Share

ยอดบุปผาโฉมสะคราญ
ยอดบุปผาโฉมสะคราญ
Author: องค์หญิงโนเนม

บทนำ 1-1

last update Last Updated: 2025-04-05 20:34:19

แคว้นฟงหลิง

ยามราตรีเสียงลมกระโชกที่โหมกระหน่ำรุนแรง ต้นไม้ทุกต้นโยกไหวไปตามแรงลม คล้ายกับมีมือหลายมือเสมือนเงามืดที่จับต้นไม้เหล่านั้นให้เอนไหวไปตามทิศทางลม จันทราสาดแสงส่องลงมาทำให้เห็นทุกสรรพสิ่งได้อย่างเลือนราง ยามนี้ภายในจวนตระกูลจาง ทุกคนต่างเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์กันหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงเรือนเหลียนฮวา ที่ตอนนี้ยังคงมีแสงเทียนวับแวมให้พอมองเห็นได้อยู่บ้าง ภายในห้องมีหญิงสาววัยสิบเจ็ดปีกำลังนั่งพนมมืออยู่ในอ่างน้ำ ที่มีกลิ่นสมุนไพรเข้มข้น พลางขยับริมฝีปากแดงฉ่ำท่องสวดคาถาบางอย่างไม่ยอมลดละ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกลงจนหนาวสะท้าน ก่อนที่นางจะขยับริมฝีปากบางเอ่ยวาจาออกมา

"ขอให้ข้างามที่สุด งามเป็นหนึ่งในแคว้นฟงหลิง สตรีใดก็มิอาจเทียบเคียงข้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม"

กล่าวจบนางก็คลี่รอยยิ้ม ใบหน้างดงามล่มเมือง ทว่ากลับแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชาอำมหิต

"คุณหนูเจ้าคะ ยามนี้ดึกมากแล้ว รีบเข้านอนเถิดเจ้าค่ะ"

เสียงสาวใช้นางหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยท่าทีหวาดหวั่น หญิงสาวพลันปรายตามามองสาวใช้อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะตวาดเสียงดัง

"พูดมาก นังคนชั้นต่ำ!"

สิ้นเสียงหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะสั่งให้สาวใช้มาเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อย จึงกลับเข้าไปในห้องนอน นางทิ้งกายนั่งลงบนเตียง ก่อนจะยกชามใบหนึ่งที่มีน้ำแกงบางอย่างขึ้นมายกดื่มจนหมดถ้วย เหล่าสาวใช้ที่เห็นแม้จะรู้สึกอยากอาเจียนมากเพียงใดแต่กลับไม่กล้าแสดงท่าทีอื่นใดออกมา

จะไม่ให้พวกนางสะอิดสะเอียนได้อย่างไรกัน คุณหนูของพวกนางหลงใหลมนต์ดำจนถึงขั้นกินรกเด็กต้มน้ำแกงเข้าไป!

คุณหนูใหญ่ของพวกนางมีนามว่า จางเหมี่ยวลี่ เป็นบุตรสาวจวนแม่ทัพตระกูลจาง งดงามเหนือสตรีใดอีกทั้งมีความสามารถไม่น้อย บิดาของนางคือแม่ทัพใหญ่ เป็นบุรุษรูปงามองอาจแห่งยุค ส่วนมารดาของนาง ในกาลก่อนก็เป็นถึงสาวงามอันดับหนึ่งของแคว้นฟงหลิง ความงามของนางได้รับการถ่ายทอดจากบิดามารดาจนเป็นที่เลื่องลือ แม้จะมีข่าวลือแพร่สะพัดว่านางหลงใหลคุณไสยมนต์ดำ แต่ด้วยเพราะบิดานางทำความดีความชอบ ทำให้ราษฎรทั่วทั้งฟงหลิงไม่กล้านินทานางต่อหน้า แต่ลับหลังเรื่องของนางกลายเป็นเรื่องเล่าที่สนุกปากไปเสียแล้ว

จางเหมี่ยวลี่เริ่มเรียนรู้มนต์ดำผ่านไต้ซือผู้หนึ่ง เขามอบตำราให้นางเอาไว้ศึกษาหนึ่งเล่ม ในตำราเล่มนั้นมีทั้งวิธีการสาปแช่ง ศาสตร์ลับเรื่องความงาม ในคราแรกจางเหมี่ยวลี่ยังรู้สึกหวาดหวั่น แต่นานวันเข้านางกลับหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว

จุดมุ่งหมายเริ่มแรกเพียงอยากทำให้ตนเองงดงาม นางจึงสั่งให้สาวใช้ไปหาซื้อรกเด็กจากหญิงชาวบ้านที่คลอดบุตรและกำลังจะนำรกไปทิ้ง นานวันเข้าก็ติดต่อซื้อขายกันอย่างลับๆ หญิงผู้นั้นเห็นว่างานนี้ได้เงินดีจึงไม่สนถูกผิดอันใดอีก เมื่อได้รกเหล่านั้นมาแล้วจางเหมี่ยวลี่จึงให้สาวใช้เอามาตุ๋นเป็นยาเสริมความงามดื่มกินทุกวันเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์งดงามอยู่เสมอ

เช้าวันต่อมา จางเหมี่ยวลี่ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมารับลมยามเช้า อากาศในฤดูใบไม้ผลิค่อนข้างที่จะดีไม่น้อยเลย นางจึงยืนรับลมต่ออีกครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินกลับเข้ามากินอาหารเช้าที่เรือนของตน ก่อนจะปรายตามองเหล่าสาวใช้แวบหนึ่ง

"เอาน้ำแกงตุ๋นมาให้ข้า"

สาวใช้นามว่าเยว่ซินหันขวับมามองเจ้านายของตน แล้วพูดด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ

"เอ่อ คุณหนู เมื่อคืนเพิ่งจะดื่มไปนะเจ้าคะ"

จางเหมี่ยวลี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงจ้องมองสาวใช้เยว่ซินด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ก่อนจะเอ่ย

"ข้าสั่งให้เจ้าไปเอามา ไม่ได้ยินหรือ หรือต้องให้ข้าตบสั่งสอน!"

"คุณหนู ตอนนี้ เอ่อ รกพวกนั้นจะหมดแล้วนะเจ้าคะ ยามนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงภาวะสงคราม ทางการจึงสั่งเกณฑ์ไพร่พล สามีภรรยาแยกจากกัน ทำให้หาหญิงท้องแก่ลำบากยากยิ่งนัก แทบไม่มีเด็กเกิดใหม่เลยเจ้าค่ะ"

จางเหมี่ยวลี่หลับตาลง พยายามระงับโทสะ แต่เวลานี้นางโมโหแล้ว น้ำแกงตุ๋นรกเด็กของข้า!

ทันทีทันใดนั้นนางจึงคว่ำโต๊ะอาหารจนถ้วยชามแตกกระจายเกลื่อนพื้น

"ไปหามาให้ข้า!"

เยว่ซินที่เห็นว่าเจ้านายตนบันดาลโทสะถึงขั้นฆ่านางได้จึงไม่กล้ารั้งรออะไรอีก รีบไปที่ห้องครัวเพื่อที่จะนำน้ำแกงมามอบให้คุณหนู จางเหมี่ยวลี่ทิ้งกายลงนั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง ก่อนจะพนมมือขึ้นและพึมพำบางอย่างอยู่เงียบๆ

สวรรค์! ข้าจะไม่ผิดต่อบัญชาสวรรค์ ข้าจะต้องนำรกเหล่านั้นมาดื่มทุกวันให้จงได้ ท่านอย่าได้โกรธเคืองเลยนะเจ้าคะ

เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นไปถึงเรือนใหญ่ของจวนตระกูลจาง จางฮูหยินร้อนใจจึงรีบเร่งมาดูบุตรสาวของตนทันที เมื่อเห็นว่าเครื่องเรือนถูกทุบทำลายจนแตกกระจัดกระจาย นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา นางและสามีมีบุตรชายหญิงคู่หนึ่ง บุตรชายคนโตนามว่าจางเฉวียนอายุยี่สิบสองปี และจางเหมี่ยวลี่บุตรสาวอายุสิบเจ็ดปี โดยเฉพาะบุตรสาวนั้นนางรักดั่งแก้วตาดวงใจ จางเหมี่ยวลี่ต้องการสิ่งใดนางและสามีย่อมหามาให้ทุกอย่าง รู้ทั้งรู้ว่านางหลงงมงายในศาสตร์มนต์ดำพวกเขาก็ยังไม่สามารถคัดค้านนางได้

"เหมี่ยวเอ๋อร์ลูกแม่ เจ้าโมโหอันใดอีกเล่า ผู้ใดกล้าขัดใจบุตรสาวข้า!"

เหล่าสาวใช้ต่างนิ่งเงียบไม่กล้าปริปากพูดอะไร จางเหมี่ยวลี่เห็นว่ามารดามาหา ก็ระงับโทสะสงบสติอารมณ์ลงได้ พูดคุยสนทนาไม่กี่ประโยคเท่านั้น ไม่นานนักเยว่ซินก็ยกน้ำแกงเข้ามาให้จางเหมี่ยวลี่ นางรีบยกขึ้นดื่มครั้งเดียวจนหมดถ้วย จางฮูหยินลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดผวา นางรู้ดีว่ามันคือน้ำแกงทำมาจากอะไร แม้จะอยากอาเจียนแต่ก็ไม่กล้ากล่าววาจาใดเพราะเกรงว่าจะทำร้ายจิตใจบุตรสาว

เมื่อได้ดื่มน้ำแกงแล้ว จางเหมี่ยวลี่ก็อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างฉับพลัน พูดจาสนทนากับมารดาของตนปกติ

"ท่านแม่เจ้าคะ อีกไม่นานท่านพี่เซียวจิ้งก็จะยกทัพกลับมาพร้อมกับท่านพ่อแล้ว ข้าอยากจะเตรียมของต้อนรับเขาเจ้าค่ะ ท่านแม่ท่านช่วยข้าด้วยเถิด ท่านรู้จักร้านค้ามากมายย่อมหาของดีมาให้ข้าได้เป็นแน่"

จางฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะบุตรสาวด้วยความรักใคร่ ก่อนจะรับปากนาง

"เหมี่ยวเอ๋อร์ ไว้แม่จะจัดการเรื่องนี้ให้เจ้าเอง"

"ท่านแม่รักข้าที่สุดเลย"

"แน่นอนอยู่แล้ว"

จางฮูหยินยิ้มให้บุตรสาวอย่างอ่อนโยน ตั้งแต่แต่งงานเข้าจวนตระกูลจางนางก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีมาโดยตลอด สามีนางเองเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แคว้นฟงหลิง อีกทั้งจางเฉวียนบุตรชายคนโตของนางก็เข้าสู่กองทัพเป็นทหารหนุ่มที่มากความสามารถ อีกไม่นานย่อมได้รับพระราชทานตำแหน่งในกองทัพตามรอยบิดาเป็นแน่

บุตรชายนั้นมีความสามารถตามรอยบิดา น่าเสียดายที่จางเหมี่ยวลี่แม้จะมีทักษะเรื่องการต่อสู้มาตั้งแต่วัยเยาว์แต่กลับละเลยไม่สนใจ วันๆ เอาแต่สนใจศาสตร์มนต์ดำเช่นนี้

จางเหมี่ยวลี่แย้มยิ้มให้มารดาอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาคมคายของเซียวจิ้งบุรุษที่ตนเฝ้าคะนึงหา

โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งชะตาชีวิตของนางจะพลิกผันไปอย่างไม่หวนคืน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทนำ 1-2

    วังหลวงแห่งแคว้นซ่ง"นางตายหรือยัง?""ยังพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"เสียงพูดคุยสนทนาที่อยู่ด้านนอกไม่ไกลนัก ทำให้หญิงสาวที่ถูกขังอยู่ในคุกหลวงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย หญิงสาวค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงกำแพง ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อนางเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบคนผู้หนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าคุกคุมขังและมองนางด้วยแววตาเรียบเฉย"ฉู่อี้เฉิน เหตุใดท่านจึงทำกับข้าเช่นนี้""เพราะเจ้าหมดประโยชน์แล้วอย่างไรเล่า"ฉู่อี้เฉินตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา เดิมทีเขาและนางเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกันหญิงสาวที่ถูกคุมขัง มีนามว่าเจี่ยงหร่าน เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพใหญ่แคว้นซ่ง มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊เพราะแคว้นซ่งเปิดกว้างเรื่องสตรีอยู่ไม่น้อย เจี่ยงหร่านจึงได้เข้าค่ายทหารตามบิดา ไม่นานก็รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพแห่งกองทัพหวังหย่ง เป็นสตรีคนแรกที่มีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพการที่เขาเข้าหานาง เดิมทีก็เพื่อผลประโยชน์ ก่อนหน้านี้คนตระกูลเจี่ยงไม่เห็นด้วยที่เจี่ยงหร่านใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา เนื่องจากคนในตระกูลเจี่ยงขึ้นตรงต่อฮ่องเต้แคว้นซ่งบิดาของเขา ไม่ขึ้นตรงต่อองค์

    Last Updated : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 1-1สิงศพคืนชีพ

    ยามนี้สงครามระหว่างแคว้นฟงหลิงและแคว้นต้าฉีมาถึงบทสรุปแล้ว ท้ายที่สุดฮ่องเต้แคว้นต้าฉีเจรจาของสงบศึกชั่วคราว เนื่องจากสูญเสียกำลังทหารไปร่วมหลายหมื่นนายแล้ว หากว่ายังคงดึงดันที่จะต่อสู้อีก ย่อมไม่ส่งผลดีต่อแคว้นต้าฉีเป็นแน่ผู้นำศึกในครั้งนี้คือแม่ทัพใหญ่จางและรองแม่ทัพเซียวจิ้ง หลานชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีฝีมือเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง"ซื่อจื่อ ยามนี้แคว้นต้าฉียอมสงบศึกแล้ว ข้าจะส่งคนไปรายงานเรื่องนี้กับฝ่าบาทโดยด่วน"“เป็นเพราะครั้งนี้ มีท่านแม่ทัพใหญ่ร่วมออกศึก เราจึงสามารถมีชัยอีกครั้ง" เซียวซื่อจื่อตอบรับคำอย่างอารมณ์ดีแม่ทัพใหญ่จางที่ได้ยินเช่นนั้นก็แย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมา"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านเองมีฝีมือยอดเยี่ยม แคว้นฟงหลิงมีท่านอยู่ วันใดข้าตายไปย่อมหมดห่วงแล้ว""อย่าได้เอ่ยวาจาเช่นนี้ ท่านแม่ทัพจะต้องมีอายุยืนยาว"สองคนพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะอนุญาตให้เหล่าทหารดื่มสุราเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะในครั้งนี้ แม้จะยังไม่สามารถยึดแคว้นต้าฉีมาได้ แต่ฮ่องเต้แค้นต้าฉีย่อมไม่อาจจะก่อคลื่นลมได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้เป็นแน่เซียวจิ้งมองดูเหล่าทหารที่ร่วม

    Last Updated : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 1-2 สิงศพคืนชีพ

    "ซื่อจื่อ ไม่ดื่มหน่อยหรือ"เสียงของแม่ทัพใหญ่จางทำให้เซียวจิ้งหลุดพ้นจากภวังค์ ก่อนจะหันมายิ้มน้อยๆ"ไม่ล่ะ ข้าต้องเฝ้าดูสถานการณ์ อีกอย่างข้าไม่ค่อยอยากดื่มเท่าไหร่"แม่ทัพใหญ่จางพยักหน้า พลางกล่าวขึ้นมา"ซื่อจื่อ หากท่านกลับไปเมืองหลวงครั้งนี้ คงต้องแต่งงานกับเหมี่ยวเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าท่านไม่เต็มใจ แต่สมรสพระราชทานย่อมมิอาจยกเลิกได้ หากท่านไม่รักนาง ก็ช่วยดีต่อนางได้หรือไม่ ข้ามีบุตรสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น"เซียวจิ้งมองแม่ทัพใหญ่จางก่อนจะนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง และตอบรับคำ"ข้ารับปาก ข้าจะพยายาม"แม่ทัพใหญ่จางที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย"เวลานี้เฉวียนเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บเพิ่งจะฟื้นตัว กลับไปเมืองหลวงข้าจะหาหมอเก่งๆ มารักษาเขา""ข้าจะให้เสด็จลุงส่งหมอหลวงไปรักษาเขา อย่างไรเขาก็เป็นสหายของข้า""ขอบคุณซื่อจื่อยิ่งนัก"เซียวจิ้งพยักหน้าและขอตัวจากมา จางเฉวียนเป็นบุตรชายคนโตของแม่ทัพใหญ่จาง อีกทั้งยังเป็นสหายร่วมเรียนกับเขาตั้งแต่วัยเยาว์จึงสนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่งชะตาสวรรค์กำหนดมาเช่นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่อยากฝืนลิขิตสวรรค์เขาและสหายแดนไกลผู้นั้นคงมีวาสนาเพียงได้พบแต่ไม่ได้ครองคู่กันสวรรค์ช่า

    Last Updated : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 2-1 ร่างใหม่

    เซียวจิ้งที่ได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็พลันนิ่วหน้า เขามองจางเหมี่ยวลี่ที่ยามนี้มองมาที่ตนด้วยแววตามีทั้งความตกตะลึงและคาดไม่ถึง อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยความดีใจอีกหลายส่วนเขาไม่เคยชอบจางเหมี่ยวลี่ เพราะนางไม่ใช่คนนิสัยดีเท่าใดนักเขาจำได้ว่า ก่อนที่เขาจะเดินทางมาชายแดน เมื่อสองปีก่อน เสด็จลุงพระราชทานสมรสให้เขาและนาง หากชนะสงครามกลับเมืองหลวงเมื่อใด ก็ให้แต่งงานกันทันที ยามนั้นจางเหมี่ยวลี่พยายามจัดฉากเพื่อพบหน้าเขา นางนำขนมและอาหารที่ทำเองกับมือมาให้เขากิน มีครั้งหนึ่งเขาเห็นว่านางพนมมือขึ้นไหว้ไปที่อาหารและพึมพำบางอย่าง ก่อนจะเป่าลงไปในอาหารที่นำมาให้เขา เซียวจิ้งถอนหายใจออกมา และไม่แตะต้องของที่นางทำให้แม้แต่คำเดียวจางเหมี่ยวลี่หลงใหลวิชาบัดซบพวกนี้จนเสียสติไปแล้วหรืออย่างไรและมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง เขาไปดื่มชาที่โรงน้ำชา และมีสตรีนางหนึ่งลอบส่งสายตาให้เขา เดิมทีเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก แต่ไม่รู้ว่าจางเหมี่ยวลี่มาแอบตามเขามาตั้งแต่เมื่อใด เมื่อนางเห็นว่าสตรีผู้นั้นยั่วยวนเขา นางก็ตรงเข้ามาตบตีสตรีผู้นั้นอีกทั้งยังพังโรงน้ำชาจนย่อยยับ และเอ่ยทิ้งท้ายว่า"บุรุษของข้าใครกล้าแตะตายสถานเ

    Last Updated : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 2-2 ร่างใหม่

    เจี่ยงหร่านที่ได้ยินดังนั้นก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพของหญิงสาวนางหนึ่งพลันปรากฏสู่สายตาของนางอย่างชัดเจนสตรีนางนี้มีใบหน้างดงามล่มเมือง งามเสียจนร่างเดิมนางเทียบไม่ติด ผิวพรรณขาวนวลเนียนราวหิมะ แต่งกายด้วยผ้าแพรพรรณเนื้อดี ดูสูงส่งเป็นอย่างมากแตกต่างจากนางโดยสิ้นเชิงนี่มันเรื่องอะไรกัน!เจี่ยงหร่านใจเต้นถี่ระรัว ภาพก่อนตายปรากฏขึ้นมารวมไปถึงภาพที่นางปลิดชีพตนเอง เรื่องราวทั้งหมดไหลวนกลับมา ก่อนที่นางจะเบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึงสวรรค์! ข้ามาเกิดใหม่ในร่างของบุตรสาวแม่ทัพใหญ่แคว้นฟงหลิงเช่นนั้นหรือ เดิมทีนางตายไปแล้ว นางจึงเข้ามาอยู่ในร่างของสตรีนางนี้เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็ทรุดกายลงบนเตียง ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ในใจมีทั้งความดีใจและเสียใจนางดีใจที่สวรรค์มีเมตตาให้นางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่สิ่งที่่เสียใจก็คือ นางกลับต้องมาอยู่ในร่างของสตรีอื่น ซ้ำยังเป็นสตรีในแคว้นศัตรู ต้องอยู่ภายใต้เงาของคนอื่นไปจนวันตายนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่นางอกตัญญูต่อบิดามารดาใช่หรือไม่แม่ทัพใหญ่จางและจางฮูหยินที่เห็นว่าอยู่ๆ บุตรสาวก็เงียบงันไปทั้งยังร้อง

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 2-2 ร่างใหม่

    เจี่ยงหร่านที่ได้ยินดังนั้นก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพของหญิงสาวนางหนึ่งพลันปรากฏสู่สายตาของนางอย่างชัดเจนสตรีนางนี้มีใบหน้างดงามล่มเมือง งามเสียจนร่างเดิมนางเทียบไม่ติด ผิวพรรณขาวนวลเนียนราวหิมะ แต่งกายด้วยผ้าแพรพรรณเนื้อดี ดูสูงส่งเป็นอย่างมากแตกต่างจากนางโดยสิ้นเชิงนี่มันเรื่องอะไรกัน!เจี่ยงหร่านใจเต้นถี่ระรัว ภาพก่อนตายปรากฏขึ้นมารวมไปถึงภาพที่นางปลิดชีพตนเอง เรื่องราวทั้งหมดไหลวนกลับมา ก่อนที่นางจะเบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึงสวรรค์! ข้ามาเกิดใหม่ในร่างของบุตรสาวแม่ทัพใหญ่แคว้นฟงหลิงเช่นนั้นหรือ เดิมทีนางตายไปแล้ว นางจึงเข้ามาอยู่ในร่างของสตรีนางนี้เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็ทรุดกายลงบนเตียง ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ในใจมีทั้งความดีใจและเสียใจนางดีใจที่สวรรค์มีเมตตาให้นางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่สิ่งที่่เสียใจก็คือ นางกลับต้องมาอยู่ในร่างของสตรีอื่น ซ้ำยังเป็นสตรีในแคว้นศัตรู ต้องอยู่ภายใต้เงาของคนอื่นไปจนวันตายนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่นางอกตัญญูต่อบิดามารดาใช่หรือไม่แม่ทัพใหญ่จางและจางฮูหยินที่เห็นว่าอยู่ๆ บุตรสาวก็เงียบงันไปทั้งยังร้อง

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 2-1 ร่างใหม่

    เซียวจิ้งที่ได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็พลันนิ่วหน้า เขามองจางเหมี่ยวลี่ที่ยามนี้มองมาที่ตนด้วยแววตามีทั้งความตกตะลึงและคาดไม่ถึง อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยความดีใจอีกหลายส่วนเขาไม่เคยชอบจางเหมี่ยวลี่ เพราะนางไม่ใช่คนนิสัยดีเท่าใดนักเขาจำได้ว่า ก่อนที่เขาจะเดินทางมาชายแดน เมื่อสองปีก่อน เสด็จลุงพระราชทานสมรสให้เขาและนาง หากชนะสงครามกลับเมืองหลวงเมื่อใด ก็ให้แต่งงานกันทันที ยามนั้นจางเหมี่ยวลี่พยายามจัดฉากเพื่อพบหน้าเขา นางนำขนมและอาหารที่ทำเองกับมือมาให้เขากิน มีครั้งหนึ่งเขาเห็นว่านางพนมมือขึ้นไหว้ไปที่อาหารและพึมพำบางอย่าง ก่อนจะเป่าลงไปในอาหารที่นำมาให้เขา เซียวจิ้งถอนหายใจออกมา และไม่แตะต้องของที่นางทำให้แม้แต่คำเดียวจางเหมี่ยวลี่หลงใหลวิชาบัดซบพวกนี้จนเสียสติไปแล้วหรืออย่างไรและมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง เขาไปดื่มชาที่โรงน้ำชา และมีสตรีนางหนึ่งลอบส่งสายตาให้เขา เดิมทีเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก แต่ไม่รู้ว่าจางเหมี่ยวลี่มาแอบตามเขามาตั้งแต่เมื่อใด เมื่อนางเห็นว่าสตรีผู้นั้นยั่วยวนเขา นางก็ตรงเข้ามาตบตีสตรีผู้นั้นอีกทั้งยังพังโรงน้ำชาจนย่อยยับ และเอ่ยทิ้งท้ายว่า"บุรุษของข้าใครกล้าแตะตายสถานเ

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 1-2 สิงศพคืนชีพ

    "ซื่อจื่อ ไม่ดื่มหน่อยหรือ"เสียงของแม่ทัพใหญ่จางทำให้เซียวจิ้งหลุดพ้นจากภวังค์ ก่อนจะหันมายิ้มน้อยๆ"ไม่ล่ะ ข้าต้องเฝ้าดูสถานการณ์ อีกอย่างข้าไม่ค่อยอยากดื่มเท่าไหร่"แม่ทัพใหญ่จางพยักหน้า พลางกล่าวขึ้นมา"ซื่อจื่อ หากท่านกลับไปเมืองหลวงครั้งนี้ คงต้องแต่งงานกับเหมี่ยวเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าท่านไม่เต็มใจ แต่สมรสพระราชทานย่อมมิอาจยกเลิกได้ หากท่านไม่รักนาง ก็ช่วยดีต่อนางได้หรือไม่ ข้ามีบุตรสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น"เซียวจิ้งมองแม่ทัพใหญ่จางก่อนจะนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง และตอบรับคำ"ข้ารับปาก ข้าจะพยายาม"แม่ทัพใหญ่จางที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย"เวลานี้เฉวียนเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บเพิ่งจะฟื้นตัว กลับไปเมืองหลวงข้าจะหาหมอเก่งๆ มารักษาเขา""ข้าจะให้เสด็จลุงส่งหมอหลวงไปรักษาเขา อย่างไรเขาก็เป็นสหายของข้า""ขอบคุณซื่อจื่อยิ่งนัก"เซียวจิ้งพยักหน้าและขอตัวจากมา จางเฉวียนเป็นบุตรชายคนโตของแม่ทัพใหญ่จาง อีกทั้งยังเป็นสหายร่วมเรียนกับเขาตั้งแต่วัยเยาว์จึงสนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่งชะตาสวรรค์กำหนดมาเช่นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่อยากฝืนลิขิตสวรรค์เขาและสหายแดนไกลผู้นั้นคงมีวาสนาเพียงได้พบแต่ไม่ได้ครองคู่กันสวรรค์ช่า

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 1-1สิงศพคืนชีพ

    ยามนี้สงครามระหว่างแคว้นฟงหลิงและแคว้นต้าฉีมาถึงบทสรุปแล้ว ท้ายที่สุดฮ่องเต้แคว้นต้าฉีเจรจาของสงบศึกชั่วคราว เนื่องจากสูญเสียกำลังทหารไปร่วมหลายหมื่นนายแล้ว หากว่ายังคงดึงดันที่จะต่อสู้อีก ย่อมไม่ส่งผลดีต่อแคว้นต้าฉีเป็นแน่ผู้นำศึกในครั้งนี้คือแม่ทัพใหญ่จางและรองแม่ทัพเซียวจิ้ง หลานชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีฝีมือเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง"ซื่อจื่อ ยามนี้แคว้นต้าฉียอมสงบศึกแล้ว ข้าจะส่งคนไปรายงานเรื่องนี้กับฝ่าบาทโดยด่วน"“เป็นเพราะครั้งนี้ มีท่านแม่ทัพใหญ่ร่วมออกศึก เราจึงสามารถมีชัยอีกครั้ง" เซียวซื่อจื่อตอบรับคำอย่างอารมณ์ดีแม่ทัพใหญ่จางที่ได้ยินเช่นนั้นก็แย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมา"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านเองมีฝีมือยอดเยี่ยม แคว้นฟงหลิงมีท่านอยู่ วันใดข้าตายไปย่อมหมดห่วงแล้ว""อย่าได้เอ่ยวาจาเช่นนี้ ท่านแม่ทัพจะต้องมีอายุยืนยาว"สองคนพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะอนุญาตให้เหล่าทหารดื่มสุราเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะในครั้งนี้ แม้จะยังไม่สามารถยึดแคว้นต้าฉีมาได้ แต่ฮ่องเต้แค้นต้าฉีย่อมไม่อาจจะก่อคลื่นลมได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้เป็นแน่เซียวจิ้งมองดูเหล่าทหารที่ร่วม

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทนำ 1-2

    วังหลวงแห่งแคว้นซ่ง"นางตายหรือยัง?""ยังพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"เสียงพูดคุยสนทนาที่อยู่ด้านนอกไม่ไกลนัก ทำให้หญิงสาวที่ถูกขังอยู่ในคุกหลวงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย หญิงสาวค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงกำแพง ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อนางเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบคนผู้หนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าคุกคุมขังและมองนางด้วยแววตาเรียบเฉย"ฉู่อี้เฉิน เหตุใดท่านจึงทำกับข้าเช่นนี้""เพราะเจ้าหมดประโยชน์แล้วอย่างไรเล่า"ฉู่อี้เฉินตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา เดิมทีเขาและนางเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกันหญิงสาวที่ถูกคุมขัง มีนามว่าเจี่ยงหร่าน เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพใหญ่แคว้นซ่ง มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊เพราะแคว้นซ่งเปิดกว้างเรื่องสตรีอยู่ไม่น้อย เจี่ยงหร่านจึงได้เข้าค่ายทหารตามบิดา ไม่นานก็รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพแห่งกองทัพหวังหย่ง เป็นสตรีคนแรกที่มีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพการที่เขาเข้าหานาง เดิมทีก็เพื่อผลประโยชน์ ก่อนหน้านี้คนตระกูลเจี่ยงไม่เห็นด้วยที่เจี่ยงหร่านใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา เนื่องจากคนในตระกูลเจี่ยงขึ้นตรงต่อฮ่องเต้แคว้นซ่งบิดาของเขา ไม่ขึ้นตรงต่อองค์

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทนำ 1-1

    แคว้นฟงหลิงยามราตรีเสียงลมกระโชกที่โหมกระหน่ำรุนแรง ต้นไม้ทุกต้นโยกไหวไปตามแรงลม คล้ายกับมีมือหลายมือเสมือนเงามืดที่จับต้นไม้เหล่านั้นให้เอนไหวไปตามทิศทางลม จันทราสาดแสงส่องลงมาทำให้เห็นทุกสรรพสิ่งได้อย่างเลือนราง ยามนี้ภายในจวนตระกูลจาง ทุกคนต่างเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์กันหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงเรือนเหลียนฮวา ที่ตอนนี้ยังคงมีแสงเทียนวับแวมให้พอมองเห็นได้อยู่บ้าง ภายในห้องมีหญิงสาววัยสิบเจ็ดปีกำลังนั่งพนมมืออยู่ในอ่างน้ำ ที่มีกลิ่นสมุนไพรเข้มข้น พลางขยับริมฝีปากแดงฉ่ำท่องสวดคาถาบางอย่างไม่ยอมลดละ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกลงจนหนาวสะท้าน ก่อนที่นางจะขยับริมฝีปากบางเอ่ยวาจาออกมา"ขอให้ข้างามที่สุด งามเป็นหนึ่งในแคว้นฟงหลิง สตรีใดก็มิอาจเทียบเคียงข้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม"กล่าวจบนางก็คลี่รอยยิ้ม ใบหน้างดงามล่มเมือง ทว่ากลับแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชาอำมหิต"คุณหนูเจ้าคะ ยามนี้ดึกมากแล้ว รีบเข้านอนเถิดเจ้าค่ะ"เสียงสาวใช้นางหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยท่าทีหวาดหวั่น หญิงสาวพลันปรายตามามองสาวใช้อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะตวาดเสียงดัง"พูดมาก นังคนชั้นต่ำ!"สิ้นเสียงหญิงสาวก็ลุก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status