Share

บทที่ 1072

Author: หว่านชิงอิ๋น
ทันใดนั้นพวกองครักษ์ก็รวบตัวนางไว้ได้

ไทเฮาเดินเข้ามาช้า ๆ แล้วแสยะยิ้มเย็นเยียบ “ลั่วชิงยวน เจ้าคิดว่าเจ้าฉลาดนักรึ?”

“สิ่งที่ตัวข้าต้องการคือชีวิตของเจ้า บัดนี้เจ้าเสนอหน้ามาเอง แล้วตัวข้าจะปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร?”

“เจ้าลอบสังหารตัวข้า จึงถูกองครักษ์ของตัวข้าสังหารในที่เกิดเหตุ จากนั้นตัวข้าก็จะแอบปล่อยลั่วเยวี่ยอิงไปเงียบ ๆ ฟู่เฉินหวนย่อมมิติดใจเอาความเรื่องนี้เป็นแน่”

“เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าจะสามารถคุกคามข้าได้?”

“เจ้ามันก็แค่สวะโสโครก!”

ทันใดนั้น นางกำนัลก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงาน “กราบทูลไทเฮา ฝ่าบาทเสด็จมาเพคะ”

สีหน้าของไทเฮาแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน รีบสั่งการทันที “รีบขังลั่วชิงยวนไว้ก่อน”

ลั่วชิงยวนถูกผลักไปยังกำแพงมุมหนึ่ง

ทันใดนั้นประตูกลก็เปิดออกเผยให้เห็นทางเข้าลับ

ลั่วชิงยวนถูกผลักเข้าไปในความมืดมิดอย่างแรง

ประตูปิดลงอีกครั้ง ความมืดกลืนกินทุกสิ่งให้เหลือเพียงความมืดสนิท

ดวงตาของลั่วชิงยวนยังมิคุ้นชินกับความมืดจึงมองอะไรมิเห็นเลย

มีเสียงลากกรอบแกรบดังมาจากพื้นรอบ ๆ ฟังแล้วชวนขนลุกยิ่งนัก

ทันใดนั้น ข้อเท้าของลั่วชิงยวนก็ถูกบางสิ่งรัดแน่น

มือซีดเซียวกำข้อเท้าของ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1073

    มือที่อยู่ใต้ชายแขนเสื้อกำแน่นลั่วชิงยวนมองไทเฮาด้วยสีหน้ายั่วยุ “พาตัวคนของหม่อมฉันมา หากไทเฮายังต้องการจะแก้ตัวก็อธิบายเรื่องห้องลับนี้ให้กระจ่างเสียก่อนเถิดเพคะ”เซียวซูรีบเข้าไปช่วยพยุงลั่วเยวี่ยอิงจักรพรรดิรีบพูดว่า “มิทราบว่าอาการของเสด็จพี่สามเป็นเช่นไรบ้าง ข้าจะไปเยี่ยมตำหนักอ๋องพร้อมกับเจ้า”จากนั้นทุกคนก็ออกไปจากพระตำหนักโช่วสี่ไทเฮาโกรธแค้นจนต้องระบายอารมณ์ด้วยการปาข้าวของ “ลั่วชิงยวน!”ทุกคนพาลั่วเยวี่ยอิงกลับตำหนักเมื่อมาถึงประตูตำหนัก ลั่วชิงยวนเห็นเงาร่างในชุดดำแวบหนึ่งในเงามืดจึงให้ฟู่จิ่งหานเข้าไปก่อน ส่วนนางเดินไปในความมืดเพียงลำพัง“เจ้ากล้าช่วยลั่วเยวี่ยอิงออกมาจริง ๆ”“ข้าประเมินเจ้าต่ำไป”น้ำเสียงของเหยียนหน่ายซินเย็นชา แฝงไปด้วยความมิยอมแพ้ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “เรามิใช่พวกเดียวกัน เจ้าเลิกคิดเรื่องร่วมมือกับข้าเสียเถิด”“ฟู่เฉินหวนให้สิ่งที่เจ้าต้องการมิได้”เหยียนหน่ายซินยกยิ้มเย้ยหยัน “ดูเหมือนเจ้าจะยังคงถือว่าข้าเป็นคู่แข่งทางความรักอยู่ จึงได้คอยระแวงข้าเช่นนี้”“เช่นนั้นรึ?”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง “เจ้าน่ะหรือ? ยังมิคู่ควรหรอก”กล่าวจบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1074

    “จริงสิ หม่อมฉันสืบเรื่องต้นเหตุของการสิ้นพระชนม์ของหมู่เฟยของท่านพบแล้วเพคะ” จนถึงบัดนี้ ลั่วชิงยวนจึงได้เอ่ยปากเล่าความจริง นางหยิบสมุดเล่มน้อยขึ้นมามอบให้กับฟู่เฉินหวน ฟู่เฉินหวนเปิดอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ ยิ่งอ่านก็ยิ่งตระหนก เมื่ออ่านจบก็กำหมัดแน่น “คนผู้นี้... เป็นคนแคว้นหลีหรือ?” ลั่วชิงยวนพยักหน้า “หม่อมฉันสงสัยว่าตระกูลเหยียนคงคิดการใหญ่มาแต่ต้น วางแผนหลอกลวงเขามาโดยตลอด” แววตาดุดันคมกริบราวกับคมมีดของฟู่เฉินหวนฉายแววมุ่งสังหาร “ตระกูลเหยียน!” ลั่วชิงยวนเห็นดังนั้นจึงกล่าวเสริม “เรื่องชาติกำเนิดของเซิ่งไป่ชวน ขอให้ท่านอ๋องช่วยปิดเป็นความลับด้วยเถิดเพคะ” “เพราะอย่างไรเสีย เขาก็เป็นผู้บริสุทธิ์” ฟู่เฉินหวนพยักหน้า “ได้” ......ฝ่ายไทเฮามิได้ติดใจเอาความเรื่องของลั่วเยวี่ยอิงอีก เพราะอย่างไรเสียลั่วเยวี่ยอิงก็ถูกนางคุมขังเป็นเวลานาน และแม้แต่นางเองก็มิอาจอธิบายถึงสาเหตุได้ส่วนตระกูลเหยียนก็มิได้เคลื่อนไหวใด ๆ ฟู่เฉินหวนขอพักงานราชการอยู่หลายวันเพื่อพักฟื้นร่างกาย โดยมิได้ติดใจเอาความเรื่องการลอบสังหารอีก สองวันต่อมา ลั่วชิงยวนจึงได้ไปยังคุกใต้ดินเพื่อปล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1075

    ฟู่จิ่งหลีก็อยู่ที่นั่นด้วย ภายในห้องโถงจัดเตรียมอาหารและสุรารสเลิศไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อทุกคนนั่งประจำที่ แม่ทัพใหญ่ฉินก็เป็นคนแรกที่ยกจอกสุราขึ้น “ครั้งนี้ตระกูลฉินประสบเคราะห์กรรม โชคดีที่ท่านอ๋องและพระชายาช่วยเหลือไว้จึงรอดพ้นมาได้ วันนี้กระหม่อมขอเป็นตัวแทนตระกูลฉิน แสดงความขอบพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อท่านทั้งสองพ่ะย่ะค่ะ!” แม่ทัพใหญ่ฉินเอ่ยด้วยความจริงใจ ลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนต่างก็ยกจอกสุราขึ้น “แม่ทัพใหญ่ฉินขอถวายความเคารพพ่ะย่ะค่ะ” หลังจากดื่มสุราแล้ว แม่ทัพใหญ่ฉินก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “พระชายาทราบหรือไม่ว่าตอนนี้ตามโรงน้ำชาในเมืองหลวงต่างก็เล่าขานถึงเรื่องราวความกล้าหาญของพระชายาที่ชายแดน ช่างองอาจสง่างามยิ่งนักขอรับ!” “ท่านโปรดเล่าให้พวกเราฟังหน่อยเถิด เพื่อเป็นแบบอย่างให้ไป๋หลี่ได้เรียนรู้ จะได้ปรับตัวเข้ากับชีวิตที่ชายแดนได้ดีขึ้นในภายหน้าขอรับ” ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ชายแดนหรือ? คุณชายรองฉินจะไปชายแดนหรือ?” ฉินไป๋หลี่พยักหน้า “ใช่แล้วขอรับ วันนี้เป็นทั้งงานเลี้ยงขอบคุณท่านอ๋องและพระชายา และเป็นงานเลี้ยงส่งข้าด้วย!” “วันพรุ่งข้าจะออ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1076

    ก่อนที่จะรู้ตัวเทศกาลไหว้พระจันทร์ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ขณะที่ซูโหยวนำเครื่องแต่งกายจากศาลารุ้งเมฆามาถามนางว่าอีกสองวันข้างหน้าจะแต่งกายอย่างไรไปร่วมงานเลี้ยงในวังลั่วชิงยวนก็พลันนึกถึงเหตุการณ์ในงานเลี้ยงเมื่อปีที่แล้ว จึงมิปรารถนาจะเข้าวังอีกนางจึงไปยังห้องตำรา แล้วพบว่าฟู่เฉินหวนกำลังตรวจสอบเอกสารทางการอยู่“อีกสองวันก็ถึงงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ในวังแล้วเพคะ”ฟู่เฉินหวนมิได้เงยหน้าขึ้นมอง เพียงแค่ตอบรับว่า “อืม” เสียงเบาลั่วชิงยวนนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วยกแขนขึ้นบดหมึกอย่างเบื่อหน่าย “หม่อมฉันขอมิไปนะเพคะ”“อืม”ลั่วชิงยวนคว้าเอกสารทางการจากมือฟู่เฉินหวนมาถือไว้ แล้วพูดทีละคำ “หม่อมฉันบอกว่าหม่อมฉันขอมิไป”ฟู่เฉินหวนพยักหน้ารับแล้วตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “รู้แล้ว”แล้วก็หยิบเอกสารทางการกลับมาอ่านต่อ“มิอยากไปก็มิต้องไป บังเอิญว่าข้าก็มิอยากจะไปเช่นกัน”ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ฟังดังนั้นเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนกำลังหมกมุ่นอยู่กับงาน นางก็มิได้รบกวน และลุกขึ้นจากที่นั่งเดินออกไปจากห้องตำราแล้วถามซูโหยวว่า “ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องเคยไปร่วมงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ใน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1077

    “สิ่งที่ข้าต้องการจะทำ ไม่มีสิ่งใดที่ทำมิได้”นางจะต้องร่วมมือกับฟู่เฉินหวนให้ได้!เหยียนหน่ายซินออกปทันทีลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนชุดเป็นชุดของนางกำนัล แล้วแอบออกจากเรือนไปอย่างเงียบเชียบจากนั้นหาจังหวะเทน้ำในขวดยาลงในสุราที่ท่านอ๋องจะดื่มในคืนนี้......เวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนค่ำสุราอาหารถูกจัดเตรียมไว้ในห้องเรียบร้อยแล้วลั่วเยวี่ยอิงแอบดู เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่จึงเข้าไปรอในห้องสายตามองอาหารบนโต๊ะที่จัดเตรียมไว้อย่างหรูหราพลางจินตนาการถึงความสุขในค่ำคืนนี้“ถวายคำนับท่านอ๋องเพคะ” เสียงนางกำนัลทำความเคารพอยู่ด้านนอกท่านอ๋องกลับมาแล้ว!ลั่วเยวี่ยอิงรีบไปหลบอยู่ใต้เตียงแล้วเฝ้ารออย่างตื่นเต้นเพื่อความแน่ใจ ควรจะรอให้ท่านอ๋องดื่มสุราก่อนแล้วค่อยออกมาอย่างไรก็ตาม คนที่อยู่หน้าประตูเดินมาถึงประตู แต่ก็มิได้ผลักประตูเข้ามาเขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หันหลังกลับไปใจของลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกผิดหวัง......ฟู่เฉินหวนเดินไปยังห้องครัวแล้วบอกให้นางกำนัลในห้องครัวออกไป จากนั้นทำอาหารอยู่คนเดียวในห้องครัวสุดท้ายก็ยกขนมแป้งกรอบจานหนึ่งออกมาซูโหยวเดินผ่านมาเห็นก็ตกใจเล็กน้อย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1078

    ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าประหม่า “บางที... อาจจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้วก็ได้กระมัง เจ้าลองชิมดูก่อน รสชาติคงใช้ได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว สายตาฉายแววมิไว้วางใจขณะส่ายหน้า“ข้าก็เพิ่งกินไป รสชาติใช้ได้ เจ้าลองชิมดูเถิด” ฟู่เฉินหวนมิยอมแพ้ หยิบขนมอบกรอบชิ้นหนึ่งไปจ่อตรงหน้าลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนจึงจำต้องโน้มตัวลงกัดคำหนึ่งด้วยความลังเลทันใดนั้นริมฝีปากของนางก็สัมผัสกับนิ้วมือของเขาหัวใจของทั้งสองดวงพลันเต้นระรัว“ดูเหมือน... จะพอใช้ได้เพคะ...” ลั่วชิงยวนกินต่อจนหมดไปครึ่งชิ้นมิรู้ว่าเพราะเหตุใด หัวใจของนางจึงเต้นแรงยิ่งนักเมื่อเห็นเศษขนมติดอยู่ที่ปลายนิ้วของเขา นางกลับเผลอเลียเศษขนมนั้นออกโดยมิรู้ตัวทันใดนั้นฟู่เฉินหวนก็ใจเต้นแรงจนหัวใจแทบจะหลุดออกจากอก เมื่อเห็นการกระทำอันเย้ายวนของลั่วชิงยวน ลูกกระเดือกของเขาก็กระตุกขณะกลืนน้ำลายลงคอลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นช้อนสายตามอง ทันใดนั้นมือใหญ่ข้างหนึ่งก็คว้าท้ายทอยของนางไว้แน่นใบหน้าอันหล่อเหลาเย้ายวนใจนั้นเข้ามาใกล้นางทันทีจากนั้นก้มลงเลียเศษขนมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากของนางออกโดยที่นางมิทันได้ตั้งตัวเมื่อปล่อยมือออก ทั้งสองสบตากัน ลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1079

    “ท่านอ๋องรออยู่นานแล้วเจ้าค่ะ!” จือเฉายิ้มอย่างมีเลศนัยลั่วชิงยวนลุกขึ้นเดินออกจากห้อง เมื่อมาถึงลานหน้าตำหนักก็เห็นฟู่เฉินหวนยืนกอดอกรอนางอยู่“ซูโหยว จัดการเรื่องการเดินทางเถิด ข้าจะมอบตำหนักอ๋องให้เจ้าดูแล”ซูโหยวตอบว่า “ท่านอ๋องโปรดวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”“ออกเดินทางหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนสงสัยฟู่เฉินหวนจับมือนางอย่างอ่อนโยน “เจ้ามิได้ต้องการไปซีหยางหรือ หากมิออกเดินทางก็จะไปมิทันงานเทศกาลโคมไฟที่ซีหยางสิ”ลั่วชิงยวนยังคงงัวเงียจึงถูกพาขึ้นรถม้าไปโดยมิรู้ตัวเมื่อขบวนเริ่มออกเดินทาง ลั่วชิงยวนจึงนึกขึ้นได้ว่าลืมใครไปคนหนึ่ง“ช้าก่อนเพคะ ยังมิได้พาลั่วอวิ๋นสี่ไปด้วย”ฟู่เฉินหวนดึงนางกลับมาลั่วชิงยวนจึงนั่งลงบนตักของเขา แล้วฟู่เฉินหวนก็โอบกอดนางไว้“ข้าได้บอกนางไปแล้ว นางจะไปซีหยางเอง มิต้องไปพร้อมกับเรา”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย “ท่านตื่นเช้าถึงเพียงนั้นเลยหรือเพคะ? จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือเพคะ?”ฟู่เฉินหวนยกยิ้มมุมปาก “อย่างไรเสียก็ตื่นก่อนเจ้า”พูดจบเขาก็เข้าไปใกล้แล้วกระซิบถาม “ยังเจ็บอยู่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนรู้สึกว่าใบหูร้อนผ่าวทันใด “ท่านพูดอะไรเพคะ”ฟู่เฉินหว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1080

    ฟู่เฉินหวนก้มหน้าลงประทับจุมพิตลงบนหน้าผากของนางอย่างอ่อนโยน “หากย้อนกลับไปได้ มิสำคัญว่าจวนอัครเสนาบดีจะเป็นเช่นไร แต่ข้าก็จะรักและหวงแหนเจ้า มิปล่อยให้เจ้าต้องทุกข์ร้อนเพราะความอยุติธรรม”ลั่วชิงยวนถอนหายใจเบาๆ “หากย้อนกลับไปได้ หม่อมฉันจะมิยอมไปแต่งงานแทนใครอีกแล้ว!”ฟู่เฉินหวนหัวเราะเบา ๆ “เช่นนั้นข้าก็จะไปขอแต่งงานกับเจ้าเอง! ตลอดชีวิตนี้ เจ้าจะเป็นของข้าผู้เดียวเท่านั้น!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว แล้วหัวเราะเบา ๆ “จริงหรือเพคะ? ในเวลานั้นหม่อมฉันยังอ้วนน่าเกลียดอยู่เลย ท่านจะมาขอหม่อมฉันจริงหรือเพคะ? หม่อมฉันมิเชื่อหรอก”“ท่านกล้าพูดหรือไม่ว่าหม่อมฉันมิได้ชอบใบหน้าหม่อมฉันในตอนนี้?”ฟู่เฉินหวนพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ความงามเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ข้าเองก็ชอบเจ้าในตอนนี้มากกว่า”“แต่ว่า...”ลั่วชิงยวนถามด้วยความสงสัย “แต่ว่าอะไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนโอบเอวของนางไว้แน่น แล้วทั้งสองก็ล้มตัวลงบนพื้นหญ้านุ่มเสียงทุ้มลึกของฟู่เฉินหวนดังอยู่ข้างหูนาง “แต่ว่าคนแรกที่ข้าตกหลุมรักคือเจ้าคนเก่าในตอนนั้น”ใจของลั่วชิงยวนเต้นแรงราวกับจะกระเด็นออกมาจากอก...ทั้งสองอยู่บนภูเขาจนถึงรุ่งสางแล้ว

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status