แชร์

บทที่ 911

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ตอนนี้ข่าวที่รู้แน่ชัดแล้วคือ องค์จักรพรรดิเฒ่าจะส่งอำนาจพ่อค้าหลวงของตระกูลจั๋วให้กับนาง

วังสวนอุทยานหลิ่วพ่านของราชวงศ์เองก็ให้นางด้วย

แล้วจากที่พูด กระทั่งจวนชินอ๋องอวี้กับสวนชิวอี ก็จะยอมยกให้นางด้วย

แล้วยังมีข่าวที่มากกว่า เริ่มทยอยกันลือออกมา

"ได้ยินว่าฝ่าบาทยังถามนางด้วยว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนหรือเปล่า!"

"ให้ตายเถอะ! นี่มันสุดยอดไปเลย"

"จริงด้วย ตระกูลเฟิงทำผิดกับนาง เอาจริงๆ จั๋วจิ่วคนนี้ควรจะไม่เหลือหน้าตาอีกแล้วสิ คิดไม่ถึงเลย ว่าฝ่าบาทถึงกับถามนางว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนไหม!"

"จะว่าไป สถานการณ์ตรงหน้านนี้ ชินอ๋องอวี้ท่าจะไม่ไหวแล้วมั๊ง เช่นนั้นหลังจากนี้...ไม่แน่ว่าอ๋องเซี่ยนก็จะเป็น..."

"จริงด้วย ถ้านางพยักหน้าล่ะก็ อนาคตจะไม่ใช่..."

พระมารดาแห่งใต้หล้าหรือ!

ตามหลักการ ตัวตนฐานะของจั๋วจิ่วเองก็ไม่ใช่ต่ำต้อย ตระกูลจั๋วเองก็ถือว่าเป็นครอบครัวตระกูลสูง

ปัญหาคือตอนนี้นางเป็นแค่หญิงสาวที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้น

พอบวกกับ ก่อนหน้านี้นางเคยหมั้นไปครั้งหนึ่ง ตัวนางเองก็โดนเสน่ห์หนอนพิษกู่จนต้องมาเสียใจที่แต่งงาน แล้วก็ยังเกือบจะได้แต่งงานไปครั้งหนึ่งด้วย ทำเอาพิธีแต่งงานวั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Jaajung Ai
น่าสนใจที่สุดแต่อยากให้อัพเยอะหน่อยต้องรอทุกวันเสียรสชาติจริงๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 912

    สิ่งเหล่านี้ จั๋วซือหรานล้วนไม่รู้เหมือนกับที่นางก็ไม่รู้ ว่าตอนนี้ในตระกูลเหล่านั้น ตอนนี้มีสภาพเช่นไรมันวุ่นวายยุ่งเหยิงแค่ไหนเพราะว่า ข่าวที่นางได้รับชัยไม่ใช่เพิ่งลือมาถึงเมืองหลวงเช้าวันนี้แม้จะบอกว่าเช้าวันนี้เพิ่งส่งมาถึงเมืองหลวง แต่ในฐานะตระกูลชั้นสูง เมื่อวานนี้ก็รู้ข่าวที่ค่ายคุ้มกันแล้วดังนั้นเมื่อคืนนี้ ตอนที่จั๋วซือหรานพักผ่อนอยู่ในค่ายคุ้มกันในเมืองหลวง ตระกูลต่างๆ กลับเป็นคนละแบบกันไปเลยในโถงใหญ่งานพิธีตระกูลเหยียน โคมไฟสว่างไสวบรรยายาศกลับตึงเครียด"ตอนนี้อย่างไรถึงจะดี..." คำถามแบบที่ไม่มีความเห็นแบบนี้และมีพวกที่อารมณ์รุนแรง ด่ากราดออกมาทันที "ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าคิดแต่จะไปยุ่งกับตระกูลเฟิง คงไม่ทำให้จั๋วจิ่วผิดใจจนเป็นแบบนี้"มีคนไม่ค่อยยอมรับกับคำพูดนี้ "เจ้าพูดอะไรออกมา! จั๋วจิ่วนั่น! ตระกูลเหยียนของพวกเราผิดใจไปตั้งนานแล้ว! คนที่ผิดใจกับนางตอนแรกสุดคือพวกเรา! ตอนนี้ถ้าคิดจะถอยออกมามันทันเสียที่ไหน!""เพราะอะไรถึงไม่ทัน! ทำไมถึงจะไม่ทัน! เพราะอะไรถึงจะไม่ทัน! นางไปร่วมมือกับตระกูลฮั่วแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ข้าเห็น ตระกูลจั๋วเหมือนจะต้องกระโจนขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 913

    "เจ้าอย่ามาพูดให้เกินจริงนัก! ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อมาฟังเจ้าพูดเกินจริง!""นั่นสิ ตระกูลฮั่วเพราะอะไรถึงได้ช่วยจั๋วจิ่วแบบนี้ เสี่ยงจะผิดใจกับตระกูลอื่นๆ อีก..."และก็มีเสียงคัดค้านไม่เชื่อปรากฏขึ้นเช่นกันแต่คนฉลาดก็หัวเราะเย็นชาขึ้นา "ใช่สิ ข้าพูดเกินจริงเองนั่นล่ะ พวกเจ้าเห็นว่าตระกูลฮั่วมันโง่สินะ"คนผู้นี้โมโหจนหัวเราะ "ตระกูลฮั่วถูกพวกเราสี่ตระกูลกดมาตั้งหลายปี! พวกเขาในสายตาพวกเราคืออะไร? ผู้ค่าข่าว ผู้จัดการโรงเตี๊ยม...หลายปีมานี้ถูกพวกเราสี่ตระกูลกดดัน""ตอนนี้พวกเขาได้เวลาเฉิดฉายแล้ว โดยไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารอีกด้วย ก็แค่เพราะ...เดิมพันถูกกับความโดดเด่นของจั๋วจิ่วเท่านั้น! พวกเจายังคิดว่าเขาจะร่วมมือกับเราเพื่อแก้แค้นหรือ? พวกเรานั่นล่ะที่เป็นศัตรูของเขา!"พูดจบสิ่งเหล่านี้ เขาเองก็ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้แล้วมีแค่วิธีเดียว ออกไป รีบออกไปจากตระกูลที่ไม่มียาอะไรจะช่วยได้แล้วนี่เสียคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น พ่อของเหยียนฉีนั่นเองในงานประชุมของตระกูลเช่นนี้ แม้ยังพูดเรื่องเหล่านี้ได้บ้าง แต่เพราะความตรงไปตรงมาและรุนแรงเกินไป ทำให้ก่อนหน้านี้มักจะก่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 914

    ทุกคนรู้สึกว่านางผิด เพียงแค่เพราะ นางไม่ยอมทำตัวเป็นปกติเหมือนพวกเขาสายตาของเหยียนเจินเปล่งประกาย เอ่ยขึ้นว่า "จะไม่มีทางออกเลยหรือไร? ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปเข้ากับจั๋วจิ่วเลย!"เหยียนฉีพอได้ยินก็ตกตะลึง งงงันไป "ได้...ได้หรือ? ตระกูลเหยียนกับนาง...ตอนนี้น่าจะอยู่ในสภาพไม่ตายไม่เลิกรากันแล้วกระมัง?""ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน" เหยียนเจินไม่แยแส "พวกเราถ้าออกจากตระกูลเหยียน เช่นนั้นความแค้นนั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็มองออกถึงนิสัยจั๋วจิ่ว ขอแค่ไม่ผิดใจกับนาง นางก็จะไม่ทำอะไรคนอื่น"อดพูดไม่ได้ เหยียนเจินมองนิสัยจั๋วซือหรานออกจริงๆดังนั้น พ่อลูกตระกูลเหยียนคู่นี้ หลังจากที่หารือกันเสร็จคืนนี้เช้าวันถัดมาตอนที่ข่าวเรื่องจั๋วซือหรานถูกพระราชทานรางวัลลือมาถึงเมืองหลวง จึงออกจากตระกูลเหยียนไปเงียบๆสถานการณ์ของตระกูลเหยียนเป็นเช่นนี้ ตระกูลอื่นกลับเป็นอีกแบบหนึ่งบรรยากาศของตระกูลเฟิงตึงเครียดมากแต่สิ่งเหล่านี้ เฟิงเหยียนไม่คิดจะเข้าร่วม เขานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกันเขาก็ไม่เข้าร่วมการสนทนาเลยสายตาเหม่อลอยหน่อยๆ ราวกับคิดถึงเรื่อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 915

    ในตระกูลชั้นสูงอันที่จริงก็มีเหตุการณ์อยู่ไม่น้อย เรื่องการนินทาคนอื่นลับหลังน่าจะไม่ใช่แค่ในตระกูลชั้นสูงหรอก ไอ้เรื่องการซุบซิบนินทาเรื่องชาวบ้าน ที่ไหนก็มีทั้งนั้นเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรเฟิงเหยียนไม่เคยมีปฏิกิริยาใหญ่โตเรพาะภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาไม่ได้สนใจหัวข้อสนทนาของผู้อาวุโสพวกนี้ และไม่อยากจะเข้าร่วมด้วยดังนั้นปกติจึงไม่ใส่ใจ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาก็ถือว่ามีมารยาทให้แล้ว หลายครั้งที่แม้แต่หูซ้ายก็ยังไม่เข้าแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนกลับไม่ได้ไม่สนใจแยแสกับหัวข้อสนทนาและเนื้อหาในคำพูดของเหล่าผู้อาวุโสเหมือนกับว่า ความรู้สึกบางอย่างในใจที่พูดออกมาไม่ได้กำลังคุกรุ่น ทำให้เขาเกิดความรำคาญขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ อยากจะฉีกปากแก่ๆ พวกนี้ทิ้งเสียเจ้าพวกขยะพูดอะไรซี้ซั้วไปเรื่อย ไม่รู้จักหุบปากเงียบๆ เสียบ้าง!หญิงสาวคนนั้นเป็นใคร หรือเขาจะไม่รู้ลึกเท่าพวกเขา?ใครก็เข้ามาแตะต้องได้เรอะ? ตลกตายในคืนนั้นที่สวนชิวอีก นางกับเขามีครั้งแรกด้วยกันชัดๆพวกเขาอะไรอะไรมาพูดว่า "ใครก็เข้ามาแตะต้องได้" กัน?ในใจเฟิงเหยียนรำคาญมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่า แค่เพื่อหญิงสาวคนเดีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 916

    ความเย็นเยือกของฝักกระบี่ สัมผัสลงบนคอของผู้ที่เข้ามาถ้าหากเขาชักกระบี่ล่ะก็ ตอนนี้ที่สัมผัสกับคอก็จะไม่ใช่ฝักกระบี่ที่เย็นเยียบ แต่เป็นคมกระบี่ที่แหลมคมแทนเฟิงเหยียนขมวดคิ้วมองคนที่เข้ามา ถามขึ้นว่า "เฟิงสือ เจ้าทำตัวลับๆ ล่อๆ ทำไมกัน""ท่าน ท่านพี่!" เฟิงหร่านรู้สึกว่าหัวใจตนเองแทบจะทะลักออกจากคอหอยแล้วเฟิงเหยียนเก็บกระบี่ลงไป แขวนกระบี่เสวียนเหยียนไปที่เอว ไปที่บ่อน้ำในเรือนตักน้ำล้างมือในเรือนเขา เดิมทีควรจะมีคนรับใช้อยู่ แต่ตอนนี้กลับว่างเหล่า ไม่มีอะไรเลยเหล่าผู้อาวุโสเดิมทีก็ส่งคนรับใช้เข้ามา แต่ถูกเขาปฏิเสธไป พวกหูตาเหล่านี้ ถ้าเขาปล่อยให้เข้ามา มันจะยุ่งยากเวลากำจัดออกไปดังนั้นในเรือนเขาจึงว่างเปล่า เขาลงมือรับผิดชอบอาหารการกินของตนเอง ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดตรงไหนเฟิงหร่านตามอยู่ด้านหลังเฟิงเหยียน รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "ท่านพี่ ท่านไม่สงสัยเลยหรือว่าคนใช้ในเรือนท่าน เหล่าองครักษ์เงาของท่านหายไปไหนหมด? หรือว่าท่านจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ?"เฟิงเหยียนขมวดคิ้ว น้ำใสในถังที่มือกระฉอกไปมามองคลื่นน้ำในถังไม้ที่สะท้อนเงาจันทร์บนฟ้าไหวๆ ใจของเขาก้เหมือนจะสั่นคลอนหน่อยๆเขาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 917

    ชัดเจนมาก เฟิงหร่านก่อนที่จะมาหาเขา ในใจได้ตัดสินใจไว้แล้วก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกว่า ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้จะเน่าถึงรากแค่ไหน ก็ยังเป็นตระกูลของตนเองลูกชายไม่รังเกียจที่แม่น่าเกลียด สุนัขไม่รังเกียจที่บ้านจน...แต่ตอนนี้เฟิงหร่านรู้สึกขึ้นแล้วจริงๆ ว่าสุนัขก็ยังรังเกียจความโง่เขลาของตาแก่พวกนี้เป็นศัตรูก่อกบฏ...กล้ากันเสียเหลือเกิน!คิดแล้วคงเป็นเพราะต้าชางหลายปีนี้ ให้หน้ากับพื้นที่กับพวกตระกูลใหญ่มากเกินไป ปล่อยปละจนพวกเขาทำตัวเกะกะระราน!เฟิงหร่านเองก็ทนไม่ไหวแล้ว คิดแต่อยากจะรีบหนีออกไปแต่ก็ออกไปแบบนี้เลยไม่ได้ ก่อนหน้าที่จะออกไป ตนเองก็มีเรื่องที่ต้องทำดังนั้นนางจึงมาหาเฟิงเหยียนด้านนอกมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย เฟิงหร่านเองก็ปีนกำแพงออกไปโดยไม่หันกลับเพียงครู่เดียว องครักษ์ตระกูลเฟิงกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาในเรือน"ซื่อจื่อ มีคนน่าสงสัยเข้ามาไหม?" หัวหน้าองครักษ์ถามขึ้นเฟิงเหยียนมองพวกเขาสายตาเย็นชา "พวกเจ้านั่นล่ะที่ข้าเห็นว่าน่าสงสัยที่สุด"หัวหน้าองครักษ์ขมวดคิ้ว "แต่เมื่อครู่นี้มีหน่วยลาดตระเวนเห็นคุณหนูเฟิงสือตามท่านเข้ามา...""เช่นนั้นก็ให้หน่วยลาดตระเวนคนน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 918

    ดังนั้น กลุ่มองครักษ์เหล่านี้ก็คือคนของรองแม่ทัพจากค่ายคุ้มกันและค่ายป้องกันลาดตระเวนที่จั๋วซือหรานพามาก่อนหน้านี้พวกเขาเดิมทีก็ศรัทธาในตัวจั๋วซือหรานอยู่แล้วตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานนั่งอยู่บนแมงมุมขนาดยักษ์ตัวนั้นด้านหน้าสุดก็ยิ่งรู้สึกเคารพยำเกรงขึ้นมาจั๋วซือหรานไม่รู้การเคลื่อนไหวในเมืองหลวงตอนนี้เลยแต่นางก็มีลางสังหรณ์ขึ้นมารางๆ ว่าเส้นทางครั้งนี้อาจจะไม่ได้ราบรื่นนักไม่แน่ว่าซือคงอวี้ยังมีการลอบโจมตีอยู่จั๋วซือหรานเดาไม่ผิดจริงๆ แต่นางเองก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่ซุ่มโจมตีอยู่จะเป็นตัวซือคงอวี้เองเลยครั้นจะบอกว่าเป็นตัวเขาเองก็ยังไม่ถูกนัก เขายังคงมาคนบางส่วนมา แค่องครักษ์สองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มหนึ่งมีสิบห้าคน รวมกันแล้วก็แค่สามสิบคนพอเทียบกับขบวนองครักษ์ที่ยิ่งใหญ่นับร้อยขององค์จักรพรรดิเฒ่าแล้วดูไม่จืดเลยจริงๆกระทั่งว่า จั๋วซือหรานแทบจะไม่เกิดความระแวดระวังอะไรขึ้นมาเลยแต่นางก็รู้ว่าการดูถูกศัตรูนั้นไม่ถูกต้อง ดังนั้นยังพยายามกระตุ้นความระแวดระวังขึ้นมาซือคงอวี้อยู่ไม่ห่างไปนัก ขี่ม้าพันธุ์ดีสูงใหญ่ตัวหนึ่งอยู่เขามองบนแผ่นหลังแมงมุมตัวยักษ์นั่นอยู่ห่างๆ มีเงา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 919

    ฮาร์วีย์เห็นท่าทางของจั๋วซือหราน...ท่าทางที่ทำให้คนไม่เข้าใจเดิมทียังไม่เข้าใจอะไรเลย แค่สัญชาตญาณทำให้เขารู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ เดิมทีก็ไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่สมเหตุสมผลนางไม่มีทางถามโดยไม่มีเหตุผล ไม่พูดแบบไม่มีเหตุผล และยิ่งไม่ทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลฮาร์วีย์อยู่ข้างๆ จั๋วซือหราน ดังนั้น นางจึงสัมผัสได้ชัดเจน ว่าท่วงท่าพลังบนตัวจั๋วซือหรานเริ่มผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ แล้วนี่มันช่าง...บอกว่ารุนแรงก็ไม่ได้ เพราะความรู้สึกนั้นไม่ใช่บ้าคลั่ง และไม่เหมือนคนที่เปิดช่องพลังสูดรับเข้าร่างกาย จนกลายเป็นสภาพบ้าคลั่งแบบนั้นด้วยน่าจะเพราะล้ำลึกมากพลังที่ล้ำลึกและยิ่งใหญ่ ราวกระแสน้ำขึ้น กระจายแผ่ออกไปรอบๆ โดยมีนางเป็นศูนย์กลาง"เขาคิด หญิงสาวคนนี้เกรง่วาส่าจะเหมือนกับลูกหลานตระกูลเฟิงพวกนั้น มีสิ่งทีเ่หมือนกับกระบี่ประจำตระกูล อาวุธหรือภาชนะที่กักเก็บพลังของตนเองไว้...ดังนั้นจึงสามารถ ปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่นี่ออกมาในตอนนี้ฮาร์วีย์จู่ๆ ก็คิดถึงสิ่งที่ตนเองเพิ่งพูดไปเมื่อครู่...ถ้าหากพลังวิญญาณควบคุมกู่ของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าท่านล่ะก็...บางทีเพราะคำพูดนี้จั๋วซือหรานจึงแสดงท่าทีของตนเอ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1106

    "เสร็จแล้ว พวกเจ้าค่อยๆ พักฟื้นไป เดี๋ยวพอพวกกองหนุนสำนักเมฆาวารีพวกนั้นของผู้เฒ่าเหอมาถึง พวกเราค่อยออกเดินทาง เรื่องนี้สำหรับข้ามันสำคัญมาก จะล่าช้าไม่ได้เด็ดขาด"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ดังนั้นเวลาพักฟื้นของพวกเจ้าเดิมทีก็เหลือไม่มากแล้ว อย่าไปทำอะไรบ้าๆ บอๆ อีก""รับทราบ!" เหลียนเจินขานรับเสียงขรึม"ข้าจะรักษาให้พวกเขา จากนั้นเจ้าก็เอายาทาให้พวกเขาเสีย แค่อย่าไปทำอะไรบ้าๆ บอๆ ทายาตามเวลา ไม่นานก็หายดีแล้ว"จั๋วซือหรานหลังจากรักษาคนคุ้มกันไปหลายคน ก็กลับมาที่ห้องตนเอง ไปค้นคว้าบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนเจ้าสิ่งนี้ล้ำค่ามากจริงๆ แต่ในเมื่อเขาให้นางมาแล้ว นางเองก็พอจะรับได้อยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงใจเกินไปนักตอนที่จั๋วซือหรานย้ายบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนไปปลูกที่ดินในมิติแล้ว ราชาแมงมุมหน้าผีกับแมงมุมหน้าผีตัวอื่นๆ แล้วก็แมงมุมกู่ ก็มาล้อมอยู่ข้างๆ นางแมงมุมที่ขนาดใหญ๋กว่าปกติหลายเท่า ล้อมนางเอาไว้ ฉากนี้ถ้าหากคนอื่นมาเห็น ก็คงรู้สึกหวาดผวาขึ้นแน่ๆแต่สีหน้าของจั๋วซือหรานก็นิ่งอย่างมาก กระทั่งบนหน้ายังยิ้มละไม หลังจากปลูกบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนไว้ในดินแล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1105

    ด้วยนิสัยซื่อสัตย์ภักดีของพวกเขา ถ้าหากจั๋วซือหรานคิดจะตั้งชื่อเหล่านี้ให้พวกเขาจริงๆไม่แน่พวกเขาอาจจะต้องบีบจมูกยอมรับไปจริงๆแต่ชื่อเหล่านี้มันดูจะ...ดังนั้นจึงคิดวิธีที่จะดิ้นรนต่ออีกหน่อย"กลัวหรือ?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้วมองพวกเขาหัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้าหงึกหงักจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พวกเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ยังกล้าตักน้ำมาเช็ดมาล้างได้ ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะกล้าจนไม่กลัวอะไรแล้วเสียอีก ทำไมแค่ชื่อผลไม้แค่นี้ก็ยังกลัวกัน?"หัวหน้าคนคุ้มกันฟังไม่เข้าใจเสียที่ไหน แม่นางจงใจทำให้พวกเขาตกใจ เพื่อจะลงโทษพวกเขาที่เมื่อครู่พูดกันว่าจะจัดการแผลแบบขอไปทีหัวหน้าคนคุ้มกันรีบเอ่ยขึ้นมา "แม่นาง พวกเราไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว แค่กังวลว่าท่านอยู่ในเมืองหยางจะมีภาระหน้าที่เยอะอยู่แล้ว แต่ยังต้องมาคอยห่วงเรื่องยิบย่อยของพวกเราอีก..."จั๋วซือหรานยกมือตบลงไปที่หนึ่งที่หลังเขาหัวหน้าคนคุ้มกันร้องอั่กออกมา แต่ก็รีบอดทนเอาไว้เดิมทียังคิดว่านี่คือการลงโทษเสียอีก คิดไม่ถึงเลย...ตอนที่แม่นางฟาดมือลงมา รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาก่อน จากนั้นก็รู้สึกเหมือนมีพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับนุ่มนวลละมุนละไมลูบผ่าน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1104

    "นายท่านอารมณ์ดีก็ดีแล้ว" เจิ้นเจียงพอเห็นจั๋วซือหรานอารมณ์ดี เขาเองก็อารมณ์ดีตามขึ้นมา จึงได้พูดว่า "จัดแจงคนคุ้มกันเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาล้วนบาดเจ็บกันหมด"จั๋วซือหรานร้องอืม "ดี ข้าจะไปดูหน่อย เดี๋ยวจะตั้งชื่อให้พวกเขาด้วย อยู่ในตระกูลเหอไม่มีชื่อเลยมีแต่หมายเลข เจ้าไปที่โรงเตี๊ยมแล้วหาของกินมาให้พวกเขาหน่อย""ขอรับ" เจิ้นเจียงรับคำสั่ง คิดๆ แล้วจึงเอ่ยถามขึ้นว่า "...อาหารนี่น่าจะไม่ถูกทำอะไรลงไปหรอกกระมัง?"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็ยกมุมปากขึ้น "พวกเจ้าจะลองดูก็ได้นี่"พอได้ยินนายท่านพูดหยามขึ้นเช่นนี้ เจิ้นเจียงก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว"เช่นนั้นข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"เจิ้นเจียงเพิ่งเตรียมจะเดินไปโถงหน้า จั๋วซือหรานคิดๆ แล้วก็เรียกเขาขึ้นมา "จริงด้วย""อื๋อ? แม่นางยังมีอะไรกำชับอีกหรือ?""คุณชายเยี่ยนที่โถงหน้าคนนั้น เป็นคนที่มีบุญคุณกับข้า ถ้าหากเขายังไม่ไป เจ้าเองก็ช่วยดูแลหน่อย""รับทราบ!" เจิ้นเจียงรับคำสั่งแล้วออกไปและระหว่างทางที่จั๋วซือหรานตรงไปเรือนหลัง ในสมองก็มีภาพตอนที่ชายหนุ่มหักตะเกียบก่อนหน้านี้ปรากฏออกมา แก้มที่ตึงกับสายตาที่มีแววตาแบบนั้นจั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1103

    สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของปลายนิ้วหญิงสาวที่แตะลงมาบนริมฝีปากและได้ยินเสียงอ่อนโยนพูดคำที่ว่าต้องแต่งงานด้วยคิ้วของ 'เยี่ยนหราน' ขมวดแน่นขึ้นมากระทั่งตนเองยังไม่ทันตระหนักถึง ว่าทำไมต้องออกแรงที่นิ้ว แล้วทำไมที่น้ิวต้องออกแรงแล้วท้ายสุด เสียง 'กร๊อบ' ก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตะเกียบไม้ในมือเขาหักครึ่งเป็นสองท่อน!แก้มของชายหนุ่มตึงเป็นเส้นโค้ง เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "แม่นางก็ดูแลตัวเองด้วย"จั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นเบาๆ "คุณชายขี้อายขนาดนี้เชียว? หน้าตาก็หล่อเหลาดี ไม่คิดว่า...จะใสซื่อขนาดนี้"เสียงของชายหนุ่มดังลอดออกมาจากไรฟัน ฟังแล้วรู้สึกกระด้างหน่อยๆ "แล้วก็ออกไปด้านนอก การบุ่มบ่ามลดความสงสัยต่อตัวคนอื่นลง มันคือความประมาทเลินเล่อ"มุมปากจั๋วซือหรานเหมือนมีรอยยิ้มบางๆ ดูแล้วเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มไม่ได้ปฏิเสธคำพูดเขา เพียงเอ่ยขึ้นว่า "ขอบคุณคุณชายเยี่ยนที่เตือน หลังจากนี้ข้าจะระวังให้มาก เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน..."ในที่สุดนางก็หมุนตัวจากไปหลังจากเห็นแผ่นหลังนางเดินห่างไปแล้ว'เยี่ยนหราน'...หรือบางทีควรจะเรียกว่าเฟิงเหยียนตอนนี้จึงมองมายังมือตนเอง บนปลายหัวแม่มือ มีแผ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1102

    รอยยิ้มบนใบหน้าจั๋วซือหรานไม่เปลี่ยน "เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก""ไม่เป็นไร" 'เยี่ยนหราน' เอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วซือหรานยังคงยิ้มบาง "บัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนนี้เป็นสิ่งมีพิษกระมัง?""อืม" เขาไม่ได้ตระหนักถึงว่าอะไรผิดปกติ พยักหน้าตอบกลับ "เป็นสิ่งมีพิษที่มีอยู่ไม่มากนัก สามารถสร้างหมอกพิษขึ้นในป่าได้ ต้นของมันเดิมทีก็มีพิษร้ายแรงอยู่"อาหารรสชาติไม่เลวเลย น้ำแกงทำเอาตัวคนผ่อนคลายลงมาเลยทีเดียวเขาค่อนข้างผ่อนคลาย...หรือบางที สิ่งที่ทำให้เขาผ่อนคลายไม่ใช่น้ำแกงร้อน แต่เป็นเสียงอ่อนโยนของนาง...เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันดังนั้น ตอนนี้เขาจึงไม่ได้สังเกตถึงอะไรที่ผิดปกติพอได้ยินคำถามที่จั๋วซือหรานเพิ่งถาม ก็ตอบกลับนางมาตรงๆหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหญิงสาวใสเย็น เพียงแต่ว่า ไม่ได้อ่อนโยนแบบก่อนหน้านี้แล้วเพียงแค่เอ่ยขึ้นเรียบๆ ว่า "เป็นของดีจริงๆ เพียงแต่ว่า..." นางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ไม่รู้ว่าคุณชายเยี่ยนรู้ได้อย่างไร...หรือทำไมจึงรู้สึกว่า ข้าสามารถทนทานต่อธาตุพิษได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไร?"มือที่จับตะเกียบของชายหนุ่ม หยุดนิ่งไปในชั่วพริบตาเขาแหงนตา มองไปยังสีหน้าของหญิงสาว อั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1101

    คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาอะไรเป็นพิเศษแต่นางหน้าตาดี แล้วยังฉลาดเฉลียว ปกติเวลาปฏิบัติต่อใครก็จะมีท่าทีเย็นชา ดังนั้นต่อให้จะสวย แต่ก็ยังรู้สึกเหินห่างด้วยเช่นกันแต่ตอนนี้ท่าทีของนาง กลับไม่ได้เย็นชาเหมือนปกตินางยิ้มตาโค้ง ยิ้มสวยหยาดเยิ้มราวกับดวงดาวพร่างพราวอยู่เต็มฟ้า เหมือนมีมนต์สะกดที่ไม่รู้จัก สามารถทำให้คนจมดิ่งเข้าไปได้ในพริบตา'เยี่ยนหราน' มองตานางนิ่ง ไม่ย้ายสายตาไปไหนเลยพักหนึ่ง"ทำไมหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นเบาๆ'เยี่ยนหราน' ตอนนี้จึงส่งเสียงฮึจากจมูกออกมาเป็นเชิงถาม คล้ายกับเพิ่งจะรู้สึกตัวจั๋วซือหรานหัวเราะ ถามขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยนเหม่อไปแล้วหรือ? ชื่อดวงดาวที่เจ้าบอกล่ะ?"ตอนนี้เขาจึงเอ่ยขึ้น "เหลียนเจิน เทียนเยว่ เทียนจี เทียนเซี่ยง เทียนถง เทียนเหลียง..."หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น "ไม่เลวจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่คุณชายว่าแล้วกัน ขอบคุณมาก"ปฏิกิริยาเหล่านี้ของ 'เยี่ยนหราน' จั๋วซือหรานรู้สึกว่าน่าสนใจอย่างเห็นได้ชัดและรู้สึกว่าใกล้เคียงแล้ว จึงลุกขึ้นยืน "คุณชายเยี่ยนค่อยๆ กินเถิด ข้าจะไปดูพวกคนรับใช้ที่บาดเจ็บพอดี แล้วจะบอก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1100

    "เอาที่อร่อยดีกว่า" ขนมชามเองก็ใสซื่อ เอ่ยขึ้นว่า "นายท่านเองก็หิวแล้วนี่"จั๋วซือหรานยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง จับไปที่ขนมชามเบาๆยิ้มตาโค้ง "เด็กดี"จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ ถือว่าเขาโชคดีแล้วกัน"โชคดีที่มาเจอเข้ากับขนมชามที่นิสัยอ่อนโยนที่ด้านนอก ถ้าหากขนมถั่วแดงอยู่ด้านนอกล่ะก็ คงได้เสนออีกข้อหนึ่งมาแน่จั๋วซือหรานหยิบวัตถุดิบออกมาจากในมิติ คิดจะทำอาหารสักมื้อหลักๆ คือ อันที่จริงเดิมทีนางก็อยากจะทำให้ใจเขาปั่นป่วนอยู่แต่พอคิดๆ แล้วก็รู้สึกว่า ถ้าหากจะปั่นป่วนจิตใจเขาจริง ก็เหมือนจะไม่ใช่วิธีการที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาตาของจั๋วซือหรานหรี่ลง พริบตานี้...ก็เหมือนมีแผนการใหม่ขึ้นมาแล้วประมาณราวสามเค่อกับข้าวสี่อย่างน้ำแกงหนึ่งอย่างอันหอมหวนชวนกิน ก็เสร็จสิ้นลงจากเตา"นี่คือปลาเปรี้ยวหวาน ขานกย่าง เนื้อกระดูกหอมเกรียม คะน้าไฟแดง แล้วก็มีน้ำแกงเต้าหู้กระดูกปลาอีกที่ด้วย"จั๋วซือหรานนำอาหารหอมหวนชวนกิน ยกมาวางกองลงตรงหน้า 'เยี่ยนหราน'จากนั้นจึงเลิกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นข้อมือขาว หยิบตะเกียบแล้วเอ่ยขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยน ลองชิมฝีมือของข้าหน่อย"ตอนที่พูดค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1099

    เหล่าคนค้มกันทยอยกันมองไปทางหัวหน้าคนคุ้มกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงใจหัวหน้าคนคุ้มกันกัดฟันถามขึ้น "แม่ แม่นาง...คงจะไม่คิดจะตั้งชื่อ..."เขาชะงักไป เปลี่ยนทิศทางคำพูด เอ่ยต่อว่า "...อะไรทำนองนี้หรอกใช่ไหม?"ไม่หรอกกระมัง?จั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้โง่ ฟังไม่ออกถึงความกังวลพวกเขาเสียที่ไหนนางเหลือบมองพวกเขาผาดหนึ่ง จงใจแหย่พวกเขา เอ่ยขึ้นว่า "ทำไมล่ะ ไม่ดีหรือ? ลาย่างไฟ ขนมไส้หมู หมูชุบกรอบ เป็ดหมักน้ำจิ้ม หมูผัดเปรี้ยวหวาน"นางพูดไปด้วยพลางชี้นิ้วไปทางพวกเขาจากนั้นจึงเห็นว่าสีหน้าของเหล่าคนคุ้มกันแทบจะร้องไห้กันออกมาแล้วตอนนี้เอง เสียงหัวเราะแผ่วเบาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ประตูจั๋วซือหรานมองไปตามเสียง ก็เห็นร่างเงาหนึ่งที่คุ้นเคย"เจ้าทำไมมาอยู่ที่นี่?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มองคนที่มาใหม่ด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นก็พ่นชื่อออกมา "เยี่ยนหราน? ข้าจำชื่อไม่ผิดใช่ไหม"ชายหนุ่มร่างตรงแน่วเดินเข้ามาจากประตู พยักหน้าเบาๆ "ถูกต้อง"จั๋วซือหรานแหงนตามองเขา ไม่พูดอะไรชายหนุ่มก้มหน้ามองนาง สบตากันครู่หนึ่ง อันที่จริงในใจเขาก็ไม่ค่อยสงบนัก แค่คิดว่านางมองอะไรอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1098

    นางหมายถึง...กองหนุนที่ย้ายมาจากสำนักเมฆาวารีของผู้เฒ่าเหอสินะ!?แต่ใครก็ตามที่มีความคิดเช่นนี้ เขาคงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายหยิ่งผยองโอหังถึงที่สุดหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ตอนที่เผยความหมายนี้ออกมากลับไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความหยิ่งผยองโอหังแม้แต่น้อยเพราะ เรื่องราวเหมือนจะเป็นเช่นนี้จั๋วซือหรานเหมือนจะงึมงำกับตนเองขึ้นว่า "พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดกับหุ่นเชิดมนุษย์แล้ว มันน่าสนใจจริงๆ ทางที่ดีขอให้พวกเขาเอาเจ้าพวกนี้มาเล่นด้วย จะได้ไม่เสียเวลาที่ให้ข้ารอนานขนาดนี้...เจิ้นเจียงเหลือบมองทุกคนที่มีบาดแผลพอคิดๆ ก็ถามจั๋วซือหรานขึ้น "แม่นาง แล้วจะเรียกพวกเขาว่าอย่างไรกัน? เหมือนว่าจะบาดเจ็บกันหนักมาก ข้าพาพวกเขาไปพักผ่อนดีไหม?"หัวหน้าคนคุ้มกันมองออก ว่าคนรับใช้คนนี้ของนายท่าน เหมือนจะไม่ได้กังวลอะไรเลยกับสถานการณ์ที่นายท่านกำลังจะเผชิญแม้ไม่รู้ว่าผ่านเรื่องอะไรมา ถึงทำให้บ่าวมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้แต่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาอันที่จริงคนคุ้มกันอย่างพวกเขา ก็เพิ่งจะผ่านการถูกตระกูลเหอปฏิบัติอย่างโหดร้ายมานี่เองและยังเห็นเจิ้นเจียงมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้ต่อนายท่านแม้พวกเขา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status