공유

บทที่ 1366

작가: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนมิได้สังเกตเห็นความตึงเครียดของเขา ยังคงกล่าวต่อไปว่า

“อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเจ้านายของเจ้ามากนัก”

คนใบ้มิได้ตอบ

ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “ซูเซียงกล่าวว่าวันพรุ่งพวกเขาคงมีแผนการบางอย่าง และวันพรุ่งข้าก็อยากจะออกไปข้างนอกด้วย”

“เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่?”

คนใบ้เขียนตอบว่า ไปทำอะไร? เจ้าควรพักผ่อนเพราะอาการบาดเจ็บ

ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยความเป็นกังวล “พูดตามตรงว่าข้ามาคราวนี้ ยังมีสหายร่วมเดินทางมาด้วยกันอีกแปดคน”

“แต่พวกเขาหายไปหมดแล้ว”

“พวกเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งข้า ต้องเกิดเรื่องราวอันใดขึ้นเป็นแน่ ข้าอยากจะออกตามหาพวกเขาให้เจอ”

เพียงหวังว่ายามนี้พวกเขาจะยังปลอดภัย

คนใบ้พยักหน้ารับคำ

จากนั้นเขียนคำว่า รีบพักผ่อนเถิด ก่อนลุกจากห้องไป

เมื่อเขาออกไป ลั่วชิงยวนก็ปิดประตูห้องลงกลอนประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย แล้วจึงถอดอาภรณ์เพื่อทำแผล

โชคดีที่บาดแผลมิลึก เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น

หลังจากทำแผลเสร็จก็ล่วงเลยเข้ายามดึกแล้ว ลั่วชิงยวนจึงรีบล้มตัวลงนอนพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลัง

......

ขณะนี้หมู่บ้านมีแสงสลัว บ้านเรือนหลายหลังต่างดับไฟลง

ห้องของฟู่เฉินหวนก็มิได้จุดตะเกียงเช่นกัน

ในขณะ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
อัญชิษฐา คําเสียง
ต่อด่วนๆๆคะลงแดงแล้ว
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1367

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้น ก็หรี่ตาลงเล็กน้อยประกายแสงล้ำลึกแวบผ่านดวงตา“ทางลัดอะไร?”เมื่อเห็นว่าเขาสนใจ ฉีเสวี่ยเวยก็ยิ้มอย่างพึงพอใจนางค่อย ๆ โน้มกายเข้าไปใกล้ “พวกเราต้องแลกเปลี่ยนกันและเชื่อใจกันก่อน ข้าจึงจะบอกท่านได้”กล่าวจบ ฉีเสวี่ยเวยก็ยกยิ้มมีเลศนัย คว้ามือของฟู่เฉินหวนไว้ฟู่เฉินหวนมองมือนางด้วยแววตาเย็นชาแล้วดึงมือกลับมาอย่างเย็นชาท่าทีเย็นชาบ่งบอกทุกสิ่งฉีเสวี่ยเวยยิ้มอีกครา แล้วกล่าวว่า “หากมิใช่เช่นนั้นก็ยังมีอีกวิธีหนึ่ง”“นั่นคือ… ท่านต้องช่วยข้าสังหารสตรีผู้นั้น”“แล้วข้าจะบอกทางลัดที่นำไปสู่ยอดเขาแก่ท่าน”ฟู่เฉินหวนเหลือบมองนางด้วยแววตาเย็นขา “บอกทางลัดแก่ข้า แล้วเจ้ามิอยากขึ้นเขาแล้วรึ?”ฉีเสวี่ยเวยกล่าวอย่างเสียดาย “แน่นอนว่าอยาก แต่ข้ารู้ความสามารถของตนดี การขึ้นเขาด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องยากนัก”“ขอเพียงแค่เมื่อท่านขึ้นเขาไปแล้ว อย่าได้ลืมข้า พาข้าไปด้วยและพาข้าลงจากเขา ข้าเพียงต้องการมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “เจ้าลงจากเขาบัดนี้เลยก็ได้”ฉีเสวี่ยเวยหัวเราะเบา ๆ “ท่านพี่ใบ้ ท่านยังมิรู้หรือ? เมื่อเข้ามาในภูเขาลูกนี้แล้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1368

    ในชั่วขณะนั้น ฟู่เฉินหวนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง และยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความตกใจเมื่อเห็นเขามิขยับ ฉีเสวี่ยเวยก็หัวเราะอย่างจนปัญญา “เช่นนั้นข้าทำเองก็แล้วกัน”“ท่านพี่ใบ้ไปรอข้าข้างนอกได้หรือไม่?”ในยามนี้ เสียงของฉีเสวี่ยเวยหวานหยดย้อย แตกต่างจากปกติอย่างสิ้นเชิงแต่คำพูดนั้นกลับแฝงความอาฆาตมาดร้ายคนใบ้มองลั่วชิงยวนที่ถูกมัดอยู่บนพื้นด้วยแววตาซับซ้อน ก่อนหันหลังเดินออกจากห้องไปเมื่อประตูห้องปิดลงลั่วชิงยวนก็ถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัวฉีเสวี่ยเวยก้มตัวลงมาอย่างมิใส่ใจ ใช้นิ้วมือเชยคางนางขึ้น “ช่างงดงามเสียจริงเชียว”“ดูเหมือนว่าการมีรูปโฉมงดงามเกินไปก็มิใช่เรื่องดี”ลั่วชิงยวนเบือนหน้าหนี มองนางอย่างเย็นชา “ข้าไปทำกระไรให้เจ้าขุ่นเคือง เหตุใดเจ้าจึงโหดร้ายเยี่ยงนี้?”ฉีเสวี่ยเวยหัวเราะ “เจ้ามิได้ทำอะไรให้ข้าขุ่นเคือง เจ้าเพียงแค่… เป็นภัยต่อข้า”“เดิมทีในกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีสตรีอื่นอยู่ด้วย แต่พวกนางตายหมดแล้ว”“เมื่อขึ้นเขามาแล้วก็ออกไปมิได้ มีเพียงการพึ่งพาชายที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นจึงจะมีหนทางรอด”“นี่คือกลอุบายของข้า เป็นกลอุบายของข้าแต่เพียงผู้เดียว”เมื่อได้ยินด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1369

    ดวงตาของนางเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความหวาดกลัวลั่วชิงยวนเห็นปฏิกิริยาของฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจเล็กน้อย พลันรับรู้ถึงพลังชั่วร้ายที่คืบคลานเข้ามาใกล้จากด้านหลังเสียงเตี่ยฉุยดังขึ้นเบา ๆ “ท่านแม่ ปีศาจนั่นมาอีกแล้ว”“ข้าจะจับมันไว้!”ลั่วชิงยวนยังมิทันได้ห้าม เตี่ยฉุยก็กระโจนออกไปอย่างรวดเร็วใครเล่าจะรู้ว่าทั้งสองปะทะกันเพียงมิทันถึงสามกระบวนท่า มือซีดขาวคู่หนึ่งก็คว้าจับเตี่ยฉุย แล้วพุ่งออกไปนอกห้องลมเย็นยะเยือกพัดมาพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเย้ยลั่วชิงยวนใจกระตุก รีบกระโจนออกจากห้องไปช่วยเตี่ยฉุยคนใบ้ก็วิ่งตามออกจากห้องไปฉีเสวี่ยเวยยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัว เงาร่างชุดแดงในความมืดที่เห็นเมื่อครู่ทำให้นางขนลุกขนพองเมื่อได้สติ นางก็รีบลุกขึ้นจากพื้นวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างทุลักทุเลนางรีบไปยังห้องของถูหมิงในขณะที่ลั่วชิงยวนวิ่งตามออกไป ก็เห็นสตรีชุดแดงคว้าเตี่ยฉุยและกำลังจะกินเขาวิญญาณอาฆาตอันทรงพลังนั้นทำให้เข็มทิศของลั่วชิงยวนสั่นสะเทือนมิหยุดลั่วชิงยวนรีบลงมือผลักสตรีชุดแดงให้ล่าถอยไปช่วยชีวิตเตี่ยฉุยไว้ได้อย่างหวุดหวิดแต่เมื่อได้สติ เงาร่างชุดแดงก็หายไปอีกแล้วลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1370

    “มิใช่ว่าข้าจงใจดับฝันเจ้า แต่เพราะบนเขาลูกนี้ นอกเหนือจากหมู่บ้านนี้แล้วล้วนอันตรายทั้งสิ้น”“เจ้าคงนึกมิถึงว่า เมื่อคนกลุ่มนี้ขึ้นภูเขาครั้งแรกรวมกันแล้วมีถึงร้อยกว่าคน”“แต่ในยามนี้เหลือรอดเพียงสิบกว่าคน”“บางทีบนภูเขาอาจยังมีผู้คนรอดชีวิตอยู่บ้าง แต่ก็คงมีน้อยนิด”“แทนที่เจ้าจะไปเสี่ยงภัย อยู่ที่หมู่บ้านนี้จะดีเสียกว่า”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจได้แต่หวังว่าโฉวสือชีและคนอื่น ๆ จะยังมีชีวิตอยู่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ยิ่งต้องออกตามหาพวกเขา“ข้าตัดสินใจแล้ว คนใบ้จะไปกับข้า จะต้องไม่มีกระไรเกิดขึ้น”ซูเซียงตกใจเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็มิอาจขวางได้ พวกเจ้าต้องระวังตัวด้วย”เมื่อกินอาหารเสร็จ ลั่วชิงยวนและคนใบ้ก็ออกเดินทางเนื่องจากมิรู้ว่าถูหมิงและคนอื่น ๆ ไปที่ใด ลั่วชิงยวนจึงมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ยังมิเคยไปเมื่อวานบนเขาลูกนี้มีอันตรายมากมาย มีกลลวงมากหลาย หากประมาทอาจติดกับดักและออกไปมิได้ตลอดทาง ลั่วชิงยวนพบเห็นศพมากมายมีทั้งศพที่ตายมาได้มิกี่วันและศพที่เหลือเพียงกระดูกยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งพบศพมากขึ้นส่วนใหญ่ถูกสั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1371

    ด้วยเชื่อมั่นในการตัดสินใจของนาง คนใบ้จึงมิได้ถามอะไรอีกเมื่อพักผ่อนเพียงพอแล้วทั้งสองก็ออกเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านจนยามดึกสงัดจึงได้กลับมาถึงหมู่บ้านชาวบ้านยังคงระแวดระวังเช่นเดียวกับเมื่อวาน เมื่อรู้ว่าเป็นพวกนางจึงคลายความระมัดระวังลงถูหมิงมองทั้งสองด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนหันหลังเดินกลับห้องไปสายตาของทุกคนที่มองพวกเขาเริ่มแปลกประหลาดในคืนนี้ลั่วชิงยวนยังคงให้คนใบ้นอนพักที่ห้องของนางยามดึกสงัด ซูเซียงนำอาหารมาให้“วันนี้พวกเจ้ากลับมาช้า คงจะหิวแล้วกระมัง”“ข้าอุ่นอาหารให้แล้ว พวกเจ้ารีบกินเถิด”กล่าวจบ ซูเซียงก็นำอาหารวางบนโต๊ะทีละจานแต่เมื่อลั่วชิงยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร ซูเซียงกลับห้ามไว้มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “กินอาหารเสร็จแล้ว พวกเจ้าต้องช่วยข้าสักเรื่อง”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ได้สิ”นางตอบรับโดยมิได้ถามว่าเป็นเรื่องอะไรซูเซียงลังเลแต่ตัดสินใจรอให้พวกเขากินอาหารให้อิ่มเสียก่อนเมื่อกินอาหารเสร็จ ลั่วชิงยวนก็เช็ดปาก แล้วถามว่า “เรื่องอะไร กล่าวมาเถิด”ซูเซียงกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ “ข้าใส่ยาลงในอาหาร”เมื่อนางกล่าวจบ คนใบ้ก็ชะงักทั้งสองนิ่งค้างไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1372

    เมื่อฟังจากเสียงฝีเท้าแล้ว ดูเหมือนจะเป็นสตรีแต่ก็มิใช่ซูเซียงซูเซียงกำลังตั้งครรภ์ ส่วนคนผู้นี้มีฝีเท้าเบากว่าลั่วชิงยวนใจเต้นระรัวฉีเสวี่ยเวย!ในขณะที่คิดอยู่นั้น กลิ่นอายสังหารพลันแผ่ซ่านเข้ามาลั่วชิงยวนลืมตาโพลงก็เห็นกริชพุ่งตรงมาที่คอนางแต่ในขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะลงมือ กลับมีมือหนึ่งจับมือนางไว้เสียก่อนฉีเสวี่ยเวยตกตะลึงเพราะพวกเขาอีกครั้ง“พวกเจ้าเสแสร้งอีกแล้ว!”มิได้สลบ!ทั้งยังมิได้ถูกมัดด้วยฉีเสวี่ยเวยตระหนักได้ว่าต้องเป็นฝีมือของซูเซียง ในใจนางแอบด่าซูเซียงว่าเป็นคนสารเลวที่ทำลายแผนการของนางฉีเสวี่ยเวยมิกล้าลงมือต่อ รีบทิ้งกริชแล้ววิ่งตรงไปยังนอกห้องคนใบ้พลิกตัวลุกขึ้น รีบไล่ตามไปลั่วชิงยวนก็รีบตามไปเช่นกันแต่คาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะมีวรยุทธ์มิเลว นางหลบหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอยทันทีเมื่อลั่วชิงยวนตามไปก็มิเห็นแม้แต่เงาของฉีเสวี่ยเวยแล้วแม้แต่คนใบ้ก็หยุดฝีเท้าลงลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หากนางไปฟ้องถูหมิง ซูเซียงอาจเป็นอันตราย”“ไปเถิด พวกเราก็ไปที่นั่นด้วย”จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังบ่อน้ำพุร้อนเมื่อไปถึง ฉีเสวี่ยเวย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1373

    ฉีเสวี่ยเวยกล่าวอย่างขมขื่น “ข้าเองก็มิรู้ว่านางกล่าวเช่นนั้นหมายถึงอะไรกันแน่”ถูหมิงขมวดคิ้ว คิดว่าคนที่เข้าไปข้างในต้องตายเป็นแน่จากนั้นก็มองไปยังฉีเสวี่ยเวยด้วยสายตาเย็นชา “เมื่อถึงยามโพล้เพล้ เจ้าต้องเข้าไปเป็นคนแรก!”ฉีเสวี่ยเวยตกใจจนเบิกตากว้างในป่าที่อยู่มิไกล ลั่วชิงยวนมองดูอย่างเงียบเชียบ ฉีเสวี่ยเวยคงมิคาดคิดว่าตนจะกลายเป็นผู้ที่ต้องเข้าไปสำรวจเส้นทางเป็นรายต่อไปเหตุผลที่นางปล่อยให้ฉีเสวี่ยเวยบอกเรื่องนี้แก่ถูหมิง เพราะเมื่อถึงยามโพล้เพล้ เส้นทางนี้ก็มิใช่ว่าจะเดินได้ง่ายด้านหลังดงหนามอาจยังมีอันตรายรออยู่อีกก็เป็นได้ให้ฉีเสวี่ยเวยและคนอื่น ๆ ไปสำรวจเส้นทางเสียก็ดีกลุ่มคนเฝ้ารออยู่ที่เดิม รอคอยให้ยามโพล้เพล้มาเยือนส่วนลั่วชิงยวนและคนใบ้ที่อยู่ในดงหนามก็ค่อนข้างลำบาก พวกเขาเองก็มิสามารถเคลื่อนไหวได้และรู้สึกมิสบายตัวมากในที่สุด ตะวันก็ตกดินริ้วแสงอาทิตย์ยามโพล้เพล้วาดเป็นเส้นโค้งอีกครั้งดังที่คาดไว้“บัดนี้ถึงเวลาหรือยัง?” ถูหมิงถามฉีเสวี่ยเวยพยักหน้า “น่าจะถึงแล้ว”“เช่นนั้นเจ้าเดินไปข้างหน้า หากปลอดภัยก็ส่งเสียงออกมา!” ถูหมิงคว้าตัวฉีเสวี่ยเวย แล้วผล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1374

    ลั่วชิงยวนหยิบผงไล่งูขวดหนึ่งออกมาทาตัวนางและคนใบ้จากนั้นก็ออกเดินทางต่อเส้นทางขึ้นเขาลำบากมาก พวกเขาจึงมิได้รีบร้อนขึ้นไป หากมีอันตรายใดก็ให้คนของถูหมิงไปสำรวจเสียก่อนหลังจากเดินมาไกลพอสมควร เมื่อเดินผ่านดงหญ้าหนาทึบในป่า ทันใดนั้นก็มีมือซีดขาวยื่นออกมาจากดงหญ้าลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย แต่ก็เดินไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบในดงหญ้ามีชายผู้หนึ่งที่ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด บาดแผลทั้งหมดเกิดจากการถูกงูกัด แทบไม่มีส่วนใดดีเหลืออยู่เลยเมื่อเห็นว่ายังมีลมหายใจแผ่วเบา ทั้งสองก็ช่วยกันลากชายคนนั้นออกมาจากดงหญ้าแต่เมื่อพลิกร่างมาด้านหน้าเมื่อเห็นใบหน้าของชายคนนั้น ลั่วชิงยวนก็ใจหายวาบ“จวี้ซาน!”แต่ชายคนนั้นหมดสติไปแล้ว ลมหายใจรวยรินเต็มที ริมฝีปากดำคล้ำ มีเลือดไหลซึมออกมาจากปากจมูกและหูประสาทสัมผัสทั้งห้าแตกดับหมดแล้วลั่วชิงยวนร้อนใจ รีบหยิบขวดยาออกมา “เจ้าอดทนไว้ก่อน!”ในขณะที่นางยัดยาถอนพิษเข้าไปในปากของจวี้ซานในชั่วขณะนั้น จวี้ซานก็หยุดหายใจลั่วชิงยวนชะงักนี่คือหนึ่งในสิบวายร้าย จวี้ซานเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ดูเหมือนว่าจะมาถึงสถานที่ที่มีแต่งูเร็วกว่าพวกนางนั่

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status