Share

บทที่ 443

Author: หว่านชิงอิ๋น
แต่เมื่อตกเย็น แขกในหอกลับหายไปเกินครึ่ง

ผู้ที่จะมาดูการร่ายรำในหอนางโลม ต่างมาเพราะความอยากรู้

หากไร้สิ่งใหม่ให้พวกเขาดู ให้พวกเขาตะลึง เมื่อความอยากรู้นี้ผ่านไป พวกเขาก็มิอยู่ต่อแล้ว

……

ยามเช้าตรู่ ลั่วเยวี่ยอิงตื่นมาพบว่าตนอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดี นางตกตะลึงยิ่ง จึงรีบเก็บของจะกลับตำหนัก

แต่วันนี้เมื่อมาถึงถนนหน้าตำหนัก ชาวบ้านกลับซุบซิบนินทานาง

“ดูสิ นี่มันท่านนั้นในตำหนักอ๋องมิใช่หรือ ยังจะมาอย่างหน้าไม่อายอีก”

“ใช่ ๆ เป็นสาวเป็นนาง กลับวิ่งไปบ้านผู้ชายทุกวัน มิรู้จักอับอาย”

ป้าสองคนที่เดินผ่านนินทานาง

คำพูดพวกนางตกสู่หูของลั่วเยวี่ยอิงอย่างชัดเจน หน้าของนางแดงก่ำขึ้นมาทันที

นางรู้สึกอับอายยากจะทน

“นางมีหน้ามาได้อย่างไรอีก?”

“บุตรีอนุกลับรังแกถึงหัวบุตรีเอก น่าเกลียดเสียจริง”

“อุตส่าห์มีรูปโฉมงดงาม แต่กลับไร้ยางอายเสียได้”

คำพูดเหล่านี้ที่ตกถึงหูลั่วชิงยวน ราวกับมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงลงในร่างของนางทีละเล่ม จนนางเลือดไหลท่วมร่าง

หน้าไม่อาย

มิรู้จักอับอาย

ไร้ยางอาย

ศัพท์เหล่านี้ เคยเอาไว้ด่าลั่วชิงยวนมิใช่หรือ?

นางฟังมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่เป็นครั้งแรกที่ศัพท์เหล่าน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 444

    วันที่ออกจากหอเจาเซียง ลั่วชิงยวนไปที่คฤหาสน์หลังใหม่ ช่วยลิ่นฝูเสวี่ยจัดห้อง จัดวางของตามความชอบของนางลิ่นฝูเสวี่ยเองก็พูดเรื่องเกี่ยวกับแม่ของนางมากมาย“มารดาของท่าน มิเหมือนคุณหนูทั่วไป นางมิชอบอ่านตำรา มิชอบเขียนตำรา มิชอบศิลปะสี่แขนง ที่นางชอบที่สุดคือการดูข้าร่ายรำ”“ใต้หล้านี้มีผู้คนที่ชอบดูข้าร่ายรำมากมาย ในสถานที่อย่างหอนางโลม มีชายหนุ่มนับไม่ถ้วนอยากไถ่ตัวให้ข้า เพราะรู้สึกว่าข้าต้องร่ายรำในนั้นอย่างไร้ทางเลือก”“มีเพียงมารดาของท่าน นางดูออกว่าข้ารักการร่ายรำ ข้ามิสนว่าที่นั้นคือหอนางโลมหรือไม่ เพียงแค่ให้ข้าได้ร่ายรำอย่างผ่าเผย ข้าก็ยอมอยู่ที่นั่น และมิไปที่ใดทั้งนั้น”“ข้ามองนางเป็นมิตรรู้ใจ”“เพียงแต่ นางเป็นฮูหยินจวนอัครมหาเสนาบดี มิสะดวกที่จะมาเยี่ยมข้าในสถานที่อย่างหอนางโลม ดังนั้นพวกเราจึงได้แต่เจอกันนาน ๆ ครั้งโดยส่วนตัว หรือบางครั้งก็อาจเจอกันในงานเลี้ยง”“นางยอมเข้าร่วมงานเลี้ยงที่นางมิชอบ เพียงเพราะอยากเห็นข้าร่ายรำ”“ข้าเองก็ยอมไปร่ายรำในจวนคนที่ข้าเกลียดเพื่อนาง”เนื้อหาที่ลิ่นฝูเสวี่ยพูดกับนางนั้น มิเป็นประโยชน์ต่อลั่วชิงยวนนักแต่กลับทำนางซาบซึ้งเป็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 445

    นี่เป็นห้องสุดท้ายบนทางระเบียง! ผู้ใดจะมาที่นี่กัน!นางสวมชุดอย่างไว ใส่หน้ากากทันใดนั้น ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรงบุรุษพุงย้วยผู้หนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นลั่วชิงยวน ตาของเขาลุกวาวเขาถูมือด้วยท่าทีหิวโซ “แม่นางฝูเสวี่ย รอนานเลยใช่หรือไม่”ลั่วชิงยวนถอยหลังก้าวหนึ่ง “เจ้าคือใครกัน?”“ข้าแซ่หลี่ เป็นบุรุษคนแรกของแม่นางฝูเสวี่ย ข้าจักทำเบา ๆ มิทำแม่นางฝูเสวี่ยต้องเจ็บแน่”บุรุษก้าวเดินเข้ามา และตะครุบใส่ลั่วชิงยวนอย่างแรงสายตาของลั่วชิงยวนเยือกเย็นลง นางเตะขาอย่างแรงจนเขากระเด็นลงกับพื้นบุรุษอุทานจากเจ็บปวดทีหนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้น ชี้หน้านางพร้อมกราดด่า “ข้าเสียเงินถึงหมื่นตำลึงเพื่อซื้อเจ้า! คืนนี้เจ้าจักต้องเป็นคนของข้า!”คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่นหลีเถาเป็นคนทำแน่ ๆ!“ไสหัวออกไป” ลั่วชิงยวนด่าอย่างเกรี้ยวกราด และผลักประตูออกแต่เมื่อเปิดประตูกลับมีบุรุษกลุ่มใหญ่ดักอยู่ และบังทางเดินไว้อย่างมิดชิดลั่วชิงยวนเห็นหลีเถา นางกำลังยิ้มอย่างได้ใจ“ข้าและหอเจาเซียงมิได้เขียนสัญญาใดไว้ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ควบคุมอิสระของข้า!” ลั่วชิงยวนเอ่ยพูดเสียงเย็น“ดูท่าแม่นางฝูเสวี่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 446

    ชั้นสองคนพาลกลุ่มหนึ่งล้อมขึ้นมา อยากจะกดลั่วชิงยวนไว้ลั่วชิงยวนมือไวตาไว ฝีมือปราดเปรียว นางหลบการโจมตีของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งโจมตีไปที่จุดอ่อนของอีกฝ่ายอย่างแรงนางสู้จนออกจากประตูไปได้แต่เบื้องหลัง กลับยังมีชายฉกรรย์โผล่ออกมาไม่หยุด คนพาลในหอเจาเซียงต่างเป็นผู้ฝึกฝนวรยุทธ ซึ่งแรงเยอะโขลั่วชิวยวนจึงทำได้เพียงใช้ความปราดเปรียวของตนหลบการโจมตีของอีกฝ่าย มิกล้ารับมือตรง ๆ นางบุกจนถึงด้านนอกลิ่นฝูเสวี่ยส่งกำลังใจให้นางอย่างลุ้นระทึก “เกือบไปแล้วท่านเซียนน้อย!”“ระวังด้านหลัง!”“เร็วเข้า ๆ ใกล้ออกไปได้แล้ว!”สีหน้าของลั่วชิงยวนมืดครึ้ม นางรับมืออย่างระมัดระวัง มุ่งสู้ไปทางด้านนอกคนมากเกินไป นางถูกล้อมไว้สองด้าน ลั่วชิงยวนจึงได้แต่เปลี่ยนเส้นทาง นางบุกเข้ามาในห้องหนึ่ง“กรี๊ด!” ในห้องคือซิ่งอวี่ นางตกใจจนโฉมงามถอดสีลั่วชิงยวนจึงจับข้อมือนางไว้ “แม่นางซิ่งอวี่ หนีไปพร้อมกับข้าเถิด!”ซิ่งอวี่ตะลึง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่นางยังมิทันเอ่ยตอบ คนพาลจากด้านนอกก็บุกเข้ามา ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ลากนางหนีไปพร้อมกันนางดันหน้าต่างออก จับไหล่ซิ่งอวี่ไว้พร้อมยันขา ลอยตัวออ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 447

    ฟู่จิ่งหานได้ยินก็ตะลึงเป็นอย่างมาก “เจ้าไปทำอะไรกันเสด็จพี่สาม!”ลั่วชิงยวนพาซิ่งอวี่หนีออกจากหอเจาเซียง เบื้องหลังมีเสียงฝีเท้าส่งมา นางหันไปมองแวบหนึ่งอย่างลนลาน และแวบหนึ่งนี้กลับทำหัวใจของนางกระตุกฟู่เฉินหวนตามมาได้อย่างไรกัน!แย่แล้ว!หากนางถูกฟู่เฉินหวนดูออกคงจบเห่แน่!นางลากซิ่งอวี่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว เห็นว่าเบื้องหน้ามีรถม้านางจึงขึ้นรถม้าอย่างไว นางควบม้าอยู่ด้านหน้าและหนีไปผู้ใดจะรู้ฟู่เฉินหวนกลับลอยตัวขึ้นมาวิชาตัวเบา และนั่งอยู่ข้าง ๆ นางพร้อมเอ่ยพูดกับนาง “เข้าไปด้านใน”ในใจของลั่วชิงยวนกังวล ฟู่เฉินหวนคิดจะทำอะไรกันแน่ฟังเสียงฝีเท้าคนพาลที่วิ่งตามมาทางด้านหลัง ลั่วชิงยวนเลือกที่จะหลบเข้าไปในรถม้าภายในรถม้า ซิ่งอวี่ผวาเสียจนแทบจะร้องไห้ออกมา นางจับมือลั่วชิงยวนไว้แน่น “ท่านมิควรพาข้าหนี ข้าหนีออกมาแล้ว ข้าจักไปที่ใดได้อีก”“มิต้องห่วง ข้าจักจัดการให้เจ้าเอง”หน้าประตูใหญ่หอเจาเซียง ฟู่จิ่งหานมองฟู่เฉินหวนที่ควบม้าพาแม่นางฝูเสวี่ยหนี สีหน้าของเขาย่ำแย่ขึ้นมาทันที“เจ้านี่ จักช่วยสาวงามก็มิชวนข้า ยังบอกว่ามิสนใจอีก ข้าว่าสนใจจะตายชัก!”“เหอะ บุรุษนี้หนา!”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 448

    ลิ่นฝูเสวี่ยยังคงตกอยู่ในความตะลึง นางเอ่ยตอบ “นางรับใช้ข้าในอดีต ลี่เซียง”“นางยังมีชีวิตอยู่หรือ นางยังมิตายหรือ!”“วันนั้นนางอยู่ในขบวนรถม้าเดียวกับข้า เป็นไปได้อย่างไรที่นางจักมิตาย”ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนตะลึง “เจ้าหมายถึง นางไปกับเจ้าเมื่อวันที่เกิดเรื่องหรือ!”“ใช่“ลั่วชิงยวนเอ่ยขมวดคิ้ว “หรือว่าในขบวนมีผู้โชคดีรอดชีวิตมาได้?”“ข้ามิรู้ แต่ข้าคิดว่ามิง่ายเสียขนาดนั้น หลังเกิดเรื่องข้าติดอยู่ใต้หุบเขามาโดยตลอด ข้าหาอยู่นานกว่าจะกลับมาได้ แต่หอสมุทรมรกตในตอนนั้น กลับกลายเป็นคฤหาสน์เช่นนี้แล้ว”“ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ คือคหบดีหลี่”“พวกเขาต่างบอก คนในหอสมุทรมรกต มิเหลือสักคน”“แต่เหตุไฉนลี่เซียงยังมีชีวิตอยู่?”ลิ่นฝูเสวี่ยยิ่งคิดเรื่องนี้ยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เรื่องมันต้องมิง่ายเช่นนี้แน่!ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง จากนั้นกล่าว “ท่เจ้าจำลุงฟ่านที่ถนนเส้นนั้นได้หรือไม่ เขาก็เคยเป็นหนึ่งในผู้หลงใหลท่าน หลังเจ้าเกิดเรื่อง เขาเคยสืบข่าวมาก่อน บางทีเขาอาจรู้มากกว่า”“พวกเราไปถามเขากันเถอะ”ลิ่นฝูเสวี่ยเอ่ยตอบ “ได้”จากนั้นลั่วชิงยวนจึงออกเดินทางไปหาเขา และทิ้งซิ่งอวี่ไว้ในโรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 449

    ในใจลั่วชิงยวนตะลึงทั้งหมดห้าสิบสองศพ มิขาดแม้แต่ศพเดียว… แต่ลี่เซียงยังมีชีวิตอยู่นี่!เช่นนี้ ดูท่าลี่เซียงจะตั้งใจปกปิดข่าว นางแกล้งตาย!หลายปีผ่านไป กลับเห็นผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง เช่นนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น คงมิง่ายอย่างที่คิดแล้ว!“คุณชายฉู่ เหตุใดจู่ ๆ ท่านจึงถามเรื่องเหล่านี้เล่า?” ลุงฟ่านรู้สึกแปลก ๆ “หรือว่าการตายของลิ่นฝูเสวี่ยเมื่อตอนนั้น…” ลุงฟ่านเองก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา ลั่วชิงยวนมิอยากเดือดร้อนถึงเขา จึงเอ่ย“ผู้ที่มาดูดวงกับข้า มีคนหนึ่งรู้จักลิ่นฝูเสวี่ย และพูดถึงนางรับใช้ของนางลี่เซียงพอดี”“ข้าเพียงแค่ถามไปเรื่อย”ลุงฟ่านพยักหน้า “เช่นนี้เอง…”“เวลาไม่เช้าแล้ว ข้าขอตัวก่อน” ลั่วชิงยวนพูดลาและจากไประหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม นางเอ่ยพูดเสียงต่ำ “เจ้าลี่เซียง ต้องมีปัญหาแน่”“ในเมื่อนางยังมิตาย แต่ทุกคนกลับบอกว่านางตายแล้ว หากไม่มีเลศนัย จักตั้งใจปกปิดหาปะไร”เสียงของลิ่นฝูเสวี่ยข่มความคับแค้นเอาไว้ “นางต้องมีปัญหาแน่!”“ท่านร่ายรำในหอเจาเซียงด้วยนามข้า หากนางรู้สึกว่าท่านเหมือนข้าจริง ย่อมต้องถามเจ้าว่าใช่ศิษย์ของข้าหรือไม่ แต่นางมิได้พูดกระไรทั้งนั้น หนำซ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 450

    “ซิ่งอวี่ เจ้ารู้จักท่านอาฉินมากเพียงใด? สตรีอย่างนาง เปิดหอนางโลมที่ใหญ่เช่นนี้ เบื้องหลังมีผู้อื่นเกี่ยวโยงอีกหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยายามสืบข่าวด้วยทุกวิถีทางซิ่งอวี่คิดพักหนึ่งก็พลันส่ายหัวเอ่ย “ข้าเองก็รู้มิมาก รู้เพียงแค่ท่านอาฉินราวกับจะรำเทพเหมันต์เป็น แต่นางมิเคยแสดงต่อหน้าผู้อื่น เถาหลีเป็นคนพูดอวดโอ้ออกมา”“แต่ว่ากันว่าเบื้องหลังของหอเจาเซียงมีผู้เก่งกาจหนุนอยู่จริง ๆ”“แต่รายละเอียดข้ามิรู้หรอก”ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนพยักหน้าเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “รำเทพเหมันต์ข้าเป็นคนสอนนางเอง แต่นางเรียนไปเพียงครึ่งเดียว”มิน่า เพราะนามฝูเสวี่ยและรำเทพเหมันต์ออกมาได้ทั้งเพลงในหอเจาเซียง จึงทำให้อาฉินเกิดอยากสังหารนาง“ดูท่ากลับไปที่หอเจาเซียงมิได้แล้ว หากอยากหาเงินต่อก็ต้องเปลี่ยนที่”ลั่วชิงยวนพูดไปและเอ่ยถามซิ่งอวี่ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าในเมืองหลวงยังมีหอนางโลมชื่อดังที่ใดอีกบ้าง”ซิ่งอวี่พูดอย่างลำบากใจ “หอนางโลมชื่อดังย่อมมี แต่เรื่องในวันนี้ ใช่ว่าจักมิเกิดขึ้นอีก”“แม้ข้ามิรู้จักท่านอาฉิน แต่ข้าก็เคยได้ยินมาก่อนว่านางฝีมือโหดเหี้ยม เกรงว่าต่อให้หาที่ใหม่ นางก็จักหาทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 451

    ซิ่งอวี่ผงกศีรษะ “ใช่เจ้าค่ะ” “แน่นอนว่าย่อมมิใช่เพราะเรื่องนี้เพียงแค่เรื่องเดียวหรอก” “นางเอาอกเอาใจหลีเถาก็จริง แต่เมื่อใดก็ตามที่หญิงสาวในหอแห่งนี้ทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมา นางย่อมปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมเป็นแน่” ขณะที่ซิ่งอวี่เอ่ยวาจา นางก็ก้มหน้าพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยสายตาเปี่ยมโทสะ “นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัดสินใจเด็ดขาดจากไปพร้อมกับข้า” ลั่วชิงยวนเอ่ยขึ้นด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ “วันหน้าหากพวกเราไปที่หอหลินชุน ย่อมดึงดูดความสนใจของท่านป้าฉินได้แน่ เจ้ากลัวหรือไม่เล่า?” ซิ่งอวี่ส่ายหน้า “ข้ามิกลัวเจ้าค่ะ” “ข้าหาได้มีสัญญากับหอเจาเซียงแต่อย่างใดไม่” หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็มั่นใจแล้วว่าซิ่งอวี่เป็นสายที่หอหลินชุนส่งตัวเข้ามาในหอเจาเซียง ทว่าเรื่องนี้ก็มิได้ส่งผลต่อแผนการของนางสักนิด หลังอาหารมื้อเย็น ลั่วชิงยวนกับซิ่งอวี่ก็ไปที่หอหลินชุน บนท้องถนนอันแสนคึกคักสายนี้ยังมีลูกค้าอยู่มากมาย หอหลินชุนก็มิได้ร้างผู้คนไปเสียทีเดียว แต่เมื่อเทียบกับความคึกคักของหอเจาเซียง ก็ยังนับว่ารั้งท้ายอยู่ “แม่นาง ข้าจะพาท่านไปหาแม่เล้าเฉินนะเจ้าคะ” ซิ่งอ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1213

    สายลมหนาวพัดผ่านมา ปอยผมของลั่วชิงยวนปลิวไสวตัดกับผ้าคลุมสีขาว ทำให้ร่างบางของนางดูราวกับจะปลิวหายไปกับสายลมในตอนนั้นก็มีขบวนคนเดินมาเมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ข้างหน้าในชั่วขณะที่สบตากันก็เกิดอารมณ์ที่ซับซ้อนเมื่อเฉินชีเห็นฟู่เฉินหวน เขายกยิ้มอย่างเย็นชา โอบนางไว้แน่นขึ้นลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน“เฉินชี! เจ้ายังกล้ามาอีกรึ!” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง โทสะปะทุในใจองครักษ์รีบเข้ามาล้อมเฉินชีและลั่วชิงยวนไว้เฉินชีจำใจปล่อยลั่วชิงยวนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาเหลา ข้าจะรอเจ้า”กล่าวจบ เขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหนีไปองครักษ์รีบไล่ตามส่วนลั่วชิงยวนยืนนิ่งอยู่กับที่ มองฟู่เฉินหวนที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง แววตาซับซ้อนนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ“บทเรียนเมื่อวานคงยังมิเพียงพอ เจ้ายังกล้าแอบออกจากตำหนักมาพบเฉินชีอีกรึ?!”ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะอธิบาย ได้แต่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “หากท่านคิดเช่นนั้น หม่อมฉันก็มิมีทางเลือก”“เหตุใดหม่อมฉันจึงมาอยู่ที่นี่ ในใจของท่านน่าจะรู้ดีกว่าหม่อมฉัน”เมื่อคืนฟู่เฉินหวนมิสามารถเค้นวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์จากนางได้ จึงส่งนา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1212

    ทั้งสองหันไปมองจึงเห็นเฉินชีที่แผ่รังสีอำมหิตเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าเฉินชีมองลั่วฉิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วฉิงถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก “ข้าสิต้องถามเจ้า เหตุใดจึงส่งกองทัพมากะทันหัน? นี่มิได้อยู่ในแผนของเรา และเจ้าก็มิได้บอกข้าล่วงหน้า”เฉินชีหรี่ตาลง “ข้าจะทำอะไรต้องรายงานเจ้าด้วยรึ? เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาขัดขวางข้า?”ลั่วฉิงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย นางรีบคว้าเข็มทิศอาณัติสวรรค์มาถือไว้ เพราะกลัวว่าของล้ำค่าที่ได้มาจะหายไป“เฉินชี! ข้าแค่ต้องการสิ่งที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก!”เฉินชีมองลั่วชิงยวน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ก่อนจะพุ่งเข้าไปบีบคอของลั่วฉิงแล้วต่อยเข้าที่หน้าอกของลั่วฉิงลั่วฉิงกระอักเลือด ร่างกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างลั่วชิงยวนได้ยินเสียงร่างตกกระทบพื้นจากที่สูง จึงรู้ว่าที่นี่คือชั้นสองน่าจะเป็นโรงเตี๊ยมเฉินชีเดินไปที่หน้าต่าง มองลงไป เห็นเพียงร่างของลั่วฉิงวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหายไปในฝูงชนเดิมทีเฉินชีอยากจะตามไป แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็มิได้ตามไปหากลั่วฉิงตาย ลั่วชิงยวนก็จะไม่มีภัยคุกคาม นางอาจจะมิยอมไปแคว้นหลีกับเขาเช่นนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1208

    ในวินาทีต่อมา องครักษ์ก็กรูกันเข้ามาลากลั่วชิงยวนออกไปที่ลานหลังจากกดนางลงกับพื้นก็ใช้หวายฟาดลงบนร่างของนางอย่างมิปรานีความเจ็บปวดแล่นริ้ว ลั่วชิงยวนจิกเล็บลงบนพื้นหิมะจนเป็นรอยลึกจือเฉากระโจนเข้ามาจากนอกลาน “หยุด! หยุด!”“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงทำกับพระชายาเช่นนี้ พระชายาทำผิดอันใดหรือเพคะ!”“ท่านอ๋อง ขอได้โปรดปล่อยพระชายาเถิดเพคะ! ตั้งแต่เข้าเหมันตฤดู แผลบนร่างของพระชายาก็ยังมิหาย! หากโบยเช่นนี้ต่อไปคงจะสิ้นใจเป็นแน่เพคะ!”“ท่านอ๋องทรงพระกรุณาด้วยเพคะ!” จือเฉาโผเข้ากอดลั่วชิงยวนเพื่อรับหวายแทนแต่กลับถูกองครักษ์ดึงตัวออกไปจือเฉาร้องขอความเมตตาสุดเสียง แต่บุรุษที่ยืนอยู่ใต้ชายคากลับมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาฉายแววเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น“พระชายา...” จือเฉาร้อนใจ แทบจะเป็นลมเพราะร้องไห้หนักลั่วชิงยวนเจ็บปวดจนแทบมิได้ยินเสียงของจือเฉา มีเพียงความเจ็บปวดมิรู้จบ ยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากที่ลั่วชิงยวนสลบไป ฟู่เฉินหวนจึงสั่งให้หยุดแล้วจากไปด้วยความโกรธจือเฉาโผเข้าหาลั่วชิงยวน เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสก็พบว่ามือเปื้อนไปด้วยเลือด นางรีบชักมือกลับมองเลือดที่ไหลนองเต็มพื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1207

    ฟู่เฉินหวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาที่น่ารังเกียจนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงลั่วชิงยวนกัดฟันพลางกลั้นน้ำตาไว้ “ท่านมิได้บอกว่าจะเชื่อหม่อมฉันหรอกหรือเพคะ?”“หากหม่อมฉันบอกท่านทั้งหมด ท่านก็จะเชื่อหม่อมฉันมิใช่หรือเพคะ!”ฟู่เฉินหวนมีแววตาเย็นชา มองนางอย่างเฉยเมย “แต่เจ้าบอกข้าทั้งหมดแล้วหรือยังเล่า? เจ้ายังคงปิดบัง ยังคงหลอกลวง!”เสียงตำหนินั้นเต็มไปด้วยความโกรธทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนแทบแตกสลาย“ฟู่เฉินหวน วันนี้ท่านมาก็เพื่อหลอกลวงหม่อมฉันอีกแล้วใช่หรือไม่”“จุดประสงค์สุดท้ายของท่านคือ หลอกล่อให้หม่อมฉันบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ เพราะลั่วฉิงใช้มันมิได้ ใช่หรือไม่!”ลั่วชิงยวนตะโกนด้วยความโกรธ“หม่อมฉันช่างโง่เขลาที่เชื่อใจท่าน บอกความลับทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านก็หลอกลวงหม่อมฉันอีกครั้ง...”พูดไปน้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินในเวลานี้ หัวใจของลั่วชิงยวนราวกับถูกควักออกมาผ่าเป็นสองซีกเจ็บปวดเจียนตายแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า แววตายิ่งเย็นชาขึ้นเขาบีบคอของนางด้วยความโกรธ“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว ข้าก็ขี้เกียจเสแสร้งกับเจ้าแล้ว”“เข็มท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1206

    ฟู่เฉินหวนตกใจมองนางด้วยความประหลาดใจก่อนจะตอบว่า “ได้”“หากเจ้าอธิบายได้ชัดเจน ข้ายินดีเชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยรีบกล่าวทันที “หม่อมฉันชื่อลั่วเหลา แท้จริงแล้วลั่วอิงคืออาจารย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันตายไปแล้วมาเกิดใหม่ในร่างของลั่วชิงยวน”“วันรุ่งขึ้นหลังจากวันแต่งงาน ลั่วชิงยวนก็ปลิดชีพตัวเอง หลังจากนั้นร่างนี้ก็มิใช่ลั่วชิงยวนอีกต่อไป แต่เป็นหม่อมฉัน ลั่วเหลา”“หม่อมฉันเป็นชาวแคว้นหลี”“ดังนั้นความสามารถที่หม่อมฉันมีจึงเป็นสิ่งที่ลั่วชิงยวนไม่มี”“เรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นหลี หม่อมฉันก็เพิ่งค้นพบตอนที่ไปเผ่านอกด่าน หลังจากที่อาจารย์ค้นพบความลับนี้ ก็พยายามค้นหาวิธีแก้ไขเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์”“เพราะหากความลับนี้รั่วไหลออกไป จะมีคนมากมายเกิดความโลภ จะทำให้ทั้งใต้หล้าประสบพบความวุ่นวาย เลือดนองแผ่นดิน”“...”ลั่วชิงยวนเล่าความลับทั้งหมดของนางให้เขาฟังโดยมิปิดบังนางรู้สึกว่าคนที่เคยเปิดใจให้กันคงจะมิทรยศกันง่าย ๆตราบใดที่นางจริงใจ มิปิดบังสิ่งใด นางก็จะได้รับการตอบสนองเช่นเดียวกันหลังจากที่นางพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status