ส่วนเซี่ยโฮ่วตานรั่วกับองค์ชายหนิง ทั้งสองก็ถูกขังอยู่ที่ราชสำนักฝ่ายในเช่นกันพวกขุนนางฝ่ายบู๊ที่ติดตามทั้งสองมาและเข้าร่วมเรื่องที่เกิดขึ้นในวังวันนั้นก็ถูกขังอยู่ในเรือนจำกระทรวงยุติธรรมด้วยขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ฉีตะวันออกพามาด้วยที่อยู่ในที่พักก็ถูกกรมกลาโหมออกคำสั่งขับไล่ไปแล้ว ให้พวกเขาออกจากเมืองหลวงภายในสามวันที่ปรึกษาขององค์ชายหนิงได้พูดคุยกับเจ้ากรมกลาโหมว่าด้วยความสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้นจะไม่มีการสังหารทูต และบอกว่าจักรพรรดิอู่อันไม่มีสิทธิ์คุมขังองค์ชายหนิงเจ้ากรมกลาโหมที่มารับตำแหน่งใหม่นั้นเป็นคนที่ท่านอดีตเสนาบดีแนะนำมา นั่นก็คือแม่ทัพสือผู้เป็นอดีตรองเจ้ากรมกลาโหมปีนี้แม่ทัพสือเพิ่งจะอายุสี่สิบ มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ และยังมีนิสัยที่ตรงไปตรงมาเขาปฏิเสธการโต้แย้งข้าง ๆ คู ๆ ของที่ปรึกษาองค์ชายหนิงไปอย่างหนักแน่น พลางเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “เรามิสังหารองค์ชายหนิงกับองค์หญิงตานรั่วหรอก! แต่พวกเขากล้ายุยงให้องค์ชายก่อเรื่องทั้งยังแทรกแซงเรื่องการเมืองของฉินตะวันตกของเราอีก พวกเขาก็ต้องได้รับการปฏิบัติดังเชลยศึก!”“หากต้องการให้พวกเขากลับฉีตะวันออกก็ให้องค์จักรพรรดิข
คำพูดของหมิ่นกูทำเอาหลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่จากนั้นหลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมาวันนั้นมีเหตุชิงบัลลังก์ ภายในวังเกิดความโกลาหลวุ่นวายไปหมด คาดมิถึงเลยว่าที่ตำหนักอ๋องอี้เองก็วุ่นวายเช่นกันมีคนฉวยโอกาสช่วงชุลมุนวางยาพิษจนองค์หญิงหกเซียวทงเป็นใบ้ จื่อผิงก็ฉวยโอกาสชุลมุนสังหารเสวี่ยฉินอีกนี่หากเป็นเพียงปกติที่มีบุญคุณความแค้นกันก็ยังพอว่า แต่หากมีแรงจูงใจอื่นก็น่ากลัวแล้ว!ตอนนี้อนุชายาทั้งสี่ก็เหลืออยู่เพียงเนี่ยนจือกับจื่อผิงที่ยากจะคาดเดาที่สุดแล้ว เช่นนั้นควรจะเก็บสองคนนี้ไว้หรือไม่กัน?หลิงอวี๋เพียงคิดดูแต่ก็ยังตัดสินใจเก็บสองคนนี้เอาไว้ก่อนเมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนได้รับความสำคัญจากองค์จักรพรรดิมากขึ้นทุกวัน บรรดาขุนนางเหล่านั้นจะต้องพยายามวางแผนส่งคนเข้ามาอย่างแน่นอน เก็บสองคนนี้ไว้ก็สามารถช่วยตนจัดการกับพวกคนมิดีเหล่านั้นได้!คนเลวย่อมต้องมีคนเลวกว่ามาจัดการ ตนมิได้มีเวลามาจัดการกับเรื่องมิดีภายในบ้านพวกนี้ การที่สองคนนี้ช่วยตนจับตามองไว้ก็นับว่าเป็นประโยชน์แล้ว“มิต้องไปยุ่งกับนาง ให้คนคอยจับตาดูพวกนางทั้งสองคนอย่างเงียบ ๆ หากมีสิ่งใดที่เป็นผลเสียต่อตำหนักอ๋องอี้ค่อยมาแจ้
หลิงอวี๋มิอยากให้หานอวี้รู้สึกว่าพวกนางต่ำต้อย จึงเอ่ยไปอย่างอดทน“พวกเจ้าล้วนเป็นพี่น้องที่ดีของข้าก็น่าจะรู้ดีว่าข้ามิเคยมองว่าพวกเจ้าเป็นทาส ข้าเองก็หวังให้พวกเจ้าได้แต่งงานดี ๆ เช่นกัน!”“เจ้าจำไว้นะหานอวี้ พวกเจ้ามิเคยเป็นคนต่ำต้อย เรื่องแต่งงานก็อย่าได้ด้อยค่าตนเอง ทองคำจะสามารถส่องแสงได้ด้วยตนเอง ทำให้คนอื่นเห็นแล้วมาร้องขอเอง!”หานอวี้คล้ายจะเข้าใจคำพูดของหลิงอวี๋แต่ก็มิเข้าใจ แต่ว่าก็รับเอาไว้หลิงอวี๋มองนางเดินจากไปแล้วก็ครุ่นคิดว่า พวกนางรับใช้ที่อยู่ข้างกายตนนั้นล้วนถึงวัยแต่งงานกันหมดแล้ว นางเองก็ควรที่จะเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานของพวกนางแล้วเช่นกันหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ นางมิได้รีบร้อนไปรับพวกของหลิงเยวี่ยกับแม่นมลี่กลับมานางต้องจัดการเรื่องความสัมพันธ์ของตนกับเซียวหลินเทียนก่อนแม้ว่าเรื่องที่ฉินรั่วซือควบคุมจิตใต้สำนึกของเซียวหลินเทียนจะมิใช่ความผิดของเซียวหลินเทียนแต่สิ่งที่เซียวหลินเทียนแสดงออกมาในครั้งนี้ก็ทำให้หลิงอวี๋ผิดหวังกับเขามากหลิงอวี๋กลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้แต่มิได้ไปอาศัยอยู่ที่เรือนริมวารี ทำให้พวกองครักษ์เช่นลู่หนานค่อนข้างวิตกกันไปหมด ห
ท่านจินต้าเข้ามาคุยธุระกับเซียวหลินเทียนพอดี ครั้นได้ยินเรื่องนี้ก็รีบเข้ามาเอ่ยเลย “เรื่องนี้กระหม่อมลืมรายงานท่านอ๋องไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!” “ท่านอ๋อง คนของกระหม่อมได้พบกับจางซื่อนางผดุงครรภ์ที่ทำคลอดให้พระชายาในตอนนั้นแล้ว หลังจากที่ได้บีบบังคับนาง จางซื่อก็ยอมรับว่าครั้งที่แล้วนางรับเงินจากชิวเหวินซวงจึงจงใจป้ายสีพระชายาพ่ะย่ะค่ะ!”“นางบอกว่า เด็กที่พระชายาคลอดมานั้นมีอายุครรภ์มิครบจริง ๆ แม่นมลี่เองก็มิได้ติดสินบนนาง!”เซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้นก็มองจ้าวซวนอย่างดุร้ายครั้งที่แล้วเขาก็ให้จ้าวซวนไปตรวจสอบเรื่องนี้ ผลคือคำตอบที่จ้าวซวนให้ตนคือไม่!จ้าวซวนถูกเซียวหลินเทียนมองมาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยพลางเอ่ยออกไป “ท่านอ๋อง ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสะเพร่าเอง!”ท่านจินต้าคิดแค่อยากจะรีบคลายความเข้าใจผิดให้ท่านอ๋องกับหลิงอวี๋ ต่อไปอย่าได้หมางเมินกันเพราะเรื่องนี้อีกเลย เขาจึงเอ่ยต่อ“ยังมีแม่นมจูที่รับผิดชอบเลี้ยงดูพระชายามาด้วยพ่ะย่ะค่ะ เรื่องจดหมายรักที่อธิบายมิได้นั้นล้วนเป็นชิวเหวินซวงที่เอาไปให้นาง แม่นมจูบอกว่า เมื่อก่อนมิเคยเห็นพระชายาเขียนจดหมายรักให้ผู้ใดเลย!”“ส่วนพวกเรื่
เซียวหลินเทียนรู้สึกว่า มีกองทัพหลวงที่กำจัดสายลับไปแล้วกับค่ายกองทหารเสือที่ได้สร้างขึ้นใหม่คอยเฝ้าวังหลวงไว้แล้ว น่าจะมิเกิดเรื่องใหญ่อะไรส่วนอวี๋เฮ่า ภายนอกเขาเป็นองครักษ์กองทัพหลวงในวัง แต่แท้จริงแล้วเขาก็เป็นสมาชิกของค่ายกองทหารเสือเช่นกัน เซียวหลินเทียนตรวจสอบอยู่หลายครั้งจนมั่นใจว่าเขาไม่มีจุดน่าสงสัยจึงได้วางใจใช้งานเขาอวี๋เฮ่ามาถึงที่นี่กลางดึกเช่นนี้ แม้ว่าจะมิใช่เรื่องใหญ่ ก็แต่ต้องเป็นเรื่องที่มิสามารถให้ใครรู้ได้!“ข้าจะไปเรียกหลิงอวี๋ เจ้าไปเตรียมกลุ่มไว้ แล้วเตรียมพร้อมรอคำสั่ง!”เซียวหลินเทียนจะเข้าวังโดยมิเตรียมการอะไรเลยมิได้จากประสบการณ์เรื่องเหตุที่เกิดขึ้นในวัง อันตรายใด ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นเซียวหลินเทียนต้องเตรียมตัวให้พร้อม“อาอวี๋ เกิดเรื่องแล้ว!”เซียวหลินเทียนรวบรวมความกล้าเคาะประตูเรือนบุหงาไฟในเรือนบุหงายังคงสว่างอยู่ หลิงอวี๋ต้องยังมิได้พักผ่อนแน่นอนหลังจากนั้นมินานสุ่ยหลิงก็เปิดประตูแล้วขมวดคิ้วพลางเอ่ย “คุณหนูของเราเพิ่งจะนอนไปเพคะ หากมิใช่เรื่องเร่งด่วนค่อยว่ากันวันพรุ่งเถิดเพคะ!”“ปลุกนางตื่นเถิด มีเรื่องด่วนในวังให้เรารี
“ไทเฮา!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเรียกเป็นเสียงเดียวกันหลิงอวี๋ใจเต้นรัว นางเห็นถังถีเตี่ยนทิ้งมือทั้งสองแล้วยืนตรงอยู่ข้างไทเฮาพร้อมกับสีหน้าที่ดูเศร้าหรือว่าองค์จักรพรรดิจะสวรรคตแล้ว?“อาอวี๋… เทียนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาแล้ว!”ไทเฮาได้ยินเสียงของทั้งสองคนก็หันมามองความเลื่อนลอยบนใบหน้าของไทเฮาหายไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยความมุ่งมั่นและความเด็ดขาด“ถังถีเตี่ยน เจ้าออกไปพักก่อนเถิด!”หลังจากคำพูดของไทเฮา ถังถีเตี่ยนกับบรรดาคนสนิทก็เดินออกไปอย่างรู้หน้าที่“ไทเฮา เสด็จพ่อ… อาอวี๋ เจ้ายืนตะลึงอะไรเล่า ไปตรวจเสด็จพ่อสิ!”เซียวหลินเทียนเห็นสีหน้าของไทเฮาก็ตื่นตระหนกทันทีหลิงอวี๋ก็ตกใจเช่นกัน นางรีบก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ถูกไทเฮาห้ามเอาไว้“เสด็จพ่อของเจ้าสิ้นลมไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว!”ไทเฮาเอ่ยอย่างสงบ “ถังถีเตี่ยนได้ตรวจเขาและยืนยันแล้ว!”“หากเจ้าอยากจะตรวจ อีกประเดี๋ยวค่อยตรวจเถิด! เรื่องด่วนที่สุดในตอนนี้คือพวกเราจะจัดการกับเรื่องหลังจากนี้อย่างไร!”อะไรนะ? จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้วจริงหรือ?หลิงอวี๋ก้าวสะดุดล้มและทรุดลงไปนั่งกับพื้นนี่เป็นครั้งแรกที่นางสิ้นสติเช่นนี้!ไ
คำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนเป็นการรับหน้าที่สำคัญที่ไทเฮาได้มอบหมายให้แล้ว และเป็นการรับในความสัมพันธ์แห่งพันธมิตรที่แน่นแฟ้นจนมิอาจทำลายได้ที่เขากับไทเฮาได้สร้างขึ้นแล้วไทเฮายิ้มอย่างปลื้มใจแล้วพยักหน้า จากนั้นก็ดึงให้เซียวหลินเทียนเดินไปด้านข้างในหัวของหลิงอวี๋เป็นความสับสนวุ่นวายไปหมด นางลุกขึ้นแล้วรีบไปตรวจดูจักรพรรดิอู่อันจู่ ๆ จักรพรรดิอู่อันก็สวรรคต นี่จะต้องมีคำอธิบายที่เหมาะสมสิมิเช่นนั้นไทเฮากับเซียวหลินเทียนจะถูกคนครหาเอาได้!นางตรวจไปก็จัดการความคิดของตนไปด้วยก่อนหน้านี้ บรรดาองค์ชายพยายามฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท ทว่าเพียงชั่วพริบตา จักรพรรดิอู่อันก็มาสวรรคตไปเช่นนี้แล้วเซียวหลินเทียนจากที่อยู่ในฐานะอ๋องกลับได้กระโดดขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิเลย แล้วองค์ชายคังกับองค์ชายเย่จะยอมหรือ?ยังมีขุนนางน้อยใหญ่อีก!ดูจากจ้าวฮุยที่เป็นผู้นำพรรคพวกองค์ชายคังจะยอมสยบต่อเซียวหลินเทียนหรือ?หลิงอวี๋มิได้นึกถึงการเปลี่ยนตัวตนของตนเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว นางเป็นพระชายาเพียงผู้เดียวของเซียวหลินเทียน เช่นนั้นก็ต้องเป็น
จะว่าคำพูดเหล่านี้ของเซียวหลินเทียนทำให้หลิงอวี๋ประทับใจก็มิแน่ชัดนัก ความจริงใจในสายตาของเขาต่างหากที่ทำให้หลิงอวี๋ประทับใจหลิงอวี๋เพียงแค่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยออกไป “ทรงงานก่อนเถิดเพคะ! เรื่องของเราไว้ค่อยคุยทีหลังได้!”เซียวหลินเทียนยังทำใจคลายอ้อมกอดออกจากหลิงอวี๋มิได้ เขากลัวว่าทันทีที่ตนคลายออกแล้วต่อไปจะไม่มีโอกาสได้โอบกอดหลิงอวี๋แล้ว“อาอวี๋ ข้ารู้ว่าเจ้ามิชอบฟังคำพูดยิ่งใหญ่ เจ้าดูการกระทำของข้าแล้วกัน!”“ต่อไปข้าจะเป็นสามีที่ดี จะเป็นพ่อที่มีความสามารถ”เซียวหลินเทียนยิ่งพูดก็ยิ่งแน่วแน่หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกรุ่นโกรธ “เซียวหลินเทียน ก่อนหน้านี้เราก็มิได้คาดคิดว่าเสด็จพ่อจะเสด็จสวรรคตคืนนี้ เรื่องราวหลังจากนี้ไม่มีผู้ใดบอกได้แน่ชัดหรอกเพคะ!”“เรื่องนี้… เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเถิด!”หลังจากพูดจบ หลิงอวี๋ก็ใจแข็งผลักเซียวหลินเทียนออก จากนั้นนางก็ตรงดิ่งไปหาไทเฮาเพื่อช่วยไทเฮาเตรียมการเรื่องงานพระราชพิธีพระบรมศพการเปลี่ยนสถานะนั้นหมายถึง การที่สภาพแวดล้อมก็มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จิตใจของคนก็จะยิ่งเปลี่ยนแปลง!หลิงอวี๋เป็นคนที่เคยอ่านประวัติศาสตร์ประมาณห้าพันปีมาแ