Share

บทที่ 968

Author: หูเทียนเสี่ยว
จะเป็นก็ไม่เป็น จะตายก็ไม่ตาย

อยู่ในแบบที่ไม่เป็นไม่ตาย

"ซือคงอวี้" ปากชายหนุ่มเอ่ยออกมาเรียบๆ สามคำ

ร่างกายที่แช่ในอ่างสั่นไปทั้งตัวทันที ดวงตายังคงขุ่นมัว แต่ในตาที่ขุ่นมัว เริ่มปรับภาพขึ้นมาแล้ว

ในคอเองก็เริ่มมีพยางค์ความหมาย "ฆ่า...ฆ่าข้า...ซะ!"

เสียงฟังแล้วแหบพร่าสุดๆ

ใครจะนึกออก ว่าชินอ๋องอวี้ที่เคยยิ่งใหญ่ทรงอำนาจในเมืองหลวง จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

ถูกคนสับแขนขาแช่ไว้ในถัง กลายมาเป็นมนุษย์ท่อนไม้ ทนทุกข์ทรมานแบบที่จะอยู่ก็ไม่ได้จะตายก็ไม่ได้

เขาคำรามอีกว่า "ฆ่า...ปัน...ปันอวิ๋น...ฆ่าข้า...ซะ!"

ผู้ใต้บัญชาข้างๆ ตะคอกขึ้นมา "เป็นแค่หุ่นเชิด ยังกล้ามาเรียกชื่อนายท่านอีกเรอะ!"

ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเจ้าเล่ห์ข้างๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือปันอวิ๋น...ปรมาจารย์กู่ที่หลอมสกัด 'ลูกแก้วมังกรทั้งเจ็ด' ของจั๋วซือหรานออกมา และเป็นเจ้าหุบเขาของหุบเขาหมื่นพิษพรมแดนใต้นั่นเอง

เทียบกับการตะคอกไม่อย่างชอบใจของผู้ใต้บัญชาแล้ว ปันอวิ๋นไม่ได้มีอารมณ์อะไรนักกับการที่ซือคงอวี้เรียกชื่อจริงเขา

แต่กลับเดินวนรอบถังอย่างสนใจ เอ่ยขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "เจ้าไม่ใช่อยากจะมีชีวิตเรอะ? เจ้าไม่ใช่อย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 969

    ชิ่งหมิงเดินออกมาจากด้านหลัง นับจากที่จั๋วซือหรานรักษาถอนพิษให้เขา หลังจากที่ฟื้นฟูร่างกายกับสติปัญญาแบบผู้ใหญ่กลับมาหลังจากที่ค่อยๆ ปรับตัวและเข้าใจเรื่องราวได้ชัดเจนขึ้น ชิ่งหมิงก็ไม่คิดจะไปมีนิสัยเหมือนตอนเป็นหนุ่มน้อยแบบนั้นแล้ว ที่คอยเรียกเวินป๋อยวนว่าลุงเวินป๋อยวนก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำเรียกนี้"แหย่ข้า?" จั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาถึงคำพูดของชิ่งหมิง เอียงตาไปมองเวินป๋อยวน "ใต้เท้าซือหลี่ล้อเล่นกับข้าเป็นตั้งแต่เมื่อไรกัน"ชิ่งหมิงเดินเข้ามา นั่งลงข้างๆ จั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "ความหมายของป๋อยวนก่อนหน้านี้คือ อาวุธกู่ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิดนะ และไม่ใช่แค่เอาไว้ควบคุมแมลงกู่ให้โจมตีเท่านั้นด้วย"จั๋วซือหรานฟังขึ้นมาอย่างสนใจ "โอ๋? ยังมีอะไรอีกล่ะ?"นางใช้มือเท้าโต๊ะยันคาง มองเวินป๋อยวน "ใต้เท้าโปรดสั่งสอนอย่างไม่ตระหนีด้วย ข้าอยากฟังอย่างชัดเจน"เวินป๋อยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "จะอาวุธกู่ก็ดี อาวุธวิญญาณอาวุธเวทก็ดี ในพื้นฐานแล้วก็ล้วนเป็นอาวุธประเภทหนึ่ง ล้วนมีไว้ใช้เพื่อโจมตี คุณสมบัติดั้งเดิมเป็นแบบเดียวกัน""และอาวุธที่ยิ่งดี แน่นอนว่าประสิทธิภาพก็จะยิ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 970

    ชิ่งหมิงคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ ตลอด แม้จะไม่ถึงกับจ้องตาแป๋วน้ำลายไหล แต่ตาก็เป็นประกายอยู่ตลอดจั๋วซือหรานมองไปก็ยิ้มๆ พูดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "มีแค่ตอนนี้นี่ล่ะ ที่จะได้เห็นเจ้าตอนที่ยังติดอ่างแบบตอนนั้น"นางยื่นมือออกไป คิดจะบีบแก้มชิ่งหมิงแต่ปฏิกิริยาชิ่งหมิงก็รวดเร็ว เขยิบถอยออกไปด้านหลังเลี่ยงนิ้วของนางออกไปอย่างไม่ตั้งใจและตอนที่จั๋วซือหรานยังไม่ทันได้ทันตั้งตัวว่าน้องชิ่งก็กลายเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว จะมาหยิกแก้มแบบนี้ไม่ได้ชิ่งหมิงก็เดินเข้ามาก้าวหนึ่ง ยื่นแก้มตัวเองเข้าไปที่นิ้วของนางจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง บีบเบาๆ "พอโตมา สัมผัสไม่ค่อยดีแล้วแฮะ"ชิ่งหมิงยกกับข้าวออกไปอย่างสมัครใจรอให้จั๋วซือหรานจัดการเสร็จแล้วค่อยกินด้วยกันแต่พอจั๋วซือหรานเสร็จงาน ยังไม่ทันได้จับตะเกียบ ก็มีคนเข้ามารายงานแล้ว"แม่นางจิ่ว"จั๋วซือหรานแหงนจามองฉุนจวินที่ตรงเข้ามารายงาน "ทำไม? เกิดอะไรขึ้นรึ?"ฉุนจวินกดเสียงต่ำ "จดหมาของฮูหยินส่งเข้ามาในเมืองหลวง เพิ่งส่งมาในจวนขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ตกตะลึง "แม่ข้าหรือ?""ขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ในจดหมายแม่ข้าบอกว่าอะไร?""ฮูหยินบอกว่าออกเด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 971

    หลังจากฉุนจวินกลับไป ดูแล้วก็เหมือนจะกลัดกลุ้มอยู่หน่อยๆแต่ว่าจั๋วซือหรานหลังจากกลับไปกรมสืบสวนพิเศษ ไม่ได้เจอกับฉุนจวิน จึงไม่ได้สังเกตเห็นอะไรสองวันต่อมา หานกวงจึงมาบอกกับนางจั๋วซือหรานกำลังไปดูร้านยาโรงแพทย์ของตนเอง หานกวงก็อยู่กับนางด้วยระหว่างทางก็บอกกับนาง หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ"นี่ฉุนจวินพูดมาหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นหานกวงพยักหน้า "ฉุนจวินวันนั้นตอนที่ไปรายงานกับท่านที่กรมสืบสวนพิเศษ ก็เจอกับนายท่านเข้า จากนั้นจึงคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง"หานกวงก็เอาไม่กี่คำที่ฉุนจวินคุยกับนายท่านเขา บอกให้จั๋วซือหรานฟังจั๋วซือหรานฟังไปครึ่งหนึ่งจึงยิ้มออกมา มุมปากนางกระตุก เอ่ยขึ้นว่า "อะไรคือคือตระกูลเฟิงเห็นเขาเป็นคนโง่กันนะ..."หานกวงพอได้ยินก็งงงัน ยังคิดว่าจั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำพูดนี้ พอกำลังจะอธิบาย ก็ได้ยินแม่นางจิ่วหัวเราะขึ้นมา บอกว่า "เขามันก็คนโง่จริงๆ นี่นา?"หานกวง "..."ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าจะโต้กลับอย่างไรหานกวงกระแอมขึ้นมาทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบกลับจั๋วซือหรานมองนาง "จากนั้นล่ะ? เขาพูดอะไรอีก?""ความหมายของนายท่านเหมือนว่าจะเป็น ต่อให้เข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 972

    พูดได้แค่ว่าข้อมูลในคำพูดของแม่นางจิ่วนี้มากเกินไปจริงๆมากจนสมองนางเหมือนจะคิดไม่ทันเสียแล้ว!จั๋วซือรหานมองนาง เอ่ยต่ว่า "ข้าก็บอกไปแล้ว อย่ามาเติมฟืนให้นายท่านเจ้าอีก ดีที่สุดแล้วที่เขาจะจำไม่ได้ วันไหนถ้านึกออกขึ้นมา จั๋วซือหรานอย่างข้าต้องเอาคืนเขาแน่ๆ..."ในใจหานกวงแอบคิด นายท่านคงต้องระวังตัวเองเสียแล้วนะจั๋วซือหรานมองสีหน้าที่เหมือนปิดเครื่องไปแล้วของหานกวง ก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ตอนนี้จึงเดินหน้าต่อ เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งว่า "เรื่องนี้เจ้ารู้ไว้ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปบอกองครักษ์เงาคนอื่นล่ะ""แม่นางจิ่ววางใจเถิด ข้าน้อยทราบแล้ว" หานกวงรีบตอบกลับเสียงต่ำนางรู้แน่นอน เรื่องเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาว แม่นางจิ่วก็น่าจะเห็นว่านางเป็นหญิงสาว ถึงได้เอ่ยขึ้นมาขณะที่คุยกัน ก็มาถึงโรงหมอแล้วจั๋วซือหรานไม่ได้แล้วพักหนึ่ง ก็คิดไม่ถึงเลยว่า ถนนเส้นนี้หน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้วพอเห็นว่านางมา ผู้จัดการก็รู้สึกตกใจมาก รีบเข้ามาต้อนรับ "คุณหนู! ท่านมาแล้ว!""อืม ช่วงนี้ยุ่งหน่อยน่ะ เลยไม่ได้เข้ามาเลย พวกเจ้ายังไหวกันไหม?" จั๋วซือหรานถาม"แน่นอน! คุณหนูวางใจได้เลย!" ผู้จัดการตอบกลับ"ข้าเพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 973

    เพราะตอนที่จั๋วซือหรานมา โรงหมอเปิดทำการแล้ว ดังนั้นในโรงหมอยังมีคนอื่นอยู่ ล้วนกำลังตรวจอาการกันจั๋วซือหรานเองก็มองออกง่าย ถึงอย่างไรก็มีหน้าตาแบบว่าพอได้เห็นก็ย้ายสายตาออกไม่ได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของแม่นางจั๋วจิ่ว ในเมืองหลวงเองก็ลือชื่อโด่งดัง ปกติไม่ค่อยได้เห็นตัว ตอนนี้พอได้เห็นก็ทำเอาคนอยากรู้จักกันขึ้นมาเอาแค่ใบหน้านี้ ก็คุ้มที่จะลงทุนแล้ว พอมองไปนานๆ อาการป่วยก็ไม่ค่อยจะเจ็บแล้วอีกต่างหากจั๋วซือหรานที่ถูกคนจ้องมองก็ไม่ยี่หระอะไร และไม่รู้สึกอึดอัดด้วยดังนั้นสิ่งที่นางควรพูดก็พูดหมดแล้ว จึงไม่สนใจอีกว่าจะถูกใครมองแต่คนรอบๆ ก็ยังจับจ้องนางอยู่ แม่นางที่สวยขนาดนี้ ดูดีละเมียดไปทุกอณู เค้าโครงใบหน้าก็สมบูรณ์แบบไปทุกส่วนสวมชุดแดงทั้งตัว พวกเขาไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกเหมือนเทพธิดาเสียอย่างนั้นแต่พอเปิดปากมาก็ให้ตายเถอะ เนื้อหาที่พูดมาดันเป็น...ช่วงนี้เอาแต่ฆ่าคนให้ตายสิ...สายตาพวกเขาก็แข็งทื่อกันไปแล้ว คนที่เหมือนเทพธิดานางสวรรค์...ทำไมพอเอ่ยปากจิตสังหารก็พุ่งขึ้นมาแบบนี้กันยิ่งไปกว่านั้นพอมองอย่างละเอียด ก็เหมือนไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติ นางเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 974

    ส่วนมือของหานกวง กระทั่งทาบไว้บนกระบี่ที่เอวแล้วแต่คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะตรวจจั๋วซือหราน สีหน้ากลับไม่มีความเป็นศัตรูเลยจั๋วซือหรานตอนนี้ก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าอดพูดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามาก คนเราพอเจอกับคนที่หน้าตาดี ในใจก็มักจะใจกว้างขึ้นมาจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เพราะเห็นหน้าเฟิงเหยียนมากไป ดังนั้นเรื่องการตัดสินความสวยความหล่อนี้จึงสูงมากแต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจก็ยังอดยอมรับไม่ได้ ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ หน้าตาดีเอามากๆหล่อเหลา แล้วยังเป็นแบบนี้เฟิงเหยียนยังไม่อาจเทียบได้ สองคนลักษณะแตกต่างกันเฟิงเหยียนให้ความรู้สึกเหมือน หล่อแบบหาที่ติไม่ได้แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ เทียบจะบอกว่าหล่อเหลา สู้บอกว่างามสง่าดีกว่า ใบหน้าแม้จะดูสง่างาม แต่มองจากรายละเอียดเค้าโครงหูตาจมูก ก็ดูอ่อนโยนกว่า ไม่ได้แข็งกระด้างนักยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขายิ้ม ในดวงตาก็มีแววเจ้าเล่ห์เล็กๆอยู่ ทั่วทั้งตัวดูมีท่วงท่าความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาว่าอย่างไรดี คือ...ไม่ใช่คนดีนั่นล่ะเขานั่งอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหราน มองนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม สายตาพิจารณาไปมาอยู่บนตัวนางจากนั้นจึงหัวเราะเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 2

    ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 974

    ส่วนมือของหานกวง กระทั่งทาบไว้บนกระบี่ที่เอวแล้วแต่คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะตรวจจั๋วซือหราน สีหน้ากลับไม่มีความเป็นศัตรูเลยจั๋วซือหรานตอนนี้ก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าอดพูดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามาก คนเราพอเจอกับคนที่หน้าตาดี ในใจก็มักจะใจกว้างขึ้นมาจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เพราะเห็นหน้าเฟิงเหยียนมากไป ดังนั้นเรื่องการตัดสินความสวยความหล่อนี้จึงสูงมากแต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจก็ยังอดยอมรับไม่ได้ ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ หน้าตาดีเอามากๆหล่อเหลา แล้วยังเป็นแบบนี้เฟิงเหยียนยังไม่อาจเทียบได้ สองคนลักษณะแตกต่างกันเฟิงเหยียนให้ความรู้สึกเหมือน หล่อแบบหาที่ติไม่ได้แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ เทียบจะบอกว่าหล่อเหลา สู้บอกว่างามสง่าดีกว่า ใบหน้าแม้จะดูสง่างาม แต่มองจากรายละเอียดเค้าโครงหูตาจมูก ก็ดูอ่อนโยนกว่า ไม่ได้แข็งกระด้างนักยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขายิ้ม ในดวงตาก็มีแววเจ้าเล่ห์เล็กๆอยู่ ทั่วทั้งตัวดูมีท่วงท่าความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาว่าอย่างไรดี คือ...ไม่ใช่คนดีนั่นล่ะเขานั่งอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหราน มองนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม สายตาพิจารณาไปมาอยู่บนตัวนางจากนั้นจึงหัวเราะเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 973

    เพราะตอนที่จั๋วซือหรานมา โรงหมอเปิดทำการแล้ว ดังนั้นในโรงหมอยังมีคนอื่นอยู่ ล้วนกำลังตรวจอาการกันจั๋วซือหรานเองก็มองออกง่าย ถึงอย่างไรก็มีหน้าตาแบบว่าพอได้เห็นก็ย้ายสายตาออกไม่ได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของแม่นางจั๋วจิ่ว ในเมืองหลวงเองก็ลือชื่อโด่งดัง ปกติไม่ค่อยได้เห็นตัว ตอนนี้พอได้เห็นก็ทำเอาคนอยากรู้จักกันขึ้นมาเอาแค่ใบหน้านี้ ก็คุ้มที่จะลงทุนแล้ว พอมองไปนานๆ อาการป่วยก็ไม่ค่อยจะเจ็บแล้วอีกต่างหากจั๋วซือหรานที่ถูกคนจ้องมองก็ไม่ยี่หระอะไร และไม่รู้สึกอึดอัดด้วยดังนั้นสิ่งที่นางควรพูดก็พูดหมดแล้ว จึงไม่สนใจอีกว่าจะถูกใครมองแต่คนรอบๆ ก็ยังจับจ้องนางอยู่ แม่นางที่สวยขนาดนี้ ดูดีละเมียดไปทุกอณู เค้าโครงใบหน้าก็สมบูรณ์แบบไปทุกส่วนสวมชุดแดงทั้งตัว พวกเขาไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกเหมือนเทพธิดาเสียอย่างนั้นแต่พอเปิดปากมาก็ให้ตายเถอะ เนื้อหาที่พูดมาดันเป็น...ช่วงนี้เอาแต่ฆ่าคนให้ตายสิ...สายตาพวกเขาก็แข็งทื่อกันไปแล้ว คนที่เหมือนเทพธิดานางสวรรค์...ทำไมพอเอ่ยปากจิตสังหารก็พุ่งขึ้นมาแบบนี้กันยิ่งไปกว่านั้นพอมองอย่างละเอียด ก็เหมือนไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติ นางเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 972

    พูดได้แค่ว่าข้อมูลในคำพูดของแม่นางจิ่วนี้มากเกินไปจริงๆมากจนสมองนางเหมือนจะคิดไม่ทันเสียแล้ว!จั๋วซือรหานมองนาง เอ่ยต่ว่า "ข้าก็บอกไปแล้ว อย่ามาเติมฟืนให้นายท่านเจ้าอีก ดีที่สุดแล้วที่เขาจะจำไม่ได้ วันไหนถ้านึกออกขึ้นมา จั๋วซือหรานอย่างข้าต้องเอาคืนเขาแน่ๆ..."ในใจหานกวงแอบคิด นายท่านคงต้องระวังตัวเองเสียแล้วนะจั๋วซือหรานมองสีหน้าที่เหมือนปิดเครื่องไปแล้วของหานกวง ก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ตอนนี้จึงเดินหน้าต่อ เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งว่า "เรื่องนี้เจ้ารู้ไว้ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปบอกองครักษ์เงาคนอื่นล่ะ""แม่นางจิ่ววางใจเถิด ข้าน้อยทราบแล้ว" หานกวงรีบตอบกลับเสียงต่ำนางรู้แน่นอน เรื่องเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาว แม่นางจิ่วก็น่าจะเห็นว่านางเป็นหญิงสาว ถึงได้เอ่ยขึ้นมาขณะที่คุยกัน ก็มาถึงโรงหมอแล้วจั๋วซือหรานไม่ได้แล้วพักหนึ่ง ก็คิดไม่ถึงเลยว่า ถนนเส้นนี้หน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้วพอเห็นว่านางมา ผู้จัดการก็รู้สึกตกใจมาก รีบเข้ามาต้อนรับ "คุณหนู! ท่านมาแล้ว!""อืม ช่วงนี้ยุ่งหน่อยน่ะ เลยไม่ได้เข้ามาเลย พวกเจ้ายังไหวกันไหม?" จั๋วซือหรานถาม"แน่นอน! คุณหนูวางใจได้เลย!" ผู้จัดการตอบกลับ"ข้าเพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 971

    หลังจากฉุนจวินกลับไป ดูแล้วก็เหมือนจะกลัดกลุ้มอยู่หน่อยๆแต่ว่าจั๋วซือหรานหลังจากกลับไปกรมสืบสวนพิเศษ ไม่ได้เจอกับฉุนจวิน จึงไม่ได้สังเกตเห็นอะไรสองวันต่อมา หานกวงจึงมาบอกกับนางจั๋วซือหรานกำลังไปดูร้านยาโรงแพทย์ของตนเอง หานกวงก็อยู่กับนางด้วยระหว่างทางก็บอกกับนาง หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ"นี่ฉุนจวินพูดมาหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นหานกวงพยักหน้า "ฉุนจวินวันนั้นตอนที่ไปรายงานกับท่านที่กรมสืบสวนพิเศษ ก็เจอกับนายท่านเข้า จากนั้นจึงคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง"หานกวงก็เอาไม่กี่คำที่ฉุนจวินคุยกับนายท่านเขา บอกให้จั๋วซือหรานฟังจั๋วซือหรานฟังไปครึ่งหนึ่งจึงยิ้มออกมา มุมปากนางกระตุก เอ่ยขึ้นว่า "อะไรคือคือตระกูลเฟิงเห็นเขาเป็นคนโง่กันนะ..."หานกวงพอได้ยินก็งงงัน ยังคิดว่าจั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำพูดนี้ พอกำลังจะอธิบาย ก็ได้ยินแม่นางจิ่วหัวเราะขึ้นมา บอกว่า "เขามันก็คนโง่จริงๆ นี่นา?"หานกวง "..."ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าจะโต้กลับอย่างไรหานกวงกระแอมขึ้นมาทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบกลับจั๋วซือหรานมองนาง "จากนั้นล่ะ? เขาพูดอะไรอีก?""ความหมายของนายท่านเหมือนว่าจะเป็น ต่อให้เข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 970

    ชิ่งหมิงคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ ตลอด แม้จะไม่ถึงกับจ้องตาแป๋วน้ำลายไหล แต่ตาก็เป็นประกายอยู่ตลอดจั๋วซือหรานมองไปก็ยิ้มๆ พูดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "มีแค่ตอนนี้นี่ล่ะ ที่จะได้เห็นเจ้าตอนที่ยังติดอ่างแบบตอนนั้น"นางยื่นมือออกไป คิดจะบีบแก้มชิ่งหมิงแต่ปฏิกิริยาชิ่งหมิงก็รวดเร็ว เขยิบถอยออกไปด้านหลังเลี่ยงนิ้วของนางออกไปอย่างไม่ตั้งใจและตอนที่จั๋วซือหรานยังไม่ทันได้ทันตั้งตัวว่าน้องชิ่งก็กลายเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว จะมาหยิกแก้มแบบนี้ไม่ได้ชิ่งหมิงก็เดินเข้ามาก้าวหนึ่ง ยื่นแก้มตัวเองเข้าไปที่นิ้วของนางจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง บีบเบาๆ "พอโตมา สัมผัสไม่ค่อยดีแล้วแฮะ"ชิ่งหมิงยกกับข้าวออกไปอย่างสมัครใจรอให้จั๋วซือหรานจัดการเสร็จแล้วค่อยกินด้วยกันแต่พอจั๋วซือหรานเสร็จงาน ยังไม่ทันได้จับตะเกียบ ก็มีคนเข้ามารายงานแล้ว"แม่นางจิ่ว"จั๋วซือหรานแหงนจามองฉุนจวินที่ตรงเข้ามารายงาน "ทำไม? เกิดอะไรขึ้นรึ?"ฉุนจวินกดเสียงต่ำ "จดหมาของฮูหยินส่งเข้ามาในเมืองหลวง เพิ่งส่งมาในจวนขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ตกตะลึง "แม่ข้าหรือ?""ขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ในจดหมายแม่ข้าบอกว่าอะไร?""ฮูหยินบอกว่าออกเด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 969

    ชิ่งหมิงเดินออกมาจากด้านหลัง นับจากที่จั๋วซือหรานรักษาถอนพิษให้เขา หลังจากที่ฟื้นฟูร่างกายกับสติปัญญาแบบผู้ใหญ่กลับมาหลังจากที่ค่อยๆ ปรับตัวและเข้าใจเรื่องราวได้ชัดเจนขึ้น ชิ่งหมิงก็ไม่คิดจะไปมีนิสัยเหมือนตอนเป็นหนุ่มน้อยแบบนั้นแล้ว ที่คอยเรียกเวินป๋อยวนว่าลุงเวินป๋อยวนก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำเรียกนี้"แหย่ข้า?" จั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาถึงคำพูดของชิ่งหมิง เอียงตาไปมองเวินป๋อยวน "ใต้เท้าซือหลี่ล้อเล่นกับข้าเป็นตั้งแต่เมื่อไรกัน"ชิ่งหมิงเดินเข้ามา นั่งลงข้างๆ จั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "ความหมายของป๋อยวนก่อนหน้านี้คือ อาวุธกู่ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิดนะ และไม่ใช่แค่เอาไว้ควบคุมแมลงกู่ให้โจมตีเท่านั้นด้วย"จั๋วซือหรานฟังขึ้นมาอย่างสนใจ "โอ๋? ยังมีอะไรอีกล่ะ?"นางใช้มือเท้าโต๊ะยันคาง มองเวินป๋อยวน "ใต้เท้าโปรดสั่งสอนอย่างไม่ตระหนีด้วย ข้าอยากฟังอย่างชัดเจน"เวินป๋อยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "จะอาวุธกู่ก็ดี อาวุธวิญญาณอาวุธเวทก็ดี ในพื้นฐานแล้วก็ล้วนเป็นอาวุธประเภทหนึ่ง ล้วนมีไว้ใช้เพื่อโจมตี คุณสมบัติดั้งเดิมเป็นแบบเดียวกัน""และอาวุธที่ยิ่งดี แน่นอนว่าประสิทธิภาพก็จะยิ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 968

    จะเป็นก็ไม่เป็น จะตายก็ไม่ตายอยู่ในแบบที่ไม่เป็นไม่ตาย"ซือคงอวี้" ปากชายหนุ่มเอ่ยออกมาเรียบๆ สามคำร่างกายที่แช่ในอ่างสั่นไปทั้งตัวทันที ดวงตายังคงขุ่นมัว แต่ในตาที่ขุ่นมัว เริ่มปรับภาพขึ้นมาแล้วในคอเองก็เริ่มมีพยางค์ความหมาย "ฆ่า...ฆ่าข้า...ซะ!"เสียงฟังแล้วแหบพร่าสุดๆใครจะนึกออก ว่าชินอ๋องอวี้ที่เคยยิ่งใหญ่ทรงอำนาจในเมืองหลวง จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ถูกคนสับแขนขาแช่ไว้ในถัง กลายมาเป็นมนุษย์ท่อนไม้ ทนทุกข์ทรมานแบบที่จะอยู่ก็ไม่ได้จะตายก็ไม่ได้เขาคำรามอีกว่า "ฆ่า...ปัน...ปันอวิ๋น...ฆ่าข้า...ซะ!"ผู้ใต้บัญชาข้างๆ ตะคอกขึ้นมา "เป็นแค่หุ่นเชิด ยังกล้ามาเรียกชื่อนายท่านอีกเรอะ!"ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเจ้าเล่ห์ข้างๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือปันอวิ๋น...ปรมาจารย์กู่ที่หลอมสกัด 'ลูกแก้วมังกรทั้งเจ็ด' ของจั๋วซือหรานออกมา และเป็นเจ้าหุบเขาของหุบเขาหมื่นพิษพรมแดนใต้นั่นเองเทียบกับการตะคอกไม่อย่างชอบใจของผู้ใต้บัญชาแล้ว ปันอวิ๋นไม่ได้มีอารมณ์อะไรนักกับการที่ซือคงอวี้เรียกชื่อจริงเขาแต่กลับเดินวนรอบถังอย่างสนใจ เอ่ยขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "เจ้าไม่ใช่อยากจะมีชีวิตเรอะ? เจ้าไม่ใช่อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 967

    ผู้ใต้บัญชาของชายหนุ่มเหมือนจะลังเลหน่อยๆ เอ่ยเตือนเสียงต่ำว่า "นายท่าน บางทีคงไม่ต้องรีบในตอนนี้กระมัง? ถึงอย่างไร พระราชโองการพระราชทานรางวัลให้หญิงสาวคนนี้ก็เพิ่งจะออกมาเอง"คิ้วชายหนุ่มเลิกขึ้นเล็กน้อย เอ่ยต่อว่า "เจ้าหมายถึงเรื่องที่พื้นที่ศักดินาของนางถูกแต่งตั้งไว้ที่มณฑลหลวนหนานน่ะหรือ?""ขอรับ" ผู้ใต้บัญชาขานรับเสียงหนักแน่น "เช่นนี้ก็เห็นได้ว่า จะช้าเร็วนางก็ต้องไปที่หลวนหนาน ส่วนหลวนหนาน..."ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก มณฑลหลวนหนานมีเส้นชายแดนของแคว้นชางกับพรมแดนใต้ทั้งสามแคว้นยาวๆ อยู่เส้นหนึ่งและเพราะอยู่ใกล้กับพรมแดนใต้ เทียบกับหญิงสาวชั้นสูงที่เข้าไปมีอำนาจในเมืองหลวงแคว้นชางแล้ว คนพรมแดนใต้ทางนั้นบางทีอาจจะคุ้นเคยกับสถานที่นั้นมากกว่าคนใต้บัญชาเอ่ยต่อว่า "นางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ต่อให้เป็นหญิงชั้นสูงจากแคว้นชางแล้วทำไมกัน ถึงตอนนั้นพอนางไปถึงหลวนหนาน ไม่คุ้นคนไม่คุ้นที่ จะทำอะไรได้? มีแต่ให้นายท่านบังคับควบคุมเท่านั้นล่ะ..."ชายหนุ่มได้ยินผู้ใต้บัญชาพูดเช่นนี้ มุมปากก็ยกขึ้นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "ถ้านางบีบง่ายแบบที่เจ้าพูด ข้าคงไม่สนใจตัวนางหรอก"นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 966

    นางยกมือขึ้นตบไปที่หลังของชิ่งหมิงเบาๆ "เจ้าติดอ่างโตแล้วสินะ"ข้าเดิมทีโตกว่าเจ้าเสียอีก" ชิ่งหมิงเอ่ยต่อ "เดี๋ยวตอนที่เจ้าไปพื้นที่ศักดินา ข้าจัดการงานในมือเสร็จแล้วจะไปหาเจ้าที่หลวนหนาน"จั๋วซือหรานตกตะลึง "เจ้า...ซือหลี่ไม่ไปทำงานตามใจชอบได้ด้วยหรือ?""ไม่ได้" ชิ่งหมิงตอบ "แต่ข้าไม่สนใจ อย่างมากก็แค่เลิกทำ ยิ่งไปกว่านั้น ใต้เท้าซือเจิ้งก่อนหน้าก็ไม่ได้ไปทำงานตั้งนานแล้ว ข้าก็แค่ทำตามคนอื่นเขา"จั๋วซือหรานพอได้ยินชิ่งหมิงเอ่ยถึงใต้เท้าซือเจิ้ง นางก็เม้มปาก สีหน้าชะงักไปถามขึ้นเบาๆ "ใต้เท้าซือเจิ้งไม่ได้ไปทำงานนานแค่ไหนแล้ว?""อืม ก็ซักพักก่อนหน้านี้แล้วล่ะ จู่ๆ ก็ไปทำงานเมื่อไม่กี่วันก่อน" ชิ่งหมิงบอกทุกเรื่องที่รู้จนหมดเปลือกจั๋วซือหรานยังคิดจะถามอะไรอีก ก็ได้ยินเสียงติ๋งดังขึ้นมานางมองกลับไปทางเตาสำริดทันที แล้วจึงเห็น ว่าขลุ่ยเลานั้นที่นอนนิ่งอยู่ในเตา ตัวขลุ่ยมีแสงประกายระยิบระยับ เปล่งแสงห้าสี ราวกับน้ำมันบนผิวน้ำอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานตาเป็นประกาย "สำเร็จแล้ว!"นางดับเพลิงห้าสีของตนเองลงทันที จากนั้นมือก็คลุมด้วยสีหยกชั้นหนึ่ง ใช้งานหัตถ์เสวียนอวี้ ยื่นเข้าไป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status