แม่ทัพเฉิงฟังแล้วก็เผลอยกหมอนขึ้นแนบจมูกโดยมิรู้ตัว เมื่อได้ดม หมอนก็เป็นอย่างที่หลิงอวี๋พูดจริง ๆ ไม่มีกลิ่นใด ๆ ทั้งยังสะอาดหมดจด ไม่มีรอยคราบเหงื่อแม้แต่น้อย"หากหมอนใบนี้มิใช่หมอนที่ฮูหยินเฉิงเคยนอน ก็ต้องมีคนเปลี่ยนหมอนไปแล้ว!"หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา "หมอนอาจเปลี่ยนได้ แต่ฟูกรองนอนเปลี่ยนมิได้!"ว่าแล้วหลิงอวี๋ก็ปีนขึ้นเตียงพลิกผ้าปูที่นอนด้านบนขึ้น เผยให้เห็นฟูกรองนอนที่อยู่ด้านล่างหลิงอวี๋ชักกริชออกจากเอวตัดฟูกรองนอนออกมาหนึ่งชิ้นนางลงจากเตียง ยื่นให้แม่ทัพเฉิง ท่านแม่ทัพเห็นว่าฟูกรองนอนซึ่งเดิมเป็นสีขาว บัดนี้กลายเป็นสีเหลือง ทั้งยังมีคราบเหงื่อติดอยู่บ้าง"ท่านแม่ทัพเฉิง เชิญทางนี้!"หลิงอวี๋เดินไปที่ข้างหน้าต่างแล้วหยิบขวดแก้วหลายใบออกมาจากพื้นที่มิติ หนึ่งในนั้นมีน้ำยาอยู่หลิงอวี๋นำฟูกที่ตัดออกมาแช่ลงในน้ำยา แม่ทัพเฉิงก็เห็นว่าน้ำยาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง"นี่หมายความว่าอย่างไร?"แม่ทัพเฉิงถามด้วยความประหลาดใจ"น้ำยานี้ข้าปรุงขึ้นเอง สามารถแสดงให้เห็นพิษที่อยู่ในเครื่องนอนได้ ฮูหยินเฉิงถูกพิษจากตะกั่ว ตะกั่วจะทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ และเกิดความเสียหายต่ออว
"คุณหนูสิง เจ้าว่ามาเถอะ!"แม่ทัพเฉิงสงบสติอารมณ์ลง เฟิ่งอี๋เหนียงนั้นน่าชังก็จริง แต่ภายใต้การอบรมสั่งสอนของนาง บุตรชายที่เกิดจากอนุภรรยาทั้งสองก็ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี มีนิสัยซื่อตรง เคารพนบนอบต่อตน ทั้งยังรักใคร่ปรองดองกับเฉิงซวี่และเฉิงเหล่ยเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันหากตนใจร้อนสังหารเฟิ่งอี๋เหนียงโดยไม่มีหลักฐาน บุตรชายทั้งสองก็จะตีตัวออกห่างจากตนตัวเขาอายุมากแล้วคงมิอาจมีบุตรเพิ่มได้อีก"ท่านต้องทำเช่นนี้..."หลิงอวี๋เข้าไปกระซิบแผนการที่ข้างหูแม่ทัพเฉิง แม่ทัพฟังไปก็พลางพยักหน้าไปเมื่อหลิงอวี๋พูดจบ แม่ทัพเฉิงก็เดินออกไป เรียกผู้คุ้มกันมาคนหนึ่ง มอบขวดที่หลิงอวี๋ให้แล้วให้อีกฝ่ายนำออกไปเฟิ่งอี๋เหนียงหอบรายการอาหารหลายเล่มเข้ามา เห็นผู้คุ้มกันถือขวดหน้าตาประหลาดนั้นเดินออกไปก็มองตามด้วยความสงสัย"คุณหนูสิง รายการอาหารที่เจ้าต้องการมาแล้ว!"เฟิ่งอี๋เหนียงนำรายการอาหารเข้ามาให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋เปิดดูเพียงผ่าน ๆเฟิ่งอี๋เหนียงมองท่านแม่ทัพ เห็นว่าท่านแม่ทัพนั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้ามิสู้ดีนัก"ท่านพี่ มีกระไรผิดแปลกไปหรือ?"เฟิ่งอี๋เหนียงถามอย่างหยั่งเชิงด้วยใจ
แม่ทัพเฉิงเห็นท่าทางตื่นตระหนกของเฟิ่งอี๋เหนียงก็ลุกขึ้นเดินออกไป หลิงอวี๋ก็ตามออกไปเช่นกันแผนการได้ดำเนินไปตามขั้นตอนแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการแสดงของเฟิ่งอี๋เหนียง“ท่านพ่อ นี่มันเรื่องอันใดกัน?”เฉิงเหล่ยและเย่หรงรออยู่ด้านนอก เมื่อเห็นเฟิ่งอี๋เหนียงวิ่งออกไปหน้าตาตื่นตระหนกก็ถามด้วยความสงสัย“ไปดูประเดี๋ยวก็รู้เอง!”แม่ทัพเฉิงตอบด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วเดินตามไปเมื่อกลุ่มคนเดินมาถึงห้องของเฉิงหมิงบุตรชายคนรอง ยังมิทันเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงร้องเรียกอย่างร้อนรนของเฟิ่งอี๋เหนียง “เฉิงหมิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อย่าทำให้แม่ตกใจสิ!”“อ้วก!”สิ่งที่ตอบกลับเฟิ่งอี๋เหนียงคือเสียงอาเจียนแม่ทัพเฉิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เห็นเฉิงหมิงอาเจียนออกมาเป็นเลือดเต็มอก สีหน้าเริ่มซีดเขียว“ท่านพี่ เหตุใดท่านจึงทำกับเฉิงหมิงเช่นนี้?”เฟิ่งอี๋เหนียงเห็นแม่ทัพเฉิงเข้ามา ก็ร้องเรียกอย่างร้อนรน “ข้ากล้าสาบานต่อฟ้าดิน เฉิงหมิงมิเคยคิดร้ายต่อฮูหยิน เหตุใดท่านจึงให้เขากินยาพิษ?”แม่ทัพเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้ามิปรักปรำผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว!”“วันนั้นหลังกลับจากสำนักศึกษาชิงหลง ข้าบอกว่าฮ
“ไปตรวจค้น!”แม่ทัพเฉิงออกคำสั่ง ผู้คุ้มกันหลายคนที่ตามมาก็วิ่งไปค้นห้องของเฟิ่งอี๋เหนียงเฟิ่งอี๋เหนียงร้องเรียกอย่างน่าเวทนา “ท่านพี่ รีบให้ยาถอนพิษแก่เฉิงหมิงเถิด! เป็นความผิดของข้าเอง เฉิงหมิงหาได้รู้เรื่องอันใดไม่ ข้าเอาชีวิตเป็นประกันก็ย่อมได้ เรื่องนี้มิเกี่ยวข้องกับเขา!”“เฉิงซวี่ถูกพิษก็เป็นฝีมือเจ้าด้วยใช่หรือไม่?”แม่ทัพเฉิงถามเสียงดัง“เป็นข้าเอง! ข้ายอมรับทั้งหมด!”เฟิ่งอี๋เหนียงร้องไห้ “ข้าโลภมาก คิดจะแสวงหาอนาคตที่ดีให้สองพี่น้อง ข้า... ข้าจึงได้กระทำเรื่องเช่นนี้ลงไป!”“ท่านแม่ ท่านวางยาพิษท่านแม่ใหญ่และพี่ใหญ่จริง ๆ หรือ?”เฉิงหมิงถามอย่างมิอยากเชื่อเฟิ่งอี๋เหนียงเผชิญหน้ากับสายตาตำหนิของบุตรชายก็พูดมิออก ได้แต่ยกมือปิดหน้าร้องไห้เฉิงหมิงมองท่านแม่ทัพทีมองเฟิ่งอี๋เหนียงที ก่อนจะคุกเข่าลงอย่างเจ็บปวด“ท่านพ่อ เป็นข้าเองที่วางยา ท่านแม่เพียงแต่อยากรับผิดแทนข้า ข้าสมควรตาย หากท่านจะปลิดชีพก็ปลิดชีพข้าเถิด!”เฉิงหมิงก้มหน้าลง สีหน้าสิ้นหวังอย่างยิ่ง“เป็นข้าต่างหาก ท่านพี่ ท่านอย่าฟังเฉิงหมิงพูดเหลวไหล ข้าเป็นคนทำ ขอร้องท่านรีบให้ยาถอนพิษแก่เฉิงหมิงเถิด!”เ
เย่หรงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ในใจก็รู้สึกสับสนฮูหยินของตระกูลเฉิงจิตใจดีงามถึงเพียงนี้ แต่กลับถูกอนุภรรยาวางยาส่วนมารดาของตนเป็นอนุภรรยา ตนกลับถูกฮูหยินใหญ่วางยา เรื่องนี้หากจะกล่าวไปก็เป็นเพราะความริษยาและความโลภของตนที่ชักนำให้ก้าวผิดไปทีละก้าวมิใช่หรือ?“ท่านพ่อ ข้ามันเดรัจฉาน ข้าเพียงหลงผิดไปชั่วครู่ ข้ายินดีชดใช้ชีวิตให้ท่านแม่!”เฉิงหมิงกล่าวอย่างแน่วแน่“เฉิงหมิง เจ้าคิดว่าการทำเช่นนี้คือความกตัญญูหรือ?”หลิงอวี๋ส่ายหน้า “เจ้าคิดว่า หากเจ้ารับผิดแทนมารดาของเจ้าแล้ว นางจะยังได้อยู่อย่างสุขกายสบายใจไปตลอดชีวิตหรือ?”“ที่ท่านแม่ทัพเฉิงทำเช่นนี้ก็เพราะมิต้องการปรักปรำคนดี! หากเจ้าต้องการไถ่โทษให้มารดาของเจ้าจริง ต่อไปก็จงดูแลปรนนิบัติฮูหยินเฉิงให้ดี ดูแลน้องชายและน้องสาวให้ดี!”“พิษของฮูหยินเฉิง ข้าสามารถช่วยถอนพิษให้นางได้ แต่ถึงแม้จะถอนพิษแล้ว ร่างกายของนางก็มิอาจกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม! เจ้าเร่งรีบอยากตาย เป็นเพราะต้องการหลีกหนีความรับผิดชอบของตนหรือไร?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างจริงใจ “ตายไปอาจจะจบสิ้นทุกสิ่ง แต่การมีชีวิตอยู่จึงจะสามารถชดเชยความผิดที่มารดาของเจ้าก่อไว้ได้ หากเจ้าต้
หลิงอวี๋มาถึงห้องของฮูหยินเฉิง ตรวจชีพจรให้นาง เขียนใบเทียบยาให้ตามอาการ ทั้งยังมอบยาถอนพิษที่ตนปรุงขึ้นหนึ่งขวดให้แก่เฉิงเหล่ย“ยานี้ให้กินวันละหนึ่งเม็ด ส่วนยาตามใบเทียบให้ไปจัดมาต้มวันละหนึ่งเทียบ กินวันละสามครั้ง!”หลิงอวี๋กำชับเฉิงเหล่ยเฉิงเหล่ยพยักหน้า จากนั้นก็ให้บ่าวรับใช้ไปจัดยาตามสั่งทันทีอาการพิษของเฉิงซวี่มิรุนแรงเท่าฮูหยินเฉิง หลิงอวี๋เพียงให้เขากินยาถอนพิษ และดื่มน้ำตามมาก ๆเฉิงซวี่ยังมิรู้ว่าตนถูกพิษ ยังคิดว่าช่วงนี้เหนื่อยเกินไป จึงมีอาการวิงเวียนศีรษะและนอนมิหลับเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากเฉิงเหล่ย เฉิงซวี่ก็หน้าเปลี่ยนสี อยากจะพุ่งไปสังหารเฟิ่งอี๋เหนียงเพื่อแก้แค้นให้ตนและมารดาเรื่องการปลอบโยนเฉิงซวี่ หลิงอวี๋มิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจัดการกันเอง นางกำชับข้อควรระวังกับเฉิงซวี่ จากนั้นก็ไปรอแม่ทัพเฉิงที่ห้องตำราแม่ทัพเฉิงเสียเวลาอยู่นานกว่าจะมา สีหน้าดูมิสู้ดีนักหลิงอวี๋เล่าขั้นตอนการรักษาฮูหยินเฉิงให้ฟัง ท่านแม่ทัพพยักหน้า “คุณหนูสิงรักษาเช่นนี้ ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง จัดการตามที่เจ้าว่าเถิด!”“คุณหนูสิง เรื่องในวันนี้หวังว่าเจ้า
แม่ทัพเฉิงเดินไปที่โต๊ะหนังสือด้วยสีหน้าตึงเครียด และหยิบตั๋วเงินสองล้านตำลึงออกมาจากลิ้นชัก"เรื่องนี้ข้าจะมิพูดกับใคร พวกเจ้ารับตั๋วเงินไปเถอะ!"เย่หรงมองหลิงอวี๋อย่างผิดหวังเดิมทีคิดว่า หากช่วยชีวิตฮูหยินเฉิงได้ท่านแม่ทัพเฉิงจะยอมยื่นมือช่วยเหลือ ไหนเลยจะคิดว่าท่านแม่ทัพเฉิงกลับปฏิเสธหลิงอวี๋เองก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดดูอีกที หากจะต้องทำให้ท่านแม่ทัพเฉิงและครอบครัวต้องเดือดร้อน นางก็รู้สึกมิสบายใจเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?ในสมองของหลิงอวี๋พลันเกิดประกายความคิด ถามอย่างร้อนรน "ท่านแม่ทัพเฉิง ผู้ที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำ หากตายไปจะจัดการกับศพอย่างไร?"ท่านแม่ทัพเฉิงมองหลิงอวี๋อย่างมิเข้าใจ แล้วเอ่ยว่า "หากมีญาติก็สามารถมารับศพกลับไปได้ หากไม่มีใครมารับศพก็จะนำไปฝังแทน!"หลิงอวี๋ตื่นเต้นขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพเฉิง ท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้หรือไม่?"มิเพียงแต่ท่านแม่ทัพเฉิง แม้แต่เย่หรงก็ยังตามความคิดของหลิงอวี๋มิทัน หลิงอวี๋คิดจะทำอะไรกันแน่?หลิงอวี๋มองแม่ทัพเฉิงแล้วเอ่ยเสียงเคร่งขรึม "ข้าเคยอ่านเจอในตำราว่า มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หากกินเข้าไปแล้วคนผู้นั้นจะอยู่ในสภาพเหมื
“ใครจะไปตรวจสอบ?”หลิงอวี๋อยากรู้ให้แน่ชัด จะได้ช่วยเลี่ยวหงเสียวางแผนหลบหนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ“เจ้าแห่งทะเล มหาเทพหลง!”แม่ทัพเฉิงตกลงจะช่วยแล้วก็หวังว่าหลิงอวี๋จะทำได้สมบูรณ์แบบ และมิทำให้ตนต้องเดือดร้อน“นักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำล้วนเป็นพวกที่มีความผิดร้ายแรง ยกเว้นเลี่ยวหงเสีย! นางถูกจับเข้าคุกน้ำไปเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ก็มิเคยมีการไต่สวนนาง!”“ช่วงปีแรก เจ้าแห่งทะเลจะไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียปีละครั้ง มิพาองครักษ์ไปด้วย เข้าไปแล้วก็อยู่ที่นั่นถึงสองชั่วยาม!”“เป็นเช่นนี้อยู่ห้าปี หลังจากนั้นเจ้าแห่งทะเลก็ไปเยี่ยมเลี่ยวหงเสียสองปีครั้ง!”ท่านแม่ทัพเฉิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “ข้าสงสัยว่า เลี่ยวหงเสียมีความลับ เจ้าแห่งทะเลก็ไปเพื่อขุดคุ้ยความลับนี้! แต่เห็นได้ชัดว่าเขามิได้คำตอบสมปรารถนา!”หลิงอวี๋และเย่หรงมองหน้ากัน ทั้งสองต่างมีสีหน้าสงสัยเลี่ยวหงเสียไปรู้ความลับอะไรมา?แม่ทัพเฉิงเห็นสีหน้าสงสัยของทั้งสองคนก็ชี้แนะว่า “เย่หรง ลองคิดถึงชาติกำเนิดของแม่เจ้าสิ!”“ท่านตาเจ้าเคยเป็นแม่ทัพใหญ่ข้างกายมหาเทพหลง มหาเทพหลงทรงไว้วางพระทัยเขามากกว่ามหาปราชญ์คนปัจจุบันเสียอีก! แต่เมื่อสามสิบ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต