"คุณหนูสิง เจ้าว่ามาเถอะ!"แม่ทัพเฉิงสงบสติอารมณ์ลง เฟิ่งอี๋เหนียงนั้นน่าชังก็จริง แต่ภายใต้การอบรมสั่งสอนของนาง บุตรชายที่เกิดจากอนุภรรยาทั้งสองก็ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี มีนิสัยซื่อตรง เคารพนบนอบต่อตน ทั้งยังรักใคร่ปรองดองกับเฉิงซวี่และเฉิงเหล่ยเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันหากตนใจร้อนสังหารเฟิ่งอี๋เหนียงโดยไม่มีหลักฐาน บุตรชายทั้งสองก็จะตีตัวออกห่างจากตนตัวเขาอายุมากแล้วคงมิอาจมีบุตรเพิ่มได้อีก"ท่านต้องทำเช่นนี้..."หลิงอวี๋เข้าไปกระซิบแผนการที่ข้างหูแม่ทัพเฉิง แม่ทัพฟังไปก็พลางพยักหน้าไปเมื่อหลิงอวี๋พูดจบ แม่ทัพเฉิงก็เดินออกไป เรียกผู้คุ้มกันมาคนหนึ่ง มอบขวดที่หลิงอวี๋ให้แล้วให้อีกฝ่ายนำออกไปเฟิ่งอี๋เหนียงหอบรายการอาหารหลายเล่มเข้ามา เห็นผู้คุ้มกันถือขวดหน้าตาประหลาดนั้นเดินออกไปก็มองตามด้วยความสงสัย"คุณหนูสิง รายการอาหารที่เจ้าต้องการมาแล้ว!"เฟิ่งอี๋เหนียงนำรายการอาหารเข้ามาให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋เปิดดูเพียงผ่าน ๆเฟิ่งอี๋เหนียงมองท่านแม่ทัพ เห็นว่าท่านแม่ทัพนั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้ามิสู้ดีนัก"ท่านพี่ มีกระไรผิดแปลกไปหรือ?"เฟิ่งอี๋เหนียงถามอย่างหยั่งเชิงด้วยใจ
แม่ทัพเฉิงเห็นท่าทางตื่นตระหนกของเฟิ่งอี๋เหนียงก็ลุกขึ้นเดินออกไป หลิงอวี๋ก็ตามออกไปเช่นกันแผนการได้ดำเนินไปตามขั้นตอนแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการแสดงของเฟิ่งอี๋เหนียง“ท่านพ่อ นี่มันเรื่องอันใดกัน?”เฉิงเหล่ยและเย่หรงรออยู่ด้านนอก เมื่อเห็นเฟิ่งอี๋เหนียงวิ่งออกไปหน้าตาตื่นตระหนกก็ถามด้วยความสงสัย“ไปดูประเดี๋ยวก็รู้เอง!”แม่ทัพเฉิงตอบด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วเดินตามไปเมื่อกลุ่มคนเดินมาถึงห้องของเฉิงหมิงบุตรชายคนรอง ยังมิทันเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงร้องเรียกอย่างร้อนรนของเฟิ่งอี๋เหนียง “เฉิงหมิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อย่าทำให้แม่ตกใจสิ!”“อ้วก!”สิ่งที่ตอบกลับเฟิ่งอี๋เหนียงคือเสียงอาเจียนแม่ทัพเฉิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เห็นเฉิงหมิงอาเจียนออกมาเป็นเลือดเต็มอก สีหน้าเริ่มซีดเขียว“ท่านพี่ เหตุใดท่านจึงทำกับเฉิงหมิงเช่นนี้?”เฟิ่งอี๋เหนียงเห็นแม่ทัพเฉิงเข้ามา ก็ร้องเรียกอย่างร้อนรน “ข้ากล้าสาบานต่อฟ้าดิน เฉิงหมิงมิเคยคิดร้ายต่อฮูหยิน เหตุใดท่านจึงให้เขากินยาพิษ?”แม่ทัพเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้ามิปรักปรำผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว!”“วันนั้นหลังกลับจากสำนักศึกษาชิงหลง ข้าบอกว่าฮ
“ไปตรวจค้น!”แม่ทัพเฉิงออกคำสั่ง ผู้คุ้มกันหลายคนที่ตามมาก็วิ่งไปค้นห้องของเฟิ่งอี๋เหนียงเฟิ่งอี๋เหนียงร้องเรียกอย่างน่าเวทนา “ท่านพี่ รีบให้ยาถอนพิษแก่เฉิงหมิงเถิด! เป็นความผิดของข้าเอง เฉิงหมิงหาได้รู้เรื่องอันใดไม่ ข้าเอาชีวิตเป็นประกันก็ย่อมได้ เรื่องนี้มิเกี่ยวข้องกับเขา!”“เฉิงซวี่ถูกพิษก็เป็นฝีมือเจ้าด้วยใช่หรือไม่?”แม่ทัพเฉิงถามเสียงดัง“เป็นข้าเอง! ข้ายอมรับทั้งหมด!”เฟิ่งอี๋เหนียงร้องไห้ “ข้าโลภมาก คิดจะแสวงหาอนาคตที่ดีให้สองพี่น้อง ข้า... ข้าจึงได้กระทำเรื่องเช่นนี้ลงไป!”“ท่านแม่ ท่านวางยาพิษท่านแม่ใหญ่และพี่ใหญ่จริง ๆ หรือ?”เฉิงหมิงถามอย่างมิอยากเชื่อเฟิ่งอี๋เหนียงเผชิญหน้ากับสายตาตำหนิของบุตรชายก็พูดมิออก ได้แต่ยกมือปิดหน้าร้องไห้เฉิงหมิงมองท่านแม่ทัพทีมองเฟิ่งอี๋เหนียงที ก่อนจะคุกเข่าลงอย่างเจ็บปวด“ท่านพ่อ เป็นข้าเองที่วางยา ท่านแม่เพียงแต่อยากรับผิดแทนข้า ข้าสมควรตาย หากท่านจะปลิดชีพก็ปลิดชีพข้าเถิด!”เฉิงหมิงก้มหน้าลง สีหน้าสิ้นหวังอย่างยิ่ง“เป็นข้าต่างหาก ท่านพี่ ท่านอย่าฟังเฉิงหมิงพูดเหลวไหล ข้าเป็นคนทำ ขอร้องท่านรีบให้ยาถอนพิษแก่เฉิงหมิงเถิด!”เ
เย่หรงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ในใจก็รู้สึกสับสนฮูหยินของตระกูลเฉิงจิตใจดีงามถึงเพียงนี้ แต่กลับถูกอนุภรรยาวางยาส่วนมารดาของตนเป็นอนุภรรยา ตนกลับถูกฮูหยินใหญ่วางยา เรื่องนี้หากจะกล่าวไปก็เป็นเพราะความริษยาและความโลภของตนที่ชักนำให้ก้าวผิดไปทีละก้าวมิใช่หรือ?“ท่านพ่อ ข้ามันเดรัจฉาน ข้าเพียงหลงผิดไปชั่วครู่ ข้ายินดีชดใช้ชีวิตให้ท่านแม่!”เฉิงหมิงกล่าวอย่างแน่วแน่“เฉิงหมิง เจ้าคิดว่าการทำเช่นนี้คือความกตัญญูหรือ?”หลิงอวี๋ส่ายหน้า “เจ้าคิดว่า หากเจ้ารับผิดแทนมารดาของเจ้าแล้ว นางจะยังได้อยู่อย่างสุขกายสบายใจไปตลอดชีวิตหรือ?”“ที่ท่านแม่ทัพเฉิงทำเช่นนี้ก็เพราะมิต้องการปรักปรำคนดี! หากเจ้าต้องการไถ่โทษให้มารดาของเจ้าจริง ต่อไปก็จงดูแลปรนนิบัติฮูหยินเฉิงให้ดี ดูแลน้องชายและน้องสาวให้ดี!”“พิษของฮูหยินเฉิง ข้าสามารถช่วยถอนพิษให้นางได้ แต่ถึงแม้จะถอนพิษแล้ว ร่างกายของนางก็มิอาจกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม! เจ้าเร่งรีบอยากตาย เป็นเพราะต้องการหลีกหนีความรับผิดชอบของตนหรือไร?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างจริงใจ “ตายไปอาจจะจบสิ้นทุกสิ่ง แต่การมีชีวิตอยู่จึงจะสามารถชดเชยความผิดที่มารดาของเจ้าก่อไว้ได้ หากเจ้าต้
หลิงอวี๋มาถึงห้องของฮูหยินเฉิง ตรวจชีพจรให้นาง เขียนใบเทียบยาให้ตามอาการ ทั้งยังมอบยาถอนพิษที่ตนปรุงขึ้นหนึ่งขวดให้แก่เฉิงเหล่ย“ยานี้ให้กินวันละหนึ่งเม็ด ส่วนยาตามใบเทียบให้ไปจัดมาต้มวันละหนึ่งเทียบ กินวันละสามครั้ง!”หลิงอวี๋กำชับเฉิงเหล่ยเฉิงเหล่ยพยักหน้า จากนั้นก็ให้บ่าวรับใช้ไปจัดยาตามสั่งทันทีอาการพิษของเฉิงซวี่มิรุนแรงเท่าฮูหยินเฉิง หลิงอวี๋เพียงให้เขากินยาถอนพิษ และดื่มน้ำตามมาก ๆเฉิงซวี่ยังมิรู้ว่าตนถูกพิษ ยังคิดว่าช่วงนี้เหนื่อยเกินไป จึงมีอาการวิงเวียนศีรษะและนอนมิหลับเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากเฉิงเหล่ย เฉิงซวี่ก็หน้าเปลี่ยนสี อยากจะพุ่งไปสังหารเฟิ่งอี๋เหนียงเพื่อแก้แค้นให้ตนและมารดาเรื่องการปลอบโยนเฉิงซวี่ หลิงอวี๋มิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจัดการกันเอง นางกำชับข้อควรระวังกับเฉิงซวี่ จากนั้นก็ไปรอแม่ทัพเฉิงที่ห้องตำราแม่ทัพเฉิงเสียเวลาอยู่นานกว่าจะมา สีหน้าดูมิสู้ดีนักหลิงอวี๋เล่าขั้นตอนการรักษาฮูหยินเฉิงให้ฟัง ท่านแม่ทัพพยักหน้า “คุณหนูสิงรักษาเช่นนี้ ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง จัดการตามที่เจ้าว่าเถิด!”“คุณหนูสิง เรื่องในวันนี้หวังว่าเจ้า
แม่ทัพเฉิงเดินไปที่โต๊ะหนังสือด้วยสีหน้าตึงเครียด และหยิบตั๋วเงินสองล้านตำลึงออกมาจากลิ้นชัก"เรื่องนี้ข้าจะมิพูดกับใคร พวกเจ้ารับตั๋วเงินไปเถอะ!"เย่หรงมองหลิงอวี๋อย่างผิดหวังเดิมทีคิดว่า หากช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ท่านแม่ทัพเฉิงจะยอมยื่นมือช่วยเหลือ ไหนเลยจะคิดว่าท่านแม่ทัพเฉิงกลับปฏิเสธหลิงอวี๋เองก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดดูอีกที หากจะต้องทำให้ท่านแม่ทัพเฉิงและครอบครัวต้องเดือดร้อน นางก็รู้สึกมิสบายใจเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?ในสมองของหลิงอวี๋พลันเกิดประกายความคิด ถามอย่างร้อนรน "ท่านแม่ทัพเฉิง ผู้ที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำ หากตายไปจะจัดการกับศพอย่างไร?"ท่านแม่ทัพเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างมิเข้าใจ แล้วเอ่ยว่า "หากมีญาติก็สามารถมารับศพกลับไปได้ หากไม่มีใครมารับศพก็จะนำไปฝังแทน!"หลิงอวี๋ตื่นเต้นขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพเฉิง ท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้หรือไม่?"มิเพียงแต่ท่านแม่ทัพเฉิง แม้แต่เย่หรงก็ยังตามความคิดของหลิงอวี๋มิทัน หลิงอวี๋คิดจะทำอะไรกันแน่?หลิงอวี๋มองแม่ทัพเฉิงแล้วเอ่ยเสียงเคร่งขรึม "ข้าเคยอ่านเจอในตำราว่า มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หากกินเข้าไปแล้วคนผู้นั้นจะอยู่ในสภาพเหมื
“ใครจะไปตรวจสอบ?”หลิงอวี๋อยากรู้ให้แน่ชัด จะได้ช่วยเลี่ยวหงเสียวางแผนหลบหนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ“เจ้าแห่งทะเล มหาเทพหลง!”แม่ทัพเฉิงตกลงจะช่วยแล้วก็หวังว่าหลิงอวี๋จะทำได้สมบูรณ์แบบ และมิทำให้ตนต้องเดือดร้อน“นักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำล้วนเป็นพวกที่มีความผิดร้ายแรง ยกเว้นเลี่ยวหงเสีย! นางถูกจับเข้าคุกน้ำไปเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ก็มิเคยมีการไต่สวนนาง!”“ช่วงปีแรก เจ้าแห่งทะเลจะไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียปีละครั้ง มิพาองครักษ์ไปด้วย เข้าไปแล้วก็อยู่ที่นั่นถึงสองชั่วยาม!”“เป็นเช่นนี้อยู่ห้าปี หลังจากนั้นเจ้าแห่งทะเลก็ไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียสองปีครั้ง!”ท่านแม่ทัพเฉิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “ข้าสงสัยว่า เลี่ยวหงเสียมีความลับ เจ้าแห่งทะเลก็ไปเพื่อขุดคุ้ยความลับนี้! แต่เห็นได้ชัดว่าเขามิได้คำตอบสมปรารถนา!”หลิงอวี๋และเย่หรงมองหน้ากัน ทั้งสองต่างมีสีหน้าสงสัยเลี่ยวหงเสียไปรู้ความลับอะไรมา?แม่ทัพเฉิงเห็นสีหน้าสงสัยของทั้งสองคนก็ชี้แนะว่า “เย่หรง ลองคิดถึงชาติกำเนิดของแม่เจ้าสิ!”“ท่านตาเจ้าเคยเป็นแม่ทัพใหญ่ข้างกายมหาเทพหลง มหาเทพหลงทรงไว้วางพระทัยเขามากกว่ามหาปราชญ์คนปัจจุบันเสียอีก! แต่เมื่อสามสิบ
เย่หรงและหลิงอวี๋แยกกัน เย่หรงก็ตรงไปหาฉินซานที่คฤหาสน์อู่ทันทีเมื่อฉินซานได้ยินว่าอีกฝ่ายขอให้ไปส่งหลิงอวี๋ที่ภูเขาหมางหลิ่ง เขาก็ตอบตกลงโดยมิลังเล“นี่มิใช่เรื่องใหญ่อะไร วางใจได้ พวกเราจะส่งสิงอวี๋ไปที่นั่นอย่างปลอดภัย และพานางกลับมาอย่างปลอดภัย!”เย่หรงเห็นฉินซานเป็นคนมีน้ำใจเช่นนี้ก็นัดหมายเวลากับฉินซาน จากนั้นเขาก็กลับไปบอกหลิงอวี๋เดิมทีหลิงอวี๋ก็คิดว่า เซียวหลินเทียนและคณะย่อมมิปฏิเสธที่จะไปภูเขาหมางหลิ่งกับตน เมื่อเห็นเย่หรงจัดการเรียบร้อยแล้วจึงได้ตัดสินใจออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นทันทีเย่หรงกลับถึงบ้านก็ไปเยี่ยมท่านผู้เฒ่าเย่ท่านผู้เฒ่าเย่อาการดีขึ้นมากแล้ว เย่ซงเฉิงบังคับให้ชายชรานอนพักอยู่บนเตียง เมื่อเห็นเย่หรงก็ตำหนิว่า“เจ้าได้รับบาดเจ็บ ไยมิพักผ่อนอยู่บ้านให้ดี ออกไปวุ่นวายอะไรอีก?”เย่หรงยิ้ม “เสี่ยวชีหาวิธีช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ ข้าจึงติดตามเสี่ยวชีไปรักษาฮูหยินเฉิงด้วยขอรับ!”ท่านผู้เฒ่าเย่ประหลาดใจ “เสี่ยวชีตรวจพบแล้วหรือว่าฮูหยินเฉิงถูกพิษอะไร? นางเก่งกาจถึงเพียงนี้เชียว!”“ขอรับ เสี่ยวชีมีพรสวรรค์จริง ๆ หากให้เวลาสักหน่อย นางจะต้องประสบความสำเร็จอย่างที
หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างยินดี แท้จริงแล้วนางก็มิได้อยู่ตัวคนเดียว มีพี่ชายอย่างสิงจั๋ว มิว่าจะเผชิญกับความยากลำบากใด ๆ นางก็มิกลัว“พี่ใหญ่ ประเดี๋ยวข้าจะไปที่บ้านตระกูลเย่สักหน่อย! ต้ายาจะอยู่เป็นเพื่อนท่าน ท่านรีบพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรง พวกเราจะได้ออกเดินทางกัน!”หลิงอวี๋หาเถาวัลย์เชียนจีเจอแล้ว จะต้องรีบสกัดออกมาแล้วนำไปให้แม่ทัพเฉิงนางกลับไปที่ห้องนอนของตนแล้วรีบเข้าไปในมิติเพื่อสกัดเถาวัลย์เชียนจี เมื่อทำเสร็จแล้วหลิงอวี๋ก็รีบไปที่บ้านตระกูลเย่ยามเฝ้าประตูเห็นหลิงอวี๋ก็กล่าวว่า “คุณหนูสิง คุณชายหรงออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว เขาบอกว่าหากท่านมา ให้ท่านเข้าไปรอเขาที่ห้องปรุงโอสถของอาจารย์ท่าน แล้วเขาจะรีบกลับมาก่อนเวลาอาหารกลางวันขอรับ!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว เย่หรงได้รับบาดเจ็บแต่กลับมิยอมอยู่บ้านพักผ่อนให้ดี วิ่งโร่ไปที่ใดอีกเล่า?หลิงอวี๋ไม่มีทางเลือก จำต้องไปรอที่ห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝานก่อนเย่ซื่อฝานกำลังปรุงโอสถอยู่ เมื่อเห็นหลิงอวี๋ก็กล่าวทักทาย “เสี่ยวชี ขอบอกข่าวดีให้เจ้าทราบ อัตราความสำเร็จในการปรุงโอสถสมานแผลของข้าก้าวหน้าถึงแปดส่วนแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคำชี้แนะจากเจ้า!”
หลิงอวี๋ถูกคำพูดของเถาจื่อทำให้หัวเราะออกมาได้ แต่นางก็นึกถึงความคลุมเครือระหว่างเก๋อเฟิ่งฉิงและเซียวหลินเทียน และอดมิได้ที่จะกล่าวออกมา“ฝ่าบาทของพวกเจ้าก็มิเห็นจะลำบากอะไร คุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมิใช่หรือที่หลงรักเขาหัวปักหัวปำ?”หานเหมยเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างมีความหมาย พลางยิ้มอย่างซุกซน “ฮองเฮา ท่านกำลังหึงหวงหรือเพคะ?”ใบหน้าของหลิงอวี๋แดงก่ำในทันที เก็บซ่อนรอยยิ้มแล้วทำหน้าบึ้งตึงกล่าวว่า “ใครหึงเขากัน ข้าพูดความจริงต่างหาก!”เถาจื่อและหานเหมยมองหน้ากัน จากนั้นทั้งสองก็ขยิบตาให้กันเถาจื่อรู้ว่าเพราะหลิงอวี๋ความจำเสื่อม ซ้ำยังถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยุยง ยามนี้จึงยังมีปมในใจติดค้างต่อเซียวหลินเทียน และมิอยากให้หลิงอวี๋เข้าใจเซียวหลินเทียนผิดอีก จึงกล่าวว่า“ฮองเฮา เก๋อเฟิ่งฉิงชอบฝ่าบาทก็จริง แต่บ่าวกล้ารับประกันกับท่านได้เลยว่าฝ่าบาทมิได้มีพระทัยเป็นอื่นต่อนาง!”เถาจื่อเล่าให้หลิงอวี๋ฟังเรื่องที่พวกเขาขึ้นไปบนภูเขาหิมะเพื่อตามหาหลิงอวี๋ แต่กลับถูกหัวหน้าตระกูลเฉียววางแผน เซียวหลินเทียนตกลงไปในหุบเหวน้ำแข็ง และเก๋อเฟิ่งฉิงก็เสี่ยงชีวิตช่วยเซียวหลินเทียนไว้“เพื่อรักษาชื่อเสียงของเก่อ
นานถึงเพียงนี้แล้วยังไม่มีข่าวคราวเลย ทว่าจู่ ๆ ก็มีข่าวความคืบหน้า มีเพียงความเป็นไปได้เดียวคืออาการของหวงฝู่หมิงจูกำเริบตระกูลจงเจิ้งลักพาตัวหวงฝู่หมิงจูไป จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการข่มขู่ให้หวงฝู่หลินส่งมอบวังเทพ หากหวงฝู่หมิงจูตายไปก็จะทำให้หวงฝู่หลินยิ่งโกรธแค้นเท่านั้น“หวงฝู่หมิงจูอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”หลิงอวี๋ถาม“ยังมิรู้แน่ชัด เฮยอิงส่งข่าวมาเก้าวัน บอกเพียงให้พวกเรารีบกลับไปที่คฤหาสน์อู่ หวงฝู่หลินขอความช่วยเหลือ ต้องรอให้กลับไปถึงจะรู้สถานการณ์ที่แน่ชัด!”เซียวหลินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เมื่อกลับไปถึง เจ้ากับหานเหมยกลับจวนไปรอก่อน พวกเราจะไปช่วยคน!”“ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย! สภาพร่างกายของหวงฝู่หมิงจูนั้นพิเศษอยู่บ้าง หากข้าอยู่ด้วยอาจจะช่วยชีวิตนางได้ทันการณ์!”หลิงอวี๋กล่าวอย่างรีบร้อน“มิได้!”เซียวหลินเทียนส่ายหน้า “เราสองคนจะเสี่ยงอันตรายพร้อมกันมิได้ เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยเสือซ่อนมังกร ตระกูลจงเจิ้งก็ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ หากเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้น เจ้ากับหานเหมยอยู่ข้างนอกก็ยังสามารถช่วยพวกเราได้!”“หากพวกเราทั้งหมดตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรู ก็จะไม่
หลิงอวี๋เดินวนรอบ ๆ สองรอบก็ยังมิเห็นเบาะแสใด ๆ นางก็นึกถึงแหวนพระสุเมรุของตนขึ้นมา หรือว่าหัวมังกรแต่ละหัวจะเป็นมิติย่อยที่สามารถเก็บสิ่งของเหล่านี้ได้มิจำกัด?“น้ำปูนใส!”หลิงอวี๋คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หัวมังกรที่เพิ่งพ่นน้ำออกมาก็พ่นน้ำสีขาวออกมาจำนวนหนึ่ง เป็นน้ำปูนใสจริง ๆ“ใส่สมุนไพร!”หลิงอวี๋ร้องเรียกผนังด้านในของหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดออกเผยให้เห็นช่องว่าง แต่ไม่มีสมุนไพรอยู่ในนั้นหลิงอวี๋หัวเราะเยาะตนเอง นางคิดอะไรอยู่กัน คิดว่าข้างในหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์สามารถผลิตสมุนไพรเองได้อย่างนั้นหรือไร?นางสำรวจการใช้งานของหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย ในที่สุดก็พบว่าตนมิสามารถสำรวจได้ทั้งหมด จึงลองหลอมโอสถเสริมพลังวิญญาณหนึ่งหม้อเตาหลอมโอสถทั่วไปจะใช้เวลาเจ็ดถึงแปดชั่วยามในการหลอมโอสถหนึ่งหม้อ แต่หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยามก็หลอมเสร็จแล้วหลิงอวี๋นำโอสถออกมาดูแล้วก็ต้องตกตะลึงกับคุณภาพและจำนวนที่ได้ได้โอสถถึงแปดส่วน และทั้งหมดเป็นโอสถระดับยอดเยี่ยมนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ใช้หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ หากหลอมอ
เซียวหลินเทียนมิได้รู้สึกเสียดายเลย อย่าว่าแต่หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์เลย ของล้ำค่าที่สุดที่ตนมี เขาก็อยากจะมอบให้หลิงอวี๋ทั้งหมดเมื่อเห็นหลิงอวี๋ยังคงมิรับ เซียวหลินเทียนก็ยัดใส่มือของนางแล้วชักกริชออกมา เขาจับมือของหลิงอวี๋ไว้แล้วกรีดลงบนนิ้วชี้ของนางเลือดหยดลงบนแหวน แหวนก็เปล่งแสงสีม่วงอ่อน ๆ“หยดลงไปอีก หลังจากนี้หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะเป็นของเจ้า!”เซียวหลินเทียนจับมือของหลิงอวี๋ไว้แล้วนำเลือดไปทาบนแหวนเซียวหลินเทียนกล่าว “หม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ เจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนก็ได้! ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่ลูบแหวน มินานเสือปีกกาฬก็จะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้า!”เซียวหลินเทียนกังวลว่า หากตนมิได้อยู่เคียงข้างหลิงอวี๋แล้วนางจะเจออันตราย อย่างน้อยมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเรียกเสือปีกกาฬได้ เขาก็อยากจะมอบให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋มองคิ้วและดวงตาของเซียวหลินเทียนที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม หากยามนี้เซียวหลินเทียนยังหมายปองหยกหล้าสุขาวดีของตน นั่นก็หมายความว่าหยกหล้าสุขาวดีจะต้องล้ำค่ากว่าหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยเท่ามิเช่นนั้น นางก็คิดมิออกจริง ๆ ว่า เหตุใดเซียว
ในเรื่องการจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนมีเป้าหมายเดียวกันหลิงอวี๋มิได้ปิดบังเซียวหลินเทียน นางกล่าวเสียงเคร่งขรึม “การทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผยธาตุแท้ออกมาเป็นเรื่องง่าย รอให้กลับไปก่อน ข้าจะวางยาพิษชนิดใหม่ให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย! หากชี้นำอย่างเหมาะสม ฮูหยินเฉียวจะต้องเริ่มสงสัยในตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแน่!”ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกาย พลันเอ่ยขึ้นว่า “หากต้องการให้ข้าทำสิ่งใดเจ้าก็บอกมาได้เลย เพื่อแก้แค้นให้ลูกของเรา ก็ขอให้ข้าได้ออกแรงบ้าง!”“เมื่อต้องการให้ท่านร่วมมือ ข้าจะให้หานเหมยแจ้งให้ท่านทราบ!”หลิงอวี๋นึกถึงเก๋อฮุ่ยหนิง นางถึงกับลงมือสังหารตนเพียงเพราะต้องการแต่งงานกับเฉียวไป๋ ครั้งนี้ก็จะจัดการกับเก๋อฮุ่ยหนิงไปด้วย ตนจะได้ไปฉินตะวันตกอย่างหมดห่วง“อาอวี๋ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เกือบลืมบอกเจ้าเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนนึกถึงป้าวซวนขึ้นมาได้ทันที จึงกล่าวว่า “ครั้งก่อนที่ภูเขาหมางหลิ่ง ตอนที่ข้าจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ นางเคยบอกข้าว่า ป้าวซวนและเจ้าสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง นางหลอกป้าวซวนให้มาเมืองหลวงแดนเทพเพื่อตามหาเจ้า!”“ช่วงนี้ข้าคอยจับตาดูเรื่องของป้าวซวนไว้
หลิงอวี๋ถูกเซียวหลินเทียนกอดไว้แน่น นางพยายามดิ้นรนแต่ก็มิอาจหลุดพ้นเขากดร่างของนางแนบแน่นบนแผงอก ปลายจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา อ้อมกอดอันอบอุ่นนี้ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยหยดน้ำตาพลันไหลรินออกมาโดยมิทราบสาเหตุ หลิงอวี๋นึกถึงความรู้สึกสิ้นหวังเมื่อครั้งถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะจนมิอาจขัดขืนได้ น้ำตาจึงรินไหลอาบแก้มเซียวหลินเทียนบอกว่านั่นคือลูกของเขากับนาง?เมื่อครู่สีหน้าเศร้าโศกและเจ็บปวดของเซียวหลินเทียน หลิงอวี๋มองเห็นได้อย่างชัดเจน นางเชื่อว่าความเศร้าของเซียวหลินเทียนในยามนี้เป็นของจริง มิได้เสแสร้งหลอกลวงตน!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอาจจะโกหกได้ เซียวหลินเทียนก็อาจจะแสดงละครได้ แต่หลิงอวี๋มิเชื่อว่าความเศร้าของเซียวหลินเทียนเป็นการแสดง!“อาอวี๋ ข้าจะแก้แค้นให้ลูกของเรา!”“เมื่อกลับไป ข้าจะต้องหาวิธีจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้ได้ หากเจ้าอยากจะสับนางเป็นหมื่นชิ้น มิต้องให้เจ้าลงมือ ข้าจะทำเอง!”เซียวหลินเทียนแค่นเสียงลอดไรฟัน“ความแค้นของข้า ข้าจะแก้แค้นเอง!”หลิงอวี๋ผลักเซียวหลินเทียนออกอย่างแรง นางหันหลังไปเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ตอนอยู่ที่สำนักศึกษาชิงหลง ข้าได้วางยาพิษนางไปแล้
หลิงอวี๋ยังมิเชื่อว่าเสือปีกกาฬจะฟังคำพูดของตน จึงลองลูบหัวใหญ่ ๆ ของมันแล้วอธิบายรายละเอียดของสมุนไพรที่ต้องการเสือปีกกาฬร้องสองครั้งเป็นสัญญาณว่าเข้าใจ จากนั้นก็กระโจนลงจากหน้าผาไปเพียงมิกี่นาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาอีกครั้ง ในปากคาบเถาวัลย์มาวางไว้ตรงหน้าหลิงอวี๋มากมาย ทั้งหมดนั้นมีเถาวัลย์เชียนจีที่หลิงอวี๋ต้องการอยู่ด้วยยังมิทันที่หลิงอวี๋จะชมเชยมัน เสือปีกกาฬก็กระโดดลงไปอีกครั้งครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าเดิม เมื่อกลับขึ้นมาในปากคาบสมุนไพรมาวางกองไว้ตรงหน้าหลิงอวี๋มากมายอีกครั้งหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ในจำนวนนี้มีสมุนไพรล้ำค่าอยู่มากมาย ทั้งยังมีโสมเก้าคดอีกสองต้นครั้งก่อนโสมเก้าคดของหลิงอวี๋ยังขายมิออก ครั้งนี้ได้มาอีกสองต้น นางจึงกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในทันทีการเลี้ยงเสือปีกกาฬตัวนี้ เหมือนกับการเลี้ยงต้นไม้เงินต้นไม้ทอง!“ขอบคุณ ขอบคุณนะ!”หลิงอวี๋ลูบหัวใหญ่ ๆ ของเสือปีกกาฬอย่างมีความสุข “ครั้งหน้าข้าจะปรุงยาที่ระดับสูงกว่านี้ให้เจ้า ทำให้เจ้าเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถบินได้อย่างแท้จริง!”เสือปีกกาฬดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของหลิงอวี๋ มันจึงใช้ศีรษะใหญ่มาคลอเคลี
พี่น้องตระกูลเย่เปิดอกคุยกัน การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาทำให้ท่านผู้เฒ่าเย่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างไรเสียก็มิอาจหลีกหนีจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ เช่นนั้นเชื่อฟังพี่ใหญ่เถิด สนับสนุนหลิงอวี๋อย่างเต็มที่!หลิงอวี๋มิรู้เรื่องนี้เลย วันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางไปยังภูเขาหมางหลิ่งพร้อมกับฉินซานและคนอื่น ๆเซียวหลินเทียนได้โอกาสที่จะร่วมเดินทางไปกับหลิงอวี๋ จึงมาแต่เช้าตรู่ครั้งนี้ไม่มีจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและคนอื่น ๆ มาขัดขวาง พวกเขาจึงเดินทางมาถึงหน้าผานั้นในวันเดียวกันหลิงอวี๋กำลังจะให้เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ช่วยตัดเถาวัลย์มาถักเป็นบันไดเชือกปีนลงไป เซียวหลินเทียนก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “จะทำเรื่องยุ่งยากไปไย ดูข้า!”เซียวหลินเทียนลูบหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์ มิถึงสิบวินาที เสือปีกกาฬก็กระโจนขึ้นมาจากใต้หน้าผาหลิงอวี๋มองดูอย่างตกตะลึง ผ่านไปเพียงมินานเสือปีกกาฬก็เติบโตขึ้นมาก ปีกทั้งสองข้างแข็งแรง เมื่อกางออกก็ยาวถึงสองเมตรกว่า“นี่เป็นเพราะโอสถสร้างรากฐานปราณที่เจ้าให้!”เซียวหลินเทียนยื่นขวดโอสถเสริมพลังวิญญาณให้หลิงอวี๋ “เจ้าป้อนมันเองเถอะ ต้องการสมุนไพรอะไรก็บอกมัน ให้มันไปเก็บให้!”นางเคยให