่งคิดไม่ถึงว่ามู่หรงเจี๋ยจะปรากฏตัว ที่เกินคาดมากที่สุดก็คือเรื่องพระราชโองการฉบับที่สองของฝ่าบาท พระราชโองการฉบับนี้ทำให้ตำแหน่งของเขาสั่นคลอนองค์รัชทายาทระดมกองทัพโดยพละการ ฝ่าฝืนกฎหมายไปแล้ว และจะถูกลงโทษด้วยการโบย สิ่งที่เรียกว่าการสั่งสอนซ้ําแล้วซ้ำเล่าไม่เปลี่ยน ไม่ใช่ว่าเขาจะมีโอกาสกระทำผิดหลายครั้ง กระทำผิดเพียงครั้งที่สอง ครั้งที่สาม เขาก็จะปลดจากตำแหน่งองค์รัชทายาทได้อย่างสมเหตุสมผลแล้วเขาไม่อาจแข็งข้อกับมู่หรงเจี๋ยเพียงเพราะไป๋เย่ ยอมสละแขนข้างหนึ่งเพื่อต่อลมหายใจ จะได้มีเวลาวางแผนเรื่องที่จื่ออันไม่เข้าใจมาโดยตลอดก็คือ การที่มู่หรงเจี๋ยมีโอกาสจู่โจมองค์รัชทายาทกับเหลียงไท่ฟู่อย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่เปิดโปงจดหมายฉบับนั้นก็ได้แล้ว ทำไมเขาต้องเสียเวลามากมายไปกับเรื่องฆ่าไป๋เย่และอัญเชิญพระบรมราชโองการขององค์จักรพรรดิด้วย?ขณะที่นางกระซิบกระซาบกัน นางกระซิบถามมู่หรงเจี๋ยเบา ๆ "ท่านอ๋องจะละทิ้งโอกาสดี ๆ ให้หลุดลอยไปอย่างนั้นหรือ?" มู่หรงเจี๋ยเหลือบมองไปที่นาง "เจ้าคุยโวว่าตนเองฉลาด เหตุใดถึงไม่

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 203

    ใบหน้าของมหาเสนาบดีเซี่ยหน้าเขียวคล้ำไปหมดแล้ว เขากล่าวกับฮูหยินหลิงหลงด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า “เจ้ายังไม่ไปดึงตัวนางออกมาอีกหรือ?"ฮูหยินหลิงหลงรีบออกจากโต๊ะไปด้านนอก และดึงตัวเซี่ยหว่านเอ๋อออกด้วยมือข้างเดียว "หว่านเอ๋อ อย่าก่อเรื่องเหลวไหล"เซี่ยหว่านเอ๋อหันกลับมา ก็พบว่าทุกคนกำลังมองมาที่นางนางรู้ว่าตนเองเสียมารยาทไป ทว่าทันใดนั้นก็ได้นึกขึ้นได้ว่าตนเองได้มอบสมรสให้แก่องค์รัชทายาทแล้ว เป็นพระชายารัชทายาทในอนาคต มีคุณสมบัติที่จะพูดแทนองค์รัชทายาทดังนั้นนางจึงรีบเดินกลับเข้าไปในตำหนัก และเงยหน้าขึ้นมองมู่หรงเจี๋ยพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านอ๋อง แม้ว่าองค์รัชทายาทจะระดมทหารโดยพละการ แต่ในฐานะองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ จะระดมกองกำลังทหารหนึ่งพันนายไม่ได้เชียวหรือ? ไม่ช้าก็เร็ว องค์รัชทายาทก็จะได้เป็นองค์จักรพรรดิของแผ่นดินนี้ ท่านอ๋องเป็นเพียงผู้สำเร็จราชการที่ดูแลบ้านเมืองแทน ฝ่าบาทมอบอำนาจให้ท่าน ไม่ใช่ให้ท่านใช้อํานาจในทางที่ผิดเพื่อแก้แค้นส่วนตัว วันนี้ท่านสั่งโบยองค์รัชทายาทในราชสำนักต่อหน้าเชื้อพระวงศ์และพวกขุนนางชั้นผู้ใหญ่มากมาย หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจะเป็นการนำความเสื่อมเสียมาส

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 204

    พระสนมอี๋ที่ไม่ได้พูดอะไรมาเลยทั้งคืนมองดูหยวนซื่อแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา “ฮูหยินเซี่ย ในฐานะภรรยาเอกท่านยินยอมนั่งในระดับเดียวกันกับอนุภรรยาหรือ?”คำพูดนี้เป็นการแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเซี่ยหว่านเอ๋อคนที่องค์รัชทายาทจะอภิเษกด้วยผู้นี้ เป็นลูกอนุ ที่เกิดจากอนุภรรยาแน่นอนว่าหลายคนรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ก็เป็นอย่างที่ทุกคนรู้กัน มหาเสนาบดีเซี่ยรักอนุภรรยาคนนี้มาก แต่แค่ไม่มีใครพูดหักหน้าต่อหน้าเขาเท่านั้นเองจุดประสงค์ของพระสนมอี๋ที่พูดหักหน้าในครั้งนี้ มันแปลกจริง ๆทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบของหยวนซื่อ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี หยวนซื่อก็ยังคงเป็นจุดสนใจในสายตาของทุกคนอยู่ เรื่องที่นางแต่งกับมหาเสนาบดีเซี่ย ก็ยิ่งทำให้ทุกคนแปลกใจมากขึ้นหยวนซื่อคิดไม่ถึงว่าการสร้างปัญหาของเซี่ยหว่านเอ๋อจะทำให่พระสนมอี๋พุ่งเป้ามาที่นาง แต่นางไม่ได้ดูโกรธเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ลุกขึ้นโค้งคำนับพระสนมอี๋เล็กน้อย และกล่าวออกไปอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูต้อยต่ำ "กราบทูลพระสนมอี๋ หม่อมฉันต้องอภัยต่อคำตอบที่กำลังจะตอบด้วยเพคะ ในหนึ่งปีหม่อมฉันแทบไม่ได้เจอพวกเขาเลยสักครั้ง"มหาเสนาบ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 205

    คำพูดนี้แทบทำให้มหาเสนาบดีเซี่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นางกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ต่อหน้าผู้คนมากมายขอให้ตนเองอยู่ในวังเพื่อดูแลองค์รัชทายาท ช่างไร้ยางอายสิ้นดี? แม้ว่าจะมีพระราชเสาวนีย์ออกมา แต่ก็ยังไม่ได้อภิเษกสมรสกันเลย? ในสายตาของทุกคน นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนมหาเสนาบดี ยังไม่ทันได้แต่งออกเรือนไปกลับจะไปอยู่ด้วยกันกับองค์รัชทายาท จะให้คนอื่นคิดเห็นเช่นไร?ราชวงศ์จะต้องการสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาเป็นลูกสะใภ้ได้อย่างไรกัน?ฮองเฮาโมโหเสียจนมือไม้สั่น นางเงยหน้าขึ้นมองมหาเสนาบดีเซี่ย นัยน์ตาดขุ่นเคืองใจ “มหาเสนาบดีเซี่ยอบรมสั่งสอนได้ดีเสียจริง!”พูดจบก็จากไปอย่างโกรธเคืองหลังจากที่ฮองเฮาจากไป มู่หรงเจี๋ยก็ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า "เอาล่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ต่างแยกย้ายกันไป ทุกท่านก็รีบกลับไปพักผ่อนเถิด"หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ยื่นมือออกไปหาจื่ออัน นางลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปกุมมือเขาลุกขึ้นมา ทั้งสองก็เดินควงคู่ฝ่าฝูงชนออกไปเรื่องนี้น่าเชื่อถือกว่าพระราชเสาวนีย์อภิเษกสมรส ในโอกาสที่เป็นทางการของค่ำคืนนี้ ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิให้เซี่ยจื่ออันนั่งด้วยกันกับเขาทั้งยังจูงมือเซี่ย

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 206

    จื่ออันถามมู่หรงจ้วงจ้วงอย่างหยั่งเชิง "จริงสิ กุ้ยไท่เฟยก็วิตกยังวลมากใช่หรือไม่?”มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าว “นางร้องไห้อย่างโศกเศร้าเสียใจ ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของนางด้วยแล้ว นางจะไม่กังวลได้อย่างไร? คนตายแล้ว แม้แต่ศพก็ยังหายไปอีก เป็นใครก็รับไม่ไหวกันทั้งนั้น นางเพียงร้องไห้อย่างหนักก็ถือว่าเข้มแข็งแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นคงจะพยายามฆ่าตัวตายไปแล้ว”จื่ออันพยักหน้า "ใช่สิ ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ด้วยแล้ว"มีรถม้าวิ่งผ่านรถม้าของพวกนางไปอย่างรวดเร็ว มู่หรงจ้วงจ้วงเปิดม่านออกดูและเลื่อนม่านลง นางพูดอย่างเย็นชาว่า “เป็นรถม้าของจวนมหาเสนาบดี”จื่ออันไม่ได้พูดอะไร หลังจากกลับจวนไปแล้ว นางยังจะต้องเผชิญกับพายุการนองเลือดอีกหลังจากรถม้าเคลื่อนที่ไปได้ครู่หนึ่ง คนขับรถม้าก็ส่งเสียง "โอ๊ะ" และรีบดึงบังเหียน ม้าก็ทะยานขาหน้าขึ้น รถม้าก็เอนไปด้านหลัง ทั้งสองคนชนกันอย่างจังจนเกือบจะกลิ้งออกไป“เกิดอะไรขึ้น?” มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวอย่างโกรธจัด และเปิดม่านออก แต่กลับเห็นทหารองครักษ์กันรีบลงจากม้า แล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็วมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนถนนที่เป็นพื้นหิน คบไฟของทหารองครักษ์กันส่องสว่างไปที่ใบหน้าของ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 207

    เจ้าของร้านของเป่าเหอถังที่เห็นมู่หรงจ้วงจ้วงเข้ามาเหมือนนางปีศาจร้าย เขาก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้งและพูดอย่างโมโห "สตรีผู้นี้ กล้าดียังไง..."เมื่อเขาเห็นทหารองครักษ์สองคนที่อยู่ด้านหลังมู่หรงจ้วงจ้วงถือดาบไว้อยู่ ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวอย่างหวาดกลัว และเขาก็พูดตะกุกตะกัก “องค์หญิงเสด็จข้าน้อยมีความผิด ผิดใหญ่หลวงนัก!”ทหารองครักษ์อุ้มหยวนซื่อเข้ามา มู่หรงจ้วงจ้วงเอ่ยเสียงเข้มว่า "เจ้าเข้ามาคอยช่วยเหลือ ถ้าต้องการยาอะไร จะได้สั่งให้เจ้าไปเอามา"“แย่แล้ว ทำไมเลือดถึงได้ไหลออกมามากมายขนาดนี้? เร็วเข้า รีบทาผงยาขาวลงไป” เจ้าของร้านอุทานเสียงดัง แล้วรีบหันหลังเดินไปหยิบยาที่ตู้ยาอีกด้านนึง ทหารองครักษ์สองคนไล่ตามรถม้าของจวนมหาเสนาบดีไป และสกัดกั้นรถม้าที่ถนนหนานจงได้คนขับรถม้ากล่าวอย่างโกรธเคือง "พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงมาขวางรถม้าของจวนมหาเสนาบดี?"ทหารองครักษ์กล่าวอย่างเย็นชา "ข้ารับคำสั่งจากองค์หญิงใหญ่ให้มาตรวจสอบคดีจงใจทำร้ายร่างกาย โปรดให้ความร่วมมือ"เมื่อคนขับรถม้าได้ยินว่าเป็นคนขององค์หญิง สืบสวนคดีทําร้ายคน จึงรีบลงมา "คดีทำร้ายคนอะไร?"คนขับรถม้าขับรถไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

DMCA.com Protection Status