แชร์

บทที่ 627

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-16 16:00:00
ในที่สุดเวลาก็ผ่านมาเจ็ดวันแล้ว

พระตำหนักโช่วสี่

หน้ากระจกทองเหลือง ไทเฮากำลังลูบผมและถามว่า “นี่กี่วันแล้ว?”

จิ่นชูซึ่งอยู่ด้านข้างก็ตอบขึ้นว่า "วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้วเพคะ"

ไทเฮาเลิกคิ้วเล็กน้อย “แปลกจริง ๆ ที่เขาไม่ได้อุ้มศพมาเอ่ยถามเรื่องราวกับข้าหรือแม้แต่จะจัดพิธีไว้ทุกข์”

จิ่นชูยิ้มและกล่าวว่า “ท่านอ๋องประสบความสำเร็จอย่างมากในยามนี้ รวมทั้งชื่อเสียงของเขาก็ได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง หากเขานำศพมายังพระตำหนักโช่วสี่ เขาจะถูกกล่าวหาว่าไม่กตัญญูและไม่เคารพได้เพคะ”

“นอกจากนี้ เขาชอบลั่วเยวี่ยอิง เขาปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนเพียงผิวเผินเท่านั้น เขากลัวว่าจะชื่อเสียงของเขาจะด่างพร้อยด้วยการเนรคุณ เช่นนั้นแล้วเขาจะต่อต้านไทเฮาเพื่อเปิดเผยการตายของลั่วชิงยวนได้เช่นไรเพคะ?”

ไทเฮายิ้มจาง ๆ แล้วพูดถามว่า “หมอหลวงได้เตรียมการไว้แล้วหรือไม่?”

“จัดการเรียบร้อยแล้วเพคะ ทว่า ไม่กี่วันก่อนลั่วเยวี่ยอิงได้ไปก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่ตำหนักอ๋อง หากลั่วชิงยวนเสียชีวิต ทุกคนคงคิดแต่เพียงว่าลั่วเยวี่ยอิง​ฆ่านาง และจะไม่มีใครตั้งคำถามกับไทเฮาได้เพคะ”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ไทเฮาก็ประหลาดใจเล็ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 628

    ลั่วชิงยวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและนิ่งสงบ “มาแล้วรึ?”“มาแล้ว พวกมันอยู่รอบ ๆ ลานตำหนักนี้!” ลั่วอวิ๋นสี่พูดอย่างประหม่า “เมื่อมาถึงข้าก็รู้สึกได้ มีคนจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่ที่นี่ พวกมันทั้งหมดน่าจะเป็นยอดฝีมือ!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นนางยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่า เจ้าสัมผัสถึงคนเหล่านั้นได้ทั้งหมด?”“ตอนนี้เขายังอยู่ในร่างของเจ้าหรือ? เจ้าไม่กลัวหรือ?”ลั่วอวิ๋นสี่ส่ายหน้า “ข้าได้ปรับตัวเข้ากับการมีอยู่ของเขาแล้ว เขาทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ปกติข้าไม่อาจรู้สึกได้”“อย่างเช่น เมื่อข้ามาที่นี่ ข้ารู้สึกได้ว่ามีคนจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่!”แม่นมเติ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “อย่ากังวลไปเจ้าค่ะ”“พวกนั้นไม่ได้มาที่นี่ฆ่าเพื่อพระชายา”“พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ลับที่ท่านอ๋องส่งมาเพื่อปกป้องพระชายา พวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ลั่วอวิ๋นสี่ก็มองไปยังลั่วชิงยวนด้วยความประหลาดใจ “ปกป้องเจ้ารึ?”“ดูเหมือนว่าทัศนคติของฟู่เฉินหวนที่มีต่อเจ้าจะเปลี่ยนไปมากแล้วจริง ๆ”ลั่วชิงยวนพยักหน้าและพูดว่า "แต่ข้ายังไม่ไว้ใจพวกเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-16
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 629

    “เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันเถอะ”…… “ล้มเหลวอีกแล้ว ล้มเหลวอีกแล้ว ไยการฆ่าลั่วชิงยวนจึงยากกว่าการฆ่าฟู่เฉินหวนไปเสียได้!” เหยียนผิงเซียวโกรธ เขาวางถ้วยน้ำชาในมือลงอย่างแรง เสียงอ่อนโยนจากสตรีผู้หนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง “ช่วงนี้ ทุกอย่างล้วนผิดพลาดไปหมด เรื่องดีงูก็ล้มเหลว แม้แต่เรื่องลั่วชิงยวนก็ล้มเหลวเช่นกัน”“ใช้กำลังคนไปมากมายเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าฟู่เฉินหวนต้องการปกป้องลั่วชิงยวน ไม่ว่าจะส่งนักฆ่าไปกี่คนก็ล้วนไร้ประโยชน์”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เหยียนผิงเซียวก็ดูเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ต้องการที่จะประสบความสูญเสียอีกต่อไปแล้ว แต่ไทเฮาหมายหัวลั่วชิงยวนและนางจะต้องถูกสังหาร”“ข้าไม่มีทางเลือก”หลังจากพูดจบ เหยียนผิงเซียวก็ลุกขึ้นและเดินไป “ฉิงเอ๋อร์ เจ้ามีวิธีกำจัดลั่วชิงยวนโดยเร็วที่สุดหรือไม่?”“ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ต้องร่วมมือกับไทเฮาอยู่ดี”สตรีผู้นั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วิธีน่ะมี แต่ต้องสูญเสียพลังชีวิตไปเล็กน้อย”“ฉิงเอ๋อร์ โปรดช่วยข้าด้วย เรื่องดีงูข้าจะคิดหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปเอง! ข้าจะเอาสิ่งนี้มาให้เจ้าเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าอย่างแน่นอน!”เม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-17
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 630

    เกิดเสียงโครมครามดังสนั่น นักฆ่าผู้นั้นกระเด็นออกจากห้องและล้มลงไปกับพื้นอย่างแรงเมื่อลั่วชิงยวนรู้สึกตัว นางก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่เหาะตามเขาไป ดาบยาวของนางแทงทะลุหน้าอกของนักฆ่าอย่างดุเดือดนางฆ่าอีกฝ่ายด้วยดาบเพียงเล่มเดียวลั่วชิงยวนตกตะลึงวรยุทธของเตี่ยฉุยนั้นนับว่าไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงในชาติก่อน เขาคงเป็นนักฆ่าที่อยู่ยงคงกระพันในใต้หล้านี้ นักฆ่าสำนักเทียนอิงเป็นสำนักนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดที่ลั่วชิงยวนเคยเผชิญมาแม้ว่ากจะไม่มีใครเทียบเจ้าแห่งนรกได้ แต่คำว่า ‘นักฆ่าสำนักเทียนอิน’ ยังคงทำให้นางประทับใจมากอย่างน้อยพวกเขาก็มีพลังมากกว่านักฆ่าของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋แต่ตอนนี้เขาถูกเตี่ยฉุยฆ่าตายทันทีแล้ว!สิ่งนี้เหลือเชื่อมาก ไม่เพียงแต่ลั่วชิงยวนเท่านั้น ลั่วอวิ๋นสี่ก็ยังตกใจด้วยเช่นกัน นางถือดาบและมองดูลั่วชิงยวนด้วยความสับสน “ข้าฆ่าเขาได้เช่นไร เจ้าเห็นมันด้วยตาอย่างชัดเจนหรือไม่?”“ข้ามองเห็นไม่ชัด ขอทำอีกครั้งได้หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่ต้องการฝึกฝนทักษะของนางผ่านการต่อสู้อย่างแท้จริง แต่นางตั้งตารอการต่อสู้เช่นนี้มาหลายวันแล้ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ลั่วชิงยว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-17
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 631

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ข้าจะตามเจ้าเข้าวัง”นางไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพราะนางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยเลยแต่เนื่องจากคนในวังกำลังจะสร้างปัญหาให้กับนาง นางจึงต้องเข้าไปเพื่อเผชิญหน้ายิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มาตามหานางในครั้งนี้ไม่ใช่ไทเฮาทว่า ก่อนออกเดินทางลั่วชิงยวนยังคงฝากข้อความทิ้งไว้ให้จือเฉา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกลับมาเขาก็ได้รู้ข่าวที่นางเข้าไปในวังเพื่อพบกับหลิวไท่เฟยจากนั้นลั่วชิงยวนก็ติดตามป้าถานสี่เข้าไปในพระราชวังที่พำนักของหลิวไท่เฟยค่อนข้างเงียบสงบ ตำหนักเองก็เงียบสงบมากเช่นกัน มีนางกำนัลในตำหนักไม่มากนักและทั้งสวนก็เงียบสงบมาก การแต่งกายก็เรียบง่ายและสง่างามไม่น้อยเมื่อนางเห็นหลิวไท่เฟย อีกฝ่ายแต่งกายเรียบง่าย ถือลูกประคำในมือ กลิ่นไม้จันทน์หอมอบอวลเมื่อนางเห็นซูชิงอู่ นางก็มีทีท่าใจดีและดูเป็นมิตร “พระชายามาถึงแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนโค้งคำนับทำความเคารพ “ถวายพระพรหลิวไท่เฟยเพคะ!”“ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย เชิญเจ้านั่งลงเถิด” หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน โดยไม่มีทีท่าวางอำนาจแต่อย่างใดหลิวไท่เฟยดูอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-18
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 632

    หลิวไท่เฟยคุกเข่าลงทันทีลั่วชิงยวนตกใจมากจึงรีบเข้าไปพยุงนางพร้อมกับเอ่ยว่า “หลิวไท่เฟย หม่อมฉันรับไม่ไหวหรอกเพคะ!”“ลุกขึ้นเถิดเพคะ!”ทว่า หลิวไท่เฟยกลับผลักนางออกไปและยืนกรานที่จะไม่ลุกขึ้นพลางวิงวอนว่า “พระชายา ข้าขอร้องเจ้า!”“เจ้าเจ็ดเป็นเช่นนี้ ข้ากังวลมากจริง ๆ! เมื่อเขามั่นคงแล้วเท่านั้น ข้าคงจากไปได้หมดห่วง!”คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนงงงวย นางจึงเอ่ยถามว่า “จากไปหรือเพคะ หลิวไท่เฟยจะไปที่ใดกัน?”หลิวไท่เฟยก้มศีรษะลง รู้สึกเขินอายเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะเป็นไท่เฟย แต่ข้าหาได้มีสถานะใดเลยในวังหลังแห่งนี้ไม่”“แม้ว่าข้าจะเคยเป็นนางสนมคนโปรดของจักรพรรดิ แต่ข้าก็ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวใน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะอยู่รอดในวังหลวงนี้ได้”“ข้าเชื่อในพระโพธิสัตว์ เพราะหลายปีมานี้ข้าตกอยู่ในภวังค์ฝันร้าย มีเพียงการสวดพระสูตรทุกวันเท่านั้นที่ทำให้ข้าสงบจิตสงบใจลงได้”“แต่ช่วงนี้ข้ารู้สึกหมดพลังใจ”“ข้ากลัวว่าสักวันข้าจะไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีก ข้าจะนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจเจ้าเจ็ดได้เช่นไร หากวันหนึ่งเขาต้องตาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-18
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 633

    “หลิวไท่เฟย ท่านยังต้องการบูรณะพระพุทธรูปองค์นี้อีกงั้นหรือเพคะ?”หลิวไท่เฟยพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “สิ่งนี้ไม่อาจหายไปจากที่นี่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะตายเร็วขึ้น”ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อย ตายเร็วขึ้นงั้นหรือ?+หากสิ่งนี้ทำให้หลิวไท่เฟยหวาดกลัวถึงเพียงนี้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ให้สิ่งของนี้ย่อมมีสถานะสูงส่งกว่าหลิวไท่เฟยมากแม้ว่าหลิวไท่เฟยจะไม่ได้มีสถานะสูงส่งนัก แต่นางก็เป็นหนึ่งชายาขององค์จักรพรรดิ ในแง่ของสถานะแล้วนั้น นางก็เป็นรองเพียงไทเฮาเท่านั้น!อีกทั้งตุ๊กตาตัวนี้ก็คล้ายกับสิ่งที่นางเคยเจอก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนว่าวิธีการเดียวกันทั้งหมดนี้จะมาจากไทเฮาในขณะนี้ ป้าถ่านสี่ก็มาถึงแล้วพร้อมกับพูดว่า “ไท่เฟย องค์ชายเจ็ดเสด็จมาเพคะ”เมื่อทั้งคู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริงหลิวไท่เฟยรีบเก็บข้าวของของนางพลางพูดกับลั่วชิงยวนว่า “เจ้าอย่าได้บอกเจ้าเจ็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าไม่อยากให้เขากังวล”ลั่วชิงยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “เพคะ”จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมาพบกับองค์ชายเจ็ดซึ่งถือของกำนัลที่นำมาเป็นพิเศษไว้ในมือ“ช่วงนี้ไท่เฟยเป็นเช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-19
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 634

    “พี่สามขอให้ข้ามา เขาบอกว่าไทเฮาต้องการจะฆ่าท่าน หลิวไท่เฟยเรียกท่านเข้าไปในพระราชวัง เขาไม่รู้ว่าจะมีอันตรายใดเกิดขึ้นบ้าง เขาอยากไปหาหลิวไท่เฟย แต่เขาก็กลัวว่าจะทำให้หลิวไท่เฟยกลัวจึงขอให้ข้ามาแทน”ฟู่จิ่งหลีไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อยลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย ปรากฏว่าเป็นเขานั่นเอง“ถึงกระนั้นแล้ว หม่อมฉันก็ไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงหลิวไท่เฟยมาก่อน ท่านมีความสัมพันธ์เช่นไรกับพระนางหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนเปลี่ยนเรื่อง“นางอายุน้อยกว่าแม่ของข้ามาก ว่ากันว่าช่วงที่แม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่นางก็ดูแลแม่ของข้า ทั้งสองคนเป็นเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา”“แม่ของข้าตายลงในช่วงกลียุคในวัง คนส่วนใหญ่ที่ตายมักจะเป็นคู่แม่ลูก แต่แม่ของข้าตายในขณะที่ข้ารอดมาได้ คนในวังมากมายล้วนไม่รู้จักข้า ในวังหลังแห่งนี้ไม่มีนางสนมคนไหนอยากจะเลี้ยงดูข้า"“ไม่มีใครต้องการข้าเลย”น้ำเสียงของฟู่จิ่งหลีผ่อนคลายราวกับว่าเขากำลังเล่าเรื่องของคนอื่น มาพูดมาถึงตรงจุดนี้เขาก็หัวเราะออกมาเบา ๆเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วชิงยวนก็ผงะเล็กน้อยและรีบทำท่าทางห้ามเสียงดัง ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆเพื่อดูว่ามีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูดบ้างหร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-19
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 635

    “ข้าก็เลยคิดว่าแม่ของเขาก็ไม่ใช่คนเลวเหมือนกัน”ลั่วชิงยวนปวดศีรษะหนักมากเมื่อนางได้ยินคำพูดอันตรายของฟู่จิ่งหลี “กษัตริย์ผู้ปราดเปรื่องอะไรกันเล่า ท่านกล้าพูดคำพวกนี้ได้เช่นไร?”หากมีใครได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาจะคิดทันทีว่าฟู่เฉินหวนมีใจก่อกบฏ“ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ เขาดีกว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรตอนนี้เสียอีก หากมิใช่เพราะพี่สามเป็นคนสนับสนุนทุกครั้ง เขาคงกลายเป็นหุ่นเชิดในมือของมารดาของเขาไปนานแล้ว”เมื่อพูดถึงไทเฮา ลั่วชิงยวนก็นึกถึงสิ่งที่นางพบในห้องของหลิวไท่เฟยในวันนี้ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดนางก็ตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้กับฟู่จิ่งหลีฟังหลังจากฟังจบแล้ว ใบหน้าของฟู่จิ่งหลีก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จอกสุราที่เขาถืออยู่ในมือไว้นั้นก็หกลงมา“แก้ได้จริงงั้นหรือ?” ฟู่จิ่งหลีถามอย่างร้อนใจลั่วชิงยวนพยักหน้า “ตอนนี้แก้ไขได้แล้ว”ฟู่จิงหลี่โกรธมาก เขากระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะ “คราวนี้คลี่คลายได้ แล้วครั้งต่อไปเล่า?”“หลิวไท่เฟยอาศัยอยู่ตามลำพังในสถานที่เงียบสงบเช่นนี้ นางไม่เคยรบกวนผู้ใด แล้วเหตุใดพวกนั้นถึงอยากฆ่านาง!”หลังจากฟู่จิ่งหลีโกรธจัด เขาก็สงบลงอีกครั้งและพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-20

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1194

    ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาด้วยความโกรธครั้นเห็นนางมิยอมอ้าปากแม้สักนิด เฉินชีจึงโน้มกายเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เจ้าอยากให้ข้าทำเกินเลยกว่านี้รึ?”ลั่วชิงยวนขบฟันแน่นก่อนจะยอมอ้าปากรับสิ่งที่เฉินชีป้อนให้เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบด้าน“สวรรค์โปรด! สองคนนี้กำลังทำสิ่งใดกันอยู่”“พระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังลักลอบคบชู้ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้หรือ?”เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างส่งคนไปทูลท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการให้รีบมาโดยพลันเฉินชีนั่งอยู่ในศาลา ยังคงจงใจแสดงท่าทีคลอเคลียกับลั่วชิงยวน แล้วกระซิบเสียงเบา “หลังจากวันนี้ เจ้าคงมิอาจอยู่ในเมืองหลวงได้อีกแล้วกระมัง?”“เหตุใดจึงมิติดตามข้ากลับแคว้นหลีเล่า?”“เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นคนของแคว้นหลี”“ข้าสามารถส่งเจ้ากลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นนักบวชหญิงผู้สูงส่งได้”“หากเจ้าเต็มใจ จงกะพริบตา แล้วข้าจะพาเจ้าไป”ช่างไร้ยางอาย!ลั่วชิงยวนเบิกตากว้างจนดวงตาแดงก่ำ มิยอมกะพริบตาแม้เพียงน้อยในใจนางก่นด่าเฉินชีนับร้อยครั้งครั้นเห็นนางดื้อรั้นเช่นนี้ เฉินชีกลับหัวเราะออกมา“ดูท่าว่าอาเหลายังคงรู้จักข้าดี”ทั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1192

    สติเลือนรางลงทุกขณะ ในที่สุดก็ต้านฤทธิ์ยามิไหวจึงสลบไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกได้ถึงการเข้ามาใกล้ของใครบางคนพยายามลืมตาขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแรงจนขยับร่างกายมิได้มีเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงตรงหน้าในวินาทีต่อมา มือเย็นเฉียบก็คว้าปลายคางของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นลั่วชิงยวนจึงเห็นใบหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโดยมิรู้ตัวเฉินชี!“เหตุใดจึงเป็นเจ้าอีก! เจ้ากล้ามาที่เมืองหลวงเลยหรือ!” ลั่วชิงยวนพูดอย่างอ่อนแรงเฉินชีดึงนางขึ้นจากพื้น แล้วบีบปลายคางของนาง “ฟู่เฉินหวนมิต้องการเจ้าแล้ว”“ไปกับข้าเถอะ”ลั่วชิงยวนสะบัดมือเขาออกอย่างแรง “เจ้าฝันไปเถิด!”“อาเหลา เหตุใดเจ้าจึงยังดื้อรั้นเช่นเดิม นิสัยเช่นนี้ทำให้เจ้าต้องพบเจอความยากลำบากอีกมาก” เฉินชียกยิ้มขณะจ้องมองใบหน้าของนางใบหน้าซีดเซียว อ่อนแรงราวกับจะแตกสลายได้เพียงแค่สัมผัส เขาชื่นชอบยิ่งนักทันใดนั้นลั่วชิงยวนที่มีแววตาเย็นชากัดมือที่บาดเจ็บของเขาอย่างแรงกัดจนเลือดไหลทะลักเข้ามาในปากเฉินชีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดลั่วชิงยวนฉวยโอกาสวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1191

    ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดฟู่เฉินหวนหรี่ตาจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า มิละสายตาไปแม้แต่น้อย แล้วค่อย ๆ ดื่มสุราในจอกจนหมด“ฟู่เฉินหวน ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่ง...” ลั่วชิงยวนตั้งใจจะบอกเรื่องการมีตัวตนของชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ทว่ายังพูดมิจบก็ถูกฟู่เฉินหวนขัดจังหวะ“เจ้านำเข็มทิศติดตัวมาหรือไม่”“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยทำนาย”ลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหยิบเข็มทิศในอกเสื้อออกมา“ท่านอยากจะให้ทำนายเรื่องใด?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า สายตาเย็นชานั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกประหลาด“เหตุใดท่านจึงมองหม่อมฉันเช่นนั้น?”ตอนนี้สายตาที่ฟู่เฉินหวนมองนางราวกับมองคนแปลกหน้าเฉียบคมและเย็นชาเสียงเย็นเยียบดังขึ้น “เจ้าเป็นใครกันแน่”ลั่วชิงยวนตกใจ มองเขาด้วยความมิเข้าใจ “ท่านเป็นอะไรไปเพคะ?”มองแววตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนแล้ว ลั่วชิงยวนก็พลันรู้สึกใจคอมิดี จู่ ๆ เริ่มวิงเวียน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนนางรีบกุมศีรษะ ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางมีบางอย่างผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยากลำบาก “ท่านวางยาในสุราหรือ?”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิตอบในตอนนั้นเอง ประ

DMCA.com Protection Status