Share

บทที่ 1056

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานยิ้มๆ "แน่นอนว่าข้ายอดที่สุด ดังนั้นข้าก็เลยทิ้งบทเรียนหนึ่งไว้ให้พวกเจ้าด้วย เอาล่ะ..."

จั๋วซือหรานแผ่พลังวิญญาณออกมา คิดจะค้นหาร่องรอยของวัตถุดิบยาพืชวิญญาณเหล่านั้น

ยังไม่กางยังพอว่า แต่พอกางออก สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ...

"อื๋อ?"

"นายท่านทำไมหรือ?" ขนมถั่วแดงถามขึ้น

จั๋วซือหรานตอบ "ไม่มีอะไร มีพวกน่ารำคาญตามออกมาน่ะ"

"เจ้าคนชั่วพวกนั้นส่งมาหรือเปล่า?"

"น่าจะใช่นะ ปัญหาไม่ใหญ่มาก" จั๋วซือหรานสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามา กระทั่งยังเว้นระยะไว้เสียห่างเลย

บนความรู้สึก น่าจะแค่สะกดรอยตามนางมาเท่านั้น

อีกฝ่ายถ้าหากจะระวังตัวและป้องกันขนาดนี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ อย่าเข้ามารบกวนนางก็พอ นางก็จะไม่หันไปสนใจชั่วคราว

"นายท่านจะทำอย่างไร?" ขนมถั่วแดงถาม

จั๋วซือหรานปล่อยหมาป่าน้ำแข็งออกมาจากในมิติ ขึ้นไปขี่

จากนั้นจึงเอ่ยว่า "ไม่ทำอะไร ถ้าพวกเขาตามมาได้ก็ตามมา"

จั๋วซือหรานตบเบาๆ ที่คอของหมาป่าน้ำแข็ง เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า "เด็กดี ไปที่ป่าทวนแสงเลย"

หมาป่าน้ำแข็งเหยียบเท้าหลังแล้วพุ่งทะยานออกไป

"เร็ว! รีบตามไป! นางยังไม่เจอตัวพวกเรา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1057

    จั๋วซือหรานกระโดดลงมาจากหลังหมาป่าน้ำแข็ง ฟังความหมายที่เสียงงี๊ดๆ ของหมาป่าน้ำแข็งจะสื่อออกมา"อย่างนี้นี่เอง ด้านหน้ามีหมอกพิษสินะ" จั๋วซือหรานพยักหน้า "รู้แล้ว เด็กดี เหนื่อยหน่อยนะ"จั๋วซือหรานยื่นมือไปลูบเบาๆ บนหัวหมาป่าน้ำแข็ง แล้วเก็บมันเขาไปในมิติ แล้วจึงอัญเชิญแมงมุมน้อยออกมาเพราะร่างของราชาแมงมุมหน้าผีใหญ่โตมโหฬาร ดังนั้นมันจึงย่อตัวลงมาหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงตอนที่ออกมาแล้วขยับตัวไม่ได้จั๋วซือหรานถามไปทางมัน "แมงมุมน้อย หมอกพิษน่าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้กระมัง?"เสียงของแมงมุมน้อยทุ้มต่ำ "แน่นอน"เดิมทีมันก็เป็นสัตว์มีพิษอยู่แล้ว มีพลังต้านทานหมอกพิษสูงมาก บวกกับมันที่เป็นสัตว์ประหลาดระดับสูง พลังต่อต้านหมอกพิษจึงยิ่งสูงขึ้นไปอีกจั๋วซือหรานพยักหน้า ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า "เช่นนั้นก็รบกวนด้วย"นั่งอยู่บนหลังแมงมุมน้อย แมงมุมน้อยก็เริ่มเปิดทาง แขนเคียวคมกริบโบกวาด ก็ราวกับเป็นรถตักคันน้อย ที่เดินหน้าต่อไปได้อย่างทรงพลัง!แมงมุมน้อยบอกกับจั๋วซือหรานว่า "นายท่าน พอเข้าไปในพื้นที่หมอกพิษปกคลุม คนเหล่านั้นก็น่าจะถอยกลับได้ยากแล้ว"มันรู้ถึงคุณสมบัติร่างกายเจ้านายตัวเองดี จะบอกว่าร้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1058

    ราชาแมงมุมหน้าผีเติบโตมาในป่าลึกลับ จึงเข้าใจสถานการณืในป่าลึกลับได้เป็นอย่างดี ตอนนี้จึงทำการเปรียบเทียบออกมาจั๋วซือหรานทำปางมือหลายครั้ง จากนั้นจึงหยิบขวดใบหนึ่งไว้ในมือเพียงไม่นาน ของเหลวในขวด ก็กลายเป็นสีม่วงคล้ำดูลึกลับ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ไหลผ่าน รู้สึกได้ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อ ท้ายสุดก็อาจจะเปลี่ยนจากม่วงเป็นดำ"นายท่านคิดจะนำมาหลอมยาหรือ?" แมงมถมน้อยถามขึ้นจั๋วซือหรานคิดๆ "ก็ยังไม่แน่ใจนัก สรุปคือ เก็บบางส่วนมาเล่นก่อน ถ้าภายหลังมีประโยชน์ ข้าค่อยมาคิดอีกที หมอกพิษที่ปันอวิ๋นใช้กับปรมาจารย์กู่พรมแดนใต้ตอนนั้นก็น่าสนใจมาก น่าจะใช้หมอกพิษอยู่ด้านในไม่น้อยเลย"จั๋วซือหรานพูด ตาโค้ง สายตาเผยความเจ้าเล่ห์ออกมา "ถ้าข้าว่างจะลองดู บางทีอาจจะ ทำซ้ำหมอกพิษของเขาออกมาได้..."ถึงอ่างไร เขาก็เองก็ไม่ได้มีสิทธิทรัพย์สินทางปัญญานี่นะ"แต่ว่า..." จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็เอียงตัวเล็กน้อย เหลือบมองไปด้านหลังผาดหนึ่ง "ในเมื่อเป็นหมอกพิษระดับนี้ เช่นนั้นเจ้าพวกตัวปัญหาข้างหลังก็คงทนไม่ได้นานเท่าไรแล้ว""คุณสมบัติร่างกายของคนทั่วไป ทนกับหมอกพิษนี้ได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1059

    สาเหตุที่บอกว่าไม่ปกติเพราะถ้าจะเทียบกับลม สู้พูดว่าเป็นกระแสอากาศเล็กๆ ที่มีความเร็วแตกต่างจากกระแสลมรอบๆ จะดีกว่าและจุดที่ไม่ปกติอยู่ที่ กระแสลมผิดปกตินี้อยู่ข้างหูนางนี่เอง!ความเร็วในปฏฺิกิริยาของจั๋วซือหรานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด นางจึงเบี่ยงหลบออกมาไม่มากไม่น้อยราวๆ สองชุ่นแค่สองชุ่นเท่านั้นแต่ก็หลบพ้นการโจมตีของอีกฝ่ายไปได้เสียงฉัวะดังขึ้น เส้นผมของนางสองสามเส้น ถูกตัดออกไปข้างๆ ใบหู"น่าสนใจ" จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นร่างของแมงมุมน้อยดูลนลานหน่อยๆ เสียงของมันยังคงขรึมต่ำ "นายท่าน นั่นมันอะไรกัน?"มันแค่สัมผัสได้เท่านั้น ว่าเมื่อครู่มีอะไรบางอย่างโจมตีเข้ามา แต่กลับมองไม่เห็นจับไม่ได้เลยว่าเป็นอะไรที่โจมตีเข้ามาจากนั้นของสิ่งนั้นก็หายไปแล้ว รวดเร็วมากจั๋วซือหรานยื่นมือไปลูบๆ บนหลังแมงมุมน้อย พลังวิญญาณเข้มข้นวูบหนึ่งถ่ายเข้าไปในตัวแมงมุมกร่างกายที่ยังลนลานของมันแต่เดิมจึงสงบลงมา"นายท่าน อะไรโจมตีเข้ามากันแน่?!" แมงมุมน้อยถามจั๋วซือหรานยิ้ม "ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต""ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต?" แมงมุมน้อยทวนซ้ำคำพูดนาง ในน้ำเสียงไม่ค่อยเข้าใจ"ดังนั้นข้าจึงบอกว่าน่าสนใจไงล่ะ"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1060

    ดังนั้น ตอนที่สัมผัสได้ถึงกระแสลมเล็กนี้ครั้งถัดมา จั๋วซือหราน...จึงไม่หลบแล้วนางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สัมผัสได้ถึงการถูกโจมตีด้วยพิษ แทงเข้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของตนเองจมูกนางพ่นเสียงฮึดฮัดออกมาเบาๆ เหมือนเป็นเสียงครางเจ็บปวด แต่พอฟังอย่างละเอียดจะพบว่า ไม่ได้เจ็บปวดมากมายอะไนนักพริบตาต่อมามุมปากนางก็ยกขึ้น ยกมือตาม คว้าจับ 'อาวุธ' ที่โจมตีเข้ามาแล้วหยุดอยู่ตรงไหปลาร้านางน่าจะเป็น...อาวุธกระมัง?แต่พอเข้ามือก็รู้สึกว่า...สัมผัสแปลกๆเหมือนกับ...ผิวหนังยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากอีกฝ่ายถูกนางคว้าไว้แล้ว ทำให้ความเร็วลดลงจนไม่อาจฉากหลบไปได้อย่างรวดเร็วดังนั้นรูปร่างของอีกฝ่าย จึงเห็นได้อย่างชัดเจนจั๋วซือหรานมอง...คน? ...สิ่งของที่ถูกตนเองจับเอาไว้?ชั่วขณะหนึ่ง นางไม่รู้ว่าจะพรรณนา...ตัวตนตรงหน้านี้อย่างไรครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง ก็คิดออกมาได้แค่คำเดียว...สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์?หรือ...อาจจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตัวตนตรงหน้าดูแล้ว มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ดูแล้วเป็นมนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียวแต่ผิวหนังขาวซีด ในผิวที่ซีดเซียวนี้ เส้นเลือดเส้นลมปราณก็มีสีดำ ยิ่งไปกว่านั้นบนผิวหนัง ยังมี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1061

    "เจ้า..." ดวงตาของหัวหน้าคนคุ้มกันถลึงตาโต สายตาแสดงความตกใจปนพรั่นพรึง จ้องมองจั๋วซือหรานด้วยความระแวดระวังเขากำลังจะถาม ว่านางยิ้มอะไร?เพิ่งจะส่งเสียงพยางค์แรกออกมา ม่านตาก็หดลงเขาจ้องมองใต้กระดูกไหปลาร้าของนาง บาดแผลน่ากลัวเลือดเนื้อเหวอะหวะที่เดิมทียังมีเลือดพิษสีดำทะลักออกมา กำลังฟื้นตัว...แบบที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า!เห็นฉากนี้คาตา ถ้าแค่มีสมองหน่อยก็คงพิจารณาได้ไม่ยากแล้ว ว่าที่นางบาดเจ็บเมื่อครู่ เป็นแค่เหยื่อล่อเท่านั้น!เหยื่อล่อที่เอาไว้ล่อพวกเขาออกมา!หัวหน้าคนคุ้มกันก่อนหน้านี้ที่ยังดูคล่องแคล่วปราดเปรียว ตอนนี้กลับตึงขึ้นมาแล้ว เส้นประสาททุกเส้นทั่วร่างล้วนกำลังระแวดระวังจั๋วซือหรานโบกมือไปเช็ดรอยเลือดดำที่ขอบแผลก่อนหน้า บนผิวหนังก็เหลืออยู่เพียงรอยแดงจางๆ เท่านั้นเป็นไปได้ว่าอีกไม่นานนัก รอยแดงพวกนี้ก็คงหายไปหมด กระทั่งร่องรอยที่เคยบาดเจ็บ ก็น่าจะไม่เหลือหรอ"หุ่นเชิดความมืดหรือ?" จั๋วซือหรานทวนคำที่ออกจากปากหัวหน้าคนคุ้มกันเมื่อครู่อีกรอบ นางยกมุมปากขึ้น เอ่ยขึ้นอย่างสนอกสนใจ "ดูท่า ของดีของเจ้านายพวกเจ้าจะมีอยู่ไม่น้อยเลยสินะ"จั๋วซือหรานไม่ค่อยเข้าใจกับวิช

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1062

    และตอนนี้เอง นิ้วของเขาขยับกลไกบนตลับหุ่นเชิดหุ่นเชิดตัวนั้นที่ยืนอยู่ข้างๆ จั๋วซือหราน จู่ๆ ก็ขยับขึ้นมาแล้วมือข้างหนึ่งของมัน ถูกจั๋วซือหรานกำไว้แน่น ดังนั้นมันจึงยกเท้าขึ้นมาแล้วเตะกวาดใส่จั๋วซือหรานอย่างรุนแรงบนเท้ายังมีคมมีที่แหลมคมด้วย!เตะกวาดจนมีเสียงลมดัง "วูม..." ขึ้นมา!วิธีรับมือของจั๋วซือหรานง่ายดายมาก ปล่อยการควบคุมที่มือมันก่อน กระโดดขึ้นในที่เดิม ก็เบี่ยงหลบการเตะของมันได้แล้วส่วนมันพอได้รับอิสระภาพ ก็ฉากออกไปอย่างรวดเร็วปฏิกิริยาของหัวหน้าคนคุ้มกันนั่นก็รวดเร็ว และฉับไวมาก!เขารู้ว่าหญิงสาวคนนี้ค่อนข้างตำมือ ไม่ใช่คนทั่วไปจะรับมือได้ ดังนั้น เขาจึงคิดแต่จะรักษาสมบัติของนายท่านเอาไว้พอหุ่นเชิดความมืดหลุดจากมือนางมา!เขาก็เริ่มถอยหนีทันที! ไม่สนใจจะต่อสู้ต่อ ถอยกลับอย่างรวดเร็วแผนในใจก็เรียบง่ายมาก เดิมทียังอยู่ในหมอกพิษ ขีดจำกัดระยะสายตาก็ส่งผลกระทบมากพอควรแล้วรีบถอยหนี แล้วหายไปท่ามกลางหมอกพิษ ก็ไม่แน่ว่าจะถูกหาตัวเจอยิ่งไปกว่านั้นในใจหัวหน้าคนคุ้มกันก็มีตัวเปรียบเทียบอยู่แล้ว ถ้าหากหญิงสาวคนนี้สามารถหาพวกเขาพบได้เร็วขนาดนี้ เมื่อครู่บางทีคงไม่ต้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1063

    "แฮ่ก...! แฮ่ก...!"บนคอเขามีเสียงหอบหายใจหนักๆ"ติ๋ง...ติ๋ง..."มือเขากุมไว้บนบ่าตนเอง เลือดสดไหลออกมาจากแผล ไหลลงไปตามมือ ไปรวมกันที่ปลายนิ้ว หยดติ๋งๆ ลงบนพื้นเขากุมแผลของตนเองวิ่งหนีอยู่ในป่าหมอกพิษก็เหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าระยะสายตามัวเลือนไปหมดและไม่รู้ว่าเพราะหมอกหนาเป็นเหตุ หรือว่าเพราะลมหายใจเขาหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ หมอกพิษที่สูดเข้าไปก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สติสัมปชัญญะค่อยๆ เลือนราง...แต่เขารู้ ว่าตนเองห้ามหยุด ถ้าหยุด...คือความตายเครื่องจักรสังหารนั่นกำลังตามาติดๆ อย่างไม่ลดละ ถ้าแค่ตนเองหยุดลงมา ถึงตอนนั้น บาดแผลบนตัวก็จะไม่ใช่แค่นี้แล้ว จะต้อง...ตายแน่นอน!แต่ว่า มันก็เหนื่อยเหลือเกินหนังตาเองก็หนักขึ้นทุกที ร่างกายเองก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ข้อต่อทุกข้อเหมือนเหมือนถูกเทน้ำหนักลงไป ทำเอารู้สกหนักอึ้งจนแทบจะแบกไว้ไม่ไหวแล้ว!เท้าของเขาก็เหมือนกับการเคลื่อนไหวแบบเครื่องจักร ก้าวตรงไปด้านหน้าทำซ้ำไปเรื่อยๆภายใต้การเคลื่อนไหวที่หนักอึ้งนี้ ถ้าแค่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ก็จะทำลายสมดุลนี้ลงราวกับประสาททรายที่พังทลายลงกลายเป็นกองทรายแต่ตอนนี้เอง"โอ๊ะ.

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1064

    หัวหน้าคนคุ้มกันตกตะลึงอึ้งไปแล้วเพราะว่า เขาจำเสียงนี้ได้ นี่คือจั๋วซือหราน...คนที่ทำให้เขาโมโหจนเข็ดฟันและลนลานจนหลังเย็นวาบ"เจ้า...ทำไม..." เขาอ้าปากพะงาบ ไม่รู้เพราะติดพิษ หรือว่าเพราะตกตะลึงมากเกินไป ชั่วขณะหนึ่ง กระทั่งความสามารถในการพูดก็เหมือนจะช้าลงมาเสียแล้วจั๋วซือหรานจุ๊ปาก เดินมาตรงหน้าเขาจากนั้นจึงนั่งยองลงมาข้างหน้าเขาหัวหน้าคนคุ้มกันแหงนตามองนาง เขารู้สึกว่า...ท่าทางของนางตอนนี้ เหมือนกับกำลังมองหมาแมวจรจัดอยู่อย่างไรอย่างนั้นและเจ้าเครื่องจักรสังหารนั่น หุ่นเชิดความมืดที่แปลกประหลาด ก็ยืนอยู่ด้านหลังนาง ยังคงค้างอยู่ในท่าขกสองมืออันแหลมคมราวกับรูปสลักก็มิปานภาพเหล่านี้ตรงหน้า ล้วนทำให้เขาตกตะลึงพรึงเพริด ล้วนทำให้เขายากที่จะเชื่อได้"นี่มัน...เพราะอะไรกัน?" ในที่สุดเขาก็ส่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากจากในลำคอนี่มันเพราะอะไรกัน? ทำไมหุ่นเชิดความมืดที่เขาใช้ถึงได้หันมาโจมตีเขา?แล้วเพราะอะไรนางถึงกลับมาช่วยเขา?เพราะอะไรกัน?จั๋วซือหรานเบ้ปาก จุ๊ปากออกมาทีหนึ่ง เหลือบมองตลับหุ่นเชิดเปื้อนเลือดในอกของเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "เจ้าคิดว่านี่เป็นสมบัติล้ำค่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1074

    เพียงแต่ว่า ถ้าจะให้พูดจริงๆ เฟิงเหยียนเองก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากออกเมืองหลวงมาก็อยากจะติดตามหญิงสาวคนนั้นทั้งที่จำไม่ได้แล้วแท้ๆ ทั้งที่ตัดสินใจจะขีดเส้นคั่นแล้วแท้ๆแต่ก็ยังตามนางมาเพราะรู้ว่านางระแวดระวังแค่ไหน ก็เลยใช้วิะีการแปลงโฉมที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่เข้าใกล้นางอยู่ตลอด จนกระทั่งนางเข้ามาในป่าทวนแสงนี้พอมาถึงพื้นที่ป่าที่หมอกพิษหนาทึบ สัมผัสของคนเราก็จะอ่อนแอลง ตอนนี้จึงร่นระยะเข้าใกล้ขึ้นมาและเพราะเหตุนี้ จึงได้มองออกถึงหลงเฉิน...ภาชนะมังกรหนามม่วงตั้งแต่แรกเห็นหลงเฉินเป็นอาจารย์ของเขา หนึ่งในภาชนะสัตว์เทพที่สภาผู้อาวุโสรวบรวมเข้ามาตอนนั้นที่สภาผู้อาวุโสให้หลงเฉินได้เจอกับเขา สั่งสอนเขา ให้เขาพึ่งพาศรัทธาเป็นอาจารย์ เป้าหมายหลักๆ แล้ว อันที่จริงก็คือแบบนั้นสภาผู้อาวุโสหวังจะรวบรวมภาชนะหงส์แดงเข้ามา เพียงแต่เนื่องจากตระกูลเฟิงเจ้าเล่ห์เกินไป เพื่อรับประกันว่าตระกูลตนเองยังสามารถใช้ประโยชน์พลังของสัตว์เทพได้ จึงใช้มันออกมาแทบทุกวิถีทางไม่ว่าจะพันธนาการดวงวิญญาณของสัตว์เทพ หรือลงมือกับภาชนะสัตว์เทพอย่างเขาดังนั้นสภาผู้อาวุโสจึงทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1073

    เหล่าสัตว์ประหลาดในใจก็บริสุทธิ์มากๆ ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาต่อจั๋วซือหรานของพวกมันดังนั้นพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน จึงรู้สึกว่าจั๋วซือหรานเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรอย่างนั้นขนมถั่วแดงเอ่ยขึ้นฮึดฮัด "ใครกล้ามารังแกนายท่านของข้า? ข้าจะไปจัดการเขาคนแรกเลย!""ข้าคนที่สอง..." ขนมมะม่วงเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย"ข้าคนที่สาม...""ข้าคนที่สี่...""..."อารมณ์จั๋วซือหราน เหมือนถูกเจ้าก้อนเนื้อพวกนี้แหย่ให้ดีขึ้นมาพอควรนางยื่นมือไปจับสองตัวเข้ามา นวดคลึงไว้ในมือเหมือนกับคนแก่คลึงบอลเพื่อสุขภาพนวดไปด้วยก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ "มีพวกเจ้าอยู่ข้าก็อารมณ์ดีแล้ว ถ้าอารมณ์ไม่ดี พวกเราก็ไปหาคนกับหาเรื่องระบายให้ดีก็พอแล้ว"ราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหรานเหมือนดีขึ้นมาไม่น้อย จึงผ่อนลมลงมา "ได้ ข้าจะไปสั่งสอนเจ้าพวกตระกูลเหอนั่นพร้อมนายท่านเลย""ใช่เลย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พูดถึงตระกูลเหอ...ไอ้ของที่ข้าโยนเข้ามาในมิติเมื่อครู่ล่ะ?"เดิมทีน่าจะเป็นของที่น่าสนใจอยู่ แต่ดันถูกเจ้ามนุษย์กิ้งก่านั่นมาขัด นางจึงลืมไปเลย ตอนนี้เพิ่งจะนึกออกหุ่นเชิดตัวนั้นล่ะ?ราชาแมงมุมหน้าผียื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1072

    จั๋วซือหรานคิดๆ "ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไรดี?" นางยิ้มตาโค้ง "ในอนาคตข้าจะหาวิธีตอบแทนเจ้าแน่"ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง "เยี่ยนหราน""เยี่ยนหราน?" จั๋วซือหรานรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม ตนเองทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีมารยาท จึงยื่นมือไปตรงหน้าเขา "สองตัวอักษรไหนหรือ?"ชายหนุ่มเห็นนางยื่นฝ่ามือขาวนวลมาตรงหน้า สายตานิ่งงันไปครู่หนึ่งมุมปากยกขึ้น ค่อยๆ ยกมือขึ้นมา มือข้างหนึ่งประคองหลังมือนาง นิ้วของมืออีกข้างก็วาดลงไปเบาๆ บนฝ่ามือนาง"คำว่าเยี่ยนที่แปลว่าสงบ หรานที่แปลว่าเผาไหม้" ชายหนุ่มเอ่ยตอบเขาชะงักไป เหมือนนึกอะไรออกขึ้นมา ถามว่า "แม่นางชื่อว่าอะไรหรือ?"จั๋วซือหรานมองเขาอย่างครุนคิด ดวงตาลึกซึ้งขึ้นมาแต่ว่าสีหน้าของชายคนนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจั๋วซือหรานจึงตอบว่า "สกุลจั๋ว จั๋วซือหราน ยินดีที่ได้รู้จัก" ในดวงตาของนางมีรอยยิ้มที่ดูลึกลับ "เช่นนั้นพวกเราก็มีวาสนากันสินะ มีชื่อหรานด้วยกันทั้งคู่"ชายหนุ่มไม่พูดอะไรมาก เพียงเอ่ยขึ้นว่า "ในป่านี้อันตราย เจ้ารีบออกจากที่นี่จะดีที่สุด ไม่รู้ว่าเจ้านั้นถ้าตั้งตัวแล้วหาที่นี่เจอ คงได้วุ่นวายกันพอดี"จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1071

    "ความหมายของเจ้าคือ มนุษย์กิ้งก่าเมื่อครู่นี้..." จั๋วซือหรานเรียกว่าคำว่า 'มนุษย์มังกร' ออกมาไม่ได้จริงๆ นางเอ่ยต่อว่า "บนตัวถูกปิดผนึกพลังของมังกรหนามม่วงไว้หรือ?"และเหมือนเพราะนางตอบสนองได้รวดเร็ซ สายตาของชายหนุ่มที่มองไปทางนาง ก็พยักหน้าให้อย่างชื่นชม"พวกองค์กร...ที่มีพลังค่อนข้างลึกล้ำบางส่วน จะรวบรวมพลังพวกนี้ไว้" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น "เลี้ยงคนแบบนี้เอาไว้ในองค์กร เหมือนกับชุบเลี้ยงอาวุธไว้นั่นล่ะ เป็นดาบที่ใช้การได้ดีเลยทีเดียว"พริบตาที่ได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็อดคิดไปถึงสภาผู้อาวุโสนั่นไม่ได้นางขมวดคิ้ว ครุ่นคิด แล้วก็ยังถามขึ้นว่า "ถ้าพลังแข็งแกร่งพอล่ะก็ ยังถูกพวกองค์กรพวกนี้ควบคุมได้อีกหรือ?"ชายหนุ่มไม่ได้พยักหน้าและส่ายหัวให้กับคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน หลังจากที่ชะงักไปเล็กน้อย จึงเอ่ยขึ้นว่า "องค์กรที่พลังลึกล้ำเช่นนี้ ก่อนที่จะทำให้คนเหล่านี้เปลี่ยนเป็นเช่นนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีทางที่จะให้ดาบที่ตนเองตีไว้ ต้องหันมาเฉือนมือตนเองแน่นอน..."ในน้ำเสียงเขามีอาการทอดถอนใจอยู่ "และหนทางเดียวของคนเหล่านี้ ก็คือการตื่นขึ้น แต่การตื่นนั้นก็ยังยากยิ่งกว่าข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1070

    จากนั้นจึงได้ยินเขาเสริมมาให้คำหนึ่ง "ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ใช่กิ้งก่าด้วย"จั๋วซือหรานมองเขา "ไม่ใช่กิ้งก่า? แต่เกล็ดหนังทั้งตัวนั่น...แล้วนิสัยเป็นศัตรูกับพวกแมลง ก็ไม่น่าจะเป็นของพวกจระเข้หรือเปล่า..."จั๋วซือหรานพูด น่าจะเพราะรู้สึกว่าคำพูดต่อจากนี้มันน่าขำ ดังนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา เอ่ยต่อว่า "คงไม่ได้เป็นมังกรหรอกนะ..."จากนั้น นางจึงเห็นว่า...ชายหนุ่มคนนี้ หลังจากได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็จ้องมาที่นาง ไม่พูดอะไรจั๋วซือหรานตกตะลึงไป นางกัดริมฝีปาก "หรือว่าเป็นจริงๆ...?"แม้จะยอมรับโลกแฟนตาซีนี้ได้นานแล้ว กระทั่งหงส์แดงก็ยังมีเลย นางเองก็ยังยอมรับได้ แต่ว่า...มังกรหรือ?แม้จะบอกว่าพลังของคนเมื่อครู่ทำให้นางเกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นา แต่...มังกรเนี่ยนะ?!ชาติที่แล้วนางมาจากแผ่นดินใหญ่ แนวคิดเรื่องมังกร มันไม่ใช่แค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ฝังรากลึกใจเชิงวัฒนธรรม เป็นคำที่สื่อถึงความหมายดีดีมีศิริมงคลแต่เมื่อกี้นี้มัน...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "มังกรดีดีที่ไหนที่หน้าตาเป็นแบบนั้นกัน...ดูแล้วอย่างกับถูกดองเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น"ชายหนุ่มเดิมทีที่มีสีหน้าเคร่งขรึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1069

    เพราะก่อนหน้านี้ที่แล่นผ่านไป ลมหายใจร้อนที่คุ้นเคยจั๋วซือหรานคิดถึงสิ่งนั้นขึ้นมาในพริบตา...ใช่ ผู้ชายที่สมองกลวงไปแล้ว จำนางไม่ได้แล้วคนนั้นเพียงแต่รู้สึกตกตะลึงหน่อยๆ ในใจรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อแต่พอแหงนตาขึ้นมอง...ไม่ใช่เขาที่เข้ามาในสายตาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง แปลกหน้าอย่างสิ้นเชิงเลย แม้ดูแล้วหน้าตาจะหล่อเหลา ถือได้ว่าเป็นใบหน้าคมคายคนหนึ่งแต่ในคิ้วตาไม่มีส่วนไหนทีคล้ายกันเลยแต่ให้พูดตรงๆ ใบหน้าของเจ้าคนสมองพังนั่นก็สวนทางกับธรรมชาติจริงๆ พอคิดว่าจะมีคนที่มีใบหน้าคล้ายกับการสวนทางธรรมชาตินั่นแล้ว ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่จั๋วซือหรานตอนแรกก็ค่อนข้างหลงใหลใบหน้านั้นอยู่ พอได้เห็นใบหน้านั่นก็รู้สึกอารมณ์จะดีขึ้นมาเลย"เจ้า..." จั๋วซือหรานมองชายหนุ่มตรงหน้า เดิมทียังคิดจะพูดอีกคำสองคำ แต่ก็ตระหนักได้ ว่าตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะคุยกันนางเหลือบมองไปทางเจ้า 'ร่างสัตว์' ที่มีเกล็ดหนังของสัตว์ประหลาดคนนั้น แต่ก็พบว่า...หายไปแล้ว?แม้ไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไรแต่อันตรายยังคงอยู่ จั๋วซือหรานมีเวลาพิจารณาสถานการณ์รอบๆ อย่างละเอียด จากนั้นก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา...ไม่ใช่ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1068

    แต่คิดไม่ถึงว่า...!จั๋วซือหรานกระทั่งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองเห็ฯ มันคืออะไรมนุษย์หรือ? หรือว่า...สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์อะไร?ถ้าเป็นข้อหลังจริง สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ลึกลับที่ตนเองเห็นวันนี้มันจะมากไปหน่อยไหม?ผิวหนังส่วนหนึ่งของเขา ดูแล้วมีสีม่วงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ถูกระเบิดมือทำร้ายเอาแล้ว!เพราะกางเกงกว่าครึ่งของเขา กับเสื้อผ้ากว่าครึ่งของเขา ล้วนถูกระเบิดไปหมดแล้ว ส่วนขอบเสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยยังมองเห็นคราบเลือดอยู่แทบจะยืนยันได้ ว่าเขาก่อนหน้านี้ถูกระเบิดมือทำร้ายเข้าไปแล้วและผิวหนังส่วนที่ควรถูกระเบิดจนบาดเจ็บไปแล้ว ตอนนี้กลับมีสีม่วงขึ้นมาเล็กน้อยดูแล้ว กระทั่งยังมีความรู้สึกแข็งแกร่งบางอย่างอีกด้วย!เหมือนจะเป็น...เกล็ดหนัง?จุดที่ถูกระเบิดทำร้ายจนบาดเจ็บบางส่วนบนหน้าเขา น่าจะเป็ฯจุดที่ถูกสะเก็บระเบิดสาดเข้าไป เวลานี้ก็กลายเป็นเกล็ดหนังสีม่วงเข้มไปแล้วไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งตาซ้ายก็ยังเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเป็น ดวงตาแนวตั้งที่เย็นชา คล้ายกับสัตว์เลือดเย็นอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานเองก็พูดไม่ถูก ว่าตอนนี้ ปฏิกิริยาแรกของนางคือ...คนผู้นี้อาจจะเป็นนักค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1067

    ตอนนี้เอง เขาจึงเห็นเจ้าสิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรลักษณะวงรีนั่นอยู่ที่ใต้เท้าตนเองขณะเดียวกัน เขาก็เห็นว่าร่างของหญิงสาวตรงหน้าถอยฉากไปอย่างรวดเร็วเขาขมวดคิ้ว "นี่มันคืออะ..."เสียงยังไม่ทันขาดเสียงสนั่นก็ดังขึ้น!"ตูม...!"เสียงระเบิดดังลั่น แทบจะดังก้องไปทั้งป่า!ทำเอานกนับไม่ถ้วนบินกันแตกตื่น!จั๋วซือหรานไม่รีรอ หมุนตัวหนีออกไปอย่างไม่ลังเลวิชาร่างเปิดออกทั้งหมด ความเร็วเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดและไม่รู้ว่าเมื่อครู่ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอะไร รู้สึกเหมือนเป็นศัตรูแข็งแกร่งที่จับตัวได้ยากจริงๆดังนั้น ปกตินางจะไม่ค่อยใช้ของอย่างระเบิดมือเท่าไรนัก เพราะเสียงมันดังเกินไป ดึงดูดสายตาคนมากไปแต่เมื่อครู่คิดแล้ว เหมือนมีแค่สิ่งนี้ที่เหมาะสมที่สุด และให้ผลไม่คาดคิดมากที่สุดแล้วก็ตามคาด ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่คาดคิดขึ้นมาได้แต่จั๋วซือหรานก็ไม่ได้ประมาท นางไม่รู้สึกว่าระเบิดมือลูกนั้นจะทำให้อีกฝ่ายตายได้แต่ก็น่าจะทำให้อีกฝ่ายลำบากพอควร ส่วนตนเองก็ถือโอกาสนี้ฉากหลบออกมาเสีย จึงเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดเพียงแต่ว่า สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ...ปฏิกิริยาและความเร็วของอีกฝ่าย เร็วได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1066

    นางมองไปยังศัตรูที่อยู่ตรงหน้ากระทั่งสายตายังไม่ทันจับหน้าตาของคนผู้นี้ได้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของอีกฝ่ายดังขึ้นมาฟังแล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์เชิงลบอย่างเย็นชาหรือโกรธแค้นเลยถ้าให้พูดขึ้นมาจริงๆ จั๋วซือหรานกระทั่งรู้สึกว่า เสียงหัวเราะนี้ฟังแล้วดูอบอุ่นอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำคล้ายกับสายลมสายฝน แสงตะวันยามบ่ายอย่างไรอย่างนั้นเหมือนกับว่า นี่ไม่ใช่การโจมตีเพื่อช่วงชิงชีวิต แต่เป็นแค่ใช้กิ่งไม้หรือข้าวฟ่างหางหมามาแย่เจ้าเล่นเท่านั้นและเพราะความรู้สึกนี้ การโจมตีถึงตายบวกกับรอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน จึงเกิดความแตกต่างขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนั้น จั๋วซือหรานจึงได้ยินเส้นเสียงที่อบอุ่นอ่อนโยนของอีกฝ่าย ทุ้มต่ำ ในน้ำเสียงกระทั่งไม่มีความเป็นศัตรูเลยด้วยซ้ำเอ่ยขึ้นมาว่า "กันได้ดี ลองกันอีกครั้งดูไหม?"ในใจจั๋วซือหรานสั่นกึกเพราะน้ำเสียงเช่นนี้...นางคุ้นเคยมาก มั่นใจในตนเอง ไม่เร่งไม่ร้อน ดังนั้นพอได้ยินในหูของฝั่งตรงข้าม กระทั่งทำให้เกิดความรู้สึกหยิ่งผยองหน่อยๆ...นี่เป็นน้ำเสียงที่นางเคยใช้กับศัตรูและคู่ต่อสู้ตอนนี้พอได้ยินจากปากคนอื่น เอาจริงๆ ก็รู้สึกเป็นเอกลักษณ์อยู่เหม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status