แชร์

บทที่ 189

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“หากคุณหนูหลิวจะโกงจริง ๆ ข้าก็คงทำอะไรท่านมิได้ แต่อย่างน้อยก็ควรหาเหตุผลดี ๆ มาใส่ร้ายข้า”

พูดจบ หลิวฮุ่ยเซียงขาอ่อน ล้มพับลงพื้นอย่างรุนแรง

ลั่วอวิ๋นสี่ตกใจ รีบขึ้นไปพยุงอย่างร้อนรน “พี่หลิว!”

หลิวฮุ่ยเซียงราวกับวิญญาณถูกชักออกจากร่าง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

ร่างกายก็สั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้

รอบด้านดังเป็นเสียงซุบซิบ

แต่เพราะหลิวฮุ่ยเซียงเป็นฝ่ายพูดถึงเวินซีหลานขึ้นมาก่อน ในมุมจึงมีคนเอ่ยปากพูดขึ้นเสียงเบา “ข้านึกออกแล้ว ฮูหยินก่อนหน้านี้ของฉินไป๋หลี่ ชื่อเวินซีหลาน”

“แต่เวินซีหลานหนีไปกับชายอื่น หลิวฮุ่ยเซียงจึงขึ้นเป็นฮูหยินเอก หากเช่นนี้ นางจะขานเวินซีหลานว่าพี่ก็มิผิด”

สิ้นประโยคนี้ จึงมีคนถามขึ้นอย่างสงสัย “หนีไปกับชายอื่นหรือ? แต่ในฝันของลั่วชิงยวนบอกนางถูกคนไม่ดีใส่ร้ายมิใช่หรือ”

มุมปากของลั่วชิงยวนเผยเป็นรอยยิ้มที่สังเกตเห็นได้ยากขึ้น

เป้าหมายของนางสำเร็จแล้ว

เพียงแต่ไม่คิดว่า หลังจากที่เวินซีหลานเกิดเรื่อง จนถูกป้ายร้ายว่าหนีไปกับชายอื่นด้วย

ใครจะรู้ นางและลูกชายถูกคร่าชีวิต คุมขังอยู่ในภาพวาดและรับความทรมานจากไฟกล้าอย่างไร้ที่สิ้นสุด

นางถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 190

    “ข้าผิดไปแล้ว! ข้าขอขออภัย หวังว่าพระชายาจะมิถือสา และให้อภัยข้าเถิด!” สิ้นประโยคนี้ หลิวฮุ่ยเซียงแทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพงตาย! นางกัดฟันมองลั่วชิงยวนอย่างคับแค้น! หากแค้นนี้มิชำระ นางก็อย่าเป็นคนเสียเลย! ท้ายที่สุดนางก็คุกเข่าโขกหัวคำนับขอการอภัย ในใจลั่วชิงยวนรู้สึกสะใจเป็นที่สุด จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้แทบขาดใจของเวินซีหลาน “คุณหนูหลิวพูดจริงทำจริง” “ดังเช่นระเบียบของหอเริงรมย์ ความแค้นระหว่างเราถือว่าจบสิ้นลงแล้ว! หากหลังจากนี้คุณหนูหลิวมาหาเรื่องข้าอีก จะถือเป็นการหาเรื่องตำหนักอ๋องสำเร็จราชการ!” แววตาลั่วชิงยวนกะพริบ เห็นได้ชัดว่านางมองสิ่งที่หลิวฮุ่ยเซียงคิดในใจออก พูดจบยังมองไปทางฟู่เฉินหวนที่นั่งนิ่งอยู่อีกด้าน “ใช่หรือไม่เพคะท่านอ๋อง?“ ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวน มุมปากเขาเผยรอยยิ้มลึกซึ้ง ในใจของเขาสั่นคลอนเบา ๆ นางผู้นี้ช่างมิยอมคนเสียจริง แต่เขาก็ยังพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว “เช่นนั้นแล” เมื่อได้สติว่าตนพูดอะไรออกจากปากไป กระทั่งตัวฟู่เฉินหวนเองยังมิอยากจะเชื่อ เขาจึงกล่าวตามน้ำต่อ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหอเริงรมย์วันนี้ จบลงในหอเริงรมย์ ที่คุณหนูหลิวดูหมิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 191

    “ใช่ เจ้าควรคืนตำลึงแก่พวกข้า!” ”คืนเงินพวกข้า!” หลิวฮุ่ยเซียงถูกประชาชนประท้วงคืนเงิน นางรู้สึกอับอายจนอยากจะหาซอกดินมุดลงไปฉับพลัน เงินหนึ่งกล่องใหญ่ ๆ ถูกยกมาวางหน้าอ๋องสำเร็จราชการ “ท่านอ๋อง นี่คือเงินที่ท่านชนะพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่เฉินหวนยังมิทันรับ ลั่วชิงยวนก็ตัดหน้าเสียก่อน นางกระตุกมุมปาก “ขอบใจยิ่ง!” คนใช้ผู้นั้นเผยยิ้ม “พวกข้ามากกว่าที่ควรขอบคุณพระชายา!” พูดจบก็วิ่งออกไปทันที การพนันด้านนอก แท้จริงก็จัดขึ้นโดยหอเริงรมย์ นี่เป็นหนึ่งในวิธีหาเงิน และขยายชื่อเสียงเพื่อเรียกลูกค้าของพวกเขา “ลั่วชิงยวน” จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำของฟู่เฉินหวนดังขึ้นเบื้องหลัง แฝงความไม่พอใจเล็กน้อย แต่กลับมิได้โมโหจริง ลั่วชิงยวนหันร่าง สบเข้ากับดวงตาลึกซึ้งคู่นั้นของฟู่เฉินหวน นางกระตุกมุมปาก “ท่านอ๋อง หม่อมฉันบอกไปแล้วว่ายืม จึงถือว่าหม่อมฉันเป็นคนพนันเงิน มิใช่ท่าน!” เงินอยู่ในมือนางแล้ว ใครก็อย่าคิดแย่งไปทั้งนั้น “อีกอย่าง ท่านคงมิถือสาเงินเล็กน้อยแค่นี้กับหม่อมฉันใช่หรือไม่?” ฟู่เฉินหวนไขว้มือไว้ด้านหลัง หัวเราะเสียงต่ำทีหนึ่ง “เงินแค่นี้รึ?” ตรงหน้าอย่างน้อย ๆ ก็เป็นหมื่นตำลึงเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 192

    “เป็นเช่นไรหรือ?” ฟู่จิ่งหานถามอย่างสงสัย “เหมือนจะไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ล่ำลือ” เสียงฟู่เฉินหวนต่ำทุ้ม ฟู่จิ่งหานกล่าวไตร่ตรอง “มิเหมือนในคำล่ำลือ วันนี้ทำเอาข้าเปิดโลกเสียจริง!” “วันนี้ข้าอุตส่าห์ออกจากวัง ไปหอจิ่นชุนเป็นเพื่อนข้าเร็ว!” พูดจบก็ดึงตัวฟู่เฉินหวนไปทันที สีหน้าฟู่เฉินหวนย่ำแย่ “ท่านจะไปหอนางโลมหรือ? ท่านเป็น…” “เป็นอะไรกันเล่า ไปกันเถิด” ฟู่จิ่งหานกดเสียงต่ำ และดึงตัวฟู่เฉินหวนโดยบังคับ …… ลั่วชิงยวนกอดตั๋วเงินลังใหญ่กลับตำหนักมาอย่างอารมณ์ดี มองดูพระชายาที่กลับตำหนักมาด้วยสีหน้าหยาดเยิ้ม เฉียงเวยรีบไปรายงานข่าวให้กับลั่วเยวี่ยอิงทันที ลั่วชิงยวนกลับถึงตำหนัก หยิบตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงออกมา ยื่นให้กับแม่นมเติ้ง “เจ้าหาเวลาเอาให้ซูโหยว” แม่นมเติ้งเห็นเงินตำลึงและตั๋วเงินมากมายเช่นนี้ก็นึ่งอึ้ง “พระชายาออกไปรอบเดียวได้เงินกลับมามากเพียงนี้เชียวหรือเจ้าคะ?” “ข้าหามาได้!” ลั่วชิงยวนแยกเงินตำลึงและตั๋วเงิน พร้อมนับอย่างละเอียด ทั้งหมดหนึ่งหมื่นสามพันหกร้อยตำลึง! สำหรับลั่วชิงยวนในตอนนี้ ถือเป็นทรัพย์ก้อนยักษ์ เพียงแต่ คิดถึงลั่วอวิ๋นสี่… นางจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 193

    พูดจบ ลั่วชิงยวนจึงไปเยี่ยมลั่วหลางหลาง ลั่วหลางหลางรู้ว่านางจะมา รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จึงสั่งคนให้ไปเตรียมน้ำชาและขนมหวานทันที ”ชิงยวน!” ลั่วหลางหลางเดินเข้ามาจูงมือนางด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ลั่วชิงยวนเห็นลั่วหลางหลางใบหน้าชมพูฝาดเลือด สีหน้าค่อนข้างดี เหมือนว่าใกล้จะหายดีแล้ว “ร่างกายของพี่หลางหลางดีขึ้นแล้ว ไยถึงยังอยู่แต่ในห้องเล่า?” ลั่วชิงยวนถามอย่างสงสัย ลั่วหลางหลางกวาดตาลง “ข้า… มิได้อยากออกไปนัก” มิใช่นางมิอยากออกไป แต่นางมิกล้าออกไปต่างหาก ลั่วชิงยวนรู้อยู่แก่ใจ นางจูงมืออีกฝ่ายนั่งลง “วันนี้ข้ามีเรื่องจักมาเล่าให้ท่านพี่ฟัง” จากนั้นนางก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่ประสบในหอเริงรมย์วันนี้ ได้ยินว่าลั่วชิงยวนถูกผู้อื่นล้อขัน ลั่วหลางหลางก็ดึงแขนเสื้อไว้อย่างกังวล “พวกนางเกินไปเสียจริง!” ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ใช่ พวกนางพูดจาน่าเกลียดมาก เจ้าลองทายดูข้าทำอย่างไร?” “ทำอย่างไรหรือ?” คิ้วของลั่วหลางหลางขมวดแน่น กังวลใจเป็นอย่างมาก ลั่วชิงยวนยิ้มกล่าว “ข้าจึงเตะหลิวฮุ่ยเซียงตกน้ำ!” ลั่วหลางหลางได้ยิน รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก นางคิดมิถึงจริง ๆ ว่านิสัยอย่างลั่วชิงยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 194

    เพียะ เสียงดังชัดเจน เฉียงเวยถูกตบจนอึน และยืนนิ่งอยู่กับที่ ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาดุดัน “เจ้าลองพูดอีกรอบซิ” เฉียงเวยกุมหน้าไว้อย่างอึดอัด นางร้องไห้พร้อมมองไปทางลั่วชิงยวน “พระชายารังแกผู้อื่น! เงินนี้เป็นเงินช่วยชีวิตของคุณหนูรอง! ท่านแย่งไปเช่นนี้ คุณหนูรองจะทำเช่นไร…” ลั่วชิงยวนมองลั่วเยวี่ยอิงที่ร้องไห้เสียใจอยู่อีกด้าน หัวเราะเย็นทีหนึ่ง “เงินช่วยชีวิตงั้นรึ? เจ้าก็ลองบอกมาท่านพ่อให้เจ้ามาเท่าไร ตรงกับยอดของเงินในกล่องหรือไม่?” ลั่วเยวี่ยอิงมิโง่อยู่แล้ว นางเพียงพูดสะอื้น “ข้ารู้ว่าท่านพี่ต้องการเงิน ข้าสามารถแบ่งท่านพี่ได้ครึ่งหนึ่ง แต่ท่านพี่ช่วยเหลือให้ข้าสักนิดได้หรือไม่ ข้ายังต้องรักษาหน้า” การเอาแต่ใจที่ร้องไห้เป็นอย่างเดียว ลั่วชิงยวนเห็นจนชินแล้ว บัดนี้นางรู้สึก คนอย่างหลิวฮุ่ยเซียงยังรู้จักการถกเถียง แต่ลั่วเยวี่ยอิงนั้น เอะอะก็เอาแต่ร้องไห้ ไม่มีเหตุผลแม้แต่นิด! ลั่วชิงยวนแค่เห็นท่าทีร้องไห้ของนางก็รู้สึกขยะแขยง เสียงร้องไห้นางทำแก้วหูลั่วชิงยวนแสบไปหมด นางรำคาญจนสะบัดฝ่ามือใส่หน้านาง และตบนางล้มลงบนพื้น เฉียงเวยกระโจนขึ้นไป พร้อมตะโกนสุดเสียง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 195

    ในสมองของนางสามารถนึกภาพที่เขาโมโหนาง ตักเตือนนาง เค้นถามนาง และข่มขู่นางมิให้ไปทำร้ายลั่วเยวี่ยอิงออกเลย กระทั่งบางครั้งเขาอาจลงโทษนาง เพื่อเอาคืนให้กับลั่วเยวี่ยอิง ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนหลับตานึกคิด เรื่องบางเรื่อง เขาจำเป็นต้องถามให้ชัดแล้ว ท่าทีไร้ประโยชน์ของลั่วชิงยวนก่อนหน้านี้ นางแกล้งทำงั้นหรือ? ภาพวาดในวันนี้ นางวาดออกมาได้เช่นไร แล้ววันนั้นที่จู่ ๆ ลั่วเยวี่ยอิงก็เสียสติ เป็นฝีมือของนางหรือไม่? บนตัวลั่วชิงยวน มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ทั้งคู่คิดเรื่องที่แตกต่างจนสติหลุด จนลั่วชิงยวนมาถึงในห้องตำรา รอบด้านเต็มไปด้วยความเงียบ ลั่วชิงยวนมองเขานิ่ง ๆ “ฟู่เฉินหวน” ฟู่เฉินหวนกำลังจะเอ่ยปาก มิคิดว่าลั่วชิงยวนจะพูดขึ้นเสียก่อน ใบหน้าที่แสนนิ่งสงบของนาง พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงไม่แฝงความรู้สึก และชัดถ้อยชัดคำ “หย่าหม่อมฉันเถิด” เมื่อพูดจบ หัวใจของฟู่เฉินหวนกระตุก ราวกับมีสายฟ้าระเบิดที่กลางหัวของเขา สีหน้าของลั่วชิงยวนมิเหมือนวันก่อน ๆ นางในวันนี้ นัยน์ตามิมีโทสะ และมิมีความเจ็บใจ มีเพียงความสงบ ความสงบที่ล้ำลึก ทำคนมองอารมณ์ของนางตอนนี้ไม่ออก แต่กลับจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 196

    ”ลั่วชิงยวน ตั้งแต่ตอนที่เจ้าฝืนเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ เจ้าก็ทำอะไรตามใจอยากมิได้แล้ว”เขาพูดอย่างเด็ดขาดชัด ๆ ทีละคำ “อยากให้ข้าเขียนหนังสือหย่ารึ? ฝันไปเถอะ”หลังจากที่ได้พูดปฏิเสธไปอย่างหนักแน่นเช่นนั้น หน้าอกของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดบีบรัด มีกลิ่นคาวของเลือดพลุ่งขึ้นมาในปากและเขาพยายามกดข่มมันเอาไว้ลั่วชิงยวนมองแววตาเด็ดขาดของเขาและรู้สึกหนาวเหน็บในใจ เขาต้องการทรมานนางจนถึงตายเลยหรืออย่างไร?นางยิ้มเย็นชา “บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าท่านอ๋องไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล แม้ท่านจะไม่มีเหตุผลที่จะปกป้องลั่วเยวี่ยอิง แต่ข้าก็ยังรู้สึกว่าท่านก็แค่หลงเล่ห์ของนางเท่านั้น”“เห็นชัดว่าท่านทำให้หม่อมฉันสับสนนัก ท่านมิให้หนังสือหย่าหม่อมฉัน แต่ท่านก็ยังกักขังหม่อมฉันไว้เพราะการสลับตัวแต่งงานอย่างนั้นหรือ?”“ฟู่เฉินหวน หม่อมฉันมองท่านผิดไปจริง ๆ”นางไม่ควรมีความคิดว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเขาเลย เขาเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการของแคว้นเทียนเซวีย เป็นท่านอ๋องผู้ไร้ปรานีเมื่อพูดจบ ลั่วชิงยวนก็หันหลังจากไปอย่างฉุนเฉียวฟู่เฉินหวนอดกลั้นโทสะเอาไว้ในใจจนสุดท้ายไม่สามารถทนเก็บกักเลือดในปากต่อไปได้จนต้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 197

    ตอนที่เทียบถูกส่งเข้ามาที่ห้องตำราของฟู่เฉินหวน บนโต๊ะก็มีเทียบกองอยู่นับสิบใบแล้วฟู่เฉินหวนไม่ได้เปิดดู สีหน้าเขาก็มืดครึ้มซูโหยวพูดเสียงขรึม “วันนี้เจ้ากรมหลิวเพิ่งยื่นฎีการ้องเรียนพระชายาไปตอนเช้า ตอนนี้ก็มีคนมาหานางมากมาย นี่เป็นเพราะหญิงงามซีหลานหรือว่ามีเจตนาอื่นกันแน่”แววตาฟู่เฉินหวนเย็นชา เขาพูดเบา ๆ ว่า “พวกเขาหาประโยชน์จากข้ามิได้ ดังนั้นเลยมุ่งเป้าลั่วชิงยวน”“นี่ไม่ใช่เพราะว่าบุตรสาวของเขาแพ้พนันให้กับลั่วชิงยวนแล้วเกิดอับอายขึ้นมาหรอกหรือ แต่เขาบอกว่า หลิวฮุ่ยเซียงนั้นถึงกับล้มป่วยหนักเป็นตายเท่ากัน เขาทำให้เป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังแน่”ยิ่งได้ยินเช่นนี้ซูโหยวยิ่งร้อนใจ “พวกเขาจะทำร้ายพระชายาหรือ…”“ปฏิเสธเทียบเชิญไปให้หมด ห้ามใครเข้าพบทั้งนั้น แล้วก็ไม่ต้องรับเทียบเชิญจากใคร” แววตาฟู่เฉินหวนมืดครึ้ม เขาชำเลืองมองกองเทียบบนโต๊ะ“พ่ะย่ะค่ะ”……แม่นมเติ้งปลุกลั่วชิงยวนให้ตื่นจิ่นชูนางกำนัลของไทเฮามาขอพบ หลังจากที่ลั่วชิงยวนล้างหน้าล้างตาเสร็จ นางก็รีบออกไปที่ห้องโถงในห้องโถงรับแขก นางกำนัลจิ่นชูนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เมื่อนางเห็นลั่วชิงยวนเข้า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status