공유

บทที่ 312

작가: หว่านชิงอิ๋น
วินาทีที่ลั่วชิงยวนรู้สึกความตายมาเยือน

จู่ ๆ มีลำแขนที่ทรงพลัง โอบเอวของนางไว้ ภาพฟ้าดินตรงหน้าเริ่มหมุน ร่างของนางแนบอีกฝ่ายไว้แน่น และยืนบนพื้นได้อย่างมั่นคง

วินาทีที่เกยตามอง ลั่วชิงยวนตะลึง

แม้แสงจะหรี่ลับมาก แต่นัยน์ตาของเขาราวกับประดับไปด้วยดวงดาวบนฟ้า

ทำนางตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อได้สติอีกที นางรีบผลักฟู่เฉินหวนออกในทันที และเว้นระยะห่างกับเขาอย่างร้อนรน

ลมหนาวโบกพัด แต่ใบหน้าของนางกลับร้อนผ่าว

แต่แล้วนิ้วมือยะเยือกนั้นกลับยื่นเข้ามาอย่างกะทันหัน ผ่านผ้าคลุมหน้า และแนบลงบนคอของนาง

สัมผัสเย็น ๆ ที่ลั่วชิงยวนไม่คุ้นชิน ทำร่างของนางสั่นคลอน นางหักหลบในทันที “ท่านทำกระไร!”

ฟู่เฉินหวนเห็นการตอบสนองของนาง จึงเลิกคิ้ว และเผยเลือดที่ปลายนิ้วให้นางดู

ลั่วชิงยวนจับไปที่คอของตน สถานการณ์คับขันเมื่อครู่ทำนางมีบาดแผลจริง ๆ แต่โชคดีที่แผลไม่ลึกนัก

นางรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าห่อแผลไว้

ทิศไม่ไกล สวีซงหย่วนเห็นฟู่เฉินหวน เขาแอบด่าพึมพำทีหนึ่ง “บัดซบ!”

“พวกเราถอย!”

พวกเขามิใช่คู่ต่อสู้ของอ๋องผู้สำเร็จราชการ!

สู้ให้ถูกจับไปสอบปากคำ พวกเขาหนีไปก่อนยังดีเสียกว่า

พวกสวีซงห
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 313

    เมื่อตอนลุกยังมองไปทางลั่วชิงยวนด้วยแววตาแฝงความนัย “ร่างกายของท่านเซียนฉู่ ต้องกินเนื้อให้มากจริง ๆ ผอมเกินไปแล้ว!” ลั่วชิงยวนจับข้อมือ ในใจของนางกังวล อย่าบอกหนาว่าเขารู้ว่านางเป็นสตรีแล้ว ไม่น่าเป็นอะไรใช่ไหม? หุ่นของนางในตอนนี้แตกต่างจากนางในอดีตอย่างมาก ฟู่เฉินหวนมิมีทางนึกถึงนางแน่ เมื่อรถม้ากลับถึงในเมือง แม้จะเป็นคืนฤดูเหมันต์ แต่ใกล้ปีใหม่ รอบด้านเมืองต่างประดับไปด้วยโคมไฟ ที่เพิ่มความครึกครื้นให้กับเมือง ให้คืนฤดูเหมันต์มิรู้สึกเหน็บหนาวมากเช่นนั้น เข้ามาถึงในเมือง ความกดดันจากเรื่องที่พบนอกเมืองของนางจึงสลายไปจนสิ้น กลับถึงหน้าร้าน ลั่วชิงยวนกระโดดลงจากรถม้าและวิ่งไปที่หลังเรือนทันที เห็นจือเฉาที่อยู่หลังเรือน นางรีบผลักนางออกจากประตูหลังทันที “ท่านอ๋องเสด็จมา หนำซ้ำจะเสวยมื้อดึกที่นี่อีก เจ้าไปซ่อนตัวในโรงเตี๊ยมก่อน!” จือเฉาฉงน “เจ้าคะ? ท่านอ๋องเสด็จมาหรือ?” “เช่นนั้นบ่าวจักกลับมาได้เมื่อไรหรือเจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนเองก็ไม่รู้ว่าฟู่เฉินหวนจะอยู่นานเพียงใด นางจึงตอบ “ค่อยกลับมาพรุ่งนี้ก็ได้ แต่เจ้าต้องระวังห้ามให้คนในตำหนักอ๋องเห็นเจ้าโดยเด็ดขาด” จือเฉาพยั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 314

    สิ้นประโยคนี้ ทั้งสามที่ได้ยินต่างตกตะลึง ลั่วชิงยวนและซ่งเชียนฉู่มองไปทางเฉินเซี่ยวหานโดยมิได้นัดหมาย “ท่านนี้ คือรัฐทายาท(1)เสนาบดีฝ่ายเหนือ! มิใช่คุณชายธรรมดาทั่วไป” ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลง และมองไปทางเฉินเซี่ยวหานด้วยแววตาแฝงความนัย เสนาบดีฝ่ายเหนือและมหาราชาจารย์เหยียนเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน เสนาบดีฝ่ายเหนือต้องคอยคุ้มครองเขตแดนทิศเหนือ จึงฝากรัฐทายาทแห่งตระกูลไว้กับตระกูลเหยียน การที่เฉินเซี่ยวหานปรากฏตัวที่ร้านโอสถเล็ก ๆ เพราะชื่อเสียงของท่านเซียนฉู่ เป็นเช่นนี้จริงหรือ? ใบหน้าของเฉินเซี่ยวหานแข็งทื่อ จากนั้นก็เผยยิ้ม และหันมามองทีหนึ่ง “กระหม่อมก็คิดว่าท่านอ๋องจะปิดบังความลับเล็ก ๆ นี้ให้เสียอีก ท่านพูดออกมาก็ไม่สนุกแล้วกระมัง!” สายตาล้ำลึกของฟู่เฉินหวนประเมินเฉินเซี่ยวหาน มุมปากของเขายกเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “ได้ยินมาว่าท่านรัฐทายาทเก่งกาจด้านการกินการเที่ยว ที่ที่มีเรื่องสนุกให้เล่นภายในเมืองหลวง ท่านรัฐทายาทต่างไปมาหมดแล้ว” “มิคิดว่าท่านรัฐทายาทจะทำอาหารเป็นเสียด้วย” เฉินเซี่ยวหานตอบด้วยท่าทีธรรมชาติ “เมื่อก่อนตอนอยู่เขตแดนเหนือ เนื้อย่างเป็นสิ่งที่กินบ่อยที่สุด เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 315

    เมื่อไฟลุกแรงขึ้น พวกเขาจึงเริ่มย่างเนื้อ ไม่นานนัก กลิ่นหอมก็ลอยออกมา หนังที่ถูกย่างจนน้ำมันเดือดเป็นเสียงฟู่ ๆ น่ากินจนน้ำลายสอ “หอมนัก ที่นี่มิมีเหล้าได้อย่างไรกัน ข้าไปซื้อเหล้าก่อน!” เฉินเซี่ยวหานลุกจากไปในทันที เฉินเซี่ยวหานจากไป แต่แก้มของซ่งเชียนฉู่ยังคงร้อนผ่าว ๆ นางจึงใช้ข้ออ้างดูกับแกล้มในครัวว่าเย็นหรือยังเพื่อลุกจากไป ในลานเหลือเพียงฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนที่นั่งกันอยู่สองคน รอบด้านเงียบเสียจนสามารถได้ยินเสียงของฟืนที่กำลังถูกไฟแผดเผา จู่ ๆ ในหัวของลั่วชิงยวนก็คิดถึงภาพคืนนั้นหลังจากที่นางถูกดิ่งลงแม่น้ำ ก็เงียบสงัดเช่นนี้เช่นกัน ช่วงที่นางอยู่กับฟู่เฉินหวนได้แบบสงบนั้น สามารถนับครั้งได้เลย จู่ ๆ ด้านข้างนางก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “รัฐทายาทเฉินปรากฏตัวบังเอิญเกินไป ระวังเขาจะมีจุดประสงค์อื่นต่อแม่นางซ่ง” ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย นางหันหน้าไปมองท่าทีจริงจังของฟู่เฉินหวน แสงไฟกระพรืออยู่นัยน์ตาของเขา ใบหน้าของเขางดงามเสียจนผู้คนต้องมองซ้ำอย่างอดมิได้ “ขอบพระทัยที่เตือนพ่ะย่ะค่ะ” ลั่วชิงยวนเองก็รู้สึกว่าการปรากฏตัวของรัฐทายาทนั้นแปลก ท่าทีในวันนี้ของสวีซง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 316

    ร่างสูงโปร่ง! เห็นได้ชัดว่าเป็นบุรุษ! ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าห้องทันที เมื่อเห็นนางจู่ ๆ ก็รีบรีบร้อนขึ้นมา ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกตื่นตกใจ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? แต่เมื่อเขารีบตามมา ลั่วชิงยวนก็ปิดประตูแล้วลั่นดาล ฟู่เฉินหวนรู้สึกตกใจแล้วตบประตู "เกิดอะไรขึ้น?" ลั่วชิงยวนมองคนที่อยู่ในห้อง จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็ค่อย ๆ หันหลังมา ทั้ง ๆ ที่นางมีสายตาว่างเปล่า ทว่าดวงตากลับฉายแววสังหาร ทันใดนั้นนางก็คว้าปิ่นปักผมตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วพุ่งใส่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรีบหลบหลีกแล้วตะโกนขึ้นมาว่า "ท่านอ๋อง คอยเฝ้าฟืนไฟเอาไว้ให้ดี!" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้อง สายลมที่พัดผ่านรอยแยกของหน้าต่างทำให้แสงสว่างในห้องวูบไหว ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็เห็นทั้งสองคนกำลังต่อสู้กัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ยิ่งบอกให้เขาคอยเฝ้าฟืนไฟเอาไว้ให้ดี เขาย่อมไม่วางใจที่จะจากไป ดังนั้นเขาจึงยืนเฝ้าอยู่นอกประตูแล้วคอยเฝ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นข้างใน ตอนที่ซ่งเชียนฉู่ถือปิ่นปักผมแล้วพุ่งเข้ามาหาอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รีบใช้ปลายนิ้วคีบแผ่นยันต์ขึ้นมาพลางหลบหลีกแล้วกระโดดไปอยู่ข้างหลังซ่งเชีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 317

    หมัดเดียวก็ทำเอาเงานั้นแทบแตกฉานซ่านเซ็น เมื่อฟู่เฉินหวนที่เดินกลับไปกลับมาอยู่นอกเรือนได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจขึ้นเรื่อย ๆ แต่ชั่วครู่ต่อมา ประตูก็พลันเปิดออกอย่างแรงแล้วสายลมหม่นมัวก็พุ่งใส่หน้า ฟู่เฉินหวนยกมือขึ้นสกัดกั้น ทันใดนั้นเมื่อเขารู้สึกว่ามีบางอย่างปัดผ่านข้างตัวไป ก็ให้รู้สึกตื่นตกใจ เขาหันหลังกลับไป แต่กลับไม่เห็นสิ่งใด ทว่าจู่ ๆ ก็พลันเกิดลมกระโชกแรงขึ้นในลานเรือน แทบจะดับเปลวเพลิงในกองไฟและเชื้อฟืนไปจนสิ้น เมื่อเห็นเงาดำพยายามที่จะหลบหนีไป ลั่วชิงยวนรีบไล่ตามทันที นางใช้โลหิตวาดอักขระเวทแล้วขว้างออกไปทั่วทั้งหกทิศ พวกมันพลันลอยไปทั่วทุกสารทิศในลานเรือน ก่อให้เกิดปราการสีทองที่ปิดล้อมทุกอย่างในลานเรือนเอาไว้จนหมดสิ้น ฟู่เฉินหวนมองไม่เห็นสิ่งใด แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่คุ้นเคย เขาจึงเอ่ยถามด้วยความกังวลใจขึ้นมาว่า "ข้าควรจักทำกระไร?" ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยความยากลำบากขึ้นมาว่า "ท่านอ๋อง คอยเฝ้าเนื้อเอาไว้ให้ดี! อย่าให้ตกพื้นเพคะ!" หลังจากย่างเนื้อมาตลอดทั้งคืน ตอนนี้อาหารอันโอชะกำลังยั่วน้ำล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 318

    หุ่นเชิด! เหมือนกับวิญญาณร้ายที่เฝิงซีพบเจอไม่มีผิดเพี้ยน! แต่หุ่นเชิดตัวนี้กลับอยู่ในรูปของบุรุษผู้หนึ่ง พวกมันอยู่ด้วยกัน! พวกมันล้วนเป็นพวกเดียวกัน! ความหนาวเหน็บคืบคลานเข้าสู่จิตใจของนางราวกับอสรพิษตนหนึ่ง นางสงบจิตใจแล้วเริ่มครุ่นคิด ประการแรกคือ ของสิ่งนั้นอยู่ในจวนมหาราชครู แล้วก็มาอยู่ที่ถ้ำอสรพิษ แล้วมาอยู่กับเฝิงซี กระทั่งปรากฏอยู่ในเหตุการณ์วันนี้ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกัน ทว่าผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้กลับดูเหมือนจะเชื่อมโยงกันอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้ เฝิงซีเป็นพระสนมซึ่งเป็นสตรีของจักรพรรดิ ผู้ที่คิดจะทำร้ายเฝิงซีจะต้องเป็นคนจากวังหลวง ตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างพัวพันกันอยู่ ผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นผู้ใดกัน! พวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่? ซ่งเชียนฉู่อธิบายให้ฟังว่า "ของชิ้นนี้หล่นจากตัวพวกอันธพาลที่มาหาเรื่องข้าวันนี้ ข้าก็เลยเก็บมาด้วย" "ข้าคิดว่าถ้ามีคนคิดจะทำร้ายข้า เจ้าสิ่งนี้ก็น่าจะเป็นเงื่อนงำในการค้นหาตัวตนของผู้อื่นได้ ฉะนั้นข้าจึงนำกลับมาด้วย" ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว "ใช่ เอามาซ่อนไว้ในนี้ก็เลยทำให้ข้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 319

    "บางทีเขาอาจกลับจวนไปแล้ว หรือไม่ก็เจออะไรสักอย่างกระมัง?" ลั่วชิงยวนคาดเดา อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่รู้เรื่องรัฐทายาทเฉินผู้นี้มากนัก ซ่งเชียนฉู่วางจานลงแล้วลุกขึ้นด้วยความไม่สบายใจ "จะเกิดเรื่องขึ้นหรือไม่?" "วันนี้เขาช่วยชีวิตข้าไว้ หากคนพวกนั้นตามแก้แค้นเขาเล่า?" ซ่งเชียนฉู่รู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ขมวดคิ้ว "ก็มีความเป็นไปได้!" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็หรี่ตาแล้วเริ่มครุ่นคิด เขามีความคาดเดาในใจอยู่บ้าง เรื่องประหลาดในคืนนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่เฉินเซี่ยวหานช่วยชีวิตของซ่งเชียนฉู่หรือไม่? เรื่องนั้นเกี่ยวพันกับการลอบสังหารฉู่ลั่วหรือไม่? "ข้าจักออกไปตามหาเขา!" ซ่งเชียนฉู่ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที "ข้าไปกับเจ้าด้วย!" ลั่วชิงยวนรีบตามไป เมื่อเห็นว่าค่ำมืดดึกดื่นมากแล้ว ฟู่เฉินหวนก็ไม่อาจนิ่งดูดาย ดังนั้นเขาจึงไปกับพวกนางด้วย ในยามนี้เอง เฉินเซี่ยวหานกำลังเดินกลับไปกลับมาอยู่ในตรอกที่แลดูคุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคยอยู่ในที โดยมีหลุมดำอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ราวกับว่าเขาจะไม่มีทางหลุดพ้นความมืดมิดเช่นนี้ไปได้เลย เขาหาทางไปท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 320

    "รัฐทายาทเฉิน..." ซ่งเชียนฉู่รู้สึกตื่นตกใจ คนทั้งกลุ่มรีบเดินเข้าไปหาและพบว่าม่านตาของเฉินเซี่ยวหานเปลี่ยนเป็นทึมเทา คนก็แน่นิ่งไม่ไหวติงราวกับว่าได้สูญเสียวิญญาณของตัวเองไปแล้ว "พาเขากลับไปก่อน!" ลั่วชิงยวนรีบคว้าแขนของเฉินเซี่ยวหานเอาไว้ทันที "เซียนฉู่ เมื่อนึกถึงสภาพร่างกายของเขาแล้ว ให้ข้าแบกเขาไปดีกว่า" ฟู่เฉินหวนก้าวออกมาแบกเฉินเซี่ยวหานแล้วก้าวยาว ๆ เพื่อมุ่งหน้ากลับไป ลั่วชิงยวนกับซ่งเชียนฉู่ก็รีบตามไปด้วย หลังจากกลับมาถึงเรือน ซ่งเชียนฉู่ก็รู้สึกเป็นกังวลใจยิ่ง "รัฐทายาทเฉินจะเป็นอันใดหรือไม่?" "บอกได้ยาก!" ลั่วชิงยวนรีบเตรียมการบางอย่างแล้ววิ่งออกไปอีกครั้ง ฟู่เฉินหวนมองนางวิ่งออกมาแล้วรีบตามไป เมื่อกลับมา ณ ตำแหน่งที่พบเฉินเซี่ยวหาน ลั่วชิงยวนก็หยิบพู่กันมาจุ่มน้ำแล้ววาดเขียนลงกับพื้นดิน ฟู่เฉินหวนที่ตามมาด้วยจึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า "เจ้ากำลังทำอันใดหรือ?" "นำทางให้รัฐทายาทเฉิน" ลั่วชิงยวนยังคงขยับพู่กันต่อไปโดยไม่เงยหน้าสักนิด นางวาดอักขระไปตลอดทางกลับสู่ร้าน "เจ้าเอาแต่วาดไปทั่วทั้งถนน พรุ่งนี้ถ้ามีคนถามจะทำอย่างไรเล่า" ฟู่เฉินหวนอดมิได้ที่จะถามขึ

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status