Share

บทที่ 435  

Author: ฉินอันอัน
เกี๊ยวของทางเหนือและทางใต้ความจริงแล้วแตกต่างกันมาก อย่างน้อยทางใต้ความจริงแล้วก็มิได้นิยมกินเกี๊ยวที่ทำจากที่ทำจากแป้งสาลี ดังนั้นในตอนแรกพระชายาหลิ่วจึงไม่ได้สนใจเกี๊ยวนี้เท่าใดนัก

นางเพียงแค่กล่าวขอบคุณต่อชีหยวนอย่างจริงใจ

แม้ว่านางจะเข้าใจมานานแล้ว ว่าเหตุผลที่ชีหยวนพยายามอย่างหนักเพื่อตามนางกลับมา และช่วยนางจัดการกับพวกฉู่กั๋วกง จะเป็นเพราะว่าตัวชีหยวนเองก็อยู่ในสถานการณ์เป็นอริศัตรูกับอ๋องฉีอย่างอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันไม่ได้

ทว่าเมื่อมาถึงวัยอย่างนางตอนนี้ ก็มิใช่เวลาจะมัวลังเลกับจุดหมายอีกต่อไปแล้ว

นางมองเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น

และผลลัพธ์ก็คือชีหยวนได้ช่วยเหลือนางไว้อย่างมาก นางสามารถคืนสู่เมืองหลวง และกลับเข้าวังได้อย่างสง่าผ่าเผย จากนั้นยังสามารถกำจัดจวนฉู่กั๋วกงที่เคยกดขี่สูบเลือดสูบเนื้อนางและมารดาให้กลับคืนสู่ขุมนรกที่ควรอยู่อีกครั้ง

จุดนี้สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งปวงแล้ว

กระทั่งเกี๊ยวร้อน ๆ ถูกยกมา มันมิได้มีสีขาวเหมือนอย่างเกี๊ยวทั่วไป แต่กลับเป็นสีเหลืองใสเกือบคล้ายอำพันที่มาพร้อมน้ำแกงร้อน ๆ ในชามใหญ่

พระชายาหลิ่วพลันเหลือบมองชีหยวนปราดหนึ่งด้วยความประหลาดใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
สงสารพระชายาหลิ่ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 436  

    ชีหยวนแอบเดาะลิ้นในใจ นางย่อมรู้ดีอยู่แล้ว คนที่สามารถเอาตัวรอดจากการถูกตามล่าอย่างหนักหน่วงได้และยังสามารถปกป้องบุตรจนรอดชีวิตมาได้ ต้องไม่ใช่คนที่อ่อนแออย่างเด็ดขาด จริงดังคาด อีกฝ่ายเข้าใจกระจ่างชัดอย่างดี องค์หญิงใหญ่กัดริมฝีปากอย่างอดไม่ไหว: “เช่นนั้น พระเชษฐภคินีทรงพระกันแสงกับเสด็จพี่…” ใครเล่าจะไม่รู้จักร้องไห้! มีแต่พวกเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเท่านั้นหรือที่รู้จักร่ำไห้! ทว่าทันใดนั้นพระชายาหลิ่วกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา นางปรายสายตามององค์หญิงใหญ่อย่างราบเรียบ ใบหน้าแม้ประดับด้วยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นส่งไปไม่ถึงแววตาแม้แต่น้อย: “คนอื่นยามร่ำไห้คงเหมือนหญิงงามประคองใจ ยามนี้ข้าไปร่ำไห้บ้างคงเป็นได้แค่คนโง่เขลาที่หลับหูหลับตาเลียนแบบอย่างน่ารังเกียจ ไม่สู้ต่างฝ่ายต่างเก็บศักดิ์ศรีไว้ดีกว่า” องค์หญิงใหญ่คิดจะโต้แย้ง แต่ก็หมดหนทางโต้แย้ง ถ้อยคำที่พระชายาหลิ่วเอ่ยออกมาโหดร้ายมากก็จริง ทว่าความโหดร้ายก็คือความจริงของโลกใบนี้ ใช่แล้ว อีกฝ่ายร่ำไห้ดังบุปผาหลี่ต้องสายพิรุณ แต่กับพระชายาหลิ่วที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนจะไปเปรียบเทียบกับนางได้อย่างไร? นางวางตะเกียบลงเสียงดัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 437  

    นางเล่นมีดในมือไปมา ครั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่แว่วมาจากด้านนอก ก็เก็บมีดกลับเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพลิกกายลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาคู่นั้นพลันส่องประกายสว่างเจิดจ้าขึ้นมาทันที ยามที่เห็นฮ่องเต้หย่งชางเดินเข้ามา นางสะอื้นออกมาเบา ๆ : “เสด็จพ่อ!” ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง ฮ่องเต้หย่งชางใจอ่อนยวบลงโดยพลัน เขาทั้งรักและเอ็นดูธิดาพระองค์นี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ธิดาพระองค์นี้ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะถามว่า: “เจ็บหรือไม่?” เงียบไปเนิ่นนาน องค์หญิงเป่าหรงน้ำตารื้นพลางเม้มปากแน่นและส่ายศีรษะน้อย ๆ : “ไม่เจ็บเพคะ เสด็จพ่อ ลูกไม่เจ็บแม้แต่นิดเดียว” แม้ปากบอกว่าไม่เจ็บ ทว่ามือของนางกลับเอื้อมไปกดแผ่นหลังตนเอง เพียงเสี้ยวพริบตาโลหิตสีสดก็ไหลออกมากอีกครั้ง โลหิตหยดลงบนหลังมือของฮ่องเต้หย่งชาง สีหน้าของฮ่องเต้หย่งชางเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะเอ่ยปากดุอย่างอดไม่ได้: “ไม่เจ็บอะไร เจ้าดูสิบาดแผลของเจ้ากลายเป็นอะไรไปแล้ว! เซียวโม่เขาสติไม่สมประกอบตั้งแต่ยังเล็ก เจ้าไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนปกติได้ เหตุใดตอนนั้นเจ้าไม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 438  

    สถานการณ์ในตอนนี้ พระชายาหลิ่วโกรธเกลียดเคียดแค้นทุกคนในสกุลหลิ่ว หากว่าองค์หญิงเป่าหรงและเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าไปยุ่งด้วย จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ? องค์หญิงเป่าหรงผุดยิ้มอย่างลำพองตนในใจ จะว่าไป ความรักของบุรุษอยู่ที่ใด ความลำเอียงย่อมอยู่ที่นั่นด้วย บางทีเขาเองก็อาจจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ ว่าเขามีใจเอนเอียงไปทางเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยรวมถึงบรรดาพระโอรสพระธิดาที่นางให้กำเนิดโดยสมบูรณ์แล้ว ยิ่งเป็นเช่นนี้ องค์หญิงเป่าหรงก็ยิ่งอาศัยจังหวะที่ได้เปรียบโจมตีต่อเนื่อง: “เสด็จพ่อ! ในเมื่อพระองค์ตรัสเองว่า นางเป็นฮองเฮาองค์แรกของท่าน ช้าเร็วอย่างไรนางก็ต้องเสด็จกลับเข้าวัง พวกหม่อมฉันจะหลบหนีไปได้ชั่วชีวิตหรือเพคะ?” ฮ่องเต้หย่งชางเงียบไป องค์หญิงเป่าหรงน้ำตาร่วงเผาะพลางเอ่ยด้วยเสียงเบา: “เสด็จพ่อ ให้พวกหม่อมฉันไปเถิดเพคะ ให้พวกหม่อมฉันไปทูลขอพระราชทานอภัยจากนางเถิดเพคะ หากทุกฝ่ายเปลี่ยนอาวุธเป็นผ้าไหมและเครื่องหยก ไม่ดีหรือเพคะ?” ฮ่องเต้หย่งชางครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ท้ายที่สุดก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม แต่กระนั้นก็ยังไม่ลืมที่จะถามถึงอาการบาดเจ็บของนาง: “อดทนไหวหรือ?” องค์หญิงเป

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 439  

    ฮ่องเต้หย่งชางแทบจะหมดหนทางกับธิดาพระองค์นี้ของตนจริง ๆ หลังจากส่ายศีรษะอย่างจนปัญญาก็ตระหนักถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ว่า: “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับที่เจ้ากล่าวถึงชีหยวนคนนั้นขึ้นมาหรือ?” สองคนที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งคือจันทรากระจ่างบนฟากฟ้ามิอาจแตะต้อง ส่วนอีกคนเป็นแค่ดอกหญ้าทั่วไปบนพื้นดินที่จะเอื้อมมือไปเด็ดเมื่อใดก็ได้ ชีหยวนมีความพิเศษอะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้คนอย่างเป่าหรงจดจำได้ องค์หญิงเป่าหรงเม้มปาก ดูคล้ายว่ากำลังงุนงงสับสน และก็คล้ายว่ามีความสงสัยใคร่รู้อยู่ในที นางลืมตากว้างด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสา เม้มริมฝีปากพลางมองฮ่องเต้หย่งชางและกล่าวว่า: “เสด็จพ่อ ลูกจำนางได้ มิใช่เพราะตัวนาง แต่เป็นเพราะเสด็จป้าองค์หญิงใหญ่และอวิ๋นถิง” เอ่ยถึงเรื่องนี้ สีพระพักตร์ของฮ่องเต้หย่งชางมืดครึ้มลง ก่อนจะเปล่งเสียงโอ้ออกมาเพียงหนึ่งคำ และถามอย่างคลุมเครือ: “พวกเขามีความเกี่ยวข้องอันใดกันหรือ?” “เสด็จพ่อไม่ทราบหรือเพคะ? ตอนที่คุณหนูใหญ่สกุลชีท่านนี้เพิ่งกลับมาจากบ้านในชนบท คนในตระกูลของพวกเขาต่างไม่โปรดปรานนางเลยสักคน จนสุดท้ายในตอนที่จัดงานเลี้ยงรับญาติ ก็มีพระปิตุจฉาองค์หญิง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 440  

    ทว่าในขณะเดียวกันก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ สวรรค์ยุติธรรมเสมอ ในโลกปัจจุบันนางคือคุณหนูใหญ่ที่ใครต่างก็จับตามอง ทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ก็ยังเป็นองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในต้าโจว เห็นไหมล่ะคนชั้นสูงอยู่ที่ไหนก็เป็นคนชั้นสูงอยู่วันยังค่ำ บิดาของนางเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ส่วนมารดาของนางก็เป็นอาจารย์ชั้นพิเศษ นางเคยชินกับการมีแค่พี่เลี้ยงและเงินทองอยู่เป็นเพื่อนมาตั้งแต่ยังเล็กแล้ว จึงเรียนรู้ที่จะพูดแบบคนเมื่ออยู่ต่อหน้าคน และพูดแบบผีเมื่ออยู่ต่อหน้าผีมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีใครจะปิดบังความรู้สึกของตนเองได้เก่งไปมากกว่านางแล้ว ในโลกยุคปัจจุบันนางยังสามารถกลั่นแกล้งพวกปรสิตชั้นต่ำที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นให้ตายไปทีละคนได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับโลกยุคโบราณ? นางเป็นถึงองค์หญิงเชียวนะ นางฆ่าคนก็ไม่อะไรต่างจากฆ่ามดปลวกให้ตาย และตอนนี้ก็ถึงคราวของชีหยวนเจ้ามดปลวกตัวนี้แล้ว นางเดาะลิ้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ ดูสิ ทั้งที่ได้กลับชาติมาเกิดใหม่เหมือนกัน อ๋องฉีกลับไม่เอาไหนถึงเพียงนี้ ทว่ากลับกันคนอย่างชีหยวนยังสามารถก่อเมฆลมปลุกปั่นสถานการณ์ได้เลย แต่ว่า ถึงจะเป็นเช

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 441

    ชีเจิ้นรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงของตนคงตกต่ำอย่างถึงที่สุดไม่สิ แต่เดิมดวงของเขาก็คงไม่ดีอยู่แล้วมิฉะนั้น เหตุใดในช่วงเวลาอันสั้นนี้ เขาถึงได้พบกับสตรีที่น่าสะพรึงกลัวถึงสองคน และแต่ละคนก็น่ากลัวไม่แพ้กัน!ชีหยวนก็ไม่ต้องพูดถึง เขาเห็นกับตาตัวเองว่านางบิดคอคนเหมือนบิดผ้า วิธีฆ่าของนางก็แปลกประหลาด วิธีที่ใช้บ่อยที่สุดคือปาดคอหรือแทงเข้าหัวใจ คนที่ถูกฆ่าล้วนไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำพูดสุดท้ายส่วนองค์หญิงเป่าหรง ฟังดูก็ไม่ใช่คนที่จะยุ่งด้วยได้ง่าย ๆตั้งแต่ยังเด็ก นางก็อ้างว่าตัวเองถูกสาป ทำให้พระภิกษุ นักพรต และชาวบ้านล้มตายไปไม่รู้เท่าไรสองคนนี้คิดจะแข่งกันว่าใครฆ่าคนได้มากกว่ากันหรือ?ถ้าหากต้องแข่งกันจริง ๆ แม้ว่าชีหยวนจะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเขา และตัวเขาเองก็อยู่ข้างชีหยวน แต่เขาต้องบอกไว้ก่อน หากต้องเดิมพันแพ้ชนะ เขาก็ยังต้องลงเดิมพันให้กับองค์หญิงเป่าหรงอยู่ดีชีวิตคนเราไม่เคยยุติธรรม สิ่งที่เจ้าต้องใช้ความพยายามมหาศาลเพื่อให้ได้มา บางคนกลับสามารถยกนิ้วกวักมือเรียกแล้วแย่งไปได้ง่าย ๆ เพียงเพราะเกิดมาต่างชนชั้น นี่แหละคือชะตากรรมที่ถูกกำหนดมาแล้วสีหน้าของเขาดูแปลกประหลาดไปชั่วขณะ ไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 442

    ท่านโหวผู้เฒ่าชีตบมือหัวเราะลั่นดี!ดี! ดี!เขาชมอยู่สามคำติดต่อกันส่วนพระชายาหลิ่ว ราชบุตรเขยลู่ และองค์หญิงใหญ่ ทั้งสามคนมองไปที่ชีหยวน ต่างพากันตะลึงโดยเฉพาะราชบุตรเขยลู่ เขาเคยเห็นฝีมือการฆ่าคนของชีหยวนมาก่อน หากสามารถสังหารได้ในดาบเดียว นางจะไม่มีวันฟันซ้ำเป็นครั้งที่สองความแข็งแกร่งและความศรัทธาของเด็กสาวผู้นี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิตเขาตามความคิดและการกระทำของคนหนุ่มสาวรุ่นนี้ไม่ทันเสียแล้วเซียวอวิ๋นถิงยืนกอดอกยิ้มมองชีหยวนแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันสังเกต ว่ารอยยิ้มนั้นเจิดจ้าราวดวงดารา สาดส่องไปทั่วทุกหนแห่งเขาไม่เคยพบสตรีเช่นนี้มาก่อนทะนงในศักดิ์ศรี เคารพตนเอง แข็งแกร่งและพึ่งพาตัวเองนางไม่ต้องรอให้ใครมาช่วยเหลือ เพราะตัวนางคือผู้ช่วยเหลือตนเองกลีบเหมยที่ร่วงโรยปลิวขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะโปรยปรายลงบนศีรษะและอาภรณ์ของทุกคน ชั่วขณะนั้น เซียวอวิ๋นถิงรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายกับว่าเคยเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในความฝันยามสนธยาแต่ความคิดนี้ก็เพียงแค่แวบเข้ามาแล้วก็จางหายไปชีเจิ้นถอนหายใจอย่างจนปัญญาแล้วเอ่ยว่า “แล้วเรื่องตรงหน้านี้จะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 443

    ฮ่องเต้หย่งชางยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ขยับ พระพักตร์เย็นชาองค์รัชทายาทคลำไปคลำมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ รีบกระชากผ้าปิดตาออก แล้วสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาก็คือพระพักตร์ที่โกรธจัดของฮ่องเต้หย่งชางเขาตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอยออกไป ร่างอ้วนใหญ่ทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นเสียงดังโครมจนราวว่าพื้นรอบ ๆ สั่นสะเทือนขันทีเซี่ยรีบเบือนหน้าหนีทันทีคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้ามองเช่นกันคนทั้งสองนี้ คนหนึ่งคือฮ่องเต้ อีกคนคือองค์รัชทายาทฮ่องเต้ทรงตำหนิรัชทายาทเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วแต่ในอนาคต หากรัชทายาทนึกถึงเหตุการณ์นี้ เขาย่อมไม่กล้าไปเอาเรื่องฮ่องเต้ ก็คงต้องมาผูกใจเจ็บกับพวกเขาที่ได้เห็นความอับอายของเขาในวันนี้ อยู่ห่างออกไปหน่อยจะดีกว่ารัชทายาทได้สติ รีบคลานเข้าไปข้างหน้าฮ่องเต้หย่งชาง คุกเข่าลงแล้วปล่อยโฮออกมาร้องไห้พลางกล่าวยอมรับผิด“เสด็จพ่อ เป็นความผิดของลูกเอง ลูกจะไม่กล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว”“ลูกจะไล่พวกตัวกาลกิณีพวกนี้ออกไปให้หมด ไล่ไปให้หมดเลยพ่ะย่ะค่ะ!”ความรู้สึกของฮ่องเต้หย่งชางพลันซับซ้อนขึ้นมาชั่วขณะก่อนเสด็จมา เขาเชื่อจริง ๆ ว่ารัชทายาทอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แ

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 488

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนยังเงียบอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “พวกเขาเป็นครอบครัวทหารตระกูลชีแน่นอน และตลอดหลายปีมานี้ก็มีการติดต่อกับเผ่าหว่าล่าจริง ลักลอบค้าขายเหล็กเถื่อนกับเผ่าหว่าล่า พวกท่านแน่ใจหรือว่าไม่รู้เรื่องนี้เลย?!”ชีเจิ้นไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าคือพระราชนัดดา “พวกเราจะไปทำเรื่องโง่ๆ ทำลายตนเองแบบนั้นได้ยังไง?! ตั้งแต่ไหนแต่ไร แคว้นเรากับเผ่าหว่าล่าก็เป็นศัตรูกันมานาน ญาติพี่น้องของเรากี่คนแล้วที่ต้องตายในมือของเผ่าหว่าล่า เราจะไปสมคบคิดกับพวกมันได้ยังไง?!”สีหน้าของท่านโหวผู้เฒ่าชีซีดขาวราวกับเถ้าถ่านเรื่องคราวนี้เล่นงานเขาจนตั้งตัวไม่ทันจริง ๆจะจัดการยังไงดี? จะทำอย่างไรดีกันแน่?จะติดสินบนเจ้าเมืองทงโจว หม่าเซวียนไหม?ไม่ได้ เรื่องนี้ทำแบบนั้นไม่ได้เบื้องหลังคนพวกนั้นวางแผนมาอย่างดี แสดงว่าจ้องเล่นงานพวกเขาเต็มที่แล้วถ้าให้หม่าเซวียนช่วยกลบเรื่อง จะยิ่งกลายเป็นหลักฐานมัดตัวว่าตระกูลเราสมคบขายชาติครั้งนี้ ดูยังไง ก็เป็นกับดักตายชัด ๆ!เซียวอวิ๋นถิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะหินเบา ๆ “คดีนี้ อย่างช้าบ่ายนี้ถูกส่งไปถึงมือกรมยุทธนาการ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมยุทธนาการ ยังไง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 487

    เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือท่านโหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นแน่นอนคนเหล่านี้น่าจะเป็นครอบครัวทหารจี้โจวจริง ที่มาของพวกเขาคงไม่ปลอมแปลง มิฉะนั้นจะเอาอะไรมาปรักปรำตระกูลชีได้ล่ะ?”ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาถึงได้วางแผนกันใหญ่โตถึงขนาดบุกมาลอบสังหารนางในวันขึ้นปีใหม่ ยังบุกเข้าบ้านพักตระกูลชีเพื่อสังหารหมู่ นี่เป็นการจงใจทำให้เรื่องใหญ่โต“พวกมันไม่กลัวตระกูลชีแจ้งทางการ กลัวแค่ตระกูลชีไม่แจ้งเท่านั้น!”พอแจ้งทางการไปแล้ว เรื่องถึงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องที่ตระกูลชีแอบลักลอบขนอาวุธเหล็กไปขายให้เผ่าหว่าล่าถึงจะถูกเปิดโปงวันขึ้นปีใหม่ทั้งที ให้ตระกูลชีไปตายเสียก็ดูสมเหตุสมผลใช่ไหมล่ะ?ผู่อู๋ย่งแค่นหัวเราะเบา ๆ “แจ้งทางการแล้วหรือ?”เสี่ยวสวีจื่อมือไม้กะล่อยกะหลิบ รีบยื่นมือไปรับถ้วยในมือเขา แล้วเปลี่ยนมานวดไหล่ทุบหลังอย่างเป็นธรรมชาติ พลางกระซิบว่า “คนของเราตามติดอยู่ตลอดขอรับ ตั้งแต่ต้นก็แจ้งทางการแล้ว เพียงแต่ว่า......”ผู่อู๋ย่งเลิกคิ้วขึ้น “เพียงแต่ว่าอะไร?”“เพียงแต่ว่าไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลชีจะเก่งขนาดนี้ ระหว่างทางนางคนเดียวฆ่าคนของเราไปแปดคนแล้วขอรับ แม้แต่ลิ่วจื่อที่ฝีมือดีที่สุดก็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 486

    ให้ตายเถอะ ไปมีเรื่องกับนางไม่ได้จริง ๆระหว่างทางที่มาในเมื่อครู่นี้ เขาได้เจอกับพ่อบ้านของตระกูลชีแล้ว พ่อบ้านของตระกูลชีถึงกับตกตะลึงไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาตกใจกลัวอย่างมาก เหล่านักฆ่าพวกนั้นล้วนเป็นองครักษ์ของตระกูลชีที่สังหารไปเองคำพูดพรรค์นี้ ก็คงมีแค่เจ้าเมืองทงโจวเท่านั้นที่เชื่อหลอกผีอยู่รึไงชีหยวนน่ะหรือจะตกใจกลัว?!นางอาจจะทำให้พญายมตกใจกลางดึกได้ แต่ไม่มีทางที่จะถูกนักฆ่าแค่ไม่กี่คนทำให้ตกใจกลัว!ดูจากตอนนี้แล้ว ก็จริงอย่างที่คิดเลยเซียวอวิ๋นถิงจนกระทั่งเห็นนางนั่งอยู่บนขั้นบันไดอย่างปลอดภัย เท้าของนางเหยียบอยู่บนอกของชายคน ถึงได้ถอนหายใจออกมาช้า ๆ เดินเข้าไปใกล้อีกนิด มองชายคนนั้นแวบหนึ่งแล้วถามชีหยวนว่า “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร อยู่ดีมาก” ชีหยวนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ยังคงจ้องชายคนนั้นต่อไป “ข้าแนะนำให้เจ้าพูดให้เร็วหน่อย ข้าเป็นคนไม่มีความอดทนมากนัก ถ้าคำตอบของเจ้าไม่ถูกใจข้า หรือบิดเบือนความจริง ข้าก็รีบจะถลกหนังเจ้าไปทำกลองหนังมนุษย์เสีย ส่วนพวกพ้องของเจ้าข้าง ๆ ข้าก็จะเอาพวกเขาทำเป็นโคมไฟหนังมนุษย์ ส่งไปให้เจ้านายของเจ้าด้วย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 485

    ครอบครัวทหารของตระกูลชี?ชีหยวนเพียงแค่เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มพลางยกดาบขึ้นฟันลง ฟันนิ้วของชายคนนั้นขาดไปหนึ่งนิ้วชายคนนั้นส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นทันที“คิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบหรือไง?” ชีหยวนหัวเราะเยาะเสียงเย็นชา “จี้โจวอยู่ไกลจากที่นี่แค่ไหน? ข้าไม่สนหรอกว่าพวกเจ้าจะเป็นครอบครัวทหารของตระกูลชีจริงหรือไม่ ข้าถามแค่ว่า ในเมื่อเป็นคนของตระกูลชี ไฉนถึงรู้ความเคลื่อนไหวของข้าล่วงหน้า มาดักฆ่าข้ากลางทาง แล้วยังจงใจบุกมาฆ่าคนในบ้านพักชนบทนี้อีกด้วย?”อย่าบอกว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นบ้าคลั่งจนเสียสติไปแล้วหากพวกเขาคลุ้มคลั่งขนาดนั้น ตระกูลชีก็คงล่มสลายไปนานแล้วส่วนคนที่เหลือ สมาชิกบ้านรองและบ้านสามของจระกูลชีต่างประพฤติตัวดี เพราะท่านโหวผู้เฒ่าชีเป็นผู้ชัดเจนมาโดยตลอด บรรดาศักดิ์เป็นของบ้านหลัก ทรัพย์สมบัติเมื่อถึงเวลาก็แบ่งกันอย่างยุติธรรมมีแต่คนเสียสติถึงสร้างปัญหากับบ้านหลักอีกอย่างถ้าต่อกรกับบ้านหลักจริง เช่นนั้นก็น่าจะไปฆ่าชีเจิ้นหรือชีอวิ๋นจื่อสิ ฆ่านางไปจะมีประโยชน์อะไร?ชีหยวนพลิกกริชในมือเล่น กริชหมุนลื่นในมือนางไหลราวกับมันมีชีวิต หมุนพลิกตามการควบคุมข

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 484  

    นางคิดไว้แล้วว่าจะให้พวกเขาตายอย่างไร แต่นางไม่คิดว่า พวกเขาจะใจร้อนเยี่ยงนี้! อีกทั้ง ดักซุ่มโจมตีนางกลางทางก่อน ขณะเดียวกันก็บุกเข้ามาฆ่าคนในบ้านพักชนบท ขณะที่นางฆ่าฟันศัตรู นางก็ยังมีเวลาคิดไปด้วยว่า เจ้าขันทีสุนัขนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่?! ฆ่าเพื่อระบายความแค้นแค่นั้น? ไม่สิ พวกขันทีจิตวิปริตทั้งนั้น ยิ่งเป็นตัวประหลาดที่ควบคุมกององครักษ์เสื้อแพรได้แบบเขา จะต้องวิปริตยิ่งกว่าคนธรรมดา มันไม่มีทางแค่ต้องการทำลายบ้านพักชนบทของนางกับฆ่าคนของนาง เพื่อสั่งสอนนางเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้น บ้านพักชนบทผืนนี้……เป็นบ้านพักชนบทของตระกูลชี องครักษ์นายหนึ่งกระโดดลงมาจากหลังคา พุ่งกระโจนเข้าใส่ชีหยวน ชีหยวนยกมือขึ้นปล่อยเกาทัณฑ์แขนเสื้อโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หลังจากยิงคนร่วงลงพื้นแล้ว นางก้าวเข้าไปเหยียบบนแผลเขา ย่อตัวนั่งลง ถามเสียงเย็นชา “พวกเจ้าเป็นใคร?” เจ้าขันทีสุนัขกล้าส่งคนมาฆ่าคนในขึ้นวันปีใหม่อย่างเปิดเผยแบบนี้ เช่นนั้นไม่มีทางทิ้งหลักฐานแน่นอน คนพวกนี้ไม่มีทางเกี่ยวข้องโยงใยถึงเจ้าขันทีสุนัขนั่นได้แน่ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จวนโหวไม่มีทางไม่แจ้งทางการ เจ้าขันทีสุนัข

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 483  

    จะตามทันได้อย่างไรกันเล่า?! คุณหนูใส่กระโปรง แต่คุณหนูใหญ่กลับขี่ม้าแบบนั่งหันข้างได้! หลายปีแล้วที่ไม่เห็นใครขี่ม้าเยี่ยงนี้ นางดูเหมือนเติบโตมาพร้อมกับหลังม้ายังไงยังงั้น พูดแบบไม่เกรงใจเลยนะ พวกเขาก็ติดตามรับใช้ท่านโหวกับท่านโหวผู้เฒ่ามาหลายปี แต่ทักษะการขี่ม้าของท่านโหวกับท่านโหวผู้เฒ่ายังไม่ดีถึงขั้นนี้เลย คุณหนูไปฝึกทักษะการขี่ม้าขั้นเทพเช่นนี้มาจากไหนกันแน่? ความเร็วของชีหยวนนั้นรวดเร็ว แทบจะไปถึงบ้านพักชนบทด้วยความเร็วปานลมกรดและสายฟ้าแลบ บ้านพักชนบทผืนนี้ไม่ใช่ของนาง แต่เป็นของตระกูลชีที่มอบให้นาง เพื่อเป็นการชดเชยให้กับนาง เดิมทีนางอยากจะทำให้มันเป็นบ้านของตัวเอง ตอนนี้บ้านหลังนี้ถูกทำลายไปแล้ว บนประตูหน้าบ้านยังคงติดยันต์เทพผู้พิทักษ์ประตูที่สลักจากไม้ท้อ โคมแดงสองดวงแขวนอยู่ตรงระเบียง หน้าเรือนยังมีเศษกระดาษสีแดงจากการจุดประทัด กระทั่งยังได้กลิ่นดินปืนจาง ๆ ที่โชยมา แต่ตอนนี้ประตูใหญ่เปิดอ้ากว้าง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากด้านใน วันขึ้นปีใหม่ ตามธรรมเนียมทางชนบท ชาวนาที่เช่านาทำมักจะมาอวยพรเจ้าของที่ดินในวันขึ้นปีใหม่ ต่อให้เจ้าของที่ดินไม่อยู่ ไปคาร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 482

    ไม่ใช่มารีดไถเงิน ที่แท้คือมาฆ่านาง!วันปีใหม่แท้ ๆ ช่างรีบร้อนเสียจริงอ๋องฉีกับผู่อู๋ย่งผู้นั้น ต้องมีคนใดคนหนึ่งเกี่ยวข้องแน่ในขณะที่นางเพิ่งแตะพื้น ก็มีจอบฟาดลงมาตรงหน้านาง ความเร็วนั่น ทำเอาผู้คนตกใจจนแทบหยุดหายใจ นี่เหมือนชาวบ้านธรรมดาที่ดูซื่อ ๆ ที่ไหนกัน? นี่คือองครักษ์ฝีมือดีที่ถูกฝึกมาอย่างดีหลิวจงเห็นภาพนั้นก็ตกตะลึงจนตัวแข็ง เขารู้อยู่แล้ว เขารู้อยู่แล้วว่าตามคุณหนูใหญ่ออกมาข้างนอกไม่มีวันเป็นเรื่องดีได้ สวรรค์ นี่ยังไม่ทันถึงบ้านพักชนบทเลย!คนเหล่านี้เป็นใครกันแน่!ไม่สนใจว่าเป็นใครแล้ว เขาร้องตะโกนสุดเสียงกับองรักษ์ “อย่าห่วงข้า อย่าห่วงข้า ช่วยคุณหนูใหญ่ ช่วยคุณหนูใหญ่ก่อน!”ถ้าคุณหนูใหญ่เป็นอะไรไป เขากลับไปก็คงถูกท่านโหวกับท่านโหวผู้เฒ่าหั่นเป็นชิ้นอยู่ดี!แต่ดูเหมือนความกังวลของเขาจะเกินจำเป็นไปหน่อยเพราะชีหยวนที่ลงพื้นก็รับจอบได้อย่างพอดิบพอดี ใช้แรงเหวี่ยงตัวกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ นั่งคร่อมคอชายท่าทางซื่อ ๆ คนนั้น จากนั้นใช้ขาบิดรัดคอเขาอย่างแรง จนคอของเขาหักเอียงไปข้างหนึ่ง……เสียงกรีดร้องของหลิวจงขาดหายไปทันทีสวรรค์!เขาประเมินคุณหนูใหญ่ต่ำเก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 481

    วันขึ้นปีใหม่ ทั่วทั้งเมืองต่างพากันจุดประทัดและดอกไม้ไฟเสียงประทัดดังสนั่นทำให้ชีหยวนนอนไม่หลับ นางตื่นแต่เช้าตรู่แม้ว่าโดยปกติแล้ว นางไม่จำเป็นต้องไปคำนับผู้ใหญ่ตอนเช้าและเย็น แต่เพราะวันนี้เป็นวันปีใหม่ อีกทั้งนางก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในตระกูลชี ดังนั้นนางจึงไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าชีที่เรือนเมื่อเห็นนางมา ฮูหยินผู้เฒ่าชีก็ดีใจเสียจนไม่รู้จะทำเช่นไรดีทั้งยังรู้สึกโชคดีในใจ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์นั้นต้องค่อย ๆ สร้างขึ้นจริง ๆดังนั้นเมื่อชีหยวนบอกว่าอยากไปที่บ้านพักชนบทของตระกูล ฮูหยินผู้เฒ่าชีก็ไม่รู้สึกว่าแปลกแต่อย่างใดเดิมทีชีหยวนก็แตกต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปอยู่แล้ว นางจึงไม่ใช้ข้อบังคับแบบเดียวกันกับชีหยวนนางไม่เพียงแต่อนุญาตโดยไม่ลังเล อีกยังเตรียมข้าวของให้นางมากมาย พร้อมกับกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “ถ้าเจ้าชอบเด็กสาวสองคนที่นั่นจริง ๆ ก็พาพวกนางกลับมาก็ย่อมได้”ชีหยวนปฏิเสธเสียงแข็งทันทีบางทีสำหรับหลีฮวาและชิงเถา นี่อาจเป็นทางออกที่ดีแต่ในเมื่อมีวาสนาพบเจอกันแล้ว นางก็ไม่อยากให้พวกนางต้องเป็นทาสรับใช้ใคร มีชีวิตที่ไร้อิสระ มิเช่นนั้นคงไม่ให้พวกนางอ่านเขียนตั้งแต

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 480

    ผู่อู๋ย่งจึงหันมามองเขาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก “เจ้าเป็นหลานของขันทีสวี”ขันทีน้อยยิ้มพลางตอบรับผู่อู๋ย่งพยักหน้าเบา ๆ “เมื่อองค์หญิงเสด็จไปแล้ว เจ้าก็มาติดตามข้า ดีหรือไม่?”คำพูดมีเหตุมีผล ถ่ายทอดสารได้ชัดถ้อยชัดคำ ดูท่าแล้วน่าจะเคยเรียนหนังสือมาก่อน เป็นต้นกล้าดีที่สามารถเก็บไว้ฝึกฝนข้างกายได้จะปล่อยให้พวกโจรสลัดตงอิ๋งได้ไปง่าย ๆ ทำไมกัน?เสี่ยวสวีจื่อ รีบคุกเข่าลงโขกศีรษะทันที “ขอบพระคุณปู่บุญธรรมที่เมตตา ข้าน้อยจะฟังแต่บัญชาขององค์หญิงและคำสั่งของท่านเท่านั้นขอรับ!”ผู่อู๋ย่งคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม สุดท้ายก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังตำหนักขององค์หญิงเป่าหรงแต่ก่อนยามพบองค์หญิงผู้นี้ นางมักทรงภูษาล้ำค่า ระยิบระยับด้วยไข่มุกและอัญมณี งามสง่าเกินผู้ใดทว่ายามนี้ นางเพียงปล่อยผมหลุดลุ่ย ไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่อง เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็ไม่แม้แต่จะเผยแววอารมณ์ใดมากนักกลับทำให้ผู่อู๋ย่งมององค์หญิงผู้นี้ใหม่อีกครั้ง “องค์หญิงไม่กลัวหรือ?”“กลัวแล้วมีประโยชน์ใด?” องค์หญิงเป่าหรงลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้ารำคาญ แล้วหันมาจ้องผู่อู๋ย่ง “ไม่ต้องพูดพร่ำให้มากความ ทั้งข้าและจวนกั๋วกงต้องตกต่ำถ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status