แชร์

บทที่ 979

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
หานกวงถามคำนี้อย่างระมัดระวัง จั๋วซือหรานยิ้มออกมาบางๆ มองหานกวง "ทำไมหรือ? กลัวว่าข้าจะไม่เอาซื่อจื่อของพวกเจ้าแล้ว?"

หานกวงคิด ตอบกลับเสียงต่ำ "ไม่ใช่แค่นั้น ข้ายังกังวลแม่นางจิ่วจะหุนหันพลันแล่นเพราะรู้สึกน้อยใจ แล้วไปแสร้งทำตัวเอาใจกับคนที่ไม่ได้ชอบ"

จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เคยทำให้ตัวเองต้องน้อยใจมาโดยตลอด และแทบจะไม่เคยแสร้งทำตัวเอาใจใครด้วย แทนที่เจ้าจะมากังวลเรื่องนี้ สู้ไปกังวลว่าข้าไม่ชอบซื่อจื่อของเจ้าแล้วหรือเปล่าดีกว่านะ"

หานกวงเบิกตากลม สายตาลนลานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "ไม่หรอกกระมัง?"

จั๋วซือหรานยักไหล่เอ่ยเอ่ยขึ้นยิ้มๆ "ไม่แน่นะ? คนที่ไม่ชอบข้า ข้าเองก็ไม่ชอบ ข้าเองก็เป็นพวกรักก็รักชังก็ชังเสียด้วย"

"แต่ แต่ว่า..."

จั๋วซือหรานไม่รอให้หานกวงเติมเชื้อฟืนอะไรให้เจ้านายนาง เอ่ยขึ้นว่า "ยิ่งไปกว่านั้นนั่นก็เป็นเจ้าหุบเขาหมื่นพิษเลยนะ ข้าต้องการให้เขาชี้แนะวิชากู่กับข้า แล้วเขาก็หน้าตาใช้ได้ด้วย"

หานกวงในใจร้อนรนขึ้นมา แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะนางตอนนี้เริ่มกลัวแล้ว กลัวว่าตนเองยิ่งพูดอะไรต่อหน้าแม่นางจิ่วก็จะยิ่งไปเติมฟืนไฟให้นายท่านตนเอง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 980

    "เจ้าบอกข้าหน่อยว่านี่มันโรคอะไร? เฮอะ! เจ้าอย่ามาทำตัวรู้มากนัก ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าไม่ได้ป่วยเป็นอะไรเสียหน่อย! เจ้ามาทำตัวลึกลับแบบนี้คิดว่ามีคนหลงเชื่อ แล้วยกเจ้าเป็นหมอเทวดาเรอะ ก็แค่เด็กน้อยยังไม่โต ทำเป็ฯรู้มาก น่าขันเสียจริง"พนักงานข้างๆ คนหนึ่งรำคาญขึ้นมาแล้ว คิดจะไล่คนออกไป แต่ใครจะรู้ ว่าจั๋วซือหรานกลับไม่ได้รำคาญเลยสีหน้าบนหน้าไม่เปลี่ยนไปมากนัก แค่มองคนคนนี้นิ่งๆ เอ่ยขึ้นว่า "ใครบอกเจ้าว่าเจ้าไม่ป่วย?"ชายหนุ่มตอบกลับทันที "ข้ามันคนแกร่ง! ไถนาได้สามไร่! กินข้าวมื้อละสามชาม!"พอสิ้นเสียงคนผู้นี้ จั๋วซือหรานก็เอ่ยรับเสียงเรียบ "แต่บนเตียงกลับทนได้ไม่ถึงสามนาที ไตพร่องพลังชี่ขาด น้ำเชื้อจึงเบาบาง แค่ลูกเจ้าก็มีไม่ได้ นี่หนักหนาอยู่นะ"จั๋วซือหรานพูด พลางเขียนตำรับยาพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ รอบๆ จึงมีเสียงหัวเราะขึ้น โดยเฉพาะตอนที่เห็นคนที่ดุดันขนาดนั้นก่อนหน้านี้ เวลานี้กลับถูกแม่นางจั๋วจิ่วพูดไปสองสามคำจนหน้าซีด พูดอะไรไม่ออกไปแล้ว...มีคนแอบกระซิบว่า "สีหน้าเขาดูแย่มากนะ คงไม่ใช่ถูกแม่นางจั๋วจิ่วแทงถูกจุดเข้ากระมัง...""น่าขำชะมัด แม่นางจั๋วจิ่วนี่เก่งกาจจริงๆ"ชายห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 981

    จั๋วซือหรานตอนออกจากโรงหมอ ฟ้าก็มืดไปแล้วนางก้าวเดินออกจากโรงหมออย่างสบาย ผู้จัดการก็รีบเดินตามขึ้นมา "คุณหนู! ให้ข้าเรียกรถม้าให้ท่านไหม?""ไม่ต้อง" จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ "ข้าเดินกลับไปก็พอ นั่งมาทั้งวันก็ได้ยืดเส้นยืดสายหน่อยพอดี"ผู้จัดการเดิมทีคำพูดติดอยู่มุมปากแล้ว กังวลว่านางที่เป็นหญิงสาวคนเดียวเดินกลับตอนกลางคืนอาจจะไม่ปลอดภัยแต่พอคำพูดขึ้นมาถึงมุมปากก็รู้สึกว่าตนเองโง่หรือเปล่า นี่มันใครกัน? นี่ใช่หญิงสาวอ่อนแอเสียที่ไหน? นี่แม่นางจิ่วนะ!กังวลว่าแม่นางจิ่วเดินกลับบ้านแล้วไม่ปลอดภัยเรอะ? สู้กังวลคนอื่นที่มายั่วโมโหแม่นางจิ๋วว่าจะปลอดภัยหรือเปล่าดีกว่า...จั๋วซือหรานเดินไปครึ่งหนึ่งแล้ว จึงพบว่าตนเองหิวจะแย่แล้ว จึงเดินไปยังร้านข้างทางร้านหนึ่ง ซื้อขนมปิ่ง ถือไว้ในมือ เดินไปด้วยพลางกินหงุบหงับไปด้วยตอนที่เดินยังไม่ถึงครึ่ง จั๋วซือหรานก็กินขนมปิ่งในมือหมดไปแล้ว ดูดนิ้วของตัวเองเบาๆหลังจากนั้นนางจึงมองนิ้วมันแผลบของตนเอง ยืนคิดๆ อยู่กับที่ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ตามข้ามาตั้งนานแล้ว มีผ้าเช็ดมือไหม? ข้าอยากเช็ดมือ""..." รอบๆ นอกจากสายลมยามราตรีแล้ว ก็ไม่มีการเคลื่อนไห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 982

    จั๋วซือหรานคาดไว้แล้ว จึงไม่ได้ห้ามแสดงชัดเจนว่าไม่กลัวว่าเฟิงเหยียนจะรู้ กระทั่งพูดได้ว่า ตั้งใจให้เฟิงเหยียนรู้ด้วยซ้ำแล้วก็เป็นไปตามคาด นี่ก็ไม่ใช่เข้ามาแล้วหรือชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงรู้ว่า "ทำไมต้องเป็นปันอวิ๋น"จั๋วซือหรานฟังออก ว่าระหว่างชายหนุ่มกับปันอวิ๋น น่าจะมีอะไรกันอยู่ไม่เช่นนั้นปันอวิ๋นเองก็คงไม่ดื้อแพ่งคิดแต่จะบรรลุความร่วมมือหมั้นหมายกับนางแล้ว"แล้วทำไมถึงเป็นปันอวิ๋นไม่ได้" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ สายตามองเขา "เขาก็หน้าตาดีอยู่นี่""แค่เพราะเรื่องนี้หรือ?" ในดวงตาคิ้วที่เฉียมคมลึกซึ้งของชายหนุ่ม มีอารมณ์อื่นแทรกเข้ามา"ไม่อย่างนั้นจะเพราะอะไรล่ะ?" จั๋วซือหรานตอบ "เพียงแต่ ท่านอ๋องเอาฐานะอะไรเข้ามาถามข้ากัน?"จั๋วซือหรานมองสีหน้าเขา ในที่สุดก็ไม่เหลือรอยยิ้มใดอีก แม้แต่รอยยิ้มบางๆ ที่ไม่ได้อยู่ในดวงตาก่อนหน้า ก็หายไปจากใบหน้างามของนางหมดแล้ว"จะยุ่งมากไปหน่อยหรือเปล่า?" จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเย็นชาชายหนุ่มถูกนางจ้องเย็นชาเช่นนี้ ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนในใจอะไรบางอย่างขาดหายไป เหมือนมุมไหนสักมุมกำลังถูกทิ่มแทงราวกับว่า...ไม่ควรเป็นเช่นนี้ ไม่ควรจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 983

    จั๋วซือหรานหลังได้ยินคำนี้ ก็เพียงแค่ยิ้มบางๆ "ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว ใครทำเรื่องอะไรไม่มีสาเหตุกันบ้าง""เพียงแต่สาเหตุของท่าน ผลของมันข้ากลับต้องมาแบกรับ ตอนนี้ใครเมืองหลวงใครไม่รู้บ้าง ว่าจั๋วซือหรานอย่างข้าถูกท่านอ๋องทอดทิ้งไปแล้ว" เนื้อหาในคำพูดของจั๋วซือหรานแม้จะเป็นเช่นนี้แต่ในน้ำเสียงอันที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไร นางเหมือนจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล แข็งแกร่งเหมือนต้นกก"ข้าโดนบังคับให้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยไม่รู้สาเหตุ แล้วยังไม่ยอมให้ข้าได้คิดหาวิธีเองเลยหรือ?"ตอนที่นางพูดกับเฟิงเหยียน ใบหน้ายังมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ด้วย ราวกับว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลยนางเอ่ยต่อ "นี่มันเหตุผลอะไรกัน?"เฟิงเหยียนนิ่งงัน ไม่พูดอะไรไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดจะรอให้เขาเอ่ยปากด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรสมองก็ไปหมดแล้วนี่ ในปากเองก็คงไม่มีคำพูดอะไรดีดีนักพอหมุนตัวจะเดินไป ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของชายหนุ่ม ดังลอดเข้ามาด้านหลัง "ปันอวิ๋นเป็นคนรู้จักเก่าของข้า"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ก็เดาได้อยู่"เฟิงเหยียนเม้มปาก คิ้วขมวด "ข้ากับเขามีบุญคุณความแค้นกัน ถ้าเขามาหาเรื่องเจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 984

    หานกวงฟังฟังไม่ออกถึงอารมณ์ใดจากในน้ำเสียงเขา แต่ฟังออกว่า นายท่านไม่ค่อยเบิกบานนัก......จั๋วซือหรานให้ความสำคัญกับแม่และน้องชายมาโดยตลอด ดังนั้นตอนที่เซี่ยอวิ๋นเหนียงกลับเมืองหลวง จั๋วซือหรานจึงออกไปรับที่ประตูเมืองด้วยตนเองคนคุ้มกันที่เฝ้าประตูเมืองก็ล้วนเปลี่ยนผลัดกันมาจากค่ายป้องกันลาดตระเวน พอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา จึงกระตือรือร้นกันอย่างกับอะไรดีถ้าไม่ใช่จั๋วซือหรานปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก พวกเขาคงจะเอาเก้าอี้มาให้นางนั่งที่ประตูเมืองแล้ว...มานั่งเหมือนคนแก่ที่ประตูเมือง มันคงไม่ค่อยน่าดูนักแต่พวกเขากังวลว่าจั๋วซือหรานจะเหนื่อย ถึงแม้ในใจพวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ ว่านี่คือจอมโฉดรับมือกับพวกโจรพรมแดนใต้มานะจอมโฉดอะไร? จอมโฉดก็ยังเป็นหญิงสาวนะ แล้วสองวันนี้อากาศก็เป็นช่วงที่อากาศเย็นลงด้วย ประตูเมืองเองก็มีลมผ่านรอบด้าน คนมารอที่นั่นนานๆ คงได้ถูกลมพัดจนตัวชาดังนั้นหัวหน้าหน่วยคุมกันประตูเมือง จึงมาเตือนอย่างหวังดี ให้จั๋วซือหรานไปนั่งรอที่แผงน้ำชาข้างทางดีกว่า"ถ้ารถม้าของฮูหยินมาถึง ข้าจะมาแจ้งแม่นางทันทีเลย ไม่ต้องกังวล คอยหลบลมอยู่ตรงนี้เถิด วันนี้ลมแรงมากจริงๆ"อีกฝ่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 985

    จั๋วซือหรานอันที่จริงก็สังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว ว่าครั้งนี้ท่านแม่ไม่ได้กลับมาคนเดียวแต่นางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกินคาดนัก เพราะครั้งนี้ที่ให้ท่านแม่กลับไปบ้านตายาย หนึ่งก็คือกลับไปเยี่ยมญาติ สองคือคิดจะให้บ้านของตายายเข้าไปอยู่ในตลาดวัตถุดิบยาของเมืองหลวงดังนั้น ถ้าหากบ้านตายายจะให้คนกลับมาเมืองหลวงด้วยกัน มาหารือเรื่องการค้า จั๋วซือหรานก็ไม่รู้สึกมีปัญหาอะไรตอนนี้พอเห็นหญิงสาวคนนี้เดินมา แล้วยังตัดบทสนทนาของนางกับท่านแม่ด้วย จั๋วซือหรานจึงถามว่า "คนผู้นี้คือ?"เซี่ยอวิ๋นเหนียงเอ่ยขึ้นข้างๆ "นี่คือป้ารองของเจ้า"จั๋วซือหรานพยักหน้าเล็กน้อย "ท่านป้ารอง"นางหยวนเองก็พยักหน้าให้จั๋วซือหราน"ป้ารองเมื่อครู่พูดถึงน้องชายข้า" เสียงของจั๋วซือหรานมั่นคงมาก "เสี่ยวหวายเขาทำไมหรือ?"นางหยวนเดิมทีรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะจัดการได้ไม่ยาก ถึงอย่างไรก็เป็นแค่หญิงสาวเท่านั้นแต่พอได้เห็นกับตา แล้วยังเห็นหัวหน้าหน่วยคุ้มกันของค่ายป้องกันลาดตระเวน มีท่าทีเกรงอกเกรงใจกับจั๋วซือหรานนางหยวนจึงไม่กล้าเล่นใหญ๋ แค่รู้สึกว่าหลานสาวคนนี้ ไม่ใช่แค่คนธรรมดาง่ายๆ อย่างที่พวกเขาคิดเสียแล้วน่าจะเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 986

    นางหยวนแน่นอนไม่คิดจะผิดใจกับหลานสาวคนนี้ แม้จะบอกว่าไม่รู้ว่าที่ลือกันเป็นจริงอยู่กี่ส่วน แต่คนผู้นี้ เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แล้วยังเป็นโหวหญิงอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตำแหน่งขุนนางในตัวแน่นอนต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษนางหยวนหยุดไปครู่หนึ่ง จึงพูดว่า "หรานหราน เจ้าเข้าใจบ้านพวกเราผิดแล้ว เสี่ยวหวายไม่ได้ถูกขังไว้ในอวิ๋นหลิวไม่ให้กลับเมืองหลวง แต่หลังจากเขาไปที่อวิ๋นหลิว อาจจะเพราะการกินอยู่ไม่สบายหรืออะไรสักอย่าง ร่างกายก็ไม่ค่อยดีมาโดยตลอด เส้นทางกลับมาก็ไกลแล้วยังขรุขระด้วย ดังนั้นจึงให้เขาอยู่ที่อวิ๋นหลิว รอให้ร่างกายดีแล้วค่อยกลับมาเมืองหลวง"เดิมทีขณะที่พวกนางพูดกันก็กำลังเดินไปด้านในเมืองหลวงแต่พอนางหยวนพูดคำนี้ เท้าของจั๋วซือหรานก็หยุดลงทันทีนางหันมามองนางหยวนนิ่งๆนางหยวนถูกสายตาของนางมองจนลนลาน "หรานหราน เจ้า เจ้า...ทำไมมองข้าแบบนั้น?"จากนั้นนางจึงเห็นรอยยิ้มที่ยากจะเข้าใจบนใบหน้าจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานก็ถามนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมาคำหนึ่ง "ท่านป้า ไม่รู้ว่าครั้งนี้มีแค่ท่านป้าที่มากับท่านแม่ใช่ไหม?"นางหยวนแม้จะถูกนางจ้องจนรู้สึกลนลาน แต่พอได้ยินคำถามท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 986

    นางหยวนแน่นอนไม่คิดจะผิดใจกับหลานสาวคนนี้ แม้จะบอกว่าไม่รู้ว่าที่ลือกันเป็นจริงอยู่กี่ส่วน แต่คนผู้นี้ เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แล้วยังเป็นโหวหญิงอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตำแหน่งขุนนางในตัวแน่นอนต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษนางหยวนหยุดไปครู่หนึ่ง จึงพูดว่า "หรานหราน เจ้าเข้าใจบ้านพวกเราผิดแล้ว เสี่ยวหวายไม่ได้ถูกขังไว้ในอวิ๋นหลิวไม่ให้กลับเมืองหลวง แต่หลังจากเขาไปที่อวิ๋นหลิว อาจจะเพราะการกินอยู่ไม่สบายหรืออะไรสักอย่าง ร่างกายก็ไม่ค่อยดีมาโดยตลอด เส้นทางกลับมาก็ไกลแล้วยังขรุขระด้วย ดังนั้นจึงให้เขาอยู่ที่อวิ๋นหลิว รอให้ร่างกายดีแล้วค่อยกลับมาเมืองหลวง"เดิมทีขณะที่พวกนางพูดกันก็กำลังเดินไปด้านในเมืองหลวงแต่พอนางหยวนพูดคำนี้ เท้าของจั๋วซือหรานก็หยุดลงทันทีนางหันมามองนางหยวนนิ่งๆนางหยวนถูกสายตาของนางมองจนลนลาน "หรานหราน เจ้า เจ้า...ทำไมมองข้าแบบนั้น?"จากนั้นนางจึงเห็นรอยยิ้มที่ยากจะเข้าใจบนใบหน้าจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานก็ถามนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมาคำหนึ่ง "ท่านป้า ไม่รู้ว่าครั้งนี้มีแค่ท่านป้าที่มากับท่านแม่ใช่ไหม?"นางหยวนแม้จะถูกนางจ้องจนรู้สึกลนลาน แต่พอได้ยินคำถามท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 985

    จั๋วซือหรานอันที่จริงก็สังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว ว่าครั้งนี้ท่านแม่ไม่ได้กลับมาคนเดียวแต่นางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกินคาดนัก เพราะครั้งนี้ที่ให้ท่านแม่กลับไปบ้านตายาย หนึ่งก็คือกลับไปเยี่ยมญาติ สองคือคิดจะให้บ้านของตายายเข้าไปอยู่ในตลาดวัตถุดิบยาของเมืองหลวงดังนั้น ถ้าหากบ้านตายายจะให้คนกลับมาเมืองหลวงด้วยกัน มาหารือเรื่องการค้า จั๋วซือหรานก็ไม่รู้สึกมีปัญหาอะไรตอนนี้พอเห็นหญิงสาวคนนี้เดินมา แล้วยังตัดบทสนทนาของนางกับท่านแม่ด้วย จั๋วซือหรานจึงถามว่า "คนผู้นี้คือ?"เซี่ยอวิ๋นเหนียงเอ่ยขึ้นข้างๆ "นี่คือป้ารองของเจ้า"จั๋วซือหรานพยักหน้าเล็กน้อย "ท่านป้ารอง"นางหยวนเองก็พยักหน้าให้จั๋วซือหราน"ป้ารองเมื่อครู่พูดถึงน้องชายข้า" เสียงของจั๋วซือหรานมั่นคงมาก "เสี่ยวหวายเขาทำไมหรือ?"นางหยวนเดิมทีรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะจัดการได้ไม่ยาก ถึงอย่างไรก็เป็นแค่หญิงสาวเท่านั้นแต่พอได้เห็นกับตา แล้วยังเห็นหัวหน้าหน่วยคุ้มกันของค่ายป้องกันลาดตระเวน มีท่าทีเกรงอกเกรงใจกับจั๋วซือหรานนางหยวนจึงไม่กล้าเล่นใหญ๋ แค่รู้สึกว่าหลานสาวคนนี้ ไม่ใช่แค่คนธรรมดาง่ายๆ อย่างที่พวกเขาคิดเสียแล้วน่าจะเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 984

    หานกวงฟังฟังไม่ออกถึงอารมณ์ใดจากในน้ำเสียงเขา แต่ฟังออกว่า นายท่านไม่ค่อยเบิกบานนัก......จั๋วซือหรานให้ความสำคัญกับแม่และน้องชายมาโดยตลอด ดังนั้นตอนที่เซี่ยอวิ๋นเหนียงกลับเมืองหลวง จั๋วซือหรานจึงออกไปรับที่ประตูเมืองด้วยตนเองคนคุ้มกันที่เฝ้าประตูเมืองก็ล้วนเปลี่ยนผลัดกันมาจากค่ายป้องกันลาดตระเวน พอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา จึงกระตือรือร้นกันอย่างกับอะไรดีถ้าไม่ใช่จั๋วซือหรานปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก พวกเขาคงจะเอาเก้าอี้มาให้นางนั่งที่ประตูเมืองแล้ว...มานั่งเหมือนคนแก่ที่ประตูเมือง มันคงไม่ค่อยน่าดูนักแต่พวกเขากังวลว่าจั๋วซือหรานจะเหนื่อย ถึงแม้ในใจพวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ ว่านี่คือจอมโฉดรับมือกับพวกโจรพรมแดนใต้มานะจอมโฉดอะไร? จอมโฉดก็ยังเป็นหญิงสาวนะ แล้วสองวันนี้อากาศก็เป็นช่วงที่อากาศเย็นลงด้วย ประตูเมืองเองก็มีลมผ่านรอบด้าน คนมารอที่นั่นนานๆ คงได้ถูกลมพัดจนตัวชาดังนั้นหัวหน้าหน่วยคุมกันประตูเมือง จึงมาเตือนอย่างหวังดี ให้จั๋วซือหรานไปนั่งรอที่แผงน้ำชาข้างทางดีกว่า"ถ้ารถม้าของฮูหยินมาถึง ข้าจะมาแจ้งแม่นางทันทีเลย ไม่ต้องกังวล คอยหลบลมอยู่ตรงนี้เถิด วันนี้ลมแรงมากจริงๆ"อีกฝ่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 983

    จั๋วซือหรานหลังได้ยินคำนี้ ก็เพียงแค่ยิ้มบางๆ "ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว ใครทำเรื่องอะไรไม่มีสาเหตุกันบ้าง""เพียงแต่สาเหตุของท่าน ผลของมันข้ากลับต้องมาแบกรับ ตอนนี้ใครเมืองหลวงใครไม่รู้บ้าง ว่าจั๋วซือหรานอย่างข้าถูกท่านอ๋องทอดทิ้งไปแล้ว" เนื้อหาในคำพูดของจั๋วซือหรานแม้จะเป็นเช่นนี้แต่ในน้ำเสียงอันที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไร นางเหมือนจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล แข็งแกร่งเหมือนต้นกก"ข้าโดนบังคับให้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยไม่รู้สาเหตุ แล้วยังไม่ยอมให้ข้าได้คิดหาวิธีเองเลยหรือ?"ตอนที่นางพูดกับเฟิงเหยียน ใบหน้ายังมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ด้วย ราวกับว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลยนางเอ่ยต่อ "นี่มันเหตุผลอะไรกัน?"เฟิงเหยียนนิ่งงัน ไม่พูดอะไรไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดจะรอให้เขาเอ่ยปากด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรสมองก็ไปหมดแล้วนี่ ในปากเองก็คงไม่มีคำพูดอะไรดีดีนักพอหมุนตัวจะเดินไป ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของชายหนุ่ม ดังลอดเข้ามาด้านหลัง "ปันอวิ๋นเป็นคนรู้จักเก่าของข้า"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ก็เดาได้อยู่"เฟิงเหยียนเม้มปาก คิ้วขมวด "ข้ากับเขามีบุญคุณความแค้นกัน ถ้าเขามาหาเรื่องเจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 982

    จั๋วซือหรานคาดไว้แล้ว จึงไม่ได้ห้ามแสดงชัดเจนว่าไม่กลัวว่าเฟิงเหยียนจะรู้ กระทั่งพูดได้ว่า ตั้งใจให้เฟิงเหยียนรู้ด้วยซ้ำแล้วก็เป็นไปตามคาด นี่ก็ไม่ใช่เข้ามาแล้วหรือชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงรู้ว่า "ทำไมต้องเป็นปันอวิ๋น"จั๋วซือหรานฟังออก ว่าระหว่างชายหนุ่มกับปันอวิ๋น น่าจะมีอะไรกันอยู่ไม่เช่นนั้นปันอวิ๋นเองก็คงไม่ดื้อแพ่งคิดแต่จะบรรลุความร่วมมือหมั้นหมายกับนางแล้ว"แล้วทำไมถึงเป็นปันอวิ๋นไม่ได้" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ สายตามองเขา "เขาก็หน้าตาดีอยู่นี่""แค่เพราะเรื่องนี้หรือ?" ในดวงตาคิ้วที่เฉียมคมลึกซึ้งของชายหนุ่ม มีอารมณ์อื่นแทรกเข้ามา"ไม่อย่างนั้นจะเพราะอะไรล่ะ?" จั๋วซือหรานตอบ "เพียงแต่ ท่านอ๋องเอาฐานะอะไรเข้ามาถามข้ากัน?"จั๋วซือหรานมองสีหน้าเขา ในที่สุดก็ไม่เหลือรอยยิ้มใดอีก แม้แต่รอยยิ้มบางๆ ที่ไม่ได้อยู่ในดวงตาก่อนหน้า ก็หายไปจากใบหน้างามของนางหมดแล้ว"จะยุ่งมากไปหน่อยหรือเปล่า?" จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเย็นชาชายหนุ่มถูกนางจ้องเย็นชาเช่นนี้ ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนในใจอะไรบางอย่างขาดหายไป เหมือนมุมไหนสักมุมกำลังถูกทิ่มแทงราวกับว่า...ไม่ควรเป็นเช่นนี้ ไม่ควรจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 981

    จั๋วซือหรานตอนออกจากโรงหมอ ฟ้าก็มืดไปแล้วนางก้าวเดินออกจากโรงหมออย่างสบาย ผู้จัดการก็รีบเดินตามขึ้นมา "คุณหนู! ให้ข้าเรียกรถม้าให้ท่านไหม?""ไม่ต้อง" จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ "ข้าเดินกลับไปก็พอ นั่งมาทั้งวันก็ได้ยืดเส้นยืดสายหน่อยพอดี"ผู้จัดการเดิมทีคำพูดติดอยู่มุมปากแล้ว กังวลว่านางที่เป็นหญิงสาวคนเดียวเดินกลับตอนกลางคืนอาจจะไม่ปลอดภัยแต่พอคำพูดขึ้นมาถึงมุมปากก็รู้สึกว่าตนเองโง่หรือเปล่า นี่มันใครกัน? นี่ใช่หญิงสาวอ่อนแอเสียที่ไหน? นี่แม่นางจิ่วนะ!กังวลว่าแม่นางจิ่วเดินกลับบ้านแล้วไม่ปลอดภัยเรอะ? สู้กังวลคนอื่นที่มายั่วโมโหแม่นางจิ๋วว่าจะปลอดภัยหรือเปล่าดีกว่า...จั๋วซือหรานเดินไปครึ่งหนึ่งแล้ว จึงพบว่าตนเองหิวจะแย่แล้ว จึงเดินไปยังร้านข้างทางร้านหนึ่ง ซื้อขนมปิ่ง ถือไว้ในมือ เดินไปด้วยพลางกินหงุบหงับไปด้วยตอนที่เดินยังไม่ถึงครึ่ง จั๋วซือหรานก็กินขนมปิ่งในมือหมดไปแล้ว ดูดนิ้วของตัวเองเบาๆหลังจากนั้นนางจึงมองนิ้วมันแผลบของตนเอง ยืนคิดๆ อยู่กับที่ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ตามข้ามาตั้งนานแล้ว มีผ้าเช็ดมือไหม? ข้าอยากเช็ดมือ""..." รอบๆ นอกจากสายลมยามราตรีแล้ว ก็ไม่มีการเคลื่อนไห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 980

    "เจ้าบอกข้าหน่อยว่านี่มันโรคอะไร? เฮอะ! เจ้าอย่ามาทำตัวรู้มากนัก ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าไม่ได้ป่วยเป็นอะไรเสียหน่อย! เจ้ามาทำตัวลึกลับแบบนี้คิดว่ามีคนหลงเชื่อ แล้วยกเจ้าเป็นหมอเทวดาเรอะ ก็แค่เด็กน้อยยังไม่โต ทำเป็ฯรู้มาก น่าขันเสียจริง"พนักงานข้างๆ คนหนึ่งรำคาญขึ้นมาแล้ว คิดจะไล่คนออกไป แต่ใครจะรู้ ว่าจั๋วซือหรานกลับไม่ได้รำคาญเลยสีหน้าบนหน้าไม่เปลี่ยนไปมากนัก แค่มองคนคนนี้นิ่งๆ เอ่ยขึ้นว่า "ใครบอกเจ้าว่าเจ้าไม่ป่วย?"ชายหนุ่มตอบกลับทันที "ข้ามันคนแกร่ง! ไถนาได้สามไร่! กินข้าวมื้อละสามชาม!"พอสิ้นเสียงคนผู้นี้ จั๋วซือหรานก็เอ่ยรับเสียงเรียบ "แต่บนเตียงกลับทนได้ไม่ถึงสามนาที ไตพร่องพลังชี่ขาด น้ำเชื้อจึงเบาบาง แค่ลูกเจ้าก็มีไม่ได้ นี่หนักหนาอยู่นะ"จั๋วซือหรานพูด พลางเขียนตำรับยาพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ รอบๆ จึงมีเสียงหัวเราะขึ้น โดยเฉพาะตอนที่เห็นคนที่ดุดันขนาดนั้นก่อนหน้านี้ เวลานี้กลับถูกแม่นางจั๋วจิ่วพูดไปสองสามคำจนหน้าซีด พูดอะไรไม่ออกไปแล้ว...มีคนแอบกระซิบว่า "สีหน้าเขาดูแย่มากนะ คงไม่ใช่ถูกแม่นางจั๋วจิ่วแทงถูกจุดเข้ากระมัง...""น่าขำชะมัด แม่นางจั๋วจิ่วนี่เก่งกาจจริงๆ"ชายห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 979

    หานกวงถามคำนี้อย่างระมัดระวัง จั๋วซือหรานยิ้มออกมาบางๆ มองหานกวง "ทำไมหรือ? กลัวว่าข้าจะไม่เอาซื่อจื่อของพวกเจ้าแล้ว?"หานกวงคิด ตอบกลับเสียงต่ำ "ไม่ใช่แค่นั้น ข้ายังกังวลแม่นางจิ่วจะหุนหันพลันแล่นเพราะรู้สึกน้อยใจ แล้วไปแสร้งทำตัวเอาใจกับคนที่ไม่ได้ชอบ"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เคยทำให้ตัวเองต้องน้อยใจมาโดยตลอด และแทบจะไม่เคยแสร้งทำตัวเอาใจใครด้วย แทนที่เจ้าจะมากังวลเรื่องนี้ สู้ไปกังวลว่าข้าไม่ชอบซื่อจื่อของเจ้าแล้วหรือเปล่าดีกว่านะ"หานกวงเบิกตากลม สายตาลนลานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "ไม่หรอกกระมัง?"จั๋วซือหรานยักไหล่เอ่ยเอ่ยขึ้นยิ้มๆ "ไม่แน่นะ? คนที่ไม่ชอบข้า ข้าเองก็ไม่ชอบ ข้าเองก็เป็นพวกรักก็รักชังก็ชังเสียด้วย""แต่ แต่ว่า..."จั๋วซือหรานไม่รอให้หานกวงเติมเชื้อฟืนอะไรให้เจ้านายนาง เอ่ยขึ้นว่า "ยิ่งไปกว่านั้นนั่นก็เป็นเจ้าหุบเขาหมื่นพิษเลยนะ ข้าต้องการให้เขาชี้แนะวิชากู่กับข้า แล้วเขาก็หน้าตาใช้ได้ด้วย"หานกวงในใจร้อนรนขึ้นมา แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะนางตอนนี้เริ่มกลัวแล้ว กลัวว่าตนเองยิ่งพูดอะไรต่อหน้าแม่นางจิ่วก็จะยิ่งไปเติมฟืนไฟให้นายท่านตนเอง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 978

    จั๋วซือหรานส่งสายตาปลอบโยนให้นาง "ไม่ต้องเครียด"หานกวงกลับผ่อนคลายไม่ลง การคุกคามชีวิตในคำพูดนั้นของชายหนุ่มเจ้าเล่ห์คนนี้ก็เรื่องหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง นางฟังออกว่า แม่นางจิ่วเหมือนจะสนใจขึ้นมาจริงๆ แล้ว!แต่ แต่ว่า...! หานกวงรู้ว่านายท่านกับแม่นางจิ่วหวานชื่นมีอะไรกันแล้วนะดังนั้นอันที่จริงก็จินตนาการไม่ออกเลย ภาพที่แม่นางจิ่วไม่ได้ตกร่องปล่องชิ้นกับนายท่าน แต่กลับไปอยู่กับคนอื่นแทนหลังจากนั้น หานกวงก็เห็นแม่นางจิ่วนั่งลงบนเก้าอี้ เอนหลังเข้าหาเก้าอี้ สองมือกอดที่หน้าอก มองเรียบๆ ไปทางปันอวิ๋นท่าทางนี้ของแม่นางจิ่ว...หานกวงรู้สึกคุ้นเคย รู้สึก...เหมือนว่าตอนแม่นางจิ่วจะเริ่มเจรจาเงื่อนไขกับใคร หรือเริ่มจะหลอกลวงใคร ก็จะมีท่าทางประมาณนี้ปรากฏขึ้นดังนั้นหานกวงที่เดิมทีเตรียมจะอ้าปากเตือน จึงอดทนเอาไว้ อยากจะเห็นว่าแม่นางจิ่วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรจั๋วซือหรานมองปันอวิ๋น "เช่นนั้นก็ไม่ต้องลำบากเจ้าหุบเขาช่วยข้าจัดการองครักษ์เงาหรอก เพียงแต่ว่า เจ้าหุบเขาในเมื่อคิดจะเจรจาร่วมมือกับข้า..."ในตาจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นมา สวยงามมากแต่ตอนที่ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มที่สวยง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status