Share

บทที่ 973

Author: ดอกถังร่วงหล่น
ตอนที่พวกเขากระโดดแบบกบเมื่อครู่นี้ เฟิ่งชูอิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชิงหยวนกระโดดนำไปข้างหน้าหลายครั้ง แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมอารามเตะกลับมาข้างหลัง

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นคนสุดท้ายที่กระโดดเสร็จ

ชิงหยวนพูดอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า "นั่นเป็นเพราะข้าเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในอาราม"

เฟิ่งชูอิ่งถามว่า "เป็นเพราะเจ้าอายุน้อยที่สุด แต่กลับคิดว่าตัวเองมีวิชาเก่งกล้าที่สุด ก็เลยเอาไปอวดเทียนซือสินะ?”

ชิงหยวนตกใจเล็กน้อย "ท่านรู้ได้อย่างไร?"

เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างใจเย็นว่า "ข้าคำนวณเอา"

จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้คำนวณไม่ได้หรอก นางเดาเอาจากเนื้อเรื่องในนิยายต้นฉบับ

นักพรตที่ชื่อชิงหยวนคนนี้ เป็นคนที่จิตใจดีที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่รอบตัวจิ่งสือเยี่ยน

ถึงแม้เขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นราชครูจากจิ่งสือเยี่ยน เพราะช่วยชีวิตจิ่งสือเยี่ยนไว้ในหนังสือต้นฉบับ

แต่เขาก็ไม่ได้ยโสโอหังเพราะตำแหน่งที่สูงขึ้น

ในทางกลับกัน เขายังคงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยน และยังเคยห้ามปรามจิ่งสือเยี่ยนไม่ให้ฆ่าคนหลายครั้ง

แววตาที่ชิงหยวนมองนางนั้นมีความเคารพนับถือมากขึ้น การที่มองออกได้ขนาดนี้นับว่าเก่งก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 974

    เมื่อได้ยินเสียงนั้นเฟิ่งชูอิ่งก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ภายในอารามเทียนอี้มีแต่ผู้ชาย หากมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาได้ แสดงว่าต้องเป็นคนนอกอย่างแน่นอนนางและจิ่งโม่เยี่ยสบตากัน แล้วรีบสาวเท้าตรงไปยังที่มาของเสียงทันทีแต่พวกเขาเพิ่งจะวิ่งได้ไม่ไกล ก็เห็นศิษย์ของอารามเทียนอี้คนหนึ่งวิ่งสวนกลับมาทางพวกเขาทางเดินลับนั้นค่อนข้างแคบ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันเกือบจะชนกันอย่างจังจิ่งโม่เยี่ยคว้าไหล่ของศิษย์ผู้นั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วเหวี่ยงเขาล้มลงกับพื้นชิงหยวนเห็นใบหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน และพูดอย่างประหลาดใจว่า "ศิษย์พี่ชิงเหอ ท่านมาทำอะไรที่นี่ เกิดอะไรขึ้นหรือ"ชิงเหอลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล แล้วเอื้อมมือผลักชิงหยวนไปข้างหลัง ก่อนจะวิ่งต่อไปข้างหน้าอีกครั้งจิ่งโม่เยี่ยคว้าตัวชิงหยวนไว้ ส่วนเฟิ่งชูอิ่งก็ถีบชิงเหอล้มลงกับพื้น เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีเจตนาร้าย นางจึงลงมืออย่างเด็ดขาดหลังจากถูกถีบล้ม ชิงเหอยังคงพยายามจะวิ่งหนี เฟิ่งชูอิ่งคว้าผมของเขาไว้ แล้วกระแทกศีรษะของเขาเข้ากับผนังทางเดินลับ จนเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเสียงหญิงสาวที่แสนจะยั่วยวนดังขึ้นว่า "โอ้ ตรงนี้ม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 975

    ฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ร้ายกาจอะไรนัก แต่นางมียันต์มากมายยันต์พวกนี้คือสิ่งที่จิ้งจอกสือซานเหนียงแพ้ทางมากเสียด้วยเมื่อจิ้งจอกสือซานเหนียงสัมผัสตัวนาง ก็เจอยันต์แผ่นหนึ่งปรากฏออกมา ฉีดพ่นน้ำใส่ตาของจิ้งจอกสือซานเหนียงทันทีจิ้งจอกสือซานเหนียงรีบหลบอย่างทุลักทุเล พอแตะอีกทีก็เจอยันต์อสนี ฟาดใส่ร่างจนนางร้องเสียงหลงนางโกรธจัด “เจ้าเป็นใคร? ทำไมมียันต์เยอะขนาดนี้?”เฟิ่งชูอิ่งพูดเสียงต่ำ “ยันต์พวกนี้สร้างมาเพื่อจัดการเจ้าโดยเฉพาะ มีไว้สั่งสอนปีศาจอย่างเจ้า”“กว่าเจ้าจะบำเพ็ญเพียรสำเร็จได้นั้นยากลำบาก แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับพวกไสยเวทอย่างเทียนซือ แล้วยังดูดพลังจากผู้ชายอีก”“เจ้าจะเดินไปในทางที่ผิดแบบนี้หรือ? ถ้าท่านแม่ยังอยู่คงจะต้องโกรธเจ้ามากแน่ๆ!”จิ้งจอกสือซานเหนียงได้ยินก็ตกใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?”เฟิ่งชูอิ่งไม่พูดอะไร จับนางเหวี่ยงลงพื้นแล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้งจิ้งจอกสือซานเหนียง “……”นางสงสัยว่าเฟิ่งชูอิ่งจงใจพูดแบบนั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนาง แล้วค่อยซ้อมนางนางโกรธจัดอยากจะโต้ตอบกลับ แต่เฟิ่งชูอิ่งกลับจุดยันต์ไฟขึ้นมาเมื่อแสงไฟสว่างปรากฏขึ้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 976

    เฟิ่งชูอิ่งมองนางแล้วพูดว่า “ในใจเจ้ามีคำตอบอยู่แล้ว จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ”จิ้งจอกสือซานเหนียงถอนหายใจยาวแล้วเอ่ยว่า “เจ้าพูดถูก เจ้ากับคุณหนูหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้ เจ้าต้องเป็นลูกของคุณหนูอยู่แล้วล่ะ”“ถ้าคุณหนูรู้ว่าเจ้าไม่เพียงแต่รอดชีวิตมาได้ แถมยังมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ นางต้องดีใจมากแน่ๆ”อารมณ์ของนางค่อยๆ สงบลง สมองก็เริ่มกลับมาประมวลผลได้นางมองจิ่งโม่เยี่ยแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าเขาเป็นสามีของเจ้า งั้นเจ้าก็คือเฟิ่งชูอิ่งงั้นหรือ”เฟิ่งชูอิ่งมองนางด้วยความไม่เข้าใจแล้วพูดว่า “ตอนที่เจ้าอยู่ข้างกายท่านแม่ข้า ข้าก็เกิดออกมาแล้ว เจ้าไม่รู้จักชื่อข้าหรือ?”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ตอนคุณหนูคลอดเจ้า นางคลอดยากมาก นางใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อคลอดเจ้าออกมา”“คุณหนูบอกว่าตอนเจ้าเกิดมา ทั้งแม่และลูกต่างก็เดินอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย นางไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้า ขอแค่เจ้าปลอดภัยและมีสุขภาพแข็งแรงก็พอ”“ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเล่นให้เจ้าว่าผิงอัน ปกติพวกเราจะเรียกเจ้าว่าอันอัน”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจ เพราะเรื่องนี้เหมยตงยวนไม่เคยรู้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 977

    “คุณหนูเดิมทีเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นซีฉู่ ควรได้รับความเคารพนับถือและมีชีวิตที่มีความสุขไปตลอดชีวิต”“เพราะได้พบกับเขา นางถึงต้องเจอกับความเจ็บปวดมากมายขนาดนี้ แถมยังต้องเสียชีวิตอีก!”“เหมยตงยวนไอ้สารเลวนั่น ถึงจะเป็นพ่อแท้ๆ ของเจ้า แต่มันก็ไม่คู่ควรจะเป็นพ่อของเจ้าสักนิด!”พอได้ยินแบบนี้ เฟิ่งชูอิ่งก็รู้ทันทีว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเกลียดเหมยตงยวนเข้ากระดูกดำนางพูดเบาๆ ว่า “ระหว่างพ่อกับแม่ของข้ามีความเข้าใจผิดกันหลายอย่าง…”“ไม่ใช่ความเข้าใจผิด!” จิ้งจอกสือซานเหนียงขัดจังหวะนางแล้วพูดว่า “เหมยตงยวนคงบอกเจ้าว่าเรื่องระหว่างเขากับคุณหนูเป็นเรื่องเข้าใจผิดสินะ?”เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ทันได้ตอบ จิ้งจอกสือซานเหนียงก็ด่าต่อว่า “คนแบบมันนี่หน้าด้านที่สุดเลย!”“คุณหนูทุ่มเททุกอย่างให้กับมัน แต่มันกลับเอาแต่หลอกใช้คุณหนู”“มันปล่อยให้เจ้าอารามคนเก่าและเหล่าผู้อาวุโสของสำนักลี้ลับรังแกคุณหนู แล้วยังแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอีก”“คุณหนูต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากมากมายเพราะมัน แต่มันก็ยังกล้าทำร้ายคุณหนูอีก!”“ถ้าเรื่องพวกนี้เรียกว่าเรื่องเข้าใจผิด งั้นมันก็เป็นไอ้สารเลวแล้ว!

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 978

    เฟิ่งชูอิ่งมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยหางตาแล้วตอบว่า “เรื่องของผู้ชายข้า เจ้าไม่ต้องมายุ่ง”“ถ้าเจ้ายังคิดจะยุ่งกับเขาอีก ข้าไม่รังเกียจที่จะส่งยันต์ปัญจอัสนีบาตให้เจ้าอีกสักแผ่น”จิ้งจอกสือซานเหนียง “......”ในขณะนี้ นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างเฟิ่งชูอิ่งกับเฟิ่งชิงหลิงผู้เป็นมารดาของนางตอนที่เฟิ่งชิงหลิงอยู่กับเหมยตงยวน ทั้งสองต่างระแวงและไม่เชื่อใจกันทุกครั้งที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เฟิ่งชิงหลิงแทบจะไม่เชื่อใจเหมยตงยวนเลยซึ่งเหมยตงยวนก็ทำร้ายเฟิ่งชิงหลิงจนบาดแผลมันฝังลึกเกินจะแก้ทั้งสองต่างไม่เชื่อใจกันตั้งแต่แรกเพราะความไม่เชื่อใจ จึงทำให้เมื่อเจอเรื่องอะไรก็จะคอยรแวงกันและกันนางมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วพูดว่า “สำหรับเจ้าแล้ว จิ่งโม่เยี่ยดีขนาดนั้นเลยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี แต่เขาเป็นคนของข้า ข้าไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับเขา”นางกับจิ่งโม่เยี่ยผ่านเรื่องราวมามากมาย จึงมีความเชื่อใจให้กันอย่างลึกซึ้งจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่ข้างหลังนาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเขาชอบเวลาที่นางปกป้องเขาจิ้งจอกสือซานเหนียงแค่นเสี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 979

    ชิงหยวนตอบว่า “ทางลับเส้นนี้เป็นความลับสุดยอดของอาราม ปกติจะไม่เปิดใช้งาน”“ข้าก็เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่”“ตามที่ข้าเห็นในแผนผัง น่าจะอยู่แถวนั้น”พูดจบ เขาก็ชี้ไปทางมุมหนึ่งอันที่จริงแล้วตอนอยู่ในทางลับ ทิศทางที่เขาชี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก เพราะมันมีทางหลักเพียงเส้นเดียวถ้ำของจิ้งจอกสือซานเหนียง เดิมทีถูกออกแบบโดยผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักลี้ลับ มีไว้สำหรับเก็บเสบียงอาหารเพียงแต่เนื่องจากเวลาผ่านไปนาน ทางเข้าเล็กๆ แห่งนั้นก็ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงทำกลไกบางอย่าง ดังนั้นคนของอารามเทียนอี้จึงไม่มีใครเดินผ่านไปทางนั้นเมื่อชิงหยวนพูดเรื่องนี้ออกมา ทุกคนก็รู้สึกว่าคนของสำนักลี้ลับช่างรักตัวกลัวตายจริงๆ สร้างทางลับยังต้องทำอะไรให้ซับซ้อนยุ่งยากขนาดนี้พวกเขาเดินไปตามทิศทางที่ชิงหยวนบอก แต่ก็ไม่พบทางลับตามที่เล่าลือกัน เฟิ่งชูอิ่งมองไปที่เขา “เจ้าจำผิดหรือเปล่า”ชิงหยวนดูไม่ค่อยแน่ใจ “ไม่น่าจะผิดนะ”พูดจบ เขาก็ดึงปิ่นไม้บนหัวออกมาแล้ววาดแผนที่ทางลับลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วาดทางแยกในตำแหน่งที่สอดคล้องกันเขายังไม่ได้วาดทางแยกเสร็จ ก็วาดสถานที่ที่ทาง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 980

    เดิมทีจิ่งโม่เยี่ยตั้งใจจะตามไปทางเรือ แต่เมื่อขึ้นไปบนเรือแล้วก็พบว่าก้นเรือรั่ว มีคนใช้กระบี่งัดก้นเรือจนเป็นรูขนาดใหญ่เขาไปดูอีกสองลำ ปรากฏว่าเป็นแบบเดียวกันหมดเฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว “จิ่งสือเยี่ยนทำอะไรก็รอบคอบเหมือนเดิมเลย”“เขาไม่เพียงแต่รอบคอบ แต่ยังเด็ดขาดมากด้วย”เรือพัง พวกเขาก็ไม่มีทางตามไปได้อีกในใจนางนึกชื่นชม สมกับเป็นพระเอกของนิยายต้นฉบับ มีโชคทางวาสนาหนุนหลัง สถานการณ์แบบนี้ยังหนีไปได้อีก สุดยอดจริงๆจิ่งโม่เยี่ยคำนวณระยะทางในใจ “เราขวางจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้แล้ว ครั้งนี้คงต้องสู้กันหนักแน่”เพียงแค่จิ่งสือเยี่ยนรวมพลกับกองกำลังของเขาได้ เขาก็จะมีทหารนับแสนในทันทีในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆเขานึกถึงคำทำนายที่เฟิ่งชูอิ่งเคยทำนายให้เขา เขาคิดว่านางทำนายได้แม่นยำมากจริงๆเฟิ่งชูอิ่งกัดริมฝีปากเบาๆ “สถานการณ์แบบนี้ เราทำได้แค่หาทางขวางเขาไว้ก่อน”“ถ้ามีโอกาสฆ่าเขาก่อนจะรวมพลกับกองกำลังได้ ก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาด”จิ่งโม่เยี่ยก็คิดเหมือนกับนางถึงแม้ว่าตอนนี้โอกาสที่จะตามเขาไปทันจะมีน้อย แต่พวกเขาก็ต้องลองดู จะไม่ยอมแพ้แบบนี้โดยเด็ดข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 981

    เฟิ่งชูอิ่งดึงเขาไว้แล้วพูดว่า “อย่ากระโดดลงไป ในแม่น้ำใต้ดินนี้มีปลากินคน ถ้าเขากระโดดลงไปแบบนี้จะต้องถูกปลากินคนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยหันไปมองนาง คิดว่านางกำลังพูดไร้สาระ หรืออาจจะกำลังใช้เล่ห์กลทางจิตวิทยา หลอกให้จิ่งสือเยี่ยนเสียขวัญนางหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปที่ริมแม่น้ำ ดึงแผ่นไม้กั้นน้ำที่อยู่ริมฝั่งออกมาแผ่นหนึ่งเมื่อแผ่นไม้กั้นน้ำเปิดออก ก็มีปลาสีดำนับไม่ถ้วนพากันแหวกว่ายออกมาปลาเหล่านั้นมีลักษณะหัวโต ฟันแหลมคม ดูท่าทางดุร้ายมากจิ่งโม่เยี่ย “......”เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีปลากินคน?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ชิงหยวนบอกข้า”ชิงหยวนทำหน้ามึนงงแล้วพูดว่า “เอ๊ะ? ข้าบอกเจ้าหรือ? ข้าบอกเจ้าตอนไหนกัน?”“แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่รู้เลย!”เขาก้มลงมองแผนที่เส้นทางลับ แต่บนแผนที่ก็ไม่ได้บอกว่าที่นี่มีปลากินคนอยู่ด้วย!เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ข้าดูแผนที่ที่เจ้าวาดอย่างละเอียด แล้วก็ศึกษาภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้”“โดยพื้นฐานแล้ว ทางลับทั้งหมดและภูมิศาสตร์ของอารามเทียนอี้อยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์บ่อน้ำ( )”“สัญลักษณ์บ

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status