Share

บทที่ 980

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
นายทหารตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ก่อนบ่นพึมพำว่า "เขาอาจจะมิอยากรับลูกชายตัวโตอย่างท่านก็ได้"

“ไสหัวไป!” ซือซิงเตะเขาหนหนึ่งด้วยความโกรธ

……

ฟู่เฉินหวนนอนอยู่ที่นั่นสองวันแล้วก็ตื่นขึ้นมาในที่สุด

หลังจากตื่นขึ้นมา เมื่อพบว่าตนมิได้อยู่ที่อู่จิ้นแต่กลับอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาก็รู้สึกโกรธมาก

“เซียวชู เจ้ากล้าดีอย่างไรมาขัดคำสั่งข้า?!” ฟู่เฉินหวนโกรธจัด

เซียวชูคุกเข่าลง “กระหม่อมขัดคำสั่งท่านอ๋อง ยินดีรับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”

ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วเปิดประตูออกไปด้วยความโกรธ

“หากเกิดอะไรขึ้นกับลั่วชิงยวน ข้าจะไม่มีวันไว้ชีวิตเจ้า!”

“เอาเถอะ ไปอู่จิ้นได้แล้ว!”

พวกเขาทั้งสองเริ่มเดินทาง มิหลับมินอนตลอดทั้งคืน

ในที่สุดก็มาถึงอู่จิ้น

มองเห็นกองทัพในชุดเกราะสีดำ ยืนสงบนิ่งอยู่ในทะเลทราย

กองทหารสามหมื่นนาย แยกกันมาจากหลายทิศทางและกำลังรวมตัวกันที่นี่

ดูมีพลังน่าเกรงขาม

เต็มไปด้วยจิตสังหารท่วมท้น

เมื่อฟู่เฉินหวนขี่ม้าและปรากฏตัวบนเนินหิน

รองแม่ทัพหลายคนรีบก้าวเข้ามาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“ทุกคนมาถึงแล้ว รอรับคำสั่งจากท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

“ท่านอ๋อง ตามที่กองทัพ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (2)
goodnovel comment avatar
Kanchanee Taothong
อัพเดทน้อยมากเบื่อเหมือนกันคิดว่าคงจะเลิกเติมเงินแล้ว
goodnovel comment avatar
วิ แลน เปา
อัพเยอะๆเถอะค่ะ​ รออ่านจนเบื่อแล้ว
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 981

    แต่ในเวลานี้ หล่างชิ่นซึ่งเป็นผู้นำในการบุก สายตาจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวนท่ามกลางเสียงบุกโจมตีของพวกนอกด่าน จู่ ๆ เชือกเส้นหนึ่งถูกเหวี่ยงออกมาอย่างรวดเร็วเชือกนั้นพันรอบคอของลั่วชิงยวนทันทีในชั่วพริบตานั้น คอของลั่วชิงยวนก็ตึงแน่นขึ้น สึกหายใจมิออก และพลังอันแข็งแกร่งก็กระชากนางออกไปอย่างรุนแรงนางพยายามดึงเชือกที่พันรอบคอออกแต่ก็มิสามารถแก้ได้ความเร็วของอีกฝ่ายเร็วเกินกว่านางจะทันได้สู้กลับ“ชิงยวน!” ลั่วอวิ๋นสี่อุทานเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น และรีบไปช่วยนางทันทีลั่วชิงยวนตะโกนอย่างร้อนรนว่า "ปิดประตูเมือง! ปิดประตูเร็วเข้า!"ลั่วอวิ๋นสี่กัดฟัน รีบลงจากหอประตูเมืองทันที และพาผู้คนไปปิดประตูเมืองไว้ในขณะนั้นเอง พวกนอกด่านก็บุกมาถึงหน้าประตูเมืองแล้วด้วยแรงมหาศาลเหล่านั้น เกือบจะพังประตูเมืองลงได้แล้วลั่วอวิ๋นสี่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อกั้นประตูเมืองเอาไว้ ขณะที่เตี่ยฉุยก็ใช้กำลังเต็มที่เพื่อต้านทานแรงผลักดันอันทรงพลังดังกล่าวถึงกระนั้น ก็ยังยากลำบากมากนางกัดฟันแน่น ต้านอย่างสุดกำลังหากประตูเมืองถูกพังออกได้ นั่นก็หมายความว่าทั้งเมืองถูกตีแตกไม่มีอะไรจะสามา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 982

    ในขณะนั้นนางคิดว่าตัวเองกำลังฝัน“ฟู่เฉินหวน?”เขามาได้อย่างไร?ฟู่เฉินหวนถือกระบี่ยาวในมือ จิตสังหารแผ่ออกมาทั่วตัว เข้าโรมรันกับหล่างชิ่นทันทีลั่วชิงยวนรีบแกะเชือกออกทันที พยายามจะหยัดกายขึ้นแต่กลับเจ็บจนต้องกุมหน้าอกเอาไว้เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมอง นางเห็นกองทหารหุ้มเกราะกรูเข้าใส่ทัพพวกนอกด่านทหารบนหอประตูเมืองที่ยังคงสู้สุดกำลังต่างหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ และตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า "กำลังเสริมกำลังมา! กำลังเสริมของเรามาแล้ว!"ในที่สุดหินก้อนใหญ่ที่วางอยู่บนบ่าของลั่วชิงยวนก็พลันเบาลงเซียวชูมาถึงก็เริ่มต่อสู้กับหล่างชิ่นทันที ฟู่เฉินหวนจึงแยกตัวออกจากการต่อสู้ลั่วชิงยวนที่เพิ่งลุกขึ้นยืนได้ด้วยความยากลำบาก จู่ ๆ ก็ถูกมือคู่หนึ่งดึงเข้ามาในอ้อมกอดนางถูกฟู่เฉินหวนกอดไว้แน่นลั่วชิงยวนสะดุ้ง จากนั้นยกมือขึ้นกอดเขาไว้แน่นเช่นกัน“บาดแผลของท่านมิเป็นอะไรใช่หรือไม่? ท่านมาเมื่อไหร่กัน?”ในใจลั่วชิงยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ความฝันและความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม เขามิได้นอนหมดสติอยู่บนเตียงฟู่เฉินหวนคลายอ้อมกอดพลางมองดูคนที่อยู่ตรงหน้า สภาพซอมซ่อเปรอะเปื้อนด้วยคร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 983

    “ทหาร ประหารพวกมันเดี๋ยวนี้!”ฟู่เฉินหวนออกคำสั่ง เต็มไปด้วยอำนาจและความน่าเกรงขามหัวใจของซือซิงสั่นสะท้าน "ท่านอ๋อง! กระหม่อมมีความผิด แต่ยามนี้เรากำลังเผชิญกับศัตรูที่น่าเกรงขาม กระหม่อมยินดีชดเชยความผิด หวังว่าท่านอ๋องจะให้โอกาสกระหม่อมได้แก้ตัว!"ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชามิไหวติง เอ่ยเสียงเย็นเยียบ "เซียวชู ลงมือ"เซียวชูเดินไปที่ด้านข้างของซือซิงทันที และชักดาบออกมาอย่างไร้ความปรานีซือซิงเหงื่อเย็นท่วมตัวมิคาดคิดเลยว่าฟู่เฉินหวนจะโหดร้ายและโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้เขาต้องรีบร้องขอความเมตตาแต่ทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของฟู่เฉินหวนไว้“ไว้ชีวิตเขาก่อนเถิดเพคะ”ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนที่มาร้องขอให้ ซือซิง คิ้วของเขาขมวด “คนต่ำช้าเช่นนี้ เก็บไว้มีประโยชน์อันใด!”ลั่วชิงยวนดึงแขนเสื้อของเขา แล้วส่ายหน้าเบา ๆ"มีประโยชน์สำหรับหม่อมฉันเพคะ"เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นท่าทีของนางที่คล้ายจะออดอ้อน ใจของเขาจึงอ่อนลงพลันตอบตกลง“เช่นนั้นยามนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไว้ก่อน” ฟู่เฉินหวนเหลือบมองซือซิงอย่างเย็นชาซือซิงปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา ความหวาดกลัวในใจก็พลันหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 984

    "ทายาเสีย"ฟู่เฉินหวนหยิบกล่องยาออกมา จุ่มปลายนิ้วลงในยาแล้วทาที่ลำคอของนางเช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงรู้สึกเจ็บที่คอแต่ด้วยยานั้นความเจ็บปวดก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว รู้สึกเย็นสบายมากลั่วชิงยวนลดสายตาลงพลางมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม และหัวใจของนางก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย“อาการบาดเจ็บของท่านเล่า เป็นเช่นไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของเขามากุมไว้โดยมิรู้ตัวฟู่เฉินหวนหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณ และยังคงทายาให้นางต่อไป "ข้ามิเป็นไร เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ"ลั่วชิงยวนมิสงสัยเลยสักนิด“อาการบาดเจ็บของหม่อมฉันมิได้ร้ายแรง มันเป็นแค่รอยถลอกเท่านั้น”ฟู่เฉินหวนหยุดและมองนางด้วยสายตาจริงจัง "แค่รอยถลอกหรือ แล้วเหตุใดหน้าเจ้าถึงซีดเซียวเช่นนี้"“หม่อมฉัน... หม่อมฉันมิได้รับบาดเจ็บอะไรจริง ๆ เช่นนั้นท่านหาอย่าได้กังวลไปเลยเพคะ” ลั่วชิงยวนมิรู้จะอธิบายอย่างไรนางรีบลุกขึ้นยืน และดูแผนที่ต่อไปฟู่เฉินหวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บยาลงไปก่อนจะถามว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าซือซิงเป็นคนของตระกูลเหยียน"ลั่วชิงยวนตอบว่า "รู้สิ"“แล้วเหตุใดเจ้าถึงยังไว้ชีวิตเขา? แล้วเจ้าดึงเขามาจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 985

    หลังจากคิดอยู่นาน เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นช้า ๆ "ชิงยวน ตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการ กักขังเจ้าไว้หรือไม่?"แต่นางกลับมิได้รับคำตอบสักทีเมื่อเขาหันกลับไป ก็พบว่าลั่วชิงยวนฟุบหลับไปบนโต๊ะเสียแล้วฟู่เฉินหวนยิ้มอย่างหมดหนทางเขาก้าวไปข้างหน้าและอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา พานางไปส่งที่อีกห้องหนึ่ง ถอดรองเท้าของนางออกแล้วห่มผ้าให้คิดดูแล้ว นางคงมิได้นอนหลับอย่างสบายมาหลายวัน ดังนั้นให้นางนอนหลับอย่างสงบสักครั้งเถิดก่อนเขาจะเดินออกจากห้องไปที่ลานเรือน เซียวชูเข้ามาพร้อมกับยกยามาด้วย“ท่านอ๋อง ถึงเวลาเสวยพระโอสถแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เขารออยู่ในเงามืดมาตลอด จนยาจวนจะเย็นชืดแล้วฟู่เฉินหวนหยิบชามยาขึ้นมาและกินหมดในอึกเดียว "ข้าจะกินยาที่เจ้านำมานี้เท่านั้นและจะมิกินอีก ในเมืองมียาสมุนไพรเหลือมิมากแล้ว เก็บไว้ให้ทหารที่บาดเจ็บเถิด" "พ่ะย่ะค่ะ"ฟู่เฉินหวนก้าวออกไป และเซียวชูก็รีบก้าวไปข้างหน้า “ท่านอ๋อง เดินทางมาไกลหลายวัน ท่านจะมิพักหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฟู่เฉินหวนมิหยุดก้าวเดิน ตอบอย่างใจเย็นว่า "กองกำลังของซือซิงมิได้อ่อนแอ ต้องจับตาดูเขาเอาไว้ มิเช่นนั้นเขาอาจจะเล่นแง่กับเราได้"“เมือ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 986

    “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนรีบตามไปพร้อมกับยาในมือเห็นชายคนนั้นเดินอย่างเร่งรีบและคอยมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวดระวัง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในถนนด้านข้างลั่วชิงยวนจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็วแต่บังเอิญเจอเซียวชูที่เดินมาจากอีกทางหนึ่งพอดี“พระชายา เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่ได้?” เซียวชูก็ออกมาค้นหาเครื่องยาสมุนไพรด้วยในเมืองมีทรัพยากรมิมากนัก ท่านอ๋องปฏิเสธที่จะเสวยพระโอสถ เพื่อเก็บสมุนไพรไว้ให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บแต่อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องสาหัสเพียงนั้น จะใช้ยามิได้ได้อย่างไร?ดังนั้นเขาจึงออกไปตามหามาเพิ่มลั่วชิงยวนยื่นถุงให้เขา "นี่ สมุนไพร นำกลับไปเถอะ"“ให้ซือซิงหาทางนำแม่แพะมาเลี้ยงสักสองสามตัวด้วย มีสตรีที่มิมีน้ำนมเลี้ยงบุตร ต้องการนมแพะด่วน รีบหน่อยนะ!”เซียวชูตกใจเล็กน้อยและกำลังจะถามพระชายาว่ายาเหล่านี้มาจากที่ใดแต่ลั่วชิงยวนกลับเดินออกไปอย่างรีบร้อนลั่วชิงยวนไล่ตามชายคนนั้นไปจนสุดตรอก จนในที่สุดก็เห็นชายคนนั้นอีกครั้งแต่ที่แปลกคือชายคนนั้นมิได้ไปสถานที่ลับอะไร เพียงแต่เดินไปทั่วเมืองเท่านั้นอีกทั้งตลอดทางยังคอยหลบหลีกการลาดตระเวนลั่วชิงยวนติดตามเขาไปอย่างเงีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 987

    ลั่วชิงยวนเข้าใจสถานการณ์ของเผ่านอกด่านคร่าว ๆ แล้ว นางหรี่ตาลงเล็กน้อยและมองไปที่หล่างมู่ "ข้าก็นึกว่าเจ้ากับหล่างชิ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมิน้อย คาดมิถึงว่านางจะฉวยเอาโอกาสนี้มาฆ่าเจ้า"หล่างมู่กำหมัดแน่น รู้สึกโกรธในใจ“หากพวกเจ้าอยากให้ข้าปล่อยพวกเจ้าไปก็ย่อมได้ แต่ข้ามีเงื่อนไข”ลั่วชิงยวนมองไปที่หล่างมู่อย่างจริงจัง "ข้าจะช่วยให้เจ้าได้ขึ้นเป็นราชาแห่งเผ่านอกด่าน แต่เจ้าต้องล่าถอยทันทีและห้ามรุกรานแคว้นเทียนเชวียอีก!"เผ่านอกด่านแข็งแกร่งมาก ในอดีต ฉินเชียนหลี่ถูกพวกเขาโจมตีเพียงเผ่าเดียวก็ยังรู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม จึงต้องของบประมาณจากองค์จักรพรรดิเพื่อสร้างป้อมปราการทว่ายามนี้ เมื่อชนเผ่าเหล่านี้รวมกันเป็นหนึ่งแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งทวีขึ้นกว่าเดิมสงครามครั้งนี้มิอาจดำเนินไปเช่นนี้ได้ตลอดไปตำแหน่งของราชาแห่งเผ่านอกด่านมิอาจตกไปอยู่ในมือของหล่างชิ่นได้มิเช่นนั้น จากแววตาที่ที่เกลียดนางจนสุดหัวใจของหล่างชิ่น เกรงว่าต่อไปอีกฝ่ายจะสร้างปัญหาให้นางอย่างมิจบมิสิ้นยิ่งไปกว่านั้น นางยังต้องการล้างแค้นให้กับฉินเชียนหลี่ด้วย!หล่างมู่และเฉินไห่มองหน้ากันหล่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 988

    "เสด็จพ่อ!"หล่างมู่ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นราชาเผ่านอกด่านนอนอยู่บนเตียง เขารีบวิ่งไปข้างหน้าและเห็นว่าร่างของราชาเผ่านอกด่านถูกปกคลุมไปด้วยเข็ม ทำให้เขาถึงกับทำอะไรมิถูกไปชั่วขณะหนึ่ง“เสด็จพ่อ! ใครเป็นคนทำสิ่งนี้! เป็นหล่างชิ่นหรือไม่! นางทำเช่นนี้ได้อย่างไร!”หากมิใช่เพราะว่าหล่างมู่กำลังพูดถึงพ่อของเขาอยู่ในขณะนี้ ลั่วชิงยวนก็เกือบจะคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขามิใช่พ่อของหล่างมู่ แต่เป็นพ่อของนางเอง!ใบหน้านั้นช่างเหมือนกับลั่วไห่ผิงไม่มีผิด!“ท่านพ่อ อดทนหน่อยนะ ข้าจะดึงเข็มพวกนี้ออกให้ท่าน!” หล่างมู่พูดทั้งยังพร้อมจะลงมือลั่วชิงยวนสะดุ้งและรีบหยุดเขา "หยุดนะ!"“เข็มพวกนี้อยู่บนจุดฝังเข็ม จะดึงออกสุ่มสี่สุ่มห้ามิได้”นางย่อตัวลงตรวจดู และพบว่าราชาเผ่านอกด่านถูกวางยาพิษ และเข็มเงินที่ปักอยู่ทั่วร่างกายของเขากำลังเร่งการแพร่กระจายของพิษ“เราควรทำอย่างไรดี?” หล่างมู่ใจร้อนดั่งไฟลนลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแน่น "ต้องเจาะเลือดระบายพิษก่อน จึงจะดึงเข็มออกได้"หล่างมู่ขมวดคิ้ว “เจาะเลือดหรือ?”ลั่วชิงยวนเห็นว่าหล่างมู่กังวล นางจึงพูดอย่างใจเย็น "ราชาเผ่านอกด่านถูกวางยาพิษ และเข็

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status