Share

บทที่ 780

Author: หว่านชิงอิ๋น
รีบก้าวเท้าเบา ๆ วิ่งกลับไปนั่งที่เดิมแล้วแกล้งทำเป็นนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นช้า ๆ

จากไกลมาใกล้

เหมือนเสียงฝีเท้าคนเดินขึ้นบันได

ตอนนี้เสียงกลไกที่ว่าดูเหมือนจะมาจากด้านล่าง ซึ่งน่าจะมีชั้นใต้ดินอีกชั้นหนึ่ง

ในไม่ช้า ฝีเท้าของคนผู้นั้นก็เดินเข้ามาหาพวกเขา

ลั่วชิงยวนรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจับจ้องมาที่นาง จากนั้นสมุดบัญชีที่นางถือก็ถูกดึงออกไป ก่อนจะกลับมาวางในมือของนางอีกครั้ง

จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกไป

หลังจากรอสักพักก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อีก

ลั่วชิงยวนหรี่ตาอย่างระมัดระวัง

มองไปข้างหน้าก็มิเห็นมีใครอยู่แล้วจริง ๆ

คนผู้นั้นคงจะออกไป

นางกำลังจะลุกขึ้น

เงาบนพื้นที่ขยับเล็กน้อยทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกมิกล้าแม้แต่จะหายใจ

เงาตรงที่นางนอนคว่ำอยู่ มีเงาของศีรษะอีกเงาปรากฏขึ้นและเคลื่อนไหวเช่นกัน

ทันใดนั้น ลั่วชิงยวนรู้สึกขนหัวลุก

คนผู้นั้นอยู่ข้างหลังนาง!

นางหลับตาลงทันที ปล่อยให้ร่างกายที่แข็งทื่อของนางผ่อนคลายให้มากที่สุด หายใจอย่างสม่ำเสมอ และมิกล้าสอดส่ายสายตา

ไม่มีเสียงอะไรเลย ทักษะด้านวรยุทธของชายผู้นี้มิธรรมดา! กอปรกับรัศมีอันเยือกเย
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 781

    ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด แต่พบว่าดวงตาของสิงโตนั้นหลวมนางกำลังจะกดมันแต่แล้วนางก็สังเกตเห็นจี้ที่ห้อยอยู่รอบคอของสิงโต ลวดลายบนจี้นั้นคุ้นเคยเสียจนทำให้ลั่วชิงยวนใจเต้นรัวรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์!มันเป็นของราชวงศ์แคว้นหลี!หรือชายชุดดำเมื่อครู่นี้ จะเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลเหยียนมาตลอด?เขามาจากแคว้นหลี!คนที่รู้เรื่องของราชวงศ์ นอกจากราชวงศ์หลีแล้วก็มีแต่นักบวชเท่านั้น!ในฐานะนักบวชหญิงแห่งยุคนี้ นางรู้จักนักบวชทุกคน!เมื่อคิดถึงการจะได้ใกล้ชิดกับคนในสายเดียวกัน ลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่อีกใจก็กังวลเช่นกัน ร่างกายของนางเปลี่ยนแปลงไป และทักษะวรยุทธของนางก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนหากต้องเผชิญหน้ากับคนในสายเดียวกันที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูหรือมิตร นางอาจจะสู้เขาไม่ได้!นางปลดสลักรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ทันทีประตูหินค่อย ๆ เปิดออกโชคดีที่นางไม่ได้กดกลไกที่ตา ไม่เช่นนั้นวันนี้นางอาจไม่ได้กลับออกไปการใช้กุญแจดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นกลไกก็เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถทำลายมันได้ มันถูกสร้างขึ้นรูปอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นห้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 782

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองไปรอบ ๆ แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นนางค่อย ๆ เดินไปยังจุดที่เสวี่ยชวนเฟิงนั่งอยู่ แต่ทันใดนั้นก็พบว่าเสวี่ยชวนเฟิงลงไปกองกับพื้นลั่วชิงยวนขมวดคิ้วและก้มลงเพื่อเขย่าเสวี่ยชวนเฟิง แต่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากเขาลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ และพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติจากนั้นนางก็ช่วยพยุงเสวี่ยชวนเฟิงขึ้น ก่อนกลับมายังตำแหน่งเดิมของนางเพื่อนอนหลับต่อ......รุ่งสางแล้วคนของสมาคมการค้าทยอยกันมาถึง พวกเขาปลุกลั่วชิงยวนและเสวี่ยชวนเฟิงทั้งสองตื่นขึ้นมา ขยี้ตาด้วยความงัวเงีย“ข้าง่วงมากจนเผลอหลับไปก่อนจะตรวจบัญชีเสร็จเสียอีก” ลั่วชิงยวนหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาอ่านต่อเสวี่ยชวนเฟิงเริ่มไม่ไหว แต่ก็ยังคงนั่งอยู่กับนางต่อไปลั่วชิงยวนอยู่ต่ออีกครึ่งวัน แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ และชายในชุดดำก็ไม่ปรากฏตัว ดังนั้นนางจึงออกจากสมาคมการค้าเฟิงตูไปเมื่อกลับมาถึงโรงเตี๊ยม ลั่วชิงยวนจึงถามจือเฉาว่า “มีข่าวอะไรจากท่านอ๋องบ้างหรือไม่?”จื่อเฉานำชาและอาหารมาให้ “ท่านอ๋องมิอยู่เพียงสองวัน พระชายาก็คิดถึงท่านอ๋องแล้วหรือเจ้าคะ?”“เซียวชูส่งจดหมายมาทางนกพิราบแล้วเจ้าค่ะ”จื่อเฉาหยิบก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 783

    อีกฝ่ายล้มลงกับพื้น เงยหน้าขึ้นเวียนหัว และชี้ไปที่นางด้วยความโกรธ “เจ้า เจ้า เจ้า!”อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นลั่วชิงยวน เขาก็หดตัวกลับด้วยความกลัว“พระ… พระชายา...”ลั่วชิงยวนดูบูดบึ้ง “เจ้ารู้ว่าข้าเป็นพระชายา แล้วกล้าดีอย่างไรมาทำเยี่ยงนี้กับลั่วหลางหลาง อะไรทำให้เจ้ากล้าดีเพียงนี้ อยากตายนักหรือไร?”ลั่วชิงยวนโกรธมากจนหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ข้าง ๆ ออกมาตีพวกนางอย่างแรงหลังถูกทุบตี ในสวนหลังบ้านก็มีเสียงคร่ำครวญขอชีวิตดังระงมลั่วหลางหลางก้าวมารั้งนางไว้ "หยุดมือเถิด หากเจ้ายังตีนางอีก นางคงตายแน่แล้ว"จากนั้นลั่วชิงยวนก็หยุดมือใบหน้าของหญิงชรานางนั้นเต็มไปด้วยเลือด นางชี้ไปที่ขอทานตัวน้อยที่ยื่นหน้าออกมาจากด้านนอกของประตูด้วยความโกรธ “เจ้าขอทานนี่ เจ้าเป็นตัวการรึ! คอยดูเถอะ!”หญิงชราเหล่านั้นหนีหัวซุกหัวซุนลั่วหลางหลางเรียกขอทานที่หน้าประตูให้เข้ามาด้วยความกังวล “เสี่ยวซี เจ้าเป็นคนไปตามหาพระชายามาหรือ?”เซียวซีพยักหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เล็กน้อย “ท่านพี่หลางหลางใจดีกับข้ามาก ข้าจะทนดูท่านถูกพวกเขารังแกได้อย่างไร”ลั่วหลางหลางลูบศีรษะของเสี่ยวซีแล้วหันไปมองลั่วชิงยวน “ชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 784

    ลั่วชิงยวนพาลั่วหลางหลางไปที่ลานหน้าบ้าน ในขณะนี้เฉินซวนอี๋กำลังนั่งอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้ากำลังดื่มชา ราวกับว่านางกำลังรอให้พวกนางมาหาเมื่อเห็นลั่วชิงยวนลากลั่วหลางหลางมาด้วย นางก็แสร้งทำเป็นตกใจแล้วลุกขึ้น“พระชายามาตั้งแต่เมื่อไหร่? บ่าวในบ้านนี้เป็นอะไรกัน มิยอมแจ้งล่วงหน้า”ลั่วชิงยวนยื่นมือที่แดงก่ำและมีเลือดไหลซึมของลั่วหลางหลาง และถามอย่างเย็นชา "นี่คือจุดประสงค์ที่พวกเจ้านำลั่วหลางหลางกลับมาใช่หรือไม่?"เฉินซวนอี๋มองดูและตกใจ "เกิดเรื่องอันใดขึ้น? ผู้ใดทำร้ายเจ้า?"การเสแสร้งว่ากังวลใจและกังวลนั้นจอมปลอมอย่างที่สุด“เจ้าคิดเยี่ยงไรเล่า? เจ้าเป็นคนดูแลบ้าน เจ้ามิรู้หรือว่าเกิดอะไรขึ้น?”เฉินซวนอี๋ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้ายุ่งอยู่กับการค้า เช่นนั้นข้าจึงมิรู้จริง ๆ ว่าเรื่องใหญ่โตแบบนี้เกิดขึ้นในครอบครัวได้อย่างไร พระชายา รอสักครู่ ข้าจะเรียกคนมาไต่ถามให้รู้เรื่อง!”ดังนั้นเฉินซวนอี๋จึงเรียกคนรับใช้ทั้งหมดเข้ามาไต่ถาม มีสาวใช้คนหนึ่งตอบไปว่า “เป็นพวกป้าจางที่ให้ฮูหยินซักเสื้อผ้าเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฉินซวนอี๋จึงพูดด้วยความโกรธ “ป้าจางอยู่ที่ใด ไปพานางมาหาข้า!”ในไม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 785

    ลั่วชิงยวนเหลือบมองที่ท้องของเฉินซวนอี๋อย่างมีเลศนัย “ตอนนี้คงท้องได้ประมาณสี่เดือนแล้วกระมัง นี่เป็นช่วงที่แท้งง่าย เจ้าควรระวังให้ดี”“การแท้งมิสำคัญหรอก ทว่าหากเจ้าแท้งขึ้นมา เจ้าต้องพักไประยะหนึ่ง กว่าเจ้าจะหายดีดังเดิม ระวังสมาคมการค้าเฟิงตูจะมิเหลือที่ให้เจ้าแล้ว!"ดวงตาของลั่วชิงยวนดุดันมากจนเฉินซวนอี๋ทั้งโกรธและหวาดกลัวแต่เฉินซวนอี๋กลับทำได้เพียงจ้องมองนางด้วยความโกรธ มิกล้าพูดอะไรออกมาลั่วชิงยวนพาลั่วหลางหลางออกไปหลังจากออกมาได้ ลั่วหลางหลางก็หัวเราะขึ้น“เจ้าหัวเราะอะไรรึ?”“เห็นสีหน้าของเฉินซวนอี๋ทำได้แค่โกรธแต่พูดมิออก ข้าก็อดมิได้ที่จะหัวเราะ ฟ่านซานเหอควบคุมนางมิได้ แต่มีเจ้าที่ทำได้”ลั่วชิงยวนยิ้ม “มิใช่ข้าหรอก แต่เป็นตำแหน่งพระชายาอ๋องต่างหากที่สามารถควบคุมนางได้”ดังคำกล่าวที่ว่าราษฎรมิสู้กับขุนนาง แม้นที่ซีหยาง เฉินซวนอี๋จะมีอำนาจยิ่งใหญ่ ทว่าจะมิกลัวอำนาจของเมืองหลวงได้เยี่ยงไรหากฟู่เฉินหวนเป็นขุนนางชั่ว ต้องการทำลายสมาคมการค้าเฟิงตู คนเหล่านี้จะยังมีปากไว้ยืนพูดอยู่อีกหรือไร?หลังจากกลับมาที่ห้องพร้อมกับลั่วหลางหลางและปิดประตูลง ลั่วชิงยวนก็ดึงลั่วหล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 786

    ลั่วชิงยวนตกตะลึงเมื่อคืนเขาตื่นขึ้นจริง ๆ มิใช่ล้มลงกับพื้นโดยไม่มีเหตุผล“เมื่อคืนนี้เจ้า!” ลั่วชิงยวนตกใจสุดขีดเสวี่ยชวนเฟิงยิ้มและพูดว่า “เมื่อคืนข้าตื่นแล้ว แต่น่าเสียดายที่ยาแรงเกินไป ข้าจึงล้มลงทันที”“แต่ข้าก็เห็นว่าห้องนั้นเปิดอยู่ และเจ้าก็อยู่ในนั้น”ลั่วชิงยวนหน้าถอดสี จ้องเขาอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าต้องการอะไร?!”เสวี่ยชวนเฟิงนั่งบนเก้าอี้ รินเหล้าให้ตัวเองอย่างใจเย็น จิบช้า ๆ แล้วพูดว่า “ตอนนี้ท่านอ๋องมิอยู่ในเมืองซีหยาง บอกข้าทีสิ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับท่าน ท่านจะยังเป็นพระชายาอ๋องได้อยู่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนตะคอกอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “หากเป็นเช่นนั้น เจ้าคิดว่าเจ้าจะยังมีชีวิตรอดได้หรือไม่?”“เมื่อเทียบกับข้าที่มีฐานะเป็นถึงพระชายาอ๋อง คนแรกที่ฟู่เฉินหวนจะฆ่าก็คือเจ้า!”เสวี่ยชวนเฟิงพูดอย่างใจเย็น “นั่นเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น”“เพียงท่านบอกข้าว่า ในห้องลับนั้นมีอะไร และไม่ว่าท่านและท่านอ๋องจะมาที่ซีหยางเพื่อตรวจสอบสมาคมการค้าเฟิงตูหรือไม่ ร่วมมือกับข้า แล้วข้าจะมิทำอะไรท่าน”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อยและเอ่ยถาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 787

    โชคดีที่เมื่อคืนเขาตื่นขึ้นมาโดยบังเอิญ และเห็นว่าห้องที่มีเพียงเฉินซวนอี๋เข้าไปได้เท่านั้นถูกเปิดออก ทั้งร่างกายของเขายังอ่อนแรง เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาถูกลั่วชิงยวนวางยา เขารู้ว่าลั่วชิงยวนนั้นมิใช่เพียงสตรีธรรมดาอย่างที่ตาเห็นเขาจึงคิดอยู่นานและในที่สุดก็เปลี่ยนแผนเมื่อลั่วชิงยวนเข้าไปในห้องลับได้ แปลว่าต้องได้หลักฐานมาแล้ว สมาคมการค้าเฟิงตูต้องพินาศลง วิธีเดียวที่เขาคิดได้คือปกป้องตัวเองเท่านั้นนั่นเป็นเหตุผลที่เขาเสี่ยงที่จะวางยาลั่วชิงยวน หวังจะบังคับให้อีกฝ่ายร่วมมือกับเขาแต่สิ่งที่เขามิคาดคิดก็คือ เขาทำอะไรลั่วชิงยวนมิได้เลยทั้งสองทานอาหารมื้อนั้นร่วมกันเสร็จ พูดคุยพลางหัวเราะแล้วออกจากโรงเตี๊ยมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองยังคงเป็นเช่นปกติ และเนื่องจากทั้งสองสมคบคิดกันเรื่องอื่น เพื่อมิให้คนอื่นในสมาคมการค้าเฟิงตูต้องสงสัย ลั่วชิงยวนจึงลงทุนในสมาคมการค้าเฟิงตูอีกสามหมื่นตำลึงภายในสองวันติดต่อกันผู้คนจากสมาคมการค้าเฟิงตูรู้สึกว่านางยังมีค่า ดังนั้นพวกเขาจึงอนุญาตให้แผนของเสวี่ยชวนเฟิงดำเนินการต่อไปเสวี่ยชวนเฟิงรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้แก่นาง และเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 788

    ลั่วชิงยวนหยิบเศษกระดาษทั้งหมดออกมาดู และพบว่ามีข้อความเดียวกันนี้เขียนไว้ และนางมิได้เป็นคนเขียน แต่คนคนนั้นกำลังเลียนแบบลายมือของนาง!และลอกเลียนได้คล้ายมากนางค่อย ๆ ปะติดปะต่อและวิเคราะห์เนื้อหาที่เขียนในเอกสารเหล่านี้เช่นนั้นเอง ผลลัพธ์ที่นางได้จากปะติดปะต่อกัน ทำให้นางเสียวงสันหลังวาบ“หม่อมฉันจัดการเรื่องต่าง ๆ เกือบเสร็จแล้ว จะไปเจอท่านที่หมู่บ้านปี้หลิ่งในวันพรุ่ง”หมู่บ้านปี้หลิ่ง?จู่ ๆ หนังศีรษะของลั่วชิงยวน ก็ชาไป ชายคนนั้นไปที่หมู่บ้านปี้หลิ่ง เพื่อตามหาฟู่เฉินหวน! แถมยังแกล้งทำเป็นนางอีกด้วย!ฟู่เฉินหวนตกอยู่ในอันตราย!ลั่วชิงยวนรีบจัดการทุกอย่างให้กลับสู่สภาพเดิมทันที นางหันหลังกลับและวิ่งออกจากห้องลับไปขณะที่ปัดขี้เถ้าธูปบนโต๊ะ เสวี่ยชวนเฟิงก็เข้ามา เมื่อเห็นนางรีบร้อน เขาก็อดมิได้ที่จะถามขึ้นว่า “ท่านเห็นอะไรในห้องลับหรือ?”ลั่วชิงยวนเดินตรงออกไป “ข้าจะออกจากเมืองซีหยางสักสองสามวัน เจ้าระวังตัวด้วย”เสวี่ยชวนเฟิงขมวดคิ้ว “มีอะไรอยู่ในห้องลับกันแน่? ขอข้าเข้าไปดูได้หรือไม่?”ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา “เจ้าเข้าไปมิได้ มิเช่นนั้นเจ้าต้องตาย”บุคคลนั้นน่าจะอ

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1302

    เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปในทันที“กระหม่อมเป็นองครักษ์ข้างกายองค์ชายใหญ่ โปรดอภัยให้กระหม่อมที่มิสามารถทำตามพระบัญชาได้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงผู้นี้ชอบเฉินชี หากเขาติดตามองค์หญิงไปก็คงจะได้พบกับเฉินชีเป็นแน่ มิหนำซ้ำ เกาเหมียวเหมี่ยวก็ช่วยเขาฆ่าเฉินชีมิได้เมื่อถูกเขาปฏิเสธอีกครั้ง สีหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวจึงดูมิดีนักฉินอี้จึงต้องก้าวออกมา “เหมียวเหมี่ยว คนที่คอยคุ้มครองเจ้ายังมิพออีกหรือ?”“ข้างกายพี่ใหญ่มีองครักษ์คนนี้อยู่เพียงคนเดียว เจ้าอย่าแย่งเขาไปเลย”สีหน้าของฉินอี้ดูเหมือนคนจนใจน้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสารเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวก็มิกล้าที่จะบังคับอีก นางตอบอย่างมิพอใจว่า “ก็ได้”“รอจนกว่าท่านจะมิต้องการเขาแล้ว ค่อยให้หม่อมฉันก็แล้วกัน”“หม่อมฉันค่อนข้างชอบเขา”เกาเหมียวเหมี่ยวพูดพลางมองฟู่เฉินหวน บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้มยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคล้ายกับเฉินชีมิใช่หน้าตาที่เหมือน แต่เป็นอารมณ์เย็นชาหยิ่งผยองและความกล้าหาญที่จะปฏิเสธนางโดยมิแม้แต่จะเสียงสั่นในเมื่อยังมิสามารถทำให้เฉินชีสยบต่อนางได้ในเร็ววัน การ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1301

    “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไปทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดีฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”“เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกายน้ำแกงโสมมังกรหรือ?เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สองแต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวนฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1300

    ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างใจเย็น “องค์ชายใหญ่ใส่ใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วมุ่น มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “แน่นอน! แท้จริงแล้วเจ้ารู้อะไรกันแน่!”วันนั้นในคุกใต้ดิน เกือบจะได้ฟังคำพูดต่อจากนั้นของลั่วชิงยวนแล้วแต่กลับถูกเฉินชีขัดจังหวะเสียก่อนหลังจากกลับไป เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาอาจมิใส่ใจเรื่องราวในอดีตได้ แต่นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา! เขาจะมิใส่ใจคงมิได้!ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้ม “องค์ชายใหญ่เชื่อจริงจังเลยหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการเอาชีวิตรอด จึงพูดจาเหลวไหลไปเท่านั้น”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฉินอี้ก็ตกตะลึงไปทั้งร่างมองนางด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้าว่ากระไรนะ?!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมฉันมิอยากพูดซ้ำสอง”ฉินอี้โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ก็อดกลั้นไว้ เขาไม่มีทางต่อกรกับลั่วชิงยวนได้สุดท้ายก็ได้แต่จากไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นฉินอี้จากไป เงาร่างที่แอบฟังอยู่ก็รีบจากไปเช่นกันอาการของฉินอี้นั้นมีสาเหตุจริง แต่เรื่องนี้ยังมิอาจบอกให้ฉินอี้รู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่หากพูดออกไป ปัญหาที่นางจะต้องเผชิญจะมิใช่เพียงเรื่องรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1299

    อวี๋โหรวพยักหน้า รีบเช็ดน้ำตา “ขอบคุณ”ลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบโยนเมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสถามอวี๋โหรว “อันที่จริงข้าสงสัยเรื่องนักบวชระดับสูงคนก่อน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่านางตายอย่างไร?”อวี๋โหรวตกใจเล็กน้อยคาดเดาในใจว่าลั่วชิงยวนคงสอบถามเรื่องนี้เพราะเฉินชีเพราะว่าเฉินชีก็มีใจให้ลั่วเหลาเช่นเดียวกันนางอธิบาย “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางตายอย่างไร”“วันนั้นนางบำเพ็ญเพียรอยู่ที่หอเทียนฉี วันรุ่งขึ้นเมื่อมีคนมาพบก็เหลือเพียงโลหิตกองเต็มพื้น”“บนพื้นยังมีร่องรอยการลากศพด้วย”“แต่ส่งคนออกไปตามหาศพตั้งมากมายก็หามิพบ”“เฉินชีแทบจะพลิกทั่วทั้งวัง แทบจะคลุ้มคลั่งสังหารคนในสำนักนักบวชไปเสียสิ้น”“ยังดีที่จักรพรรดิทรงนำราชองครักษ์เกราะเหล็กมาด้วยพระองค์เอง จึงสามารถควบคุมตัวเฉินชีไว้ได้”“เรื่องการตายของนักบวชระดับสูงนั้นมีการสืบสวนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเบาะแสใด ๆ เบาะแสทั้งหมดหยุดอยู่ที่หอเทียนฉี”“นอกหอเทียนฉีไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ”“นานวันเข้า เรื่องนี้ก็เงียบหายไป”ตามคำบอกเล่าของอวี๋โหรว ลั่วชิงยวนก็หวนนึกถึงคืนนั้นหอเทียนฉีเป็นสถานที่ที่นักบวชระดับสูงจะท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status