Share

บทที่ 628

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและนิ่งสงบ “มาแล้วรึ?”

“มาแล้ว พวกมันอยู่รอบ ๆ ลานตำหนักนี้!” ลั่วอวิ๋นสี่พูดอย่างประหม่า “เมื่อมาถึงข้าก็รู้สึกได้ มีคนจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่ที่นี่ พวกมันทั้งหมดน่าจะเป็นยอดฝีมือ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น

นางยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่า เจ้าสัมผัสถึงคนเหล่านั้นได้ทั้งหมด?”

“ตอนนี้เขายังอยู่ในร่างของเจ้าหรือ? เจ้าไม่กลัวหรือ?”

ลั่วอวิ๋นสี่ส่ายหน้า “ข้าได้ปรับตัวเข้ากับการมีอยู่ของเขาแล้ว เขาทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ปกติข้าไม่อาจรู้สึกได้”

“อย่างเช่น เมื่อข้ามาที่นี่ ข้ารู้สึกได้ว่ามีคนจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่!”

แม่นมเติ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “อย่ากังวลไปเจ้าค่ะ”

“พวกนั้นไม่ได้มาที่นี่ฆ่าเพื่อพระชายา”

“พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ลับที่ท่านอ๋องส่งมาเพื่อปกป้องพระชายา พวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ลั่วอวิ๋นสี่ก็มองไปยังลั่วชิงยวนด้วยความประหลาดใจ “ปกป้องเจ้ารึ?”

“ดูเหมือนว่าทัศนคติของฟู่เฉินหวนที่มีต่อเจ้าจะเปลี่ยนไปมากแล้วจริง ๆ”

ลั่วชิงยวนพยักหน้าและพูดว่า "แต่ข้ายังไม่ไว้ใจพวกเขา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Endless Love
ทำลงทีล่ะตอนเขียนได้แค่นี้เองเหรอ?
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 629

    “เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันเถอะ”…… “ล้มเหลวอีกแล้ว ล้มเหลวอีกแล้ว ไยการฆ่าลั่วชิงยวนจึงยากกว่าการฆ่าฟู่เฉินหวนไปเสียได้!” เหยียนผิงเซียวโกรธ เขาวางถ้วยน้ำชาในมือลงอย่างแรง เสียงอ่อนโยนจากสตรีผู้หนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง “ช่วงนี้ ทุกอย่างล้วนผิดพลาดไปหมด เรื่องดีงูก็ล้มเหลว แม้แต่เรื่องลั่วชิงยวนก็ล้มเหลวเช่นกัน”“ใช้กำลังคนไปมากมายเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าฟู่เฉินหวนต้องการปกป้องลั่วชิงยวน ไม่ว่าจะส่งนักฆ่าไปกี่คนก็ล้วนไร้ประโยชน์”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เหยียนผิงเซียวก็ดูเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ต้องการที่จะประสบความสูญเสียอีกต่อไปแล้ว แต่ไทเฮาหมายหัวลั่วชิงยวนและนางจะต้องถูกสังหาร”“ข้าไม่มีทางเลือก”หลังจากพูดจบ เหยียนผิงเซียวก็ลุกขึ้นและเดินไป “ฉิงเอ๋อร์ เจ้ามีวิธีกำจัดลั่วชิงยวนโดยเร็วที่สุดหรือไม่?”“ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ต้องร่วมมือกับไทเฮาอยู่ดี”สตรีผู้นั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วิธีน่ะมี แต่ต้องสูญเสียพลังชีวิตไปเล็กน้อย”“ฉิงเอ๋อร์ โปรดช่วยข้าด้วย เรื่องดีงูข้าจะคิดหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปเอง! ข้าจะเอาสิ่งนี้มาให้เจ้าเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าอย่างแน่นอน!”เม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 630

    เกิดเสียงโครมครามดังสนั่น นักฆ่าผู้นั้นกระเด็นออกจากห้องและล้มลงไปกับพื้นอย่างแรงเมื่อลั่วชิงยวนรู้สึกตัว นางก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่เหาะตามเขาไป ดาบยาวของนางแทงทะลุหน้าอกของนักฆ่าอย่างดุเดือดนางฆ่าอีกฝ่ายด้วยดาบเพียงเล่มเดียวลั่วชิงยวนตกตะลึงวรยุทธของเตี่ยฉุยนั้นนับว่าไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงในชาติก่อน เขาคงเป็นนักฆ่าที่อยู่ยงคงกระพันในใต้หล้านี้ นักฆ่าสำนักเทียนอิงเป็นสำนักนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดที่ลั่วชิงยวนเคยเผชิญมาแม้ว่ากจะไม่มีใครเทียบเจ้าแห่งนรกได้ แต่คำว่า ‘นักฆ่าสำนักเทียนอิน’ ยังคงทำให้นางประทับใจมากอย่างน้อยพวกเขาก็มีพลังมากกว่านักฆ่าของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋แต่ตอนนี้เขาถูกเตี่ยฉุยฆ่าตายทันทีแล้ว!สิ่งนี้เหลือเชื่อมาก ไม่เพียงแต่ลั่วชิงยวนเท่านั้น ลั่วอวิ๋นสี่ก็ยังตกใจด้วยเช่นกัน นางถือดาบและมองดูลั่วชิงยวนด้วยความสับสน “ข้าฆ่าเขาได้เช่นไร เจ้าเห็นมันด้วยตาอย่างชัดเจนหรือไม่?”“ข้ามองเห็นไม่ชัด ขอทำอีกครั้งได้หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่ต้องการฝึกฝนทักษะของนางผ่านการต่อสู้อย่างแท้จริง แต่นางตั้งตารอการต่อสู้เช่นนี้มาหลายวันแล้ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ลั่วชิงยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 631

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ข้าจะตามเจ้าเข้าวัง”นางไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพราะนางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยเลยแต่เนื่องจากคนในวังกำลังจะสร้างปัญหาให้กับนาง นางจึงต้องเข้าไปเพื่อเผชิญหน้ายิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มาตามหานางในครั้งนี้ไม่ใช่ไทเฮาทว่า ก่อนออกเดินทางลั่วชิงยวนยังคงฝากข้อความทิ้งไว้ให้จือเฉา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกลับมาเขาก็ได้รู้ข่าวที่นางเข้าไปในวังเพื่อพบกับหลิวไท่เฟยจากนั้นลั่วชิงยวนก็ติดตามป้าถานสี่เข้าไปในพระราชวังที่พำนักของหลิวไท่เฟยค่อนข้างเงียบสงบ ตำหนักเองก็เงียบสงบมากเช่นกัน มีนางกำนัลในตำหนักไม่มากนักและทั้งสวนก็เงียบสงบมาก การแต่งกายก็เรียบง่ายและสง่างามไม่น้อยเมื่อนางเห็นหลิวไท่เฟย อีกฝ่ายแต่งกายเรียบง่าย ถือลูกประคำในมือ กลิ่นไม้จันทน์หอมอบอวลเมื่อนางเห็นซูชิงอู่ นางก็มีทีท่าใจดีและดูเป็นมิตร “พระชายามาถึงแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนโค้งคำนับทำความเคารพ “ถวายพระพรหลิวไท่เฟยเพคะ!”“ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย เชิญเจ้านั่งลงเถิด” หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน โดยไม่มีทีท่าวางอำนาจแต่อย่างใดหลิวไท่เฟยดูอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 632

    หลิวไท่เฟยคุกเข่าลงทันทีลั่วชิงยวนตกใจมากจึงรีบเข้าไปพยุงนางพร้อมกับเอ่ยว่า “หลิวไท่เฟย หม่อมฉันรับไม่ไหวหรอกเพคะ!”“ลุกขึ้นเถิดเพคะ!”ทว่า หลิวไท่เฟยกลับผลักนางออกไปและยืนกรานที่จะไม่ลุกขึ้นพลางวิงวอนว่า “พระชายา ข้าขอร้องเจ้า!”“เจ้าเจ็ดเป็นเช่นนี้ ข้ากังวลมากจริง ๆ! เมื่อเขามั่นคงแล้วเท่านั้น ข้าคงจากไปได้หมดห่วง!”คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนงงงวย นางจึงเอ่ยถามว่า “จากไปหรือเพคะ หลิวไท่เฟยจะไปที่ใดกัน?”หลิวไท่เฟยก้มศีรษะลง รู้สึกเขินอายเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะเป็นไท่เฟย แต่ข้าหาได้มีสถานะใดเลยในวังหลังแห่งนี้ไม่”“แม้ว่าข้าจะเคยเป็นนางสนมคนโปรดของจักรพรรดิ แต่ข้าก็ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวใน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะอยู่รอดในวังหลวงนี้ได้”“ข้าเชื่อในพระโพธิสัตว์ เพราะหลายปีมานี้ข้าตกอยู่ในภวังค์ฝันร้าย มีเพียงการสวดพระสูตรทุกวันเท่านั้นที่ทำให้ข้าสงบจิตสงบใจลงได้”“แต่ช่วงนี้ข้ารู้สึกหมดพลังใจ”“ข้ากลัวว่าสักวันข้าจะไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีก ข้าจะนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจเจ้าเจ็ดได้เช่นไร หากวันหนึ่งเขาต้องตาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 633

    “หลิวไท่เฟย ท่านยังต้องการบูรณะพระพุทธรูปองค์นี้อีกงั้นหรือเพคะ?”หลิวไท่เฟยพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “สิ่งนี้ไม่อาจหายไปจากที่นี่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะตายเร็วขึ้น”ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อย ตายเร็วขึ้นงั้นหรือ?+หากสิ่งนี้ทำให้หลิวไท่เฟยหวาดกลัวถึงเพียงนี้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ให้สิ่งของนี้ย่อมมีสถานะสูงส่งกว่าหลิวไท่เฟยมากแม้ว่าหลิวไท่เฟยจะไม่ได้มีสถานะสูงส่งนัก แต่นางก็เป็นหนึ่งชายาขององค์จักรพรรดิ ในแง่ของสถานะแล้วนั้น นางก็เป็นรองเพียงไทเฮาเท่านั้น!อีกทั้งตุ๊กตาตัวนี้ก็คล้ายกับสิ่งที่นางเคยเจอก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนว่าวิธีการเดียวกันทั้งหมดนี้จะมาจากไทเฮาในขณะนี้ ป้าถ่านสี่ก็มาถึงแล้วพร้อมกับพูดว่า “ไท่เฟย องค์ชายเจ็ดเสด็จมาเพคะ”เมื่อทั้งคู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริงหลิวไท่เฟยรีบเก็บข้าวของของนางพลางพูดกับลั่วชิงยวนว่า “เจ้าอย่าได้บอกเจ้าเจ็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าไม่อยากให้เขากังวล”ลั่วชิงยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “เพคะ”จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมาพบกับองค์ชายเจ็ดซึ่งถือของกำนัลที่นำมาเป็นพิเศษไว้ในมือ“ช่วงนี้ไท่เฟยเป็นเช่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 634

    “พี่สามขอให้ข้ามา เขาบอกว่าไทเฮาต้องการจะฆ่าท่าน หลิวไท่เฟยเรียกท่านเข้าไปในพระราชวัง เขาไม่รู้ว่าจะมีอันตรายใดเกิดขึ้นบ้าง เขาอยากไปหาหลิวไท่เฟย แต่เขาก็กลัวว่าจะทำให้หลิวไท่เฟยกลัวจึงขอให้ข้ามาแทน”ฟู่จิ่งหลีไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อยลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย ปรากฏว่าเป็นเขานั่นเอง“ถึงกระนั้นแล้ว หม่อมฉันก็ไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงหลิวไท่เฟยมาก่อน ท่านมีความสัมพันธ์เช่นไรกับพระนางหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนเปลี่ยนเรื่อง“นางอายุน้อยกว่าแม่ของข้ามาก ว่ากันว่าช่วงที่แม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่นางก็ดูแลแม่ของข้า ทั้งสองคนเป็นเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา”“แม่ของข้าตายลงในช่วงกลียุคในวัง คนส่วนใหญ่ที่ตายมักจะเป็นคู่แม่ลูก แต่แม่ของข้าตายในขณะที่ข้ารอดมาได้ คนในวังมากมายล้วนไม่รู้จักข้า ในวังหลังแห่งนี้ไม่มีนางสนมคนไหนอยากจะเลี้ยงดูข้า"“ไม่มีใครต้องการข้าเลย”น้ำเสียงของฟู่จิ่งหลีผ่อนคลายราวกับว่าเขากำลังเล่าเรื่องของคนอื่น มาพูดมาถึงตรงจุดนี้เขาก็หัวเราะออกมาเบา ๆเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วชิงยวนก็ผงะเล็กน้อยและรีบทำท่าทางห้ามเสียงดัง ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆเพื่อดูว่ามีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูดบ้างหร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 635

    “ข้าก็เลยคิดว่าแม่ของเขาก็ไม่ใช่คนเลวเหมือนกัน”ลั่วชิงยวนปวดศีรษะหนักมากเมื่อนางได้ยินคำพูดอันตรายของฟู่จิ่งหลี “กษัตริย์ผู้ปราดเปรื่องอะไรกันเล่า ท่านกล้าพูดคำพวกนี้ได้เช่นไร?”หากมีใครได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาจะคิดทันทีว่าฟู่เฉินหวนมีใจก่อกบฏ“ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ เขาดีกว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรตอนนี้เสียอีก หากมิใช่เพราะพี่สามเป็นคนสนับสนุนทุกครั้ง เขาคงกลายเป็นหุ่นเชิดในมือของมารดาของเขาไปนานแล้ว”เมื่อพูดถึงไทเฮา ลั่วชิงยวนก็นึกถึงสิ่งที่นางพบในห้องของหลิวไท่เฟยในวันนี้ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดนางก็ตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้กับฟู่จิ่งหลีฟังหลังจากฟังจบแล้ว ใบหน้าของฟู่จิ่งหลีก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จอกสุราที่เขาถืออยู่ในมือไว้นั้นก็หกลงมา“แก้ได้จริงงั้นหรือ?” ฟู่จิ่งหลีถามอย่างร้อนใจลั่วชิงยวนพยักหน้า “ตอนนี้แก้ไขได้แล้ว”ฟู่จิงหลี่โกรธมาก เขากระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะ “คราวนี้คลี่คลายได้ แล้วครั้งต่อไปเล่า?”“หลิวไท่เฟยอาศัยอยู่ตามลำพังในสถานที่เงียบสงบเช่นนี้ นางไม่เคยรบกวนผู้ใด แล้วเหตุใดพวกนั้นถึงอยากฆ่านาง!”หลังจากฟู่จิ่งหลีโกรธจัด เขาก็สงบลงอีกครั้งและพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 636

    ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างประหม่า หัวใจของนางแทบจะกระโดดออกจากอกนางกับฝูเสวี่ยเป็นคนคนเดียวกัน เช่นนั้นจึงมีความคล้ายคลึงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สิ่งเหล่านี้ย่อมสะดุดตาฟู่จิ่งหลี“เหมือนกันอย่างไร?” ลั่วชิงยวนถามทว่า คำตอบต่อมาของฟู่จิ่งหลีก็ทำให้นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที“ชอบสวมหน้ากากเหมือนกัน”ลั่วชิงยวนผงะเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดด้วยเสี่ยงทุ้มต่ำว่า “ข้ามีรอยแผลเป็นบนใบหน้า นั่นคือสาเหตุที่ข้าสวมหน้ากาก”“เข้าใจแล้ว” ฟู่จิงหลี่ดึงนางเข้าไปในหอฝูเสวี่ย ภายใต้การต้อนรับของแม่เล้าเฉิน เขาจึงได้ที่นั่งที่ดีที่สุด “ท่านคงยังไม่รู้ แม่นางฝูเสวี่ยจากหอฝูเสวี่ยผู้นั้นคือพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการจริง ๆ!”“ท่านไม่โชคดีพอที่จะได้ดูนางร่ายรำ พี่สามของข้าปกป้องนางราวกับว่าข้าเป็นหัวขโมยตอนนี้ ท่านเซียนแทบไม่มีโอกาสแล้ว”ฟู่จิ่งหลีพูดพร้อมกับดื่มสุราในจอก ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตอบอะไร ฟู่จิ่งหลีมีเรื่องสำคัญกับนางไม่ใช่หรือ? เหตุใดเขาถึงได้มาเหลวไหลอยู่ที่นี่ได้?“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าฝูเสวี่ยจะกลายเป็นลั่วชิงยวน นางเป็นคนของพี่สามอยู่ก่อนแล้ว เคราะห์ดีที่ตอนนั้นเป

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1304

    ลั่วชิงยวนมิแปลกใจ นี่คือวิถีของเฉินชีต่อให้เวินซินถงมิให้นางไป เฉินชีก็จะบังคับพานางไปให้ได้ในเมื่อประสบปัญหาที่ต้องเชิญนักบวชระดับสูงมาแก้ไข หากทำเรื่องนี้สำเร็จก็จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ลั่วชิงยวน ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการทวงคืนตำแหน่งนักบวชระดับสูงในภายภาคหน้านี่เป็นสิ่งที่เฉินชีกำลังคิดอยู่......เช้าวันรุ่งขึ้นเวินซินถงมาถึงหน้าเรือนของลั่วชิงยวนนางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตามข้าไปตระกูลมู่”“นำสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ไปด้วย”กล่าวจบ เวินซินถงก็หันหลังเดินจากไปลั่วชิงยวนยังมิทันได้ถามว่านางควรนำสิ่งใดไป?เพราะสถานการณ์ของตระกูลมู่เป็นเช่นไรนางก็ยังมิรู้อีกทั้งเมื่อก่อนตอนที่นางเป็นนักบวชระดับสูงก็ไม่มีธรรมเนียมเช่นนี้ด้วย จึงมิรู้ว่าควรนำสิ่งใดไปเซี่ยหลิงที่ติดตามอยู่ข้าง ๆ เตือนลั่วชิงยวน “เจ้ามิเคยออกไปกับนักบวชระดับสูง ต้องเตรียมสิ่งใดก็ไปถามจั๋วฉ่างตงเถิด”ลั่วชิงยวนตกตะลึงไปครู่หนึ่งนางหรี่ตาลง นี่จงใจให้นางไปหาจั๋วฉ่างตงให้จั๋วฉ่างตงกลั่นแกล้งนางเพื่อระบายความแค้นให้จั๋วฉ่างตงหรือำร?ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วก็ไปหาจั๋วฉ่างตงที่เรือนเมื่อไปถึง จั๋ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1303

    ฝ่ามือที่ตบลงบนใบหน้าทำให้หลานจีล้มลงกับพื้น โลหิตไหลออกจากมุมปาก“ท่านแม่ทัพ!” หลานจีเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจมิรู้เลยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เฉินชีจิกผมของนางอย่างรุนแรง กระชากนางให้ลุกขึ้นจากพื้น แล้วบีบใบหน้าของนางด้วยพละกำลังมหาศาลพลางเค้นถามด้วยเสียงดุดัน “เจ้าทำกระไรลงไป?!”“ผู้ใดใช้ให้เจ้าให้ยาแก่นางแล้วปล่อยนางไป?!”หลานจีสับสน หยาดน้ำตาไหลรินด้วยความรู้สึกเสียใจมาก “ท่านแม่ทัพ ข้ามิรู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องใด”“มิใช่ข้าจงใจปล่อยนางไป นางไปเองต่างหากเจ้าค่ะ”“ข้ามิได้ทำอะไรเลย”เฉินชียังคงเต็มไปด้วยโทสะ “เจ้าคิดว่าข้ามิรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้ารึ!”“ข้าขอเตือนเจ้า หากเจ้ากล้าทำอะไรลับหลังอีกก็ไสหัวไป!”กล่าวจบ เฉินชีก็ปล่อยนางเขาไว้ชีวิตนางอีกครั้งเดิมทีเขาตั้งใจจะมาสังหารหลานจี แต่เมื่อเห็นน้ำตาของนางแล้วกลับรู้สึกราวกับได้เห็นลั่วเหลา จึงยอมไว้ชีวิตนางหลานจีทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง มองแผ่นหลังของเฉินชีที่จากไปด้วยความโกรธพลางร่ำไห้สะอึกสะอื้นนางมิรู้ว่าตนทำสิ่งใดผิดและมิรู้ว่าเหตุใดท่านแม่ทัพจึงมีท่าทีต่อนางเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ทั้งท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1302

    เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปในทันที“กระหม่อมเป็นองครักษ์ข้างกายองค์ชายใหญ่ โปรดอภัยให้กระหม่อมที่มิสามารถทำตามพระบัญชาได้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงผู้นี้ชอบเฉินชี หากเขาติดตามองค์หญิงไปก็คงจะได้พบกับเฉินชีเป็นแน่ มิหนำซ้ำ เกาเหมียวเหมี่ยวก็ช่วยเขาฆ่าเฉินชีมิได้เมื่อถูกเขาปฏิเสธอีกครั้ง สีหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวจึงดูมิดีนักฉินอี้จึงต้องก้าวออกมา “เหมียวเหมี่ยว คนที่คอยคุ้มครองเจ้ายังมิพออีกหรือ?”“ข้างกายพี่ใหญ่มีองครักษ์คนนี้อยู่เพียงคนเดียว เจ้าอย่าแย่งเขาไปเลย”สีหน้าของฉินอี้ดูเหมือนคนจนใจน้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสารเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวก็มิกล้าที่จะบังคับอีก นางตอบอย่างมิพอใจว่า “ก็ได้”“รอจนกว่าท่านจะมิต้องการเขาแล้ว ค่อยให้หม่อมฉันก็แล้วกัน”“หม่อมฉันค่อนข้างชอบเขา”เกาเหมียวเหมี่ยวพูดพลางมองฟู่เฉินหวน บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้มยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคล้ายกับเฉินชีมิใช่หน้าตาที่เหมือน แต่เป็นอารมณ์เย็นชาหยิ่งผยองและความกล้าหาญที่จะปฏิเสธนางโดยมิแม้แต่จะเสียงสั่นในเมื่อยังมิสามารถทำให้เฉินชีสยบต่อนางได้ในเร็ววัน การ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1301

    “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไปทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดีฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”“เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกายน้ำแกงโสมมังกรหรือ?เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สองแต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวนฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1300

    ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างใจเย็น “องค์ชายใหญ่ใส่ใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วมุ่น มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “แน่นอน! แท้จริงแล้วเจ้ารู้อะไรกันแน่!”วันนั้นในคุกใต้ดิน เกือบจะได้ฟังคำพูดต่อจากนั้นของลั่วชิงยวนแล้วแต่กลับถูกเฉินชีขัดจังหวะเสียก่อนหลังจากกลับไป เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาอาจมิใส่ใจเรื่องราวในอดีตได้ แต่นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา! เขาจะมิใส่ใจคงมิได้!ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้ม “องค์ชายใหญ่เชื่อจริงจังเลยหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการเอาชีวิตรอด จึงพูดจาเหลวไหลไปเท่านั้น”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฉินอี้ก็ตกตะลึงไปทั้งร่างมองนางด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้าว่ากระไรนะ?!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมฉันมิอยากพูดซ้ำสอง”ฉินอี้โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ก็อดกลั้นไว้ เขาไม่มีทางต่อกรกับลั่วชิงยวนได้สุดท้ายก็ได้แต่จากไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นฉินอี้จากไป เงาร่างที่แอบฟังอยู่ก็รีบจากไปเช่นกันอาการของฉินอี้นั้นมีสาเหตุจริง แต่เรื่องนี้ยังมิอาจบอกให้ฉินอี้รู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่หากพูดออกไป ปัญหาที่นางจะต้องเผชิญจะมิใช่เพียงเรื่องรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1299

    อวี๋โหรวพยักหน้า รีบเช็ดน้ำตา “ขอบคุณ”ลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบโยนเมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสถามอวี๋โหรว “อันที่จริงข้าสงสัยเรื่องนักบวชระดับสูงคนก่อน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่านางตายอย่างไร?”อวี๋โหรวตกใจเล็กน้อยคาดเดาในใจว่าลั่วชิงยวนคงสอบถามเรื่องนี้เพราะเฉินชีเพราะว่าเฉินชีก็มีใจให้ลั่วเหลาเช่นเดียวกันนางอธิบาย “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางตายอย่างไร”“วันนั้นนางบำเพ็ญเพียรอยู่ที่หอเทียนฉี วันรุ่งขึ้นเมื่อมีคนมาพบก็เหลือเพียงโลหิตกองเต็มพื้น”“บนพื้นยังมีร่องรอยการลากศพด้วย”“แต่ส่งคนออกไปตามหาศพตั้งมากมายก็หามิพบ”“เฉินชีแทบจะพลิกทั่วทั้งวัง แทบจะคลุ้มคลั่งสังหารคนในสำนักนักบวชไปเสียสิ้น”“ยังดีที่จักรพรรดิทรงนำราชองครักษ์เกราะเหล็กมาด้วยพระองค์เอง จึงสามารถควบคุมตัวเฉินชีไว้ได้”“เรื่องการตายของนักบวชระดับสูงนั้นมีการสืบสวนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเบาะแสใด ๆ เบาะแสทั้งหมดหยุดอยู่ที่หอเทียนฉี”“นอกหอเทียนฉีไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ”“นานวันเข้า เรื่องนี้ก็เงียบหายไป”ตามคำบอกเล่าของอวี๋โหรว ลั่วชิงยวนก็หวนนึกถึงคืนนั้นหอเทียนฉีเป็นสถานที่ที่นักบวชระดับสูงจะท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status