แชร์

บทที่ 1884

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋ชื่นชมในความเด็ดขาดของฮูหยินเว่ยมาก คนที่มีความเด็ดขาดเช่นนี้ จะคิดสั้นปลิดชีพตนเพียงเพราะตาบอดได้อย่างไร หรือว่าลูกหาบผู้นั้นตีความหมายผิด แล้วจึงเข้าใจฮูหยินเว่ยผิดไป?

เรือเทียบท่าได้ครึ่งวันก็ต้องออกเดินทาง หลิงอวี๋จึงรีบเขียนเครื่องยาสมุนไพรที่จำเป็นแล้วให้เฉี่ยวอวี้ส่งคนไปซื้อมา

เฉี่ยวอวี้จัดให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้อยู่ที่ท้ายเรือตามคำสั่งของฮูหยินเว่ย เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่ามีห้องเหลืออยู่สองห้อง นางจึงรีบบอกว่าตนกลัวว่าเวลานอนแล้วจะเสียงดัง จึงขอแยกห้องนอนกัน

เฉี่ยวอวี้คิดว่าห้องนั้นว่างอยู่แล้ว นางจึงยอม

กระทั่งเฉี่ยวอวี้ออกไป ผู้รอบรู้ก็ขยับไปตรงหน้าหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “น้องอวี๋ เจ้าแน่ใจจริง ๆ หรือว่าสามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้ เจ้าอย่าได้โกหกเชียว มิเช่นนั้นพวกเราได้ถูกโยนลงแม่น้ำไปเป็นอาหารปลากลางทางแน่!”

“จริงสิ!”

หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจเขา “ท่านวางใจเถิด ข้าไม่มีวรยุทธ์ แต่ข้ามีทักษะการแพทย์!”

“อ้าว เหตุใดเจ้ามิรีบบอกเล่า หากเจ้าบอกข้าเร็วกว่านี้ ข้าคงพาเจ้าไปรักษาดวงตาของผู้ดูแลหลัวแล้ว หากเจ้ารักษาเขาได้ พวกเราต้องได้รับรางวัลก้อนใหญ่เป็นแน่!”

ผู้ดูแลหล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1885

    เว่ยเผิงเป็นคนฉลาดมาก เขาวางหมากไปพลางคุยกับหลิงอวี๋ไปด้วยคงจะไม่มีใครคุยเป็นเพื่อนเขาจริง ๆ จัง ๆ มานานแล้ว ภายใต้ท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้น เว่ยเผิงเผยให้เห็นความไร้เดียงสาของเด็กออกมาด้วย แล้วเขาก็เผลอเล่าเรื่องครอบครัวของตนให้หลิงอวี๋ฟังโดยมิตั้งใจหลิงอวี๋จึงได้รู้ว่า เมื่อตอนที่เว่ยเผิงอายุเพียงสองขวบ แม่ทัพเว่ยก็ทิ้งพวกเขาแม่ลูกไปรับการเลื่อนตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพแล้วหลังจากที่แม่ทัพเว่ยไปแล้ว ก็มิรู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่ข้าหลวงในท้องถิ่นได้ขับไล่ฮูหยินเว่ยและลูกชายของนางออกจากจวนแม่ทัพ โดยที่อ้างว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ฮูหยินเว่ยจึงใช้สินสอดซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ และหาเงินเลี้ยงดูเว่ยเผิงมาด้วยตนเองหลายปีมานี้ แม่ทัพเว่ยทำราวกับว่าฮูหยินเว่ยตายไปแล้ว เขามิเคยส่งจดหมายกลับมา และมิได้ให้ค่าสนับสนุนเลี้ยงดูด้วยบิดาของฮูหยินเว่ยตายไปนานแล้ว มารดาของนางก็ตายไปเมื่อสองปีก่อน และพวกเขาก็ทิ้งเสิ่นผิงผิงน้องสาวที่อายุน้อยกว่านางมิกี่ปีไว้ให้ฮูหยินเว่ยดูแลหลายปีมานี้เสิ่นผิงผิงอาศัยอยู่กับฮูหยินเว่ยและลูกชาย แม้ว่านางจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กสาวผู้นี้ก็อาศั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1886

    “ฮูหยินเว่ย ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าการตั้งใจทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรมี แต่ข้าก็ยิ่งรู้เช่นกันว่าการระวังผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรขาด!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเองก็ได้ยินเรื่องของฮูหยินเว่ยกับแม่ทัพเว่ยมาบ้าง ข้ากังวลว่าเว่ยเผิงและท่านจะใจดีมากเกินไป จนมิรู้ว่าจิตใจคนนั้นอันตราย หากไปที่จวนแม่ทัพแล้วพวกท่านอาจจะถูกวางแผนทำร้าย ข้าจึงสอนให้เว่ยเผิงรู้เรื่องยาพิษไว้ล่วงหน้า เป็นการป้องกันไว้!”ฮูหยินเว่ยหน้าซีดเผือด นางมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คนภายนอกเอ่ยถึงพวกเราว่าอย่างไรบ้าง?”หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินเว่ยมิรู้จริง ๆ ว่าแม่ทัพเว่ยแต่งงานใหม่แล้ว หรือว่านางแกล้งทำเป็นมิรู้แต่สิ่งนี้คือเนื้อร้าย หากมิตัดเรื่องการหลอกตัวเองและผู้อื่นออกไป ก็รังแต่จะทำให้เรื่องราวยิ่งแย่หลิงอวี๋จึงบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้รอบรู้เล่าให้ตนฟังออกไปอย่างมิลังเลฮูหยินเว่ยตัวสั่นไปหมด สีหน้าของนางดูแย่ยิ่ง นางก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่แล้ว จึงปล่อยให้ไหลลงมาบนใบหน้าอย่างเงียบ ๆ“ข้าคาดเดาไว้แล้ว… ข้าเดาไว้แล้วว่าเขาคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว!”“แต่ข้า… ข้าคิดว่าถึงเขาจะไร้คว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1

    “หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2

    “อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 3

    “ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 4

    หลิงอวี๋คิดที่จะหยิบเครื่องมือและยาเพื่อไปช่วยรักษาเสี่ยวเมา ทว่าประตูห้องใหญ่ก็ถูกเปิดขึ้นในทันที นางรับใช้แม่นมที่อยู่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ หลิงอวี๋จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม ทำได้เพียงแต่สงบนิ่งรอคอยเวลา พ่อบ้านฟั่นด้านนอกนั้นถูกแม่นมลี่ถามไถ่จนรู้สึกรำคาญใจ จึงใช้เท้าเตะแม่นมลี่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาไร้ปรานี “ไสหัวไป สุนัขดี ๆ จะต้องไม่มาขวางทาง” เมื่อหลิงอวี๋มองออกไป ก็พบว่าแม่นมลี่ถูกผลักจนล้มลงบนพื้นอย่างแรง ดูเหมือนว่า แม่นมลี่เองก็คงจะถูกแส้หวดมาก่อน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บนใบหน้ายังมีคราบเลือดอยู่ไม่น้อย... “แม่นมลี่ เจ้าอย่ามามัวเสียเวลาอีกเลย รีบจัดการเก็บกวาดอยู่ในเรือนบุหงาเสียดี ๆ เถิด!” นางรับใช้ที่ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของแม่นมลี่ เอ่ยออกมาอย่างได้ใจ “พ่อบ้านฟั่นได้เลื่อนขั้นให้ข้าเป็นนางรับใช้ใหญ่แล้ว ต่อไปทุกคนในเรือนบุหงาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของข้า” “ท่านอ๋องทรงรับสั่งมาแล้วว่า หากพวกเจ้ายังจะไม่เชื่อฟัง ข้าก็มีอำนาจทีจะทุบตีพวกเจ้าจนตายได้!” “หลิงผิง เจ้าเป็นนางรับใช้ข้างกายของพระชายา สัญญาทาสยังอยู่ในมือของพระชายา เจ้าม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 5

    หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้! หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!” หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!” “ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 6

    “ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!” “ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!” เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา “กลุ่มคนเศษสวะ!” ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ “ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...” “ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!” ชิวเฮ่า

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1886

    “ฮูหยินเว่ย ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าการตั้งใจทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรมี แต่ข้าก็ยิ่งรู้เช่นกันว่าการระวังผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรขาด!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเองก็ได้ยินเรื่องของฮูหยินเว่ยกับแม่ทัพเว่ยมาบ้าง ข้ากังวลว่าเว่ยเผิงและท่านจะใจดีมากเกินไป จนมิรู้ว่าจิตใจคนนั้นอันตราย หากไปที่จวนแม่ทัพแล้วพวกท่านอาจจะถูกวางแผนทำร้าย ข้าจึงสอนให้เว่ยเผิงรู้เรื่องยาพิษไว้ล่วงหน้า เป็นการป้องกันไว้!”ฮูหยินเว่ยหน้าซีดเผือด นางมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คนภายนอกเอ่ยถึงพวกเราว่าอย่างไรบ้าง?”หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินเว่ยมิรู้จริง ๆ ว่าแม่ทัพเว่ยแต่งงานใหม่แล้ว หรือว่านางแกล้งทำเป็นมิรู้แต่สิ่งนี้คือเนื้อร้าย หากมิตัดเรื่องการหลอกตัวเองและผู้อื่นออกไป ก็รังแต่จะทำให้เรื่องราวยิ่งแย่หลิงอวี๋จึงบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้รอบรู้เล่าให้ตนฟังออกไปอย่างมิลังเลฮูหยินเว่ยตัวสั่นไปหมด สีหน้าของนางดูแย่ยิ่ง นางก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่แล้ว จึงปล่อยให้ไหลลงมาบนใบหน้าอย่างเงียบ ๆ“ข้าคาดเดาไว้แล้ว… ข้าเดาไว้แล้วว่าเขาคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว!”“แต่ข้า… ข้าคิดว่าถึงเขาจะไร้คว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1885

    เว่ยเผิงเป็นคนฉลาดมาก เขาวางหมากไปพลางคุยกับหลิงอวี๋ไปด้วยคงจะไม่มีใครคุยเป็นเพื่อนเขาจริง ๆ จัง ๆ มานานแล้ว ภายใต้ท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้น เว่ยเผิงเผยให้เห็นความไร้เดียงสาของเด็กออกมาด้วย แล้วเขาก็เผลอเล่าเรื่องครอบครัวของตนให้หลิงอวี๋ฟังโดยมิตั้งใจหลิงอวี๋จึงได้รู้ว่า เมื่อตอนที่เว่ยเผิงอายุเพียงสองขวบ แม่ทัพเว่ยก็ทิ้งพวกเขาแม่ลูกไปรับการเลื่อนตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพแล้วหลังจากที่แม่ทัพเว่ยไปแล้ว ก็มิรู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่ข้าหลวงในท้องถิ่นได้ขับไล่ฮูหยินเว่ยและลูกชายของนางออกจากจวนแม่ทัพ โดยที่อ้างว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ฮูหยินเว่ยจึงใช้สินสอดซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ และหาเงินเลี้ยงดูเว่ยเผิงมาด้วยตนเองหลายปีมานี้ แม่ทัพเว่ยทำราวกับว่าฮูหยินเว่ยตายไปแล้ว เขามิเคยส่งจดหมายกลับมา และมิได้ให้ค่าสนับสนุนเลี้ยงดูด้วยบิดาของฮูหยินเว่ยตายไปนานแล้ว มารดาของนางก็ตายไปเมื่อสองปีก่อน และพวกเขาก็ทิ้งเสิ่นผิงผิงน้องสาวที่อายุน้อยกว่านางมิกี่ปีไว้ให้ฮูหยินเว่ยดูแลหลายปีมานี้เสิ่นผิงผิงอาศัยอยู่กับฮูหยินเว่ยและลูกชาย แม้ว่านางจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กสาวผู้นี้ก็อาศั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1884

    หลิงอวี๋ชื่นชมในความเด็ดขาดของฮูหยินเว่ยมาก คนที่มีความเด็ดขาดเช่นนี้ จะคิดสั้นปลิดชีพตนเพียงเพราะตาบอดได้อย่างไร หรือว่าลูกหาบผู้นั้นตีความหมายผิด แล้วจึงเข้าใจฮูหยินเว่ยผิดไป?เรือเทียบท่าได้ครึ่งวันก็ต้องออกเดินทาง หลิงอวี๋จึงรีบเขียนเครื่องยาสมุนไพรที่จำเป็นแล้วให้เฉี่ยวอวี้ส่งคนไปซื้อมาเฉี่ยวอวี้จัดให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้อยู่ที่ท้ายเรือตามคำสั่งของฮูหยินเว่ย เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่ามีห้องเหลืออยู่สองห้อง นางจึงรีบบอกว่าตนกลัวว่าเวลานอนแล้วจะเสียงดัง จึงขอแยกห้องนอนกันเฉี่ยวอวี้คิดว่าห้องนั้นว่างอยู่แล้ว นางจึงยอมกระทั่งเฉี่ยวอวี้ออกไป ผู้รอบรู้ก็ขยับไปตรงหน้าหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “น้องอวี๋ เจ้าแน่ใจจริง ๆ หรือว่าสามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้ เจ้าอย่าได้โกหกเชียว มิเช่นนั้นพวกเราได้ถูกโยนลงแม่น้ำไปเป็นอาหารปลากลางทางแน่!”“จริงสิ!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจเขา “ท่านวางใจเถิด ข้าไม่มีวรยุทธ์ แต่ข้ามีทักษะการแพทย์!”“อ้าว เหตุใดเจ้ามิรีบบอกเล่า หากเจ้าบอกข้าเร็วกว่านี้ ข้าคงพาเจ้าไปรักษาดวงตาของผู้ดูแลหลัวแล้ว หากเจ้ารักษาเขาได้ พวกเราต้องได้รับรางวัลก้อนใหญ่เป็นแน่!”ผู้ดูแลหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1883

    ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นก็เกิดความเห็นอกเห็นใจฮูหยินเว่ยขึ้นมา มีลูกที่โตถึงเพียงนี้ หากมิใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับ เหตุใดนางต้องยอมส่งลูกชายไปเล่า!“หมออวี๋ ข้ารู้สึกเป็นเกียรตินัก!”ฮูหยินเว่ยยังมองเห็นอยู่ เพียงแต่ภาพตรงหน้าพร่ามัวมาก นางจะเห็นเป็นร่างคนเพียงราง ๆ เท่านั้นเว่ยเผิงลูกชายของนางประคองนางให้หยุด นางก็รู้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือหมอที่มารักษาโรคตาให้ตน นางจึงทักทายออกไปอย่างสุภาพเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเฉี่ยวอวี้เดินตามมาเช่นกัน จึงเอ่ยออกไป “นำอ่างน้ำมาให้ข้าล้างมือก่อน!”แม้ว่าฮูหยินเว่ยจะมองเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋มิชัดเจน แต่เมื่อได้ยินเสียงอ่อนเยาว์ สดใสและไพเราะเช่นนั้น นางก็รู้สึกมีความหวังเล็กน้อยกับหมอที่อ่อนเยาว์ผู้นี้เฉี่ยวอวี้รีบให้นางรับใช้ไปนำอ่างน้ำมาอย่างรวดเร็ว แล้วหลิงอวี๋ก็ให้นางรับใช้ย้ายเก้าอี้หนึ่งตัวมาให้ฮูหยินเว่ยนั่งลงหลิงอวี๋ทำการตรวจดวงตาให้ฮูหยินเว่ยก่อน และพบว่าแก้วตาของฮูหยินเว่ยบวมเล็กน้อย บางส่วนมีความขุ่น บางส่วนมีความใส ซึ่งเป็นอาการระยะแรกของต้อกระจกหลิงอวี๋จึงจับชีพจรของฮูหยินเว่ยอีกครั้ง แล้วสุดท้ายก็เข้าใจ“ฮูหยินเว่ย โรคตาของท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1882

    ในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดเช่นนี้ ในหัวก็ปรากฏวิธีการรักษาเกี่ยวกับโรคตาหลากหลายวิธีขึ้นมานางมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทันที จึงก้าวไปเรียกเขา “พี่ชาย ข้ามีทักษะการแพทย์อยู่บ้าง มิทราบว่าโรคตาของฮูหยินเว่ยที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหรือ บางทีข้าอาจจะช่วยรักษาโรคนี้ให้นางได้!”ลูกหาบผู้นั้นมองหลิงอวี๋ และเห็นว่านางสวมอาภรณ์ธรรมดา ๆ เขาจึงส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “หากเจ้ามีทักษะการแพทย์เพียงเล็กน้อยก็ช่างเถิด โรคตาของฮูหยินเว่ยนั้นมิได้รักษาง่ายถึงเพียงนั้น นางหาหมอมาหลายคนแต่ก็ล้วนจนปัญญาที่จะรักษาทั้งสิ้น เจ้าอย่าไปให้เสียเวลาเลย!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างดื้อรั้น “หากมิลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าทำมิได้! พี่ชาย เจ้าพาข้าไปเถิด หากข้ารักษาฮูหยินเว่ยได้ เจ้าเองก็จะได้รางวัลเช่นกัน!”ลูกหาบนึกถึงเงินสิบตำลึงที่ฮูหยินเว่ยมอบให้ตน แล้วก็คิดว่าคนจิตใจดีถึงเพียงนั้นมิควรตาบอดไปเช่นนี้เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วเอ่ยออกไป “ได้ ข้าจะพาเจ้าไป!”ผู้รอบรู้รีบตามไปอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ได้ยินบทสนทนาของพวกลูกหาบเช่นกันหากน้องชายที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ผู้นี้สามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้จริง ๆ เช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1881

    หลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นขึ้นมา ผู้รอบรู้ผู้นี้เป็นคนมีความสามารถในการสืบข่าว บางทีตลอดการเดินทางร่วมกันนี้อาจจะช่วยดูแลกันและกันได้“พี่ชาย ท่านก็จะไปเมืองหลวงแดนเทพเช่นกันหรือ!”หลิงอวี๋เป็นฝ่ายก้าวเข้าไปทักทายเขาก่อน “เมื่อคืนข้าได้ยินท่านเล่าเรื่องที่โรงเตี๊ยม ข้าชื่นชมในการเรียนรู้ของพี่ชายยิ่งนัก!”หลิงอวี๋มิกล้าใช้ชื่อเจียงอวี๋อีกต่อไปแล้ว เฉียวไป๋รู้จักชื่อนี้ และนางต้องป้องกันเบาะแสต่าง ๆ ที่จะเปิดเผยตัวตนเอาไว้ก่อนเมื่อคืนผู้รอบรู้ดื่มหนักมาก จนมิรู้ว่ามีใครบ้างที่อยู่ในโรงเตี๊ยม เมื่อเห็นว่าคุณชายผู้นี้รู้จักตน ก็คิดว่าเขารู้จักตนที่โรงเตี๊ยมจริง ๆ จึงยิ้มและพยักหน้าให้ผู้รอบรู้อายุราว ๆ ยี่สิบปี หน้าตาหล่อเหลา แต่สวมอาภรณ์ค่อนข้างเรียบง่าย เห็นได้ว่าเขาขัดสนเงิน“เรือใหญ่ที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพเหล่านั้น โดยปกติแล้วล้วนเป็นเรือที่ตระกูลร่ำรวยเช่าเอาไว้ มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารไปด้วย!”ผู้รอบรู้เอ่ยออกมาอย่างท้อแท้ “เรือขนส่งสินค้าก็มีการป้องกันเข้มงวดมาก หากไม่มีคนคุ้นเคยที่แนะนำให้ก็มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารเช่นกัน!”หลิงอวี๋หามานานแล้วก็เป็นอย่างที่ผู้รอบรู้พูดจริ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1880

    หลิงอวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดหากตนสังหารเฉียวเค่อไปจริง ๆ เช่นนั้นตนก็คือศัตรูของตระกูลเฉียวส่วนเฉียวไป๋นั้น ตนจับพลัดจับผลูช่วยเหลือเอาไว้ และตอนนั้นตนก็แปลงโฉมไปแล้ว ดังนั้นเฉียวไป๋จึงมิรู้ว่าตนก็คือหลิงอวี๋!หากเขารู้ เฉียวไป๋จะปล่อยตนไปหรือ?ตนไปสร้างเรื่องกับตระกูลที่มีอำนาจเช่นนี้ จนทำให้เกิดเงินรางวัลจำนวนมหาศาล และคนจากทุกเส้นทางต่างก็กำลังตามหาตนเพื่อเงินรางวัลเช่นนั้นการไปเมืองหลวงแดนเทพครั้งนี้จะต้องระวังให้มากขึ้นแล้ว!หลิงอวี๋คิดฟุ้งซ่านอยู่นานเท่าใดก็มิรู้ กระทั่งนางเรียกสติกลับคืนมา นางก็พบว่าคนในโถงรับแขกออกไปกันจำนวนมากแล้วส่วนผู้รอบรู้ผู้นั้นยังคงดื่มสุราอยู่ผู้เดียว ดูท่าทางเศร้าหมองยิ่งนักหลิงอวี๋ครุ่นคิด แล้วเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขา“พี่ชาย ข้ากำลังวางแผนไปตามหาญาติที่เมืองหลวงแดนเทพ เห็นว่าท่านรู้เรื่องเมืองหลวงแดนเทพอยู่มาก ข้าขอถามอะไรท่านสักหน่อยได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ให้เสี่ยวเอ้อร์นำสุราดีและอาหารเนื้อ ๆ มาให้อีกสองสามอย่าง ผู้รอบรู้ดื่มจนมึนเล็กน้อยแล้ว เมื่อเขาได้ยินว่ามีสุราและอาหารดี ๆ มาอีก เขาก็เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “เจ้าอยากรู้เร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1879

    หลิงอวี๋กลับมาถึงที่โรงเตี๊ยมก็เห็นว่าวันนี้โรงเตี๊ยมคลาคล่ำไปด้วยผู้คน คนทุกประเภทล้วนอยู่ที่นี่หลิงอวี๋สั่งอาหารสองสามอย่างกับเสี่ยวเอ้อร์ และให้เขานำอาหารไปส่งที่ห้องของตน และขณะที่นางกำลังจะกลับห้อง ในตอนที่เดินผ่านโถงรับแขกนั้น นางก็ได้ยินชื่อที่คุ้นเคย… หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่มิได้รีบหันกลับไป คราวที่แล้วเป็นเพราะนางได้ยินชื่อนี้แล้วหันกลับไป นางจึงถูกแม่ทัพผู้นั้นเผยเพ่งเล็ง ทั้งยังทำให้ป้าวเฉิงเกิดความสงสัยอีกด้วยหลิงอวี๋ หรือว่านี่คือชื่อจริงของตน?ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ก็สงสัยอยู่ และในใจของนางก็คิดว่าตนคือหลิงอวี๋ไปแล้วเช่นกันดังนั้นเมื่อได้ยินชื่อนี้ นางจึงเดินไปสองสามก้าวก่อนจะหยุดจากนั้นก็ได้ยินว่ามีคนเอ่ยขึ้นมา “ตอนนี้ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลก้อนโตเป็นการนำจับสตรีชื่อหลิงอวี๋ รางวัลนั้นเป็นเงินจำนวนห้าล้าน! หากสามารถจับหลิงอวี๋ได้ พวกเราก็จะมีเงินกันเป็นกอบเป็นกำแล้ว!”ที่แท้ก็มิได้เรียกตน แค่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาในการสนทนาก็เท่านั้นหลิงอวี๋ใจเต้นรัว แล้วหันกลับไปเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ “หากอาหารของข้าเสร็จแล้วก็ยกมาที่นี่แล้วกัน ข้าจะกินที่โถงรับแขก!”“ขอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1878

    หลิงอวี๋ยังคงซ่อนตัวอยู่ในน้ำลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงคงถูกพิษของหลิงอวี๋จนตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเก๋อฮุ่ยหนิงจะยิ่งไม่มีทางปล่อยตนไปแต่เก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานนัก ข้าหลวงเก๋อต้องรีบกลับไปรับตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพ จะเดินทางล่าช้าไปเพราะมาตามหาตนมิได้ขอเพียงตนซ่อนตัวอยู่จนถึงตอนค่ำ ก็จะขึ้นฝั่งโดยที่รอดพ้นจากสายตาของทุกคนได้ แล้ววันพรุ่งค่อยไปตามหาป้าวซวนเก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานดังเช่นที่หลิงอวี๋บอกไว้จริง ๆ นางพาลุงของนางไปหาหมอ แต่หมอทั่วไปที่ท่าเรือเหล่านี้ก็ไม่มีใครสามารถรักษาดวงตาของท่านลุงให้หายดีได้ลูกพี่ลูกน้องคนโตได้ยินข่าวก็รีบมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเคืองเก๋อฮุ่ยหนิง แต่ติดที่อำนาจของตระกูลเก๋อ ทำให้เขามิกล้าบ่นมากเกินไป“พี่ใหญ่ เป็นข้าเองที่ทำให้ท่านลุงลำบาก แต่ผู้ร้ายคือหมอเจียง ข้าจะให้ภาพเหมือนของนางกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องสังหารนางล้างแค้นให้ท่านลุงให้จงได้นะ!”เก๋อฮุ่ยหนิงรีบวาดรูปหลิงอวี๋มอบให้ลูกพี่ลูกน้องคนโตของนาง และสุดท้ายนางก็มอบเงินส่วนตัวทั้งหมดให้กับลูกพี่ลูกน้องคนโตไป เพื่อให้เขาไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาดวงตาของท่านลุงหล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status