Share

บทที่ 749

Author: หว่านชิงอิ๋น
นางเอ่ยถามออกไปทันที “สิ่งนี้เป็นฝีมือของลั่วหลางหลางฮูหยินตระกูลฟ่านใช่หรือไม่”

กลิ่นที่คุ้นเคยนี้เป็นกลิ่นของถุงหอมที่ลั่วหลางหลางเคยมอบให้นางจริงๆ!

ลูกจ้างหญิงก็สะดุ้งเล็กน้อยและตอบกลับอย่างรวดเร็ว "เป็นฮูหยินตระกูลฟ่านจริงเจ้าค่ะ แต่มิใช่ลั่วหลางหลาง เป็นเฉินซวนอี๋"

“นางปรุงแต่งมันด้วยตัวเอง”

ลั่วชิงยวนตัวแข็งทื่อ

เห็นได้ชัดว่านี่คือกลิ่นถุงหอมของลั่วหลางหลาง!

กลิ่นหอมนี้พิเศษมากจนเมื่อได้กลิ่นก็จะทำให้นึกถึงลั่วหลางหลางซึ่งตรงกับบุคลิกนิสัยของนางและมิใช่กลิ่นขี้ผึ้งธรรมดาอย่างแน่นอน

เฉินซวนอี๋จะรังสรรค์สิ่งเดียวกันออกมาได้อย่างไร!

นางขโมยสูตรของลั่วหลางหลางหรือ?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ความโกรธของลั่วชิงยวนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เศรษฐินีเดินเข้ามาขนาบข้างนางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ายังมิได้ใช้สินค้าตัวใหม่ที่ฮูหยินฟ่านเตรียมไว้เลย เอามาให้ข้ากล่องหนึ่งด้วย"

“เจ้าค่ะ รอสักครู่หนาเจ้าคะ!”

ลูกจ้างหญิงจึงรีบไปเอากล่องใหม่มาทันที

สตรีผู้นั้นเปิดมันดมกลิ่นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินฟ่านทำเครื่องประทินผิวได้เก่งมาก นางเป็นสตรีที่มีความสามารถจริง ๆ!”

“นับว่าร้ายแรงจริง ๆ ที่นางต้องอยู่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 750

    “นี่จะบอกว่าสมาคมการค้าเฟิงตูแห่งซีหยางทรงพลังมากอย่างนั้นรึ?”ฉางจิ่นเหวินพูดด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใครกัน!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เป็นใครงั้นรึ?ฉางจิ่นเหวินผู้นี้ช่างกล้าจริง ๆลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะหัวเราะ กอดอกแล้วมองไปที่ฉางจิ่นเหวิน “เจ้ากล้าต่อว่าท่านผู้นี้อย่างนั้นรึ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านนี้เป็นใคร?”ฉางจิ่นเหวินโกรธมากจนนางไม่แยแสต่อสิ่งใด และสาปแช่งด้วยความโกรธ “หยุดแสร้งทำเป็นวางอำนาจบาตรใหญ่ได้แล้ว! เจ้าบ้านี่เป็นใครมาจากไหน เจ้ากล้าดีเช่นไรมายั่วยุสมาคมการค้าเฟิงตูของเรา!”“ร้านค้าของตระกูลฟ่านแห่งนี้มีมูลค่านับหมื่นตำลึงทอง! หากเจ้ามิสามารถจ่ายค่าชดเชยได้ เจ้าจะต้องถูกส่งไปที่ศาลาว่าการ! และจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วแล้วหันไปมองฟู่เฉินหวน “นางเรียกท่านว่าเจ้าบ้า”“โอ้” ฟู่เฉินหวนตอบเบา ๆลั่วชิงยวนตกตะลึง เมื่อเห็นว่าฟู่เฉินหวนมิเคลื่อนไหว นางจึงถามว่า "ท่านควรจะนำป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน และทำให้พวกเขากลัวที่จะคุกเข่าลงและขอความเมตตามิใช่หรือ"ฟู่เฉินหวนพูดอย่างสบาย ๆ “ข้ามิได้นำมา”ลั่วชิงยวนตก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 751

    ฟู่เฉินหวนสะดุ้งเล็กน้อยและเลิกคิ้วมองนาง “เจ้าถูกจับเพราะข้าหรือ?”“มิใช่หรืออย่างไร หม่อมฉันเห็นท่านมิตอบโต้ หม่อมฉันก็เลยตามท่านเข้ามาด้วย”“ท่านแค่อยากเข้ามาทดสอบว่า นายอำเภอผู้นี้เป็นคนแบบใดใช่หรือไม่?” ลั่วชิงยวนขยับเข้ามาใกล้และลดเสียงของนางลงการลดระยะห่างอย่างกะทันหัน ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของลั่วชิงยวน หัวใจของฟู่เฉินหวนจึงเต้นเร็วขึ้นเขามองออกไปและฮัมเสียงในคอเป็นการรับรู้อากาศทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าว ทำให้เขาต้องเคลื่อนตัวไปด้านข้างโดยมิรู้ตัวลั่วชิงยวนก็ขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้น โน้มตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบ “อย่างไรก็แล้วแต่ หม่อมฉันถูกจับได้และต้องมาทนหิวเช่นนี้ก็เพราะท่าน”“ท่านจะชดใช้ให้หม่อมฉันอย่างไร?”ฟู่เฉินหวนหันกลับมาสายตาอันหิวกระหายของลั่วชิงยวน หูของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงกะทันหัน คิ้วขมวดมุ่น “เจ้า…”“เจ้าต้องการอะไร” ฟู่เฉินหวนหายใจเร็วขึ้น และเขาก็แอบถอยไปด้านข้างลั่วชิงยวนไล่ตามเขาและก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวขณะมองเขาด้วยสายตาจริงจัง นางยกมุมปากขึ้นโดยมิรู้ตัว ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ และพูดอย่างแผ่วเบา “บอกตามตรง หม่อมฉันสนใจ…”“สมาคมการค้าเฟิงตู!”ซู่.

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 752

    ลั่วชิงยวนหยิบกล่องเล็ก ๆ สองกล่องขึ้นมาทันที เปิดออกแล้วดมกลิ่น มันคือสีผึ้ง!“ท่านหยิบมาได้อย่างไร?” ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นว่านางมีความสุข ฟู่เฉินหวนก็อดมิได้ที่จะยกยิ้มและพูดเบา ๆ "ข้าเพียงหยิบติดมือมาก็เท่านั้น"“ข้ายังหยิบชาดทาปากมาด้วย”“ข้าแค่หยิบมาแบบสุ่ม ๆ หากมิชอบจะทิ้งไปก็ได้”ลั่วชิงยวนเปิดกล่องชาด แตะมันเล็กน้อย ฟู่เฉินหวนอดมิได้ที่จะหันศีรษะไปมองเล็กน้อยลั่วชิงยวนแตะชาดทาปากบนหลังมือของเขาแล้วมองดู จากนั้นยกมุมริมฝีปากขึ้น “สีนี้ก็ใช้ได้”“รับไว้แล้วกัน!”ลั่วชิงยวนเก็บสีผึ้งสองกล่องเข้าไปใต้แขนเสื้อเมื่อเห็นสิ่งนี้ฟู่เฉินหวนก็ผ่อนคลายฝ่ามือที่ประหม่าเล็กน้อย และมุมริมฝีปากของเขาก็มิสามารถหยุดยกขึ้นได้ทั้งสองถูกขังไว้จนถึงกลางคืนเพื่อบรรเทาความหิว ลั่วชิงยวนจึงนอนพิงกำแพง และเมื่อนางหลับไป นางก็พิงไหล่ของฟู่เฉินหวนแต่สุดท้ายก็ทนความหิวกลางดึกมิได้จึงตื่นขึ้นมานางลุกขึ้นนั่งอย่างทรมานฟู่เฉินหวนตื่นขึ้นมาเห็นนางจับท้องด้วยความเจ็บปวด ก็รู้ทันทีว่านางหิวมากฟู่เฉินหวนลุกขึ้นยืนที่ประตูห้องขังแล้วตะโกนทันที “มีใครอยู่หรือไม่!”ไม่นานก็ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 753

    ลั่วชิงยวนสัมผัสท้องที่คำรามของตน ทนต่อกลิ่นมิได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงฉีกเนื้อไก่ออกแล้วกินมันเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากข้างนอก ลั่วชิงยวนก็รีบยัดเนื้อเข้าไปในปากทันใดฟู่เฉินหวนหันหลังให้กับประตูห้องขัง บังสายตาผู้คนภายนอกเอาไว้“ข้าจะบังให้ เจ้ากินช้า ๆ เถอะ”ความรู้สึกหิวหายไปแล้ว และด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้แต่หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นลั่วชิงยวนกินไปครึ่งหนึ่งและเหลืออีกครึ่งให้ฟู่เฉินหวน“ท่านก็ควรเสวยอะไรสักหน่อย เผื่อเซียวชูหาเรามิเจอในเร็ววัน หากพวกเจ้าหน้าที่ชั่วพวกนี้มิให้อะไรเรากินอีก เราคงต้องหิ้วท้องไปอีกหลายวัน”“ข้ามิหิว”ลั่วชิงยวนลากเขาให้ไปนั่งลงตรงกำแพงแล้ว ก่อนยืนขึ้นเพื่อบังเขาเอาไว้ “ถึงมิหิวก็ต้องเสวยสักหน่อย”ฟู่เฉินหวนมองดูนาง ทำอะไรมิถูกเล็กน้อย แต่ก็ยังกินเข้าไปบ้าง......รุ่งสางใต้เท้าเฉามายังห้องขังยืนมองดูพวกเขาทั้งสองคนจากนอกประตู “หัวแข็งเสียจริง ไฉนต้องทำให้มากความด้วย”“หากมิจ่ายเงิน ก็ลงนามในสัญญาขายตัวเสีย เจ้าจะได้ออกไปทันที เจ้ายังสามารถไปที่สมาคมการค้าเฟิงตูเพื่อหางานดี ๆ ทำได้ ต่อจากนี้เจ้าจะมิต้องกังวลอะไรไปตลอดชีวิต!”เมื่อได้ย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 754

    องครักษ์เงาทั้งหมดคุกเข่าลงพร้อมกันใต้เท้าเฉาตกใจมากจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว “พวกเจ้า…”ใต้เท้าเฉาสงสัยว่าพวกเขาจำคนผิดหรือไม่แต่แล้วก็มีเสียงที่เย็นชาและทรงอำนาจดังขึ้นมาข้าง ๆ“ลุกขึ้นเถอะ”ใต้เท้าเฉาหันหน้าไปเห็นฟู่เฉินหวนปัดแขนเสื้อเซียวชูและคนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นยืนใต้เท้าเฉาตกใจมากจนแข้งขาอ่อนแรงและล้มพับลงกับพื้น “ผู้สำเร็จราชการ? อ๋องผู้สำเร็จราชการงั้นหรือ?”เสียงของเขาสั่นเครือใต้เท้าเฉาเงยหน้าขึ้นมองชายที่สวมหน้ากากแต่ยังคงสง่างาม ในใจสั่นสะท้าน เหตุใดเขาถึงเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการไปได้?ทุกคนในคุกพากันคุกเข่าลง ไม่มีใครกล้าเงยหน้า“กระหม่อมมีตาหามีแววไม่ จึงมิรู้ว่าท่านอ๋องเสด็จมาเยือน ทำให้ต้องทรงขุ่นเคือง หวังว่าท่านอ๋องจะทรงยกโทษให้พ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าเฉาคุกเข่าลงทันทีและเอ่ยปากขอโทษ ร่างกายของเขาสั่นด้วยความกลัวลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว “ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วรึ? เมื่อครู่ใครกันที่บอกว่ามิว่าเราจะเป็นใคร เมื่ออยู่ในซีหยางก็ต้องเชื่อฟังเจ้าทั้งนั้น?”“ตัวข้ากับท่านอ๋องจะต้องทรมานอย่างสาหัสมิใช่รึ! รีบพาเราไปที่ห้องทรมานสิ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเซียวชูก็เปลี่ยนไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 755

    เสียงของฉางจิ่นเหวินดังขึ้นนางเดินเข้าไปในห้องขังด้วยท่าทางอวดดี แต่ก็ได้เห็นว่าใต้เท้าเฉากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น“ใต้เท้าเฉา นี่ท่านกำลังทำอะไร?”เมื่อหันไปมองอีก นางจะได้เห็นว่าสองคนในห้องขังกำลังนั่งกินดื่มอยู่บนเก้าอี้“เหตุใดสองคนนี้ถึง...”ฉางจิ่นเหวินรู้สึกมิพอใจในทันทีครู่ต่อมา ใต้เท้าเฉาจึงดึงนางให้คุกเข่าลงกับพื้น “รีบขออภัยต่อท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาเสีย!”อย่าได้ก่อเรื่องอีกเลย เขาจะตายอยู่รอมร่อแล้ว!ฉางจิ่นเหวินถูกใต้เท้าเฉาดึงลงกับพื้น เมื่อนางได้ยินคำพูดของใต้เท้าเฉา ใบหน้าของฉางจิ่นเหวินก็เปลี่ยนสีทันทีนางเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ? พระ… พระชายา?”ฉางจิ่นเหวินรู้สึกตื่นตระหนก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นางหวาดกลัวมิน้อย“เร็วเข้า! รีบขอประทานอภัยท่านอ๋องและพระชายาเสีย! เจ้านี่มันจริง ๆ เลย เหตุใดถึงได้จับคนมิเลือกหน้าเช่นนี้!”น้ำเสียงของใต้เท้าเฉาเต็มไปด้วยการตำหนิ หากฉางจิ่นเหวินมิจับกุมอ๋องผู้สำเร็จราชการ เขาคงมิต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่?ฉางจิ่นเหวินตกใจมาก สองคนนี้กลายเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาไปได้อย่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 756

    เมื่อดูจากปฏิกิริยาของใต้เท้าเฉา ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าเขาต้องรู้อะไรเกี่ยวกับลั่วหลางหลางเป็นแน่เรื่องของตระกูลฟ่านคงเป็นที่รู้กันทั่วในซีหยางส่วนลั่วหลางหลางก็ถูกใส่ร้ายและทำให้เสียชื่อเสียง นางต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใดกัน!ลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกโกรธเมื่อคิดถึงเรื่องนี้นางเอ่ยปากเตือน “แม้ว่ามหาราชครูลั่วจะมิอยู่แล้ว แต่จวนมหาราชครูยังอยู่ และข้าลั่วชิงยวนเองก็ยังอยู่! หากใครกล้าใส่ร้ายลั่วหลางหลางอีกครั้ง ได้ยินเมื่อไหร่ข้าจะลงมือเดี๋ยวนั้น!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใต้เท้าเฉาละล่ำละลักพูดออกมา ”พระชายา หาอย่าได้กังวล!“ฉางจิ่นเหวินก็ก้มหน้าลงและรับปากว่าจะมิใส่ร้ายลั่วหลางหลางอีกฉางจิ่นเหวินแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แปลว่านางมาที่นี่เพื่อลั่วหลางหลาง โชคดีที่อีกฝ่ายมิได้มาที่นี่เพราะสมาคมการค้าเฟิงตูลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนออกจากที่ว่าการ ก่อนออกเดินทางฟู่เฉินหวนบอกใต้เท้าเฉาว่า "ข้ามิต้องการให้ใครล่วงรู้ถึงการมาที่ซีหยางของข้าเท่าไหร่นัก"“จงทำเหมือนมิเคยพบเห็นข้าก็แล้วกัน”ใต้เท้าเฉาพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง โปรดวางพระทัย กระหม่อมเข้าใจความพ่ะย่ะค่ะ!”จากนั้นทั้ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 757

    ......แม้ว่าตระกูลฟ่านจะไม่ใหญ่โต แต่ก็ดูหรูหรา ทิวทัศน์ในบ้านก็งดงามมากเช่นกันลั่วชิงยวนและลั่วหลางหลางเดินไปที่ทะเลสาบ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ลั่วชิงยวนจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “หลางหลาง ข้าไปซื้อสีผึ้งที่ขายในร้านเครื่องประทินโฉมตระกูลฟ่านเมื่อสองวันก่อน"นางหยิบกล่องสีผึ้งออกมาแล้วเปิดให้ลั่วหลางหลางดมลั่วหลางหลางตกใจเล็กน้อยลั่วชิงยวนถามว่า “กลิ่นนี้เหมือนกับถุงหอมที่เจ้าให้ข้ามาก่อนหน้านี้เลย! เจ้าเป็นคนทำสีขี้ผึ้งนี้ใช่หรือไม่?”ใบหน้าของลั่วหลางหลางเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเนางก็ยิ้ม “ใช่แล้ว นี่เป็นฝีมือข้าเอง”“แล้วเหตุใด…”ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะพูดจบ นางก็ถูกลั่วหลางหลางขัดจังหวะ“ในตอนนั้นตระกูลฟ่านเพิ่งย้ายมาที่ซีหยาง แม้ตระกูลเสวี่ยจะเป็นครอบครัวใหญ่อีกทั้งยังมีกิจการที่ดี แต่ก็เป็นเพียงตระกูลของฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้น บุตรหลานรุ่นหลังกับเรานับว่าห่างเหินกันเป็นอย่างมาก พวกเขาจะช่วยเหลือพวกเราอย่างจริงใจได้อย่างไร"“เพราะเขาพูดจาดี ช่วยเราเปิดร้านและทำการค้า และช่วยให้เราเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูได้ก็จริง แต่จริง ๆ แล้ว เขาต้องการทำลายการค้าของเรา เพื่อจะรีดไถเง

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status