Share

บทที่ 393

Penulis: ดอกถังร่วงหล่น
“ตอนนี้กล่าวอะไรไปก็ดูไม่น่าเชื่อถือทั้งนั้น หลังจากนี้ข้าจะต้องหาโอกาสตอบแทนคืนแน่นอนเจ้าค่ะ”

เฟิ่งชูอิ่งเห็นว่าไอทมิฬตรงลัคนาของเจิ้งเนี่ยนซินสลายไปแล้ว นางไม่มีอันตรายเกี่ยวพันถึงชีวิตอีก

เฟิ่งชูอิ่งตรวจสอบโหงวเฮ้งของนางแล้วพบว่านางเป็นคนนิสัยแข็งกร้าว หยิ่งทรงนงในศักดิ์ศรีและเป็นคนที่เด็ดขาดอย่างยิ่ง

ดูจากสถานการณ์ยามนี้แล้ว ตอนแรกที่มีการยกเลิกงานหมั้นหมาย จะต้องมีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ

นางคลี่งยิ้มมุมปากบางๆ เอ่ยเสียงเรียบว่า “ข้าช่วยชีวิตเจ้าเพราะเห็นแก่ฉินจ๋างสื่อ หากเจ้าอยากจะขอบคุณข้า ก็ไปตอบแทนฉินจ๋างสื่อแทนเถอะ”

เจิ้งเนี่ยนซินหันมองฉินจื๋อเจี้ยนแวบหนึ่ง กล่าวเสียงแผ่วเบา “ขอบคุณแม่นางเฟิ่ง”

หลังจากนางได้ไปเยี่ยมเยียนประตูผีมาครั้งหนึ่ง จิตใจของนางก็แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ตอนนี้ร่างกายยังอ่อนแออยู่บ้าง จึงเดินทรงตัวได้ไม่ค่อยดีนัก

ระหว่างทางที่เดินกลับ นางบอกกับฉินจื๋อเจี้ยนว่า “ครั้งก่อนที่ยกเลิกการแต่งงาน ไม่ใช่ความตั้งใจของข้า แต่เป็นการตัดสินใจของท่านพ่อ

“พวกเขาคิดว่าอย่างไรท่านอ๋องฉู่ก็ไม่รอดแน่ แล้วเจ้าก็จะต้องถูกหางเลขไปด้วย อนาคตมืดมนอับ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 394

    ฉินจื๋อเจี้ยนกับเจิ้งเนี่ยนซินหันมามองเฟิ่งชูอิ่งอย่างพร้อมเพียงกัน เอ่ยถามว่า “วิธีอะไรหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “เรื่องนี้ง่ายมาก เจ้าแค่บอกว่าไม่ทันระวังก็เลยลื่นตกน้ำ และฉินจื๋อเจี้ยนเป็นคนช่วยเจ้าขึ้นมา“แต่ดูเหมือนบิดาของเจ้าจะหน้าด้านไร้ยางอายมากเกินไป แล้วยังใจไม้ไส้ระกำทำตัวไม่ดีกับเจ้าอีก ดังนั้นหากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าพวกเขาอย่างเดียว เกรงว่าเขาอาจจะไม่ยอมตกลงง่ายๆ“ดังนั้นพวกเจ้าต้องอาละวาดให้เรื่องมันใหญ่โต เจ้าถึงจะสมหวังดั่งต้องการได้ แต่ตอนนี้ประเด็นสำคัญคือทำอย่างไรถึงจะเป็นเรื่องถึงชั้นศาลได้”นางเป็นคนฉลาด หลังได้ยินสิ่งที่เจิ้งเนี่ยนซินเล่าเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทราบแล้วว่าชีวิตในแต่ละวันของนางในจวนสกุลเจิ้งมิค่อยดีนักพวกคนจวนสกุลเจิ้ง คิดจะจับทั้งสองคนแยกกันเพราะฉินจื๋อเจี้ยนดื้อดึงจะเป็นจ๋างสื่อของจวนอ๋องฉู่ให้ได้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่รักษาคำสัญญาอะไรขนาดนั้นเฟิ่งชูอิ่งสามารถเข้าใจนิสัยของมนุษย์ที่เข้าหาผลประโยชน์ หลีกเลี่ยงอันตรายได้ แต่การยกเลิกงานหมั้นหมายแล้วส่งตัวเจิ้งเนี่ยนซินไปแต่งงานที่แคว้นหนานเยว่แทน ทำให้นางรู้สึกแย่เอามากๆ เลยการแต่งงานเ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 395

    “พี่น้องทั้งหลายของเจ้า หลังจากนี้จะแต่งงานกับใครก็ยากลำบาก เรื่องนี้เจ้ายังอยากจะทำอยู่อีกไหม?”เจิ้งเนี่ยนซินได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย นางลองคิดถึงเหตุการณ์เหล่านั้นในจินตนาการ ก่อนจะตอบด้วยดวงตาสว่างวาบ “ข้าอยากทำ!”ก่อนหน้านี้เฟิ่งชูอิ่งตรวจดูโหงวเฮ้งของนาง จึงทราบว่านางเป็นคนที่แยกแยะบุญคุณความแค้นได้ชัดเจน และตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างเด็ดขาดสาเหตุที่เฟิ่งชูอิ่งถามคำถามเหล่านี้ ก็เพราะต้องการยืนยันให้มั่นใจ ซึ่งเจิ้งเนี่ยนซินก็ไม่ทำให้นางผิดหวังสักนิดนางจึงหัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ก็จัดการได้ง่ายนิดเดียว“เพียงแต่หากทำลงไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือทางให้ถอยกลับอีก ชื่อเสียงในเมืองหลวงของเจ้าก็จะต้องเสียหายไปด้วย”เจิ้งเนี่ยนซินตอบกลับด้วยดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อย “ตอนนี้ข้าแทบจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ยังจะห่วงชื่อเสียงจอมปลอมพวกนั้นอีกทำไม”เฟิ่งชูอิ่งหันไปยกนิ้วโป้งให้นาง “ข้าชอบนิสัยแบบนี้ของเจ้านะ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้างั้นก็บุกไปอาละวาดด้วยวิธีการที่รุนแรงกันเถอะ”นางกล่าวจบก็ยื่นตั๋วเงินฉบับหนึ่งให้องครักษ์ข้างกาย สั่งว่า “เจ้าไปซื้อโลงศพกลับมาโ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 396

    นางกล่าวถึงตรงนี้ก็ปล่อยโฮออกมา “ข้าเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านพ่อมาโดยตลอด ไม่กล้าขัดคำสั่งสัดครั้ง เพียงแต่ท่านแม่เล็กคิดว่าการที่ข้าแต่งงานไปแคว้นหนานเยว่มันยังไม่มากพอ ยังบีบท่านแม่ข้าจนตายเพื่อชิงตำแหน่งของนางอีก“ท่านแม่ของข้าลำบากมาทั้งชีวิต ข้าเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวที่นางมีอยู่ หากข้าต้องแต่งงานออกไปไกลถึงแคว้นอื่น เกรงว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้กลับมาที่จวนอีกแล้ว“ท่านพ่อรักใคร่โปรดปรานแม่เล็ก ท่านแม่ของข้ายังสุขภาพมิสู้ดีอีก ท่านกลัวว่าข้าจะกังวลจนแต่งงานออกไปด้วยความทุกข์ใจ จึงได้ปลิดชีพตนเองตายภายในห้อง“ข้าโศกเศร้าอย่างหนักจนเผลอลื่นตกลงไปในทะเลสาบ โชคดีที่นายท่านฉินผ่านมาและช่วยชีวิตข้าไว้พอดี”นางคุกเข่าอยู่หน้าประตูจวน คนเฝ้าประตูคิดจะลากตัวนางเข้าไปข้างใน แต่กลับถูกฉินจื๋อเจี้ยนที่ร่างกายเปียกโชกเหมือนกันขวางเอาไว้คนเฝ้าประตูพบว่าเหตุการณ์ผิดปกติ จึงเรียกทหารยามประจำนวนมาช่วยกันพาเจิ้งเนี่ยนซินเข้าไปด้านใน แต่ก็ถูกองครักษ์จวนอ๋องฉู่ที่ปลอมกายขัดขวางพวกเขาทำตามที่เฟิ่งชูอิ่งสั่ง ช่วยกันขัดขวางทหารยามเหล่านั้นพร้อมตะโกนว่า “นางเป็นเจ้านาย พวกเจ้าเป็นบ่าวรับใช้!

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 397

    เขาตะคอกใส่คนเฝ้าประตูที่เข้ามารายงาน “ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ลากตัวนางเข้ามาล่ะ?”คนเฝ้าประตูตอบว่า “ผู้น้อยก็อยากจะทำเช่นนั้น แต่ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่ไปหาผู้คุ้มกันวรยุทธ์แกร่งกล้ามาจากที่ไหน พวกเขาขัดขวางจนพวกเราลงมือไม่ได้เลยขอรับ”อนุเจียงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยว่า “คุณหนูใหญ่คิดจะทำตัวกำเริบเสินสานอีกแล้ว นายท่านลองออกไปดูสักหน่อยเถอะ!“หลังจากท่านออกไปแล้วก็พูดจากับนางดีๆ อย่างไรฮูหยินก็เพิ่งจะตายไป นางจะอารมณ์ไม่ดีบ้างก็มิแปลกหรอกเจ้าค่ะ”คำพูดของนางคล้ายกำลังพูดเพื่อช่วยเหลือเจิ้งเนี่ยนซิน แต่ความจริงแล้วเป็นการเติมเชื้อไฟนายท่านสกุลเจิ้งบันดาลโทสะหนักกว่าเดิม “นังลูกทรพีคนนี้ รอให้นางกลับเข้ามาในจวนก่อน เจ้าก็ช่วยสั่งสอนนางแทนข้าให้ดีๆ หน่อย นางถูกนังแพศยาคนนั้นเลี้ยงดูจนเสียคนหมดแล้ว”อนุเจียงกล่าวอย่างอ่อนโยน “นายท่านอย่าโกรธไปเลยเจ้าค่ะ รีบออกไปดูก่อนเถอะ!”กว่านางจะบีบคั้นจนฮูหยินเจิ้งตายได้มิใช่เรื่องง่าย หลังจากจัดการงานศพของฮูหยินเจิ้งเรียบร้อย นางก็จะได้กลายเป็นภรรยาเอกตัวจริงนางดีดลูกคิดรางแก้วเอาไว้ในใจอย่างดี ประกอบกับทักษะแก่งแย่งชิงดีในเรือนหลังอันยอดเยี่ยมของนาง หลั

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 398

    ความจริงแล้วนายท่านสกุลเจิ้งก็พูดลำบาก เพราะเรื่องนี้หากหลุดออกไปแล้วนอกจากจะอับอายขายหน้าแล้ว ยังชวนอกสั่นขวัญแขวนมากด้วยอีกอย่างคนที่ต้องอับอายยังเป็นตัวเขาเองอีกต่างหาก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเขาถึงได้หลุดปากพูดความในใจออกไป!ตอนที่เขาออกไปข้างนอก อย่างแรกสุดที่คิดจะทำคือต่อว่าเจิ้งเนี่ยนซิน ทว่าด้านนอกมีคนมุงดูอยู่เยอะเกินไป เขาจึงไม่กล้าทำอย่างเปิดเผยนักเพียงเอ่ยปากบอกให้นางกลับเข้าไปในจวนด้วยใบหน้ามืดครึ้ม ทว่านางไม่ยินยอม หญิงสาวหน้าตาแฉล้มแช่มช้อยที่อยู่ข้างๆ จึงช่วยเกลี้ยกล่อมสองสามประโยคจากนั้นเขาก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ระเบิดโทสะทั้งหมดออกไป ด่ากราดเจิ้งเนี่ยนซินจนแบบสาดเสียเทเสียหากเขาทำเพียงต่อว่าเจิ้งเนี่ยนซินอย่างเดียวก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่หญิงสาวที่อยู่ด้วยนางนั้นกลับถามเป็นเชิงชี้นำ แล้วเขาก็ดันพูดความในใจทั้งหมดออกไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวรวมถึงเรื่องที่เขาลุ่มหลงอนุภรรยาจนละเลยภรรยาเอก หมางเมินไม่ดูดำดูดีบุตรีภรรยาเอก เชื่อฟังคำยุแยงจากอนุเจียงจนทำลายการหมั้นหมายของนางกับฉินจื๋อเจี้ยน ส่งตัวนางไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ที่แคว้นหนานเยว่ รว

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 399

    อนุเจียงตอนแรกก็ตกใจกลัวจนแทบหัวใจวายตายอยู่แล้ว พอถูกลากขึ้นมาแขวนคอบนขื่อเพดานนางก็หวาดผวาจนขวัญหนีดีฝ่อหากมิใช่เพราะสาวใช้ที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงนางโวยวายจึงช่วยพานางลงมาทัน เกรงว่านางจะถูกแขวนคอตายอยู่บนขื่อเพดานเป็นแน่แท้หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา นางก็เข้าใจแจ่มแจ้งทันทีว่าทำไมนายท่านสกุลเจิ้งถึงคิดจะเอาสินเดิมของฮูหยินเจิ้งคืนให้เจิ้งเนี่ยนซินแต่อนุเจียงกลับยังรู้สึกมึนงงอยู่เล็กน้อยคนที่รู้สึกมึนงงไม่ได้มีแค่อนุเจียงคนเดียว แม้แต่เจิ้งเนี่ยนซินก็มึนงงเช่นกันเจิ้งเนี่ยนซินรู้จักนายท่านสกุลเจิ้งดี นางรู้ว่าบิดาของนางแม้จะกายเป็นมนุษย์สันดานเยี่ยงสุนัข[footnoteRef:1] แต่ความจริงแล้วเป็นสุภาพชนจอมปลอมอย่างแท้จริง [1: หมายถึงคนที่ไม่มีมารยาท แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม] อีกฝ่ายไม่มีทางยอมให้นางแต่งงานกับฉินจื๋อเจี้ยนง่ายๆ แล้วก็ไม่มีทางยอมตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับตนเองด้วย ยิ่งไม่มีทางยอมมอบสินเดิมให้นางเด็ดขาดทว่าเรื่องที่นางเคยคิดว่าเขาจะไม่มีวันทำโดยเด็ดขาด บัดนี้เขากลับยอมทำอย่างง่ายดาย!ที่สำคัญคือท่าทางของนายท่านสกุลเจิ้งวันนี้ดูผิดปกติอย่างมาก!คนที่สามารถทำใ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 400

    เฟิ่งชูอิ่ง “……”นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเรื่องนี้มันน่าภูมิอกภูมิใจตรงไหนกันเฮ้อ เจ้าบุรุษไม่รู้จักโต!สินเดิมของฮูหยินเจิ้งมีอยู่ไม่น้อยเลย โชคดีที่วันนี้ฉินจื๋อเจี้ยนจัดเตรียมองครักษ์ให้ติดตามเฟิ่งชูอิ่งไปอาละวาดที่จวนสกุลหลิน จึงมีกำลังคนมากเพียงพอ แล้วแต่ละคนยังมีแรงเยอะมากเสียด้วยภายใต้ความช่วยเหลือขององครักษ์ทั้งหลาย ฉินจื๋อเจี้ยนจึงสั่งให้คนขนย้ายสินเดิมของเจิ้งเนี่ยนซินไปไว้ที่จวนของเขาก่อนหลังจากเขาย้ายออกมาจากจวนสกุลฉิน จิ่งโม่เยี่ยก็ซื้อจวนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากจวนอ๋องฉู่ให้เขาใช้เป็นที่ลงหลักปักฐานทว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้แต่งงาน ก็เลยไม่ค่อยได้แวะไปที่จวนแห่งนั้น ส่วนใหญ่จะพักอยู่ในจวนอ๋องฉู่ตอนนี้เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ย่อมต้องจัดงานแต่งขึ้นที่บ้านของตัวเองโชคดีที่แม้เขาจะไม่ค่อยแวะไปพักที่นั่นบ่อยนัก แต่ก็สั่งให้ข้ารับใช้สองคนให้ช่วยดูแลทำความสะอาดแทน ยามนี้จวนแห่งนั้นจึงพาจะใช้จัดงานได้อยู่ขณะที่ฉินจื๋อเจี้ยนพาองครักษ์ไปจัดการเรื่องจวนที่พักเพื่อเตรียมจัดงานมงคลสมรส เจิ้งเนี่ยนซินก็คารวะเฟิ่งชูอิ่งแบบเต็มพิธี “เรื่องในวันนี้ต้องขอบพระคุณแม่นางเฟิ่งอย่า

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 401

    เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ชีวิตและความตายย่อมแตกต่าง คนกับผีเดินกันคนละเส้นทาง ข้าสามารถให้เจ้าพบฮูหยินเจิ้งได้เพียงครั้งเดียว”เจิ้งเนี่ยนซินพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ “แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว”เฟิ่งชูอิ่งเปิดเนตรทิพย์ให้เจิ้งเนี่ยนซิน พริบตาที่เนตรทิพย์ของนางเปิดออก นางก็มองเห็นว่าตอนนี้ฮูหยินเจิ้งกำลังยืนอยู่ข้างๆ กายนางนี่เองสองแม่ลูกพบหน้า พวกเขาต่างก็ตื้นตันใจอย่างยิ่งแม้พวกนางจะเพิ่งแยกจากกันไปไม่นานนัก แต่มันเป็นการแยกจากที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบได้อีกหลังจากเฟิ่งชูอิ่งเปิดเนตรทิพย์ให้เจิ้งเนี่ยนซินเรียบร้อยแล้วก็หลบออกมายืนห่างๆ ปล่อยให้สองแม่ลูกได้ใช้เวลาร่วมกันสาเหตุที่นางยอมเปิดเนตรทิพย์ให้เจิ้งเนี่ยนซิน เพราะว่าก่อนหน้านี้ฮูหยินเจิ้งอ้อนวอนขอนาง หวังว่าเฟิ่งชูอิ่งจะเปิดโอกาสให้พวกนางสองแม่ลูกพบหน้ากันเป็นครั้งสุดท้ายเฟิ่งชูอิ่งรู้สึกเห็นอกเห็นใจฮูหยินเจิ้ง วันนี้นางทำเรื่องเหนือกฎเกณฑ์ของตัวเองไปครั้งหนึ่งแล้ว ทำอีกสักครั้งจะเป็นไรไปนางเดินเข้าไปในลานกว้างแล้วหาหินก้อนหนึ่งเพื่อนั่งพัก ก่อนจะเห็นปู๋เยี่ยโหวเกาะขอบกำแพงและโบกมือให้นางอยู่เฟิ่งชูอิ่ง “……”หลังจากครั้งก่อน

Bab terbaru

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status