공유

บทที่ 547

작가: หว่านชิงอิ๋น
หนีกระนั้นหรือ?

จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า!

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแล้วผลักลั่วเยวี่ยอิงเข้าไปในอ้อมแขนของฟู่จิ่งหลี จากนั้นเดินไปข้างหน้าเตรียมจะถีบประตู

ทว่าในยามนี้เอง ประตูที่มีเปลวเพลิงก็ถูกกระแทกให้เปิดออกดังปัง

ประตูทั้งบานล้มลงมา

เงาร่างขะมุกขะมอมที่มีเปลวเพลิวลามเลียบนกระโปรงก็พุ่งออกมา

ทุกคนต่างตะลึงงัน

ลั่วชิงยวนกึ่งลากสังขารตนกึ่งแบกร่างของลั่วอวิ๋นสี่แล้วพังประตูออกมา

แต่ภายใต้แรงปะทะอันรุนแรง ทันทีที่ประตูล้มลง ขื่อคานที่อยู่ข้างบนก็ร่วงหล่นลงมา

ลั่วชิงยวนกัดฟันพุ่งตัวออกไปอย่างสุดกำลัง

ทันใดนั้นท่อนแขนแข็งแกร่งคู่หนึ่งก็คว้าตัวนางไว้ จากนั้นนางก็ถูกยกตัวขึ้นจากพื้น

ในขณะนั้นเอง เปลวเพลิงปริมาณมหาศาลก็พุ่งออกมา สรรพสิ่งพลันพลิกคว่ำคะมำหงายแล้วลั่วชิงยวนก็ร่วงลงบนร่างนุ่ม

ยามที่นางลืมตาขึ้น สิ่งที่นางเห็นก็คือฟู่เฉินหวนที่ถูกนางกดเอาไว้ใต้ร่าง

ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึง พวกเขามิคาดคิดว่าจะมีคนอยู่ในห้อง!

ฟู่จิ่งหลีตอบสนองว่องไวแล้วรีบเดินเข้ามาฉุดลั่วอวิ๋นสี่ให้ลุกขึ้นพร้อมตรวจดูลมหายใจของนาง เมื่อพบว่านางยังหายใจอยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่เขาก็มองมาท
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 548

    ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นแล้วขมวดคิ้วใส่เขา “ท่านปกป้องนางกระนั้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนทราบคำตอบของคำถามข้อนี้อยู่แล้ว แต่นางก็เลือกที่จะถามอยู่ดี ผลลัพธ์ที่นางได้ย่อมต้องเป็นฝ่ามือของฟู่เฉินหวนอยู่แล้ว ฝ่ามือที่ตบลงมาโดยมิทันตั้งตัว ทำให้ลั่วชิงยวนล้มหมดสติไป ฟู่เฉินหวนรีบอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมาแล้วเหลือบมองมาที่ลั่วเยวี่ยอิงพลางขมวดคิ้ว “รีบพานางไปหาหมอ!” หลังจากเขาพูดจบก็อุ้มลั่วชิงยวนแล้วหันหลังหมายที่จะจากไป “ท่านอ๋อง!” ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกร้อนใจเสียจนแข้งขาพลันอ่อนยวบ การมองเห็นดับวูบแล้วล้มลง คนข้างกายรีบเข้ามาประคองนางเอาไว้แล้วร้องอุทานครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อฟู่เฉินหวนเหลียวกลับไปมองแล้วบังเกิดแรงดลใจที่จะช่วยเหลือลั่วเยวี่ยอิงอย่างมิอาจควบคุมได้ ทว่าเหตุผลก็ทำให้เขามองลั่วชิงยวนที่อยู่ในอ้อมแขน หน้ากากของนางเกิดรอยร้าวเสียแล้ว หากมิได้พานางไป ตัวตนของนางย่อมถูกล่วงรู้เข้าเป็นแน่! ฟู่เฉินหวนชะงักฝีเท้าไปเพียงชั่วขณะ จากนั้นเขาก็รีบเดินจากไป ฟู่จิ่งหลีกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วอุ้มลั่วอวิ๋นสี่ขึ้นจากพื้น ในยามนี้เอง คนของทางการก็มาถึงแล้วรีบเข้าไปดับไฟตรงลานสนาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 549

    ในยามนี้เอง คนของทางการจากด้านในก็หามศพทั้งสองร่างที่คลุมด้วยผ้าขาวออกมา ยามที่ลมพัดตลบ ไม่ว่าผู้ใดก็เห็นศพไหม้เกรียมที่อยู่ข้างในได้ราง ๆ พวกเขาน่าจะเป็นบุรุษชุดดำทั้งสองคนในห้องที่ฟาดลั่วชิงยวนจนหมดสติไป “โอ้สวรรค์ เรือนของข้ากลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน? สวนเซียงอู๋ของข้า!” น้ำเสียงลนลานและตื่นตระหนกพลันดังขึ้น เมื่อบุรุษแต่งกายภูมิฐานเห็นสภาพน่าอนาถของสวนเซียงอู๋ เขาก็สะดุดล้มลงกับพื้นด้วยท่าทีสิ้นหวังพลางน้ำตาไหลอาบหน้า ผู้คนรอบตัวพยายามปลอบใจเขา “โอ้ เถ้าแก่หลิวช่างโชคร้ายเสียจริง” “เถ้าแก่หลิว เจ้าซ่อมแซมอีกสักหนก็น่าจะกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วล่ะ” ลั่วชิงยวนทราบจากบทสนทนาของผู้คนรอบตัวว่า บุรุษผู้นี้คือหลิวซิงเหอผู้เป็นเจ้าของสวนเซียงอู๋นั่นเอง สวนเซียงอู๋แห่งนี้ได้รับการออกแบบจากผู้มากพรสวรรค์ทั้งสิบแปดคนโดยเฉพาะ ทั้งยังใช้เวลาถึงสามปีกว่าจะแล้วเสร็จ ทัศนียภาพทั้งหมดทั้งน้อยใหญ่ล้วนใส่ใจทุกรายละเอียด สวนเซียงอู๋แห่งนี้เปิดให้ขุนนางชั้นสูงเช่าเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาเกรงว่าคนทั่วไปจะไม่รู้จักวิธีทะนุถนอมมันเอาไว้ ทว่าคราวนี้สวนเซียงอู๋ก็ยังถูกทำลายลง หลิวซิงเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 550

    เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ตกตะลึง “ลั่วเยวี่ยอิงกระนั้นหรือ?” นางนึกออกแต่เพียงลั่วเยวี่ยอิง เพราะเป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายจะกล่าวโทษนาง ใต้เท้าเหอกล่าวว่า “เจ้าไปถึงที่นั่นก็รู้เอง” เนื่องเป็นเรื่องที่มิใคร่ชาญฉลาดนักที่จะให้คนนอกล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างลั่วชิงยวนกับใต้เท้าเหอ ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงถูกส่งกลับไปที่ศาลาว่าการ ครั้นพวกเขามาถึงศาลาว่าการ ก็มีคนกลุ่มใหญ่มาออกันอยู่ริมถนนแล้ว ก่อให้เกิดความวุ่นวายค่อนข้างมากทีเดียว ลั่วเยวี่ยอิงอยู่ในโถงพิจารณาคดีจริง ๆ นางกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าซีดเซียวราวกับว่าอาจจะสิ้นลมได้ทุกเมื่อ นางอ่อนแอเสียจนมิกล้าพูดเสียงดัง ทว่าสิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ นอกจากลั่วเยวี่ยอิงแล้วยังมีผู้อื่นอยู่ด้วย นั่นคือลั่วอวิ๋นสี่ ลั่วอวิ๋นสี่ฟื้นแล้วจริง ๆ แต่ดูเหมือนจะมีกลิ่นอายมืดมนตรงหว่างคิ้วอันคมกริบราวกับมีดที่กำลังลอยอยู่ด้วย ใต้เท้าเหอนั่งลงแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าเกรงขาม “ผู้ใดมาร้องเรียนกับทางการ?” สายตาของลั่วชิงยวนเอาแต่จับจ้องมาที่ลั่วเยวี่ยอิง จากนั้นนางก็เห็นลั่วเยวี่ยอิงลุกขึ้นด้วยท่าทียากลำบาก ทว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 551

    นางหันไปมองใต้เท้าเหอแล้วถามว่า “ใต้เท้า สิ่งที่ข้าประสบพบเจอมาในวันนี้ตรงข้ามกับสิ่งที่พวกนางว่ามาโดยสิ้นเชิง” ลั่วชิงยวนจึงเล่าเรื่องนางต้องเผชิญให้ฟัง ลั่วอวิ๋นสี่โมโหเสียจนพูดออกมาว่า “เหลวไหลทั้งเพ! เจ้าบอกว่าลั่วเยวี่ยอิงคิดทำร้ายเจ้า แต่ข้าบังเอิญไปพบเข้า นางก็เลยคิดจะสังหารข้า!” “แต่เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นเจ้า! ข้าจับเจ้าได้คาหนังคาเขาเชียวล่ะ!” ลั่วอวิ๋นสี่เบิกบานใจเสียจนแทบกระโดดโลดเต้นอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนหรี่ตามองลั่วอวิ๋นสี่ กลิ่นอายมืดมนตรงหว่างคิ้วของอีกฝ่ายเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ และดูเหมือนแววตาก็ขุ่นมัวขึ้นมากทีเดียว ลั่วชิงยวนเอ่ยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “ข้ามีหลักฐานเจ้าค่ะ!” “ลั่วเยวี่ยอิงเชิญข้าไปที่ศาลาตรงท้ายเรือนและมอบขนมร้อยบุปผาที่ใส่ตัวยาแปลกประหลาดลงไป ประกอบกับตัวยาในขนมกุ้ยฮวา ก็ทำให้คนหลับไปได้หลายชั่วยามแล้ว” “ใต้เท้า ท่านเคยตรวจสอบดูหรือไม่!” “ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังพบมีดสั้นเล่มนี้ตรงท้ายเรือน สิ่งนี้ชะรอยจักเป็นมีดสั้นที่แทงลั่วเยวี่ยอิง” “มือสังหารแบบไหนกันที่จะแทงคนแล้ววิ่งหนีไป มิหนำซ้ำยังโยนอาวุธทิ้งอีกเจ้าค่ะ?” “มีดสั้นเล่มนี้มาจากที่ใดก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 552

    ยังมีพยานอีกคนกระนั้นหรือ? วันนี้พยานทุกคนในเรื่องนี้จะตบเท้ามาเยือนถึงประตูเลยหรือไม่? จากนั้นก็มีสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามาในโถงพิจารณาคดีพลางคุกเข่าลง “ใต้เท้า ข้าน้อยหวังเยว่ชิงจากหอฝูเสวี่ยเจ้าค่ะ” “เจ้าจะให้การเช่นใดหรือ?” ใต้เท้าเหอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา หวังเยว่ชิงตอบว่า “ใต้เท้า ข้าเคยเห็นคนตายทั้งสองคนนั้นเจ้าค่ะ! ข้าเคยเห็นพวกเขาอยู่กับฝูเสวี่ยตรงประตูหลังของหอฝูเสวี่ย แต่ข้าน้อยมิได้ยินว่าพวกเขากล่าวอันใดกันเจ้าค่ะ” เมื่อใต้เท้าเหอกับลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ต่างก็รู้สึกตกตะลึง “เจ้าจดจำใบหน้าสองคนนั้นที่ถูกเผาจนดำเป็นถ่านได้ด้วยหรือ? เจ้าถึงกับปั้นเรื่องโกหกตาใสขึ้นมาหลอกลวงทุกคนราวกับเป็นเด็กสามขวบเชียวหรือ?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฉายแววเยียบเย็น หวังเยว่ชิงผู้นี้มาจากหอฝูเสวี่ยจริง ๆ แต่ลั่วชิงยวนเคยพบหน้าอีกฝ่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และไม่คุ้นเคยกับอีกฝ่ายสักเท่าไหร่นัก เพิ่งจะได้รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายก็วันนี้เอง ทว่าหวังเยว่ชิงกลับยืนกรานว่า “ข้างนอกมีป้ายประกาศระบุตัวตนของศพติดอยู่ ข้ามองดูก็จำได้แล้ว! พวกเขาคือทั้งสองคนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงประตูหลังของ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 553

    ใต้เท้าเหอตอบว่า “ยืนยันตัวตนของพวกเขาได้มิต้องกังวลไปหรอก แต่ก็ยังคงต้องแกะรอยทุกคนที่มาในวันนี้” ลั่วชิงยวนพยักหน้าและกำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็พลันนึกถึงผู้ใดสักคนขึ้นมาได้ “จริงด้วยสิ ท่านลองตรวจสอบหลิวซิงเหอเจ้าของสวนเซียงอู๋ดูสิเจ้าคะ คนผู้นี้มีบางอย่างมิชอบมาพากล!” “แต่หาอย่าได้กระโตกกระตากไป” ใต้เท้าเหอดวงตาเป็นประกาย “เข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนออกจากคุกแล้วลอบออกทางประตูหลังของจวนใต้เท้าเหอ ค่ำมืดดึกดื่นและถนนก็เงียบสงัดยิ่ง ลั่วชิงยวนลอบเข้าไปในจวนมหาราชครู นับตั้งแต่ท่านมหาราชครูจากไป จวนมหาราชครูก็ร้างไร้ผู้คน ประตูปิดสนิทและบ่าวเฝ้าประตูก็ไปพักผ่อนกันหมดแล้ว ลั่วชิงยวนมาถึงเรือนชั้นในโดยไร้ซึ่งอุปสรรค เมื่อเห็นนอกห้องยังจุดโคมอยู่ นางจึงลอบเข้ามาใกล้ ๆ เสียงร้องไห้ของลั่วอวิ๋นสี่ดังขึ้นมาจากในห้อง “ท่านแม่! ตอนนั้นท่านลงโทษข้าเพราะลั่วชิงยวนก็แล้วไปเถอะ ทว่ายามนี้เพียงเพราะสตรีจากหอนางโลม ไฉนท่านต้องช่วยนางด้วยเล่า?” “ข้ามิได้ทำอันใดผิด! ในสายตาของท่าน ข้ายังสู้นางคณิกาคนหนึ่งมิได้เชียวหรือ? ไยท่านจึงคิดว่าข้าเจตนาทำร้ายนางเล่า?” “ข้าเป็นบุตรีของท่านนะ ในใจข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 554

    ลั่วอวิ๋นสี่ตัวสั่นสะท้านรุนแรงและรู้สึกตกใจสุดขีด เมื่อนางหันกลับไปก็เห็นฝูเสวี่ย แข้งขาของนางพลันอ่อนยวบจนต้องรีบเกาะโต๊ะเอาไว้ “เจ้า!” “เจ้าแหกคุกออกมากระนั้นหรือ?” ท่ามกลางรัตติกาลอันมืดมิด ฝูเสวี่ยที่ลอบปรากฏตัวในห้องของนาง และหน้ากากชิ้นนั้นชวนให้ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกมิถูก ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เดินเข้ามา จากนั้นลั่วอวิ๋นสี่ก็หวาดกลัวเสียจนถอยหลังอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ้าคิดจะกระไรกันแน่? อย่าเข้ามานะ! ที่นี่คือจวนมหาราชครู หากเจ้าแน่จริงก็ลงมือสิ...” “อ๊า!” ก่อนที่ลั่วอวิ๋นสี่จะทันได้เอ่ยวาจาข่มขู่ให้จบ ลั่วชิงยวนก็พลันตะปบเข้าที่ลำคอของนาง เรี่ยวแรงช่างมหาศาลเสียจนลั่วอวิ๋นสี่มีเวลาทันให้ได้กรีดร้องเท่านั้นแล้วก็ส่งเสียงไม่ออกอีกต่อไป นางปัดป่ายมือเท้าพลางดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ความหวั่นเกรงต่อความตายพุ่งเข้ากลืนกินตัวนาง ทำเอาลั่วอวิ๋นสี่ถึงกับจิตใจสั่นสะท้าน ลั่วชิงยวนใช้มืออีกข้างคว้าข้อมือของลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้ จากนั้นก็สังเกตเห็นรอยเลือดสีแดงสดที่อยู่ข้างในข้อมือของอีกฝ่าย “ลั่วอวิ๋นสี่ ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกสักครั้ง จงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 555

    “กินโอสถตามเทียบยาของข้าวันละถ้วยประมาณครึ่งเดือนก็จะขจัดพิษออกจากร่างกายได้” ลั่วอวิ๋นสี่รับเทียบยามาด้วยสีหน้าซีดขาว “เอาล่ะ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปรับโอสถ” ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกลังเลใจ เพราะมิทราบว่าควรจะขอบคุณดีหรือไม่ แต่นางรู้สึกว่าการที่ฝูเสวี่ยช่วยเหลือตนจะต้องมีจุดประสงค์เป็นแน่ “มิได้หรอก ให้คนไปรับโอสถมาต้มยาเดี๋ยวนี้เถอะ” ลั่วชิงยวนมีท่าทีแน่วแน่และไม่คิดจะลุกจากไป ลั่วอวิ๋นสี่ลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ออกไปเรียกคน สั่งให้คนไปรับโอสถแล้วต้มยา นับตั้งแต่ต้นจนจบ ลั่วอวิ๋นสี่มิปล่อยให้ผู้ใดมองเห็นลั่วชิงยวนที่กำลังนั่งอยู่ในห้อง ผู้ที่ไปรับโอสถจากไปแล้ว โดยมีลั่วอวิ๋นสี่กับลั่วชิงยวนนั่งอยู่ตรงโต๊ะ ลั่วอวิ๋นสี่ขมวดคิ้วแล้วเอาแต่นิ่งเงียบ บรรยากาศทวีความกระอักกระอ่วนขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ากลับมิทราบว่าจะเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นจากตรงไหนดี ลั่วชิงยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “หลังจากกินโอสถถ้วยแรกไปแล้ว คืนนี้ความทรงจำของเจ้าก็จะค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมา แต่อาจยังรู้สึกสับสนอยู่บ้าง” “ลำพังด้วยร่างกายของเจ้า คงต้องใช้เวลาถึงสี่ห้าวันกว่าความทรงจำจะกลับคืนเป็นปกติ” “แต่ข

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status