จักรพรรดิอู่อันเด้งตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับสีหน้ามิสู้ดี เขาจ้องไป่ซุ่ยเขม็งพลางเอ่ยถามเสียงสั่น “ไทเฮา… ไทเฮาสิ้นแล้วจริงหรือ?”ไป่ซุ่ยร้องไห้พลางเอ่ย “กราบทูลฝ่าบาท เป็นจริงดังนั้นเพคะ… แม่นมเว่ยตกใจจนสลบไปแล้ว บ่าวจึงทำได้เพียงวิ่งมากราบทูลฝ่าบาทเท่านั้น!”“ไป่ซุ่ย ไทเฮาเสวยน้ำแกงบำรุงร่างกายที่ข้าให้ไปแล้วสิ้นลมไปจริง ๆ หรือ?”หลิงอวี๋แสร้งทำเป็นเบิกตาโตอย่างตกใจ “เป็นไปได้เยี่ยงไร? ข้าให้สูตรอ่อนไว้แท้ ๆ เครื่องยาสมุนไพรก็ล้วนเป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อนไม่มีพิษ! จะทำให้ไทเฮาสิ้นลมได้เยี่ยงไร!” “ใช่แล้ว ถังถีเตี่ยนเล่า เขาน่าจะเคยเห็นตำรับยาของข้า เขาว่าอย่างไรบ้าง?”“วันนี้ถังถีเตี่ยนมิอยู่ที่วังเจ้าค่ะ เขาบอกว่าพระชายาอ๋องอี้เรียกพบเขาจึงลาครึ่งวัน!”ไป่ซุ่ยมองหลิงอวี๋อย่างโกรธแค้น “พระชายาอ๋องอี้ ท่านอย่าได้เสแสร้งเลย… เห็น ๆ กันอยู่ว่าท่านจัดแจงให้ถังถีเตี่ยนออกไป ท่านจะรังแกบ่าวกับแม่นมเว่ยที่มิรู้เรื่องเครื่องยาสมุนไพร ดังนั้นจึงจัดตำรับยาที่เป็นพิษเช่นนี้เพราะจะวางยาไทเฮา!”“ฝ่าบาท บ่าวมีหลักฐานเพคะ สามารถยืนยันได้ว่าพระชายาอ๋องอี้จัดตำรับยาพิษเพราะคิดจะวางยาลอบปลงพระชนม์ไทเฮา
“ไทเฮาเสด็จแล้ว...”พวกของหลี่ว์เซียงต่างก็ลุกขึ้นต้อนรับไทเฮาเมื่อพวกอันเจ๋อเห็นไทเฮาปรากฏตัว ความกังวลที่มีต่อหลิงอวี๋เมื่อครู่ก็คลายลงไปเผยอวี้แอบตำหนิหลิงอวี๋ สตรีผู้นี้ จะต้องทำให้ผู้คนตื่นตระหนกกันก่อนทุกครั้งแล้วจึงจะหยุดหรือ?นี่จะต้องเป็นแผนการของพี่หลิงหลิงแน่นอน!เขาว่าแล้วว่าหลิงอวี๋มิใช่คนโง่เขลาถึงเพียงนั้น ที่จะจัดตำรับยาพิษให้ไทเฮาแล้วถูกใครจับพิรุธได้พระชายาเส้าเองก็ลุกขึ้นตามทุกคนเช่นกัน เมื่อนางเห็นไทเฮานางก็รู้เลยว่าครั้งนี้หลิงอวี๋ชนะอย่างแน่นอนเช่นนั้น เพื่อเป็นการแสดงถึงความจริงใจในการร่วมมือ นางต้องออกโรงแล้ว“ไทเฮา...”ฮองเฮาเว่ยท่าทีราวกับเห็นวิญญาณ นางมองไทเฮาอย่างตื่นตระหนกแล้วก็มองไปทางไป่ซุ่ยอย่างโหดร้ายไป่ซุ่ยตกใจจนวิญญาณหลุดจากร่างไปแล้ว นางมิเข้าใจว่ามันผิดพลาดตรงที่ใด นางเห็นว่าไทเฮากระอักเลือดอยู่แท้ ๆ เชียว...“เหอะ ๆ ไป่ซุ่ย ที่จริงข้าเคยให้โอกาสเจ้าแล้วแต่เจ้าก็พลาดมันไป...”ในตอนที่เดินผ่านไป่ซุ่ย ไทเฮาหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าพลางทอดถอนใจแม่นมเว่ยมองไป่ซุ่ยด้วยสายตาเย็นชาพลางเอ่ยอย่างเยาะเย้ย “พวกเราสงสัยมานานแล้วว่าเจ้าคือ
“เสด็จพ่อ เมื่อครู่เสด็จแม่เพียงพระทัยโอนอ่อนไปตามคำยุยงของไป่ซุ่ยคนชั่วทั้งนั้นพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้ความจริงปรากฏแล้ว แน่ชัดว่า ไป่ซุ่ยคนชั่วผู้นี้มิปรารถนาจะรับใช้ไทเฮา จึงได้วางยาพิษไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อเห็นผู้คนทั้งหลายมิได้เอ่ยวาจาใด องค์ชายเว่ยจึงจำต้องฝืนใจเข้ามากราบทูลแก้ต่างให้แก่ฮองเฮาเว่ย“ไทเฮา เสด็จแม่ของกระหม่อมตั้งแต่เข้าวังมาล้วนกตัญญูต่อไทเฮาอย่างสุดหัวใจ ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสุดความสามารถมิเคยขาดตกบกพร่อง ไทเฮาทรงทราบดีอยู่แล้ว จึงควรทรงเข้าพระทัยว่าเสด็จแม่ของกระหม่อมไม่มีวันปรารถนาให้ไทเฮาสิ้นพระชนม์พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยทูลวิงวอนไทเฮาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน จักรพรรดิอู่อันเป็นผู้กตัญญู หากไทเฮามิทรงประสงค์จะสืบสวนต่อไป เรื่องราวในวันนี้ก็จะจบลงเพียงเท่านี้ไทเฮาให้จักรพรรดิอู่อันช่วยประคองให้นั่งลง แม้ว่าตนจะ ‘สลบ’ ไปหลายวัน แต่ด้วยยาบำรุงร่างกายของหลิงอวี๋ ร่างกายของไทเฮาจึงแข็งแรงกว่าเดิมแต่เมื่อนึกถึงว่าตนปฏิบัติต่อองค์ชายเว่ยและฮองเฮาเว่ยอย่างดี แต่ฮองเฮาเว่ยกลับกล้าสั่งให้ไป่ซุ่ยวางยาพิษตนเพื่อซัดทอดไปหาหลิงอวี๋ใจของไทเฮาเย็นเฉียบลง สายตาของนางกวาดมองไปยังอง
“พูดจาเหลวไหล! ข้ามิเคยทำเช่นนั้น และมิเคยพูดเช่นนั้นด้วย!”ฮองเฮาเว่ยทรงโกรธจนหน้าบิดเบี้ยว ชี้ไปที่ไป่ซุ่ยและตรัสว่า “นางบ่าวชั่ว เจ้าได้รับสินบนจากผู้ใดจึงบังอาจใส่ร้ายข้าเช่นนี้!”“ข้าจะไปหาซื้อยาพิษมาให้เจ้าได้อย่างไร บ่าวชั่วช้าเช่นเจ้า สมควรเป็นอนุภรรยาของโอรสข้ารึ? ฝันกลางวันหรืออย่างไร!”เมื่อเห็นว่าฮองเฮาเว่ยเสียสติไปแล้ว พระชายาเส้าก็ยกมุมปากขึ้นด้วยความเยาะหยันและหันไปมองหลิงอวี๋หลิงอวี๋คงมิคิดว่าจะสามารถโค่นล้มฮองเฮาเว่ยได้ด้วยวิธีนี้กระมัง?หลิงอวี๋มิตื่นตระหนก “ฝ่าบาท ไป่ซุ่ยน่าจะมีหลักฐาน! แม้ว่านางจะตื้นเขิน แต่ก็ติดตามรับใช้ไทเฮามาหลายปี ได้รับรางวัลมากมายจากไทเฮา แน่นอนว่าย่อมมีชั้นเชิงอยู่แล้ว!”“จำเป็นต้องมีผู้ที่สามารถชักจูงนางได้ เนื่องจากคำสัญญาที่พูดลอย ๆ นางคงมิให้ความสนใจ!”คำพูดนี้ทำให้ไป่ซุ่ยนึกอะไรขึ้นได้ นางยื่นมือออกไปแล้วดึงแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นกำไลที่พันไว้ด้วยผ้าทันทีที่ฮองเฮาเว่ยเห็นก็แทบลมจับ นางลืมสิ่งนี้ไปได้อย่างไรในเวลานั้น เพื่อซื้อตัวไป่ซุ่ย นางตั้งใจให้คำสัญญาพร้อมกับเงินจำนวนมาก ทว่าไป่ซุ่ยกลับชอบกำไลของนางมากกว่า จึงจำใจต้องมอ
แรกเริ่มฮองเฮาเว่ยยังมิรู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี เมื่อได้รับคำแนะนำจากพี่ชาย นางก็จับจุดเข้าใจได้ในทันที จึงเอ่ยว่า“ฝ่าบาท แม่นมเจิ้งรับใช้หม่อมฉันมานานหลายปี นางเคยกล่าวว่า กำไลทับทิมสีเลือดหายไป ทว่าเวลานั้นหม่อมฉันมิได้คิดสงสัยนาง!”“ผู้ใดจะคิดว่านางช่างโหดเหี้ยมและมีเจตนาร้ายเช่นนี้! หม่อมฉันช่างมีตาหามีแววไม่ มองคนผิดถนัด!”แม่นมเจิ้งได้ยินเหล่าสมาชิกตระกูลเว่ยโยนความผิดให้กับนาง ก็รู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัวนางรับใช้ฮองเฮาเว่ยมานานเกือบทั้งชีวิต ฮองเฮาเว่ยกลับตลบหลังนางเช่นนี้หรือ?นี่เป็นโทษฐานวางยาพิษไทเฮา ความผิดถึงขั้นต้องโทษประหารชีวิต!ครั้นนึกถึงครอบครัวของนางที่ล้วนเป็นบ่าวรับใช้ภายในตระกูลเว่ย หากนางมิออกหน้ารับผิดชอบความผิดนี้เพื่อปกป้องฮองเฮาเว่ย ตระกูลเว่ยย่อมไม่มีทางปล่อยครอบครัวของนางไปแม่นมเจิ้งอายุมากแล้ว เหลือเวลาอีกมิกี่ปีที่จะมีชีวิตอยู่ สู้ยอมสละชีวิตนี้เพื่อปกป้องฮองเฮาเว่ยเสียยังดีกว่า!แม่นมเจิ้งลังเลเพียงชั่วครู่ ทันใดนั้นก็เดินโซเซออกมาแล้วคุกเข่าลง“ฝ่าบาท เป็นความผิดของบ่าวเองเพคะ เป็นบ่าวที่ขโมยกำไลทับทิมสีเลือดของพระนาง แล้วแอบอ้างพระนามพระนางเ
พระชายาเส้ายังมองมิเห็นรายการในสมุดบัญชีในมือของจักรพรรดิอู่อัน แต่ก็พอจะทราบว่าตนควรลงมือเพื่อให้ฮองเฮาเว่ยได้รับการลงทัณฑ์อย่างถึงที่สุดเสียทีพระชายาเส้ายกมือขึ้นเล็กน้อย แม่นมจึงรีบนำสมุดเล่มหนึ่งมาถวายพระชายาเส้ายื่นสมุดเล่มนั้นให้แก่ขันทีฉางแล้วเอ่ยเบาๆ “ก่อนหน้านี้ แม่นมของหม่อมฉันออกไปกำจัดแมลงในสวน แล้วบังเอิญพบสิ่งนี้ซ่อนอยู่ในมุมมืดมิดชิด จึงคิดหาโอกาสที่จะนำมาถวายฝ่าบาท แต่บัดนี้ถือโอกาสนำมาถวายพร้อมกันนี้เลย ขอฝ่าบาททรงวินิจฉัยเอาเองเถิดเพคะ!”ขันทีฉางเข้าใจ จึงนำสมุดเล่มนั้นถวายแด่องค์จักรพรรดิจักรพรรดิอู่อันโหรธจนหน้าแดงก่ำเมื่อมองสมุดเล่มที่พระชายาเส้ายื่นถวาย พลิกไปเพียงมิกี่หน้า โทสะก็ระเบิดออกมาอย่างมิอาจยับยั้ง“เว่ยเสียน เจ้าต้องการหลักฐานอีกหรือไม่? หลักฐานมากมายถึงเพียงนี้ ยังมิเพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของเจ้าอีกรึ?”ปัง...จักรพรรดิอู่อันทรงฟาดสมุดเล่มนั้นใส่ร่างฮองเฮาเว่ยอย่างแรง ฮองเฮาเว่ยก้มลงมองสมุดเล่มที่พระชายาเส้าเพิ่งยื่นถวาย ทันใดนั้นหน้าของนางก็พลันซีดเผือดราวกับคนตายสมุดเล่มนี้จดบันทึกความลับที่นางได้กระทำลงไปตลอดหลายปีที่ดำรงตำแหน่งฮองเฮา
เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิอู่อันต้องการยุติเช่นนี้ หลิงอวี๋มีหรือจะยอมปล่อยองค์ชายเว่ยไป นางจึงรีบทูลว่า“เสด็จพ่อเพคะ ยังมีคดีขององค์ชายเว่ยที่ยังมิได้ไต่สวนรออยู่เพคะ! พระองค์ได้สั่งให้จู้เต๋อทำลาย…”ก่อนที่หลิงอวี๋จะพูดจบ ฮองเฮาเว่ยก็ทรงร้องครวญขึ้นมา “หลิงอวี๋ เจ้าอย่าได้รังแกเราสองแม่ลูกให้มันมากเกินไปนัก! เจ้าต้องการให้เราแม่ลูกตายจริง ๆ หรือ?”“จ่างหนิงของข้าก็ตายเพราะเจ้า เจ้ายังมิสาสม มิยอมปล่อยเราไปอีกงั้นรึ? ต้องฆ่าเราให้สิ้นซากเสียก่อนจึงจะพอใจหรืออย่างไร?”หลังจากที่ฮองเฮาเว่ยร้องคร่ำครวญจบ นางก็หันไปทางจักรพรรดิอู่อันแล้วเอ่ยทั้งน้ำตา“ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้ว! หม่อมฉันทรยศต่อความไว้วางพระทัยของฝ่าบาท... หม่อมฉันยอมรับผิดเพคะ!”“จู้เต๋อผู้นั้น หม่อมฉันเป็นคนสั่งให้เขาไปทำลายอ๋องอี้! ครอบครัวของเขาก็เป็นหม่อมฉันที่สั่งให้แม่นมเจิ้งไปจับตัวมา... องค์ชายเว่ยมิรู้เรื่องเลยเพคะ! เป็นหม่อมฉันที่สั่งการทั้งหมด!”“หม่อมฉันทำผิด! หม่อมฉันจะขอชดใช้ด้วยชีวิตเพคะ!”เมื่อฮองเฮาเว่ยพูดจบ นางก็ทรงพุ่งไปยังเสาด้านข้างมิว่าอย่างไร นางก็ถูกปลดจากตำแหน่งฮองเฮาแล้ว ฮองเฮาเว่ยจึงต้องการแ
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างก็เห็นรอยเลือดไหลออกจากหน้าอกของเซียวหลินเทียน ต่างก็ตกใจกันเป็นอย่างมากแม้แต่ไทเฮายังพิโรธ ฮองเฮาเว่ยได้สั่งให้ไป่ซุ่ยวางยาพิษนางมาก่อน บัดนี้ยังกล้าลงมือทำร้ายเซียวหลินเทียนต่อหน้าธารกำนัลอีก นับเป็นความชั่วร้ายที่มิอาจให้อภัยได้“ใครก็ได้ พาตัวเว่ยเสียนออกไปตัดหัวเสีย!”เสียงคำรามของจักรพรรดิอู่อันทำให้ทุกคนในตระกูลเว่ยต่างก็ตกใจกลัวองค์ชายเว่ยลอบต่อว่าฮองเฮาเว่ยในใจ ในเวลาเช่นนี้นางควรรักษาชีวิตตนเอาไว้ก่อน ไฉนจึงคิดลอบสังหารเซียวหลินเทียนเล่านั่นมิยิ่งเป็นการซ้ำเติมความผิดหรอกหรือ“ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตาด้วย...”เว่ยเฉิงมิอยากให้น้องสาวของตนถูกตัดศีรษะ จึงโขกหัวคำนับกับพื้น“ฝ่าบาท โปรดพระราชทานโอกาสให้นางอีกสักครั้งเถิด พระนางจะคิดทบทวนความผิดของตนอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”ทุกคนในตระกูลเว่ยต่างก็คุกเข่าลงเพื่อช่วยกันวิงวอนขอความเมตตาให้ฮองเฮาเว่ยพระชายาเส้าเฝ้าดูอยู่ด้วยความสะใจระคนหวาดกลัวที่สะใจก็เพราะยิ่งตระกูลเว่ยวิงวอนร้องขอความเมตตาเท่าไร องค์จักรพรรดิก็ยิ่งพิโรธมากขึ้นเท่านั้น แล้วศัตรูคู่แค้นเก่าแก่ของนางอย่างเว่ยเสียนคงต้องตาย