แชร์

บทที่ 173

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-23 19:07:06
นางรีบใช้คาถาสงบจิตแล้วประทับลงบนร่างกายของเขา “ท่านอ๋อง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ไม่อยากเพิ่มปัญหาให้ท่านก็เท่านั้นเอง”

จิ่งโม่เยี่ยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้าเป็นว่าที่พระชายาของข้า การส่งเจ้ากลับจวนจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้ข้าได้อย่างไร

“เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าแบบนี้ ข้ายิ่งอยากจะบังคับให้เจ้าอยู่กับข้า หลางซาน ไปจวนสกุลหลิน”

เฟิ่งชูอิ่ง “......”

ดูเขาพูดจาเข้าสิ เขาเคยไล่นางลงจากรถม้าถึงสองครั้งสองหนแล้ว ทำเพิ่มอีกสักครั้งจะเป็นไรไป

นางพยายามฉีกยิ้ม “ท่านอ๋องยอมไปส่งข้าที่จวนย่อมเป็นเรื่องที่ดีมากเลยเพคะ”

จิ่งโม่เยี่ยถามนาง “เจ้าคงคิดว่าข้าเป็นคนที่ไม่น่าคบหามากเลยสินะ?”

เฟิ่งชูอิ่งอยากบอกว่า “แค่นิสัยคล้ายคนผีเข้าผีออกของเจ้า ใครหน้าไหนมันจะไปอยากใกล้ชิดกันล่ะ? แล้วใครมันจะอยากชอบเจ้ากัน?”

เพียงแต่ตอนนี้นางไม่อยากทำให้เขาโมโห จึงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ทำไมท่านอ๋องถึงคิดกับตัวเองแบบนั้นล่ะเพคะ?

“ท่านอ๋องอาจจะไม่ใช่คนที่ใครเห็นใครก็รัก ดอกไม้เห็นยังผลิบาน แต่อย่างน้อยก็เป็นสามีในฝันของสตรีนับหมื่นพันคน!”

จิ่งโม่เยี่ยแค่นเสียงเย็นชา สบถใส่นางว่า “เจ้าเด็กเลี้ยงแกะ ทั้งที่ในใจเจ้ากำลังด่าข้าอยู่แท้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 174

    เขาโจมตีอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม เจตนาจะฆ่ากันอย่างชัดเจนถึงจะเป็นเฟิ่งชูอิ่งก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าบิดาแซ่เฉินจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่พูดไม่จาก็ลงมือทำร้ายกันเลยเพลิงโทสะของนางพรั่งพรูออกมาทันที มิน่าเล่าเฉินเยี่ยนเซิงลูกสุนัขคนนั้นถึงสารเลวนัก ที่แท้ก็เพราะมีพ่อแม่ชั่วช้าสามานย์อย่างนี้นี่เองนางสู้มือสังหารที่พระสนมสวี่ส่งมาไม่ไหว แต่กับพวกอันธพาลอย่างบิดาแซ่เฉินคนนี้นางยังพอจะรับมือไหวนางเบี่ยงตัวหลบไปข้างๆ และเตรียมตัวจะโต้ตอบกลับ ทว่าลูกธนูดอกหนึ่งกลับบินผ่านอากาศเข้ามา แทงร่างของบิดาแซ่เฉินจนกระเด็นไปปักติดกับกำแพงด้านหลังค้อนใหญ่ที่เขายกขึ้นมาในตอนแรกหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง “ปัง”กำแพงดังกล่าวไม่ใช่กำแพงของบ้านใครที่ไหน เป็นกำแพงที่ติดกับประตูใหญ่ของจวนเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เฟิ่งชูอิ่งก็ชะงักไปเล็กน้อย นางหันกลับไปและเห็นจิ่งโม่เยี่ยถือคันศรเล่มหนึ่งอยู่ในมือ และตัวเขายังยืนอยู่บนรถม้าวันนี้เขาสวมอาภรณ์สีขาว เขายังอยู่ในท่าง้างคันธนู แขนข้างหนึ่งยืดออกมา สายตาคมกริบดุจมีดลมพัดมาทำให้ผมสีดำขลับของเขาพลิ้วไหวตามลม ตัดกับอาภรณ์สีขาวดุจหิมะที่สวมอยู่บนร่าง จิตสังหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 175

    “ท่านอ๋องทรงพระทัยกว้าง มิสู้ให้อภัยนางสักครั้งล่ะเพคะ คิดเสียว่าทำบุญทำกุศลให้ตัวเอง”จิ่งโม่เยี่ยแทบไม่อยากชายตามองฮวาซื่อ เขาออกคำสั่งอย่างเฉยชา “องครักษ์ ตบปากนาง”สิ้นเสียงของเขา องครักษ์ตัวสูงใหญ่จำนวนหนึ่งก็ก้าวออกมาทันที พวกเขาเงื้อมือฟาดใบหน้าของฮวาซื่ออยู่หลายครั้งฮวาซื่อ “!!!!!!”นางไม่คิดเลยว่าจิ่งโม่เยี่ยจะสั่งตบคนโดยไม่พูดไม่จาสักคำเช่นนี้!มารดาแซ่เฉินเห็นฮวาซื่อเดินออกมา จึงคิดจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากนาง ทว่าบัดนี้แม้แต่ฮวาซื่อก็ยังถูกจิ่งโม่เยี่ยตบหน้า นางจึงกลัวจนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ฮวาซื่อกล่าวอย่างไม่พอใจ “ต่อให้ท่านจะมีฐานะสูงส่ง แต่ก็ไม่ควรทำร้ายคนตามอำเภอใจนะเพคะ!”“ที่แท้เจ้าก็ยังสำนึกได้ว่าฐานะของข้าสูงส่ง” จิ่งโม่เยี่ยเชิดหน้าแล้วเอ่ยว่า “แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงกล้าสั่งสอนข้าเยี่ยงนี้?“ทำบุญ? ว่าที่พระชายาของข้าเกือบจะถูกคนฆ่าตายกลางถนน เจ้ากลับบอกให้ปล่อยคนร้ายเพื่อทำบุญทำกุศล ตระกูลเจ้าได้บุญมาด้วยวิธีแบบนี้หรือ?”ฮวาซื่อ “......”ก่อนหน้านี้นางได้ยินมาว่าจิ่งโม่เยี่ยอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่อาจคบค้าสมาคมด้วยได้แต่นางคิดไม่ถึงว่าเขาจะคบค้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 176

    เฟิ่งชูอิ่งรีบหลบหลังจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋องช่วยด้วยเพคะ! ท่านป้านางจะตีข้าอีกแล้ว!“วันนี้หากข้ากลับเข้าจวนไป จะต้องไม่ได้กินอะไรอย่างแน่นอน แล้วยังต้องเอาเสื้อผ้าในจวนไปซักอีก”ฮวาซื่อ “......”นางเคยริบอาภรณ์และข้าวของเครื่องใช้ของเฟิ่งชูอิ่งจริงๆ แต่นางไม่เคยใช้ให้นางทำงานหนักมาก่อนเหตุผลก็ไม่ใช่อื่นใด เพราะจวนสกุลหลินยังต้องรักษาหน้าตา หากเฟิ่งชูอิ่งออกจากจวนแล้วคนสังเกตเห็นว่ามือของนางมีตุ่มพุพองหรือหยาบกร้านผิดปกติ จวนสกุลหลินจะต้องขายหน้านางกล่าวอย่างเดือดดาล “ข้าใช้ให้เจ้าทำเรื่องพวกนั้นตอนไหนกัน?”พอนางโมโหก็เลยลืมตัวเผลอชี้หน้าเฟิ่งชูอิ่งเฟิ่งชูอิ่งแผดเสียงร้องทันที “ท่านอ๋อง นางจะตีข้าแล้วเพคะ! ข้ากลัวเหลือเกิน!”รูปร่างหน้าตาของนางก็เป็นประเภทอ่อนแอน่าสงสารอยู่แล้ว ประกอบกับการแสดงอันยอดเยี่ยมของนาง ท่าทางหลบอยู่หลังจิ่งโม่เยี่ยไม่กล้าโผล่หัวออกมา คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ต้องเห็นอกเห็นใจเป็นธรรมดาจิ่งโม่เยี่ยกลับรู้สึกว่าตัวเองสอดมือเกินเหตุเสียแล้ว ด้วยความสามารถของนาง ต่อให้วันนี้เขาไม่ยื่นมือช่วย นางก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี แล้วยังกระชากหน้ากากของฮวาซื่อได้ด้วยเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 177

    จิ่งโม่เยี่ยหัวเราะเบาๆ ตอนเขาอยู่กับนาง ถึงอารมณ์ของเขาจะอยากหม่นหมองสักแค่ไหน มันก็ไม่เคยหม่นหมองได้ถึงขนาดนั้นเลยสักครั้งเขาในตอนนี้ยังไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าตนเองยอมนางมากแค่ไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยความการเปลี่ยนแปลงแบบนี้หมายความว่าอย่างไรตอนที่เขาพาเฟิ่งชูอิ่งกลับมาถึงจวนอ๋อง บ่าวไพร่ในจวนก็พากันตื่นตระหนก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาสตรีกลับมาที่จวนด้วยเขากำชับพวกข้ารับใช้ “เตรียมห้องให้นางพัก นางอาจจะต้องอยู่ที่จวนอ๋องอีกหลายวัน”ฉินจื๋อเจี้ยนที่กลับมาถึงจวนอ๋องตั้งนานแล้ว แม้จะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่คิดจะถามอะไรมาก เขาไปจัดเตรียมห้องให้นางทันทีสำหรับเขาแล้ว คนที่ทำให้ท่านอ๋องอารมณ์ดีได้จะต้องปฏิบัติกับนางให้ดี คนที่ช่วยชีวิตจิ่งโม่เยี่ยได้ก็ยิ่งต้องดูแลรับใช้ให้ดีซึ่งเฟิ่งชูอิ่งเป็นทั้งสองอย่างที่กล่าวมา หากเป็นไปได้ ฉินจื๋อเจี้ยนก็แทบจะแบกนางขึ้นหิ้งไว้บูชาเฟิ่งชูอิ่งเพิ่งเคยมาที่จวนอ๋องฉู่ครั้งแรก ทันทีที่นางเข้ามาก็พบว่าจวนแห่งนี้งดงามตระการตามากศาลา อาคารและสิ่งปลูกสร้างล้วนสวยงามอย่างยิ่ง การจัดวางต่างๆ ก็ทำได้อย่างยอดเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 178

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”เจ้าอาวาสไม่ได้เรื่อง จ๋างสื่อของจวนอ๋องก็ไม่ได้เรื่องพอกัน ข้างกายจิ่งโม่เยี่ยไม่มีคนปกติบ้างเลยหรือไง!ไม่สิ เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว เอะอะก็คิดแต่จะลวนลามนางอย่างเดียวนางเอ่ยหน้ามืดครึ้ม “ขอบคุณที่เตือน คืนนี้ก่อนนอนข้าจะตรวจสอบหน้าต่างทุกบาน ไม่ปล่อยให้พวกหื่นกามบุกเข้ามาอย่างแน่นอน”กล่าวจบนางก็ผายมือเป็นเชิงบอกให้เขาออกไปฉินจื๋อเจี้ยน “......”ทำไมเหตุการณ์มันถึงดำเนินไปคนละทางกับที่เขาคิดไว้ล่ะเขาตั้งใจจะอธิบายต่อสักสองสามประโยค แต่เฟิ่งชูอิ่งกลับไม่คิดจะฟังสิ่งที่เขาพูดเลย นางดันเขาออกไปด้านนอกโดยตรงตอนนี้นางอยู่ในฐานะผู้ขออาศัย มิฉะนั้นนางจะไม่ใช้มือดันเขาออกไปแบบนั้นหรอก แต่นางจะใช้เท้าถีบเขาออกไปเลยฉินจื๋อเจี้ยนคล้ายอยากจะพูดอะไรต่อ แต่จมูกของเขาเกือบจะโดนประตูฟาดใส่เขาลูบจมูกตัวเองเบาๆ ด้วยท่าทางจนใจ เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คิดไปคิดว่าก็รู้สึกว่าพูดออกไปตอนนี้คงจะไม่เหมาะเขาอดบ่นไม่ได้ว่า “ข่าวลือฆ่าคนตายได้จริงๆ ด้วย”ฉินจื๋อเจี้ยนได้ยินข่าวลือว่าเฟิ่งชูอิ่งมีนิสัยอ่อนแอขี้ขลาด เมื่อก่อนเขาก็เลยเชื่อแบบนั้นแต่ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 179

    คำพูดเหล่านั้นคนเฝ้าประตูพูดด้วยท่าทางยิ้มแย้ม แต่กลับฟาดใบหน้าของหลินชูเจิ้งและฮวาซื่อจนเหมือนโดนตบหลินชูเจิ้งจะดีร้ายก็เป็นถึงขุนนางขั้นที่สามในราชสำนัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนเฝ้าประตูเหยียดหยามแต่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เขาจึงตัดสินใจอดทน สะกดความหงุดหงิดในใจแล้วเอ่ยว่า “ภรรยาของข้าทำไม่ถูกต้องจริงๆ“ตอนนี้ข้าจึงนำตัวภรรยามาขอขมาต่อท่านอ๋อง หลังจากนี้ไปรับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก”คนเฝ้าประตูฉีกยิ้มกล่าว “ท่านอ๋องสั่งให้ผู้น้อยถามใต้เท้าหลิน ฮูหยินหลินทำกับคุณหนูเฟิ่งเช่นนี้ ท่านไม่เคยรู้เห็นอะไรสักอย่างจริงหรือ?”หลินชูเจิ้ง “......”คำถามนี้เป็นตัวตัดสินชะตากรรม เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดีคนเฝ้าประตูไม่ต้องการคำตอบของเขา กล่าวต่อว่า “ท่านอ๋องทรงตรัสไว้แล้ว หากใต้เท้าหลินไม่ทราบเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อย แปลว่าใต้เท้าหลินเป็นคนเลอะเลือนไร้ความสามารถ“เรื่องที่เกิดภายในจวนของตัวเองแท้ๆ ยังไม่ทราบ ถูกภรรยาชั่วช้าคนหนึ่งปิดหูปิดตา เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากจริงๆ“หากใต้เท้าหลินทราบเรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว แต่กลับไม่คิดถามไถ่ หรือทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง เช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 180

    หลินหว่านถิงเอ่ยกับนางว่า “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านแม่จะยอมทำหรือไม่”นางกล่าวจบก็ยื่นไปกระซิบข้างหูของฮวาซื่อสองสามประโยค ฮวาซื่อชะงักเล็กน้อยแล้วมองนางด้วยความตกตะลึงนางเอ่ยเบาๆ ว่า “ท่านแม่เป็นผู้ใหญ่ เฟิ่งชูอิ่งเป็นผู้น้อย เรื่องนี้หากลุกลามใหญ่โตขึ้นมาจริงๆ ท่านแม่จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ“อีกอย่างการทำเช่นนี้ ก็เป็นการประกาศจุดยืนของจวนสกุลหลินให้อ๋องเฉินกับฝ่าบาททรงทราบด้วย”ฮวาซื่อโบกมือไปมา “ไม่ไหว ไม่ไหว แบบนั้นมันเสี่ยงเกินไป!”หลินหว่านถิงกล่าวว่า “หากไม่ลองเสี่ยง ท่านแม่จะนั่งคุกเข่าให้ท่านพ่อลงโทษอยู่อย่างนี้หรือเจ้าคะ?“ท่านแม่เคยคิดบ้างไหมว่า ท่านเป็นถึงภรรยาเอกของจวน หากท่านถูกท่านพ่อหักหน้าถึงเพียงนี้ วันหน้าจะดูแลควบคุมจวนอย่างไร?“หากท่านไม่มีกลวิธีที่ร้ายกาจสักหน่อย พวกนังจิ้งจอกที่อยู่ในเรือนหลังของจวนก็จะปีนเหยียบหัวท่านแม่ได้นะเจ้าคะ”หลินชูเจิ้งภายนอกท่าทางภูมิฐาน แต่ความจริงแล้วเป็นพวกมักมากในกามแม้ว่าตอนนี้ในจวนจะมีอนุภรรยาเพียงแค่ห้าคน แต่ยังมีทงฝาง[footnoteRef:1]ที่ไร้ตำแหน่งอีกจำนวนไม่น้อยเลย [1: สาวใช้ที่ได้ปรนนิบัติร่วมหลับนอนกับเจ้านาย] ก่อนหน้านี้ฮวาซื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 181

    เขากล่าวแบบนั้นแล้วลืมตาขึ้นมา ใช้มือข้างหนึ่งจับหัวของนางแล้วเอ่ยว่า “หน้าตากับรูปร่างแบบราบของเจ้า ข้าไม่อยากจะมองสักนิดเดียว“วันนี้ข้าก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย เลยอยากจะนอนหลับให้สบาย”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ถึงร่างกายนี้จะผอมไปหน่อย แต่ก็มีส่วนโค้งส่วนเว้าชัดเจนนะนางคิดจะเถียงเขากลับ แต่สุดท้ายก็กลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปเพราะตอนนี้นางอยู่ต่อหน้าเขา ถึงจะเถียงชนะไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกอย่างการเอาเรื่องรูปร่างของตัวเองไปเถียงกับผู้ชาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดสักเท่าไหร่นางสูดหายใจเข้าลึกๆ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ชอบข้าไม่ลง!”นางเอ่ยจบก็นอนหงายแล้วดึงผ้านวมมาห่ม แต่ดึงยังไงก็ไม่สำเร็จนางจึงหันไปมองเขา พบว่าเขายังนอนตะแคงมองหน้านางอยู่เหมือนเดิม เส้นผมดำขลับของเขากระจายอยู่บนหมอน เขาในตอนนี้ดูอ่อนโยนกว่าปกติหลายส่วนประกอบกับเขามีดวงตาดอกท้อที่งดงามมากตั้งแต่กำเนิด ดวงตาเช่นนี้ขอแค่ไม่แสดงความเย็นชาออกมา ก็จะดูมีเสน่ห์อย่างเหลือล้นเองนัยน์ตาของเขาเป็นสีดำสนิท มองนางด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม นางพลันรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจิ้งจอกพันปีจ้องมองนางถูกเขาจ้องจนหัวใจเต้นเร็วขึ้นมา จึงตัดสินใจพลิกตัวหั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status