แชร์

บทที่ 48

ผู้เขียน: ซูเหยียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 13:40:01
บรรยากาศละมุนละไมขึ้นทันใด!

“หยุดนะ!”

ใบหน้าไป๋ซวงแดงระเรื่อเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากห้ามปราม

นางสูดหายใจเข้าเล็กน้อย เพื่อคลายความกระอักกระอ่วนทางสีหน้า

จากนั้นจึงเอ่ยอย่างขึงขัง

“จวินจิ๋วอิ่น ก่อนหน้านี้ข้าคิดจะพักแค่สิบวัน เพราะคร้านไปหาโรงเตี๊ยมจึงพักอยู่จวนอ๋อง แต่ดูจากตอนนี้ เกรงว่าข้าคงต้องพำนักอยู่ที่เมืองหลวงเป็นระยะเวลานานพอสมควร ดังนั้นข้าจึงคิดจะซื้อบ้านที่เมืองหลวงสักหลัง”

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

ใจของจวินจิ๋วอิ่นชาวาบทันที

“ไม่ได้ ข้าไม่เห็นด้วย! เจ้าเป็นพระชายาของข้า หนำซ้ำเสด็จพ่อมีราชโองการพระราชทานสมรสแล้ว พระชายาจะไปพำนักอยู่ด้านนอกได้อย่างไร”

“จวินจิ๋วอิ่น พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกัน อีกอย่างข้าไม่ได้คิดจะแต่งงานกับท่าน!”

ไป๋ซวงเพิ่งจะกล่าวออกไป คนที่เดิมทีควรจะเข้านอน กลับร้องไห้โฮขึ้นมาทันใด

“ซวี่เป่า เจ้าเป็นอะไร?”

ไป๋ซวงรีบเดินไปข้างเตียง เห็นซวี่เป่าที่ร้องไห้ดุจดังดอกสาลี่ต้องหยาดฝน

จวินจิ๋วอิ่นรีบเดินเข้าไปเช่นกัน แล้วนั่งลงอีกด้านหนึ่งของเตียง

มือหนึ่งของซวี่เป่าจับมือท่านแม่ อีกมือหนึ่งจับมือท่านพ่อไว้

ร้องไห้อย่างน่าสงสารมาก!

เมื่อครู่เขาเงี่ยหูฟังอยู่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 49

    เดิมที คำสั่งที่เหลิ่งเย่ได้รับก็คือหากตระกูลไป๋ไม่ลงมือ เขาก็จะไม่ลงมือเรื่องที่ไป๋เส้าเจี๋ยถูกทำร้าย จวินจิ๋วอิ่นปิดข่าวเอาไว้แล้วแต่เมื่อไม่ได้รับข่าวจากไป๋เส้าเจี๋ยหลายวันติดต่อกัน บวกกับข่าวที่ไป๋เส้าเจี๋ยส่งกลับมาก่อนหน้านี้ไป๋คังเจี้ยนลูกชายของไป๋เส้าเจี๋ยจึงพอจะเดาได้ว่าท่านพ่อของเขาอาจจะเกิดเรื่องแล้วดังนั้น จึงรีบติดต่อทุกคนในตระกูลไป๋ และยังเชิญผู้อาวุโสตระกูลไป๋ลงจากเขาพวกเขาอยากจะคุมตัวไป๋เฉินเอาไว้ เพื่อใช้ข่มขู่ไป๋ซวงเพียงแต่นึกไม่ถึงว่าขณะที่พวกเขาพยายามจะพาตัวไป๋เฉินไปทันใดนั้นกลับมียอดฝีมือคนหนึ่งปรากฏตัว แล้วเริ่มแย่งคนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงตระกูลไป๋รู้ว่านี่อาจเป็นคนของไป๋ซวงดังนั้นจึงเริ่มต่อสู้กันพวกไป๋คังเจี้ยนล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลิ่งเย่สุดท้ายผู้อาวุโสของตระกูลไป๋ต้องออกหน้า ถึงค่อยคุมสถานการณ์เอาไว้ได้เหลิ่งเย่ถือกระบี่คมกริบ ยืนอย่างมั่นคงอยู่กลางเรือนด้านหลังของเขาคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ซูบผอมเสื้อผ้าชายหนุ่มไม่เรียบร้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเหลืองซีดทั่วทั้งตัวมีบาดแผลมากมาย บางจุดยังมีเลือดซึมออกมาริมฝีปากของเขาแห้งผาก ดวงตาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 50

    พายุที่หมุนด้วยความเร็วสูง เพิ่มพลังของคมกระบี่ให้แข็งแกร่งขึ้นสุดขีดสองมือของเหลิ่งเย่ เริ่มสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าซื่อจื่อน้อยพูดถูกต้องเขาเป็นไก่อ่อน!แม้แต่ตาเฒ่ากลุ่มหนึ่งก็ยังรับมือไม่ได้เหลิ่งเย่กัดฟันอย่างไม่ยินยอม จนมุมปากเริ่มมีเลือดซึมส่วนเหล่าผู้อาวุโสตระกูลไป๋ย่อมรู้ว่าพลังวิญญาณของเหลิ่งเย่ใกล้จะผลาญหมดแล้วดังนั้นจึงยกมุมปากขึ้นยิ้มกระหยิ่ม แล้วหันไปสบตากันพวกเขาเพิ่มพลังกดดันและพลังวิญญาณ เพื่อให้พายุหมุนในค่ายกลทวีความรุนแรงขึ้นแกรก แกรก...คมกระบี่ปะทะกับโล่กิเลนฟ้าจนเกิดเป็นเสียงแหลมบาดหูจากนั้นรอยโหว่ก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นหลังจากเสียงปะทะดังกึกก้อง โล่กิเลนฟ้าก็ถูกทำลายจนหมดคมกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปที่เหลิ่งเย่และไป๋เฉินเหลิ่งเย่เห็นดังนั้น จึงรีบคุ้มกันไป๋เฉินไว้ใต้ร่างโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยเขาเคยกล่าวไว้ หากอยากทำร้ายไป๋เฉิน ต้องข้ามศพเขาไปก่อนเขาหลับตาลง แล้วรอคอยความเจ็บปวดมาเยือนทว่าความเจ็บปวดที่คาดการณ์ไว้กลับไม่มาเยือนเลยตอนเขาลืมตาขึ้นก็เห็นท่านอ๋องและพระชายาร่อนลงมาจากฟ้าจวินจิ๋วอิ่นซัดฝ่ามือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 51

    เมื่อไป๋เฉินได้ยินคำพูดของพี่สาวที่เต็มไปด้วยการตำหนิตัวเอง เขาก็หยุดร้องไห้ทันทีเขาเช็ดมือที่สกปรกของตัวเองแรง ๆ บนร่างกายจากนั้นถึงค่อยเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาจากบนใบหน้าพี่สาว สีหน้าดูภาคภูมิใจและหยิ่งทระนงตน“ท่านคือพี่สาวที่ข้ารักมากที่สุดตลอดไป! เรื่องในตอนนั้น ไม่ใช่ความผิดของพี่หญิง คนผู้หนึ่งมีพรสวรรค์ดีเลิศคือความผิดหรือไร? คนที่ผิดคือพวกคนที่ต้องการแย่งชิงรากวิญญาณของพี่หญิงต่างหาก”ไป๋ซวงหัวเราะทันใดถูกต้อง ไม่ใช่ความผิดของนางคนผิดคือบรรดาคนที่หมายปองรากวิญญาณของนางเหล่านั้น“เฉินเอ๋อร์วางใจ ความเจ็บปวดที่เจ้าได้รับในวันนี้ พี่จะเอาคืนให้เจ้าเป็นร้อยเท่าพันเท่า!”ระหว่างที่พูด ไป๋ซวงตบบ่าน้องชายเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนทุกคนในตระกูลไป๋รู้แล้วว่าไป๋ซวงกลับมาแล้วแต่ได้ยินก็อีกเรื่องหนึ่ง ได้มาเห็นก็อีกเรื่องหนึ่งพวกคนหนุ่มสาวยังดี เป็นลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือทว่าคนที่เคยช่วยคนตระกูลไป๋เก็บกวาดซากศพเหล่านั้น ขณะนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวโดยเฉพาะตอนที่ไป๋ซวงยื่นมือออกไป แล้วนำเส้นไหมวิญญาณโลหิตออกมาเมื่อเห็นเส้นไหมวิญญาณสีแดงฉาน หมุนวนที่ปลายนิ้วของไป๋ซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 52

    ไป๋ฮูหยินพูดด้วยเสียงสะอื้นไห้ หวังเพียงให้ท่านอ๋องเก้าได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของไป๋ซวงหากท่านอ๋องเก้าปกป้องไป๋ซวง เวลาพวกนางลงมือคงไม่ถนัดนักหากท่านอ๋องเก้าเกลียดชังไป๋ซวง พวกนางจะสามารถจัดการนางได้เต็มที่เมื่อไป๋ฮูหยินพูดจบก็มองท่านอ๋องเก้าด้วยแววตาร้อนใจ หวังเพียงได้เห็นความตะลึงและเกลียดชังในแววตาของจวินจิ๋วอิ่นทางที่ดี ขอให้เขาลงโทษไป๋ซวงในฐานหลอกลวงทว่าจวินจิ๋วอิ่นกลับทำเหมือนฟังเรื่องขบขัน ก่อนจะแค่นเสียงเย็นออกมา“แค่นี้หรือ?”เขาหรี่ตาลงอย่างเย็นชา ทว่ากลับปกปิดรัศมีคมกริบไม่ได้“ข้ายังนึกว่าพระชายาไปสังหารใครเข้า? ก็แค่ลงโทษประหารชีวิตพวกเดรัจฉานเท่านั้น ยังจะพูดถึงชีวิตมนุษย์อะไรกัน!”ไป๋ฮูหยินตกตะลึง ใบหน้าเขียนคำว่าไม่อยากจะเชื่อเต็มไปหมดท่านอ๋องเก้าหมายความว่าอย่างไร?หากเป็นคนในยุทธภพก็ว่าไปอย่าง แต่ในสายตาท่านอ๋องเก้า คนของตระกูลไป๋ไม่ต่างจากเดรัจฉานหรือ?แม้แต่คนของตระกูลไป๋ที่กำลังคุกเข่าต่างก็เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรงขึ้นมาทว่ากลับไม่กล้าพูดสิ่งใดต่อหน้าท่านอ๋องเก้าคนตระกูลไป๋ไม่กล้า แต่ไป๋ฮูหยินกล้านางเป็นประมุขหญิงของตระกูลไป๋มาหลายปี ย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 53

    ผู้อาวุโสใหญ่มองดูเส้นไหมวิญญาณโลหิตที่เปล่งประกายสีแดงเหนือหัว ในใจพลันหวาดกลัวไม่หยุดเขารวบรวมพลังวิญญาณโดยไม่รู้ตัว เพื่อต่อต้านพลังกดดันที่เกิดจากเส้นไหมวิญญาณโลหิตแรงกดดันดุจขุนเขาพุ่งตรงมาที่กลางกระหม่อมของผู้อาวุโสใหญ่หัวเข่าสองข้างรับน้ำหนักไม่ไหว จึงคุกเข่าลงพื้นดังตุบแผ่นหินบนพื้น แตกร้าวเป็นรอยใยแมงมุมทันทีเขากระอักเลือดพรวดออกมา แววตาเต็มไปด้วยความหวาดผวาไป๋ซวงร้ายกาจถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?แค่พลังกดดันก็ทำให้เขาแพ้ไม่เป็นท่าเลยหรือ?ไป๋ซวงมองแววตาหวาดกลัวของผู้อาวุโสใหญ่ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ เดินเข้าไปใกล้“ผู้อาวุโสใหญ่จะใจร้อนไปไย? กลัวข้าจะขุดรากวิญญาณของท่านแล้วปลูกถ่ายให้ท่านพ่อหรือ?”ระหว่างที่พูด กระบี่เสินอิ่นปรากฏขึ้นในมือไป๋ซวงบนกระบี่เสินอิ่นมีแสงสีเงินวิบวับ ปลายกระบี่ชี้ไปตรงไปยังชีพจรหัวใจของผู้อาวุโสใหญ่“ไป๋ซวง เรื่องรากวิญญาณของพ่อเจ้าไม่เกี่ยวกับข้าแม้แต่น้อย!”ผู้อาวุโสใหญ่กลัวสุดขีด อยากจะรีบถอยหนีแต่ทำอะไรไม่ได้ พลังกดดันของไป๋ซวงยิ่งใหญ่เกินไปเขาขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่น้อย“ไม่เกี่ยวข้องหรือ?”ไป๋ซวงแค่นเสียงเย็น ปลายกระบี่วา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 54

    เมื่อพูดจบ นิ้วมือของนางกำหมัดแน่นชายหนุ่มคนนั้นร้องโหยหวน ถูกเส้นไหมวิญญาณโลหิตฟันเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีทุกคนในตระกูลไป๋ตะลึงก่อน จากนั้นก็พากันหวาดผวาหากวันนี้มีเพียงไป๋ซวงคนเดียว บางทีพวกเขาอาจจะต่อสู้เดิมพันด้วยชีวิตทว่ายามนี้ ท่านอ๋องเก้าอยู่ข้างกายนางหนำซ้ำดูจากท่าทีของเขา ท่านอ๋องเก้าต้องเข้าข้างไป๋ซวงแน่นอนทุกคนในตระกูลไป๋กล้าโกรธแต่ไม่กล้าปริปากไป๋ซวงโกรธจัด ทำให้พลังวิญญาณทั่วทั้งร่างปะทุออกมาทันทีพลังกดดันอันยิ่งใหญ่ปกคลุมเหนือหัวทุกคนเส้นไหมวิญญาณโลหิตค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นราวกับเลือดปกคลุมทุกคนในตระกูลไป๋ให้อยู่ภายใต้พลังกดดัน“ไป๋ซวง ใช่ว่าทุกคนในตระกูลไป๋จะเคยทำผิด พวกเรายินดีมอบคนที่เคยล่วงเกินพวกเจ้าให้กับเจ้า ขอเจ้าโปรดละเว้นผู้บริสุทธิ์คนอื่น ๆ ในตระกูลไป๋ด้วย”ผู้อาวุโสทั้งเก้าคนรวบรวมพลังวิญญาณ ต้านทานพลังกดดันจากเส้นไหมวิญญาณโลหิตผู้อาวุโสสามถูกบีบจนใบหน้าแดงเถือก เอ่ยวิงวอนอย่างยากเย็น“ผู้อาวุโสสาม!”ผู้อาวุโสเก้ามองผู้อาวุโสสามอย่างร้อนใจ ในฐานะที่เขาเป็นผู้อาวุโส เขาจะผลักไสคนในตระกูลไป๋ออกไปได้อย่างไร?“ผู้อาวุโสเก้า เดิมทีเรื่องนี้เกิดขึ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 55

    เมื่อไป๋ซวงพูดจบ กระบี่เสินอิ่นพุ่งออกไปตรงตำแหน่งชีพจรหัวใจของไป๋คังเจี้ยนมีรอยแผลเพิ่มขึ้นทันทีจากนั้น รากวิญญาณธาตุดินของเขาก็ถูกขุดออกมารากวิญญาณธาตุดินนั้นถูกไป๋ซวงเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าอย่างรุนแรงท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของไป๋ฮูหยินจนกระทั่งรากวิญญาณธาตุดินนั้นสลายไปจากใต้ฝ่าเท้าของไป๋ซวง นางถึงค่อยยกเท้าขึ้นมา“นังแพศยา!”ไป๋ฮูหยินด่าทอย่างเกรี้ยวกราด ยกมือขึ้นรวบรวมพลังวิญญาณโจมตีใส่ไป๋ซวงไป๋ซวงเชยตาขึ้นอย่างดูแคลน ก่อนจะพลิกข้อมือกระบี่เดียวแทงลำคอ!ไป๋ฮูหยินกุมลำคอตัวเองอย่างตะลึง ไม่อาจเปล่งเสียงก่นด่าด้วยความโกรธเกรี้ยวได้อีกต่อไปส่วนไป๋คังเจียนที่เพิ่งฟื้นขึ้นเพราะความเจ็บปวด ตื่นมาก็เห็นว่าทั่วทั้งร่างของตนเองเต็มไปด้วยเลือดหนำซ้ำข้างกายยังมีมารดาที่ถูกปาดคอในกระบี่เดียวเขารับความสะเทือนใจนี้ไม่ไหว จึงหมดสติไปอีกครั้งไป๋ซวงมองคนตระกูลไป๋ที่ตัวสั่นงันงกขดตัวอยู่ในมุม“ข้าไป๋ซวง แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ใช่คนที่จะถูกรังแกได้ง่าย ๆ ข้านึกว่าพวกเจ้าควรจะรู้ผ่านจากเหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีก่อนแล้ว น่าเสียดาย พวกเจ้ากลับไม่รับรู้เรื่องนี้เลย ไป๋เฉิน ความแค้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 56

    “อืม”จวินจิ๋วอิ่นตอบเชื่องช้า ในดวงตามีความผิดหวังอย่างชัดเจน“ข้าไม่เคยเห็นภาพที่ฮูหยินลงมืออย่างดุดันเด็ดเดี่ยวมาก่อน ไม่ง่ายกว่าจะได้เห็นสักครั้ง แม้แต่วิธีเก็บกวาดจากนี้ก็คิดไว้เสร็จแล้ว แต่กลับหมดสนุกเสียก่อน”“เช่นนั้นคงต้องทำให้ท่านผิดหวังแล้ว แม้ข้าจะได้ชื่อว่าเป็นนางมาร แต่ไม่ได้กระหายการฆ่าจนเป็นนิสัย”“อืม ฮูหยินจิตใจดีที่สุด หากเป็นข้า จะต้องทำให้ตระกูลไป๋ล้มตายมลายไปสิ้น ยังจะปล่อยให้พวกเขากระโดดโลดเต้นอีกหรือ”“คงกระโดดโลดเต้นไปได้ไม่กี่วันหรอก อย่างไรพวกเขาก็ต้องชดใช้”“อืม ฮูหยินพูดถูก”ท่าทางของจวินจิ๋วอิ่นที่โอนอ่อนผ่อนตามฮูหยินทุกอย่าง ทำให้ไป๋ซวงส่ายหน้าอย่างระอานางจึงไม่พูดอีกเลย แล้วหลับตาพักผ่อนหลังจากระหกระเหินอยู่บนรถม้าตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงจวนอ๋องเก้าหลังจากไป๋เฉินทำความเข้าใจมาตลอดทาง บวกกับคำชี้แนะจากจวินจิ๋วอิ่นเขายอมรับเรื่องที่มีพี่เขยเป็นท่านอ๋อง มีพี่สาวเป็นพระชายาได้แล้วได้ยินพี่เขยบอกว่าพวกเขายังมีลูกชายอีกหนึ่งคนนิสัยแปลกประหลาด เป็นเด็กดีน่ารักเขาแทบจะอดทนรอไม่ไหวนิดหน่อยแล้วเมื่อรถม้าจอดสนิท จวินจิ๋วอิ่นจูงมือไป๋ซวงลงจากรถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 80

    รถม้าหลายคันนั้นที่อยู่ด้านหลัง มีพลังวิญญาณเต็มเปี่ยมปกคลุมอยู่ผ้าม่านของรถม้าจงใจพับขึ้นไว้ ทำให้มองเห็นขวดและโถเหล่านั้นได้อย่างเหมาะเจาะมันเหมือนกับโถที่ใช้เป็นของขวัญตอบแทนให้กับองค์ชายเก้าในวันนั้น เกรงว่าด้านในจะเป็นของเพิ่มพลังวิญญาณเช่นกันกระมังถ้าอย่างนั้นรถม้าเหล่านั้นที่บรรทุกของมาเต็มคันรถ ทั้งหมดคือของที่พระชายาองค์ชายเก้ามอบให้ฮ่องเต้ใช่หรือไม่?ทั้งเมืองหลวงโจษจันกันเซ็งแซ่อีกครั้ง!ฮ่องเต้ทรงลากจูงรถม้าสองสามคันที่บรรทุกของเพิ่มพลังวิญญาณมาจากจวนขององค์ชายเก้าของเพิ่มพลังวิญญาณนั้น ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานอย่างมาก ในช่วงเวลานั้น ผู้คนในเมืองหลวงยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอร้านค้าของพระชายาโจวหวันฉี่บังเอิญมองเห็นรถม้าของจวินฉงจากหน้าต่างของสถานที่พักแรมเพลิงแห่งความริษยาในดวงตาแทบจะมอดไหม้ตนเองโจวหลิงซางแตะไหล่ของน้องสาวเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจอย่างแผ่วเบา“หวันฉี่ ไป๋ซวงผู้นั้นดูท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว”นางนำสิ่งของที่เพิ่มพลังวิญญาณออกมาได้ อีกทั้งยังมีของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้นอีกจะเป็นหญิงสาวชาวชนบทได้หรือ?แม้แต่พวกเขา เกรงว่าก็ยังหาสิ่งของที่ล้ำค่าเช่

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 79

    ไป๋ซวงกับจวินจิ๋วอิ่นกำลังจัดระเบียบของขวัญที่ส่งมาในช่วงหลายวันนี้ในคลังสมบัติคลังขนาดใหญ่ในตอนนี้เริ่มจะเต็มแล้วหากไม่ใช่ก่อนหน้านี้ จวินจิ๋วอิ่นส่งสินสอดจำนวนไม่น้อยไปให้ตระกูลไป๋ เกรงว่าคลังแห่งนี้คงเก็บของไม่พอเป็นแน่ทันใดนั้นหงเยว่ก็เร่งรีบเข้ามา“ทูลองค์ชาย พระชายา ฮ่องเต้กับพระสนมเอกเสด็จมาเพคะ”“มาก็มาสิ เหตุใดต้องลนลาน?”จวินจิ๋วอิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมจูงมือไป๋ซวงเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่รีบร้อนทั้งสองคนยังเดินไม่ถึงหน้าประตู พวกเขาก็เห็นจวินฉงกำลังอุ้มซวี่เป่า พร้อมกับจูงมือจีหรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวง จวินฉงก็มองพวกเขาอย่างไม่พอใจ “ซวี่เป่ายังรู้จักมารยาทดีเสียกว่า พอรู้ก็มารออยู่ที่ประตูทางเข้าล่วงหน้าแล้ว” ไป๋ซวงก้มหน้าผงกศีรษะ พร้อมกับมีรอยยิ้มบนมุมปาก“เสด็จพ่อทรงเอ่ยถูกต้อง ไป๋ซวงออกมาช้าไปเพคะ”นับตั้งแต่ไป๋ซวงตัดสินใจแต่งงานกับจวินจิ๋วอิ่น นางก็เปลี่ยนคำเรียกขานจวินฉงกับพระสนมเอก“หากเสด็จพ่อไม่พอพระทัย คราวหน้าลูกก็จะไม่ออกมา”จวินจิ๋วอิ่นมองจวินฉงด้วยความไม่พอใจ พร้อมดึงไป๋ซวงเข้ามาข้าง ๆ ตนจวินฉงแ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 78

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูงชนที่อยู่หน้าประตูพากันตาลุกวาวพระชายาจะเปิดร้านเพื่อขายของเพิ่มพลังวิญญาณโดยเฉพาะ?พระชายาทรงรู้จักวิญญาจารย์ด้วยหรือ?เหตุใดพระชายาทรงยอดเยี่ยมเพียงนี้?ทั้งยังขายสมุนไพรวิเศษด้วย!ของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้น พวกเขาก็เพิ่งจะเคยพบเห็นนั่นเป็นสิ่งของล้ำค่าที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้“พระชายา ของเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านั้น พวกเราสามารถซื้อไหวหรือพ่ะย่ะค่ะ?”บางคนอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ว่า ของเพิ่มพลังวิญญาณล้ำค่าเช่นนั้น สามัญชนคนธรรมดาอย่างพวกเขาจะซื้อไหวหรือ?“สิ่งของแต่ละชิ้นล้วนมีมูลค่าของมัน สิ่งของล้ำค่าของวิญญาจารย์ และสิ่งของที่ผ่านการเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านี้ แน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงกว่าของธรรมดาทั่วไป ทว่าขอให้ทุกคนวางใจ ร้านนี้เปิดทำการค้าก็ย่อมต้องให้ทุกคนจับจ่ายซื้อหาได้ เราถึงจะทำเงินได้มิใช่หรือ?”ทุกคนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในใจรู้สึกยินดีขึ้นมาทันทีพวกเขารู้ดีว่าของเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีราคาสูงกว่าของธรรมดาทั่วไปทว่าได้ยินคำพูดของพระชายา ต่อให้พวกเขามีเงินใช้สอยอย่างจำกัดก็สามารถซื้อหาได้“ขอถามพระชายา ร้านนี้จะเปิดทำ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 77

    “พระชายาของเราทรงบอกว่าวันนี้เป็นวันมงคล เพื่อขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมยินดี จึงเตรียมขนมเพิ่มพลังวิญญาณมามอบให้โดยเฉพาะ”หงเยว่เอ่ยจบ นางกับสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังก็ยืนเรียงกันเป็นแถวยาวพร้อมกับยกจานขนมไว้ในมือและยิ้มอย่างอ่อนโยนทุกคนนึกไม่ถึงว่าพระชายาองค์ชายเก้าจะเตรียมขนมไว้ให้พวกเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังนึกไม่ถึงว่า ขนมนี้ยังผ่านการเพิ่มพลังวิญญาณด้วย ในชั้วขณะนั้น ทุกคนต่างกรูกันเข้าไปห้อมล้อมกลุ่มสาวใช้เหล่านั้น กลัวว่าช้าไปจะไม่มีเหลืออีกแล้วขนมในมือของหงเยว่กับเหล่าสาวใช้มีไม่เพียงพอแน่นอนไม่นานในจานของพวกนางก็ถูกแย่งไปจนหมด คนที่ได้ขนมเหล่านั้น แต่ละคนสีหน้ายิ้มแย้ม ปากก็เอ่ยขอบคุณไม่หยุดส่วนคนที่แย่งขนมไม่ทัน สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทั้งมองไปยังกลุ่มคนที่แย่งขนมมาได้ด้วยแววตาร้อนผ่าวเพราะความอิจฉา“พี่ชาย ขนมนี้มีพลังวิญญาณจริงหรือ?” ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง แววตาของเขาร้อนผ่าว และมองดูคนข้าง ๆ ราวกับถือของล้ำค่า ชายผู้นั้นเห็นขนมชิ้นนั้นที่ดูเหมือนขนมธรรมดาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้“น่าจะมีนะ เจ้าดูสิขนมนี้กำลังเรืองแสงนิดหน่อย?”หลังผ่านการต่อสู

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 76

    ไป๋ซวงยิ้มพร้อมแตะไหล่พ่อลูกทั้งสองคน และเอ่ยอย่างสบายใจ“พวกท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีสถานะใด? จะไม่มีแม้แต่ของขวัญตอบแทนได้อย่างไร?”ไป๋ซวงเอ่ยจบก็โยนใบรายการของขวัญฉบับหนึ่งให้กับจวินจิ๋วอิ่น“ลองดูว่าพอใจกับของขวัญตอบแทนหรือไม่?”จวินจิ๋วอิ่นยิ้มพร้อมกับรับใบรายการของขวัญนั้นมา และมองไป๋ซวงด้วยแววตารักใคร่“ขอเพียงฮูหยินเต็มใจที่จะแต่งงาน ข้าอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น”ทว่าขณะที่เขาเห็นรายการของขวัญชัดเจนแล้ว นัยน์ตากลับเผยให้เห็นความประหลาดใจที่ระงับไว้ไม่อยู่“ฮูหยิน เกรงว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านนอกประตู จะต้องอิจฉาตาร้อนข้าเป็นแน่”เดิมทียังคิดว่าสินสอดที่ตนเตรียมไว้ถือว่าเหมาะสมแล้ว ทว่าตอนนี้เห็นของขวัญตอบแทนของไป๋ซวงแล้วเขารู้สึกขึ้นมาทันทีว่า ตนเองได้รับมากเกินไปแล้วจวินจิ๋วอิ่นยิ้มพร้อมกับส่งใบรายการของขวัญให้มู่ซือ มู่ซือรีบนำใบรายการของขวัญไปหาหลิ่วกงกงหลิ่วกงกงดูจนแน่ใจอยู่หลายรอบ และมั่นใจว่าไม่มีการเข้าใจผิด เขาจึงประกาศออกมาด้วยความตื่นเต้น“รายการของขวัญตอบแทนของพระชายาองค์ชายเก้ามีดังนี้: โสมราชันมังกรวิเศษหนึ่งต้น ปาล์มหงอนไก่วิเศษหนึ่งต้น เถาวัลย์เขียววิ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 75

    “รายการสินสอดของท่านอ๋องเก้ามีดังต่อไปนี้ ผ้าไหมก่วงหันสิบพับ ผ้าสุ่ยอวิ๋นต้วนสิบพับ ผ้าหร่วนเยียนหลัวสิบพับ ผ้าเหลียงเหรินจิ่นสิบพับ”หลิ่วกงกงประกาศเสียงดัง ผู้คนที่ตามมาดูความครึกครื้นที่หน้าประตูจวน ต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีเพราะผ้าไหมผ้าต่วนทั้งสี่ชนิดนี้ ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าระดับชาติปกติแล้ว แม้แต่ขุนนางชั้นสูงในวัง หากได้รับผ้าเหล่านี้ปีละหนึ่งพับ ก็ดีใจจนแทบจะเสียสติแล้วฮองเฮาเคยได้รับพระราชทานผ้าเหลียงเหรินจิ่นสองพับ ถึงกับจัดงานเลี้ยงในวังเพื่ออวดผ้าเหลียงเหรินจิ่นของตัวเองโดยเฉพาะแม้แต่จีหรง ก็ยังหาผ้าไหมผ้าต่วนดี ๆ แบบนี้ในวังได้ไม่กี่พับดังนั้น เมื่อได้ยินว่าจวินจิ๋วอิ่นมอบให้ไป๋ซวงมากมายเช่นนี้พวกเขาถึงกับสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปหรือไม่โดยเฉพาะเหล่าฮูหยิน คุณหนู ต่างพากันอิจฉาตาร้อนแต่ทว่า นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นหลิ่วกงกงกระแอม จากนั้นประกาศต่อ“หยกแกะสลักผักกาดขาวหนึ่งชิ้น แจกันหยกขาวมันแพะล้ำค่าหนึ่งคู่ ถ้วยหยกเก้าพญามังกรหนึ่งคู่ ฉากกั้นแร่มรกตลายภูเขาลำน้ำหนึ่งอัน...”“หญ้าพันวิญญาณระดับสูงสามต้น หญ้าดารามารระดับสูงสองต้น บุปผาศักดิ์สิท

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 74

    “เรื่องขององค์ชายใหญ่ ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”ในเมื่อไป๋ซวงตัดสินใจที่จะลองคบหากับจวินจิ๋วอิ่น เช่นนั้นนางก็ต้องรู้สถานการณ์ของศัตรูให้ชัดเจนจวินจิ๋วอิ่นเห็นว่านางเอาใจใส่เรื่องของเขาขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก“จวินเทียนเจ๋อสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูนั้น หลักฐานมัดตัวแน่นหนา ไม่มีทางรอดพ้นได้แล้ว ส่วนหลิวซื่อข่าย ถึงแม้จะปฏิเสธหัวชนฝา และไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่พิสูจน์ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับจวินเทียนเจ๋อ แต่มีคำให้การของหลิวหย่ง ประกอบกับคำสารภาพของคนสนิทของจวินเทียนเจ๋อ เขาก็ยากที่จะรอดพ้นความผิด”จวินจิ๋วอิ่นจูงมือไป๋ซวง เดินไปนั่งด้านข้าง“หลังจากที่หลิวซื่อข่ายถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหมก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นคนของเราได้แล้ว”“คนของเรามีกี่คน?”ไป๋ซวงคิดว่า นางจำเป็นต้องรู้ว่าใครคือพวกเดียวกันกับนางไม่เช่นนั้น หากต้องมาเผชิญหน้ากับพวกเดียวกันเอง นั่นคงเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก‘คนของเรา’ ทำให้จวินจิ๋วอิ่นรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเขาเก็บซ่อนรอยยิ้มที่หางตาไว้ไม่อยู่ จึงเอื้อมมือออกไปจับมือของไป๋ซวง“นอกจากมหาเสนาบดีเจียงเจิง หวังหยวนจากกรมอาญา หลิวซื่อข่ายจากกรม

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 73

    จวินจิ๋วอิ่นเห็นท่าทางเขินอายเล็กน้อยของไป๋ซวง รอยยิ้มที่มุมปากของเขาก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเขาค่อย ๆ ก้มลงเก็บโฉนดที่ดินเหล่านั้นทีละใบจากนั้นก็วางลงในกล่องไม้จันทน์อย่างเรียบร้อยแล้วค่อยส่งมอบให้กับไป๋ซวง“ของเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินสอดเท่านั้น เดิมทีคิดว่าซวงเอ๋อร์ไม่มีครอบครัว จึงตั้งใจว่าจะมอบสินสอดให้ซวงเอ๋อร์โดยตรงในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อตอนนี้ซวงเอ๋อร์หาครอบครัวเจอแล้ว เช่นนั้นข้าก็ต้องเตรียมสินสอดใหม่ตามธรรมเนียม”จวินจิ๋วอิ่นกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็หันไปหยิบกระดาษหนา ๆ ปึกหนึ่งออกมาจากลิ้นชักใต้โต๊ะเขียนหนังสือ“สิ่งเหล่านี้คือสินสอดทั้งหมดที่ข้าเตรียมไว้ ซวงเอ๋อร์ลองดูว่ายังมีสิ่งใดที่ต้องการเพิ่มอีกหรือไม่ หากไม่มีแล้ว ข้าจะเลือกวันเพื่อส่งสินสอดไปยังจวนตระกูลไป๋”ไป๋ซวงมองดูรายการสินสอดหนา ๆ เหลือบมองเพียงด้านบนสุดก็เห็นว่าล้วนแต่เป็นของล้ำค่าหายากทั้งสิ้น“ดูเหมือนข้ายังไม่ได้ตอบตกลงแต่งงานกับท่านเลยนะ!”ไป๋ซวงไม่ได้รับรายการสินสอดมา แต่มองเขาด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ“ไม่มีทางเลือก ตอนนี้ทุกอย่างเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพ่อตากับน้อ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 72

    พวกเขารู้สึกจริง ๆ ว่าเสด็จพ่อต้องคิดจำนวนเงินค่าเสียหายนี้เอาไว้นานแล้ว มิเช่นนั้นจะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร จำนวนเงินค่าเสียหายที่องค์ชายแต่ละคนต้องจ่ายนั้นไม่เท่ากันแต่พอดีกับที่สามารถรีดไถทรัพย์สินขององค์ชายแต่ละคนไปจนหมดเกลี้ยงทว่าพวกเขาก็ได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา แล้วจดจำเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้งานเลี้ยงในวังที่ควรจะเต็มไปด้วยความรื่นเริง กลับกลายเป็นเช่นนี้ไหนเลยจะยังมีความปิติยินดีหลงเหลืออยู่?นอกจากจีหรงเองที่มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ เพราะลูกชายของนางได้รับทรัพย์สมบัติเกือบครึ่งหนึ่งของท้องพระคลังภายในชั่วข้ามคืน!ลูกคนอื่นล้วนถูกลงโทษ มีเพียงจวินจิ๋วอิ่นคนเดียวที่ได้รับคำชมจากจวินฉงนางช่างยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้อย่างไรกัน เหมือนได้ให้กำเนิดอัจฉริยะอย่างจวินจิ๋วอิ่น ทำให้นางสามารถวางอำนาจในวังหลังได้จากนั้น ลูกชายก็ให้กำเนิดหลานชายที่เป็นอัจฉริยะอีกคนคิด ๆ ดูแล้ว ชีวิตช่างดีงามอะไรเช่นนี้ส่วนจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวงนั่งอยู่ในรถม้า โดยมีซวี่เป่าที่ง่วงนอนอยู่ในอ้อมแขนไป๋ซวงเห็นว่าเขาง่วงแล้ว จึงค่อย ๆ โอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขนซวี่เป่าพยายามลุ

DMCA.com Protection Status