แชร์

บทที่ 646

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-25 16:00:00
ลั่วชิงยวนคว้าถ้วยชาแล้วสาดชาใส่ใบหน้าของหลิวไท่เฟยทันที

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “เจ้าทำเช่นนี้ได้หรือ?”

“สถานการณ์ของหลิวไท่เฟยในเวลานี้ไม่จำเป็นต้องไล่ผีหรอกรึ?”

ลั่วชิงยวนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หลิวไท่เฟยติดอยู่ในห้วงฝัน พระนางมิได้ถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงเพคะ”

แม้ว่าห้วงฝันนี้จะทำให้นางรู้สึกแปลกไปก็ตาม

ทว่า หลิวไท่เฟยที่ถูกชาสาดกระเซ็นกลับฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็ยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนก

“พวกเราเองเพคะ หลิวไท่เฟย พวกเราเอง!” ลั่วชิงยวนคว้าแขนหลิวไท่เฟยแล้วพูดอย่างรวดเร็ว

หลิวไท่เฟยหันหน้ามองดูนาง เมื่อนางเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร อารมณ์ของนางก็ค่อย ๆ มั่นคง

“เป็นเจ้านั๋นเอง”

“ขะ… ข้าอาจจะฝันร้ายอยู่ เหตุใดพวกเจ้าจึงมาที่นี่ได้?”

หลิวไท่เฟยจัดอาภรณ์และผมของนางอย่าประหม่า

ทว่า ชั่วครู่ต่อมา นางก็สังเกตเห็นว่าในห้องที่วุ่นวายนี้ ดูไม่เหมือนห้องของนางเลย อีกทั้งยังดูราวกับสนามรบ

นางตกใจมาก “เกิดอะไรขึ้น?”

“ไท่เฟย ท่านจำอะไรมิได้เลยหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามอย่างสงสัย

หลิวไท่เฟยนึกถึงความฝันก่อนหน้านี้ของนางด้วยสีหน้าหวาดกลัว

แต่ไม่นานสีหน้าขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 647

    “หากมิใช่เพราะข้า นางคงไม่ตาย”“นางคงจะโทษข้าและไม่ยอมอโหสิกรรมให้”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนก็ตระหนักได้ทันที แต่นางกลับขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หากเป็นเพียงเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว เป็นไปมิได้ที่เสียนเฟยจะเกลียดท่านถึงเพียงนี้เพคะ”“ผู้อื่นที่มีความแค้นต่อท่านไม่มีอีกแล้วงั้นหรือเพคะ?”หลิวไท่เฟยส่ายหน้า “นอกจากนางแล้วข้าก็นึกมิออก”“บางทีนางอาจจะยังโทษข้าอยู่” หลิวไท่เฟยพูดทั้งน้ำตา ลั่วชิงยวนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกผิดและการตำหนิตนเองในใจของหลิวไท่เฟย บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ นางจึงดูแลองค์ชายเจ็ดเป็นอย่างดี ทว่า นี่เป็นมุมมองความรู้สึกผิดเพียงฝ่ายเดียวของหลิวไท่เฟยเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้ก็เป็นความผิดพลาดโดยมิได้ตั้งใจของนาง เช่นนั้นแล้วจึงมิอาจทำให้เสียนเฟยเกลียดนางถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนมิได้พูดสิ่งใด หลิวไท่เฟยก็เช็ดน้ำตาอีกครั้งก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยแววตาจริงจัง “เจ้ามิเชื่อข้าหรือ?”ลั่วชิงยวนตกตะลึงเล็กน้อยขณะที่กำลังจะพูด หลิวไท่เฟยกล่าวอย่างรวดเร็ว “ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ว่า มีเพียงเสียนเฟยผู้เดียวเท่านั้นที่ข้าต้องขอโทษ”“ต้องเป็นนาง! ต้องเป็นนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 648

    พระตำหนักที่นี่ถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ มีรอยไหม้อยู่ทุกที่ อีกทั้งพระตำหนักก็พังทลายลงหลายแห่ง กลายเป็นซากปรักหักพังทั้งสองเดินเข้าไปข้างในอย่างช้า ๆ เมื่อก้าวเท้าเหยียบเศษซากเหล่านั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นทันทีเข็มทิศในอ้อมแขนของลั่วชิงยวนมีปฏิกิริยาอย่างชัดเจน นางยังคงเดินหน้าเข้าไปต่อ เมื่อเข้าไปในห้องโถงด้านใน ม่านที่ถูกไฟไหม้ก็พลิ้วไหวราวกับผ้าขี้ริ้ว ทันทีที่ลมกระโชกแรงพัดเข้ามาหานาง ร่างสีดำก็พุ่งออกมาข้างหน้าพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันโศกเศร้าที่ดังก้องอยู่ในหูของลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนหลบไปด้านข้าง นางรีบดึงฟู่เฉินหวนออกไปอย่างรวดเร็ว “ระวัง!”ฟู่เฉินหวนเฝ้าดูรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง เขามิอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งใดเลยนอกจากสายลม ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังเฝ้าดูสิ่งที่กำลังหลบหนี นางจึงหยิบเข็มทิศของนางออกมาทันที วงเวทย์สีทองก็ปรากฏขึ้นมาปิดกั้นเส้นทางของสิ่งนั้นทันที ร่างของสตรีที่ลอยอยู่ในอากาศค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในสายตาของลั่วชิงยวนผมสีดำซึ่งยาวมาก ปลายผมไม่สม่ำเสมอ มีร่องรอยจากการถูกไฟเผา และแม้แต่ประกายไฟติดอยู่บางส่วนใบหน้าของสตรีผู้นั้นเต็มไปด้วยรอยแผลที่ถูกไฟเผา ดวงตาของนางก็เต็มไปด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 649

    “หม่อมฉันนำสิ่งนี้มาจากหลิวไท่เฟย ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของที่ระลึกเพียงสิ่งเดียวจากพระมารดาของท่าน”ฟู่จิ่งหลีถือผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นไว้ในมือ สีหน้าของเขาก็ดูหนักอึ้งอยู่พักนึง จากนั้นเขาก็เก็บผ้าเช็ดหน้าออกแล้วยิ้มอีกครั้ง “ขอบคุณเจ้ามาก”ฟู่จิ่งหลีและฟู่เฉินหวนเริ่มพูดคุยกัน ลั่วชิงยวนจึงลุกขึ้นกลับไปยังห้องของนางก่อนนางกำชับแม่นมเติ้งและจือเฉาให้เฝ้าอยู่นอกประตูอย่าให้ใครเข้ามาได้ นางเปิดดวงแก้วออก ร่างของสตรีผู้นั้นก็ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ลั่วชิงยวนกลับไม่ได้ปล่อยนางออกมาอย่างสมบูรณ์ “เจ้าเป็นใคร หลิวไท่เฟยทำสิ่งใดให้เจ้าจงเกลียดจงชังถึงเช่นนี้?”สตรีผู้นั้นพูดอย่างดุร้ายว่า “นางเป็นฆาตกร! ฆาตกร!”“นางฆ่าใคร?”“เสียนเฟย!”เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ลั่วชิงยวนก็ผงะ นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นั่นเป็นเพียงความผิดพลาดอย่างมิได้ตั้งใจของพระนาง”เมื่อได้ยินคำพูดนั้น นางก็เริ่มมีอารมณ์และใบหน้าของนางก็ดุร้ายอีกครั้ง “ไร้สาระ! ผิดพลาดโดยมิได้ตั้งใจรึ?! เป็นนางที่ตั้งใจทำ! นางเป็นคนที่ทำร้ายเสียนเฟย!”“ในคืนที่เกิดเหตุการณ์นั้น นางได้นัดหมายกับเสียนเฟยเพื่อไปงานเลี้ยง แต่นางกลับมิปรากฏ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-27
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 650

    ทันทีที่เขาเห็นภาพนั้น สีหน้าของฟู่จิ่งหลีเปลี่ยนไปอย่างมากเขามองดูนางด้วยความตกใจ “เหตุใดท่านจึงมีภาพเหมือนของนาง?”“ท่านได้ภาพนี้มาได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนรีบถามว่า “เช่นนั้นท่านรู้จักนางหรือไม่?”ฟู่จิ่งหลีขมวดคิ้ว ความคิดของเขาย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว จากนั้นเขาจึงพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เจินหลัน นางเป็นนางรับใช้ข้างกายของท่านแม่ข้า”“ในช่วงที่เกิดกลียุค พระตำหนักของท่านแม่ก็ถูกฟ้าผ่า เป็นนางที่ช่วยข้าไว้จนตัวตาย จากนั้นร่างของนางก็ถูกฝังไปกับทะเลเพลิง”ฟู่จิ่งหลีกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวดแม้ว่าตอนนั้นเขาจะยังเด็กอยู่ แต่ความทรงจำเหล่านี้ยังคงฝังรากลึกอยู่ในใจของเขาอย่างไม่มีวันเลือนหาย ลั่วชิงยวนตกใจมาก ตัวตนของเจินหลันไม่ใช่เรื่องเท็จ! นางเป็นนางรับใช้ข้างกายมารดาขององค์ชายเจ็ดจริง ๆ เช่นนั้นสิ่งที่นางพูดทั้งหมดก็อาจเป็นความจริง เช่นนั้นหลิวไท่เฟย...“ท่านได้ภาพนี้มาได้เช่นไร นางตายไปหลายปีแล้ว เหตุใดภาพของนางจึงมาอยู่ในมือท่าน?”“ไม่สิ หมึกบนภาพวาดนี้ยังไม่แห้งเลย…”ทันใดนั้น ฟู่จิ่งหลีก็ตระหนักได้ถึงประเด็นสำคัญบางอย่างทันที ลั่วชิงยวนกำลังครุ่นคิดว่าจะอธิบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-27
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 651

    “หม่อมฉันรู้สึกว่านางรู้อยู่แล้วว่าหม่อมฉันอยากจะถามอะไร”“หม่อมฉันต้องเข้าไปในพระตำหนักอีกครั้ง”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว “เจ้าจะเข้าไปในพระตำหนักคนเดียวรึ? ไม่ได้เด็ดขาด!”เขาปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด สำหรับลั่วชิงยวนแล้ววังหลวงเป็นดั่งทะเลดาบและเปลวเพลิง เขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้นางเข้าไปในวังเพียงลำพังแน่ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “แต่หากท่านอ๋องไปกับหม่อมฉัน หลิวไท่เฟยจะไม่ยอมปริปาก!”ฟู่เฉินหวนพูดอย่างเย็นชาว่า “นั่นก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน เจ้าจะเข้าไปในวังหลวงโดยลำพังมิได้”ลั่วชิงยวนกำลังจะเอ่ยปากพูดฟู่เฉินหวนมองนางอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “หากสิ่งที่เจินหลันพูดเป็นความจริง เช่นนั้นเจ้าก็ได้ล่วงรู้ความลับของหลิวไท่เฟยแล้ว พระนางจะยังคงปฏิบัติต่อเจ้าเสมือนแขกผู้มีเกียรติอีกหรือไร?”“วันพรุ่ง ข้าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ ส่วนเจ้าก็ไปหาหลิวไท่เฟยเถอะ”เขาและคนของเขาทั้งหมดอยู่ในวังแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะสามารถไปถึงที่นั่นได้รวดเร็วลั่วชิงยวนพยักหน้า “เพคะ”คงจะดีหากทั้งนางและเขาพูดคุยกันได้เช่นนี้ต่อไป แน่นอนว่านางก็หวงแหนชีวิตของนางเช่นกัน และจะเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 652

    ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อนางหันกลับมาก็พบว่าเป็นหลิวไท่เฟยที่กำลังยิ้มอยู่ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อยหลิวไท่เฟยชวนนางไปที่พระตำหนัก “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”ลั่วชิงยวนมองไปที่สวนหลังพระตำหนักอันเงียบสงบ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้า “เพคะ”ขณะที่นางเดินเข้าไปในพระตำหนัก กลิ่นเลือดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นมีรอยเลือดฝังรากลึกอยู่บนพื้นซึ่งเดิมเป็นกองซากปลาที่ถูกผ่าครั้งที่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนนั้นทำความสะอาดเลือดไม่ทั่วถึงหรือไม่ ในขณะที่เดินผ่านไปนางก็ยังคงได้กลิ่นคาวเลือด นางให้ความสนใจกับท่าทางของหลิวไท่เฟยเป็นพิเศษ แต่กลับไม่มีความผิดปกติใด ๆ ขณะที่นางเดินผ่าน นางไม่รู้ว่าถานสี่อธิบายให้อีกฝ่ายฟังเรื่องที่ปลาเหล่านั้นหายไปแล้วเช่นไรเมื่อเข้ามาในห้อง ความมืดทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อมองไปรอบ ๆ นางก็พบว่าหน้าต่างทุกบานถูกปิดไว้ทั้งหมด “หลิวไท่เฟยเพคะ เหตุใดจึงต้องปิดหน้าต่าง?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความสับสนหลิวไท่เฟยยิ้มและพูดว่า “บอกตามตรง ห้องนี้เป็นห้องที่ข้าขังตัวเองไว้ยามที่ข้าเสียสติ”ขณะที่หลิวไท่เฟยพูด นางก็ดึงกล่องออกมาจากใต้เตียงซึ่งม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 653

    ปฏิกิริยาของหลิวไท่เฟยทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกใจ สิ่งที่นางพูดหมายถึงอะไร?คิดว่าด้วยคำพูดเหล่านั้นแล้ว นางจะหันไปช่วยหลิวไท่เฟยจัดการกับฟู่เฉินหวนอย่างนั้นหรือ?“หม่อมฉันเชื่อพระนางเพคะ แต่หม่อมฉันมิอาจตัดสินใจได้ว่าควรช่วยใคร หม่อมฉันเพียงอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับกลียุคในวังเท่านั้นเพคะ”หลิวไท่เฟยขมวดคิ้วพร้อมกับท่าทีร้อนรน นางลังเลที่จะพูดอยู่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุด นางก็พึมพำคำพูดอย่างฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาเท่านั้นดูจากสภาพจิตใจของนางแล้ว นี่นับว่าไม่ปกติเลยจริง ๆ “หลิวไท่เฟยเพคะ?” นางพยายามตะโกนทันใดนั้นหลิวไท่เฟยก็สะดุ้งและมองดูนางด้วยความตกใจ ดวงตาของนางก็เบิกกว้างด้วยความกลัว“เจ้าโกหกข้า! เจ้าไม่เกี่ยวข้องกับกลียุคในวังสักนิด เหตุใดเจ้าจึงอยากรู้ความจริง? นอกจากช่วยฟู่เฉินหวนรวบรวมข้อมูล เจ้าทำสิ่งอื่นใดอีกรึ?”“เจ้าอยากจะบอกเจ้าเจ็ดว่าข้าเป็นผู้ที่ฆ่าแม่ผู้ให้กำเนิดของเขางั้นรึ? เจ้าอยากจะพรากเขาไปจากข้าใช่หรือไม่?”“อ๋องผู้นี้เลวทรามจริง ๆ!”ขณะที่หลิวไท่เฟยพูด ดวงตาของนางก็แดงต่ำ นางเต็มไปด้วยอารมณ์คลุ้มคลั่งจนน้ำตาไหลอาบหน้า ทว่าสายตานางกลับดูดุร้ายผิดปกติ ไม่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 654

    ผมของลั่วชิงยวนตั้งตระหง่านขณะที่นางมองไปที่หลิวไท่เฟยด้วยความตกใจ “ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ?!”“ใช่ ข้าบ้าไปแล้ว” หลิวไท่เฟยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมีดที่เปื้อนเลือด“พวกนางอยู่กับข้ามาหลายปีแล้ว และเป็นคนที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด” นางเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม“แล้วท่านก็ฆ่าพวกนางเช่นนั้นหรือ?”หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “แม้พวกนางจะยังไม่ตายในตอนนี้ แต่สุดท้ายอย่างไรเสียพวกนางก็ต้องตายอยู่ดี หากพวกนางรับใช้ข้า ไม่ช้าก็เร็วพวกนางจะต้องตาย แทนที่จะปล่อยให้พวกนางตายด้วยน้ำมือผู้อื่น ไม่สู้ให้ข้าเป็นผู้ลงมือเองจะดีกว่า ถือเสียว่าส่งพวกนางไปพร้อมเจ้าด้วย”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแน่นหลิวไท่เฟยเดินเข้ามาหานางช้า ๆ พร้อมกับมองนางด้วยสายตาอันเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “หากมิใช่เพราะเจ้า พวกนางคงมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองสามปีหรืออาจจะมากกว่าสิบปี”“เกี่ยวอันใดกับหม่อมฉัน?” ลั่วชิงยวนต้องการถามสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด“เพราะเจ้าทำให้ใครบางคนขุ่นเคือง พวกเขาต้องการฆ่าเจ้า เช่นนั้นพวกเขาจึงนึกถึงมีดเล่มนี้ในมือข้า” หลิวไท่เฟยพูดพร้อมมองมีดในมือของนางแล้วยิ้มเยาะลั่วชิงยวนตกตะลึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-29

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1201

    ในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หลังเพราะถูกกดลงบนกำแพงเท้าของนางลอยขึ้นจากพื้นความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางดิ้นรนสุดกำลัง“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา! ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องของของข้า!”ลั่วชิงยวนพยายามพูด “ฟู่เฉินหวน...”นางหายใจมิออกแล้วนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนฉายแววเย็นชาขณะจับนางเหวี่ยงออกไปร่างลั่วชิงยวนตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นกลิ้งไปหลายตลบแล้วกระอักเลือดออกมาอวัยวะภายในสั่นสะเทือน ปวดร้าวไปทั่วร่าง“ฟู่เฉินหวน ลั่วฉิงกับไทเฮาร่วมมือกัน สิ่งที่ไทเฮาให้ท่านอาจถูกลั่วฉิงปลอมแปลง จดหมายนั้นอาจเป็นของปลอมก็ได้!”ลั่วชิงยวนรีบอธิบายความคิดของตนเองฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาด้วยความโกรธ เขาจับนางขึ้นมาแล้วมองนางด้วยสายตาเหี้ยมโหด “ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาหลอกลวงข้าอีกรึ?”“ลายมือท่านแม่ของข้า ข้าจะจำมิได้เชียวหรือ!”พูดจบ ลั่วชิงยวนก็ถูกเหวี่ยงออกจากห้องร่างกระแทกพื้นหิมะแขนข้างหนึ่งถูกทับจนเกิดเสียงดังกร๊อบแขนหลุดจากข้อต่อแล้ว“โอ๊ย...” ลั่วชิงยวนร้องเสียงหลง หน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มไปหน้านางใช้มือข้างเดียวพยุงตัว พยายามลุกขึ้นอย่างยากล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1200

    ลั่วฉิงใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์มิเป็นด้วยฐานะของนาง เป็นไปมิได้ที่จะใช้มิเป็นลั่วชิงยวนเบิกตากว้างลั่วฉิงมิได้ใช้มิเป็น แต่ใช้มิได้ต่างหาก!นางพกเข็มทิศนี้ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์บอกว่าเป็นของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของนางหลังจากที่นางตายแล้วเกิดใหม่เข็มทิศนี้ก็ยังคงติดตัวนางมา ย่อมมิใช่ของธรรมดาสามัญแน่นอนดังนั้น เข็มทิศนี้อาจจะยอมรับนางเป็นเจ้าของแล้ว คนอื่นจึงใช้มิได้เมื่อคิดได้ดังนั้น ลั่วชิงยวนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างลั่วฉิงได้เข็มทิศไปก็ไร้ประโยชน์ฟู่เฉินหวนถาม “หากไม่มีเข็มทิศนี้ เจ้าก็ทำนายอะไรมิได้เลยหรือ?”ลั่วฉิงยกยิ้ม “แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น”“เช่นนั้นก็มิเห็นเป็นอะไร เจ้าแค่ทำนายสิ่งที่เจ้าทำนายได้ แล้วก็จะค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจเอง”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะกล่าวเสียงเย็น “ข้าทะเลาะกับนางไปแล้ว หากจะหลอกลวงนางอีกก็ต้องแสร้งทำดีด้วย”“ข้ามิอยากทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น”หัวใจของลั่วชิงยวนพลันเจ็บแปลบเขาบอกว่าการทำดีกับนางเป็นเรื่องน่ารังเกียจ...ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวด นางกำเสื้อแน่น มิกล้าส่งเสียงแล้วค่อย ๆ เดินจากไปคำพูดเหล่านั้นดังก้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1194

    ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาด้วยความโกรธครั้นเห็นนางมิยอมอ้าปากแม้สักนิด เฉินชีจึงโน้มกายเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เจ้าอยากให้ข้าทำเกินเลยกว่านี้รึ?”ลั่วชิงยวนขบฟันแน่นก่อนจะยอมอ้าปากรับสิ่งที่เฉินชีป้อนให้เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบด้าน“สวรรค์โปรด! สองคนนี้กำลังทำสิ่งใดกันอยู่”“พระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังลักลอบคบชู้ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้หรือ?”เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างส่งคนไปทูลท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการให้รีบมาโดยพลันเฉินชีนั่งอยู่ในศาลา ยังคงจงใจแสดงท่าทีคลอเคลียกับลั่วชิงยวน แล้วกระซิบเสียงเบา “หลังจากวันนี้ เจ้าคงมิอาจอยู่ในเมืองหลวงได้อีกแล้วกระมัง?”“เหตุใดจึงมิติดตามข้ากลับแคว้นหลีเล่า?”“เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นคนของแคว้นหลี”“ข้าสามารถส่งเจ้ากลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นนักบวชหญิงผู้สูงส่งได้”“หากเจ้าเต็มใจ จงกะพริบตา แล้วข้าจะพาเจ้าไป”ช่างไร้ยางอาย!ลั่วชิงยวนเบิกตากว้างจนดวงตาแดงก่ำ มิยอมกะพริบตาแม้เพียงน้อยในใจนางก่นด่าเฉินชีนับร้อยครั้งครั้นเห็นนางดื้อรั้นเช่นนี้ เฉินชีกลับหัวเราะออกมา“ดูท่าว่าอาเหลายังคงรู้จักข้าดี”ทั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

DMCA.com Protection Status