แชร์

บทที่ 181

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-23 19:07:06
เขากล่าวแบบนั้นแล้วลืมตาขึ้นมา ใช้มือข้างหนึ่งจับหัวของนางแล้วเอ่ยว่า “หน้าตากับรูปร่างแบบราบของเจ้า ข้าไม่อยากจะมองสักนิดเดียว

“วันนี้ข้าก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย เลยอยากจะนอนหลับให้สบาย”

เฟิ่งชูอิ่ง “......”

ถึงร่างกายนี้จะผอมไปหน่อย แต่ก็มีส่วนโค้งส่วนเว้าชัดเจนนะ

นางคิดจะเถียงเขากลับ แต่สุดท้ายก็กลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป

เพราะตอนนี้นางอยู่ต่อหน้าเขา ถึงจะเถียงชนะไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกอย่างการเอาเรื่องรูปร่างของตัวเองไปเถียงกับผู้ชาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดสักเท่าไหร่

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ชอบข้าไม่ลง!”

นางเอ่ยจบก็นอนหงายแล้วดึงผ้านวมมาห่ม แต่ดึงยังไงก็ไม่สำเร็จ

นางจึงหันไปมองเขา พบว่าเขายังนอนตะแคงมองหน้านางอยู่เหมือนเดิม เส้นผมดำขลับของเขากระจายอยู่บนหมอน เขาในตอนนี้ดูอ่อนโยนกว่าปกติหลายส่วน

ประกอบกับเขามีดวงตาดอกท้อที่งดงามมากตั้งแต่กำเนิด ดวงตาเช่นนี้ขอแค่ไม่แสดงความเย็นชาออกมา ก็จะดูมีเสน่ห์อย่างเหลือล้นเอง

นัยน์ตาของเขาเป็นสีดำสนิท มองนางด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม นางพลันรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจิ้งจอกพันปีจ้องมอง

นางถูกเขาจ้องจนหัวใจเต้นเร็วขึ้นมา จึงตัดสินใจพลิกตัวหั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Yoke Kanaeruzo
ฉากหยอกล้อกัน น่ารักดี
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 182

    จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาไม่อยากเดาสักนิด จึงแค่นเสียงเย็นชาในลำคอเพราะเขารู้ว่านางไม่ใช่ตะเกียงใกล้หมดน้ำมัน นางหาเรื่องเล่นงานคนอื่นเก่งนักแหละตอนนี้เขาตกอยู่ในเงื้อมมือของนางแล้ว ดูจากนิสัยของนาง ไม่รู้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างเฟิ่งชูอิ่งเบียดเข้าไปใกล้เขามากกว่าเดิม “ท่านอ๋องชอบเอาเปรียบข้าทุกครั้งที่มีโอกาส ข้าคิดว่าควรจะต้องเอาเปรียบท่านคืนเสียหน่อย”นางกล่าวจบก็ใช้มือแหวกอาภรณ์ตรงหน้าอกของเขาออก เตรียมจะลูบคลำให้หนำใจ!ทว่าตอนที่แหวกอาภรณ์ออกมานั้น นางกลับเห็นรอยแผลเป็นที่อกข้างซ้ายของเขารอยแผลเป็นนั้นไม่ใหญ่ แต่กลับอยู่ใกล้หัวใจของเขามาก ดูจากอายุของบาดแผลแล้ว นางก็สัมผัสความอันตรายในตอนนั้นได้เลยนางชะงักแล้วเอ่ยถามว่า “ท่านอ๋อง ทำไมหน้าอกของท่านถึงมีรอยแผลเป็นใหญ่ขนาดนี้ได้ล่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่ตอบคำถามของนาง เขาหลับตาไม่พูดอะไรแต่นางกลับไม่ใช่คนใสซื่อไร้เล่ห์เหลี่ยม นางจึงเท้าเอวแล้วกล่าว “พูดมา ไอ้ลูกเต่าชั่วช้าตัวไหนกันที่ทำท่านบาดเจ็บแบบนี้ ข้าจะไปเชือดมันให้ท่านเอง!”จิ่งโม่เยี่ยคิดไม่ถึงว่านางจะเป็นห่วงเขาด้วย ภายในใจพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ก่อนจะได้ยินนางเอ่ยว่า “พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 183

    แผลนี้เขาได้มาอย่างไรหรือ? จิ่งโม่เยี่ยไม่อยากนึกถึงมันสักนิด เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้เขาไม่มีความสุขอีกอย่างเขาก็ไม่อยากบอกนางตอนนี้ด้วยเขาจึงเอ่ยว่า “เอาไว้ข้าขยับตัวได้เมื่อไหร่ จะต้องเอามีดแทงหน้าอกของเจ้าสักหนึ่งแผล ทีนี้เจ้าก็รู้แล้วว่าแผลนี้มีที่มาอย่างไร”เฟิ่งชูอิ่งเบะปากเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงมาหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง “เอาล่ะๆ อย่าโมโหเลยเพคะ“ก่อนหน้านี้ท่านจับข้า ตอนนี้ข้าก็แค่จับท่านคืนเท่านั้นเอง“ถ้าต่อไปท่านเคารพให้เกียรติข้า ข้าจะไม่กลั่นแกล้งท่านแน่นอน”จิ่งโม่เยี่ยแค่นเสียงเย็นชา นางกลัวเขาจะแก้แค้นนางหลังขยับตัวได้ จึงแปะยันต์ใส่เขาอีกหลายแผ่นจิ่งโม่เยี่ย “......”นางแกล้งเขาต่ออีกสักพัก พอรู้สึกว่าการแหย่เขาไม่น่าสนุกแล้ว ก็ดึงผ้านวมขึ้นมาห่มแล้วเตรียมตัวหลับตอนแรกนางเอาผ้านวมไปห่มเองทั้งหมด ตั้งใจจะเอาคืนที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ยอมแบ่งให้แต่หลังจากนางดึงผ้านวมไปแล้วก็หันมองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะเอาผ้านวมมาห่มคลุมให้เขาอีกครั้งจิ่งโม่เยี่ย “......”ถือว่านางยังไม่ไร้มโนธรรมเกินไปเฟิ่งชูอิ่งต้องมีมโนธรรมอยู่แล้วล่ะ ก่อนจะหลับนางยังใช้คาถาสงบจิตกับเขาสองครั้งนางรู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 184

    จิ่งโม่เยี่ยก็เป็นบุรุษคนหนึ่ง เวลาที่ตื่นเช้าขึ้นมา ร่างกายของเขาก็ต้องมีการตอบสนองเหมือนกับผู้ชายทั่วไปเฟิ่งชูอิ่งเบิกตากว้างจนแทบถลน จิ่งโม่เยี่ยเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะมองนางด้วยสายตาเนือยๆ เขาเหลือบมองนางอย่างขี้เกียจ “เมื่อคืนเจ้าเจ้าทำได้เจ็บแสบมากนะ แล้วยังมีหน้ามาให้ข้าเดาอีกว่าเจ้าคิดจะทำอะไรกับข้า“ถ้างั้นตอนนี้เจ้าลองเดาดูบ้างไหม ว่าข้าคิดจะจัดการเจ้าอย่างไร?”เขาเพิ่งจะตื่น เสียงจึงแหบพร่ากว่าในยามปกติ ซึ่งมันแฝงไปด้วยความอันตรายแม้ทั้งสองคนจะเคยนอนหลับเคียงข้างกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งเขาจะจากไปเมื่อรุ่งสางมาเยือนนี่เป็นครั้งแรกที่เฟิ่งชูอิ่งได้เห็นเขาตอนตื่นนอนนางเพิ่งจะตื่นก็เลยยังสติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วน นางเอ่ยถามโง่ๆ ว่า “ท่านจะทำอะไรข้าหรือ?”มุมปากของจิ่งโม่เยี่ยจึงยกยิ้มมีเสน่ห์ เขาขยับตัวแล้วกดนางเอาไว้ใต้ร่างอย่างรุนแรงเฟิ่งชูอิ่งคิดจะล้วงหยิบยันต์ใต้หมอนออกมา แต่มือของนางกลับถูกเขายึดเอาไว้ก่อนเขาโน้มตัวลงมาจนปลายจมูกแตะปลายจมูกของนาง ริมฝีปากของเขาก้ำกึ่งจะสัมผัสโดนริมฝีปากของนางกลิ่นอายบุรุษเพศของเขาผสมผสานกับกลิ่นอายดุดันป่าเถื่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 185

    นัยน์ตาของจิ่งโม่เยี่ยหม่นแสงลง เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้กลั่นแกล้งนางให้ลำบาก เขาสวมอาภรณ์เสร็จก็เดินออกไปพอเขาจากไป เฟิ่งชูอิ่งก็ยกมือลูบหน้าอกตัวเอง เจ้าบุรุษสุนัขเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย รับมือยากเกินไปแล้วนางต้องรีบคลายคำสาปให้เขาโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็หนีจากเขาให้ไกลพอจิ่งโม่เยี่ยออกมาจากห้องของนาง ฉินจื๋อเจี้ยนก็มองเห็นเขาพอดี อีกฝ่ายเดินยิ้มหน้าบานเข้ามาหา “เมื่อคืนท่านอ๋องหลับสบายหรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองเขาแวบหนึ่ง ไม่ตอบคำถาม “ทางด้านจวนสกุลหลินตอบสนองอย่างไร?”ฉินจื๋อเจี้ยนเห็นว่ารอยคล้ำใต้ตาของเขาไม่เหลือแล้ว เห็นชัดว่านอนหลับเต็มอิ่มตอนนี้ฉินจื๋อเจี้ยนมั่นใจแล้วว่า สตรีที่จิ่งโม่เยี่ยชอบหายออกไปนอนด้วยบ่อยๆ คนนั้นก็คือเฟิ่งชูอิ่งเขาคิดว่าสวรรค์คงจะรู้เห็นเป็นใจ ถึงได้จับพลัดจับผลูส่งเฟิ่งชูอิ่งมาให้จิ่งโม่เยี่ยเขาตอบอย่างยิ้มแย้ม “เมื่อคืนหลินชูเจิ้งพาฮวาซื่อมาที่นี่คราหนึ่ง แต่ถูกคนเฝ้าประตูขับไล่ออกไป“ตอนที่จากไปหลินชูเจิ้งดูจะหัวเสียอย่างมาก คาดว่าฮวาซื่อน่าจะโดนเขาเล่นงานหนักเลยล่ะ”จิ่งโม่เยี่ยถามต่อ “แล้วทางศาลไต่สวนสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง?”ฉินจื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 186

    ฉินจื๋อเจี้ยนมองเฟิ่งชูอิ่งด้วยความตกตะลึงอย่างมาก “เจ้า...เจ้า...เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”เฟิ่งชูอิ่งไม่สนใจเขา นางหันไปคุยกับจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋อง คนรอบตัวท่านไม่มีความรู้บ้างเลยหรือ?”ฉินจื๋อเจี้ยน “......”นอกจากเขาจะเป็นจ๋างสื่อของอ๋องฉู่แล้ว ยังมีชาติตระกูลสูงด้วย จะเป็นคนไม่มีความรู้ได้อย่างไร?วันนี้เขากลับถูกสตรีอ่อนแอนางหนึ่งรังเกียจหาว่าไม่มีความรู้!จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าว่าแต่เขาตกใจเลย ด้วยกลวิธีแต่ละอย่างของเจ้า ใต้หล้าแห่งนี้จะเคยพบเห็นสักกี่คนกันเชียว?”เขากล่าวจบก็ถามนาง “เจ้าให้เฉี่ยวหลิงเรียกเจ้าอาวาสมาทำไม?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ก็มารับกรรมแทนข้าน่ะสิ!”“รับกรรม?” จิ่งโม่เยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย “หมายความว่าอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างขบขัน “ในสายตาของคนภายนอก ข้าเป็นแค่เด็กสาวบอบบาง อ่อนแอ ไร้ความสามารถและขี้ขลาด“คนอย่างข้าจะมีปัญญาอัญเชิญภูตผีจากไหนได้ล่ะ? เรื่องเฉพาะทางแบบนี้ ก็ต้องใช้เจ้าอาวาสที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมาทำสิ”ที่สำคัญคือเจ้าอาวาสเรียกนางว่าอาจารย์ ในเมื่อเกิดเรื่องกับอาจารย์ เขาก็ควรจะช่วยแบ่งเบาภาระสิจิ่งโม่เยี่ย “......”ฉิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 187

    แน่นอนว่าเฟิ่งชูอิ่งไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ แต่เฉี่ยวหลิงไม่พอใจเจ้าอาวาสก็เลยพูดให้ดูร้ายแรงเข้าไว้เจ้าอาวาส “......”เขาหันไปถามเฉี่ยวหลิง “อาจารย์ให้ข้าไปทำอะไรที่ศาลไต่สวน?”เฉี่ยวหลิงตอบ “ไม่รู้สิ ข้าถ่ายทอดคำสั่งเรียบร้อยแล้ว เจ้าจะไปไหมก็ตัดสินใจเอาเองเถอะ”นางกล่าวจบก็แทรกดินหายตัวไปทันทีเจ้าอาวาส “!!!!!!”ถึงเขาจะเป็นคนในวงการศาสนา แต่เขาเพิ่งจะเคยเจอวิญญาณร้ายที่หยิ่งขนาดนี้!นี่เป็นครั้งแรกที่นางเรียกตัวเขา นับตั้งแต่วันที่ตกลงเป็นศิษย์อาจารย์กัน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องไปเขาเปิดประตูอารามแล้วสั่งพระลูกวัดว่า “อาจารย์จะออกไปด้านนอกสักหน่อย พวกเจ้าเตรียมรถม้าให้ทีสิ”เสียงของเขาฟังดูเนิบนาบ แต่กลับแฝงไว้ด้วยราศีของภิกษุผู้สูงส่งเฉี่ยวหลิงไม่ได้หายไปไหนไกล นางแอบฟังเขาอยู่ที่ใต้ดิน ก่อนจะเบะปากใส่ “เสแสร้งเก่งจริงๆ”หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม เจ้าอาวาสก็เดินทางมาถึงศาลไต่สวนตอนที่เขามาถึง เฟิ่งชูอิ่งกับจิ่งโม่เยี่ยก็อยู่ที่นั่นก่อนแล้วเดิมทีเฟิ่งชูอิ่งไม่อยากรบกวนจิ่งโม่เยี่ย คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาด้วยยิ่งนางไม่อยากให้เขามาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากมามากเท่านั้นเหตุผลที่เขามาก็ฟังขึ้นเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 188

    จิ่งโม่เยี่ยคุ้นชินกับเจ้าอาวาสแบบนี้แล้ว จึงเอ่ยเสียงเรียบว่า “งั้นก็ลองดูเถอะ”หัวหน้าศาล “......”เขาคิดว่าวันนี้มันจะเกิดเรื่องบังเอิญมากเกินไปไหม พูดถึงเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสก็มาในใจเขาเริ่มกระวนกระวาย การตายของมารดาแซ่เฉิน เกิดจากการที่เขาแสร้งปิดตาข้างหนึ่งเปิดตาข้างหนึ่งถึงเขากับหลินชูเจิ้งจะไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมาก แต่เมื่อคืนคนจวนสกุลหลินมาพร้อมทรัพย์สินจำนวนมาก เขาก็เลยยอมไว้หน้าให้หลินชูเจิ้งด้วยความเต็มใจเพราะว่าช่วงหลายปีมานี้ หลินชูเจิ้งเลื่อนตำแหน่งขุนนางได้รวดเร็วมาก แล้วเขาก็มีชื่อเสียงในเมืองหลวงด้วยประกอบกับหัวหน้าเลขากรมคลังอายุมากแล้ว หากถอนตัวจากตำแหน่ง หลินชูเจิ้งก็มีโอกาสรับตำแหน่งหัวหน้าเลขากรมคลังต่อมากที่สุดคนแบบนี้ หัวหน้าศาลไม่อยากจะล่วงเกินหรอกตอนแรกเขาคิดว่าพอมารดาแซ่เฉินตายไป เขาก็แค่ขอโทษขอโพยกับจิ่งโม่เยี่ยสักหน่อย เรื่องทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้ได้หัวหน้าศาลไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้ แต่เจ้าอาวาสมาถึงที่นี่แล้ว เขาจะปฏิเสธก็คงไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนท่านเจ้าอาวาสแล้ว”เจ้าอาวาสประกาศฉายาทางศาสนา ก่อนจะกล่าวอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 189

    นางจ้องเขา “วรยุทธ์ของเจ้าไม่ได้เรื่องสักนิด เขียนยันต์ก็ทำได้ไม่ดี ตอนนี้ยังเรียกวิญญาณไม่เป็นอีก เจ้าขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสได้อย่างไรเนี่ย?”เจ้าอาวาสตอบ “เจ้าไม่คิดบ้างหรือ ไม่ใช่ข้าฝีมือไม่ได้เรื่อง แต่พระลูกวัดทั้งหมดในอารามก็ฝีมือย่ำแย่กันหมด”“ข้าถือว่ามีพรสวรรค์กว่าพวกเขาทุกคน ต่อมาฝีมือในทุกๆ ด้านก็เหนือกว่าพวกเขา ก็เลยได้เป็นเจ้าอาวาสของอาราม”เฟิ่งชูอิ่ง “......”พอนางได้ยินเขาพูดอะไรแบบนี้ นางก็ถึงกับพูดไม่ออกนางถามว่า “แล้วปกติตอนอยู่ในอารามเจ้าทำอะไร? ทำอย่างไรให้คนที่เหลือยอมรับ?”เจ้าอาวาสตอบ “ข้าไม่ค่อยสนใจการตามจับวิญญาณร้าย ข้าแค่ชอบช่วยคนขับไล่สิ่งชั่วร้ายเพิ่มความสิริมงคล“ปกติข้าก็จะทำพิธี สวดมนต์ ประกอบกับยันต์คุ้มครองของข้าได้ผลดีมิเลว ในเมืองหลวงมีคนต้องการยันต์คุ้มครองของข้าเยอะมาก”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางลองนึกถึงฝีมือของบรรดาพระทั่วไปในวัดอาราม ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็อยู่ในระดับเดียวกับเจ้าอาวาสยันต์คุ้มครองของเจ้าอาวาสก็ใช้งานได้จริง อาศัยเพียงเรื่องนี้อย่างเดียวก็แกร่งกว่าพระทั่วไปแล้วผลงานด้านอื่นๆ ของเขาค่อนข้างแย่ มีเพียงเรื่องนี้ที่พอจะทำเป็นกลบเกลื่อนเน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status