Share

บทที่ 325

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
"เจ้าข้าเอ๊ย! ฉู่ลั่วผู้นี้กักขังรัฐทายาทและทำให้พ่อบ้านชราโมโหจนหมดสติไป มันเป็นคนชั่วช้าหน้าซื่อใจคด!"

ผู้คนต่างลือกันเสียงเอ็ดอึง

"ใต้เท้าจับกุมตัวมันซะ! มันบังอาจกักขังรัฐทายาท จับกุมตัวมันไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว!"

"บังอาจกักขังรัฐทายาท เซียนฉู่ผู้นี้ทำนายโชคชะตาแม่นยำเสียขนาดนั้น หรือเบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ มันจะใช้มนต์ดำ? มิฉะนั้นมันจะกักขังรัฐทายาทไปเพื่อกระไรกันเล่า?"

"โธ่ สวรรค์ ไม่มีทางเสียหรอก!"

ในยามนี้เอง เมื่อทางการทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็ส่งกำลังเสริมเข้ามา

ลั่วชิงยวนถูกล้อมเอาไว้ทันที

ส่วนคนอื่น ๆ ต่างรีบกรูกันเข้ามาในร้าน

ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปห้ามพวกเขาไว้ "มีคนป่วยอยู่ข้างใน พวกเจ้าห้ามบุกเข้าไปโดยมิได้รับอนุญาต! มิฉะนั้นอาจจะคร่าชีวิตคนได้!"

นางไม่มีทางยอมให้พวกเขาเอาตัวเฉินเซี่ยวหานไปได้หรอก

มิฉะนั้นเฉินเซี่ยวหานจะต้องตาย!

"หลีกไปให้พ้น!" เจ้าหน้าที่ของทางการผลักเธอออกไป

ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะลงมืออีกครั้ง จู่ ๆ ก็มีเสียงไอหลายครั้งดังขึ้นมาจากข้างใน

"แค่ก แค่ก แค่ก..."

ลั่วชิงยวนรู้สึกตื่นตะลึง

ตอนที่ทุกคนกำลังจะวิ่งเข้าไปในร้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 326

    น้ำเสียงพลันอ่อนลงทันที "ท่านแม่..." ลั่วอวิ๋นสี่คิดจะวิ่งหนี แต่นางเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่สองก้าว ลั่วหรงก็คว้าคอเสื้อของนางเอาไว้ "ยังจะหนีอีกรึ? เจ้าจักหนีไปที่ใดกันเล่า?" ในยามนี้เอง ลั่วหลางหลางก็ตามมาด้วยความร้อนใจแล้วรีบคว้าแขนของลั่วหรงเอาไว้ "ท่านแม่ ที่นี่มีคนมากเกินไป ได้โปรดไว้หน้าอวิ๋นสี่ด้วยเถิด" "ได้สิ ข้าจักไว้หน้าเจ้าเอง!" ลั่วหรงบิดหูของลั่วอวิ๋นสี่แล้วลากอีกฝ่ายเข้ามาในร้าน นางกล่าวกับลั่วชิงยวนว่า "คุณชายฉู่ ขออภัยที่รบกวน วันนี้ข้าคงต้องขอยืมร้านของท่านเพื่อลงโทษบุตรีแล้ว!" เมื่อพูดจบ ลั่วอวิ๋นสี่ก็ถูกลากเข้ามาในลานเรือนแล้วออกคำสั่งเสียงขรึมว่า "คุกเข่าลง!" ในร้านของฉู่ลั่วมีหลายคนกำลังเฝ้ามองดู ลั่วอวิ๋นสี่จึงไม่ยอมคุกเข่าลงพลางกล่าวด้วยท่าทีดื้อรั้นว่า "ข้าไม่ทำ!" "เมื่อคราวที่แล้วข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร? เจ้ามิได้เรียนรู้อันใดเลยใช่หรือไม่! สวีซงหย่วนเอายาอันใดให้เจ้ากิน ถึงทำให้เจ้ายอมขายตัวเองเพื่อมันเช่นนี้?" "ไม่ช้าก็เร็วทั้งตระกูลคงต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของเจ้าเป็นแน่!" ลั่วหรงเองก็ล่วงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เช่นกัน ลั่วอวิ๋นสี่เถียงก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 327

    นางหวังว่าการตายของตนจะทำให้เรื่องทั้งหมดนี้จบสิ้นลง นางหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง …… ภายในร้าน ฟู่เฉินหวนพิงพนักเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน พลางมองเฉินเซี่ยวหานที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้มว่า "รัฐทายาทเฉินล่วงเกินผู้ใดบางคนเข้าหรือไม่? ยามที่เห็นความอยุติธรรมเพียงแค่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ กลับตกเป็นเป้าหมายเช่นนี้จนเกือบต้องตายเสียแล้ว" เฉินเซี่ยวหานขมวดคิ้วและมีท่าทางไม่พอใจอยู่บ้าง "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการถามกระหม่อมแล้วกระหม่อมจักรู้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? เรื่องนี้คงมิใช่เคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นปุบปับกระมัง?" เฉินเซี่ยวหานจัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้เรียบร้อย ทว่าจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตรงเอวมีบางอย่างหายไป เขาจึงรีบลุกขึ้นแล้วไปค้นหาที่กลับลานเรือน ในลานเรือน ลั่วหรงยังคงสั่งสอนลั่วอวิ๋นสี่ที่กำลังเช็ดน้ำตาขนาดเท่าเมล็ดถั่ว แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้ เฉินเซี่ยวหานมิได้สนใจนัก ตอนที่เขากำลังจะกลับมาเอาของที่ห้อง เขาก็เดินผ่านห้องที่ลั่วหลางหลางกำลังพักอยู่แล้วเห็นบางอย่างกำลังแกว่งไกวอยู่ข้างใน เขาตะลึงงันไปชั่วขณะ เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบวิ่งเข้าไปในห้อง สิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือ ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 328

    "มาที่ตำหนักอ๋องสิ ข้าจักปกป้องเจ้าเอง!" วาจาหนักแน่นเหล่านี้ทำเอาลั่วชิงยวนใจเต้นอยู่สองสามครั้ง อารมณ์อันยากจะอธิบายพลันปะทุขึ้นมา ผสานเข้ากับความรู้สึกมากมายเหลือคณานับครั้นนางอยู่ในตำหนักอ๋องในฐานะของลั่วชิงยวน นางกลับมิเคยได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากของเขามาก่อน ต่อให้มีความสามารถเฉกเช่นเดียวกัน แต่นางได้เปลี่ยนตัวตนเป็นเทพพยากรณ์ไปแล้ว แต่เขากลับมาบอกว่าจะปกป้องนาง นางควรจะยินดีเช่นนั้นหรือ? ไม่ การไว้เนื้อเชื่อใจบุรุษเชื่อถือมิได้ และคำสัญญาของบุรุษยิ่งเชื่อถือมิได้เข้าไปกันใหญ่ "ท่านเอ่ยตรัสเช่นนี้กับผู้อื่นมามากมายเท่าใดแล้ว?" "มันอาจจะได้ผลกับสตรี ทว่ากลับหาได้ผลกับกระหม่อมแต่อย่างใดไม่พ่ะย่ะค่ะ" ลั่วชิงยวนเอ่ยเสียงเรียบนิ่งโดยไม่เก็บมาใส่ใจ เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา "ข้าสาบานต่อสวรรค์ได้ว่าเพิ่งจะเคยพูดเช่นนี้กับเจ้า" “ข้ามิคาดคิดว่าจะถูกปฏิเสธตั้งแต่ครั้งแรก” "ฉู่ลั่ว เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ข้าคาดเดาไม่ออกถึงเพียงนั้น" เมื่อฟู่เฉินกล่าวจบ ภาพของลั่วชิงยวนก็พลันผุดขึ้นในหัวของเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยเสริมขึ้นมาว่า "น่า… จะเป็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 329

    เมื่อลั่วหรงได้ยินเช่นนี้เข้าก็มองด้วยความรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง "ท่านเองก็คิดว่าข้ายุ่งไม่เข้าเรื่องและดึงดันที่จะแต่งบุตรีผู้แสนล้ำค่าของตนออกไปให้ได้ใช่หรือไม่?" "ถึงแม้ว่าอวิ๋นสี่จะดื้อรั้นและก่อปัญหาให้ท่านตั้งมากมาย แต่เรื่องนี้หาได้มีสาเหตุมาจากการแต่งงานของหลางหลางแต่อย่างใดไม่ อวิ๋นสี่เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก นางชอบต่อต้านข้าอยู่เสมอ!" เมื่อได้ยินวาจาของลั่วหรง อีกฝ่ายคงเข้าใจผิดคิดว่านางเจตนาที่จะเกลี้ยกล่อมมิให้เข้าไปยุ่งเรื่องการแต่งงานของลั่วหลางหลาง น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฉายแววจนใจ "ข้าหาได้โกรธผู้ใดไม่ เพียงแต่ว่าเทียบแปดอักษรที่ฮูหยินมอบให้ข้า หามีผู้ใดที่ดวงสมพงศ์กันแต่อย่างใดไม่" ลั่วหรงเอ่ยด้วยความไม่พอใจขึ้นมาว่า "เช่นนั้นถ้าให้ท่านเลือกที่ดีที่สุดมาสักคนเล่า?!" ลั่วชิงยวนตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว "ข้าเลือกมิได้ขอรับ" เมื่อลั่วหรงได้ยินเช่นนี้ก็แค่นเสียงเย็นชา จากนั้นก็เก็บเทียบแปดอักษรกลับคืนมา "ช่างเถิด ข้าคงมิรบกวนเซียนฉู่อีกแล้ว ข้าจักไปหาผู้ที่มีความสามารถมากกว่านี้แทนก็แล้วกัน!" ลั่วชิงยวนทอดถอนใจ การที่ลั่วอวิ๋นสี่มีอุปนิสัยดื้อรั้นดูเหมือนจะได้รั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 330

    ลั่วชิงยวนตะลึงงันแล้วมองนางอย่างไม่เชื่อสายตา "นี่คือเทียบแปดอักษรระหว่างเจ้ากับรัฐทายาทเฉินเช่นนั้นหรือ?" ซ่งเชียนฉู่ผงกศีรษะด้วยความเขินอาย "เขามอบให้ข้าก่อนที่จะจากไป ทั้งยังบอกให้ข้าเอามาให้ท่านตรวจดูด้วย" เมื่อได้ยินเช่นนี้เข้า ลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นตะลึง เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนเลย คงมิใช่เรื่องบังเอิญขนาดนั้นกระมัง? หรือว่าคนในใจของลั่วหลางหลางก็คือรัฐทายาทเฉิน? นางมีใจให้รัฐทายาทเฉินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน... "เป็นกระไรหรือ? ถึงแม้ข้าจะรู้ว่าออกจะเสียมารยาทไปบ้าง แต่ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ทางที่ดีช่วยตรวจดูให้ทีว่าพวกเราสองคนดวงสมพงศ์กันหรือไม่ หากพวกเรามิใช่คู่รักกัน ข้าจะได้เลิกราเสียแต่เนิ่น ๆ" เมื่อซ่งเชียนฉู่เห็นลั่วชิงยวนหาได้กล่าววาจาใด นางก็อดมิได้ที่จะต้องอธิบายออกมา ลั่วชิงยวนส่ายหน้าด้วยความจนใจ "ขอข้าดูหน่อยเถิด" นางค่อย ๆ ตรวจดูความเข้ากันได้ของเทียบแปดอักษรทั้งสองแผ่น จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ถึงแม้จะไม่อาจเรียกได้ว่าคู่สวรรค์สร้าง แต่เทียบแปดอักษรกลับเข้ากันได้ดี" "เพียงแต่ไม่รู้ว่าการแต่งงานนี้จะดีหรือร้ายกันแน่ อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องเดินไปตาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 331

    ถามจบ พ่อบ้านเวิงเผยยิ้ม จากนั้นกุมมือคำนับ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ช่วยชี้แนะกระหม่อม จนกู้ชื่อเสียงของเซียนฉู่กลับมาได้พ่ะย่ะค่ะ” “มิเช่นนั้นในใจกระหม่อมคงรู้สึกผิดมากจริงๆ ” ฟู่เฉินหวนพยักหน้าอย่างสงบ “เรื่องเล็กน้อย มิต้องเก็บไปใส่ใจ และมิต้องนำไปบอกผู้อื่น” พ่อบ้านเวิงยิ้มตอบ “กระหม่อมเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!” ท่านอ๋องมิอยากให้พ่อบ้านเวิงบอกเซียนฉู่เสียมากกว่า ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่กัน อยากช่วย แต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาช่วย …… อย่างที่คิด วันต่อมา ก็เริ่มมีตระกูลร่ำรวย มาให้นางทำนายหรือขับไล่สิ่งไม่ดี ชื่อเสียงเซียนฉู่ ยิ่งอยู่ยิ่งโด่งดังในเมืองหลวง ย่อมเป็นเรื่องดีสำหรับลั่วชิงยวน งานที่มีเข้ามาทุกวันทำนางยุ่งเหยิงขึ้น ฟู่เฉินหวนยังคงมาเป็นบางครั้ง และนั่งทีก็นั่งเกือบวัน หากไม่มีเรื่อง ก้นของเขาแทบไม่ขยับออกจากเก้าอี้เลย แต่ส่วนมากลั่วชิงยวนก็ยุ่งกับงาน จนไม่มีเวลามาสนใจเขา บางคนมีความสุขในขณะที่บางคนโศกเศร้า ลั่วเยวี่ยอิงในตำหนักร้อนรนจนย่ำเท้ากับที่ โดยเฉพาะหลังนางเปิดผ้าคลุมหน้าออก และพบว่าแผลที่ข้างปากของตนยังไม่หาย กลางอกของนางก็รู้สึกอึดอัดเป็นที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 332

    วินาทีที่เสียงนี้ดังขึ้น ในหน้าของฉู่ลั่วสลายหายไปในพริบตา เสียงที่แสนไม่เข้ากันนี้ หญิงสาวตรงหน้าไร้ซึ่งใบหน้าอีกครั้ง หว่างคิ้วของฟู่เฉินหวนถูกกลบไปด้วยไออาฆาต เขาหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาโยนลงบนโต๊ะอย่างแรง เศษแก้วที่แตกสลายบาดผ่านฝ่ามือของเขา “ท่านอ๋อง!” ฟู่เฉินหวนบดขยี้ฝ่ามือลงไปบนเศษแก้ว ความเจ็บปวดทำให้เขาได้สติ จู่ ๆ เขาก็มองเห็นหญิงสาวตรงหน้าอย่างชัดเจน ลั่วเยวี่ยอิง! ในใจเขาลุกเป็นไฟโทสะ เขาจึงสะบัดมือออกไปอย่างแรง ลั่วเยวี่ยอิงถูกตบจนเลือดออกปาก และล้มอยู่บนพื้นอย่างแรง วินาทีนั้นในหัวของนางดังวืด ๆ และไม่ได้สติเป็นเวลานาน จนกระทั่งรองเท้าลวดลายอำพันปรากฏต่อสายตานาง นางจึงได้สติ และรีบคุกเข่าดึงชายอาภรณ์ของฟู่เฉินหวนไว้ “ท่านอ๋อง หรือท่าน… มิรักหม่อมฉันแล้วจริง ๆ หรือเพคะ?” ดวงตาของนางแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้นอยู่ภายใน พยายามอดทนไม่ให้มันไหลลงมา น่าสงสารเป็นที่สุด หน้าอกของฟู่เฉินหวนรู้สึกอึดอัด ทรมานเป็นอย่างมาก ราวกับฝ่ามือที่เขาฟาดออกไปนั้นเป็นเรื่องผิดมหันต์ เขากดหน้าอกไว้ และรีบละสายตาออกไป เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร! “ท่านอ๋อง… ช่วงนี้ เวลาที่ท่านมาหาหม่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 333

    เหยียนผิงเซียวขมวดคิ้ว “อย่าเอาแต่เอ่ยถึงคำว่าตาย มิเป็นมงคล” นางผู้นั้นยิ้มอ่อนโยน และเอ่ยอ้อนเสียงแผ่ว “รู้แล้วเจ้าค่ะ” เวลานี้เอง ด้านนอกดังเป็นเสียงเคาะประตูร้อนรน ท่าทีราวกับจะทุบให้ประตูพัง “ข้าไปดูเอง” เหยียนผิงเซียววางถ้วยยาลง ห่มผ้าห่มให้นาง จากนั้นลุกไปที่หน้าประตู เมื่อเหยียนผิงเซียวเปิดประตู ก็มีร่างบางตะครุบใส่อ้อมอกของเขาอย่างแรง เหยียนผิงเซียวตกใจ เขารีบมองไปด้านนอก ลากคนเข้ามาในห้องและปิดประตูลง “เจ้ามาได้อย่างไรกัน ดึกดื่นเช่นนี้ มิกลัวคนเห็นรึ?” เหยียนผิงเซียวติคนตรงหน้าด้วยคิ้วที่ขมวด ใบหน้าอึดอัดของลั่วเยวี่ยอิงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา นางตะครุบใส่อ้อมอกเขาอีกครั้ง “ผิงเซียว ข้าทำมิได้ ข้าทำมิได้จริง ๆ” “เจ้าเลิกให้ข้าไปยั่วยวนเขาได้หรือไม่ มิใช่ว่าเจ้ามิรู้เสียหน่อยว่าเขาเป็นคนยังไง ข้าจักทำสำเร็จง่าย ๆ ได้อย่างไร” เหยียนผิงเซียวมองบนใบหน้านางที่เห็นได้ชัดว่าโดนตบมา จึงถอนหายใจพร้อมกล่าว “ข้ามิได้ให้เจ้านอนกับเขาจริง ๆ เจ้าวางยาเขาแล้ว เพียงถอดอาภรณ์ของเขาออกก็พอ” “ให้เขาคิดว่าเขาเป็นผู้ช่วงชิงความบริสุทธิ์ของเจ้า เช่นนั้นเจ้าจักคงตำแหน่งในใจของเขา

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status