공유

บทที่ 629

작가: หว่านชิงอิ๋น
“เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันเถอะ”

……

“ล้มเหลวอีกแล้ว ล้มเหลวอีกแล้ว ไยการฆ่าลั่วชิงยวนจึงยากกว่าการฆ่าฟู่เฉินหวนไปเสียได้!” เหยียนผิงเซียวโกรธ เขาวางถ้วยน้ำชาในมือลงอย่างแรง

เสียงอ่อนโยนจากสตรีผู้หนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง “ช่วงนี้ ทุกอย่างล้วนผิดพลาดไปหมด เรื่องดีงูก็ล้มเหลว แม้แต่เรื่องลั่วชิงยวนก็ล้มเหลวเช่นกัน”

“ใช้กำลังคนไปมากมายเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าฟู่เฉินหวนต้องการปกป้องลั่วชิงยวน ไม่ว่าจะส่งนักฆ่า

ไปกี่คนก็ล้วนไร้ประโยชน์”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เหยียนผิงเซียวก็ดูเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ต้องการที่จะประสบความสูญเสียอีกต่อไปแล้ว แต่ไทเฮาหมายหัวลั่วชิงยวนและนางจะต้องถูกสังหาร”

“ข้าไม่มีทางเลือก”

หลังจากพูดจบ เหยียนผิงเซียวก็ลุกขึ้นและเดินไป “ฉิงเอ๋อร์ เจ้ามีวิธีกำจัดลั่วชิงยวนโดยเร็วที่สุดหรือไม่?”

“ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ต้องร่วมมือกับไทเฮาอยู่ดี”

สตรีผู้นั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วิธีน่ะมี แต่ต้องสูญเสียพลังชีวิตไปเล็กน้อย”

“ฉิงเอ๋อร์ โปรดช่วยข้าด้วย เรื่องดีงูข้าจะคิดหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปเอง! ข้าจะเอาสิ่งนี้มาให้เจ้าเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าอย่างแน่นอน!”

เม
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 630

    เกิดเสียงโครมครามดังสนั่น นักฆ่าผู้นั้นกระเด็นออกจากห้องและล้มลงไปกับพื้นอย่างแรงเมื่อลั่วชิงยวนรู้สึกตัว นางก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่เหาะตามเขาไป ดาบยาวของนางแทงทะลุหน้าอกของนักฆ่าอย่างดุเดือดนางฆ่าอีกฝ่ายด้วยดาบเพียงเล่มเดียวลั่วชิงยวนตกตะลึงวรยุทธของเตี่ยฉุยนั้นนับว่าไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงในชาติก่อน เขาคงเป็นนักฆ่าที่อยู่ยงคงกระพันในใต้หล้านี้ นักฆ่าสำนักเทียนอิงเป็นสำนักนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดที่ลั่วชิงยวนเคยเผชิญมาแม้ว่ากจะไม่มีใครเทียบเจ้าแห่งนรกได้ แต่คำว่า ‘นักฆ่าสำนักเทียนอิน’ ยังคงทำให้นางประทับใจมากอย่างน้อยพวกเขาก็มีพลังมากกว่านักฆ่าของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋แต่ตอนนี้เขาถูกเตี่ยฉุยฆ่าตายทันทีแล้ว!สิ่งนี้เหลือเชื่อมาก ไม่เพียงแต่ลั่วชิงยวนเท่านั้น ลั่วอวิ๋นสี่ก็ยังตกใจด้วยเช่นกัน นางถือดาบและมองดูลั่วชิงยวนด้วยความสับสน “ข้าฆ่าเขาได้เช่นไร เจ้าเห็นมันด้วยตาอย่างชัดเจนหรือไม่?”“ข้ามองเห็นไม่ชัด ขอทำอีกครั้งได้หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่ต้องการฝึกฝนทักษะของนางผ่านการต่อสู้อย่างแท้จริง แต่นางตั้งตารอการต่อสู้เช่นนี้มาหลายวันแล้ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ลั่วชิงยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 631

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ข้าจะตามเจ้าเข้าวัง”นางไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพราะนางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยเลยแต่เนื่องจากคนในวังกำลังจะสร้างปัญหาให้กับนาง นางจึงต้องเข้าไปเพื่อเผชิญหน้ายิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มาตามหานางในครั้งนี้ไม่ใช่ไทเฮาทว่า ก่อนออกเดินทางลั่วชิงยวนยังคงฝากข้อความทิ้งไว้ให้จือเฉา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกลับมาเขาก็ได้รู้ข่าวที่นางเข้าไปในวังเพื่อพบกับหลิวไท่เฟยจากนั้นลั่วชิงยวนก็ติดตามป้าถานสี่เข้าไปในพระราชวังที่พำนักของหลิวไท่เฟยค่อนข้างเงียบสงบ ตำหนักเองก็เงียบสงบมากเช่นกัน มีนางกำนัลในตำหนักไม่มากนักและทั้งสวนก็เงียบสงบมาก การแต่งกายก็เรียบง่ายและสง่างามไม่น้อยเมื่อนางเห็นหลิวไท่เฟย อีกฝ่ายแต่งกายเรียบง่าย ถือลูกประคำในมือ กลิ่นไม้จันทน์หอมอบอวลเมื่อนางเห็นซูชิงอู่ นางก็มีทีท่าใจดีและดูเป็นมิตร “พระชายามาถึงแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนโค้งคำนับทำความเคารพ “ถวายพระพรหลิวไท่เฟยเพคะ!”“ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย เชิญเจ้านั่งลงเถิด” หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน โดยไม่มีทีท่าวางอำนาจแต่อย่างใดหลิวไท่เฟยดูอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 632

    หลิวไท่เฟยคุกเข่าลงทันทีลั่วชิงยวนตกใจมากจึงรีบเข้าไปพยุงนางพร้อมกับเอ่ยว่า “หลิวไท่เฟย หม่อมฉันรับไม่ไหวหรอกเพคะ!”“ลุกขึ้นเถิดเพคะ!”ทว่า หลิวไท่เฟยกลับผลักนางออกไปและยืนกรานที่จะไม่ลุกขึ้นพลางวิงวอนว่า “พระชายา ข้าขอร้องเจ้า!”“เจ้าเจ็ดเป็นเช่นนี้ ข้ากังวลมากจริง ๆ! เมื่อเขามั่นคงแล้วเท่านั้น ข้าคงจากไปได้หมดห่วง!”คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนงงงวย นางจึงเอ่ยถามว่า “จากไปหรือเพคะ หลิวไท่เฟยจะไปที่ใดกัน?”หลิวไท่เฟยก้มศีรษะลง รู้สึกเขินอายเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะเป็นไท่เฟย แต่ข้าหาได้มีสถานะใดเลยในวังหลังแห่งนี้ไม่”“แม้ว่าข้าจะเคยเป็นนางสนมคนโปรดของจักรพรรดิ แต่ข้าก็ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวใน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะอยู่รอดในวังหลวงนี้ได้”“ข้าเชื่อในพระโพธิสัตว์ เพราะหลายปีมานี้ข้าตกอยู่ในภวังค์ฝันร้าย มีเพียงการสวดพระสูตรทุกวันเท่านั้นที่ทำให้ข้าสงบจิตสงบใจลงได้”“แต่ช่วงนี้ข้ารู้สึกหมดพลังใจ”“ข้ากลัวว่าสักวันข้าจะไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีก ข้าจะนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจเจ้าเจ็ดได้เช่นไร หากวันหนึ่งเขาต้องตาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 633

    “หลิวไท่เฟย ท่านยังต้องการบูรณะพระพุทธรูปองค์นี้อีกงั้นหรือเพคะ?”หลิวไท่เฟยพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “สิ่งนี้ไม่อาจหายไปจากที่นี่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะตายเร็วขึ้น”ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อย ตายเร็วขึ้นงั้นหรือ?+หากสิ่งนี้ทำให้หลิวไท่เฟยหวาดกลัวถึงเพียงนี้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ให้สิ่งของนี้ย่อมมีสถานะสูงส่งกว่าหลิวไท่เฟยมากแม้ว่าหลิวไท่เฟยจะไม่ได้มีสถานะสูงส่งนัก แต่นางก็เป็นหนึ่งชายาขององค์จักรพรรดิ ในแง่ของสถานะแล้วนั้น นางก็เป็นรองเพียงไทเฮาเท่านั้น!อีกทั้งตุ๊กตาตัวนี้ก็คล้ายกับสิ่งที่นางเคยเจอก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนว่าวิธีการเดียวกันทั้งหมดนี้จะมาจากไทเฮาในขณะนี้ ป้าถ่านสี่ก็มาถึงแล้วพร้อมกับพูดว่า “ไท่เฟย องค์ชายเจ็ดเสด็จมาเพคะ”เมื่อทั้งคู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริงหลิวไท่เฟยรีบเก็บข้าวของของนางพลางพูดกับลั่วชิงยวนว่า “เจ้าอย่าได้บอกเจ้าเจ็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าไม่อยากให้เขากังวล”ลั่วชิงยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “เพคะ”จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมาพบกับองค์ชายเจ็ดซึ่งถือของกำนัลที่นำมาเป็นพิเศษไว้ในมือ“ช่วงนี้ไท่เฟยเป็นเช่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 634

    “พี่สามขอให้ข้ามา เขาบอกว่าไทเฮาต้องการจะฆ่าท่าน หลิวไท่เฟยเรียกท่านเข้าไปในพระราชวัง เขาไม่รู้ว่าจะมีอันตรายใดเกิดขึ้นบ้าง เขาอยากไปหาหลิวไท่เฟย แต่เขาก็กลัวว่าจะทำให้หลิวไท่เฟยกลัวจึงขอให้ข้ามาแทน”ฟู่จิ่งหลีไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อยลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย ปรากฏว่าเป็นเขานั่นเอง“ถึงกระนั้นแล้ว หม่อมฉันก็ไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงหลิวไท่เฟยมาก่อน ท่านมีความสัมพันธ์เช่นไรกับพระนางหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนเปลี่ยนเรื่อง“นางอายุน้อยกว่าแม่ของข้ามาก ว่ากันว่าช่วงที่แม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่นางก็ดูแลแม่ของข้า ทั้งสองคนเป็นเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา”“แม่ของข้าตายลงในช่วงกลียุคในวัง คนส่วนใหญ่ที่ตายมักจะเป็นคู่แม่ลูก แต่แม่ของข้าตายในขณะที่ข้ารอดมาได้ คนในวังมากมายล้วนไม่รู้จักข้า ในวังหลังแห่งนี้ไม่มีนางสนมคนไหนอยากจะเลี้ยงดูข้า"“ไม่มีใครต้องการข้าเลย”น้ำเสียงของฟู่จิ่งหลีผ่อนคลายราวกับว่าเขากำลังเล่าเรื่องของคนอื่น มาพูดมาถึงตรงจุดนี้เขาก็หัวเราะออกมาเบา ๆเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วชิงยวนก็ผงะเล็กน้อยและรีบทำท่าทางห้ามเสียงดัง ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆเพื่อดูว่ามีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูดบ้างหร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 635

    “ข้าก็เลยคิดว่าแม่ของเขาก็ไม่ใช่คนเลวเหมือนกัน”ลั่วชิงยวนปวดศีรษะหนักมากเมื่อนางได้ยินคำพูดอันตรายของฟู่จิ่งหลี “กษัตริย์ผู้ปราดเปรื่องอะไรกันเล่า ท่านกล้าพูดคำพวกนี้ได้เช่นไร?”หากมีใครได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาจะคิดทันทีว่าฟู่เฉินหวนมีใจก่อกบฏ“ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ เขาดีกว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรตอนนี้เสียอีก หากมิใช่เพราะพี่สามเป็นคนสนับสนุนทุกครั้ง เขาคงกลายเป็นหุ่นเชิดในมือของมารดาของเขาไปนานแล้ว”เมื่อพูดถึงไทเฮา ลั่วชิงยวนก็นึกถึงสิ่งที่นางพบในห้องของหลิวไท่เฟยในวันนี้ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดนางก็ตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้กับฟู่จิ่งหลีฟังหลังจากฟังจบแล้ว ใบหน้าของฟู่จิ่งหลีก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จอกสุราที่เขาถืออยู่ในมือไว้นั้นก็หกลงมา“แก้ได้จริงงั้นหรือ?” ฟู่จิ่งหลีถามอย่างร้อนใจลั่วชิงยวนพยักหน้า “ตอนนี้แก้ไขได้แล้ว”ฟู่จิงหลี่โกรธมาก เขากระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะ “คราวนี้คลี่คลายได้ แล้วครั้งต่อไปเล่า?”“หลิวไท่เฟยอาศัยอยู่ตามลำพังในสถานที่เงียบสงบเช่นนี้ นางไม่เคยรบกวนผู้ใด แล้วเหตุใดพวกนั้นถึงอยากฆ่านาง!”หลังจากฟู่จิ่งหลีโกรธจัด เขาก็สงบลงอีกครั้งและพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 636

    ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างประหม่า หัวใจของนางแทบจะกระโดดออกจากอกนางกับฝูเสวี่ยเป็นคนคนเดียวกัน เช่นนั้นจึงมีความคล้ายคลึงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สิ่งเหล่านี้ย่อมสะดุดตาฟู่จิ่งหลี“เหมือนกันอย่างไร?” ลั่วชิงยวนถามทว่า คำตอบต่อมาของฟู่จิ่งหลีก็ทำให้นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที“ชอบสวมหน้ากากเหมือนกัน”ลั่วชิงยวนผงะเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดด้วยเสี่ยงทุ้มต่ำว่า “ข้ามีรอยแผลเป็นบนใบหน้า นั่นคือสาเหตุที่ข้าสวมหน้ากาก”“เข้าใจแล้ว” ฟู่จิงหลี่ดึงนางเข้าไปในหอฝูเสวี่ย ภายใต้การต้อนรับของแม่เล้าเฉิน เขาจึงได้ที่นั่งที่ดีที่สุด “ท่านคงยังไม่รู้ แม่นางฝูเสวี่ยจากหอฝูเสวี่ยผู้นั้นคือพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการจริง ๆ!”“ท่านไม่โชคดีพอที่จะได้ดูนางร่ายรำ พี่สามของข้าปกป้องนางราวกับว่าข้าเป็นหัวขโมยตอนนี้ ท่านเซียนแทบไม่มีโอกาสแล้ว”ฟู่จิ่งหลีพูดพร้อมกับดื่มสุราในจอก ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตอบอะไร ฟู่จิ่งหลีมีเรื่องสำคัญกับนางไม่ใช่หรือ? เหตุใดเขาถึงได้มาเหลวไหลอยู่ที่นี่ได้?“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าฝูเสวี่ยจะกลายเป็นลั่วชิงยวน นางเป็นคนของพี่สามอยู่ก่อนแล้ว เคราะห์ดีที่ตอนนั้นเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 637

    ซ่งเชียนฉู่กำลังไปต้มยา ลั่วชิงยวนจึงตามไปด้วยเช่นกันปล่อยให้สองพี่น้องพูดคุยกันที่ลานลั่วชิงยวนมาที่ห้องครัว แล้วนั่งลงข้างซ่งเชียนฉู่เพื่อช่วยต้มยาพร้อมกับพูดว่า “ข้าคิดว่าอาการบาดเจ็บของเฉินเซี่ยวหานค่อนข้างร้ายแรง”ซ่งเชียนฉู่พูดอย่างเศร้าใจ “มีอาการบาดเจ็บภายนอกสาหัสจนเห็นกระดูกทีเดียว”“หากไม่ใช่เพราะสมุนไพรที่หายากเหล่านี้ของข้า ครั้งนี้ข้าก็คงไม่อาจยื้อชีวิตเขาไว้ได้”เมื่อนึกถึงสถานการณ์ในขณะนั้น คลื่นความกลัวครั้งเก่าก่อนแล่นเข้าสู่หัวใจของซ่งเชียนฉู่อีกครั้งลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ราชันย์อสรพิษปกป้องเจ้า แต่เขาจะไม่ปกป้องเฉินเซี่ยวหาน”“ไม่เช่นนั้นก็ให้เฉินเสี่ยวหานกลับไปเถอะ เขาเป็นถึงรัฐทายาท คนเหล่านั้นจะได้ไม่ไล่ล่าเขา”“เจ้าก็ย้ายมาอยู่ที่ตำหนักอ๋องกับข้า เช่นนั้นเจ้าจะได้ไม่ต้องกลัวราชันย์อสรพิษ”การดำรงอยู่ของเฉินเซี่ยวหาน ตั้งแต่แรกเริ่มเป็นเพราะซ่งเชียนฉู่กลัวราชันย์อสรพิษหากไม่มีเฉินเซี่ยวหาน ราชันย์อสรพิษก็คงไม่อาจควบคุมตัวเองและเข้าใกล้ซ่งเชียนฉู่ได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งนี้จะนำความกลัวอย่างมากสำหรับซ่งเชียนฉู่ทว่า ซ่งเชียนฉู่กลับส่ายหน้าฏิเสธ ก่อนจะยิ้ม

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status