Share

บทที่ 1662

Author: กานเฟย
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยใช้ขุนนางที่อยู่ที่นี่เหล่านี้เป็นโล่ในการเข้าไปเข้าเฝ้าหลิงอวี๋ หากพวกเขาปฏิเสธก็จะยืนยันว่าตนมีความผิด

ท่านอ๋องเฉิงยังมิเคยได้ข่าวเรื่องอาการของหลิงอวี๋ จึงมิรู้ว่าควรปล่อยให้เข้าไปหรือไม่

“ท่านอ๋องเฉิง...”

ขณะที่ท่านอ๋องเฉิงกำลังปวดหัวอยู่นั้น สุ่ยหลิงก็วิ่งเข้ามา “ให้พวกนางเข้ามาเถิดเพคะ ฮองเฮาฟื้นแล้ว!”

ในที่สุดหินก้อนใหญ่ในใจของท่านอ๋องเฉิงและหลี่ว์เซียงก็วางลงได้เสียที

“ท่านอ๋องเฉิง ท่านรับพวกนางเข้าวัง และหากถ่วงเวลาไว้ได้ก็ถ่วงไว้สักหน่อยเถิดเพคะ ฮองเฮายังต้องการเวลาสักหน่อยเพคะ!”

สุ่ยหลิงอธิบายอีกครั้ง

ฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้ว เรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็ก จัดการง่าย!

ท่านอ๋องเฉิงหันไปด้านล่างแล้วเอ่ย “ไท่เฟยเส้า พระชายาคัง รอสักครู่ อีกประเดี๋ยวฮองเฮาจะพบพวกเจ้า เกี้ยวที่จะมารับพวกเจ้าจะมาถึงแล้ว!”

ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสามารถเข้าไปเยี่ยมได้ แต่ทั้งสองต่างก็มิเชื่อว่าหลิงอวี๋ยังมีชีวิตอยู่

ท่านอ๋องเฉิงปล่อยให้พวกนางเข้าไปเช่นนี้ หรือว่าจะวางกับดักไว้ข้างใน?

ทั้งสองคนมิกล้าเข้าไปง่าย ๆ!

หากมิสามารถนำทัพเข้าไปได้ เช่นนั้นหากเข้าวังไป จะมิเป็นปลาให้ผู้อื่นเช
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1663

    กระทั่งมาถึงพระตำหนักคุนหนิง นางรับใช้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ถูกขวางเอาไว้ จ้าวหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าสบตากันแล้วเดินเข้าไปอย่างสงบภายในโถงหลักว่างเปล่า หลิงอวี๋มิได้อยู่“ไท่เฟยเส้า พระชายาคัง โปรดรอสักครู่เพคะ ฮองเฮาเปลี่ยนพระฉลองแล้วจะเสด็จมาเพคะ!”หานอวี้ให้พวกนางรับใช้ช่วยยกที่นั่งและโต๊ะชาให้อย่างเย็นชาไท่เฟยเส้าเอ่ยโดยมิแสดงสีหน้าใด “ฮองเฮาทรงได้รับบาดเจ็บมิใช่หรือ? พวกเราล้วนเป็นสตรี มิจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงใด ๆ เข้าไปพบพระนางในห้องได้!”ว่าแล้วไท่เฟยเส้าก็จะเดินเข้าไปหานอวี้กับพวกนางรับใช้มาขวางหน้าไว้ แล้วหานอวี้ก็เอ่ยเสียงเรียบ “ไท่เฟยเส้า ฮองเฮาตรัสว่าจะพบพวกท่านที่โถงหลักเพคะ ขอท่านโปรดกลับไปนั่งรอเถิดเพคะ!”“บังอาจ เจ้านับว่าเป็นอะไรกัน! กล้ามาขวางข้า วันนี้ข้าจะไปพบพระนางที่ห้องบรรทม หลีกไป...”ไท่เฟยเส้าเห็นว่าบ่าวเช่นหานอวี้กล้ามาขวางตนก็โกรธมาก“ไท่เฟยเส้า ช่างวางอำนาจเสียจริงนะ!”เสียงตำหนิด้วยความโกรธของหลิงอวี๋ดังมาจากด้านหลัง“นี่คือพระตำหนักคุนหนิงของข้า ท่านมีสิทธิ์มาแสดงท่าทีดุร้ายเยี่ยงนี้เมื่อใดกัน?”หลังจากเสียงนั้น หลิงอวี๋ก็เดินออกไปพร้อมกับหานเหมยกับเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1664

    “พระชายาคัง!”หลิงอวี๋หยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน และมิรีบร้อนที่จะบอกให้ทั้งสองลุกขึ้นนางมองลงไปที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยคนที่ทำร้ายตนคือจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลิงอวี๋มั่นใจมากแต่ก็เพราะตอนนั้นนางสวมหน้ากากของแม่นมหนานอยู่ หลิงอวี๋จึงมิสามารถกล่าวหานางได้ดังนั้นแม้ว่าหลิงอวี๋จะรู้ว่าคนที่คุกเข่าต่อหน้าตนเป็นงูพิษ และอยากจะถลกหนังนางออกมา แต่หลิงอวี๋ก็ทำอะไรมิได้แต่มิสามารถทุบตีหรือดุด่าได้ ก็มิได้หมายความว่าหลิงอวี๋จะมิสามารถใช้สถานะของตนกดขี่นางได้คนที่หยิ่งยโสเช่นจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ให้นางคุกเข่าต่อหน้าตนนั้นถือเป็นการตบหน้านางอย่างมิต้องสงสัยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมีหรือจะเดามิออกถึงความคิดของหลิงอวี๋ นางรู้สึกอับอายและอยากจะสังหารหลิงอวี๋เช่นเดียวกับที่หลิงอวี๋อยากสังหารนางนางก้มหน้าลงแล้วจิกเล็บไปบนฝ่ามือนางรู้สึกถึงความหงุดหงิดใจอีกครั้งแล้ว!ครานี้ตนมิได้ทำผิดพลาดอะไร แล้วเหตุใดยังสังหารหลิงอวี๋มิได้เล่า?หลิงอวี๋เป็นปีศาจแบบใดกันแน่ เหตุใดจึงสังหารได้ยากเช่นนี้!“พระชายาคัง ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่า เจ้ารู้หนังสือและมารยาทดี ทั้งยังมีคุณธรรมมากกว่าพี่หญิงของเจ้าด้วย! แต่สิ่งที่เจ้าทำทำใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1665

    จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตกใจจนเหงื่อตก!ใช่แล้ว เหตุใดนางจึงลืมไปว่าด้านหลังมีผู้ฝึกยุทธ์ซุ่มอยู่ข้างหลังนาง!หลิงอวี๋กับนางรับใช้ของนางทำให้ตนอับอายเช่นนี้ นี่อาจเป็นแผนการร้ายของหลิงอวี๋ก็เป็นได้!คิดจะกระตุ้นความโกรธให้ตนลงมือแล้วเปิดเผยว่าตนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ พวกนางจะได้สังหารตนกับไท่เฟยเส้าอย่างสมเหตุสมผล!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับความโกรธของตนไว้​ แล้วเอ่ยอย่างยอมจำนน “สิ่งที่ฮองเฮาทรงสอน​ หม่อมฉัน​รู้แล้วว่าหม่อมฉันผิดเพคะ!”“กลับไปหม่อมฉัน​จะทบทวนตนเองและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเพคะ!”หลิงอวี๋มองเห็นได้ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในสีหน้าของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดิมคิดว่าการกระทำของตนกับหลิงซวนจะทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยโกรธได้ แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยังอดทนได้อยู่หลิงอวี๋รู้ดีอยู่แล้วว่านางกำลังกังวลเรื่องอะไร เพราะนี่ก็คือสิ่งที่หลิงอวี๋เตรียมไว้นางหวังให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับความโกรธมิไหวแล้วลงมือ เช่นนี้ก็จะได้ถือโอกาสที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รับบาดเจ็บเช่นกันจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเสียจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอดทนไว้ได้ หลิงอวี๋ก็มิได้ผิดหวังมากนักเพราะนางรู้ถึงร่างกายของตนกับความแข็งแกร่งของแม่นมอูแม่นมอูใช้พ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1666

    “ฮองเฮา น่าเสียดายจริง ๆ เพคะ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นั้นมิหลงกล!”เมื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากไปด้วยท่าทางหม่นหมองเช่นนี้ หลิงซวนก็เอ่ยอย่างเสียดายแต่หลิงอวี๋ทรุดตัวลงบนที่นั่งเสียงดังลั่นแม้ว่านางจะฟื้นแล้ว แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อครู่พยายามอดทนฝืนอยู่ตลอด มิได้แสดงความอ่อนแอต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย“ฮองเฮา... แม่นมอูมาเร็วเข้า!”พวกหลิงซวนต่างก็ตกใจแล้วเข้ามารวมตัวกันแม่นมอูที่อยู่โถงด้านหลังเดินออกมาอย่างมิรีบมิร้อน พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “แตกตื่นกันหาปะไร พระนางมิได้เป็นอะไร!”“ข้าช่วยชีวิตพระนางไว้แล้ว การพักฟื้นที่เหลือก็มิเกี่ยวกับข้าแล้ว! ข้าจะไปแล้ว!”หลิงอวี๋หายใจแล้วรีบเอ่ย “แม่นมอยู่ต่ออีกสองสามวันได้หรือไม่! หลิงอวี๋ยังมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากแม่นมอีก!”“แม่นมรู้จักท่านแม่ของหลิงอวี๋ก็เห็นแก่ท่านแม่กับขันทีโม่อยู่ต่ออีกสองสามวันเถิด!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาเย็นชาและซับซ้อน หลังจากนั้นสักพักก็ส่ายหัวแล้วเอ่ย “หยกหล้าสุขาวดีอยู่ในมือของท่าน แต่ท่านกลับอ่อนแอถึงเพียงนี้ ช่างน่าอายเสียจริง ๆ!”“ได้ เห็นแก่พระมารดาของท่าน บ่าวจะอยู่ต่ออีกสองสามวันและให้คำแนะนำแก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1667

    จ้าวหรุ่ยหรุ่ยขโมยตำราลับนี้มาจากศิษย์พี่ของตนศิษย์พี่ผู้นี้ชื่อเฉียวเค่อ อายุพอ ๆ กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หน้าตาหล่อเหลา เพียงแต่เจ้าชู้เกินไปเขาชื่นชมจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยดูถูกเขากอปรกับที่เขาไร้พรสวรรค์ทางด้านปัญญา แม้ว่าเขาจะเข้าสำนักเร็วกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่การบำเพ็ญของเขาก็มิสูงเท่ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่เฉียวเค่อมีเงินและมีสหายที่มิดีมากหลายนักปกติแล้วเมื่อได้รับของดี ๆ ก็เอามาประจบจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเคยรับอะไรไว้เลยสิ่งเดียวที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสนใจได้ก็คือตำราลับเล่มนี้แต่เฉียวเค่อกลับมิได้มอบมันให้กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหมือนกับของเล็กน้อยเหล่านั้นที่ได้รับมา แต่หลังจากที่ได้รับมาก็ทำลับ ๆ ล่อ ๆ ต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แล้วก็ซ่อนมันไว้เขาบอกว่าตำราลับนี้มิเหมาะกับการฝึกของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย มันค่อนข้างเป็นวิชาที่มิดียิ่งเขามิให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ่งสนใจลงเขาครั้งนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงถือโอกาสที่เฉียวเค่อมิอยู่ขโมยตำราลับมาตำราลับนี้เป็นวิชานอกรีตดังที่เฉียวเค่อบอกไว้จริง ๆ มิเพียงแต่จะมีวิชาทางเพศเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการฝึกฝนร่วมก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1668

    แม่นมอูหัวเราะหึ ๆ “ใต้หล้านี้ของยิ่งวิเศษก็ยิ่งหายาก! ยิ่งมิเข้าใจก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของมัน!”“โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือครองสมบัตินี้เป็นคนแรกสุด สถานะอันสูงส่งของเขายิ่งเพิ่มคุณค่าอันสูงส่งและหายากให้กับมัน!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋อย่างเยาะเย้ย “ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ถือหยกหล้าสุขาวดีคนแรกสุดคือผู้ใด?”“ผู้ใด?”หลิงอวี๋ขอคำแนะนำอย่างถ่อมตัว“มหาเทพแห่งแดนปีศาจ… หลงจี้! เขาสร้างแดนปีศาจทั้งหมด พลังของเขาอยู่ในระดับเทพ ว่ากันว่าเขาอายุแปดร้อยกว่าปีแล้ว!”“มีตำนานเกี่ยวกับเขามากมายนัก เรื่องพวกนี้เอาไว้คราวหลังบ่าวะค่อย ๆ เล่าให้ท่านฟังเพคะ!”“มาพูดถึงหยกหล้าสุขาวดีกันก่อนเถิด ว่ากันว่ามันเป็นอาวุธเวทของมหาเทพ หลังจากสร้างพันธะกับมันแล้วจะสามารถเรียกพลังแห่งความโกลาหลภายในออกมาใช้เป็นประโยชน์ให้ตนได้!”“พลังแห่งความโกลาหลนี้คือพลังแห่งธรรมชาติ การเรียกลมเรียกฝนเป็นเพียงผลกระทบเล็กน้อยของมันเท่านั้น!”“การทลายภูเขาและโค่นทะเล หรือกระทั่งการพลิกกลับห้วงเวลาต่างหากจึงจะเป็นผลกระทบยิ่งใหญ่ของมัน!”หลิงอวี๋ได้ยินก็ตกตะลึง หยกหล้าสุขาวดีนี้มีพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“ท่านอย่าได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1669

    หลิงอวี๋มองอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอู แล้วก็นึกถึงหลานฮุ่ยจวนเมื่อนั้นหลานฮุ่ยจวนกับอู่จวิ้นหัวหน้าองครักษ์ของนางหนีออกจากแดนปีศาจมา หลานฮุ่ยจวนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียการฝึกยุทธ์ไปอู่จวิ้นก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แล้วสุดท้ายก็ตาทั้งสองข้างก็สูญเสียการมองเห็นไปอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอูกับอาการบาดเจ็บของหลานฮุ่ยจวนมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่?อาจเป็นเพราะความสงสัยที่เขียนอยู่บนใบหน้าของหลิงอวี๋นั้นทำให้แม่นมอูมองออกแม่นมอูดูเหมือนจะนึกถึงเมื่อยามนั้นเช่นกัน ในดวงตาที่ขุ่นมัวสะท้อนความเกลียดชังอย่างมากออกมา“แม่นมอู ข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่ท่านแม่หนีออกมาจากแดนปีศาจก็พบว่าตั้งครรภ์ ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ใดคือพ่อของข้า?”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิใช่คนเดียวกับเจ้าของร่างเดิม และสำหรับนางแล้วบิดาผู้มีพระคุณในการให้กำเนิดตนผู้นี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ทว่าบัดนี้ตนครอบครองร่างนี้อยู่ หากนางมิระลึกถึงบุญคุณของบิดา ก็ต้องระลึกถึงบุญคุณที่หลานฮุ่ยจวนให้กำเนิดมาหลานฮุ่ยจวนถูกคนจากแดนปีศาจตามล่า ยามนี้หลิงอวี๋ครอบครองหยกหล้าสุขาวดีของนางอยู่ หากหลิงอวี๋มิรู้สาเหตุการตายของหลานฮุ่ยจวนให

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1670

    แต่สิ่งที่แม่นมอูพูดต่อไปทำให้หลิงอวี๋รู้ว่าตนมีมุมมองที่คับแคบไปแล้วเนื่องจากผู้บำเพ็ญตนมากมายในแดนปีศาจมีชีวิตที่ยืนยาวได้ จึงมีความอดทนต่อข้อกำหนดในการแต่งงานมากเช่นนั้นจึงมีบุรุษที่มีภรรยาหลายคนมากจนนับมิถ้วน หลงหมิงอายุสิบห้าปีก็แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์แล้ว เขาแต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลเก๋อที่มีอำนาจอีกตระกูลหนึ่งมาเป็นภรรยาหลวงครั้นเมื่อหลานฮุ่ยจวนกับแม่นมอูตกหลุมรักหลงหมิง หลงหมิงก็มีลูกชายสองคนแล้วแต่สตรีสองคนนี้ก็ยังคงหลงใหลหลงหมิง และกระโจนเข้าใส่เขาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟแม่นมอูเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เหนือจากตระกูลใหญ่ทั้งห้า ตระกูลอูเป็นตระกูลของนักบวชหญิงในแดนปีศาจเผ่านักบวชหญิงมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในแดนปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สามารถจัดหาเครื่องยาสมุนไพรของแดนปีศาจที่ผู้บำเพ็ญตนต้องการได้ดังนั้นเผ่านักบวชจึงได้รับความเคารพจากเหล่าตระกูลใหญ่แม่นมอูมีสถานะสูงตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก ครอบครัวใหญ่เห็นนางก็จะต้องคำนับนางด้วยเหตุนี้นางจึงเย่อหยิ่งมาโดยตลอด แต่เมื่อพบหลงหมิงในคราแรกก็ตกหลุมรักเสียแล้วนักบวชหญิงทุกคน

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1861

    สิ่งที่เซียวหลินเทียนคาดมิถึงก็คือ หวงฝู่หลินเองก็มาที่ภูเขาห้ายอดด้วยเช่นกันในวันนั้นหวงฝู่หลินพาปี้ซงลงมาจากภูเขา แล้วระหว่างทางก็ถูกจงเจิ้งขวางทางไว้หวงฝู่หลินที่มาสังหารผู้คนเพื่อหวงฝู่หมิงจูนั้น สุดท้ายแล้วก็เอาชนะมือสังหารที่ตระกูลจงเจิ้งทิ้งไว้ได้ และหลังจากการซักถามก็ได้รู้ว่า หวงฝู่หมิงจูถูกจงเจิ้งหลินคุณชายของตระกูลจงเจิ้งจับตัวไปเดิมทีจงเจิ้งหลินคิดว่าจะจับหวงฝู่หมิงจูเป็นตัวประกัน แล้วบีบให้หวงฝู่หลินทำลายค่ายกลที่อยู่โดยรอบภูเขาหิมะไปเสีย และให้ส่งมอบวังเทพมาไหนเลยจะคิดว่าหวงฝู่หลินจะสั่งให้เสือดาวหิมะพุ่งเข้าไปโดยมิเอ่ยอะไรสักคำ ตนก็ตามไปสังหารด้วยเช่นกันการโจมตีที่ตั้งรับมิทันนั้นทำให้จงเจิ้งหลินตกใจกลัว เมื่อเขาเห็นว่าคนของตนตามไปเป็นจำนวนมากภายในชั่วพริบตาเช่นนั้น ก็ตกใจกับวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ใดเทียบของหวงฝู่หลิน จากนั้นจึงรีบเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณอย่างรวดเร็ว แล้วพาหวงฝู่หมิงจูกับเสวี่ยเหมยหนีไปก่อนแต่หวงฝู่หลินหรือจะยอมแพ้ไปเช่นนี้ เขาก็ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของตน แล้วไล่ตามเข้าไปในแดนเทพเช่นกันเพียงแต่เมื่อเข้าสู่แดนเทพแล้ว เนื่องจากทิศทางที่มานั้นแตกต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1860

    “นอกจากตำหนักหมาป่าสวรรค์แล้ว ไม่มีกลุ่มที่ซื่อสัตย์สักหน่อยที่สามารถสืบข่าวได้เลยหรือ?”เซียวหลินเทียนคิดแล้วเอ่ยถามออกมากลุ่มของพวกเขามีกำลังคนจำกัด และมิคุ้นเคยกับแดนเทพด้วย หากมิอาศัยกำลังจากภายนอกมาช่วยเหลือ แล้วต้องการจะตามหาหลิงอวี๋ให้พบเร็วยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้เลยเก๋อเฟิ่งฉิงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นมา “ยังมีตำหนักปีกเงินอีกที่สืบข่าวเก่งมาก เพียงแต่พวกเขามิรับงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว และลูกศิษย์ในสำนักก็กระจัดกระจายกันไปมาก!”“ว่ากันว่าเจ้าตำหนักของพวกเขาติดโรคประหลาด จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนนิสัยประหลาด และอารมณ์แปรปรวนมากด้วย ดังนั้นจึงมิทำการค้าแล้ว!”“ในตอนที่ตำหนักปีกเงินมีอำนาจแข็งแกร่งอยู่ก่อนหน้านี้ ตำหนักของพวกเขาอยู่เหนือกว่าตำหนักหมาป่าสวรรค์มาก ในการหาคนสืบข่าวนั้น หากพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว!”“อีกอย่างคือ พวกเขาทำงานอย่างยุติธรรมมาก เมื่อรับงานมาแล้วพวกเขาจะไม่มีทางเล่นลิ้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เสื่อมสลายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”แต่เซียวหลินเทียนกลับมิได้มองเช่นนั้น อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1859

    ขณะที่หลิงอวี๋พักอยู่ที่บ้านตระกูลเก๋อเพื่อรอออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพ เซียวหลินเทียนกับพวกเผยอวี้ก็ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วเพียงแต่พวกเขาเข้ามาจากป่าของเมืองซานต้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจงกวนกว่าพันลี้ทีเดียวนี่เป็นครั้งแรกของพวกเซียวหลินเทียนที่เข้ามาในแดนเทพ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแดนเทพจะเป็นดังเช่นที่ขันทีโม่ได้บอกไว้ว่า จะมีผู้บำเพ็ญตนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้พวกเขาผิดหวังยิ่งเมืองหลายแห่งที่นี่ล้วนเหมือนกับที่ฉินตะวันตก ราษฎรล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปและใช้ชีวิตในแบบเดียวกับราษฎรฉินตะวันตก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกก็พักผ่อน และทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด“ท่านสี่ ข้าว่าที่บอกกันว่าแดนเทพเจริญรุ่งเรืองนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นกระมัง!”เผยอวี้เห็นว่าราษฎรเหล่านั้นเป็นคนธรรมดาก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมาแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะผิดหวัง แต่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “พวกตระกูลในแดนเทพก็ต้องกินดื่มเช่นกัน หากราษฎรทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนอย่างเอาจริงเอาจังเช่นพวกเขา เช่นนั้นใครจะเป็นคนดูแลพวกเขาเล่า!”“นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มิได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1857

    สองวันต่อมา ฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อก็สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว และนอกจากสีหน้าที่ยังซีดเซียวอยู่เล็กน้อยกับร่างกายที่ยังคงอ่อนแออยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้วนางก็สามารถเดินไปเดินมาในห้องได้แล้วข้าหลวงเก๋อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋มากขึ้นไปอีก และให้ฮูหยินเก๋อจัดเตรียมเรือนให้สองพี่น้องตระกูลเจียงอาศัยอยู่โดยเฉพาะเลยข้าหลวงเก๋อเคยถามหลิงอวี๋แล้วว่า ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อแล้วพวกเขาจะออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพกันได้เมื่อใดหลิงอวี๋ให้คำตอบมาว่า คงจะครึ่งเดือน เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้น เขาก็เริ่มให้คนเตรียมตัวเรื่องการเดินทางทางด้านฮูหยินเก๋อ นางก็วางแผนไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานให้เก๋อฮุยซินกับคุณชายจ้าวก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก่อนหน้านี้ตระกูลจ้าวก็กังวลว่า หากฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อตาย เก๋อฮุ่ยซินก็จะต้องไว้ทุกข์ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมจัดงานแต่งงานไว้ล่วงหน้าแล้วของกำนัลในงานแต่งงานทั้งหมดก็เตรียมเสร็จแล้ว และตระกูลเก๋อก็ตกลงกันได้ทันที ดังนั้นจึงกำหนดวันแต่งงานไว้ในอีกสิบวันต่อมาแต่เก๋อฮุ่ยซินกลับมิได้ยินดีแล้ว มิรู้ว่านางไปได้ยินมาจากใครว่าเก๋อฮุ่ยหนิงช่วยชีวิตค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1856

    หลิงอวี๋กำลังอยู่ดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ และคิดเรื่องที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพ แล้วนางก็เห็นนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“หมอเจียง น้องสาวของท่านกับคุณชายเฉียวเผชิญหน้ากับมือสังหาร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณหนูสามให้เชิญท่านไปดูเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงรีบให้แม่นมหลี่คอยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ แล้วนางก็รีบตามนางรับใช้ไปยังเรือนที่เก๋อฮุ่ยหนิงอาศัยอยู่ที่แขนของป้าวซวนเปื้อนไปด้วยเลือด และถูกพันแผลเอาไว้ลวก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ ดวงตาของนางก็แดงก่ำแล้วน้ำตาไหลออกมาทันทีก่อนหน้านี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับการหลบหนี จนมิรู้จักกลัวอันตรายใด ๆแต่ยามนี้เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ผู้เป็นดั่งพี่สาวของตน ป้าวซวนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา“น้องหญิง เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประคองป้าวซวนแล้วตรวจดูอาการของนางอย่างกระวนกระวาย ป้าวซวนส่ายหัวพลางสะอื้นเอ่ย “ข้ามิเป็นไร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าข้า เจ้าไปดูอาการเขาก่อนเถิด!”เก๋อฮุ่ยหนิงก็ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง แล้วตะโกนออกมา “หมอเจียง เจ้ารีบมาดูคุณชายเฉียวเร็วเข้า เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุด มิรู้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1855

    เฉียวไป๋ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นโต๊ะภายในห้องที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนก็ลอยขึ้นไป แล้วโจมตีใส่มือสังหารตามแรงลมจากฝ่ามือของเฉียวไป๋...ทว่ามือสังหารที่ข้าหลวงเก๋อส่งมาล้วนมีวรยุทธ์แก่กล้าทั้งสิ้น มิได้ด้อยไปกว่าเฉียวไป๋เลยมือสังหารคนหนึ่งฟันโต๊ะที่ปลิวมาหาตน แล้วพุ่งไปหาเฉียวไป๋อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้กระบี่ในมือแทงเข้าไปที่ไหล่ของเขา“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ มานี่เร็วเข้า...”ป้าวซวนตะโกนขึ้นมา นางหวังให้แขกคนอื่นในโรงเตี๊ยมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่แขกที่ขี้ขลาดกลัวปัญหาเหล่านั้นหนีกันไปตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่ามีมือสังหารแทงที่ต้นขาของเฉียวไป๋อีกครั้ง ป้าวซวนก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าตอนที่หลิงอวี๋เตรียมยาแก้พิษให้ตนเมื่อคืน นางได้ให้ผงยาหนึ่งห่อไว้กับตนด้วยหลิงอวี๋บอกว่าเป็นของดีที่ให้นางใช้หลบหนีเมื่อพบเจอพวกคนเลวป้าวซวนจึงมิคิดอะไรแล้ว นางหยิบมันออกมาแล้วพุ่งเข้าไป จากนั้นก็ยกมือขึ้นโปรยผงยาให้ลอยไปทางพวกมือสังหาร“มีพิษ!”มือสังหารที่พุ่งมาข้างหน้าชะงักไปทันที แล้วก้าวถอยหลังโดยมิรู้ตัว ป้าวซวนจึงรีบคว้าเฉียวไป๋แล้ววิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วมือส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status