แชร์

บทที่ 34

ผู้เขียน: ซูเหยียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 14:57:54
“พี่หงหย่วน รีบกินโจ๊กหน่อยเถิด ข้าใส่ยาเผยหยวนลงไปในโจ๊กด้วย ถึงมันจะช่วยชีวิตท่านไม่ได้ แต่ก็จะทำให้ท่านรู้สึกสบายมากขึ้น”

ไป๋หงหย่วนมองดูโจ๊กตรงหน้าด้วยความยากลำบาก ไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะกล่าวคำขอบคุณ ทำได้แค่เพียงแสดงออกทางสายตาเท่านั้น

ไป๋เฉิงจื้อโบกมือไปมา พลางมองดูเขาด้วยนัยน์ตาที่เปี่ยมไปด้วยความจนใจ

“เฉิงจื้อไร้ความสามารถ สามารถช่วยเหลือพี่หงหย่วนได้เพียงแค่นี้เท่านั้น”

ถึงแม้ไป๋ซวงจะฆ่าล้างตระกูลไป๋

แต่ไป๋เฉิงจื้อกลับไม่รู้สึกว่าเป็นความผิดของไป๋ซวงเลย

รากวิญญาณคือชีวิตของผู้ที่ฝึกฝน หากมีคนกล้าขุดรากวิญญาณของเขา เขาก็จะสู้สุดชีวิตเช่นกัน

อีกทั้งในตอนแรก ประมุขตระกูลไป๋ได้ใช้ชีวิตของครอบครัวพี่หงหย่วนมาข่มขู่ เพื่อให้ไป๋ซวงขุดรากวิญญาณของตนเอง

วิธีการเช่นนี้ ช่างหยามกันยิ่งนัก

นอกจากนี้ ตอนที่เขายังเยาว์วัย เขากับไป๋หงหย่วนก็เคยร่ำเรียนมาด้วยกัน

จึงมีไมตรีต่อกันอยู่บ้าง

ทว่าน่าเสียดายที่เขาเป็นตระกูลสาขาของตระกูลไป๋ เป็นเพียงแค่ผู้น้อย เสียงจึงไร้น้ำหนัก

เดิมทีก็ไม่สามารถทำอันใดเพื่อนไป๋หงหย่วนได้อยู่แล้ว

ตอนนี้ประมุขตระกูลไป๋พาไป๋หงหย่วนมาพักที่จวนของเขาเป็นการชั่ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 35

    เมื่อไป๋เฉิงจื้อได้ยิน สีหน้าก็ตกตะลึงในทันทีเขามองไป๋เส้าเจี๋ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง”ท่านประมุข นี่มัน…”หากควักโจ๊กออกมา จะยังมีชีวิตอยู่ได้อีกงั้นหรือ?”ทำไม? ไม่กล้า?”ไป๋เส้าเจี๋ยส่งเสียงในลำคอ โบกมือแล้วหยิบกระบี่ยาวขึ้นมาเขาค่อย ๆ วาดกระบี่จากลำคอของไป๋หงหย่วน แล้วเคลื่อนลงไปอย่างช้าๆ“โจ๊กที่กินเมื่อวาน ตอนนี้ควรไปอยู่ที่ใดกัน?”ท้ายที่สุด กระบี่ของเขาก็ชี้ไปที่หน้าท้องของไป๋หงหย่วน“น่าจะเป็นที่นี่สินะ!”ขณะพูด เขาก็ยื่นมือโบกพลังวิญญาณสายหนึ่งออกมาไป๋เฉิงจื้อที่ไม่ได้ถูกควบคุมไว้ ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาเขานำด้ามกระบี่ที่อยู่ในมือส่งให้กับไป๋เฉิงจื้อ“ควักโจ๊กของเขาออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง”พูดจบ เขาก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางไปยืนอยู่ด้านข้างมองดูแขนของไป๋เฉิงจื้อที่กำลังสั่นเทาไปทั่วทั้งแขน ด้วยดวงตาที่แฝงไปด้วยเจตนาร้ายไม่ง่ายนักที่ไป๋หงหย่วนจะรู้สึกสบายสักครึ่งคืน ตอนนี้มองเห็นไป๋เฉิงจื้อ นัยน์ตาก็แฝงไปด้วยรอยยิ้มแห่งความหลุดพ้นเพื่อไป๋เฉิน เขาอยู่มานานเกินไปแล้วสำหรับเขาแล้ว ความตายคือการหลุดพ้นอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 36

    ร่างไร้วิญญาณที่แขนขากระจัดกระจายอยู่ทั่วเรือน ล้วนเกิดจากเส้นไหมวิญญาณโลหิต “เหตุใดข้าจะไม่กล้ากลับมาเล่า?”นางส่ายนิ้ว ก้าวไปข้างหน้าช้า ๆ พร้อมเส้นไหมวิญญาณโลหิตที่บางราวกับเส้นผม ดวงตาเฉียบคมวาววับสะท้อนแสง“พวกเจ้ากลัวว่านางมารเช่นข้าคนนี้จะกลับมาหรือ? อะไรกัน? เป็นหัวหน้าตระกูลไป๋มาหลายปี ลืมไปแล้วหรือว่าครั้งนั้น นางมารเช่นข้ากวาดล้างตระกูลไป๋อย่างไร?”เมื่อไป๋เส้าเจี๋ยได้ยิน ดวงตาสีแดงก่ำก็เต็มไปด้วยความโกรธภาพในปีนั้น ก็คล้ายเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้การเสียชีวิตอันน่าสลดใจของบิดามารดา เลือดของทุกคนในตระกูลไป๋ที่ไหลรินราวกับแม่น้ำเขาหายใจเข้าลึก ๆ ไม่อาจระงับความโกรธอันท่วมท้นได้อีกต่อไป“ความแค้นที่ฆ่าล้างตระกูลไป๋ ชีวิตนี้ข้าไม่กล้าลืม! ข้าจะใช้เลือดของเจ้า สักการะดวงวิญญาณของทุกคนที่ตายไปแน่นอน!”“หึๆ......”ไป๋ซวงแค่นหัวเราะอย่างอดไม่ได้ สายตามองดูเขาอย่างเหยียดหยาม“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว บุกเข้าไป!” ขณะที่พูด ไป๋ซวงก็ค่อย ๆ โบกสะบัดเส้นไหมวิญญาณโลหิต“ชายารักไปดูการต่อสู้เถอะ เรื่องฆ่าคนเช่นนี้ ปล่อยให้ข้าจัดการเอง” จวินจิ๋วอินก้าวไปข้างหน้า ไม่อยากให้ไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 37

    มองเห็นเส้นไหมวิญญาณโลหิตกระเพื่อมเหมือนคลื่นน้ำเมื่อไป๋เส้าเจี๋ยเห็นเช่นนั้น เขาก็ทะยานขึ้นไปทันทีในมือยาวถือกระบี่ เขาหมุนข้อมืออย่างรวดเร็ว สร้างลวดลายกระบี่บุที่สวยงามและคมกริบออกมามองเห็นไอกระบี่นับไม่ถ้วนพลุ่งพล่าน ราวกับมังกรที่ดุร้ายด้วยพลังกดดันอันท่วมท้น เขารีบพุ่งตรงไปที่ด้านหน้าของไป๋ซวงทว่าพริบตานั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างน่าเศร้ามีไอสีดำจาง ๆ ล้อมรอบมังกรร้ายนั้นเอาไว้โฮก…เมื่อเสียงคำรามดังขึ้น ฟันอันแหลมคมของมังกรก็ปรากฏขึ้นตามกันมาไป๋ซวงมองภาพตรงหน้าที่ดูคล้ายมังกรโจนสมุทร พร้อมรอยยิ้มขี้เล่นบนริมฝีปากนางยืนนิ่งอยู่ในอากาศ ดวงตาปิดหรี่ ก่อนจะกางนิ้วออกเล็กน้อยสองมือซ้ายขวาประสานกัน ราวกับกำลังเล่นกับสมบัติทรงกลมทันทีที่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เส้นไหมวิญญาณโลหิตที่ราวกับน้ำกระเพื่อมก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับแสงเย็นยะเยือกและแผ่ออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้ามังกรร้ายที่อยู่กลางอากาศหันร่างหลบ หลีกเลี่ยงเส้นไหมวิญญาณโลหิตที่ซุกซ่อนอยู่ในอากาศอย่างว่องไวมุมปากของไป๋เส้าเจี๋ยปรากฏรอยยิ้มเยาะขึ้น เหวี่ยงกระบี่เร็วขึ้นอีกครั้ง“ไป๋ซวง ไม่ว่าเส้นไหมวิญญาณโลหิตของเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 38

    องครักษ์ตระกูลไป๋ที่ไป๋เส้าเจี๋ยพามา ไม่มีเวลาแม้แต่จะกรีดร้อง พวกเขาก็ถูกตัดท่อนร่างนับไม่ถ้วนด้วยเส้นไหมวิญญาณโลหิต และล้มลงกับพื้นเสียงดังตุบ ๆๆหมอกเลือดปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ทำให้เงาคนดูพร่าเลือนเมื่อหมอกเลือดสลายไป ดวงตาของไป๋เส้าเจี๋ยก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่อยากจะเชื่อจากนั้นก็มีเสียงปังดังออกมาจากร่างกายของเขาร่างก็แยกออกจากกัน แขนขาขาดออกจากร่างล้มลงกับพื้นดังตุบเสียงกรีดร้องดังหนวกหูจึงดังขึ้น“ไป๋ซวง เจ้ามันหญิงสารเลว เจ้าต้องไม่ตายดี!”ไป๋เส้าเจี๋ยที่แขนขาถูกตัดขาด ทำได้เพียงมองดูอย่างทำอะไรไม่ได้สตรีที่คล้ายเดินออกมาจากนรกผู้นั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์“ข้าตายอย่างไร เกรงว่าเจ้าคงไม่มีเป็นวันได้เห็นแล้ว แต่ข้าสามารถตัดสินใจได้เลย ว่าเจ้าจะตายอย่างไร!”ไป๋ซวงหยิบผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมสีขาวออกมา แล้วค่อย ๆ บรรจงเช็ดเส้นไหมวิญญาณโลหิตให้สะอาดเส้นไหมวิญญาณโลหิตเป็นอาวุธชั้นยอด คมกริบเป็นที่สุด สามารถสังหารหลายพันคนได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยเลือดนางเช็ดเส้นไหมวิญญาณโลหิต เป็นเพียงนิสัยส่วนตัวเท่านั้น นางยิ้ม ก่อนจะเก็บเส้นไหมวิญญาณเลือดเข้าไปในกำไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 39

    เขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆไป๋ซวงไม่ใช่คนด้วยซ้ำ!นางเป็นตัวตนที่น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจ!สิ่งที่ไป๋ซวงกำลังรอก็คือคำพูดนี้ของไป๋เส้าเจี๋ยนางจึงเก็บกระบี่กลับมาและมองไปที่ไป๋เส้าเจี๋ยอย่างเย็นชา“สัญญากับข้า ไม่เช่นนั้นต่อให้เจ้าฆ่าข้า เจ้าก็ไม่อาจหาไป๋เฉินเจอได้”“ได้”ไป๋ซวงพูดอย่างเฉยเมย แต่ไป๋เส้าเจี๋ยดูเหมือนจะโล่งใจเขาถอนหายใจยาวอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะพูดออกมาช้าๆ“ไป๋เฉินอยู่ในสำนักศึกษาเต๋อของตระกูลไป๋”“เหลิ่งเย่ พาคนกลับไป แล้วส่งคนไปตรวจสอบที่สำนักศึกษาเต๋อ ถ้าไป๋เฉินอยู่ที่สำนักศึกษาเต๋อให้ฆ่าไป๋เส้าเจี๋ยได้เลย ถ้าเขาไม่อยู่ที่สำนักศึกษาเต๋อ ให้ทำให้ไป๋เส้าเจี๋ยเป็นหมูมนุษย์ แล้วเลี้ยงไว้ที่ประตูสำนักศึกษาเสีย”เมื่อไป๋ซวงพูดจบ นางก็ไม่สนใจไป๋เส้าเจี๋ยอีก มุ่งตรงไปที่ไป๋หงหย่วนทันทีเหลิ่งเย่เหลือบมององค์ชายราวกับมีคำถามทว่าสายตาของจวินจิ๋วอิ่นจับจ้องไปที่ไป๋ซวงอยู่ตลอดเวลาเมื่อรู้สึกว่าเหลิ่งเย่ไม่เคลื่อนไหวสักที จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองในดวงตามีความไม่พอใจปะทุขึ้นมา“ยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบไปจัดการสิ” ร่างกายของเหลิ่งเย่สั่นเล็กน้อย รีบหันไปทำงานของตนทันที“เดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 40

    “ซวี่เป่า หลานชายของท่านยังรอท่านอยู่ที่บ้านนะขอรับ!”“หลาน... หลานชาย...”ไป๋หงหย่วนตกใจอย่างยิ่ง ลิ้นพันพูดไม่ชัดขึ้นมากะทันหันไม่ได้เจอกันมาเจ็ดปี ตอนนี้ซวงเอ๋อร์อายุยี่สิบหนาวแล้วควรสร้างครอบครัวแล้ว!แต่ถึงอย่างไร เขาก็พลาดช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของลูกสาวไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจไป๋ซวงจ้องมองจวินจิ๋วอิ่นด้วยความโกรธ นางยังไม่คิดจะบอกท่านพ่อนางเรื่องของพวกเราแต่จวินจิ๋วอิ่นกลับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ไม่แม้แต่จะมองหน้าไป๋ซวง“ท่านพ่อตา ลูกเขยแบกท่านเองขอรับ”พูดจบ เขาก็ค่อยๆ นั่งยองๆ ต่อหน้าไป๋หงหย่วนไป๋หงหย่วนมองไปที่เสื้อผ้าอันงดงามของจวินจิ๋วอิ่น ก็รู้ว่าเขามีสถานะที่ไม่ธรรมดาแล้วหันกลับมามองดูเสื้อผ้าขาดเป็นรูของตน เขากล้าดีอย่างไรมาแบกข้ากัน?“ไม่ได้หรอก เสื้อผ้าของข้าสกปรกมา จะไปทำให้เสื้อผ้าของเจ้าสกปรกได้อย่างไร?”ไป๋หงหย่วนมองไปยังไป๋เฉิงจื้อที่เพิ่งตื่นขึ้นมาไม่ไกลและโบกมืออย่างรวดเร็ว“พี่เฉิงจื้อ ท่านมาช่วยข้าที”ไป๋ซวงขมวดคิ้ว นี่คงเป็นสมาชิกของตระกูลไป๋ด้วยเมื่อครู่ตอนที่นางเข้ามา ยังชี้กระบี่ไปที่ท่านพ่อของตนด้วยซ้ำแต่แววตาของท่านพ่อ กลับดูเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 41

    ไม่เพียงแต่ไป๋เฉิงจื้อเท่านั้น แม้แต่ไป๋หงหย่วนที่อยู่ด้านข้างยังมองไป๋ซวงด้วยความตกใจหลังจากนั้นไม่นาน ไป๋เฉิงจื้อก็กลับมามีสติอีกครั้งเขามองไป๋ซวงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ สายตาแฝงไปด้วยความสับสนอย่างยิ่ง “ซวงเอ๋อร์ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ไม่ว่าไป๋ซวงจะมีความสามารถแค่ไหน สุดท้ายนางก็ยังเป็นสตรีตอนนี้ไป๋หงหย่วนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้วและเขารู้ดีว่าตนเองไม่ใช่ผู้ที่สามารถท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลได้อย่างแน่นอนใบหน้าของไป๋ซวงไร้การแสดงออกที่เกินงามเมฆาสงบนิ่ง สายลมพัดเบา ๆ ราวกับว่านางกำลังพูดถึงเรื่องธรรมดา“ไป๋เส้าเจี๋ยตายอนาถเช่นนี้ ตระกูลไป๋ไม่ยอมรามือง่าย ๆ แน่ แม้ว่าจะต้องแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลไป๋ หัวหน้าตระกูลคนใหม่ก็จะทำบางอย่างเพื่อรักษาเสถียรภาพของตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ส่วนื่นลุงเฉิงจื้อ ไป๋เส้าเจี๋ยตายอนาถที่นี่ ตระกูลไป๋ก็ไม่ยอมปล่อยท่านไปเช่นกัน”ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนเกือบทั้งหมดที่ไป๋เส้าเจี๋ยพามาก็พากันตายอย่างน่าอนาถเกือบทั้งหมดแต่ไป๋เฉิงจื้อกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไรนักอาศัยแค่สิ่งนี้เพียงอย่างเดียว ตระกูลไป๋ก็ไม่มีทางยอมปล่อยไป๋เฉิงจื้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 42

    เมื่อไป๋ซวงได้ยินเช่นนี้ นางก็ยิ้มและขอบคุณเขา “ถ้าเช่นนั้น ก็ต้องขอบพระทัยท่านอ๋องแล้วเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปมองไป๋เฉิงจื้อ“ท่านลุงเฉิงจื้อ ข้าไม่ชอบพูดอ้อมค้อม ถ้ามีอะไรข้าก็จะพูดออกมาตรงๆ ข้าอยากสร้างตระกูลไป๋ขึ้นมาใหม่ โดยมีท่านพ่อเป็นประมุขตระกูล”ทันทีที่ไป๋ซวงพูดจบ ไป๋หงหย่วนก็ส่ายหัวทันที“ซวงเอ๋อร์ ร่างกายของพ่อ…”ไป๋ซวงไม่ยอมให้ไป๋หงหย่วนพูดจบ ขัดจังหวะเขาขึ้นมา“ซวงเอ๋อร์บอกแล้วว่าสามารถรักษาอาการท่านได้ ณ ที่นี่ ซวงเอ๋อร์สัญญากับท่านพ่อและท่านลุงเฉิงจื้อว่าภายในครึ่งปี ร่างกายของท่านพ่อจะฟื้นตัวกลับสู่สภาพสูงสุดได้อย่างเต็มที่ และหลังจากนั้นหนึ่งปีก็ทำให้ระดับการฝึกปรือของท่านพ่อ ก้าวข้ามไป๋เส้าเจี๋ยได้”ไป๋ซวงดูเหมือนจะกลัวว่าไป๋หงหย่วนจะไม่เชื่อ ดังนั้นน้ำเสียงของนางจึงหนักแน่นขึ้นเล็กน้อย“ท่านพ่อ ซวงเอ๋อร์ไม่ใช่คนพูดโกหก อีกอย่าง ท่านต้องเชื่อในความสามารถของนักหลอมโอสถระดับเก้า”“ระดับเก้า... นักหลอมโอสถระดับเก้า...”จู่ๆ ไป๋เฉิงจื้อก็มองไป๋ซวงด้วยความประหลาดใจ สายตาปรากฏร่องรอยความไม่อยากจะเชื่อออกมาวันนี้ ไป๋ซวงทำให้เขาตกใจมากเกินไปแล้วไป๋ซวงพยักหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05

บทล่าสุด

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 80

    รถม้าหลายคันนั้นที่อยู่ด้านหลัง มีพลังวิญญาณเต็มเปี่ยมปกคลุมอยู่ผ้าม่านของรถม้าจงใจพับขึ้นไว้ ทำให้มองเห็นขวดและโถเหล่านั้นได้อย่างเหมาะเจาะมันเหมือนกับโถที่ใช้เป็นของขวัญตอบแทนให้กับองค์ชายเก้าในวันนั้น เกรงว่าด้านในจะเป็นของเพิ่มพลังวิญญาณเช่นกันกระมังถ้าอย่างนั้นรถม้าเหล่านั้นที่บรรทุกของมาเต็มคันรถ ทั้งหมดคือของที่พระชายาองค์ชายเก้ามอบให้ฮ่องเต้ใช่หรือไม่?ทั้งเมืองหลวงโจษจันกันเซ็งแซ่อีกครั้ง!ฮ่องเต้ทรงลากจูงรถม้าสองสามคันที่บรรทุกของเพิ่มพลังวิญญาณมาจากจวนขององค์ชายเก้าของเพิ่มพลังวิญญาณนั้น ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานอย่างมาก ในช่วงเวลานั้น ผู้คนในเมืองหลวงยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอร้านค้าของพระชายาโจวหวันฉี่บังเอิญมองเห็นรถม้าของจวินฉงจากหน้าต่างของสถานที่พักแรมเพลิงแห่งความริษยาในดวงตาแทบจะมอดไหม้ตนเองโจวหลิงซางแตะไหล่ของน้องสาวเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจอย่างแผ่วเบา“หวันฉี่ ไป๋ซวงผู้นั้นดูท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว”นางนำสิ่งของที่เพิ่มพลังวิญญาณออกมาได้ อีกทั้งยังมีของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้นอีกจะเป็นหญิงสาวชาวชนบทได้หรือ?แม้แต่พวกเขา เกรงว่าก็ยังหาสิ่งของที่ล้ำค่าเช่

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 79

    ไป๋ซวงกับจวินจิ๋วอิ่นกำลังจัดระเบียบของขวัญที่ส่งมาในช่วงหลายวันนี้ในคลังสมบัติคลังขนาดใหญ่ในตอนนี้เริ่มจะเต็มแล้วหากไม่ใช่ก่อนหน้านี้ จวินจิ๋วอิ่นส่งสินสอดจำนวนไม่น้อยไปให้ตระกูลไป๋ เกรงว่าคลังแห่งนี้คงเก็บของไม่พอเป็นแน่ทันใดนั้นหงเยว่ก็เร่งรีบเข้ามา“ทูลองค์ชาย พระชายา ฮ่องเต้กับพระสนมเอกเสด็จมาเพคะ”“มาก็มาสิ เหตุใดต้องลนลาน?”จวินจิ๋วอิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมจูงมือไป๋ซวงเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่รีบร้อนทั้งสองคนยังเดินไม่ถึงหน้าประตู พวกเขาก็เห็นจวินฉงกำลังอุ้มซวี่เป่า พร้อมกับจูงมือจีหรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวง จวินฉงก็มองพวกเขาอย่างไม่พอใจ “ซวี่เป่ายังรู้จักมารยาทดีเสียกว่า พอรู้ก็มารออยู่ที่ประตูทางเข้าล่วงหน้าแล้ว” ไป๋ซวงก้มหน้าผงกศีรษะ พร้อมกับมีรอยยิ้มบนมุมปาก“เสด็จพ่อทรงเอ่ยถูกต้อง ไป๋ซวงออกมาช้าไปเพคะ”นับตั้งแต่ไป๋ซวงตัดสินใจแต่งงานกับจวินจิ๋วอิ่น นางก็เปลี่ยนคำเรียกขานจวินฉงกับพระสนมเอก“หากเสด็จพ่อไม่พอพระทัย คราวหน้าลูกก็จะไม่ออกมา”จวินจิ๋วอิ่นมองจวินฉงด้วยความไม่พอใจ พร้อมดึงไป๋ซวงเข้ามาข้าง ๆ ตนจวินฉงแ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 78

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูงชนที่อยู่หน้าประตูพากันตาลุกวาวพระชายาจะเปิดร้านเพื่อขายของเพิ่มพลังวิญญาณโดยเฉพาะ?พระชายาทรงรู้จักวิญญาจารย์ด้วยหรือ?เหตุใดพระชายาทรงยอดเยี่ยมเพียงนี้?ทั้งยังขายสมุนไพรวิเศษด้วย!ของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้น พวกเขาก็เพิ่งจะเคยพบเห็นนั่นเป็นสิ่งของล้ำค่าที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้“พระชายา ของเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านั้น พวกเราสามารถซื้อไหวหรือพ่ะย่ะค่ะ?”บางคนอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ว่า ของเพิ่มพลังวิญญาณล้ำค่าเช่นนั้น สามัญชนคนธรรมดาอย่างพวกเขาจะซื้อไหวหรือ?“สิ่งของแต่ละชิ้นล้วนมีมูลค่าของมัน สิ่งของล้ำค่าของวิญญาจารย์ และสิ่งของที่ผ่านการเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านี้ แน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงกว่าของธรรมดาทั่วไป ทว่าขอให้ทุกคนวางใจ ร้านนี้เปิดทำการค้าก็ย่อมต้องให้ทุกคนจับจ่ายซื้อหาได้ เราถึงจะทำเงินได้มิใช่หรือ?”ทุกคนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในใจรู้สึกยินดีขึ้นมาทันทีพวกเขารู้ดีว่าของเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีราคาสูงกว่าของธรรมดาทั่วไปทว่าได้ยินคำพูดของพระชายา ต่อให้พวกเขามีเงินใช้สอยอย่างจำกัดก็สามารถซื้อหาได้“ขอถามพระชายา ร้านนี้จะเปิดทำ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 77

    “พระชายาของเราทรงบอกว่าวันนี้เป็นวันมงคล เพื่อขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมยินดี จึงเตรียมขนมเพิ่มพลังวิญญาณมามอบให้โดยเฉพาะ”หงเยว่เอ่ยจบ นางกับสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังก็ยืนเรียงกันเป็นแถวยาวพร้อมกับยกจานขนมไว้ในมือและยิ้มอย่างอ่อนโยนทุกคนนึกไม่ถึงว่าพระชายาองค์ชายเก้าจะเตรียมขนมไว้ให้พวกเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังนึกไม่ถึงว่า ขนมนี้ยังผ่านการเพิ่มพลังวิญญาณด้วย ในชั้วขณะนั้น ทุกคนต่างกรูกันเข้าไปห้อมล้อมกลุ่มสาวใช้เหล่านั้น กลัวว่าช้าไปจะไม่มีเหลืออีกแล้วขนมในมือของหงเยว่กับเหล่าสาวใช้มีไม่เพียงพอแน่นอนไม่นานในจานของพวกนางก็ถูกแย่งไปจนหมด คนที่ได้ขนมเหล่านั้น แต่ละคนสีหน้ายิ้มแย้ม ปากก็เอ่ยขอบคุณไม่หยุดส่วนคนที่แย่งขนมไม่ทัน สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทั้งมองไปยังกลุ่มคนที่แย่งขนมมาได้ด้วยแววตาร้อนผ่าวเพราะความอิจฉา“พี่ชาย ขนมนี้มีพลังวิญญาณจริงหรือ?” ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง แววตาของเขาร้อนผ่าว และมองดูคนข้าง ๆ ราวกับถือของล้ำค่า ชายผู้นั้นเห็นขนมชิ้นนั้นที่ดูเหมือนขนมธรรมดาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้“น่าจะมีนะ เจ้าดูสิขนมนี้กำลังเรืองแสงนิดหน่อย?”หลังผ่านการต่อสู

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 76

    ไป๋ซวงยิ้มพร้อมแตะไหล่พ่อลูกทั้งสองคน และเอ่ยอย่างสบายใจ“พวกท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีสถานะใด? จะไม่มีแม้แต่ของขวัญตอบแทนได้อย่างไร?”ไป๋ซวงเอ่ยจบก็โยนใบรายการของขวัญฉบับหนึ่งให้กับจวินจิ๋วอิ่น“ลองดูว่าพอใจกับของขวัญตอบแทนหรือไม่?”จวินจิ๋วอิ่นยิ้มพร้อมกับรับใบรายการของขวัญนั้นมา และมองไป๋ซวงด้วยแววตารักใคร่“ขอเพียงฮูหยินเต็มใจที่จะแต่งงาน ข้าอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น”ทว่าขณะที่เขาเห็นรายการของขวัญชัดเจนแล้ว นัยน์ตากลับเผยให้เห็นความประหลาดใจที่ระงับไว้ไม่อยู่“ฮูหยิน เกรงว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านนอกประตู จะต้องอิจฉาตาร้อนข้าเป็นแน่”เดิมทียังคิดว่าสินสอดที่ตนเตรียมไว้ถือว่าเหมาะสมแล้ว ทว่าตอนนี้เห็นของขวัญตอบแทนของไป๋ซวงแล้วเขารู้สึกขึ้นมาทันทีว่า ตนเองได้รับมากเกินไปแล้วจวินจิ๋วอิ่นยิ้มพร้อมกับส่งใบรายการของขวัญให้มู่ซือ มู่ซือรีบนำใบรายการของขวัญไปหาหลิ่วกงกงหลิ่วกงกงดูจนแน่ใจอยู่หลายรอบ และมั่นใจว่าไม่มีการเข้าใจผิด เขาจึงประกาศออกมาด้วยความตื่นเต้น“รายการของขวัญตอบแทนของพระชายาองค์ชายเก้ามีดังนี้: โสมราชันมังกรวิเศษหนึ่งต้น ปาล์มหงอนไก่วิเศษหนึ่งต้น เถาวัลย์เขียววิ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 75

    “รายการสินสอดของท่านอ๋องเก้ามีดังต่อไปนี้ ผ้าไหมก่วงหันสิบพับ ผ้าสุ่ยอวิ๋นต้วนสิบพับ ผ้าหร่วนเยียนหลัวสิบพับ ผ้าเหลียงเหรินจิ่นสิบพับ”หลิ่วกงกงประกาศเสียงดัง ผู้คนที่ตามมาดูความครึกครื้นที่หน้าประตูจวน ต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีเพราะผ้าไหมผ้าต่วนทั้งสี่ชนิดนี้ ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าระดับชาติปกติแล้ว แม้แต่ขุนนางชั้นสูงในวัง หากได้รับผ้าเหล่านี้ปีละหนึ่งพับ ก็ดีใจจนแทบจะเสียสติแล้วฮองเฮาเคยได้รับพระราชทานผ้าเหลียงเหรินจิ่นสองพับ ถึงกับจัดงานเลี้ยงในวังเพื่ออวดผ้าเหลียงเหรินจิ่นของตัวเองโดยเฉพาะแม้แต่จีหรง ก็ยังหาผ้าไหมผ้าต่วนดี ๆ แบบนี้ในวังได้ไม่กี่พับดังนั้น เมื่อได้ยินว่าจวินจิ๋วอิ่นมอบให้ไป๋ซวงมากมายเช่นนี้พวกเขาถึงกับสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปหรือไม่โดยเฉพาะเหล่าฮูหยิน คุณหนู ต่างพากันอิจฉาตาร้อนแต่ทว่า นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นหลิ่วกงกงกระแอม จากนั้นประกาศต่อ“หยกแกะสลักผักกาดขาวหนึ่งชิ้น แจกันหยกขาวมันแพะล้ำค่าหนึ่งคู่ ถ้วยหยกเก้าพญามังกรหนึ่งคู่ ฉากกั้นแร่มรกตลายภูเขาลำน้ำหนึ่งอัน...”“หญ้าพันวิญญาณระดับสูงสามต้น หญ้าดารามารระดับสูงสองต้น บุปผาศักดิ์สิท

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 74

    “เรื่องขององค์ชายใหญ่ ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”ในเมื่อไป๋ซวงตัดสินใจที่จะลองคบหากับจวินจิ๋วอิ่น เช่นนั้นนางก็ต้องรู้สถานการณ์ของศัตรูให้ชัดเจนจวินจิ๋วอิ่นเห็นว่านางเอาใจใส่เรื่องของเขาขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก“จวินเทียนเจ๋อสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูนั้น หลักฐานมัดตัวแน่นหนา ไม่มีทางรอดพ้นได้แล้ว ส่วนหลิวซื่อข่าย ถึงแม้จะปฏิเสธหัวชนฝา และไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่พิสูจน์ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับจวินเทียนเจ๋อ แต่มีคำให้การของหลิวหย่ง ประกอบกับคำสารภาพของคนสนิทของจวินเทียนเจ๋อ เขาก็ยากที่จะรอดพ้นความผิด”จวินจิ๋วอิ่นจูงมือไป๋ซวง เดินไปนั่งด้านข้าง“หลังจากที่หลิวซื่อข่ายถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหมก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นคนของเราได้แล้ว”“คนของเรามีกี่คน?”ไป๋ซวงคิดว่า นางจำเป็นต้องรู้ว่าใครคือพวกเดียวกันกับนางไม่เช่นนั้น หากต้องมาเผชิญหน้ากับพวกเดียวกันเอง นั่นคงเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก‘คนของเรา’ ทำให้จวินจิ๋วอิ่นรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเขาเก็บซ่อนรอยยิ้มที่หางตาไว้ไม่อยู่ จึงเอื้อมมือออกไปจับมือของไป๋ซวง“นอกจากมหาเสนาบดีเจียงเจิง หวังหยวนจากกรมอาญา หลิวซื่อข่ายจากกรม

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 73

    จวินจิ๋วอิ่นเห็นท่าทางเขินอายเล็กน้อยของไป๋ซวง รอยยิ้มที่มุมปากของเขาก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเขาค่อย ๆ ก้มลงเก็บโฉนดที่ดินเหล่านั้นทีละใบจากนั้นก็วางลงในกล่องไม้จันทน์อย่างเรียบร้อยแล้วค่อยส่งมอบให้กับไป๋ซวง“ของเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินสอดเท่านั้น เดิมทีคิดว่าซวงเอ๋อร์ไม่มีครอบครัว จึงตั้งใจว่าจะมอบสินสอดให้ซวงเอ๋อร์โดยตรงในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อตอนนี้ซวงเอ๋อร์หาครอบครัวเจอแล้ว เช่นนั้นข้าก็ต้องเตรียมสินสอดใหม่ตามธรรมเนียม”จวินจิ๋วอิ่นกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็หันไปหยิบกระดาษหนา ๆ ปึกหนึ่งออกมาจากลิ้นชักใต้โต๊ะเขียนหนังสือ“สิ่งเหล่านี้คือสินสอดทั้งหมดที่ข้าเตรียมไว้ ซวงเอ๋อร์ลองดูว่ายังมีสิ่งใดที่ต้องการเพิ่มอีกหรือไม่ หากไม่มีแล้ว ข้าจะเลือกวันเพื่อส่งสินสอดไปยังจวนตระกูลไป๋”ไป๋ซวงมองดูรายการสินสอดหนา ๆ เหลือบมองเพียงด้านบนสุดก็เห็นว่าล้วนแต่เป็นของล้ำค่าหายากทั้งสิ้น“ดูเหมือนข้ายังไม่ได้ตอบตกลงแต่งงานกับท่านเลยนะ!”ไป๋ซวงไม่ได้รับรายการสินสอดมา แต่มองเขาด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ“ไม่มีทางเลือก ตอนนี้ทุกอย่างเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพ่อตากับน้อ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 72

    พวกเขารู้สึกจริง ๆ ว่าเสด็จพ่อต้องคิดจำนวนเงินค่าเสียหายนี้เอาไว้นานแล้ว มิเช่นนั้นจะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร จำนวนเงินค่าเสียหายที่องค์ชายแต่ละคนต้องจ่ายนั้นไม่เท่ากันแต่พอดีกับที่สามารถรีดไถทรัพย์สินขององค์ชายแต่ละคนไปจนหมดเกลี้ยงทว่าพวกเขาก็ได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา แล้วจดจำเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้งานเลี้ยงในวังที่ควรจะเต็มไปด้วยความรื่นเริง กลับกลายเป็นเช่นนี้ไหนเลยจะยังมีความปิติยินดีหลงเหลืออยู่?นอกจากจีหรงเองที่มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ เพราะลูกชายของนางได้รับทรัพย์สมบัติเกือบครึ่งหนึ่งของท้องพระคลังภายในชั่วข้ามคืน!ลูกคนอื่นล้วนถูกลงโทษ มีเพียงจวินจิ๋วอิ่นคนเดียวที่ได้รับคำชมจากจวินฉงนางช่างยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้อย่างไรกัน เหมือนได้ให้กำเนิดอัจฉริยะอย่างจวินจิ๋วอิ่น ทำให้นางสามารถวางอำนาจในวังหลังได้จากนั้น ลูกชายก็ให้กำเนิดหลานชายที่เป็นอัจฉริยะอีกคนคิด ๆ ดูแล้ว ชีวิตช่างดีงามอะไรเช่นนี้ส่วนจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวงนั่งอยู่ในรถม้า โดยมีซวี่เป่าที่ง่วงนอนอยู่ในอ้อมแขนไป๋ซวงเห็นว่าเขาง่วงแล้ว จึงค่อย ๆ โอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขนซวี่เป่าพยายามลุ

DMCA.com Protection Status