Share

หนีเที่ยว 2

“คุณชาย ข้าต้องขออภัย ปล่อยข้าไปเถิด จะให้ข้าทำสิ่งใดข้าก็ยอม ขอร้องเถิดขอรับ” เมื่อใช้แรงสู้ไม่ได้ผล และพิจารณาดูแล้ว ชายผู้นี้ไม่น่าใช่คนธรรมดา คนที่เคยอวดเบ่งก็ต้องใช้วิธีขอร้องอ้อนวอนแทน

“ฮึ เจ้าสุนัขนี่ไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย” เขาสะบัดมือออก ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาเช็ดอย่างถือตัว

ยิ่งทำเช่นนั้น เยว่ชิงก็ยิ่งแน่ใจว่าเขาน่าจะเป็นคุณชาย บัณทิต ขุนนาง หรือที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือทหารในกองทัพเลยทีเดียว ถึงได้มีความสามารถในการต่อสู้ และคงไว้ซึ่งท่าทางเย่อหยิ่งไปในคราวเดียวกัน

“เอาละ ทีนี้ก็เอ่ยขออภัยแม่นางทั้งสองซะ”

คำขอโทษพรั่งพรูออกมาจากปากไอ้สุนัขหน้าเหม็นพร้อมด้วยสีหน้าเศร้าสลด

เยว่ชิงมองอย่างไร้ความหมาย บอกให้เพ่ยเพ่ยเอาเงินให้ชายชราที่ยืนตัวลีบอยู่ทางด้านหลัง ก่อนจะหันมาขอบคุณผู้ช่วยชีวิตของนาง

“คุณชายท่านนี้ ข้าต้องขอบคุณท่านมาก สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้”

นางกล่าวด้วยเสียงและท่าทางที่ไม่อ่อนน้อมนัก เนื่องจากติดนิสัยพูดกับบ่าวรับใช้ในจวน แต่เมื่อรู้ตัวว่าถ้อยคำเหล่านั้นแสนจะห้วนสั้น จึงเติมคำที่ท้ายประโยคประโยคลงไปเพื่อความแนบเนียน “หมายถึง...ขอบคุณเหลือเกินเจ้าค่ะ”

“ข้ายินดีช่วย ว่าแต่เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงมาพัวพันกับเหตุการณ์นี้ได้”

คุณชาย ที่เยว่ชิงเข้าใจไปเองเอ่ยถาม มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย ที่จริงแล้วฐานะของเขาสูงกว่านั้นมากโข แต่หลี่อวี้อ๋องก็ตัดสินใจจะไม่เปิดเผยตัว เพื่อดูว่านางจะทำอย่างไรต่อไป

“ข้าเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งที่บังเอิญเดินมาเห็นเหตุการณ์” เย่วชิงตอบ ก่อนจะก่นด่าตัวเองในใจอีกรอบที่ลืมว่านางกำลังปลอมตัวเป็นใครอยู่ “เจ้าค่ะ”

แล้วนางก็รีบเติมคำต่อท้าย และทันได้เห็นว่าบุรุษตรงหน้ามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย เขาช่างดูแตกต่างจากเมื่อครู่อย่างสุดขั้ว ชายผู้เยือกเย็นถูกแทนที่ด้วยคุณชายท่าทางสง่างามและนิ่งขรึมแทน

“หญิงสาวชาวบ้านมีเงินทองมากถึงเพียงนั้นเชียว” คิ้วกระบี่เลิกขึ้น

“ข้าเพิ่งขายผ้าได้เจ้าค่ะ” นางตอบอย่างไหลลื่น

หลี่อวี้อ๋องทำเสียงในลำคอเป็นเชิงเข้าใจ เยว่ชิงถึงลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้วเขากลับเอ่ยประโยคต่อมาที่ทำเอานางแทบจะล้มทั้งยืน

“แต่เจ้าหน้าตาเหมือนท่านหญิงมู่หรงเยว่ชิงมิผิดเพี้ยนเลย” ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางพินิจพิจารณา 

“ทะ ท่านเพิ่งสั่งสอนคนผู้นั้นไม่ให้ล่วงเกินข้า แต่ตอนนี้กลับมาทำเสียเอง” เยว่ชิงร้อนรนเล็กน้อย ทั้งตกใจท่าทางคุกคามของคนตรงหน้า

เพ่ยเพ่ยกระตุกกระโปรงของนางให้ระวังไม่ทำให้ชายผู้นี้โกรธ แต่หากนางจะหนีเสือปะจระเข้ ก็ให้มันรู้กันไป

“ขออภัยด้วย ข้าไม่ได้มีเจตนาจะหยาบคาย เพียงแต่ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนในข้อสงสัยของตัวเอง และข้าก็มั่นใจว่าเจ้าคือบุตรสาวของท่าน

แม่ทัพมู่หรงอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ท่านคงจำผิดกระมัง บุตรสาวท่านแม่ทัพก็น่าจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงและเครื่องประดับมากมาย นางจะมาเป็นข้าที่ซ่อมซ่อเช่นนี้ได้อย่างไร” นางยังคงพยายามที่จะรักษาบทบาทของตัวเองเอาไว้ “อีกอย่างหนึ่ง ท่านรู้จักนางดีหรือ ถึงได้เที่ยวพูดไปทั่วว่าคนโน้นคนนี้เป็นแม่นางมู่หรงเยว่ชิงอะไรนั่น”

“ข้ารู้จักนางดีเลยล่ะ”

“แต่ข้าไม่เห็นจะรู้จักท่านเลย อุ๊บ!” นางแทบจะเอามือตะครุบปากตัวเองที่ดันเผยความลับไปโต้ง ๆ

ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม “นั่นปะไร เจ้าคือนางจริง ๆ ด้วย!”

เยว่ชิงเห็นท่าไม่ดีนางหันไปหาเพ่ยเพ่ย พยักหน้าให้กันสองครั้ง แล้วทำท่าจะออกวิ่ง แต่โดนชายตรงหน้าดึงแขนเอาไว้อย่างรู้ทัน

“จะไปไหนหรือ”

“ข้าต้องไปแล้ว” นางละล่ำละลักตอบ

“ยังไปไม่ได้ นี่บิดาของเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกจนเกือบจะเกิดอันตรายเยี่ยงนี้”

“ถ้าท่านรู้แล้วว่าคุณหนูของข้าเป็นใครก็ปล่อยให้นางกลับจวนเสีย” เพ่ยเพ่ยออกโรงปกป้องนางเต็มที่

คนโดนขู่ยกยิ้ม ดวงตาฉายแววอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก ยอมปล่อยมือจากเรียวแขนที่มีผิวเนื้อนุ่มเนียนอย่างเสียดาย

คราวนี้เขาต้องจำใจปล่อยนางปล่อยไปก่อน แต่มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น

“แต่ข้าเป็นคนช่วยพวกเจ้าทั้งสอง จะตอบแทนกันเช่นนี้จริง ๆ น่ะหรือ ท่านหญิงมู่หรงเยว่ชิงจะไร้น้ำใจกับคนผู้หนึ่งได้ขนาดนี้เชียว ?”

“ก็ได้ ๆ”

เยว่ชิงหาทางจบปัญหา อย่างไรเสีย แผนการวันนี้ของนางก็ถูกทำลายลงแล้ว นางอยากกลับจวนเต็มที จึงอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วย

“ท่านไปรับรางวัลที่จวนของข้า เพราะดูจากการแต่งกายและท่าทางของท่านแล้วคงไม่ใช่คนธรรมดา แค่เงินจำนวนที่ข้ามีตอนนี้คงจะไม่พอ ทีนี้ท่านจะปล่อยเราสองคนไปได้หรือยัง”

“ถ้าเช่นนั้นขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้หรือไม่”

“ได้ แต่ข้ามีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง”

“ข้าฟังอยู่”

สำเนียงการพูดของเขาคล้ายเคยชินกับคนวางอำนาจ ซึ่งทำให้นางนิ่วหน้า เพราะทั้งชีวิตไม่เคยมีใครพูดจาเช่นนี้กับนางมาก่อน แต่นางต้องขออะไรบางอย่างจากเขา จึงจำใจปล่อยผ่าน

“อย่าบอกบิดาข้าว่าท่านช่วยข้าจากเหตุการณ์นี้ ให้บอกว่าท่านเก็บเครื่องประดับของข้าได้ที่ตลาดเมื่อหลายวันก่อน”

“นั่นคือคำสั่งหรือ”

ใบหน้าที่เรียบเฉยเป็นนิจตอนนี้เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ดูออกอย่างชัดเจนว่าต้องการจะยั่วเย้าให้นางโมโห

เยว่ชิงฮึดฮัดอยู่ในใจ นึกอยากจะย้ำเตือนว่านางเป็นใคร แต่หากทำให้เขาไม่พอใจ นางจะเจอเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่า อย่างเช่นการลงโทษจากบิดา จึงทำได้เพียงเม้มปากแน่น สูดหายใจเข้าแล้วกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและใบหน้าออดอ้อน ซึ่งนางมั่นใจว่านี่เป็นไม้ตายของนาง

“คุณชายได้โปรดทำตามคำขอของข้าด้วยเถอะนะเจ้าคะ แล้วข้าจะตอบแทนท่านอย่างดี ถือว่าเห็นแก่หญิงสาวตาดำ ๆ คนหนึ่ง”

หลี่อวี้อ๋องรู้ดีว่านั่นคือการขอร้องที่แสนจำใจของนาง แต่เมื่อโฉมงามมาขอร้องด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ ทั้งยังทำดวงตาเป็นประกาย ใครเลยจะใจแข็งอยู่ได้ 

“ข้ายอมรับคำขอของเจ้า แต่เรื่องที่เจ้าต้องตอบแทน เอาไว้ข้าคิดออกแล้วจะบอกเจ้าทีหลัง”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านมีนามว่าอย่างไรหรือ” นางถามด้วยความใคร่รู้ แต่ก็เพราะอยากจะจำชื่อเขาเอาไว้ หากวันข้างหน้าได้โอกาสแก้เผ็ด นางจะได้ไม่จำผิดตัว

“ข้าจะแนะนำตัวกับบิดาของเจ้าในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้เจ้ากับสาวใช้ต้องกลับจวนได้แล้ว ก่อนที่จะมีใครรู้ว่าคุณหนูคนเดียวของจวนแม่ทัพออกมาเที่ยวเล่นซุกซนเยี่ยงนี้”

“เข้าไม่ได้ซุกซน” เยว่ชิงตอบกลับทันควัน

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น

ฮึ่ย!

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว”

สุดท้ายนางกล่าวด้วยความพยายามที่จะไม่กระแทกกระทั้น แต่เมื่อเงยหน้าสบกับดวงตาสีเข้มที่มีประกายแรงกล้า นางก็รีบเบนสายตาหลบแล้วหันหลังเดินจากมาด้วยความเร่งรีบ

หลี่อวี้อ๋องยังคงมองแผ่นหลังอันบอบบางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดที่ตัดเย็บอย่างสวยงาม นึกชื่นชมหลังยืดตรงและศีรษะที่เชิดขึ้นของนาง 

หญิงสาวคนใดจะมีทุกอย่างอยู่ในตัวอย่างมู่หรงเยว่ชิงได้อีก ทั้งความงาม ความไร้เดียงสาและความมีชีวิตชีวา1915 คำแก้ไข

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status