แชร์

บทที่ 967

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-31 18:00:00
แล้วจู่ๆ ร่างของผู้อาวุโสที่ขวางเขาก็ลุกไหม้ขึ้นมาทันที เขาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ไม่คิดว่าเจ้าอารามจะลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ พวกจึงโกรธจัด

เดิมทีพวกเขาจับเจ้าอารามมาถวายเฟิ่งชูอิ่งเพียงเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ได้ต้องการชีวิตเจ้าอาราม

ตอนนี้เจ้าอารามลงมือฆ่าคนก่อน พวกเขาจึงไม่เกรงใจอีกต่อไป

การลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ทำให้สถานการณ์ดูเลวร้ายมาก

พวกเขาล้วนเป็นศิษย์พี่น้องร่วมอาราม รู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อลงมือต่อสู้กันเองย่อมไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ

เจ้าอารามมีวิชาตัวเบาและวิชาอาคมสูงส่งกว่าเล็กน้อย แต่สู้จำนวนของผู้อาวุโสไม่ได้

หลังจากที่เจ้าอารามลงมืออย่างเด็ดขาด พวกเขาก็ไม่สนใจความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องอีกต่อไป ลงมือกันอย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม

สักพักหนึ่ง นอกจากดาบและกระบี่แล้ว ยังมียันต์สาปหลากชนิดลอยเต็มท้องฟ้า

เจ้าอารามมียันต์ของขลังมากที่สุด เขาใช้ยันต์เหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง จนสามารถฆ่าเปิดทางออกมาจากวงล้อมได้

เพียงแต่เขาใช้พลังทั้งหมดวิ่งออกมาจากทางลับ ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็เห็นแสงเย็นวาบผ่านหน้าไป

เจ้าอารามรู้สึกว่าสายตาของเขาบิดเบี้ยวเอียงไปในม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Kojima Rajpin
ขอโทษที่เรียบเรียงภาษาไทยไม่ถูกต้อง
goodnovel comment avatar
Kojima Rajpin
ทำไม?อ่านเรื่องแนะนำแล้วยุ่งทำอย่างอื่นอยู่ยังไม่ทันจำชื่อเรื่องได้ หน้าจอพักไปเองกลับมาอ่านไม่ได้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 968

    เขารู้ว่ามีค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาอยู่ เหมยตงยวนจึงเข้ามาไม่ได้เพราะศพของเจ้าอารามนอนอยู่นอกอาณาเขต และเหมยตงยวนก็ไม่ได้ตามเข้ามาตอนที่ผู้อาวุโสถอยกลับเข้าไปในถ้ำ เขาต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จุดยืนของพวกเขานับว่ายากลำบากอย่างแท้จริงข้างหน้ามีเหมยตงยวนเฝ้าอยู่ ไม่มีใครออกไปได้ข้างหลังมีเฟิ่งชูอิ่งพาคนบุกเข้ามา หันหลังกลับไปก็มีแต่ตายในช่วงเวลานี้ เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดมีศิษย์คนหนึ่งวิ่งตามมาและเห็นผู้อาวุโสยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้นก็รู้สึกแปลกๆ จึงมองออกไปข้างนอกโดยไม่รู้ตัวเหมยตงยวนนั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ คนทั่วไปมองไม่เห็นเขา แต่เหล่านักพรตของอารามเทียนอี้มองเห็นเขาได้เขาเป็นวิญญาณร้าย แต่กลิ่นอายสังหารกลับไม่รุนแรงนักทว่าเขาเพียงแค่นั่งเฉยๆ อยู่ตรงนั้น กลับสามารถสร้างแรงกดข่มมหาศาลได้ถึงแม้ศิษย์ผู้นั้นจะไม่รู้จักเหมยตงยวน แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียวเขาถามผู้อาวุโสว่า "คนข้างนอกเป็นใครหรือขอรับ?"สีหน้าของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย กล่าวออกมาสามคำอย่างช้าๆ ว่า "เหมยตงยวน"ช่วงนี้ชื่อของเหมยตงยวนเป็นที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 969

    เสียงของเขาแม้ไม่ดังนัก แต่กลับกึกก้องอยู่ในใจของทุกคนเหมือนกับเสียงกลองไม่มีใครกล้าอยู่ตรงนั้นต่อ ทุกคนพากันเดินทางถอยกลับไปเหมยตงยวนเห็นท่าทางของพวกเขาก็หัวเราะเยาะในใจ คนพวกนี้ยังน่าขยะแขยงเหมือนเดิมภายในอุโมงค์ลับ จิ้งจอกสือซานเหนียงได้ยินเสียงเอะอะมาจากข้างนอก นางจึงขมวดคิ้วเล็กน้อยอุโมงค์ที่นางพาจิ่งสือเยี่ยนมาซ่อนเอาไว้ เป็นทางแยกของอุโมงค์ลับสายนี้เดิมทีมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่แล้ว นางจัดการทำความสะอาดเล็กน้อยก็กลายเป็นถ้ำของนางเพื่อป้องกันผู้บุกรุก นางยังตั้งคาถาและค่ายกลปิดบังไว้ที่ทางเข้าของอุโมงค์แห่งนี้อีกด้วยก่อนหน้านี้แทบจะไม่มีใครผ่านเข้ามาในอุโมงค์ลับแห่งนี้ แต่วันนี้กลับคึกคักราวกับตลาดสดตอนแรกจิ้งจอกสือซานเหนียงแค่สงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พอนางตั้งใจฟังแล้วได้ยินชื่อเหมยตงยวน สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีนางหยิบมีดคู่รูปทรงใบหลิวออกมาจากมิติของนางด้วยความโกรธแค้น คิดอยากจะไปฆ่าเหมยตงยวนแต่นางเพิ่งจะโคจรพลังได้เพียงเล็กน้อย หน้าอกก็เจ็บแปลบขึ้นมา เพราะบาดแผลของนางยังไม่หายดีจิ่งสือเยี่ยนถามว่า “ข้างนอกเอะอะโวยวายอะไรกัน?”เขาแอบยินดีอยู่ในใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 970

    จิ่งสือเยี่ยนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขาแค่อยากหนีให้พ้นจากตรงนี้แต่เขาคิดจะหนีจากจิ้งจอกสือซานเหนียงที่ไม่รู้ว่าบำเพ็ญเพียรมานานกี่ปี แถมยังผ่านร้อนผ่านหนาวในโลกมนุษย์มาอย่างโชกโชน เห็นทีคงจะเป็นไปไม่ได้นางมองทะลุความคิดและแผนการเล็กๆ น้อยๆ ของเขาได้อย่างง่ายดายยิ่งไปกว่านั้น จิ่งสือเยี่ยนที่ไม่มีอาวุธก็แทบจะสู้แรงของจิ้งจอกสือซานเหนียงไม่ได้เลยตอนนี้เป้าหมายของจิ้งจอกสือซานเหนียงนั้นชัดเจนมาก นั่นคือรักษาอาการบาดเจ็บให้หายโดยเร็ว ฟื้นฟูพลังและไปเอาคืนเหมยตงยวน!ดังนั้นตราบใดที่จิ่งสือเยี่ยนฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย นางก็จะดูดพลังของเขาจนหมดสิ้นอีกครั้งตอนแรกนางค่อนข้างสนใจความเป็นความตายของเขา แต่หลังจากนั้นนางก็ไม่สนใจเลยหลังจากดูดพลังมังกรของเขาจนหมด เขาก็กลายเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไร้ค่าคนหนึ่งและเพราะผู้ชายธรรมดาแบบนี้นางหาได้ง่ายๆ เพียงแค่เดินออกไปก็เจอแล้วเมื่อจิ้งจอกสือซานเหนียงไม่สนใจความเป็นความตายของจิ่งสือเยี่ยน จิ่งสือเยี่ยนก็ได้ลิ้มรสความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานอย่างแท้จริงเขารู้สึกถึงกลิ่นอายของความตายอย่างชัดเจนในขณะที่จิ่งสือเยี่ยนกำลังสิ้นหวัง เฟิ่งชูอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 971

    “วันนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์ของข้า ใครก็ห้ามลุกขึ้นทั้งนั้น!”พวกนักพรตไม่สนใจเขาเลย พวกเขาต่างเป็นศัตรูกันมาหลายปี ใครบ้างจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนแบบไหน?ผู้อาวุโสที่เป็นหัวหน้าคุกเข่าคำนับเฟิ่งชูอิ่งอย่างนอบน้อม จากนั้นกล่าวว่า “พระชายาทรงเชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับอย่างมาก พวกข้าล้วนนับถือยิ่งนัก”“ก่อนหน้านี้อารามเทียนอี้ถูกคนชั่วหลอกใช้ ทำเรื่องผิดพลาดไปมากมาย”“ตอนนี้พวกข้าสำนึกผิดแล้ว ตัดสินใจกลับตัวกลับใจ ทำความดี แก้ไขความผิดในอดีต ยินดีให้พระชายาสั่งการ”เฟิ่งชูอิ่งมองพวกเขาอย่างสงสัย รู้สึกว่าครั้งนี้พวกเขายอมคุกเข่าง่ายเกินไป น่าจะมีเลศนัยแอบแฝงนางกล่าวว่า “ฟังจากน้ำเสียงของพวกเจ้า ดูเหมือนจะรู้ว่าตัวเองทำผิด อยากกลับตัวกลับใจ”“แต่พวกเจ้าทำเรื่องเลวร้ายมามาก ข้าไม่ไว้ใจพวกเจ้า พวกเจ้าต้องแสดงความจริงใจออกมาก่อน”เหล่าผู้อาวุโสแลกเปลี่ยนสายตากันเล็กน้อย จากนั้นผู้อาวุโสคนเดิมก็ถามว่า “ไม่ทราบว่าพระชายาต้องการให้พวกข้าแสดงความจริงใจอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มเล็กน้อย “เอาอย่างนี้ พวกเจ้าต่อแถวกัน จากนั้นก็กระโดดกบไปตามโถงระเบียงสามรอบ”เหล่าผู้อาวุโส “......”เหล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 972

    เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะออกมา “ในเมื่อพวกเจ้ามีความสุขกันขนาดนี้ งั้นก็หัวเราะให้ข้าฟังหน่อยสิ!”นักพรตทั้งหลาย “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”รอยยิ้มของพวกเขาช่างดูเสแสร้งสิ้นดี ทำเอานางรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาเลยแต่ในเมื่อพวกเขาเป็นแบบนี้ นางก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาทิ้งได้นางจึงบอกว่า “ตอนนี้ข้ายังมองไม่เห็นความจริงใจของพวกเจ้า งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า พวกเจ้าเอาวัตถุล้ำค่าของอารามออกมา”“ใครเอาของที่มีค่ามากสุดออกมาได้ คนนั้นก็ถือว่าได้สร้างคุณูปการ ข้าจะมอบอารามแห่งนี้ให้เขาดูแล”เจ้าอาวาสพูดขึ้นข้างๆ ว่า “ใครกระโดดกบเสร็จก่อน คนนั้นจะได้สิทธิ์ถวายของมีค่าก่อน พวกเจ้าจงตั้งใจกระโดดให้ดี”เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสก็ขยิบตาให้นางเขากระซิบเบาๆ ว่า “กับคนพวกนี้ต้องให้ทั้งผลประโยชน์และกดดันไปพร้อมๆ กัน”“ถ้าพวกเขากระโดดไม่เร็วพอ ของที่ติดตัวก็จะร่วงช้า”“ไม่เชื่อก็ดูสิ!”เฟิ่งชูอิ่งหันไปมอง ก็เห็นเหล่าผู้อาวุโสที่กระโดดกบแบบขอไปที รีบกระโดดให้เสร็จอย่างรวดเร็ว แล้วไปหยิบของมีค่ามาสำหรับผู้อาวุโสเหล่านี้ แม้ว่าที่ผ่านมาพวกเขาจะถูกเจ้าอารามกดขี่ แต่ก็ยังอยากมีชีวิตท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 973

    ตอนที่พวกเขากระโดดแบบกบเมื่อครู่นี้ เฟิ่งชูอิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชิงหยวนกระโดดนำไปข้างหน้าหลายครั้ง แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมอารามเตะกลับมาข้างหลังนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นคนสุดท้ายที่กระโดดเสร็จชิงหยวนพูดอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า "นั่นเป็นเพราะข้าเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในอาราม"เฟิ่งชูอิ่งถามว่า "เป็นเพราะเจ้าอายุน้อยที่สุด แต่กลับคิดว่าตัวเองมีวิชาเก่งกล้าที่สุด ก็เลยเอาไปอวดเทียนซือสินะ?”ชิงหยวนตกใจเล็กน้อย "ท่านรู้ได้อย่างไร?"เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างใจเย็นว่า "ข้าคำนวณเอา"จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้คำนวณไม่ได้หรอก นางเดาเอาจากเนื้อเรื่องในนิยายต้นฉบับนักพรตที่ชื่อชิงหยวนคนนี้ เป็นคนที่จิตใจดีที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่รอบตัวจิ่งสือเยี่ยนถึงแม้เขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นราชครูจากจิ่งสือเยี่ยน เพราะช่วยชีวิตจิ่งสือเยี่ยนไว้ในหนังสือต้นฉบับแต่เขาก็ไม่ได้ยโสโอหังเพราะตำแหน่งที่สูงขึ้นในทางกลับกัน เขายังคงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยน และยังเคยห้ามปรามจิ่งสือเยี่ยนไม่ให้ฆ่าคนหลายครั้งแววตาที่ชิงหยวนมองนางนั้นมีความเคารพนับถือมากขึ้น การที่มองออกได้ขนาดนี้นับว่าเก่งก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 974

    เมื่อได้ยินเสียงนั้นเฟิ่งชูอิ่งก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ภายในอารามเทียนอี้มีแต่ผู้ชาย หากมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาได้ แสดงว่าต้องเป็นคนนอกอย่างแน่นอนนางและจิ่งโม่เยี่ยสบตากัน แล้วรีบสาวเท้าตรงไปยังที่มาของเสียงทันทีแต่พวกเขาเพิ่งจะวิ่งได้ไม่ไกล ก็เห็นศิษย์ของอารามเทียนอี้คนหนึ่งวิ่งสวนกลับมาทางพวกเขาทางเดินลับนั้นค่อนข้างแคบ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันเกือบจะชนกันอย่างจังจิ่งโม่เยี่ยคว้าไหล่ของศิษย์ผู้นั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วเหวี่ยงเขาล้มลงกับพื้นชิงหยวนเห็นใบหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน และพูดอย่างประหลาดใจว่า "ศิษย์พี่ชิงเหอ ท่านมาทำอะไรที่นี่ เกิดอะไรขึ้นหรือ"ชิงเหอลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล แล้วเอื้อมมือผลักชิงหยวนไปข้างหลัง ก่อนจะวิ่งต่อไปข้างหน้าอีกครั้งจิ่งโม่เยี่ยคว้าตัวชิงหยวนไว้ ส่วนเฟิ่งชูอิ่งก็ถีบชิงเหอล้มลงกับพื้น เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีเจตนาร้าย นางจึงลงมืออย่างเด็ดขาดหลังจากถูกถีบล้ม ชิงเหอยังคงพยายามจะวิ่งหนี เฟิ่งชูอิ่งคว้าผมของเขาไว้ แล้วกระแทกศีรษะของเขาเข้ากับผนังทางเดินลับ จนเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเสียงหญิงสาวที่แสนจะยั่วยวนดังขึ้นว่า "โอ้ ตรงนี้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 975

    ฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ร้ายกาจอะไรนัก แต่นางมียันต์มากมายยันต์พวกนี้คือสิ่งที่จิ้งจอกสือซานเหนียงแพ้ทางมากเสียด้วยเมื่อจิ้งจอกสือซานเหนียงสัมผัสตัวนาง ก็เจอยันต์แผ่นหนึ่งปรากฏออกมา ฉีดพ่นน้ำใส่ตาของจิ้งจอกสือซานเหนียงทันทีจิ้งจอกสือซานเหนียงรีบหลบอย่างทุลักทุเล พอแตะอีกทีก็เจอยันต์อสนี ฟาดใส่ร่างจนนางร้องเสียงหลงนางโกรธจัด “เจ้าเป็นใคร? ทำไมมียันต์เยอะขนาดนี้?”เฟิ่งชูอิ่งพูดเสียงต่ำ “ยันต์พวกนี้สร้างมาเพื่อจัดการเจ้าโดยเฉพาะ มีไว้สั่งสอนปีศาจอย่างเจ้า”“กว่าเจ้าจะบำเพ็ญเพียรสำเร็จได้นั้นยากลำบาก แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับพวกไสยเวทอย่างเทียนซือ แล้วยังดูดพลังจากผู้ชายอีก”“เจ้าจะเดินไปในทางที่ผิดแบบนี้หรือ? ถ้าท่านแม่ยังอยู่คงจะต้องโกรธเจ้ามากแน่ๆ!”จิ้งจอกสือซานเหนียงได้ยินก็ตกใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?”เฟิ่งชูอิ่งไม่พูดอะไร จับนางเหวี่ยงลงพื้นแล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้งจิ้งจอกสือซานเหนียง “……”นางสงสัยว่าเฟิ่งชูอิ่งจงใจพูดแบบนั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนาง แล้วค่อยซ้อมนางนางโกรธจัดอยากจะโต้ตอบกลับ แต่เฟิ่งชูอิ่งกลับจุดยันต์ไฟขึ้นมาเมื่อแสงไฟสว่างปรากฏขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 981

    เฟิ่งชูอิ่งดึงเขาไว้แล้วพูดว่า “อย่ากระโดดลงไป ในแม่น้ำใต้ดินนี้มีปลากินคน ถ้าเขากระโดดลงไปแบบนี้จะต้องถูกปลากินคนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยหันไปมองนาง คิดว่านางกำลังพูดไร้สาระ หรืออาจจะกำลังใช้เล่ห์กลทางจิตวิทยา หลอกให้จิ่งสือเยี่ยนเสียขวัญนางหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปที่ริมแม่น้ำ ดึงแผ่นไม้กั้นน้ำที่อยู่ริมฝั่งออกมาแผ่นหนึ่งเมื่อแผ่นไม้กั้นน้ำเปิดออก ก็มีปลาสีดำนับไม่ถ้วนพากันแหวกว่ายออกมาปลาเหล่านั้นมีลักษณะหัวโต ฟันแหลมคม ดูท่าทางดุร้ายมากจิ่งโม่เยี่ย “......”เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีปลากินคน?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ชิงหยวนบอกข้า”ชิงหยวนทำหน้ามึนงงแล้วพูดว่า “เอ๊ะ? ข้าบอกเจ้าหรือ? ข้าบอกเจ้าตอนไหนกัน?”“แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่รู้เลย!”เขาก้มลงมองแผนที่เส้นทางลับ แต่บนแผนที่ก็ไม่ได้บอกว่าที่นี่มีปลากินคนอยู่ด้วย!เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ข้าดูแผนที่ที่เจ้าวาดอย่างละเอียด แล้วก็ศึกษาภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้”“โดยพื้นฐานแล้ว ทางลับทั้งหมดและภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้อยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์บ่อน้ำ( )”“สัญลักษณ์บ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 980

    เดิมทีจิ่งโม่เยี่ยตั้งใจจะตามไปทางเรือ แต่เมื่อขึ้นไปบนเรือแล้วก็พบว่าก้นเรือรั่ว มีคนใช้กระบี่งัดก้นเรือจนเป็นรูขนาดใหญ่เขาไปดูอีกสองลำ ปรากฏว่าเป็นแบบเดียวกันหมดเฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว “จิ่งสือเยี่ยนทำอะไรก็รอบคอบเหมือนเดิมเลย”“เขาไม่เพียงแต่รอบคอบ แต่ยังเด็ดขาดมากด้วย”เรือพัง พวกเขาก็ไม่มีทางตามไปได้อีกในใจนางนึกชื่นชม สมกับเป็นพระเอกของนิยายต้นฉบับ มีโชคทางวาสนาหนุนหลัง สถานการณ์แบบนี้ยังหนีไปได้อีก สุดยอดจริงๆจิ่งโม่เยี่ยคำนวณระยะทางในใจ “เราขวางจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้แล้ว ครั้งนี้คงต้องสู้กันหนักแน่”เพียงแค่จิ่งสือเยี่ยนรวมพลกับกองกำลังของเขาได้ เขาก็จะมีทหารนับแสนในทันทีในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆเขานึกถึงคำทำนายที่เฟิ่งชูอิ่งเคยทำนายให้เขา เขาคิดว่านางทำนายได้แม่นยำมากจริงๆเฟิ่งชูอิ่งกัดริมฝีปากเบาๆ “สถานการณ์แบบนี้ เราทำได้แค่หาทางขวางเขาไว้ก่อน”“ถ้ามีโอกาสฆ่าเขาก่อนจะรวมพลกับกองกำลังได้ ก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาด”จิ่งโม่เยี่ยก็คิดเหมือนกับนางถึงแม้ว่าตอนนี้โอกาสที่จะตามเขาไปทันจะมีน้อย แต่พวกเขาก็ต้องลองดู จะไม่ยอมแพ้แบบนี้โดยเด็ดข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 979

    ชิงหยวนตอบว่า “ทางลับเส้นนี้เป็นความลับสุดยอดของอาราม ปกติจะไม่เปิดใช้งาน”“ข้าก็เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่”“ตามที่ข้าเห็นในแผนผัง น่าจะอยู่แถวนั้น”พูดจบ เขาก็ชี้ไปทางมุมหนึ่งอันที่จริงแล้วตอนอยู่ในทางลับ ทิศทางที่เขาชี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก เพราะมันมีทางหลักเพียงเส้นเดียวถ้ำของจิ้งจอกสือซานเหนียง เดิมทีถูกออกแบบโดยผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักลี้ลับ มีไว้สำหรับเก็บเสบียงอาหารเพียงแต่เนื่องจากเวลาผ่านไปนาน ทางเข้าเล็กๆ แห่งนั้นก็ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงทำกลไกบางอย่าง ดังนั้นคนของอารามเทียนอี้จึงไม่มีใครเดินผ่านไปทางนั้นเมื่อชิงหยวนพูดเรื่องนี้ออกมา ทุกคนก็รู้สึกว่าคนของสำนักลี้ลับช่างรักตัวกลัวตายจริงๆ สร้างทางลับยังต้องทำอะไรให้ซับซ้อนยุ่งยากขนาดนี้พวกเขาเดินไปตามทิศทางที่ชิงหยวนบอก แต่ก็ไม่พบทางลับตามที่เล่าลือกัน เฟิ่งชูอิ่งมองไปที่เขา “เจ้าจำผิดหรือเปล่า”ชิงหยวนดูไม่ค่อยแน่ใจ “ไม่น่าจะผิดนะ”พูดจบ เขาก็ดึงปิ่นไม้บนหัวออกมาแล้ววาดแผนที่ทางลับลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วาดทางแยกในตำแหน่งที่สอดคล้องกันเขายังไม่ได้วาดทางแยกเสร็จ ก็วาดสถานที่ที่ทาง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 978

    เฟิ่งชูอิ่งมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยหางตาแล้วตอบว่า “เรื่องของผู้ชายข้า เจ้าไม่ต้องมายุ่ง”“ถ้าเจ้ายังคิดจะยุ่งกับเขาอีก ข้าไม่รังเกียจที่จะส่งยันต์ปัญจอัสนีบาตให้เจ้าอีกสักแผ่น”จิ้งจอกสือซานเหนียง “......”ในขณะนี้ นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างเฟิ่งชูอิ่งกับเฟิ่งชิงหลิงผู้เป็นมารดาของนางตอนที่เฟิ่งชิงหลิงอยู่กับเหมยตงยวน ทั้งสองต่างระแวงและไม่เชื่อใจกันทุกครั้งที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เฟิ่งชิงหลิงแทบจะไม่เชื่อใจเหมยตงยวนเลยซึ่งเหมยตงยวนก็ทำร้ายเฟิ่งชิงหลิงจนบาดแผลมันฝังลึกเกินจะแก้ทั้งสองต่างไม่เชื่อใจกันตั้งแต่แรกเพราะความไม่เชื่อใจ จึงทำให้เมื่อเจอเรื่องอะไรก็จะคอยรแวงกันและกันนางมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วพูดว่า “สำหรับเจ้าแล้ว จิ่งโม่เยี่ยดีขนาดนั้นเลยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี แต่เขาเป็นคนของข้า ข้าไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับเขา”นางกับจิ่งโม่เยี่ยผ่านเรื่องราวมามากมาย จึงมีความเชื่อใจให้กันอย่างลึกซึ้งจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่ข้างหลังนาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเขาชอบเวลาที่นางปกป้องเขาจิ้งจอกสือซานเหนียงแค่นเสี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 977

    “คุณหนูเดิมทีเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นซีฉู่ ควรได้รับความเคารพนับถือและมีชีวิตที่มีความสุขไปตลอดชีวิต”“เพราะได้พบกับเขา นางถึงต้องเจอกับความเจ็บปวดมากมายขนาดนี้ แถมยังต้องเสียชีวิตอีก!”“เหมยตงยวนไอ้สารเลวนั่น ถึงจะเป็นพ่อแท้ๆ ของเจ้า แต่มันก็ไม่คู่ควรจะเป็นพ่อของเจ้าสักนิด!”พอได้ยินแบบนี้ เฟิ่งชูอิ่งก็รู้ทันทีว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเกลียดเหมยตงยวนเข้ากระดูกดำนางพูดเบาๆ ว่า “ระหว่างพ่อกับแม่ของข้ามีความเข้าใจผิดกันหลายอย่าง…”“ไม่ใช่ความเข้าใจผิด!” จิ้งจอกสือซานเหนียงขัดจังหวะนางแล้วพูดว่า “เหมยตงยวนคงบอกเจ้าว่าเรื่องระหว่างเขากับคุณหนูเป็นเรื่องเข้าใจผิดสินะ?”เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ทันได้ตอบ จิ้งจอกสือซานเหนียงก็ด่าต่อว่า “คนแบบมันนี่หน้าด้านที่สุดเลย!”“คุณหนูทุ่มเททุกอย่างให้กับมัน แต่มันกลับเอาแต่หลอกใช้คุณหนู”“มันปล่อยให้เจ้าอารามคนเก่าและเหล่าผู้อาวุโสของสำนักลี้ลับรังแกคุณหนู แล้วยังแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอีก”“คุณหนูต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากมากมายเพราะมัน แต่มันก็ยังกล้าทำร้ายคุณหนูอีก!”“ถ้าเรื่องพวกนี้เรียกว่าเรื่องเข้าใจผิด งั้นมันก็เป็นไอ้สารเลวแล้ว!

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 976

    เฟิ่งชูอิ่งมองนางแล้วพูดว่า “ในใจเจ้ามีคำตอบอยู่แล้ว จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ”จิ้งจอกสือซานเหนียงถอนหายใจยาวแล้วเอ่ยว่า “เจ้าพูดถูก เจ้ากับคุณหนูหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้ เจ้าต้องเป็นลูกของคุณหนูอยู่แล้วล่ะ”“ถ้าคุณหนูรู้ว่าเจ้าไม่เพียงแต่รอดชีวิตมาได้ แถมยังมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ นางต้องดีใจมากแน่ๆ”อารมณ์ของนางค่อยๆ สงบลง สมองก็เริ่มกลับมาประมวลผลได้นางมองจิ่งโม่เยี่ยแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าเขาเป็นสามีของเจ้า งั้นเจ้าก็คือเฟิ่งชูอิ่งงั้นหรือ”เฟิ่งชูอิ่งมองนางด้วยความไม่เข้าใจแล้วพูดว่า “ตอนที่เจ้าอยู่ข้างกายท่านแม่ข้า ข้าก็เกิดออกมาแล้ว เจ้าไม่รู้จักชื่อข้าหรือ?”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ตอนคุณหนูคลอดเจ้า นางคลอดยากมาก นางใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อคลอดเจ้าออกมา”“คุณหนูบอกว่าตอนเจ้าเกิดมา ทั้งแม่และลูกต่างก็เดินอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย นางไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้า ขอแค่เจ้าปลอดภัยและมีสุขภาพแข็งแรงก็พอ”“ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเล่นให้เจ้าว่าผิงอัน ปกติพวกเราจะเรียกเจ้าว่าอันอัน”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจ เพราะเรื่องนี้เหมยตงยวนไม่เคยรู้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 975

    ฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ร้ายกาจอะไรนัก แต่นางมียันต์มากมายยันต์พวกนี้คือสิ่งที่จิ้งจอกสือซานเหนียงแพ้ทางมากเสียด้วยเมื่อจิ้งจอกสือซานเหนียงสัมผัสตัวนาง ก็เจอยันต์แผ่นหนึ่งปรากฏออกมา ฉีดพ่นน้ำใส่ตาของจิ้งจอกสือซานเหนียงทันทีจิ้งจอกสือซานเหนียงรีบหลบอย่างทุลักทุเล พอแตะอีกทีก็เจอยันต์อสนี ฟาดใส่ร่างจนนางร้องเสียงหลงนางโกรธจัด “เจ้าเป็นใคร? ทำไมมียันต์เยอะขนาดนี้?”เฟิ่งชูอิ่งพูดเสียงต่ำ “ยันต์พวกนี้สร้างมาเพื่อจัดการเจ้าโดยเฉพาะ มีไว้สั่งสอนปีศาจอย่างเจ้า”“กว่าเจ้าจะบำเพ็ญเพียรสำเร็จได้นั้นยากลำบาก แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับพวกไสยเวทอย่างเทียนซือ แล้วยังดูดพลังจากผู้ชายอีก”“เจ้าจะเดินไปในทางที่ผิดแบบนี้หรือ? ถ้าท่านแม่ยังอยู่คงจะต้องโกรธเจ้ามากแน่ๆ!”จิ้งจอกสือซานเหนียงได้ยินก็ตกใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?”เฟิ่งชูอิ่งไม่พูดอะไร จับนางเหวี่ยงลงพื้นแล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้งจิ้งจอกสือซานเหนียง “……”นางสงสัยว่าเฟิ่งชูอิ่งจงใจพูดแบบนั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนาง แล้วค่อยซ้อมนางนางโกรธจัดอยากจะโต้ตอบกลับ แต่เฟิ่งชูอิ่งกลับจุดยันต์ไฟขึ้นมาเมื่อแสงไฟสว่างปรากฏขึ้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 974

    เมื่อได้ยินเสียงนั้นเฟิ่งชูอิ่งก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ภายในอารามเทียนอี้มีแต่ผู้ชาย หากมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาได้ แสดงว่าต้องเป็นคนนอกอย่างแน่นอนนางและจิ่งโม่เยี่ยสบตากัน แล้วรีบสาวเท้าตรงไปยังที่มาของเสียงทันทีแต่พวกเขาเพิ่งจะวิ่งได้ไม่ไกล ก็เห็นศิษย์ของอารามเทียนอี้คนหนึ่งวิ่งสวนกลับมาทางพวกเขาทางเดินลับนั้นค่อนข้างแคบ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันเกือบจะชนกันอย่างจังจิ่งโม่เยี่ยคว้าไหล่ของศิษย์ผู้นั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วเหวี่ยงเขาล้มลงกับพื้นชิงหยวนเห็นใบหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน และพูดอย่างประหลาดใจว่า "ศิษย์พี่ชิงเหอ ท่านมาทำอะไรที่นี่ เกิดอะไรขึ้นหรือ"ชิงเหอลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล แล้วเอื้อมมือผลักชิงหยวนไปข้างหลัง ก่อนจะวิ่งต่อไปข้างหน้าอีกครั้งจิ่งโม่เยี่ยคว้าตัวชิงหยวนไว้ ส่วนเฟิ่งชูอิ่งก็ถีบชิงเหอล้มลงกับพื้น เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีเจตนาร้าย นางจึงลงมืออย่างเด็ดขาดหลังจากถูกถีบล้ม ชิงเหอยังคงพยายามจะวิ่งหนี เฟิ่งชูอิ่งคว้าผมของเขาไว้ แล้วกระแทกศีรษะของเขาเข้ากับผนังทางเดินลับ จนเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเสียงหญิงสาวที่แสนจะยั่วยวนดังขึ้นว่า "โอ้ ตรงนี้ม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 973

    ตอนที่พวกเขากระโดดแบบกบเมื่อครู่นี้ เฟิ่งชูอิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชิงหยวนกระโดดนำไปข้างหน้าหลายครั้ง แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมอารามเตะกลับมาข้างหลังนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นคนสุดท้ายที่กระโดดเสร็จชิงหยวนพูดอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า "นั่นเป็นเพราะข้าเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในอาราม"เฟิ่งชูอิ่งถามว่า "เป็นเพราะเจ้าอายุน้อยที่สุด แต่กลับคิดว่าตัวเองมีวิชาเก่งกล้าที่สุด ก็เลยเอาไปอวดเทียนซือสินะ?”ชิงหยวนตกใจเล็กน้อย "ท่านรู้ได้อย่างไร?"เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างใจเย็นว่า "ข้าคำนวณเอา"จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้คำนวณไม่ได้หรอก นางเดาเอาจากเนื้อเรื่องในนิยายต้นฉบับนักพรตที่ชื่อชิงหยวนคนนี้ เป็นคนที่จิตใจดีที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่รอบตัวจิ่งสือเยี่ยนถึงแม้เขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นราชครูจากจิ่งสือเยี่ยน เพราะช่วยชีวิตจิ่งสือเยี่ยนไว้ในหนังสือต้นฉบับแต่เขาก็ไม่ได้ยโสโอหังเพราะตำแหน่งที่สูงขึ้นในทางกลับกัน เขายังคงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยน และยังเคยห้ามปรามจิ่งสือเยี่ยนไม่ให้ฆ่าคนหลายครั้งแววตาที่ชิงหยวนมองนางนั้นมีความเคารพนับถือมากขึ้น การที่มองออกได้ขนาดนี้นับว่าเก่งก

DMCA.com Protection Status