Share

บทที่ 978

Author: หว่านชิงอิ๋น
เขาเอียงร่างเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี รวบรวมกำลังภายในไว้ในฝ่ามือ กัดฟัน และปล่อยกำลังภายในออกไปอย่างรุนแรง

ทันใดนั้นเขี้ยวเหล็กเล่มหนึ่งในร่างพุ่งออกมาอย่างแรง

พลังนั้นแข็งแกร่งมากจนเขี้ยวเหล็กถูกสะบัดออก และพุ่งเข้าใส่ร่างของลั่วฉิงโดยตรง

ในระยะใกล้เช่นนี้ ลั่วฉิงมิอาจหลบเลี่ยงได้ทัน

นางร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด ทั้งร่างถูกกระแทกจนปลิวออกไป

เขี้ยวเหล็กปักกลางหน้าอกของนาง ลั่วฉิงล้มลงกับพื้นอย่างแรง และกระอักเลือดออกมา

นางมิเคยคิดเลยว่าวันหนึ่งนางจะถูกเขี้ยวเหล็กของนางเองเล่นงานเช่นนี้

ฟู่เฉินหวนยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาลึกล้ำฉายแววเย็นชา

สายตาเย็นยะเยือกนั้นทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในห้องน้ำแข็งใต้ดิน

ลั่วฉิงตกใจมาก "นี่เจ้าแค่แสร้งทำรึ!"

ฟู่เฉินหวนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ไหล่ของเขา และเดินไปหาลั่วฉิงช้า ๆ “ถ้ามิทำเช่นนี้ ข้าจะทำให้เจ้าสาหัสได้อย่างไร”

แววตาเขาเย็นเยียบ ก่อนที่เขาจะก้มลงหยิบดาบของลั่วฉิงขึ้นมา

เมื่อลั่วฉิงเห็นสิ่งนี้ก็ตื่นตระหนกทันที นางปามีดสั้นออกไปจากฝ่ามือ

ฟู่เฉินหวนเอียงตัวหลบได้ทัน

ลั่วฉิงใช้โอกาสนี้รีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไปทันที

เมื่อฟู่เฉินหวนมอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Patsayanan Hotek
เดินเรื่องช้ายืดเยื้อขนาดนี้ก็ช่วยอัพทีหลายๆ ตอนหน่อยเถอะค่ะ 2 ตอนอ่านไม่ได้อะไรเลยจบแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 979

    พวกนอกด่านแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกนอกด่านได้สะสมกำลังพลและซ่อนเร้นความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้แม้ว่าพวกเขาจะผลาญกำลังทหารของพวกนอกด่านไปมิน้อย แต่สำหรับพวกนอกด่านแล้ว ก็มิต่างจากน้ำหนึ่งหยดในถังเท่านั้นแต่ละเผ่าที่ผลัดกันมาโจมตีเมืองนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆลูกธนูและเสบียงกำลังจะหมด ชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายแต่สำหรับพวกนอกด่าน ถึงจะมีบาดเจ็บล้มตายบ้าง แต่ในภาพรวมแล้วมิได้มากมายอะไร การทำลายเมืองเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น…… ธารน้ำเฉี่ยนซีเมื่อได้รู้ว่าพวกนอกด่านล่าถอยออกไปอีกครั้งแล้ว ซือซิงก็รู้สึกสับสนลั่วชิงยวนคนนี้นับว่าเกินที่เขาคาดคิดไว้มาก นางต้านทานมาได้หลายวันถึงเพียงนี้ทันใดนั้น ทหารก็มารายงาน "ท่านแม่ทัพซือ มีสตรีนางหนึ่งต้องการพบท่าน"ซือซิงตกใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นสตรีที่ถูกพามา เขาก็มองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวังเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปในกระโจมที่พัก“องค์หญิงหล่างชิ่นมาที่นี่ด้วยตนเองเชียวหรือ?”หล่างชิ่นสวมเสื้อคลุมสีดำ แต่ยังเห็นผ้าพันแผลสีขาวที่พันหูของนางไว้ และใบหน้าของนางซีดเซียวมากแต่ดวงตาของนาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 980

    นายทหารตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ก่อนบ่นพึมพำว่า "เขาอาจจะมิอยากรับลูกชายตัวโตอย่างท่านก็ได้"“ไสหัวไป!” ซือซิงเตะเขาหนหนึ่งด้วยความโกรธ…… ฟู่เฉินหวนนอนอยู่ที่นั่นสองวันแล้วก็ตื่นขึ้นมาในที่สุดหลังจากตื่นขึ้นมา เมื่อพบว่าตนมิได้อยู่ที่อู่จิ้นแต่กลับอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาก็รู้สึกโกรธมาก “เซียวชู เจ้ากล้าดีอย่างไรมาขัดคำสั่งข้า?!” ฟู่เฉินหวนโกรธจัดเซียวชูคุกเข่าลง “กระหม่อมขัดคำสั่งท่านอ๋อง ยินดีรับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วเปิดประตูออกไปด้วยความโกรธ“หากเกิดอะไรขึ้นกับลั่วชิงยวน ข้าจะไม่มีวันไว้ชีวิตเจ้า!”“เอาเถอะ ไปอู่จิ้นได้แล้ว!”พวกเขาทั้งสองเริ่มเดินทาง มิหลับมินอนตลอดทั้งคืนในที่สุดก็มาถึงอู่จิ้นมองเห็นกองทัพในชุดเกราะสีดำ ยืนสงบนิ่งอยู่ในทะเลทรายกองทหารสามหมื่นนาย แยกกันมาจากหลายทิศทางและกำลังรวมตัวกันที่นี่ดูมีพลังน่าเกรงขามเต็มไปด้วยจิตสังหารท่วมท้นเมื่อฟู่เฉินหวนขี่ม้าและปรากฏตัวบนเนินหินรองแม่ทัพหลายคนรีบก้าวเข้ามาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว“ทุกคนมาถึงแล้ว รอรับคำสั่งจากท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋อง ตามที่กองทัพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 981

    แต่ในเวลานี้ หล่างชิ่นซึ่งเป็นผู้นำในการบุก สายตาจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวนท่ามกลางเสียงบุกโจมตีของพวกนอกด่าน จู่ ๆ เชือกเส้นหนึ่งถูกเหวี่ยงออกมาอย่างรวดเร็วเชือกนั้นพันรอบคอของลั่วชิงยวนทันทีในชั่วพริบตานั้น คอของลั่วชิงยวนก็ตึงแน่นขึ้น สึกหายใจมิออก และพลังอันแข็งแกร่งก็กระชากนางออกไปอย่างรุนแรงนางพยายามดึงเชือกที่พันรอบคอออกแต่ก็มิสามารถแก้ได้ความเร็วของอีกฝ่ายเร็วเกินกว่านางจะทันได้สู้กลับ“ชิงยวน!” ลั่วอวิ๋นสี่อุทานเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น และรีบไปช่วยนางทันทีลั่วชิงยวนตะโกนอย่างร้อนรนว่า "ปิดประตูเมือง! ปิดประตูเร็วเข้า!"ลั่วอวิ๋นสี่กัดฟัน รีบลงจากหอประตูเมืองทันที และพาผู้คนไปปิดประตูเมืองไว้ในขณะนั้นเอง พวกนอกด่านก็บุกมาถึงหน้าประตูเมืองแล้วด้วยแรงมหาศาลเหล่านั้น เกือบจะพังประตูเมืองลงได้แล้วลั่วอวิ๋นสี่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อกั้นประตูเมืองเอาไว้ ขณะที่เตี่ยฉุยก็ใช้กำลังเต็มที่เพื่อต้านทานแรงผลักดันอันทรงพลังดังกล่าวถึงกระนั้น ก็ยังยากลำบากมากนางกัดฟันแน่น ต้านอย่างสุดกำลังหากประตูเมืองถูกพังออกได้ นั่นก็หมายความว่าทั้งเมืองถูกตีแตกไม่มีอะไรจะสามา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 982

    ในขณะนั้นนางคิดว่าตัวเองกำลังฝัน“ฟู่เฉินหวน?”เขามาได้อย่างไร?ฟู่เฉินหวนถือกระบี่ยาวในมือ จิตสังหารแผ่ออกมาทั่วตัว เข้าโรมรันกับหล่างชิ่นทันทีลั่วชิงยวนรีบแกะเชือกออกทันที พยายามจะหยัดกายขึ้นแต่กลับเจ็บจนต้องกุมหน้าอกเอาไว้เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมอง นางเห็นกองทหารหุ้มเกราะกรูเข้าใส่ทัพพวกนอกด่านทหารบนหอประตูเมืองที่ยังคงสู้สุดกำลังต่างหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ และตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า "กำลังเสริมกำลังมา! กำลังเสริมของเรามาแล้ว!"ในที่สุดหินก้อนใหญ่ที่วางอยู่บนบ่าของลั่วชิงยวนก็พลันเบาลงเซียวชูมาถึงก็เริ่มต่อสู้กับหล่างชิ่นทันที ฟู่เฉินหวนจึงแยกตัวออกจากการต่อสู้ลั่วชิงยวนที่เพิ่งลุกขึ้นยืนได้ด้วยความยากลำบาก จู่ ๆ ก็ถูกมือคู่หนึ่งดึงเข้ามาในอ้อมกอดนางถูกฟู่เฉินหวนกอดไว้แน่นลั่วชิงยวนสะดุ้ง จากนั้นยกมือขึ้นกอดเขาไว้แน่นเช่นกัน“บาดแผลของท่านมิเป็นอะไรใช่หรือไม่? ท่านมาเมื่อไหร่กัน?”ในใจลั่วชิงยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ความฝันและความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม เขามิได้นอนหมดสติอยู่บนเตียงฟู่เฉินหวนคลายอ้อมกอดพลางมองดูคนที่อยู่ตรงหน้า สภาพซอมซ่อเปรอะเปื้อนด้วยคร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 983

    “ทหาร ประหารพวกมันเดี๋ยวนี้!”ฟู่เฉินหวนออกคำสั่ง เต็มไปด้วยอำนาจและความน่าเกรงขามหัวใจของซือซิงสั่นสะท้าน "ท่านอ๋อง! กระหม่อมมีความผิด แต่ยามนี้เรากำลังเผชิญกับศัตรูที่น่าเกรงขาม กระหม่อมยินดีชดเชยความผิด หวังว่าท่านอ๋องจะให้โอกาสกระหม่อมได้แก้ตัว!"ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชามิไหวติง เอ่ยเสียงเย็นเยียบ "เซียวชู ลงมือ"เซียวชูเดินไปที่ด้านข้างของซือซิงทันที และชักดาบออกมาอย่างไร้ความปรานีซือซิงเหงื่อเย็นท่วมตัวมิคาดคิดเลยว่าฟู่เฉินหวนจะโหดร้ายและโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้เขาต้องรีบร้องขอความเมตตาแต่ทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของฟู่เฉินหวนไว้“ไว้ชีวิตเขาก่อนเถิดเพคะ”ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนที่มาร้องขอให้ ซือซิง คิ้วของเขาขมวด “คนต่ำช้าเช่นนี้ เก็บไว้มีประโยชน์อันใด!”ลั่วชิงยวนดึงแขนเสื้อของเขา แล้วส่ายหน้าเบา ๆ"มีประโยชน์สำหรับหม่อมฉันเพคะ"เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นท่าทีของนางที่คล้ายจะออดอ้อน ใจของเขาจึงอ่อนลงพลันตอบตกลง“เช่นนั้นยามนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไว้ก่อน” ฟู่เฉินหวนเหลือบมองซือซิงอย่างเย็นชาซือซิงปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา ความหวาดกลัวในใจก็พลันหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 984

    "ทายาเสีย"ฟู่เฉินหวนหยิบกล่องยาออกมา จุ่มปลายนิ้วลงในยาแล้วทาที่ลำคอของนางเช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงรู้สึกเจ็บที่คอแต่ด้วยยานั้นความเจ็บปวดก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว รู้สึกเย็นสบายมากลั่วชิงยวนลดสายตาลงพลางมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม และหัวใจของนางก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย“อาการบาดเจ็บของท่านเล่า เป็นเช่นไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของเขามากุมไว้โดยมิรู้ตัวฟู่เฉินหวนหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณ และยังคงทายาให้นางต่อไป "ข้ามิเป็นไร เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ"ลั่วชิงยวนมิสงสัยเลยสักนิด“อาการบาดเจ็บของหม่อมฉันมิได้ร้ายแรง มันเป็นแค่รอยถลอกเท่านั้น”ฟู่เฉินหวนหยุดและมองนางด้วยสายตาจริงจัง "แค่รอยถลอกหรือ แล้วเหตุใดหน้าเจ้าถึงซีดเซียวเช่นนี้"“หม่อมฉัน... หม่อมฉันมิได้รับบาดเจ็บอะไรจริง ๆ เช่นนั้นท่านหาอย่าได้กังวลไปเลยเพคะ” ลั่วชิงยวนมิรู้จะอธิบายอย่างไรนางรีบลุกขึ้นยืน และดูแผนที่ต่อไปฟู่เฉินหวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บยาลงไปก่อนจะถามว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าซือซิงเป็นคนของตระกูลเหยียน"ลั่วชิงยวนตอบว่า "รู้สิ"“แล้วเหตุใดเจ้าถึงยังไว้ชีวิตเขา? แล้วเจ้าดึงเขามาจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 985

    หลังจากคิดอยู่นาน เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นช้า ๆ "ชิงยวน ตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการ กักขังเจ้าไว้หรือไม่?"แต่นางกลับมิได้รับคำตอบสักทีเมื่อเขาหันกลับไป ก็พบว่าลั่วชิงยวนฟุบหลับไปบนโต๊ะเสียแล้วฟู่เฉินหวนยิ้มอย่างหมดหนทางเขาก้าวไปข้างหน้าและอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา พานางไปส่งที่อีกห้องหนึ่ง ถอดรองเท้าของนางออกแล้วห่มผ้าให้คิดดูแล้ว นางคงมิได้นอนหลับอย่างสบายมาหลายวัน ดังนั้นให้นางนอนหลับอย่างสงบสักครั้งเถิดก่อนเขาจะเดินออกจากห้องไปที่ลานเรือน เซียวชูเข้ามาพร้อมกับยกยามาด้วย“ท่านอ๋อง ถึงเวลาเสวยพระโอสถแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เขารออยู่ในเงามืดมาตลอด จนยาจวนจะเย็นชืดแล้วฟู่เฉินหวนหยิบชามยาขึ้นมาและกินหมดในอึกเดียว "ข้าจะกินยาที่เจ้านำมานี้เท่านั้นและจะมิกินอีก ในเมืองมียาสมุนไพรเหลือมิมากแล้ว เก็บไว้ให้ทหารที่บาดเจ็บเถิด" "พ่ะย่ะค่ะ"ฟู่เฉินหวนก้าวออกไป และเซียวชูก็รีบก้าวไปข้างหน้า “ท่านอ๋อง เดินทางมาไกลหลายวัน ท่านจะมิพักหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฟู่เฉินหวนมิหยุดก้าวเดิน ตอบอย่างใจเย็นว่า "กองกำลังของซือซิงมิได้อ่อนแอ ต้องจับตาดูเขาเอาไว้ มิเช่นนั้นเขาอาจจะเล่นแง่กับเราได้"“เมือ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 986

    “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนรีบตามไปพร้อมกับยาในมือเห็นชายคนนั้นเดินอย่างเร่งรีบและคอยมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวดระวัง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในถนนด้านข้างลั่วชิงยวนจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็วแต่บังเอิญเจอเซียวชูที่เดินมาจากอีกทางหนึ่งพอดี“พระชายา เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่ได้?” เซียวชูก็ออกมาค้นหาเครื่องยาสมุนไพรด้วยในเมืองมีทรัพยากรมิมากนัก ท่านอ๋องปฏิเสธที่จะเสวยพระโอสถ เพื่อเก็บสมุนไพรไว้ให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บแต่อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องสาหัสเพียงนั้น จะใช้ยามิได้ได้อย่างไร?ดังนั้นเขาจึงออกไปตามหามาเพิ่มลั่วชิงยวนยื่นถุงให้เขา "นี่ สมุนไพร นำกลับไปเถอะ"“ให้ซือซิงหาทางนำแม่แพะมาเลี้ยงสักสองสามตัวด้วย มีสตรีที่มิมีน้ำนมเลี้ยงบุตร ต้องการนมแพะด่วน รีบหน่อยนะ!”เซียวชูตกใจเล็กน้อยและกำลังจะถามพระชายาว่ายาเหล่านี้มาจากที่ใดแต่ลั่วชิงยวนกลับเดินออกไปอย่างรีบร้อนลั่วชิงยวนไล่ตามชายคนนั้นไปจนสุดตรอก จนในที่สุดก็เห็นชายคนนั้นอีกครั้งแต่ที่แปลกคือชายคนนั้นมิได้ไปสถานที่ลับอะไร เพียงแต่เดินไปทั่วเมืองเท่านั้นอีกทั้งตลอดทางยังคอยหลบหลีกการลาดตระเวนลั่วชิงยวนติดตามเขาไปอย่างเงีย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status