แชร์

บทที่ 973

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
เพราะตอนที่จั๋วซือหรานมา โรงหมอเปิดทำการแล้ว ดังนั้นในโรงหมอยังมีคนอื่นอยู่ ล้วนกำลังตรวจอาการกัน

จั๋วซือหรานเองก็มองออกง่าย ถึงอย่างไรก็มีหน้าตาแบบว่าพอได้เห็นก็ย้ายสายตาออกไม่ได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของแม่นางจั๋วจิ่ว ในเมืองหลวงเองก็ลือชื่อโด่งดัง ปกติไม่ค่อยได้เห็นตัว ตอนนี้พอได้เห็นก็ทำเอาคนอยากรู้จักกันขึ้นมา

เอาแค่ใบหน้านี้ ก็คุ้มที่จะลงทุนแล้ว พอมองไปนานๆ อาการป่วยก็ไม่ค่อยจะเจ็บแล้วอีกต่างหาก

จั๋วซือหรานที่ถูกคนจ้องมองก็ไม่ยี่หระอะไร และไม่รู้สึกอึดอัดด้วย

ดังนั้นสิ่งที่นางควรพูดก็พูดหมดแล้ว จึงไม่สนใจอีกว่าจะถูกใครมอง

แต่คนรอบๆ ก็ยังจับจ้องนางอยู่ แม่นางที่สวยขนาดนี้ ดูดีละเมียดไปทุกอณู เค้าโครงใบหน้าก็สมบูรณ์แบบไปทุกส่วน

สวมชุดแดงทั้งตัว พวกเขาไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกเหมือนเทพธิดาเสียอย่างนั้น

แต่พอเปิดปากมาก็ให้ตายเถอะ เนื้อหาที่พูดมาดันเป็น...ช่วงนี้เอาแต่ฆ่าคนให้ตายสิ...

สายตาพวกเขาก็แข็งทื่อกันไปแล้ว คนที่เหมือนเทพธิดานางสวรรค์...ทำไมพอเอ่ยปากจิตสังหารก็พุ่งขึ้นมาแบบนี้กัน

ยิ่งไปกว่านั้นพอมองอย่างละเอียด ก็เหมือนไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติ นางเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 974

    ส่วนมือของหานกวง กระทั่งทาบไว้บนกระบี่ที่เอวแล้วแต่คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะตรวจจั๋วซือหราน สีหน้ากลับไม่มีความเป็นศัตรูเลยจั๋วซือหรานตอนนี้ก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าอดพูดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามาก คนเราพอเจอกับคนที่หน้าตาดี ในใจก็มักจะใจกว้างขึ้นมาจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เพราะเห็นหน้าเฟิงเหยียนมากไป ดังนั้นเรื่องการตัดสินความสวยความหล่อนี้จึงสูงมากแต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจก็ยังอดยอมรับไม่ได้ ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ หน้าตาดีเอามากๆหล่อเหลา แล้วยังเป็นแบบนี้เฟิงเหยียนยังไม่อาจเทียบได้ สองคนลักษณะแตกต่างกันเฟิงเหยียนให้ความรู้สึกเหมือน หล่อแบบหาที่ติไม่ได้แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ เทียบจะบอกว่าหล่อเหลา สู้บอกว่างามสง่าดีกว่า ใบหน้าแม้จะดูสง่างาม แต่มองจากรายละเอียดเค้าโครงหูตาจมูก ก็ดูอ่อนโยนกว่า ไม่ได้แข็งกระด้างนักยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขายิ้ม ในดวงตาก็มีแววเจ้าเล่ห์เล็กๆอยู่ ทั่วทั้งตัวดูมีท่วงท่าความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาว่าอย่างไรดี คือ...ไม่ใช่คนดีนั่นล่ะเขานั่งอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหราน มองนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม สายตาพิจารณาไปมาอยู่บนตัวนางจากนั้นจึงหัวเราะเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 975

    เสียงจั๋วซือหรานไม่มีความอบอุ่นอยู่อีก ที่นางพูดมาก็ไม่ใช่เรื่องหลอกนางเองก็เพิ่งมีปฏิกิริยาพริบตาที่จับชีพจรเขา ชีพจรประหลาดแบบนี้ เป็นความอ่อนแอใกล้ตายอย่างไรอย่างนั้นแต่พลังวิญญาณคนผู้นี้ก็แข็งแกร่งมากจริงๆ ชีพจรโบราณเช่นนี้จั๋วซือหรานไม่เคยพบมาก่อนตัวนางเองนอนนี้ก็ชีพจรเช่นนี้ หรือก็คือ หลังจากที่ตนเองมีเจ้าก้อนเนื้อทั้งเจ็ด ชีพจรก็จะเริ่มประหลาดไปพูดให้เข้าใจง่ายอีกหน่อยก็คือ...ชีพจรของปรมาจารย์กู่จะแปลกแบบนี้เพราะปรมาจารย์กู่ที่เก่งกาจจะเลี้ยงแมลงกู่ไว้ในร่าง เพื่อให้สะดวกปล่อยมาใช้านยิ่งไปกว่นั้นเพราะวิชากู่สามารถควบคุมได้ จึงเลี้ยงไว้ในตนเองเสียเลย แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลร้ายกับร่างกาด้วย แล้วยังประหยัดกล่องแมลงกู่ได้อีกดังนั้นจั๋วซือหรานพริบตานี้จึงรู้ถึงอาชีพของอีกฝ่าย บวกกับเสื้อผ้าเขาที่มีลายไม่ค่อยชัด...ดูไม่ใช่ลักษณะแของแคว้นชางเลยยิ่งไปกว่านั้นพอจินตนาการถึงเหล่าปรมาจารย์กู่ดินแดนทางใต้ที่หนีออกมาจากค่ายคุ้มกัน จั๋วซือหรานจึงโจมตีขึ้นเป็นอันดับแรกคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับรับไว้อย่างสบายสิ่งนี้ทำให้ในใจจั๋วซือหรานดำดิ่ง จนต้องมองตรงๆ คนตรงหน้านี้ เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 976

    หลังจากที่นิ่งงันไปชั่วคราว รอยยิ้มบนหน้าก็ค่อยๆ เก็บลงไป จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เช่นนั้นหรือ ไร้เมตตาขนาดนี้เชียว นี่ข้าคิดว่าที่ข้าส่งนางพญากู่ให้เจ้าไปเจ็ดตัว กระทั่งอาวุธกู่ก็ยังหาขยะไปส่งให้ตรงหน้าเจ้า ข้าคิดว่าพวกเราควรจะ...สนิทสนมกันบ้างแล้วเสียอีก?"จั๋วซือหรานพอได้ยิน คิ้วก็ขมวดขึ้นมา ม่านตาหดลง มองไปทางเขาทันควัน "เจ้าคือ...ปันอวิ๋นสินะ?""ข้าเอง" รอยยิ้มบนใบหน้าปันอวิ๋นยังไม่หายไปไหน พูดไปด้วย พลางยื่นมือขยับไปมาท่าทางง่ายๆ เช่นนี้ ถ้าหากในสายตาคนอื่น ก็อาจจะรู้สึกแปลกประหลาดอยู่แต่พออยู่ในสายตาจั๋วซือหราน ก็ไม่ได้เห็นเป็นเช่นนั้น เพราะท่าทางง่ายๆ นี้ ชายหนุ่คนนี้ก็จัดการผ่อนหนักเป็นเบา ถอนไหมกู่ที่พันอยู่บนตัวเหล่านั้นออกไปจนหมดนี่แข็งแกร่งกว่าพวกปรมาจารย์กู่ดินแดนทางใต้ที่ค่ายคุ้มกันเหล่านั้นไม่รู้กี่เท่า พวกเขารวมกันก็ยังไม่ร้ายกาจเท่าปันอวิ๋นเลยจั๋วซือหรานไม่เคยดูแคลนศัตรูแหวนเสวียนเหยียนถูกนางปิดออกแล้ว ชัว่พริบตา พลังยิ่งใหญ่ระดับปกฟ้าคลุมดินก็แผ่กว้างออกไปโดยมีนางเป็นศูนย์กลางในสายตาก่อนหน้านี้ของปันอวิ๋นก็ค่อนข้างสนใจแล้ว ตอนนี้พอสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 977

    ปันอวิ๋นจุ๊ปาก พูดกับตนเองเสียงต่ำ "หญิงสาวที่เก่งเกินไปจะไม่ยอมใครง่ายๆ สินะ"จั๋วซือหรานยกมุมปากขึ้น "เจ้าหุบเขาถ้าหากบอกว่าหญิงสาวที่ฉลาดเกินไปหลอกยากล่ะก็ มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"ปันอวิ๋นครุ่นคิด เอ่ยต่อว่า "เฟิงเหยียนหมั้นไปแล้วแท้ๆ ถ้าเจ้าแต่งกับข้า ก็จะยิ่งทำให้เขาโมโหไม่ใช่รึ?""เจ้าหุบเขาไปรู้มาจากไหนว่าข้าเป็นคนที่จะใช้ชีวิตตัวเองเข้าไปล้างแค้นผู้อื่น?" จั๋วซือหรานถามขึ้น "เขาจะไปหมั้นกับใครก็ดี หรือจะไปแต่งกับใครก็ดี ล้วนไม่คู่ควรให้ข้าเอาชีวิตของข้าไปเดิมพันว่าเขาจะเสียใจไม่เสียใจ"ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มบนหน้านางงดงามมาก เสียงเองก็ดูสงบมั่นคงเหมือนพูดเรื่องหนักให้เป็นเบา "ไม่มีใครคูควรให้ข้าเอาชีวิตไปเดิมพันว่าอีกฝ่ายจะเสียใจหรือไม่ ชีวิตข้าสำคัญที่สุด""จุ๊" ปันอวิ๋นจุ๊ปากอีกครั้ง คิ้วงามขมวดขึ้น "ดูท่าจะกล่อมอย่างไรก็ไม่คล้อยตามเลยนะ""เจ้าหุบเขาถ้าหากชอบข้าขนาดนี้ ก็ลองคิดหาวิธีอื่นเถอะ" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ ทำสัญญาณมือไปทางประตู "หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็อย่าทำให้ข้าเสียเวลาการตรวจไข้เลย กว่าข้าจะมานั่งตรวจให้มันไม่ง่ายนะ"หานกวงที่อยู่ข้างๆ ยังคงมองชายตรงหน้าอย่าง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 978

    จั๋วซือหรานส่งสายตาปลอบโยนให้นาง "ไม่ต้องเครียด"หานกวงกลับผ่อนคลายไม่ลง การคุกคามชีวิตในคำพูดนั้นของชายหนุ่มเจ้าเล่ห์คนนี้ก็เรื่องหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง นางฟังออกว่า แม่นางจิ่วเหมือนจะสนใจขึ้นมาจริงๆ แล้ว!แต่ แต่ว่า...! หานกวงรู้ว่านายท่านกับแม่นางจิ่วหวานชื่นมีอะไรกันแล้วนะดังนั้นอันที่จริงก็จินตนาการไม่ออกเลย ภาพที่แม่นางจิ่วไม่ได้ตกร่องปล่องชิ้นกับนายท่าน แต่กลับไปอยู่กับคนอื่นแทนหลังจากนั้น หานกวงก็เห็นแม่นางจิ่วนั่งลงบนเก้าอี้ เอนหลังเข้าหาเก้าอี้ สองมือกอดที่หน้าอก มองเรียบๆ ไปทางปันอวิ๋นท่าทางนี้ของแม่นางจิ่ว...หานกวงรู้สึกคุ้นเคย รู้สึก...เหมือนว่าตอนแม่นางจิ่วจะเริ่มเจรจาเงื่อนไขกับใคร หรือเริ่มจะหลอกลวงใคร ก็จะมีท่าทางประมาณนี้ปรากฏขึ้นดังนั้นหานกวงที่เดิมทีเตรียมจะอ้าปากเตือน จึงอดทนเอาไว้ อยากจะเห็นว่าแม่นางจิ่วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรจั๋วซือหรานมองปันอวิ๋น "เช่นนั้นก็ไม่ต้องลำบากเจ้าหุบเขาช่วยข้าจัดการองครักษ์เงาหรอก เพียงแต่ว่า เจ้าหุบเขาในเมื่อคิดจะเจรจาร่วมมือกับข้า..."ในตาจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นมา สวยงามมากแต่ตอนที่ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มที่สวยง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 2

    ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 3

    แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 978

    จั๋วซือหรานส่งสายตาปลอบโยนให้นาง "ไม่ต้องเครียด"หานกวงกลับผ่อนคลายไม่ลง การคุกคามชีวิตในคำพูดนั้นของชายหนุ่มเจ้าเล่ห์คนนี้ก็เรื่องหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง นางฟังออกว่า แม่นางจิ่วเหมือนจะสนใจขึ้นมาจริงๆ แล้ว!แต่ แต่ว่า...! หานกวงรู้ว่านายท่านกับแม่นางจิ่วหวานชื่นมีอะไรกันแล้วนะดังนั้นอันที่จริงก็จินตนาการไม่ออกเลย ภาพที่แม่นางจิ่วไม่ได้ตกร่องปล่องชิ้นกับนายท่าน แต่กลับไปอยู่กับคนอื่นแทนหลังจากนั้น หานกวงก็เห็นแม่นางจิ่วนั่งลงบนเก้าอี้ เอนหลังเข้าหาเก้าอี้ สองมือกอดที่หน้าอก มองเรียบๆ ไปทางปันอวิ๋นท่าทางนี้ของแม่นางจิ่ว...หานกวงรู้สึกคุ้นเคย รู้สึก...เหมือนว่าตอนแม่นางจิ่วจะเริ่มเจรจาเงื่อนไขกับใคร หรือเริ่มจะหลอกลวงใคร ก็จะมีท่าทางประมาณนี้ปรากฏขึ้นดังนั้นหานกวงที่เดิมทีเตรียมจะอ้าปากเตือน จึงอดทนเอาไว้ อยากจะเห็นว่าแม่นางจิ่วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรจั๋วซือหรานมองปันอวิ๋น "เช่นนั้นก็ไม่ต้องลำบากเจ้าหุบเขาช่วยข้าจัดการองครักษ์เงาหรอก เพียงแต่ว่า เจ้าหุบเขาในเมื่อคิดจะเจรจาร่วมมือกับข้า..."ในตาจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นมา สวยงามมากแต่ตอนที่ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มที่สวยง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 977

    ปันอวิ๋นจุ๊ปาก พูดกับตนเองเสียงต่ำ "หญิงสาวที่เก่งเกินไปจะไม่ยอมใครง่ายๆ สินะ"จั๋วซือหรานยกมุมปากขึ้น "เจ้าหุบเขาถ้าหากบอกว่าหญิงสาวที่ฉลาดเกินไปหลอกยากล่ะก็ มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"ปันอวิ๋นครุ่นคิด เอ่ยต่อว่า "เฟิงเหยียนหมั้นไปแล้วแท้ๆ ถ้าเจ้าแต่งกับข้า ก็จะยิ่งทำให้เขาโมโหไม่ใช่รึ?""เจ้าหุบเขาไปรู้มาจากไหนว่าข้าเป็นคนที่จะใช้ชีวิตตัวเองเข้าไปล้างแค้นผู้อื่น?" จั๋วซือหรานถามขึ้น "เขาจะไปหมั้นกับใครก็ดี หรือจะไปแต่งกับใครก็ดี ล้วนไม่คู่ควรให้ข้าเอาชีวิตของข้าไปเดิมพันว่าเขาจะเสียใจไม่เสียใจ"ปันอวิ๋นเห็นรอยยิ้มบนหน้านางงดงามมาก เสียงเองก็ดูสงบมั่นคงเหมือนพูดเรื่องหนักให้เป็นเบา "ไม่มีใครคูควรให้ข้าเอาชีวิตไปเดิมพันว่าอีกฝ่ายจะเสียใจหรือไม่ ชีวิตข้าสำคัญที่สุด""จุ๊" ปันอวิ๋นจุ๊ปากอีกครั้ง คิ้วงามขมวดขึ้น "ดูท่าจะกล่อมอย่างไรก็ไม่คล้อยตามเลยนะ""เจ้าหุบเขาถ้าหากชอบข้าขนาดนี้ ก็ลองคิดหาวิธีอื่นเถอะ" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ ทำสัญญาณมือไปทางประตู "หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็อย่าทำให้ข้าเสียเวลาการตรวจไข้เลย กว่าข้าจะมานั่งตรวจให้มันไม่ง่ายนะ"หานกวงที่อยู่ข้างๆ ยังคงมองชายตรงหน้าอย่าง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 976

    หลังจากที่นิ่งงันไปชั่วคราว รอยยิ้มบนหน้าก็ค่อยๆ เก็บลงไป จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เช่นนั้นหรือ ไร้เมตตาขนาดนี้เชียว นี่ข้าคิดว่าที่ข้าส่งนางพญากู่ให้เจ้าไปเจ็ดตัว กระทั่งอาวุธกู่ก็ยังหาขยะไปส่งให้ตรงหน้าเจ้า ข้าคิดว่าพวกเราควรจะ...สนิทสนมกันบ้างแล้วเสียอีก?"จั๋วซือหรานพอได้ยิน คิ้วก็ขมวดขึ้นมา ม่านตาหดลง มองไปทางเขาทันควัน "เจ้าคือ...ปันอวิ๋นสินะ?""ข้าเอง" รอยยิ้มบนใบหน้าปันอวิ๋นยังไม่หายไปไหน พูดไปด้วย พลางยื่นมือขยับไปมาท่าทางง่ายๆ เช่นนี้ ถ้าหากในสายตาคนอื่น ก็อาจจะรู้สึกแปลกประหลาดอยู่แต่พออยู่ในสายตาจั๋วซือหราน ก็ไม่ได้เห็นเป็นเช่นนั้น เพราะท่าทางง่ายๆ นี้ ชายหนุ่คนนี้ก็จัดการผ่อนหนักเป็นเบา ถอนไหมกู่ที่พันอยู่บนตัวเหล่านั้นออกไปจนหมดนี่แข็งแกร่งกว่าพวกปรมาจารย์กู่ดินแดนทางใต้ที่ค่ายคุ้มกันเหล่านั้นไม่รู้กี่เท่า พวกเขารวมกันก็ยังไม่ร้ายกาจเท่าปันอวิ๋นเลยจั๋วซือหรานไม่เคยดูแคลนศัตรูแหวนเสวียนเหยียนถูกนางปิดออกแล้ว ชัว่พริบตา พลังยิ่งใหญ่ระดับปกฟ้าคลุมดินก็แผ่กว้างออกไปโดยมีนางเป็นศูนย์กลางในสายตาก่อนหน้านี้ของปันอวิ๋นก็ค่อนข้างสนใจแล้ว ตอนนี้พอสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 975

    เสียงจั๋วซือหรานไม่มีความอบอุ่นอยู่อีก ที่นางพูดมาก็ไม่ใช่เรื่องหลอกนางเองก็เพิ่งมีปฏิกิริยาพริบตาที่จับชีพจรเขา ชีพจรประหลาดแบบนี้ เป็นความอ่อนแอใกล้ตายอย่างไรอย่างนั้นแต่พลังวิญญาณคนผู้นี้ก็แข็งแกร่งมากจริงๆ ชีพจรโบราณเช่นนี้จั๋วซือหรานไม่เคยพบมาก่อนตัวนางเองนอนนี้ก็ชีพจรเช่นนี้ หรือก็คือ หลังจากที่ตนเองมีเจ้าก้อนเนื้อทั้งเจ็ด ชีพจรก็จะเริ่มประหลาดไปพูดให้เข้าใจง่ายอีกหน่อยก็คือ...ชีพจรของปรมาจารย์กู่จะแปลกแบบนี้เพราะปรมาจารย์กู่ที่เก่งกาจจะเลี้ยงแมลงกู่ไว้ในร่าง เพื่อให้สะดวกปล่อยมาใช้านยิ่งไปกว่นั้นเพราะวิชากู่สามารถควบคุมได้ จึงเลี้ยงไว้ในตนเองเสียเลย แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลร้ายกับร่างกาด้วย แล้วยังประหยัดกล่องแมลงกู่ได้อีกดังนั้นจั๋วซือหรานพริบตานี้จึงรู้ถึงอาชีพของอีกฝ่าย บวกกับเสื้อผ้าเขาที่มีลายไม่ค่อยชัด...ดูไม่ใช่ลักษณะแของแคว้นชางเลยยิ่งไปกว่านั้นพอจินตนาการถึงเหล่าปรมาจารย์กู่ดินแดนทางใต้ที่หนีออกมาจากค่ายคุ้มกัน จั๋วซือหรานจึงโจมตีขึ้นเป็นอันดับแรกคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับรับไว้อย่างสบายสิ่งนี้ทำให้ในใจจั๋วซือหรานดำดิ่ง จนต้องมองตรงๆ คนตรงหน้านี้ เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 974

    ส่วนมือของหานกวง กระทั่งทาบไว้บนกระบี่ที่เอวแล้วแต่คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะตรวจจั๋วซือหราน สีหน้ากลับไม่มีความเป็นศัตรูเลยจั๋วซือหรานตอนนี้ก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าอดพูดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามาก คนเราพอเจอกับคนที่หน้าตาดี ในใจก็มักจะใจกว้างขึ้นมาจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เพราะเห็นหน้าเฟิงเหยียนมากไป ดังนั้นเรื่องการตัดสินความสวยความหล่อนี้จึงสูงมากแต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจก็ยังอดยอมรับไม่ได้ ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ หน้าตาดีเอามากๆหล่อเหลา แล้วยังเป็นแบบนี้เฟิงเหยียนยังไม่อาจเทียบได้ สองคนลักษณะแตกต่างกันเฟิงเหยียนให้ความรู้สึกเหมือน หล่อแบบหาที่ติไม่ได้แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ เทียบจะบอกว่าหล่อเหลา สู้บอกว่างามสง่าดีกว่า ใบหน้าแม้จะดูสง่างาม แต่มองจากรายละเอียดเค้าโครงหูตาจมูก ก็ดูอ่อนโยนกว่า ไม่ได้แข็งกระด้างนักยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขายิ้ม ในดวงตาก็มีแววเจ้าเล่ห์เล็กๆอยู่ ทั่วทั้งตัวดูมีท่วงท่าความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาว่าอย่างไรดี คือ...ไม่ใช่คนดีนั่นล่ะเขานั่งอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหราน มองนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม สายตาพิจารณาไปมาอยู่บนตัวนางจากนั้นจึงหัวเราะเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 973

    เพราะตอนที่จั๋วซือหรานมา โรงหมอเปิดทำการแล้ว ดังนั้นในโรงหมอยังมีคนอื่นอยู่ ล้วนกำลังตรวจอาการกันจั๋วซือหรานเองก็มองออกง่าย ถึงอย่างไรก็มีหน้าตาแบบว่าพอได้เห็นก็ย้ายสายตาออกไม่ได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของแม่นางจั๋วจิ่ว ในเมืองหลวงเองก็ลือชื่อโด่งดัง ปกติไม่ค่อยได้เห็นตัว ตอนนี้พอได้เห็นก็ทำเอาคนอยากรู้จักกันขึ้นมาเอาแค่ใบหน้านี้ ก็คุ้มที่จะลงทุนแล้ว พอมองไปนานๆ อาการป่วยก็ไม่ค่อยจะเจ็บแล้วอีกต่างหากจั๋วซือหรานที่ถูกคนจ้องมองก็ไม่ยี่หระอะไร และไม่รู้สึกอึดอัดด้วยดังนั้นสิ่งที่นางควรพูดก็พูดหมดแล้ว จึงไม่สนใจอีกว่าจะถูกใครมองแต่คนรอบๆ ก็ยังจับจ้องนางอยู่ แม่นางที่สวยขนาดนี้ ดูดีละเมียดไปทุกอณู เค้าโครงใบหน้าก็สมบูรณ์แบบไปทุกส่วนสวมชุดแดงทั้งตัว พวกเขาไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกเหมือนเทพธิดาเสียอย่างนั้นแต่พอเปิดปากมาก็ให้ตายเถอะ เนื้อหาที่พูดมาดันเป็น...ช่วงนี้เอาแต่ฆ่าคนให้ตายสิ...สายตาพวกเขาก็แข็งทื่อกันไปแล้ว คนที่เหมือนเทพธิดานางสวรรค์...ทำไมพอเอ่ยปากจิตสังหารก็พุ่งขึ้นมาแบบนี้กันยิ่งไปกว่านั้นพอมองอย่างละเอียด ก็เหมือนไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติ นางเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 972

    พูดได้แค่ว่าข้อมูลในคำพูดของแม่นางจิ่วนี้มากเกินไปจริงๆมากจนสมองนางเหมือนจะคิดไม่ทันเสียแล้ว!จั๋วซือรหานมองนาง เอ่ยต่ว่า "ข้าก็บอกไปแล้ว อย่ามาเติมฟืนให้นายท่านเจ้าอีก ดีที่สุดแล้วที่เขาจะจำไม่ได้ วันไหนถ้านึกออกขึ้นมา จั๋วซือหรานอย่างข้าต้องเอาคืนเขาแน่ๆ..."ในใจหานกวงแอบคิด นายท่านคงต้องระวังตัวเองเสียแล้วนะจั๋วซือหรานมองสีหน้าที่เหมือนปิดเครื่องไปแล้วของหานกวง ก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ตอนนี้จึงเดินหน้าต่อ เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งว่า "เรื่องนี้เจ้ารู้ไว้ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปบอกองครักษ์เงาคนอื่นล่ะ""แม่นางจิ่ววางใจเถิด ข้าน้อยทราบแล้ว" หานกวงรีบตอบกลับเสียงต่ำนางรู้แน่นอน เรื่องเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาว แม่นางจิ่วก็น่าจะเห็นว่านางเป็นหญิงสาว ถึงได้เอ่ยขึ้นมาขณะที่คุยกัน ก็มาถึงโรงหมอแล้วจั๋วซือหรานไม่ได้แล้วพักหนึ่ง ก็คิดไม่ถึงเลยว่า ถนนเส้นนี้หน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้วพอเห็นว่านางมา ผู้จัดการก็รู้สึกตกใจมาก รีบเข้ามาต้อนรับ "คุณหนู! ท่านมาแล้ว!""อืม ช่วงนี้ยุ่งหน่อยน่ะ เลยไม่ได้เข้ามาเลย พวกเจ้ายังไหวกันไหม?" จั๋วซือหรานถาม"แน่นอน! คุณหนูวางใจได้เลย!" ผู้จัดการตอบกลับ"ข้าเพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 971

    หลังจากฉุนจวินกลับไป ดูแล้วก็เหมือนจะกลัดกลุ้มอยู่หน่อยๆแต่ว่าจั๋วซือหรานหลังจากกลับไปกรมสืบสวนพิเศษ ไม่ได้เจอกับฉุนจวิน จึงไม่ได้สังเกตเห็นอะไรสองวันต่อมา หานกวงจึงมาบอกกับนางจั๋วซือหรานกำลังไปดูร้านยาโรงแพทย์ของตนเอง หานกวงก็อยู่กับนางด้วยระหว่างทางก็บอกกับนาง หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ"นี่ฉุนจวินพูดมาหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นหานกวงพยักหน้า "ฉุนจวินวันนั้นตอนที่ไปรายงานกับท่านที่กรมสืบสวนพิเศษ ก็เจอกับนายท่านเข้า จากนั้นจึงคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง"หานกวงก็เอาไม่กี่คำที่ฉุนจวินคุยกับนายท่านเขา บอกให้จั๋วซือหรานฟังจั๋วซือหรานฟังไปครึ่งหนึ่งจึงยิ้มออกมา มุมปากนางกระตุก เอ่ยขึ้นว่า "อะไรคือคือตระกูลเฟิงเห็นเขาเป็นคนโง่กันนะ..."หานกวงพอได้ยินก็งงงัน ยังคิดว่าจั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำพูดนี้ พอกำลังจะอธิบาย ก็ได้ยินแม่นางจิ่วหัวเราะขึ้นมา บอกว่า "เขามันก็คนโง่จริงๆ นี่นา?"หานกวง "..."ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าจะโต้กลับอย่างไรหานกวงกระแอมขึ้นมาทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบกลับจั๋วซือหรานมองนาง "จากนั้นล่ะ? เขาพูดอะไรอีก?""ความหมายของนายท่านเหมือนว่าจะเป็น ต่อให้เข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 970

    ชิ่งหมิงคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ ตลอด แม้จะไม่ถึงกับจ้องตาแป๋วน้ำลายไหล แต่ตาก็เป็นประกายอยู่ตลอดจั๋วซือหรานมองไปก็ยิ้มๆ พูดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "มีแค่ตอนนี้นี่ล่ะ ที่จะได้เห็นเจ้าตอนที่ยังติดอ่างแบบตอนนั้น"นางยื่นมือออกไป คิดจะบีบแก้มชิ่งหมิงแต่ปฏิกิริยาชิ่งหมิงก็รวดเร็ว เขยิบถอยออกไปด้านหลังเลี่ยงนิ้วของนางออกไปอย่างไม่ตั้งใจและตอนที่จั๋วซือหรานยังไม่ทันได้ทันตั้งตัวว่าน้องชิ่งก็กลายเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว จะมาหยิกแก้มแบบนี้ไม่ได้ชิ่งหมิงก็เดินเข้ามาก้าวหนึ่ง ยื่นแก้มตัวเองเข้าไปที่นิ้วของนางจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง บีบเบาๆ "พอโตมา สัมผัสไม่ค่อยดีแล้วแฮะ"ชิ่งหมิงยกกับข้าวออกไปอย่างสมัครใจรอให้จั๋วซือหรานจัดการเสร็จแล้วค่อยกินด้วยกันแต่พอจั๋วซือหรานเสร็จงาน ยังไม่ทันได้จับตะเกียบ ก็มีคนเข้ามารายงานแล้ว"แม่นางจิ่ว"จั๋วซือหรานแหงนจามองฉุนจวินที่ตรงเข้ามารายงาน "ทำไม? เกิดอะไรขึ้นรึ?"ฉุนจวินกดเสียงต่ำ "จดหมาของฮูหยินส่งเข้ามาในเมืองหลวง เพิ่งส่งมาในจวนขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ตกตะลึง "แม่ข้าหรือ?""ขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ในจดหมายแม่ข้าบอกว่าอะไร?""ฮูหยินบอกว่าออกเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status