แชร์

บทที่ 773

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-24 16:00:00
“ได้สิ” ลั่วชิงยวนยกยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความดีใจอย่างยิ่ง

เมื่อเห็นสายตาของลั่วชิงยวนที่จ้องมองมาที่เขา เสวี่ยชวนเฟิงก็รู้สึกภูมิใจมาก เขาผายมือเชิญชวนและพาลั่วชิงยวนออกจากหออี๋ชุน ไปยังโรงน้ำชา

“ข้ายังมิรู้เลยว่าแม่นางชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร”

ลั่วชิงยวนตอบอย่างใจเย็น “คุณชาย เรียกข้าว่าฝูเสวี่ยก็ได้”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้เสวี่ยชวนเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ฝูเสวี่ย? ท่านคือแม่นางฝูเสวี่ยจากหอฝูเสวี่ยงั้นหรือ?”

ลั่วชิงยวนยิ้มและมิพูดอะไร

เสวี่ยชวนเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจ “มิน่าแปลกใจที่แม่นางมาปรากฏตัวที่หออี๋ชุน”

“ข้าคิดว่าแม่นางมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงและร่ายรำนัก และข้าก็ชอบการร้องเพลงและร่ายรำด้วย หากมีโอกาส ข้าหวังว่าจะได้หารือเรื่องนี้กับแม่นางฝูเสวี่ย”

ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ได้สิ”

เมื่อมาถึงโรงน้ำชา พวกเขาสั่งชาและของว่าง จากนั้นทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกัน

จากบทกวีและเพลง สู่หัวข้อเรื่องความรักและความฝัน

ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน ราวกับว่าพวกเขามีหัวข้อให้พูดคุยกันอย่างมิรู้จบ

พวกเขาทั้งสองทานอาหารกลางวันที่ร้านน้ำชาโดยตรงและพูดคุยกันต่อ

เสวี่ยชวนเฟิงรู้ว่านางคือพระชา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 774

    ลั่วชิงยวนตัวแข็ง เหลือบมองดอกหอมหมื่นลี้อันหอมหวานในถ้วยชา จากนั้นจึงมองไปที่ฟู่เฉินหวน ซึ่งขณะนี้ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร“ดื่มสิ”“รสหวานแปลกใหม่มากมิใช่หรือ?”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของฟู่เฉินหวนยิ้มเยือกเย็น ทำให้คนที่เห็นหนาวสั่นไปถึงกระดูกลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “นี่ท่านสะกดรอยตามหม่อมฉันหรือ?”ฟู่เฉินหวนพูดอย่างมั่นใจ “เจ้าอยู่กับเสวี่ยชวนเฟิงที่โรงน้ำชากันอย่างเปิดเผยเช่นนั้น ต้องให้ข้าสะกดรอยตามด้วยรึ?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนก็วางถ้วยชาลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ จนน้ำชากระเด็นออกมา“ท่านคิดว่าหม่อมฉันเต็มใจหรือ? เสวี่ยชวนเฟิงผู้นั้นน่ารังเกียจปานใด หากมิใช่เพราะท่าน หม่อมฉันจะทักทายเขาด้วยรอยยิ้มเช่นนั้นหรือ? หม่อมฉันยิ้มจนปากจะค้างอยู่แล้ว!”“หม่อมฉันทุ่มเทถึงเพียงนั้น ท่านยังทำเป็นประชดประชันใส่! หาไม่ท่านไปจัดการเสวี่ยชวนเฟิงเองสิ ไฉนหม่อมฉันต้องทำสิ่งที่ท่านมิเห็นค่าเช่นนี้ด้วย!”น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฟังดูมิพอใจแต่หลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว แต่ในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้นปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เองเขาคิดว่าลั่วชิงยวนชอบคนที่มีห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-24
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 775

    “จะตีหรือด่าทอข้าอย่างไรก็ได้ แต่อย่าหลบเลี่ยงข้าเยี่ยงนี้ได้หรือมิ?”เฉินซวนอี๋ทักทายด้วยรอยยิ้มโดยถือกล่องไม้ไว้อยู่ในมือแล้วยื่นมันไปข้างหน้า “เป็นเพราะข้าท้องและบางครั้งอารมณ์ของข้าก็แปรปรวน ทำให้เจ้าได้รับความลำบาก เป็นความผิดของข้าเอง”“ข้าเตรียมของขวัญมาให้เจ้าโดยเฉพาะ เปิดดูสิว่าเจ้าชอบหรือมิ”“ขอให้เจ้าอดทนหน่อย เมื่อเด็กเกิดมา ข้าจะให้เด็กจำเจ้าเป็นแม่ทูนหัวของเขา ตกลงหรือมิ?”เฉินซวนอี๋แสดงท่าทีจริงใจเมื่อเปิดกล่องออกมา ก็มีสร้อยข้อมือลูกปัดอยู่ข้างในมันดูคล้ายจะเป็นของขวัญอันล้ำค่าลั่วหลางหลางตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสร้อยข้อมือลูกปัดดังกล่าว นางกำฝ่ามือโดยมิรู้ตัว“ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้า” ลั่วหลางหลางรับคำแต่ลั่วชิงยวนมองไปที่ลั่วหลางหลางด้วยสีหน้าประหลาดใจฟ่านซานเหอมีความสุขมากและรีบเกลี้ยกล่อม "หลางหลาง เชื่อข้าเถอะ ข้าจะไม่มีวันทำเช่นนั้นอีก! ข้าจะเลิกกินเหล้าตั้งแต่วันนี้ ข้าจะไม่กินอีก! จากนี้ไป ข้ามิขอกินเหล้าอีกแล้ว!”ลั่วหลางหลางมิได้พูดอะไรนางเพียงหันมามองลั่วชิงยวน “ชิงยวน ข้าจะกลับไปก่อน อยู่โรงเตี๊ยมตลอดก็มิใช่เรื่องดี"“มิต้องห่วงข้า”“หากคิดถึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-25
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 776

    ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วและมองดูเขา “เกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดถึงได้รีบร้อนเพียงนี้?”ใต้เท้าเฉาตอบอย่างกังวล “ในหมู่บ้านปี้หลิ่งมีคนเสียชีวิตถึงหกคนติดต่อกัน ว่ากันว่าพวกเขาถูกสัตว์ป่าฆ่า และกระดูกของพวกเขาก็ถูกกินจนเกลี้ยง! กระหม่อมส่งคนกลุ่มใหญ่ออกไป และมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่กลับมาได้!”“ประเด็นสำคัญคือ พวกเขามิได้เห็นชัดเจนว่าสัตว์ป่าชนิดใดทำร้าย! กระหม่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคิดว่าท่านอ๋องประทับอยู่ในซีหยาง ดังนั้นกระหม่อมจึงมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”เรื่องเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนย่อมไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธลั่วชิงยวนถามว่า “หมู่บ้านปี้หลิ่งอยู่ที่ใด สัตว์ป่ามิได้โจมตีเมืองซีหยางด้วยหรือ?”ใต้เท้าเฉาตอบว่า “หมู่บ้านปี้หลิ่งอยู่บนหุบเขา และค่อนข้างไกลจากเมืองซีหยางพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนพยักหน้าอย่างครุ่นคิดฟู่เฉินหวนไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “พวกเจ้าลงไปรอข้างล่างก่อน ผลัดผ้าแล้วข้าจะตามไป”“พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ใต้เท้าเฉาจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนก็ออกจากห้องไปด้วยเมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นในหมู่บ้านปี้หลิ่ง ในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าฟู่เฉินหวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-25
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 777

    “นอกจากสถานการณ์ที่นางสาวฝูเสวี่ยกล่าวไว้แล้ว หากท่านไม่มีค่าต่อท่านอ๋องอีกต่อไป เงินจำนวนนี้จะยังใช้ได้กับท่านหรือไม่”“ข้าพูดถูกหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “อื้ม สิ่งที่ท่านพูดก็ฟังดูสมเหตุสมผล”“ข้าควรจะคิดถึงตัวเองให้มาก ๆ”“แต่ข้าได้ยินมาว่า ตระกูลฟ่านก็เข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูด้วย ใช่หรือไม่?”เสวี่ยชวนเฟิงพยักหน้า “ใช่”“ข้ากับตระกูลฟ่านเป็นศัตรูกัน! ลืมเสียเถิด!” ลั่วชิงยวนปฏิเสธอย่างเด็ดขาดการแสดงออกของเสวี่ยชวนเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขาก็รีบตามลั่วชิงยวนอย่างรวดเร็ว “พระชายามีปัญหากับตระกูลฟ่าน เพราะเรื่องของลั่วหลางหลางใช่หรือไม่?”ตอนนี้ทั้งซีหยางรู้กันทั่วแล้วว่าลั่วชิงยวนมาที่ซีหยางเพื่อสนับสนุนลั่วหลางหลาง สร้างความวุ่นวายให้ตระกูลฟ่าน ตบตีฉางจิ่นเหวินและสังหารหลิ่วซิ่งเอ๋อร์นอกจากเหตุผลนี้ ยังจะเป็นอะไรได้อีก? “หากมิไม่เล่า?”เสวี่ยชวนเฟิงรีบพูดขึ้นว่า “จริง ๆ แล้ว… แม่นางฝูเสวี่ยต้องการระบายความโกรธของตัวเองเพื่อลั่วหลางหลาง แม่นางจึงยิ่งควรเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูของเรา”ลั่วชิงยวนเริ่มสนใจและมองเขาอย่างตั้งอกตั้งใจเสวี่ยชวนเฟิงยิ้มแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-25
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 778

    เสียงที่ชัดเจนของลั่วชิงยวนดังขึ้นผู้คนมากกว่าหนึ่งโหลในห้องตกตะลึง และสายตาของพวกเขามองไปทางลั่วชิงยวนเป็นตาเดียว“เสวี่ยชวนเฟิง เจ้ากล้าพาพระชายามาที่นี่ได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องภายในสมาคมของเรา เจ้ารนหาที่ตาย!”เฉินซวนอี๋พูดอย่างเย็นชา “ใช่ นี่เป็นความลับของสมาคมจะให้ใครอื่นมาได้ยินได้เยี่ยงไร เสวี่ยชวนเฟิงเจ้ามิเข้าใจกฎเหล่านี้หรือ?”ผู้อาวุโสยังดุด้วยใบหน้าเย็นชา “ชวนเฟิง เจ้ากำลังทำอะไร!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากเจ้าพาคนนอกเข้ามาและเปิดเผยความลับของสมาคม เจ้าจะถูกลงโทษโบยร้อยไม้และถูกขับออกจากสมาคม! เจ้าทำร้ายตระกูลเสวี่ยของเราแท้ ๆ!”คนที่พูดน่าจะเป็นบิดาของเสวี่ยชวนเฟิงแต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการตำหนิ ไม่เหมือนบิดาผู้ให้กำเนิดเสวี่ยชวนเฟิงก็ดูอึดอัดเช่นกัน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แม่นางฝูเสวี่ยต้องการซื้อกิจการ หากนางซื้อกิจการเหล่านี้ นางก็จะกลายเป็นคนของสมาคมการค้าเฟิงตู นางมิใช่คนนอกเสียหน่อย! นี่มิถือว่าเป็นการทำความลับรั่วไหล!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่คือแผนลวง“ใช่ เมื่อข้าใช้เงินเพื่อซื้อกิจการและเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 779

    นอกจากนี้นางยังได้รู้ถึงการใช้พื้นที่ของแต่ละห้องในอาคารนี้ แต่ไม่มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่นางเห็น ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงมิตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเข้าใจสถานการณ์ของกิจการที่เพิ่งซื้อใหม่ ลั่วชิงยวนจึงมาที่สมาคมการค้าเฟิงตูในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้นให้ความสนใจกับการค้าของตัวเองมากแต่วันนี้ฉางจิ่นเหวิน เฉินซวนอี๋และคนอื่น ๆ ก็กลับมาอีกครั้งหรือพวกเขาจะมีเรื่องสำคัญให้หารือกันอีกหรือ?คราวนี้ลั่วชิงยวนไปเข้าร่วมอย่างเปิดเผยแต่เมื่อนางนั่งที่โต๊ะ สีหน้าของทุกคนก็ดูแปลกไปเล็กน้อยเสวี่ยชวนเฟิงไอและพูดว่า “แม่นางฝูเสวี่ย วันนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญนัก และมันไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน เหตุใดท่านมิออกไปรอข้างนอกเล่า?"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อยและยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆฉางจิ่นเหวินหัวเราะเยาะ “ท่านมาถึงนี่ ก็นั่งลงเถอะ”“ถึงนางจะนั่งอยู่ตรงนี้ เราก็มิจ่ายเงินปันผลให้นางหรอก”เงินปันผล?จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหีบใหญ่สองหีบวางอยู่บนโต๊ะ คนหนึ่งถือสมุดบัญชี เริ่มแจกจ่ายเงิน“เสวี่ยเหวินโจว สองแสนตำลึง”“เสวี่ยชวนเฟิง หนึ่งแสนสามหมื่นตำลึง”“ของพวกท่านนับรวมกันเลยแล้วกัน”ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 780

    รีบก้าวเท้าเบา ๆ วิ่งกลับไปนั่งที่เดิมแล้วแกล้งทำเป็นนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นช้า ๆจากไกลมาใกล้เหมือนเสียงฝีเท้าคนเดินขึ้นบันไดตอนนี้เสียงกลไกที่ว่าดูเหมือนจะมาจากด้านล่าง ซึ่งน่าจะมีชั้นใต้ดินอีกชั้นหนึ่งในไม่ช้า ฝีเท้าของคนผู้นั้นก็เดินเข้ามาหาพวกเขาลั่วชิงยวนรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจับจ้องมาที่นาง จากนั้นสมุดบัญชีที่นางถือก็ถูกดึงออกไป ก่อนจะกลับมาวางในมือของนางอีกครั้งจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกไปหลังจากรอสักพักก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อีกลั่วชิงยวนหรี่ตาอย่างระมัดระวังมองไปข้างหน้าก็มิเห็นมีใครอยู่แล้วจริง ๆคนผู้นั้นคงจะออกไปนางกำลังจะลุกขึ้นเงาบนพื้นที่ขยับเล็กน้อยทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกมิกล้าแม้แต่จะหายใจเงาตรงที่นางนอนคว่ำอยู่ มีเงาของศีรษะอีกเงาปรากฏขึ้นและเคลื่อนไหวเช่นกันทันใดนั้น ลั่วชิงยวนรู้สึกขนหัวลุกคนผู้นั้นอยู่ข้างหลังนาง!นางหลับตาลงทันที ปล่อยให้ร่างกายที่แข็งทื่อของนางผ่อนคลายให้มากที่สุด หายใจอย่างสม่ำเสมอ และมิกล้าสอดส่ายสายตาไม่มีเสียงอะไรเลย ทักษะด้านวรยุทธของชายผู้นี้มิธรรมดา! กอปรกับรัศมีอันเยือกเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 781

    ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด แต่พบว่าดวงตาของสิงโตนั้นหลวมนางกำลังจะกดมันแต่แล้วนางก็สังเกตเห็นจี้ที่ห้อยอยู่รอบคอของสิงโต ลวดลายบนจี้นั้นคุ้นเคยเสียจนทำให้ลั่วชิงยวนใจเต้นรัวรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์!มันเป็นของราชวงศ์แคว้นหลี!หรือชายชุดดำเมื่อครู่นี้ จะเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลเหยียนมาตลอด?เขามาจากแคว้นหลี!คนที่รู้เรื่องของราชวงศ์ นอกจากราชวงศ์หลีแล้วก็มีแต่นักบวชเท่านั้น!ในฐานะนักบวชหญิงแห่งยุคนี้ นางรู้จักนักบวชทุกคน!เมื่อคิดถึงการจะได้ใกล้ชิดกับคนในสายเดียวกัน ลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่อีกใจก็กังวลเช่นกัน ร่างกายของนางเปลี่ยนแปลงไป และทักษะวรยุทธของนางก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนหากต้องเผชิญหน้ากับคนในสายเดียวกันที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูหรือมิตร นางอาจจะสู้เขาไม่ได้!นางปลดสลักรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ทันทีประตูหินค่อย ๆ เปิดออกโชคดีที่นางไม่ได้กดกลไกที่ตา ไม่เช่นนั้นวันนี้นางอาจไม่ได้กลับออกไปการใช้กุญแจดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นกลไกก็เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถทำลายมันได้ มันถูกสร้างขึ้นรูปอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นห้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-27

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1204

    เมื่อเฉินชีได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักแล้วยกยิ้มมุมปาก เดินมาที่หน้าต่าง พิงกำแพงพลางกอดอก “เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าในฐานะที่เจ้าเป็นใคร?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นักบวชระดับสูง”ดวงตาของเฉินชีลุกโชนด้วยประกายร้อนแรง “อาเหลา ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจจะไปกับข้าแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและเย่อหยิ่ง “กลับแคว้นหลีก็ได้ ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง”“แคว้นหลีจะมีนักบวชระดับสูงได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น”เฉินชียกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างนอบน้อม “อย่าว่าแต่เรื่องเดียวเลย สิบเรื่อง ร้อยเรื่อง เฉินชีก็ยินดีทำเพื่อนักบวชระดับสูงทั้งสิ้น!”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำถึงแม้เฉินชีจะบ้าแต่ก็มิใช้คนโง่เขลา เขาทำอะไรตามอำเภอใจแต่ก็คงมิยอมสยบต่อนางง่าย ๆ เช่นนี้การเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ทำให้นางมิค่อยเชื่อถือ“เจ้าฟังเรื่องที่ข้าจะให้เจ้าทำก่อนค่อยตอบรับก็ยังมิสาย”เฉินชีลุกขึ้นมองนางด้วยแววตาเป็นประกาย “ท่านนักบวชต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”“ข้าต้องการให้เจ้ายกทัพไปตีซีหลิง”“แต่ห้ามสู้รบกันจริง ๆ ห้ามทำร้ายราษฎร”เฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1203

    ใจของลั่วชิงยวนร้อนรุ่มดั่งไฟสุม นางพยายามดิ้นรนสุดแรง “ปล่อยข้านะ!”“ฟู่เฉินหวน ท่านช่างไร้หัวใจอะไรเยี่ยงนี้!”ทว่าฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย มิสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเมื่อเห็นแม่นมเติ้งใกล้จะทนมิไหวแล้ว น้ำตาลั่วชิงยวนก็เอ่อคลอ“หม่อมฉันจะมิออกจากเรือนแล้ว หม่อมฉันจะมิออกจากห้องแล้ว ได้หรือไม่!”นางมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามวิงวอนขอร้องในที่สุดนางก็ยอมก้มหน้าลง“ขอท่านไว้ชีวิตนางด้วยเถิดเพคะ!” ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรงแววตาฟู่เฉินหวนมืดมนเดิมทีลั่วชิงยวนคิดว่าเมื่อนางขอร้องแล้ว ฟู่เฉินหวนคงจะไว้ชีวิตแม่นมเติ้งแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีแววตาเย็นชา “นางเป็นบ่าวของตำหนัก มิใช่บ่าวของเจ้า นางขัดคำสั่งข้า สำหรับข้าแล้ว ไม่มีคำว่ายกโทษ”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเป็นดั่งหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงนางโกรธจนตะโกนลั่น “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววหงุดหงิดขณะกล่าวเสียงเย็น “พาตัวนางไป”องครักษ์จับตัวลั่วชิงยวนแล้วลากออกไปฟู่เฉินหวนมองนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ายังท้าทายข้าอีก จะต้องมีคนตายมา่กกว่านี้แน่”แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1202

    ครั้นลั่วชิงยวนถูกพากลับมายังเรือนพวกองครักษ์ก็ปล่อยตัวนาง นางจึงทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นด้วยความอ่อนล้า“พระชายา! พระชายา!”จือเฉารีบรุดเข้ามาประคอง แต่พลั้งมือไปโดนแขนนางเข้า จึงสะดุ้งโหยงรีบชักมือกลับ “พระชายา แขนของท่าน...”ลั่วชิงยวนยันกายลุกขึ้นโดยอาศัยจือเฉาพยุงเดินเข้าห้องไปอย่างเชื่องช้าเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ นางก็จับแขนข้างที่หักนั้นไว้พลางกัดฟันแน่นก่อนจะออกแรงดันกระดูกให้เข้าที่ความเจ็บปวดแล่นริ้วราวกับจะขาดใจ น้ำตาของนางแทบไหลรินจือเฉากลั้นน้ำตาไว้มิอยู่ “พระชายา... เหตุใดท่านอ๋องจึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ ลงพระหัตถ์หนักหนาเกินไปแล้ว...”ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่อกพลันไอออกมามิหยุด จือเฉารีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เมื่อไอเสร็จ ลั่วชิงยวนก็พบว่าผ้าเช็ดหน้าเต็มไปด้วยเลือด...จือเฉาตกใจมาก “บ่าวจะไปตามซูโหยวให้ไปเชิญหมอหลวงมาเจ้าค่ะ”แต่ลั่วชิงยวนกลับบอกว่า “มิต้อง อย่าทำให้เขาเดือดร้อนเลย”หากฟู่เฉินหวนรู้ว่าซูโหยวช่วยนางคงจะโกรธมากเป็นแน่“แล้วแผลของพระชายาเล่าเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนรินน้ำชา “ยังมีสมุนไพรเหลืออยู่มิใช่หรือ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”จากนั้นนางก็หยิบส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1201

    ในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หลังเพราะถูกกดลงบนกำแพงเท้าของนางลอยขึ้นจากพื้นความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางดิ้นรนสุดกำลัง“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา! ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องของของข้า!”ลั่วชิงยวนพยายามพูด “ฟู่เฉินหวน...”นางหายใจมิออกแล้วนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนฉายแววเย็นชาขณะจับนางเหวี่ยงออกไปร่างลั่วชิงยวนตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นกลิ้งไปหลายตลบแล้วกระอักเลือดออกมาอวัยวะภายในสั่นสะเทือน ปวดร้าวไปทั่วร่าง“ฟู่เฉินหวน ลั่วฉิงกับไทเฮาร่วมมือกัน สิ่งที่ไทเฮาให้ท่านอาจถูกลั่วฉิงปลอมแปลง จดหมายนั้นอาจเป็นของปลอมก็ได้!”ลั่วชิงยวนรีบอธิบายความคิดของตนเองฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาด้วยความโกรธ เขาจับนางขึ้นมาแล้วมองนางด้วยสายตาเหี้ยมโหด “ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาหลอกลวงข้าอีกรึ?”“ลายมือท่านแม่ของข้า ข้าจะจำมิได้เชียวหรือ!”พูดจบ ลั่วชิงยวนก็ถูกเหวี่ยงออกจากห้องร่างกระแทกพื้นหิมะแขนข้างหนึ่งถูกทับจนเกิดเสียงดังกร๊อบแขนหลุดจากข้อต่อแล้ว“โอ๊ย...” ลั่วชิงยวนร้องเสียงหลง หน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มไปหน้านางใช้มือข้างเดียวพยุงตัว พยายามลุกขึ้นอย่างยากล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1200

    ลั่วฉิงใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์มิเป็นด้วยฐานะของนาง เป็นไปมิได้ที่จะใช้มิเป็นลั่วชิงยวนเบิกตากว้างลั่วฉิงมิได้ใช้มิเป็น แต่ใช้มิได้ต่างหาก!นางพกเข็มทิศนี้ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์บอกว่าเป็นของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของนางหลังจากที่นางตายแล้วเกิดใหม่เข็มทิศนี้ก็ยังคงติดตัวนางมา ย่อมมิใช่ของธรรมดาสามัญแน่นอนดังนั้น เข็มทิศนี้อาจจะยอมรับนางเป็นเจ้าของแล้ว คนอื่นจึงใช้มิได้เมื่อคิดได้ดังนั้น ลั่วชิงยวนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างลั่วฉิงได้เข็มทิศไปก็ไร้ประโยชน์ฟู่เฉินหวนถาม “หากไม่มีเข็มทิศนี้ เจ้าก็ทำนายอะไรมิได้เลยหรือ?”ลั่วฉิงยกยิ้ม “แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น”“เช่นนั้นก็มิเห็นเป็นอะไร เจ้าแค่ทำนายสิ่งที่เจ้าทำนายได้ แล้วก็จะค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจเอง”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะกล่าวเสียงเย็น “ข้าทะเลาะกับนางไปแล้ว หากจะหลอกลวงนางอีกก็ต้องแสร้งทำดีด้วย”“ข้ามิอยากทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น”หัวใจของลั่วชิงยวนพลันเจ็บแปลบเขาบอกว่าการทำดีกับนางเป็นเรื่องน่ารังเกียจ...ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวด นางกำเสื้อแน่น มิกล้าส่งเสียงแล้วค่อย ๆ เดินจากไปคำพูดเหล่านั้นดังก้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

DMCA.com Protection Status