แชร์

บทที่ 980

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
นายทหารตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ก่อนบ่นพึมพำว่า "เขาอาจจะมิอยากรับลูกชายตัวโตอย่างท่านก็ได้"

“ไสหัวไป!” ซือซิงเตะเขาหนหนึ่งด้วยความโกรธ

……

ฟู่เฉินหวนนอนอยู่ที่นั่นสองวันแล้วก็ตื่นขึ้นมาในที่สุด

หลังจากตื่นขึ้นมา เมื่อพบว่าตนมิได้อยู่ที่อู่จิ้นแต่กลับอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาก็รู้สึกโกรธมาก

“เซียวชู เจ้ากล้าดีอย่างไรมาขัดคำสั่งข้า?!” ฟู่เฉินหวนโกรธจัด

เซียวชูคุกเข่าลง “กระหม่อมขัดคำสั่งท่านอ๋อง ยินดีรับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”

ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วเปิดประตูออกไปด้วยความโกรธ

“หากเกิดอะไรขึ้นกับลั่วชิงยวน ข้าจะไม่มีวันไว้ชีวิตเจ้า!”

“เอาเถอะ ไปอู่จิ้นได้แล้ว!”

พวกเขาทั้งสองเริ่มเดินทาง มิหลับมินอนตลอดทั้งคืน

ในที่สุดก็มาถึงอู่จิ้น

มองเห็นกองทัพในชุดเกราะสีดำ ยืนสงบนิ่งอยู่ในทะเลทราย

กองทหารสามหมื่นนาย แยกกันมาจากหลายทิศทางและกำลังรวมตัวกันที่นี่

ดูมีพลังน่าเกรงขาม

เต็มไปด้วยจิตสังหารท่วมท้น

เมื่อฟู่เฉินหวนขี่ม้าและปรากฏตัวบนเนินหิน

รองแม่ทัพหลายคนรีบก้าวเข้ามาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“ทุกคนมาถึงแล้ว รอรับคำสั่งจากท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

“ท่านอ๋อง ตามที่กองทัพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Kanchanee Taothong
อัพเดทน้อยมากเบื่อเหมือนกันคิดว่าคงจะเลิกเติมเงินแล้ว
goodnovel comment avatar
วิ แลน เปา
อัพเยอะๆเถอะค่ะ​ รออ่านจนเบื่อแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 981

    แต่ในเวลานี้ หล่างชิ่นซึ่งเป็นผู้นำในการบุก สายตาจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวนท่ามกลางเสียงบุกโจมตีของพวกนอกด่าน จู่ ๆ เชือกเส้นหนึ่งถูกเหวี่ยงออกมาอย่างรวดเร็วเชือกนั้นพันรอบคอของลั่วชิงยวนทันทีในชั่วพริบตานั้น คอของลั่วชิงยวนก็ตึงแน่นขึ้น สึกหายใจมิออก และพลังอันแข็งแกร่งก็กระชากนางออกไปอย่างรุนแรงนางพยายามดึงเชือกที่พันรอบคอออกแต่ก็มิสามารถแก้ได้ความเร็วของอีกฝ่ายเร็วเกินกว่านางจะทันได้สู้กลับ“ชิงยวน!” ลั่วอวิ๋นสี่อุทานเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น และรีบไปช่วยนางทันทีลั่วชิงยวนตะโกนอย่างร้อนรนว่า "ปิดประตูเมือง! ปิดประตูเร็วเข้า!"ลั่วอวิ๋นสี่กัดฟัน รีบลงจากหอประตูเมืองทันที และพาผู้คนไปปิดประตูเมืองไว้ในขณะนั้นเอง พวกนอกด่านก็บุกมาถึงหน้าประตูเมืองแล้วด้วยแรงมหาศาลเหล่านั้น เกือบจะพังประตูเมืองลงได้แล้วลั่วอวิ๋นสี่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อกั้นประตูเมืองเอาไว้ ขณะที่เตี่ยฉุยก็ใช้กำลังเต็มที่เพื่อต้านทานแรงผลักดันอันทรงพลังดังกล่าวถึงกระนั้น ก็ยังยากลำบากมากนางกัดฟันแน่น ต้านอย่างสุดกำลังหากประตูเมืองถูกพังออกได้ นั่นก็หมายความว่าทั้งเมืองถูกตีแตกไม่มีอะไรจะสามา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 982

    ในขณะนั้นนางคิดว่าตัวเองกำลังฝัน“ฟู่เฉินหวน?”เขามาได้อย่างไร?ฟู่เฉินหวนถือกระบี่ยาวในมือ จิตสังหารแผ่ออกมาทั่วตัว เข้าโรมรันกับหล่างชิ่นทันทีลั่วชิงยวนรีบแกะเชือกออกทันที พยายามจะหยัดกายขึ้นแต่กลับเจ็บจนต้องกุมหน้าอกเอาไว้เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมอง นางเห็นกองทหารหุ้มเกราะกรูเข้าใส่ทัพพวกนอกด่านทหารบนหอประตูเมืองที่ยังคงสู้สุดกำลังต่างหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ และตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า "กำลังเสริมกำลังมา! กำลังเสริมของเรามาแล้ว!"ในที่สุดหินก้อนใหญ่ที่วางอยู่บนบ่าของลั่วชิงยวนก็พลันเบาลงเซียวชูมาถึงก็เริ่มต่อสู้กับหล่างชิ่นทันที ฟู่เฉินหวนจึงแยกตัวออกจากการต่อสู้ลั่วชิงยวนที่เพิ่งลุกขึ้นยืนได้ด้วยความยากลำบาก จู่ ๆ ก็ถูกมือคู่หนึ่งดึงเข้ามาในอ้อมกอดนางถูกฟู่เฉินหวนกอดไว้แน่นลั่วชิงยวนสะดุ้ง จากนั้นยกมือขึ้นกอดเขาไว้แน่นเช่นกัน“บาดแผลของท่านมิเป็นอะไรใช่หรือไม่? ท่านมาเมื่อไหร่กัน?”ในใจลั่วชิงยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ความฝันและความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม เขามิได้นอนหมดสติอยู่บนเตียงฟู่เฉินหวนคลายอ้อมกอดพลางมองดูคนที่อยู่ตรงหน้า สภาพซอมซ่อเปรอะเปื้อนด้วยคร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 983

    “ทหาร ประหารพวกมันเดี๋ยวนี้!”ฟู่เฉินหวนออกคำสั่ง เต็มไปด้วยอำนาจและความน่าเกรงขามหัวใจของซือซิงสั่นสะท้าน "ท่านอ๋อง! กระหม่อมมีความผิด แต่ยามนี้เรากำลังเผชิญกับศัตรูที่น่าเกรงขาม กระหม่อมยินดีชดเชยความผิด หวังว่าท่านอ๋องจะให้โอกาสกระหม่อมได้แก้ตัว!"ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชามิไหวติง เอ่ยเสียงเย็นเยียบ "เซียวชู ลงมือ"เซียวชูเดินไปที่ด้านข้างของซือซิงทันที และชักดาบออกมาอย่างไร้ความปรานีซือซิงเหงื่อเย็นท่วมตัวมิคาดคิดเลยว่าฟู่เฉินหวนจะโหดร้ายและโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้เขาต้องรีบร้องขอความเมตตาแต่ทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของฟู่เฉินหวนไว้“ไว้ชีวิตเขาก่อนเถิดเพคะ”ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนที่มาร้องขอให้ ซือซิง คิ้วของเขาขมวด “คนต่ำช้าเช่นนี้ เก็บไว้มีประโยชน์อันใด!”ลั่วชิงยวนดึงแขนเสื้อของเขา แล้วส่ายหน้าเบา ๆ"มีประโยชน์สำหรับหม่อมฉันเพคะ"เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นท่าทีของนางที่คล้ายจะออดอ้อน ใจของเขาจึงอ่อนลงพลันตอบตกลง“เช่นนั้นยามนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไว้ก่อน” ฟู่เฉินหวนเหลือบมองซือซิงอย่างเย็นชาซือซิงปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา ความหวาดกลัวในใจก็พลันหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 984

    "ทายาเสีย"ฟู่เฉินหวนหยิบกล่องยาออกมา จุ่มปลายนิ้วลงในยาแล้วทาที่ลำคอของนางเช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงรู้สึกเจ็บที่คอแต่ด้วยยานั้นความเจ็บปวดก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว รู้สึกเย็นสบายมากลั่วชิงยวนลดสายตาลงพลางมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม และหัวใจของนางก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย“อาการบาดเจ็บของท่านเล่า เป็นเช่นไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของเขามากุมไว้โดยมิรู้ตัวฟู่เฉินหวนหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณ และยังคงทายาให้นางต่อไป "ข้ามิเป็นไร เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ"ลั่วชิงยวนมิสงสัยเลยสักนิด“อาการบาดเจ็บของหม่อมฉันมิได้ร้ายแรง มันเป็นแค่รอยถลอกเท่านั้น”ฟู่เฉินหวนหยุดและมองนางด้วยสายตาจริงจัง "แค่รอยถลอกหรือ แล้วเหตุใดหน้าเจ้าถึงซีดเซียวเช่นนี้"“หม่อมฉัน... หม่อมฉันมิได้รับบาดเจ็บอะไรจริง ๆ เช่นนั้นท่านหาอย่าได้กังวลไปเลยเพคะ” ลั่วชิงยวนมิรู้จะอธิบายอย่างไรนางรีบลุกขึ้นยืน และดูแผนที่ต่อไปฟู่เฉินหวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บยาลงไปก่อนจะถามว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าซือซิงเป็นคนของตระกูลเหยียน"ลั่วชิงยวนตอบว่า "รู้สิ"“แล้วเหตุใดเจ้าถึงยังไว้ชีวิตเขา? แล้วเจ้าดึงเขามาจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 985

    หลังจากคิดอยู่นาน เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นช้า ๆ "ชิงยวน ตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการ กักขังเจ้าไว้หรือไม่?"แต่นางกลับมิได้รับคำตอบสักทีเมื่อเขาหันกลับไป ก็พบว่าลั่วชิงยวนฟุบหลับไปบนโต๊ะเสียแล้วฟู่เฉินหวนยิ้มอย่างหมดหนทางเขาก้าวไปข้างหน้าและอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา พานางไปส่งที่อีกห้องหนึ่ง ถอดรองเท้าของนางออกแล้วห่มผ้าให้คิดดูแล้ว นางคงมิได้นอนหลับอย่างสบายมาหลายวัน ดังนั้นให้นางนอนหลับอย่างสงบสักครั้งเถิดก่อนเขาจะเดินออกจากห้องไปที่ลานเรือน เซียวชูเข้ามาพร้อมกับยกยามาด้วย“ท่านอ๋อง ถึงเวลาเสวยพระโอสถแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เขารออยู่ในเงามืดมาตลอด จนยาจวนจะเย็นชืดแล้วฟู่เฉินหวนหยิบชามยาขึ้นมาและกินหมดในอึกเดียว "ข้าจะกินยาที่เจ้านำมานี้เท่านั้นและจะมิกินอีก ในเมืองมียาสมุนไพรเหลือมิมากแล้ว เก็บไว้ให้ทหารที่บาดเจ็บเถิด" "พ่ะย่ะค่ะ"ฟู่เฉินหวนก้าวออกไป และเซียวชูก็รีบก้าวไปข้างหน้า “ท่านอ๋อง เดินทางมาไกลหลายวัน ท่านจะมิพักหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฟู่เฉินหวนมิหยุดก้าวเดิน ตอบอย่างใจเย็นว่า "กองกำลังของซือซิงมิได้อ่อนแอ ต้องจับตาดูเขาเอาไว้ มิเช่นนั้นเขาอาจจะเล่นแง่กับเราได้"“เมือ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 986

    “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนรีบตามไปพร้อมกับยาในมือเห็นชายคนนั้นเดินอย่างเร่งรีบและคอยมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวดระวัง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในถนนด้านข้างลั่วชิงยวนจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็วแต่บังเอิญเจอเซียวชูที่เดินมาจากอีกทางหนึ่งพอดี“พระชายา เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่ได้?” เซียวชูก็ออกมาค้นหาเครื่องยาสมุนไพรด้วยในเมืองมีทรัพยากรมิมากนัก ท่านอ๋องปฏิเสธที่จะเสวยพระโอสถ เพื่อเก็บสมุนไพรไว้ให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บแต่อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องสาหัสเพียงนั้น จะใช้ยามิได้ได้อย่างไร?ดังนั้นเขาจึงออกไปตามหามาเพิ่มลั่วชิงยวนยื่นถุงให้เขา "นี่ สมุนไพร นำกลับไปเถอะ"“ให้ซือซิงหาทางนำแม่แพะมาเลี้ยงสักสองสามตัวด้วย มีสตรีที่มิมีน้ำนมเลี้ยงบุตร ต้องการนมแพะด่วน รีบหน่อยนะ!”เซียวชูตกใจเล็กน้อยและกำลังจะถามพระชายาว่ายาเหล่านี้มาจากที่ใดแต่ลั่วชิงยวนกลับเดินออกไปอย่างรีบร้อนลั่วชิงยวนไล่ตามชายคนนั้นไปจนสุดตรอก จนในที่สุดก็เห็นชายคนนั้นอีกครั้งแต่ที่แปลกคือชายคนนั้นมิได้ไปสถานที่ลับอะไร เพียงแต่เดินไปทั่วเมืองเท่านั้นอีกทั้งตลอดทางยังคอยหลบหลีกการลาดตระเวนลั่วชิงยวนติดตามเขาไปอย่างเงีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 987

    ลั่วชิงยวนเข้าใจสถานการณ์ของเผ่านอกด่านคร่าว ๆ แล้ว นางหรี่ตาลงเล็กน้อยและมองไปที่หล่างมู่ "ข้าก็นึกว่าเจ้ากับหล่างชิ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมิน้อย คาดมิถึงว่านางจะฉวยเอาโอกาสนี้มาฆ่าเจ้า"หล่างมู่กำหมัดแน่น รู้สึกโกรธในใจ“หากพวกเจ้าอยากให้ข้าปล่อยพวกเจ้าไปก็ย่อมได้ แต่ข้ามีเงื่อนไข”ลั่วชิงยวนมองไปที่หล่างมู่อย่างจริงจัง "ข้าจะช่วยให้เจ้าได้ขึ้นเป็นราชาแห่งเผ่านอกด่าน แต่เจ้าต้องล่าถอยทันทีและห้ามรุกรานแคว้นเทียนเชวียอีก!"เผ่านอกด่านแข็งแกร่งมาก ในอดีต ฉินเชียนหลี่ถูกพวกเขาโจมตีเพียงเผ่าเดียวก็ยังรู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม จึงต้องของบประมาณจากองค์จักรพรรดิเพื่อสร้างป้อมปราการทว่ายามนี้ เมื่อชนเผ่าเหล่านี้รวมกันเป็นหนึ่งแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งทวีขึ้นกว่าเดิมสงครามครั้งนี้มิอาจดำเนินไปเช่นนี้ได้ตลอดไปตำแหน่งของราชาแห่งเผ่านอกด่านมิอาจตกไปอยู่ในมือของหล่างชิ่นได้มิเช่นนั้น จากแววตาที่ที่เกลียดนางจนสุดหัวใจของหล่างชิ่น เกรงว่าต่อไปอีกฝ่ายจะสร้างปัญหาให้นางอย่างมิจบมิสิ้นยิ่งไปกว่านั้น นางยังต้องการล้างแค้นให้กับฉินเชียนหลี่ด้วย!หล่างมู่และเฉินไห่มองหน้ากันหล่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 988

    "เสด็จพ่อ!"หล่างมู่ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นราชาเผ่านอกด่านนอนอยู่บนเตียง เขารีบวิ่งไปข้างหน้าและเห็นว่าร่างของราชาเผ่านอกด่านถูกปกคลุมไปด้วยเข็ม ทำให้เขาถึงกับทำอะไรมิถูกไปชั่วขณะหนึ่ง“เสด็จพ่อ! ใครเป็นคนทำสิ่งนี้! เป็นหล่างชิ่นหรือไม่! นางทำเช่นนี้ได้อย่างไร!”หากมิใช่เพราะว่าหล่างมู่กำลังพูดถึงพ่อของเขาอยู่ในขณะนี้ ลั่วชิงยวนก็เกือบจะคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขามิใช่พ่อของหล่างมู่ แต่เป็นพ่อของนางเอง!ใบหน้านั้นช่างเหมือนกับลั่วไห่ผิงไม่มีผิด!“ท่านพ่อ อดทนหน่อยนะ ข้าจะดึงเข็มพวกนี้ออกให้ท่าน!” หล่างมู่พูดทั้งยังพร้อมจะลงมือลั่วชิงยวนสะดุ้งและรีบหยุดเขา "หยุดนะ!"“เข็มพวกนี้อยู่บนจุดฝังเข็ม จะดึงออกสุ่มสี่สุ่มห้ามิได้”นางย่อตัวลงตรวจดู และพบว่าราชาเผ่านอกด่านถูกวางยาพิษ และเข็มเงินที่ปักอยู่ทั่วร่างกายของเขากำลังเร่งการแพร่กระจายของพิษ“เราควรทำอย่างไรดี?” หล่างมู่ใจร้อนดั่งไฟลนลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแน่น "ต้องเจาะเลือดระบายพิษก่อน จึงจะดึงเข็มออกได้"หล่างมู่ขมวดคิ้ว “เจาะเลือดหรือ?”ลั่วชิงยวนเห็นว่าหล่างมู่กังวล นางจึงพูดอย่างใจเย็น "ราชาเผ่านอกด่านถูกวางยาพิษ และเข็

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status