Share

บทที่ 157

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนกำลังชนประตูอย่างสุดกำลัง เมื่อครู่นางได้ยินเสียงประตูดังเอี๊ยด และประตูคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

นางรวบรวมแรงทั้งหมด พุ่งชนขึ้นไปอย่างไม่คิดชีวิต

การโจมตีครั้งสุดท้าย!

ขณะนั้นเอง จู่ ๆ มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

ขาข้างหนึ่ง ตกสู่สายตาของนางและเตะไปที่ประตูอย่างแรง

แรงจนประตูหักทั้งบาน

ลั่วชิงยวนที่กำลังชนประตู ปลิวกระเด็นออกไปทั้งร่าง

ฟู่เฉินหวนตกใจเล็กน้อย ยื่นมือจะดึงนาง แต่เขาประเมินน้ำหนักของลั่วชิงยวนต่ำเกิน ร่างของฟู่เฉินหวนเองก็กระเด็นออกไปด้วย

ทั้งคู่ล้มกระแทกกับพื้นอย่างหนัก

ทันทีที่ฟู่เฉินหวนล้มลง ริมฝีปากของเขาชนเข้ากับจมูกของลั่วชิงยวน

ไม่ทันตั้งตัว ใบหูของลั่วชิงยวนแดงก่ำ แก้มสองข้างพลันร้อนรุ่มขึ้นมาเช่นกัน

“ฟู่เฉินหวน!” นางจ้องเขาเคือง ๆ

ฟู่เฉินหวนเองก็รู้สึกอึดอัด แต่ภายนอกเขากลับสงบ สีหน้าของเขาเรียบเฉย พลิกตัวและนอนราบกับพื้นทันที

“เจ้ามันสร้างปัญหาเก่งเสียจริง ด้วยความสามารถของเจ้ายังคิดจะจับคนอีก ข้าว่าเจ้าตั้งใจทำอีกฝ่ายตื่นตัวเสียมากกว่า” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนไม่พอใจ

ในมุมมองของเขา ทั้ง ๆ ที่มีวิธีในการจับตัวนักทำนายชะตาที่ดีกว่านั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
jing jai
ก็บอกแล้วนางเอกสมองทึบ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 158

    “ลั่วชิงยวน!” “ลงไปเดี๋ยวนี้!” ลั่วชิงยวนกำลังจะเอ่ยปาก แต่มีเสียงเย็น ๆ และตกใจเล็กน้อยแทรกเข้ามาก่อน… “ชิงยวน เสด็จพี่…” ลั่วชิงยวนชะงัก นางเงยหน้า เห็นลั่วอวิ๋นโจวกำลังเดินมาทางนี้ มองดูท่าของพวกเขาทั้งสอง สีหน้าของเขาเก้กังเล็กน้อย จากนั้นจึงรีบหันหน้าไป ฟู่เฉินหวนเพียงได้ยินเสียงก็รู้ได้ว่าเป็นใคร น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมลง “ยังไม่ลุกอีก!” ลั่วชิงยวนยันร่างที่เจ็บปวดลุกขึ้น ฟู่เฉินหวนลุกขึ้นตามทันทีเช่นกัน ฟู่อวิ๋นโจวจึงหันร่าง กล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล “เสด็จพี่ ชิงยวน พวกท่านมิเป็นไรกันใช่ไหม?” คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดเล็กน้อย เขาตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” “ข้ามาหานักทำนายชะตาท่านนั้น ข้าได้ยินว่าเขาอาศัยที่นี่ แต่…” ฟู่อวิ๋นโจวมองไปทางบ้านที่กำลังลุกไหม้อยู่เบื้องหลังพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ “เจ้ามาได้มิถูกเวลานัก เขาไม่อยู่แล้ว” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนิ่งเรียบ พูดจบเขาก็ก้าวขาจากไป ขณะนี้เอง หัวของฟู่เฉินหวนรู้สึกหนักอึ้ง และล้มลงที่พื้นอย่างแรง “เสด็จพี่!” ฟู่อวิ๋นโจวร้องตะโกนด้วยใบหน้าซีดเผือด แต่ลั่วชิงยวนกลับพยุงฟู่เฉินหวนไว้อย่างไหวพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 159

    ฟู่อวิ๋นโจวฟังออกว่านางกำลังล้อเล่น แต่กลับอดยิ้มมิได้ “งั้นข้าต้องหาวิธีหาตัวเขาใหม่” “ก่อนหน้านี้ที่ข้าสืบข่าวเขา ได้ยินว่าเขามีบ้านที่นอกเมืองด้วย ที่นี่ถูกเผา เขาอาจย้ายไปอยู่ที่บ้านนอกเมือง ถึงเวลาเจ้าค่อยไปทำนายกับเขา” ฟู่อวิ๋นโจวพูดอย่างใจดี ดวงตาของลั่วชิงยวนเป็นประกายขึ้นมาในทันที มีบ้านนอกเมืองงั้นหรือ? เจ้านี่อาจหลบไปที่นอกเมืองจริง ๆ ! “นอกเมืองที่ใดหรือเพคะ? ท่านบอกที่อยู่หม่อมฉันเถิด หม่อมฉันจะรีบไปหาเขา!” หากรีบไป บางทีอาจจับตัวเจ้านั่นได้! เพื่อสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำร้ายท่านมหาราชครูให้เจอ! ฟู่อวิ๋นโจวไตร่ตรอง ส่ายหัวทีหนึ่ง “เรื่องนี้ข้าจำมิค่อยได้แล้ว ที่อยู่ค่อนข้างเปลี่ยวลับ เดี๋ยวข้ากลับตำหนักไปดูอีกที” “เพคะขอบพระคุณท่านมาก!” “ระหว่างเรา มิต้องกล่าวขอบคุณหรอก” เมื่อกลับถึงตำหนักอ๋อง ซูโหยวรีบเดินมาช่วยแบกฟู่เฉินหวนเข้าไปในห้อง ลั่วชิงยวนกำลังจะก้าวเข้าห้อง ร่างข้าง ๆ กลับตะครุบเข้าไปก่อน ตามด้วยเสียงร้อนใจ “ท่านอ๋อง…” ลั่วเยวี่ยอิงตะครุบไปบนเตียง และร้องไห้ขึ้นมา “ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไปเพคะ? เหตุใดจึงบาดเจ็บหนักเช่นนี้…” เวลานี้ ห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 160

    ทันทีที่ออกจากตำหนัก ลั่วชิงยวนก็เช่ารถม้าคันหนึ่งและไปตามที่อยู่ที่ฟู่อวิ๋นโจวให้มาทันที เพราะนางมิคุ้นเคยกับเส้นทาง ดังนั้นเมื่อออกจากตำหนักนางหาอยู่นานมาก จึงยืนยันตำแหน่งได้ ตำแหน่งของนักทำนายชะตาคนนั้นเปลี่ยวร้างมาก รถม้าเข้าไปมิได้ นางจึงได้แต่ลงจากรถม้าและเดินเข้าไปเอง เดินผ่านผืนป่า เห็นบ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่หลังป่าไผ่ บรรยากาศที่นั่นเงียบสงบ ภายในเรือนยังมีเสียงตัดฟืนส่งมา ดูท่านักทำนายชะตาคนนั้นจะอยู่ที่นี่! ในใจของลั่วชิงยวนรู้สึกดีใจ นางรีบวิ่งเข้าไปทันที ขอเพียงแค่เขายังอยู่ ไม่ถูกใครฆ่าปิดปากไปเสียก่อน! แต่แล้วนางไม่รู้ ฟู่เฉินหวนเองก็ตามนางมาจนถึงที่นี่ และอยู่หลังนางในทิศไม่ไกล! เอี๊ยด… ลั่วชิงยวนผลักประตูบ้านออก นักทำนายชะตาที่กำลังตัดฟืนเพื่อเตรียมต้มยาเงยหน้ามองทีหนึ่ง และตกใจจนใบหน้าถอดสีทันที “ทำไมจึงเป็นเจ้า? เจ้าหาที่นี่เจอได้อย่างไร?” ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าอย่างไว พร้อมกับปิดประตูลงทันที นางถามเอ่ยเสียงเย็น “หว่างคิ้วของเจ้าก่อเป็นลางมรณะแล้ว เจ้าเองก็ดูดวงเป็น คงรู้สึกได้ว่าตนเองกำลังจะเจอเรื่องเลวร้ายแล้วใช่หรือไม่เล่า?” ลั่วชิวยวนรู้ว่าต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 161

    สายตาของลั่วชิงยวนครบกริบ นางดึงคอเสื้อของนักทำนายชะตาไว้ “เห็นหรือยัง! ต่อให้เจ้าใส่ร้ายข้า คนที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ปล่อยเจ้าไปอยู่ดี!” วางแผนถึงตัวนางงั้นหรือ? นางจักต้องถามออกมาให้ได้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร! นักทำนายชะตามองแมลงที่ถูกทุบจนเละ ในใจของเขาสั่นคลอน แต่นัยน์ตากลับฉายแววเด็ดขาด “ตกในมือเจ้า จะมีจุดจบ ดี ๆ งั้นรึ?” สิ้นเสียง เขาก็กัดพิษที่ซ่อนไว้ในปากจนแตกทันที สายตาของลั่วชิงยวนเย็นลง รู้ตัวทันทีว่าเขาอยากกัดพิษฆ่าตัวตาย จึงเหวี่ยงหมัดเข้าไปอย่างแรง แรงเสียจนนักทำนายชะตาหน้าเบี้ยว ฟันหลุดไปสองซี่ ยาพิษเองก็หล่นออกจากปาก ฟู่เฉินหวนเห็นเข้า เขาขมวดคิ้วอย่างแรง การตอบสนองอันว่องไวนี้ มิเหมือนคุณหนูตระกูลชั้นสูงธรรมดาคนหนึ่ง นางโดนใส่ร้ายจึงอยากยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง หรือนางกำลังถือโอกาสแลกความเชื่อใจจากเขากันแน่? ลั่วชิงยวนหยิบเชือกมาเส้นหนึ่งมัดตัวนักทำนายชะตาไว้ พร้อมกับกล่าวเย็น ๆ “อย่าคิดจะตาย!” “ในเมื่อเจ้ามิยอมให้ความร่วมมือดี ๆ งั้นคงต้องให้เจ้าได้รับความทรมานหน่อยเสียแล้ว” นางผลักนักทำนายชะตาให้เดินออกไปทางด้านนอก จนมาถึงด้านหน้าฟู่เฉินหวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 162

    คิ้วของลั่วชิงยวนกระตุก นางดึงตัวนักทำนายชะตาหมอบลงกับพื้น ลูกธนูแหลมคมทะลุผ่านกำแพงรถม้าทันที หัวใจของฟู่เฉินหวนบีบรัด เขาหวั่นเกรงเล็กน้อย และเปิดประตูรถม้าตรวจดูอย่างว่องไว สายตาของเขาตกอยู่บนตัวลั่วชิงยวน แต่เมื่อลั่วชิงยวนเงยหน้า สายตาเขากลับกวาดไปทางนักทำนายชะตาเสียแล้ว ยืนยันว่าอีกฝ่ายยังรอดชีวิต เขาหันหน้า ดึงเชือกควบม้าในทันที “นั่งให้ดีล่ะ!” แส้ฟาดไปบนก้นม้า ม้าร้องกังวานทีหนึ่ง จากนั้นก้าวขาวิ่งไปทางด้านหน้าอย่างไว วินาทีนั้น ลั่วชิงยวนที่อยู่ในรถม้าลำตัวกระเด็นขึ้นลง ส่วนนักทำนายชะตาก็กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในรถม้า พวกเขาควบคุมร่างกายของตนไม่ได้แม้แต่นิด ฟิ้ว ๆ ๆ … ลูกธนูมากมายยิงมาทางรถม้าของพวกเขาราวกับสายฝน ลั่วชิงยวนต้องพยายามทรงตัว และคอยดึงตัวนักทำนายชะตาหลบลูกธนู เจ้านี่จะตายไม่ได้เด็ดขาด หากเขาตายนางยิ่งอธิบายไม่ได้ไปใหญ่เลย! “สวรรค์ สะเทือนเยี่ยงนี้ ให้ข้าออกไปตายเถิด!” นักทำนายชะตารับแรงสะเทือนไม่ไหว และกำลังจะอ้วกออกมา “อย่าคิดจะได้ตายง่าย ๆ!” ลั่วชิงยวนกดเขาไว้ที่พื้น น้ำหนักครึ่งตัวของนางทับเขาไว้ จนเขาปีนออกไปไม่ได้อีก ระหว่างทางหลบหนี ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 163

    เมื่อนางพูดถึงตรงนี้ ร่างของนักทำนายชะตาสั่นเป็นเจ้าเข้า มิรู้เพราะความเจ็บปวดหรือเพราะกลัวในสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดกันแน่ เมื่อถึงเวลานี้ ในที่สุดเขาจึงเอ่ยปากสั่น ๆ “ข้าพูด! ข้าพูดได้!” “ผู้นั้นคือ…” ลั่วชิงยวนรับรู้ถึงความอันตราย นางหลบหลีกทันขวัญ ลูกธนูลูกหนึ่งยิงจากทิศบนเข้ามาในรถม้า และยิงไปโดนบ่าขวาของนักทำนายชะตา ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนตรวจสอบบาดแผลของนักทำนายชะตา โชคดีที่มิได้โดนจุดสำคัญ มิอันตรายถึงชีวิต บรรยากาศเงียบสงัดลง และเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ด้านนอก ชายชุดดำสามสี่สิบคนวิ่งตามจนถึงที่นี่ ในมือถืออาวุธไว้หลากหลายชนิด นอกรถม้า เสียงที่ฟู่เฉินหวนกระโดดลงจากรถม้าเบา ๆ พร้อมกับน้ำเสียงที่แสนหยิ่งทะนงของเขา “ปรากฏตัวเสียที” ลั่วชิงยวนเปิดประตูรถม้าออกอย่างคิ้วขมวด ก็พบกับนักฆ่าชุดดำที่อยู่สี่ทิศแปดด้าน แต่ท่าทีใจเย็นและนิ่งเฉยของฟู่เฉินหวน กลับเต็มไปด้วยไอข่มเหง เขาหันหน้ามองนางทีหนึ่ง จากนั้นมองไปที่ใต้รถม้า มิได้เอ่ยพูดสิ่งใด แต่ลั่วชิงยวนกลับเข้าใจความหมายของเขา คือให้ไปหลบอยู่ที่ใต้รถม้า วินาทีต่อมา เหล่าคนชุดดำกรูโจมตีพร้อมกัน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 164

    ศพกระจายเต็มพื้น! และกองกันเป็นสันเขาเล็ก ๆ แค่ปีนออกไปนางยังทำมิได้ นางผลักศพออกอย่างยากลำบาก ร่างที่หนาใหญ่ของนางมุดออกมา ก็เห็นแผ่นหลังที่ไร้พันธะและดุดันของฟู่เฉินหวนทันที เขาสะบัดดาบยาว แทงไปที่ลำคอของนักฆ่าชุดดำตรง ๆ นักฆ่าคนสุดท้ายก็ตายแล้ว! เขาโยนดาบยาวที่เปื้อนไปด้วยเลือดทิ้ง เดินมือไขว้หลังเข้ามา แสงแดดส่องอยู่เบื้องหน้า ส่วนเขาเดินเข้าหาแสง เบื้องหลังคือความมืดมิดและการฆ่าฟันที่ไร้ที่สิ้นสุด เขาก้าวผ่านศพและเลือด ราวกับอสูรในนรกที่จะมาคร่าชีวิตนาง ในใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน กลิ่นอายฆ่าฟันรุนแรงมาก! วินาทีนั้น ราวกับนางเห็นครึ่งชีวิตหลังของเขา นั่นคือความมืดมิดและการฆ่าฟันที่แสนหนักอึ้ง นางมิเคยเห็นคนเช่นนี้มาก่อน ต่อให้แสงที่จ้าจนแสบตา ก็กลบความมืดทมิฬที่อยู่เบื้องหลังของเขามิได้ ราวกับว่า… เขาเกิดมาเพื่อสังหาร เขายิ่งเข้าใกล้ เงาดำที่อยู่ด้านหลังเขาก็ยิ่งใหญ่โต เมื่อลองตั้งใจมอง ในความมืดมิดนั้น มีเงามังกรซ่อนอยู่ ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วอย่างอดมิได้ หรือไอมังกรของเขาจะได้มาจากการสังหาร? วินาทีนี้ราวกับนางเห็นชะตาชีวิตของฟู่เฉินหวน นางมิกล้ายื่นคำข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 165

    เหตุใดเขาจึงดีต่อนางเช่นนี้? อย่าบอกนะ… แต่ในใจของร่างเดิมมองฟู่อวิ๋นโจวเป็นเพื่อนมาโดยตลอด และรับรู้ไม่ถึงความคิดของฟู่อวิ๋นโจว หวังว่านางจะคิดมากไป “หากองค์ชายห้าเป็นคนทำ เช่นนั้นเขาดีต่อพระชายามิน้อย” แม่นมเติ้งพูดขึ้นอย่างอดมิได้ ลั่วชิงยวนกลับยิ้มอ่อน “แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่า” ต่อให้ช่วยฟู่เฉินหวนไป แล้วมีประโยชน์อะไรล่ะ คนคนนี้ราวกับเป็นงูพิษ ทั้งมีพิษร้ายและเลือดเย็น ช่วยเขา มีแต่จะทำให้เขาสงสัยในจุดประสงค์ของนาง “พระชายาหมายถึงสิ่งใดกันเจ้าคะ?” แม่นมเติ้งฟังแล้วรู้สึกงุนงง “เอาเถอะ ไม่พูดแล้ว” ลั่วชิงยวนทายาเสร็จ ก็นอนราบลงบนเตียงทันที วันนี้ทั้งวัน นางเหนื่อยเกินไป ทุกจุดในร่างกายต่างเจ็บปวด โดยเฉพาะหน้าอกนางเจ็บปวดอย่างอดทนได้ยาก โชคดีที่ก่อนหน้านี้ท่านอาลั่วหรงให้เครื่องยาสมุนไพรชั้นดีกับนางไว้เยอะ ตอนนี้กลับได้ใช้พอดี ยังไม่ทันถึงตอนเย็น ลั่วชิงยวนก็นอนลงทันที ส่วนทางนี้ ฟู่เฉินหวนกลับห้องตำราไปก็เอ่ยสั่งซูโหยว “ทำอย่างที่นางพูด ช่วงนี้ห้ามปล่อยให้ใครเข้าไปเจอนักทำนายชะตาทั้งนั้น” สิ้นเสียง ซูโหยวชะงักเล็กน้อย “ต้องหาคนมาเฝ้าระวังหรือไม่พ่ะย่ะค

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status