Share

บทที่ 373

Author: หูเทียนเสี่ยว
ชายผู้นี้ไปตลาดมือดคงไม่ใช่การประมูลเลย เขาแค่หาข้ออ้างไปเป็นเพื่อนกับนาง

จั๋วซือหรานหรี่ตาลงและมองไปที่มือที่ยื่นออกมาจากด้านหลังและกุมสายบังเหียนนั้น

นั่นเป็นมือของผู้ชายที่ทั่วไป มือคู่นี้มีหนังด้านที่ง่ามมือระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เพราะเขาจับดาบเป็นเวลาหลายปี เขามีนิ้วยาวและมีข้อต่อที่ชัดเจน และเล็บถูกเขาตัดอย่างเรียบและสะอาด

นางโค้งมุมปากขึ้นเล็กน้อย

ม้าไฟถนัดวิ่งจริง ๆ และใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะมาถึงตลาดมืด

เดิมทีจั๋วซือหรานคิดอยู่ว่า หากวันนี้ไม่มีงานประมูลในตลาดมืด ท่านอ๋องจะแก้ตัวอย่างไร

เพราะตลาดมืดไม่ได้จัดงานประมูลทุกวัน

ใครจะรู้ว่าหลังจากพวกเขามาถึงตลาดมืดแล้ว พวกเขาพบว่าวันนี้มีงานประมูลจริง ๆ

จั๋วซือหรานบุ้ยปากเล็กน้อย จากนั้นนางหันไปมองที่ เฟิงเหยียน

นางหลอดถาม "วันนี้ท่านอ๋องมางานประมูล ท่านอ๋องจะซื้ออะไรหรือ"

นางคิดอยู่ว่า นางจะจับพิรุธของท่านอ๋องได้ แต่ใครจะรู้...

“ฮะ” เฟิงเหยียนส่งบังเหียนของม้าไฟให้คนดูแลม้าในตลาดมืด เมื่อเขาได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็หันมามองนางแล้วตอบว่า "ขอรับ ทาส"

จั๋วซือหรานตกตะลึง เดิมทีนางคิดว่าเฟิงเหยียนหาข้ออ้าง เพื่อมา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 374

    เพียงแต่ว่าพลังหลักทั้งสามนี้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติในตลาดมืด...หรือพูดได้ว่า พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนพื้นผิวอาจเป็นเพราะพวกเขาได้ร่วมทำธุรกิจบางบางอย่างด้วยกันหอเฟิ่งเสวี่ยทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการประมูลเป็นหลัก การคุ้มกันและการรวบรวมข่าวกรองไปได้ดีอีกด้วยส่วนหอฟ้าดาว พวกเขาจักสนามฝึกฝน และจัดบ่อนพนันด้วยส่วนหอเงินจันทร์ทำธุรกิจการซื้อขายทาสเป็นหลักแต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ทำธุรกิจของอีกสองกองกำลัง แต่เป็นแค่ว่าขนาดของธุรกิจนั้นไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้นพวกเขาพยายามไม่ทำธุรกิจที่ซ้อนกัน เพื่อให้ทุกคนมีกินและอยู่รอดหอเฟิ่งเสวี่ยทำธุรกิจการคุ้มกันได้อย่างดี ตามที่จั๋วซือหรานเข้าใจ นี่ควรหมายความว่าหอเฟิงเสวี่ยคล้าย ๆ หน่วยงานคุ้มกันหน่วยงานเช่นนี้สามารถขนส่งสินค้าและคุ้มกันคนได้ ด้วยเหตุนี้ หอเฟิงเสวี่ยจึงมีช่องทางในการสืบข่าวมากขึ้นอย่างไรก็ตาม คนรับใช้คนนี้รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะเจ้าสำนักท่านนี้เป็นผู้ลึกลับที่สุดในหอเฟิ่งเสวี่ย ทำไมจู่ง ๆ ท่านนี้สนใจธุรกิจการคุ้มกันล่ะแต่คนรับใช้ไม่กล้าประมาท เขาจึงรีบตกลง “อย่ากังวลขอรับท่าน เดี๋ยวข้าน้อยจะสั่งคนเตีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 375

    เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวทราบดีว่า จั๋วซือหรานเป็นคนเช่นใดเหตุผลหลักก็คือครั้งสุดท้ายที่ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษปรากฏตัวและหนุนหลังนาง นางพลิกกลับเงื่อนไขและราคาที่นางได้เจรจากับเขาอย่างรวดเร็วดังนั้นเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวจึงรู้สึกว่าเมื่อต้องคุยธุรกิจกับจั๋วซือหราน เขาควรเสนอสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ต้องเกรงใจเพราะแม้ว่าเจ้าเกรงใจนาง เมื่อถึงยามที่นางไม่เกรงใจ นางก็จะไม่เกรงใจเช่นเดิมดังนั้นหลังจากเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวได้ยินคำพูดของจั๋วซือหรานแล้ว เขาก็เหลือบมองนาง"ด้วยความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างแม่นางจิ่วกับข้า ข้าอยากช่วยแม่นางอยู่จริง ๆ แต่ท้ายที่สุด หอฟ้าดาวต้องทำมาหากิน ดังนั้นเรื่องที่แม่นางจิ่วต้องการ... "เมื่อเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูดถึงจุดนี้นี้ จากนั้นเขายักไหล่แล้วพูดว่า "แต่นี่เป็นอีกราคาหนึ่ง"ดูเหมือนเขาไร้เดียงสามากจั๋วซือหราน "..."นางมองไปที่เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวอย่างหมดคำพูด ในชั่วครู่หนึ่งนางไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของนางได้จริง ๆจั๋วซือหรานหายใจเข้าลึก ๆ " เจ้าสำนักช่างถนัดคุย...ธุรกิจจริง ๆ "เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวไม่พูดอ้อม ๆ กับนางเลย เขาพยักหน้าและพูดว่า "

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 376

    จั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ “พวกเขาปฏิบัติดีกับข้าไหมล่ะ ข้าเป็นผู้หญิง แต่พวกเขาก้าวร้าวใส่ข้า แล้วทำไมข้าต้องทนด้วย...เพียงเพราะข้าเป็นผู้หญิงเช่นนั้นหรือ”จั๋วซือหรานโค้งริมฝีปากของนางและยิ้มใส่เขา "เช่นนั้น เจ้าสำนักก็คิดว่าข้าเป็นผู้ชายละกัน"เจ้าสำนักจ้องมองนางครู่หนึ่ง จากนั้นเขาเม้มริมฝีปากของเขาจั๋วซือหรานพูดอย่างช่วยไม่ได้ " เจ้าสำนัก ข้าสังเกตแล้ว... ครั้งที่แล้ว ข้าก็แค่อ้างว่าท่านซือเจิ้งอยู่ที่นี่ เลยเอาเปรียบสักหน่อย แต่ข้าก็ไม่ได้ทำผิดถึงขั้นตายนะ ทำไมตอนนี้เจ้าถึงโกรธข้าล่ะ”เมื่อนางมาที่นี่ครั้งที่แล้ว เห็นได้ชัดว่า เจ้าสำนักผู้นี้เป็นผู้ที่เย็นชาอย่างมาก เขาแทบจะไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เลยแต่คราวนี้ที่นางมาที่นี่ ผู้ชายคนนี้สุดยอดมาก เขาเล่นตัวกับนาง มิเช่นนั้น เขาไม่ชอบนางไม่ว่านางทำอะไรก็ตามหลังจากจั๋วซือหรานพูดเช่นนี้ เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวก็ไม่คิดจะเก็บอารมณ์ของตัวเองหน่อย เขาแค่เลิกคิ้วแล้วถามนาง "โอ้ เจ้ามองออกด้วยหรือ ต้องขอโทษด้วย ข้าไม่คิดจะให้เจ้าสังเกตหรอก....."จั๋วซือหราน "..."เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวยังคงถามต่อ"ผู้ใดของตระกูลจั๋ว และผู้ใดของตระกูลเหยียน บอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 377

    จั๋วซือหรานทราบอยู่เสมอว่าจะมีโรคระบาดและนางได้วางแผนและเตรียมการไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ได้เริ่มเตรียมเปิดศูนย์การแพทย์และร้านขายยาทันทีหลังจากจบการแข่งขันกับตระกูลเหยียนหากนางไม่ทราบเรื่องนี้ นางจะไม่เห็นด้วยกับแผนการที่ท่านแม่กลับไปเยี่ยมบ้านคุณตาหลังจากนางทราบเรื่องของบ้านคุณตานางเห็นด้วยกับท่านแม่ เพราะนางอยากให้วัสดุยาของบ้านคุณตาส่งเข้ามาในเมืองหลวงด้วยแต่สิ่งที่จั๋วซือหรานคาดไม่ถึงก็คือตอนนี้เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางรู้สึกว่านางได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของนางไปมากจั๋วเห้อหรงยังไม่ยอมสำนึกผิดอีก ยังสร้างปัญหาอีก จนกระทั่งถึงขั้นตายหากถึงขึ้นนั้น ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้จริง ๆเพราะในชะตากรรมของเจ้าของร่างเดิม เมื่อตระกูลจั๋ว ถูกลงโทษและสั่งเนรเทศ คนแรกที่ถูกสัลงโทษคือจั๋วเห้อหรงแม้ว่าจั๋วซือหรานจะรู้สึกว่าจุดจบนี้เสมือนทำชั่วได้ชั่วแต่นางก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องสงสัยว่า เป็นไปได้ไหมว่า... นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้นอกจากโชคชะตาของตัวเองจั๋วเห้อหรงยังคงทำผิดพลาดเดิมเช่นเดียวกับทฤษฎีผลกระทบผีเสื้อ ตระกูลจั๋วอาจยังคงต้องถูกทำลายในเหตุการณ์นี้เช่นเดิมแล้ว...ท่าน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 378

    เดิมทีเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกธุรกิจนี้ทำไม่ได้ แต่เมื่อเขาเห็นแววตาอันชัดเจนในดวงตาที่สวยงามของนาง นางมีท่าทางที่สงบและมีกลยุทธ์นั้น ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของนางซึ่งทำให้คนเชื่อนางอย่างมากเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเม้มริมฝีปากแน่น เขาคิดครู่หนึ่ง "ถ้าอย่างนั้น บอกข้าหน่อยสิ หากไม่ใช่เพราะโกรธ แล้วเจ้าทำเช่นนี้ทำไม"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเบา ๆ "ข้าไม่สามารถบอกเหตุผลได้ ข้าบอกได้แค่ว่า หากม่ช่องทางนำส่งวัสดุยาเข้าเมืองหลวง เราจะไม่เจ๊งแน่ ๆ "“ทำไมเจ้าถึงมั่นใจขนาดนี้” เจ้าสำนกของหอฟ้าดาวจ้องมองนางจั๋วซือหรานคิดครู่หนึ่ง จากนั้นนางยิ้มและพูด "ข้าจะหาคนจ่ายให้"ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพยักหน้าและพูดอย่าง 'โหดร้าย'ว่า หาจั๋วซือหรานทำในสิ่งที่นางพูดไม่สำเร็จ เขาจะไม่มีวันปล่อยนางไปแน่ ๆจั๋วซือหรานไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้านเรื่องนี้ นางได้วางแผนในใจแล้วไม่เพียงเท่านั้น จั๋วซือหรานยังให้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวจัดสนามแข่งให้นางภายในสองสามวันจากนั้นนางจึงแยกย้ายกับเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว นางทำตามที่เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูด มุ่งหน้าไปท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 379

    เฟิงเหยียนส่งจั๋วซือหรานกลับบ้านเมื่อพวกเขามาถึงประตูจวนของจั๋วซือหราน ทั้งสองก็หยุดฝีเท้าเดิมทีพวกเขาคงอยากคุยกันหน่อยก่อนที่เขาจะพูด มีเงาของใครบางคนปรากฏ จากนั้นผู้พิทักษ์เงาในชุดดำหลายคนก็คุกเข่าต่อหน้าเฟิงเหยียนจั๋วซือหรานมองไปที่ชายชุดดำเหล่านั้น นางจำเครื่องประดับที่อยู่บนเสื้อผ้าของผู้พิทักษ์เงาได้แต่นางก็รู้สึก... ว่าเครื่องประดับนั้นดูไม่ค่อยเหมือนเสื้อผ้าปกติที่ผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียนจั๋วซือหรานตระหนักได้ทันทีว่า บางทีนี่อาจเป็นเพียงผู้พิทักษ์เงาของจวนเฟิง แต่ไม่ใช่ผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียนเมื่อจั๋วซือหรานหันกลับไปมองเฟิงเหยียนอีกครั้ง นางสังเกตสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นไร้ความรู้สึกและเย็นชาในตอนแรกที่เขาเผชิญหน้ากับจั๋วซือหราน แม้ว่าเขาจะไม่มีสีหน้าอันอ่อนโยนและอบอุ่นก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็สงบอยู่เขาไม่ค่อยเย็นชาเท่าไรแต่ขณะนี้เขาเย็นชาอย่างมากเฟิงเหยียนมองพวกเขาอย่างเฉยเมย เขาพูดออย่างไร้ความรู้สึก “มีอะไร”ผู้พิทักษ์เงาในชุดดำหลายคนยังคงคุกเข่าด้วยความเคารพ และเสียงของพวกเขาฟังดูสงบและไม่แยแสพวกเขาปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเอง " ซื่อจื่อ เกิดเรื่องใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 380

    นี่เป็นอะไรกันเนี่ย นางดูดพลังหยางและเติมพลังหยินจากเขา เขาต้องเอาคืนหรือแต่จั๋วซือหรานยังไม่ทันคิดเรื่องนี้ เฟิงเหยียนก็ปล่อยนางไปแล้ว สีหน้าของเขาดูราวกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย สงบและไร้เดียงสาในทางตรงกันข้าม ริมฝีปากของนางแดงและบวม และการที่นางยกมือและเช็ดปากของนางเบา ๆ ทำให้นางดูกังวลและอึดอัดมากยิ่งขึ้น“ ท่านอ๋อง เจ้า...”“หากข้าไม่ดูดกลับบ้าง พรุ่งนี้เจ้าจะถูกพลังนั้นเผา” เฟิงเหยียนกล่าวจั๋วซือหรานจำได้ว่าหลังจากนางรักษาอาการบาดเจ็บให้เขาแล้ว นางถูกพลังอันยิ่งใหญ่ของเขาปลุกเข้าร่างกายของนาง และวันรุ่งขึ้น นางเจ็บตัวจนตั้งสติไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยนางกลอกตาและเอื้อมมือไปจับข้อมือของเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนเพียงรู้สึกได้ถึงมีพลังอันบริสุทธิ์กำลังไหลเข้าสู่ระบบเส้นลมปราณของเขา เขารู้สึกสบายตัวมากเขารู้สึกพลังนั้นไม่ใช่พลังไฟของตระกูลเฟิง และไม่ใช่พลังไม้ของตระกูลจั๋วนั่นเป็นพลังที่บริสุทธิ์และมหัศจรรย์มาก ซึ่งเขาไม่สามารถอธิบายได้ชั่วขณะหนึ่งจั๋วซือหรานกล่าวว่า "เอาเป็นว่าข้าตอบแทนข้าละกัน เนื่องจากเจ้าปฏิบัติต่อข้าด้วยคว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 381

    “ใช่แล้ว เหยียนเอ๋อร์ เจ้าแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่” ผู้อาวุโสถามเฟิงเหยียนตรวจดูเป็นคร่าว ๆ เขาตอบ "ข้าหมดปัญญาขอรับ"ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งยอมรับความจริงนี้ไม่ได้ เขาคิดเช่นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเขาเป็นผู้ที่ฝึกฝนเฟิงช่านเอง และเฟิงช่านก็ยังเป็นรุ่นหลังที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดอีกด้วยแต่ตอนนี้เฟิงช่านกลายเป็นเช่นนี้ผู้อาวุโสท่านนี้พูดอย่างวิตกกังวล “ทำไมจะไม่มีทางออก ทำไมจะไม่มีทางแก้ปัยหาล่ะ เจ้าดูออกอยู่ใช่ไหม พวกเขาถูกวางยาพิษทั้งนั้น ในเมื่อถูกวางยาพิษ เจ้าต้องมีทางแก้ปัญหาสิ”ผู้อาวุโสจ้องมองที่ดวงตาของเฟิงเหยียนอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของผู้อาวุโสโหดร้ายเล็กน้อย"เจ้าร้อยพิษไม่กล้ำกลายมิใช่หรือ"สีหน้าของเฟิงเหยียนไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดเขามีพลังอันรุนแรงที่สุด ตระกูลของเขาได้ผนึกพลังศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ไว้ในตัวร่างกายของเขา เขามีไฟที่รุนแรงและทรงพลังเช่นนี้เขายังจะถูกพิษกัดกร่อนได้อย่างไร พิษทั้งหมดจะถูกไฟเผาจนไม่เหลืออะไรเลยเฟิงเหยียนเหลือบมองผู้อาวุโสท่านนี้ เขาตอบ "ข้าร้อยพิษไม่กล้ำกลายก็จริง แต่พวกเขาไม่ใช่"“แล้ว แล้วตอนนี้เราต้องทำอย่างไรดี” ไม่น่าแปลกใ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status