"ว่าไง เจ้าควรแนะนำให้ลู่จิวเรียกข้าว่าพ่อได้แล้ว และเจ้าควรเป็นแม่ เพราะว่าหลังจากที่เจ้าแต่งตัวเป็นคนรักของข้าเสร็จ ลู่จิวจะได้เรียกถูกและชินปาก" หลี่หยางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนที่เขาจะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างนึกสนุก"ท่านดูมีความสุขดีเหลือเกิน ที่ได้เป็นพ่อของลู่จิว" ชัดพูดด้วยความหมั่นไส้ คนที่นั่งยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขอยู่"มีความสุขสิ ที่จู่ๆข้าก็มีลูกโตแล้ว โดยที่ข้าไม่ต้องออกแรง" หลี่หยางพูดอย่างอารมณ์ดี"ท่างป้อ ข้ากิง ท่างป้อข้ากิงนี่" ลู่จิวออกมาจากที่อุ้มได้ เขาก็เขย่งขาดูบนโต๊ะที่มีจานซาลาเปากับถ้วยนํ้าชาวางอยู่"อ่ะนี่ เจ้าหิวแล้วใช่หรือไม่ลู่จิว" หลี่หยางหยิบซาลาเปาให้กับลู่จิวลูกหนึ่งอย่างใจดี"ท่างป้อ ข้า...""เจ้ารับมาสิลู่จิว แล้วเจ้าก็ขอบคุณด้วย" ชัดบอกกับลูกชาย เมื่อลูกชายเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเขา เหมือนกับถามพ่อว่าเขารับซาลาเปาได้ไหม หลังจากที่คุณชายหลี่ยื่นซาลาเปาให้กับเจ้าตัวแล้ว"ขอกคุงขอรับ ข้ากิง ท่างป้อข้ากิงแย้วนะ" ลู่จิวรับซาลาเปามาได้ เขาก็ไปยืนแอบอยู่ทางด้านหลังของพ่อด้วยความเขินอาย ที่คนยื่นซาลาเปายิ้มให้เขาด้วยความเอ็นดู"เข่อซิง...ข้ารออยู่นะ"
"ซีห่าว...เจ้าว่าอะไร...""คุณหนูขอรับ ซีห่าวอาจจะฟังมาไม่ชัดนัก คุณหนูรอให้นายหญิงมาบอกอีกทีนะขอรับ" พ่อบ้านหยุนรีบเดินเข้าไปจับมือของคุณหนูของเขาเอาไว้ ก่อนที่คุณหนูของเขาจะอาละวาดด้วยการปาข้าวของ หลังจากที่ซีห่าวมารายงานว่า ตระกูลหลี่เพิ่งจะออกเดินทางมา และอาจจะมาถึงในช่วงเย็น ถ้าเกิดไม่ติดพายุหิมะอีก"ถึงท่านแม่มา ก็ไม่ทำให้ตระกูลหลี่มาถึงในเวลานี้ได้ ข้าเกลียดหิมะ!!" อี้เฉินตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความโมโห เธอจะแสดงความเป็นตัวเองออกมาเต็มที่ เมื่อเธออยู่กับคนสนิทอย่างพ่อบ้านหยุนกับซีห่าวและจางลี่ แต่ถ้าเธออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เธอก็จะเก็บอาการของเธอเอาไว้อย่างดี เพราะว่าเธอเป็นหญิงสาวที่เลอโฉมที่สุดในเมืองหย่งอาน"คุณหนูจะรับมื้อเที่ยงเลย...""ข้าไม่กิน!! เจ้าคิดว่าข้ายังจะกินได้อีกรึ" อี้เฉินหันไปตวาดจางลี่ ที่ถามอะไรไม่คิด"เจ้าค่ะคุณหนู" จางลี่ก้มหน้ารับคำ โดยที่เธอเก็บปากเงียบไม่พูดอะไรอีก "อี้เฉินลูก ลูกอย่า...""ท่านแม่ไม่ต้องพูดอะไร ข้าไม่อยากได้ยิน" อี้เฉินหันไปพูดกับแม่ด้วยนํ้าเสียงที่หงุดหงิด เพราะว่าทันทีที่เธอเห็นหน้าของแม่ ที่แสดงถึงความกังวลใจ ทำให้เธอรู้ว่าไม่มีอะไ
"คุณหนูขอรับ คุณชายหลี่ลงมาจากรถม้าแล้วขอรับ คนของคุณชายหลี่ หอบของกำนันลงมาจากรถม้ามากมายเต็มไปหมดเลยขอรับ" พ่อบ้านหยุนเดินเข้าไปกระซิบบอกกับคุณหนูของเขา ด้วยท่าทางที่มีจริตอย่างลืมตัว หลังจากที่เขาไปยืนแอบดูที่หน้าต่าง จนคุณชายหลี่หายเข้าไปในตัวบ้านแล้ว"พ่อบ้านหยุน ทำไมท่านต้องทำกิริยาเช่นนั้นด้วยเล่า" อี้เฉินเหลือบตาไปมองหน้าของพ่อบ้านหยุน พร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากไปด้วยเล็กน้อย เพราะเธอพอที่จะเดาได้ ว่าทำไมพ่อบ้านหยุน ถึงได้มีท่าทางที่กระดี๊กระด๊าไม่ต่างจากหญิงสาวเช่นนั้น "คุณหนูขอรับ คำรํ่าลือไปเกินจริง คุณชายหลี่รูปงามเช่นที่ผู้คนพูดถึงกัน เป็นบุญตาของข้ายิ่งนักที่ได้เห็น คุณหนูอี้เฉินช่างเป็นหญิงสาวที่โชคดีอะไรเช่นนี้ ที่จะได้ครองคู่กับชายที่เพียบพร้อมอย่างคุณชายหลี่ คุณหนู...""เอาล่ะ พอแล้ว ข้าลงไปเจอคู่หมายของข้าได้แล้วใช่หรือไม่" อี้เฉินถามพ่อบ้านหยุน พร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วยอย่างพอใจ เพราะว่าในที่สุด คุณชายหลี่ที่เธอรอคอยก็มาถึงสะที"รอให้ซีห่าวเข้ามาตามก่อนขอรับคุณหนู จะได้ดูไม่น่าเกลียด" พ่อบ้านหยุนบอกกับคุณหนูของเขา ก่อนที่เขาจะเดินไปเงี่ยหูฟังที่ประตู เผื่อว่าเขา
"ท่านแม่ข้า ข้า...""อี้เฉิน...อย่าลูก!! ถ้าลูกอาละวาดตอนนี้ คุณชายหลี่จะต้องรู้ว่าลูกเป็นคนที่...""ท่านแม่!! ข้าต้องสนใจด้วยรึ ข้าเกลียดมัน หญิงผู้นั้น...นางทำหน้าเย้ยหยันข้า ท่านแม่เห็นรึไม่ ว่านางเดินเข้ามาในบ้านของข้า พร้อมกับยิ้มเยาะเย้ยข้า สายตาของนางมองมาที่ข้าด้วยความเย้ยหยัน" อี้เฉินปากคอสั่นด้วยความโมโห เพราะว่าเฟยหงอุ้มลูกเข้ามาในบ้าน เฟยหงมองมาที่เธอด้วยสายตาที่ขบขันในแวบแรกที่เห็น โดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น แต่เธอเห็น เพราะเหมือนกับว่าเฟยหงตั้งใจที่จะให้เธอเห็นเพียงแค่คนเดียว และเฟยหงทำให้เธอแปลกใจได้อย่างหนึ่งคือ ทันทีที่เธอเห็นหน้าของเฟยหง เธอเกลียดเฟยหงได้ทันที เหมือนอย่างที่เธอเกลียดเข่อซิง โดยที่ทั้งคู่ไม่ต้องทำอะไร เธอก็สามารถเกลียดได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยสักนิด"อี้เฉิน...อดทนอีกนิดนะลูก แม่รู้ว่าลูกของแม่เจ็บและเสียใจแค่ไหน แต่ลูกไม่ต้องกลัวนะ ตระกูลหลี่จะต้องชดใช้ให้กับตระกูลเจิ้งอย่างเหมาะสมและ...""ไม่!! ข้าไม่ต้องการการชดใช้อะไรจากตระกูลหลี่ นอกจากความตายของพวกมันสองแม่ลูก ความอับอายครั้งนี้ ข้าไม่มีวันลืม" อี้เฉินยืนพูดกับแม่ด้วยเนื้อตัวที่ส
"ข้าไม่คิดเลย ว่าการที่ข้ามาที่หย่งอานครั้งนี้ ข้าจะมาเจอพายุหิมะตกหนักเช่นนี้ ข้ากับคนของข้าต้องมารบกวนตระกูลเจิ้ง ข้าเกรงใจจริงๆ และข้าต้องขออภัยตระกูลเจิ้ง ที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ข้ายินดีชดใช้ให้ ตามที่ตระกูลเจิ้งเรียกร้อง ข้าต้องขออภัยต่อท่านและตระกูลเจิ้งจริงๆ" หลี่หยางเอ่ยขึ้น ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นคำนับแสดงความเคารพ ต่อคนที่เขากำลังคุยอยู่ด้วย ในขณะที่ทุกคนนั่งล้อมวงรอบโต๊ะวงกลม กินข้าวมื้อคํ่าร่วมกันอยู่ โดยที่มีเฟยหงนั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของเขา ส่วนด้านขวามือ คือเจ้าของบ้านอย่างคุณชายเจิ้งและต่อด้วยภรรยากับลูกสาว แล้วก็หลี่ฟู่ที่นั่งอยู่ข้างแม่ เฟยหงนั่งตรงกลางระหว่างหลี่หยางกับหลี่ฟู่"คุณชายหลี่อย่าได้คิดมาก ท่านมาขอยกเลิกสัญญาด้วยตัวเองเช่นนี้ ท่านก็ให้เกียรติกับตระกูลเจิ้งมากแล้ว อย่างน้อยท่านก็ไม่ได้หลอกลวงตระกูลเจิ้ง ด้วยการมาแต่งงานกับลูกสาวของข้า ทั้งที่ท่านมีลูกเมียอยู่แล้ว ข้าไม่ถือโทษโกรธท่านแต่อย่างใด แต่ถ้าในวันข้างหน้า เรายังมีวาสนาที่จะได้มารวมตระกูลเป็นหนึ่งเดียว ข้าก็ยินดีต้อนรับท่าน หึหึ ลงมือกินข้าวเถอะ ทุกคนคงจะหิวมากแล้ว โดยเฉพาะหลี่ฟู่" เหิงเยว่เอ่ยขึ้น
"ท่านพี่ ท่านพี่ ข้า...ข้าไม่ไหวแล้ว" ไม่พูดเปล่า ชัดเอาหน้าไปซบกับไหล่ของคุณชายหลี่ไปด้วย หลังจากที่เขาดื่มไปได้เพียงแค่แก้วเดียว เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่ไหวจริงๆ ทั้งที่เขาเคยกินเบียร์กับเพื่อนเป็นลังยังไม่เมาเลย และเขาคิดว่าแค่นี้เขาไหว หรือว่าเข่อซิงจะไม่เคยดื่มเลย ฉิบหายแล้ว!! เขาลืมคิดไป ว่าเขาอยู่ในร่างของเข่อซิงที่เป็นทาส ที่ถูกรังแกมาตลอด เรื่องดื่มเหล้าคงจะไม่เคยแน่ ชัดคิดพร้อมกับนั่งเอาหน้าถูไปถูมาที่ไหล่ของคุณชายหลี่ อย่างคนที่สติเหลืออยู่น้อยนิดมาก ในขณะที่ตอนนี้เหลือแค่ห้าคนที่นั่งดื่มกันหลังมื้ออาหารคํ่า ส่วนหลี่ฟู่ อันฉีพากลับไปที่ห้องพักตั้งแต่ที่กินข้าวอิ่มแล้ว"เฟยหง เฟยหง เจ้าแกล้งเมาใช่หรือไม่" หลี่หยางกระซิบถาม พร้อมกับกอดร่างของเฟยหงเอาไว้แน่น เพราะว่าเฟยหงทิ้งนํ้าหนักตัวมาที่เขาทั้งตัวยังไม่พอ เฟยหงยังจะตกเก้าอี้อีก ถ้าเขาไม่กอดเอาไว้"ท่านพี่ ข้า...อุ๊บ!!""เจ้าหยุดพูด เจ้าไม่ต้องพูดแล้วเฟยหง ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเมาจริง หาได้ล้อเล่นไม่" หลี่หยางเอามือปิดปากของเฟยหงเอาไว้แทบไม่ทัน เมื่อเฟยหงพูดออกมาเสียงแหบห้าวของผู้ชาย"ภรรยาของท่านคงจะเมามากแล้ว ท่านพาภรรยาข
"คุณชายหลี่ขอรับ คุณชายหลี่" อู๋ห่างเรียกคุณชายหลี่เสียงเบา ในขณะที่ตอนนี้เขายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน ของคุณชายหลี่กับเฟยหงที่นอนอยู่ในห้อง ในช่วงเช้ามืดของวันต่อมาแอ๊ด...ด(เสียงเปิดประตู)"เข้ามาก่อน" หลี่หยางกระซิบคนสนิทเสียงเบา หลังจากที่เขาเปิดประตูให้แล้ว"คุณชายขอรับ คนของข้าส่งม้าเร็วมาส่งข่าว ว่าคุณชายเจิ้งมีการเคลื่อนไหว ก่อนมื้อคํ่า มีม้าเร็วมุ่งไปทางเหอเป่ย์ขอรับ ข้าคาดการณ์ว่า...""คุณชายเจิ้งตลบหลังข้าใช่หรือไม่" หลี่หยางเอ่ยขึ้น ก่อนที่คนสนิทจะทันได้พูดจบ"ขอรับ มื้อคํ่าที่ผ่านมา คุณชายเจิ้งดูปกติดี หนําซํ้ายังดูอารมณ์ดีจนน่าสงสัย ทั้งที่เมื่อตอนบ่ายยังมีท่าที ไม่พอใจคุณชายกับเฟยหงอยู่เลยขอรับ ข้าเกรงว่า...""แล้วม้าเร็วของคุณชายเจิ้ง ไปถึงบ้านของข้าหรือไม่""ยังขอรับ คนของข้าดักเอาไว้กลางทาง ทำทีเป็นปล้นม้าของมันขอรับ เพื่อไม่ให้คุณชายเจิ้งสงสัย""เจ้าทำดีมาก ให้มันเดินแทนการขี่ม้า แล้วอย่าให้มันไปถึงบ้านของข้าได้เล่า ข้าไม่คิดเลย ว่าคุณชายเจิ้งจะใช้แผนนี้กับข้า" หลี่หยางบอกกับอู๋ห่างเสียงเครียด เขาไม่คิดเลย ว่าคุณชายเจิ้งจะน่ากลัวไม่ต่างกับลูกสาว หรืออาจจะน่ากลัวกว่
"เจ้าบอกว่าเจ้าอยากกินอะไรนะ" อี้เฉินเอ่ยถามอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจ ว่าเธอฟังไม่ผิดแน่ หลังจากที่เธอถามเฟยหงอย่างเอาใจ ว่าอยากกินอะไรบ้าง เพื่อเป็นการยืนยันว่าเธอกับคนตระกูลเจิ้ง ยินดีต้อนรับและอยากจะให้ครอบครัวของคุณชายหลี่ พักอยู่ที่บ้านของตระกูลเจิ้งต่อ "ข้าขอบคุณคุณหนูอี้เฉินกับคนตระกูลเจิ้ง ที่เมตตาข้ากับสามีของข้า รวมทั้งคนของข้าด้วย ข้าเกรงใจจริงๆเจ้าค่ะ ของกินที่ข้าบอกไปก็มีแค่ หมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน ไก่แช่เหล้า ไก่ผัดถั่วลิสง สามชั้นตุ๋นเต้าเจี้ยว ปีกไก่เหล้าแดง ผัดโป๊ยเซียน เป็ดตุ๋นเกาลัด ของที่ข้าอยากกินก็มีเท่านี้แหละเจ้าค่ะ ข้าเกรงใจคุณหนูอี้เฉินกับคนตระกูลเจิ้งเหลือเกิน แต่คนของข้าเดินทางมาหลายวัน ตลอดทางก็มีแต่ป่ากับหิมะเป็นส่วนมาก พวกข้าก็เลยไม่ได้กินอาหารที่ทำสดใหม่นานแล้ว ตามที่ข้าขอคุณหนูอี้เฉินไป ข้าคงจะไม่ได้รบกวนคุณหนูอี้เฉินมากเกินไปใช่หรือไม่เจ้าคะ ข้าขอขอบคุณคุณหนูอี้เฉินอีกครั้ง ที่เมตตาข้ากับสามีของข้า" เฟยหงยกมือขึ้นคำนับอี้เฉินพร้อมกับยิ้มหวานให้"เจ้าหาได้รบกวนข้าไม่ เจ้า...อย่าได้เกรงใจข้า อาหารที่เจ้าขอ มื้อคํ่านี้ ข้าจะให้คนของข้าจัดการให้" อี้เฉินพูดออก
"เข่อซิง ข้ากับเจ้าทำงานกันมานานแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนหรือไม่ ข้ากับเจ้าควรจะหาที่พักผ่อนอยู่ด้วยกันตามลำพังบ้าง เจ้าว่าดีหรือไม่เล่า" หลี่หยางถามเข่อซิงเสียงนุ่ม ในขณะที่เข่อซิงกำลังนั่งทำซาลาเปาอยู่อย่างตั้งใจ หลังจากที่พวกเขากลับมาจากไปเที่ยวที่บนหุบเขา เวลาก็ล่วงเลยมานานหลายเดือน จนจะเข้าสู่ฤดูหนาวอีกแล้ว พวกเขากลับมาอยู่ที่ร้านขายผ้า ที่หัวเมืองเหอเป่ย์ตามเดิม เข่อซิงก็กลับมานั่งหัดทำซาลาเปาจนเก่ง แล้วตอนนี้เข่อซิงก็เปิดร้านขายเครื่องดื่มคู่กับซาลาเปา เป็นร้านแรกที่ทำร้านหรูหราใหญ่โต และมีภาชนะที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นให้กับคนเมืองเหอเป่ย์เป็นอย่างมาก เพราะว่าหลี่หยางทำภาชนะใส่เครื่องดื่มกับจานชาม จากสแตนเลสสตีลมาใช้ในร้านของเข่อซิงเป็นที่แรก พร้อมกับวางขายในร้านที่เปิดใหม่อีกแห่งหนึ่ง และตอนนี้หลี่หยางก็มีร้านขายพวกแก้วกับจานชามเพิ่มที่หัวเมืองเหอเป่ย์ รวมกับพวกร้านขายผ้ากับร้านขายไม้ แล้วก็เครื่องประดับสี่ร้านด้วยกัน ไม่รวมกับร้านอาหารของเข่อซิง ส่วนลู่จิวได้ไปอยู่ที่บ้านเกิดของหลี่หยาง เพื่อไปเรียนแล้วก็อยู่กับปู่กับย่า ก่อนที่ลู่จิวจะถูกส่งไปเรียนตามหัวเมือ
"หือ...คุณชาย!!หนาวหรือขอรับ เหตุใดท่านถึงได้มานอนเบียดข้าเช่นนี้" ชัดถามด้วยนํ้าเสียงที่งัวเงีย เมื่อเขาโดนเบียดแปลกๆ ที่ว่าแปลกๆ เพราะว่าคนที่เบียดเขาตัวอุ่นๆเหมือนกับอุ่นเนื้อ เหมือนกับถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วอย่างนั้นแหละ และน่าจะใช่อย่างที่เขาคิด เพราะว่าคนที่นอนเบียดเขา มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่งแล้ว ในขณะที่ตอนนี้เขากับคุณชายหลี่นอนอยู่ในกระโจม ที่อยู่ในหุบเขา ซึ่งบนเขาอากาศหนาวมาก ถึงใกล้จะเข้าฤดูร้อนแล้วก็เถอะ"เข่อซิง...ข้ากับเจ้า เราเป็นคนรักกันมานานโขแล้ว และข้าก็รอให้แผลที่ท้องของเจ้าหายมานานแล้วเช่นกัน ข้ายังต้องรอสิ่งใดอีกเช่นนั้นหรือ" หลี่หยางไม่ถามเปล่า เขาถอดเสื้อผ้าออกให้กับเข่อซิงไปด้วย"คุณชาย...คุณชายเออ... เคยนอนกับ นอนกับผู้ชาย...""เจ้าจะถามข้า ว่าข้าเคยนอนกับชายด้วยกันไหม ใช่หรือไม่" หลี่หยางกระซิบถามข้างหูของเข่อซิงเสียงกระเส่า มือก็ลูบไล้ไปที่หน้าท้องแบนราบ ของคนที่นอนนิ่งให้เขากอดได้อย่างตามใจ เขาลูบไล้เลยไปที่ท่อนเอ็น ที่เริ่มแข็งชี้โด่ขึ้น ตั้งแต่ถูกถอดเสื้อผ้าออกในยามที่ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้"ซี๊ส...คุณชายขอรับ อ่า...ข้าไม่สงสัยแล้วขอรับ อื้ออออ" ชัดครางเสียงแ
"เข่อซิง...เหตุใดเจ้าถึงได้เงียบเช่นนี้เล่า เจ้าไม่ดีใจเช่นนั้นหรือ ที่ข้าคิดเช่นเดียวกับเจ้า หรือว่าเจ้าพูดว่ารักข้า เจ้าแค่หยอกล้อข้าเล่นเท่านั้น" หลี่หยางถามเข่อซิงที่นั่งเงียบมาตลอด ตั้งแต่เขาบอกว่า เขาคิดแบบเดียวกันกับเจ้าตัวแล้ว ในขณะที่ตอนนี้พวกเขา เข้ามาอยู่ในห้องพักกันเพียงลำพังสองคนแล้ว เข่อซิงนั่งพิงหัวเตียงอยู่ เพราะว่าเขาต้องนอนพักหลังมื้ออาหารเช้า และยาต้มสมุนไพรที่เขาได้ดื่มไปแล้ว"หาเป็นเช่นนั้นไม่ขอรับ ข้าดีใจจนข้าพูดสิ่งใดไม่ออกต่างหากเล่า ข้าไม่คิดว่าทาสอย่างข้า จะมีชายที่สูงศักดิ์อย่างคุณชายหลี่มารักข้าได้ แล้ว...เออ...ท่านพ่อกับท่านแม่ของคุณชายเล่า พวกท่านจะยอมรับได้หรือไม่ขอรับ" ชัดถามเสียงเศร้า เพราะว่าถึงเขาจะดีใจ ที่คุณชายหลี่มีความรู้สึกอย่างเดียวกันกับเขา แต่ความรักของชายที่รักกับชาย ก็ใช่ว่าจะราบรื่น ยิ่งเป็นสมัยเก่าอย่างนี้ด้วย อย่าว่าแต่สังคมไม่ยอมรับเลย สังคมยังไม่รู้จักด้วยซํ้ามั้ง และนี่คือเหตุผลที่เขานั่งเงียบ เพราะว่านอกจากที่เขากับคุณชายจะใจตรงกันแล้ว แล้วต่อไปจะใช้ชีวิตกันยังไง เขายังคิดไม่ออกเลย เขามัวแต่คิดว่าชีวิตไม่ได้ยืนยาว อยากทำอะไรก็ให้รีบท
"คุณชายขอรับ ข้าอยากเดินออกไปที่หน้าร้านขายผ้า ข้าอยากเห็นร้านซาลาเปา ว่ายามเช้าเช่นนี้มีลูกค้าหรือไม่ ข้าขอเดินออกไปได้หรือไม่ขอรับ" ชัดขอคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่แหบเบา เมื่อเขาตื่นขึ้นในเช้าของวันต่อมา เขามองไปรอบๆแล้ว เขาจำได้ว่าเขานอนอยู่ที่ไหน เพราะว่าเมื่อวาน หลังจากที่เขากินซุปข้าวโพดอิ่มแล้ว เลี่ยงเฟิ่งก็ให้เขาดื่มยาต้มสมุนไพรไปถ้วยหนึ่ง เขาก็หลับยาวจนมาถึงเช้าเลย ระหว่างทางเจออะไรบ้าง เขาเข้ามานอนในห้องพักตรงนี้ได้ยังไง เขายังไม่รู้สึกตัวเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาดูมีเรี่ยวแรงขึ้น จนเขาอยากจะลองเดินออกไปดูที่หน้าร้านขายผ้า ว่าที่หน้าร้านขายผ้า รถเข็นไม้ที่เขาใช้ขายซาลาเปา ยังอยู่เหมือนเดิมไหม และยังมีลูกค้าอยู่หรือเปล่า"เจ้าจะออกไปได้เช่นไร เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ข้า...""คุณชายหลี่พาข้าออกไปได้หรือไม่เล่า ข้ารู้สึกว่าอยากออกไปข้างนอก นอนอยู่เช่นนี้ ข้าปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัวแล้วขอรับ" ชัดขอร้องคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่ออดอ้อน เอาสิ เขาอ้อนขนาดนี้ ถ้าคุณชายหลี่ยอมใจอ่อนพาเขาไป ก็แสดงว่าคุณชายหลี่ต้องมีใจให้กับเขาบ้างแหละวะ ที่เขากล้าอ้อนคุณชายหลี่เช่นนี้ เพราะว่าเม
"คุณชายหลี่ขอรับ รถม้าพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางขอรับ" อู๋ห่างบอกกับคุณชายหลี่ หลังจากที่เขาดูคนของเขา ขนของขึ้นไปบนรถม้าเรียบร้อยแล้ว มีรถม้าสองคัน โดยที่รถม้าคันหนึ่ง ขนเสบียงกับพวกข้าวของเครื่องใช้ ที่จำเป็นในการรักษาเข่อซิง และอีกคันหนึ่ง ให้ลู่จิวกับอันฉีแล้วก็เข่อซิงนอน และมีเลี่ยงเฟิ่งนั่งไปด้วย เพื่อดูแลเข่อซิงในระหว่างทาง ส่วนเขากับซิงเยียน แล้วก็คุณชายหลี่กับคนของเขาขี่ม้าไป ไปครั้งนี้เขาพาคนของเขาไปเยอะกว่าทุกครั้ง เพื่อป้องกันภัยจากพวกโจรระหว่างทาง "หลี่หยาง เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ พ่อหาได้เห็นด้วยกับเจ้าไม่ แต่พ่อก็บังคับเจ้าไม่ได้ เพราะว่าเจ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว" พ่อพูดกับลูกชายเสียงเครียด "ท่านพ่อขอรับ ท่านแม่ขอรับ ข้าต้องขออภัย ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้ แต่ท่านพ่อกับท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลกับข้า สิ่งใดที่ข้าได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ข้าจะไม่มีวันเสียใจเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าข้าจะตัดสินใจผิดพลาด แต่ข้าก็เป็นคนตัดสินใจเอง ข้าขอให้ท่านทั้งสองรับรู้เอาไว้ ข้าจะทำปัจจุบันของข้าให้ดีที่สุด เพราะว่าปัจจุบันจะบ่งบอก ว่าอดีตกับอนาคตของข้าจะไปในทิศทางไหน ทุกอย่างข้าเลือกเอง ข้าก็พร้อมที่จะรั
"เลี่ยงเฟิ่ง อาการของเข่อซิงเป็นเช่นไรบ้าง" หลี่หยางเดินเข้ามาในห้องรักษา ในช่วงคํ่าของวัน หลังจากที่เขาได้นอนพักเต็มอิ่มแล้ว"อาการของเข่อซิงยังคงที่ขอรับ โชคดีที่ไม่มีอาการตัวร้อนเป็นไข้ ข้าคอยเช็ดตัวแล้วก็คอยหยดยาต้มสมุนไพร ให้เข่อซิงกินทีละหยดขอรับ อย่างน้อยก็เป็นยาช่วยสมานแผล ในยามที่เข่อซิงไม่ได้สติอยู่เช่นนี้ และยาสมุนไพรตัวนี้ แก้ไข้ได้ด้วยขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งตอบคำถาม พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตามตัวให้กับเข่อซิงไปด้วย"เลี่ยงเฟิ่ง เจ้าคิดว่า เออ...เข่อซิงจะรอดพ้นคืนนี้ได้หรือไม่" หลี่หยางถามเสียงเบา เมื่อเขาเห็นสภาพเข่อซิงนอนตัวขาวซีด กว่าตอนก่อนที่เขาจะขึ้นไปนอนพักเสียอีก สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกหน่วงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก คำพูดที่เข่อซิงชอบบอกกับเขา มันเข้ามาในความรู้สึกของเขาตอนนี้ ว่าชีวิตของคนเรามันไม่ได้ยืนยาว แต่มันก็ไม่ควรที่จะสั้นขนาดนี้ไม่ใช่หรือ"ข้าตอบไม่ได้ขอรับ แต่ก็มีเรื่องดีอยู่นะขอรับ ที่เข่อซิงไม่มีอาการไข้ตัวร้อน นั่นหมายความว่า แผลที่ท้องของเข่อซิงไม่เกิดการติดเชื้อด้านในขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งพูดปลอบใจคนถาม เพราะว่าตอนนี้ใบหน้าของคุณชายหลี่ดูเป็นกังวล จนเ
"คุณชายหลี่...""เลี่ยงเฟิ่ง อาการของเข่อซิงเป็นเช่นไรบ้าง" หลี่หยางถามด้วยนํ้าเสียงที่ร้อนใจ เมื่อเลี่ยงเฟิ่งเปิดม่านประตูออกมาจากห้องรักษา ในขณะที่เขาเดินวนไปมาที่หน้าห้อง เพื่อรอฟังอาการของเข่อซิง เขามาถึงนานแล้ว แต่เขาไม่กล้าเปิดม่านเข้าไป เพราะเขากลัวว่าจะรบกวนเลี่ยงเฟิ่งในขณะที่กำลังรักษาเข่อซิงอยู่"เข่อซิงเสียเลือดมากขอรับ ถ้าผ่านวันนี้ไปได้อาจจะมีโอกาสรอด แต่ถ้าไม่พ้นวันนี้...""เจ้าต้องการสิ่งใด ต้องการยาชนิดไหนเลี่ยงเฟิ่ง ข้าจะให้คนไปตามหามาให้เจ้า แต่เจ้าต้องช่วยชีวิตของเข่อซิงให้กลับมา...""ข้าไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว คุณชายขอรับ...ท้องของเข่อซิง ถูกแทงเข้าไปโดนจุดสำคัญหลายจุด ทำให้เสียเลือดมาก คุณชายเข้าไปดูเข่อซิงสิขอรับ เข่อซิงตัวซีดขาวเพราะว่าเสียเลือดมาก ข้าเย็บแผลใส่ยาและห้ามเลือดให้แล้ว ที่เหลือแค่เพียงรอ เออ...รอให้เข่อซิงฟื้นขึ้นมาเท่านั้นขอรับ เรื่องยารักษาข้ามีเพียงพอแล้วขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งพูดทั้งที่คุณชายหลี่ นั่งลงไปบนเก้าอี้หน้าห้องอย่างคนที่หมดแรงแล้ว"คุณชายขอรับ คุณชายขึ้นไปพักผ่อนบนห้องเถิดขอรับ นี่มันก็สายมากแล้ว ลู่จิวกับนายท่านทั้งสอง ลงมาจากบนบ้านใหญ่แล้ว
"หมดแรงแล้วใช่หรือไม่ไอ้เด็กน้อย เจ้าเตรียมตัวตายตามท่านอี้เจ๋อกับท่านไฉ่หงสะเถิด" หนึ่งในกองโจรที่ปิดหน้าอยู่ เดินเข้าไปหาชายตัวเล็กที่เริ่มหมดแรง ที่จะเก็บก้อนหินปาใส่พวกเขาแล้ว หลังจากที่สหายของเขาหัวแตกกันแทบจะทุกคนแล้ว ในขณะที่สหายของชายตัวเล็กผู้นี้ กำลังต่อสู้กับสหายของพวกเขาอยู่อีกด้าน"เข้ามาเลย ข้ารอพวกเจ้าอยู่" ชัดกวักมือเรียกพวกโจรยิกๆ ทั้งที่เขาเหนื่อยจนใจแทบจะขาดแล้ว โดยที่มืออีกข้างหนึ่งเขากำก้อนหินเอาไว้แน่น เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวครั้งสุดท้าย เพราะว่าเขาไม่มีโอกาสได้ก้มลงไปเก็บก้อนหินอีก พวกโจรมันล้อมเขาเอาไว้ในระยะประชิดตัวแล้ว แต่เขาก็ทำหน้าว่ามีไพ่ที่เหนือกว่า จนพวกโจรมันลังเลไม่มั่นใจ ว่าทำไมเขาตัวเปล่า ถึงไม่ท่าทีว่ากลัวพวกมันเลย"เข่อซิง!!" หลี่หยางมองไปที่เข่อซิงด้วยความเป็นห่วง เพราะว่าเข่อซิงไม่มีอาวุธอะไรในมือเลย แต่เขายังไปช่วยไม่ได้ เพราะพวกโจรก็รุมเขาอยู่ไม่ต่างจากซิงเยียนและเข่อซิงเลย "ฆ่ามันสิ พวกเจ้ารอสิ่งใดอยู่เล่า!!" หนึ่งในกองโจรที่ล้อมคนตัวเล็กเอาไว้อยู่สั่งขึ้น เมื่อไม่มีใครเข้าไปฆ่าผู้ชายตัวเล็กที่กวักมือเรียกพวกเขาอยู่สักที"ไม่เปิดกันใช่ไหม งั้น
"คุณชายหลี่ พวกโจรมันตามมาขอรับ" ซิงเยียนหันไปตะโกนบอกกับคุณชายหลี่ พร้อมกับควบม้าไปด้วยไม่หยุด พวกเขาช้าไม่ได้ เพราะว่าพวกโจรตามมาเร็วมาก"ท่านซิงเยียน ข้าขอมีดสั้นของท่านได้หรือไม่" ชัดตะโกนไปสุดเสียง เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ในขณะที่คุณชายหลี่กับซิงเยียน จะต้องควบม้าหนีพวกโจร ที่เขาหันไปดูแล้วตามมาเป็นสิบเลย ทั้งคนทั้งม้า"เข่อซิง...เจ้าคิดจะทำสิ่งใด" หลี่หยางถามเข่อซิง ก่อนที่เขาจะหันไปมองทางด้านหลัง ที่ตอนนี้ม้าของพวกโจรวิ่งใกล้เข้ามาแล้ว เขาคิดว่าซิงเยียนจะเอามีดสั้นมาให้เข่อซิงได้ยังไง ไหนเมื่อพวกเขาต้องรีบหนี ไม่สามารถหยุดม้าได้"ข้าจะต้องหยุดพวกมัน ไม่ให้ตามพวกเรามาได้ ถ้ามีดสั้นไม่มี ข้าขอใช้ดาบของท่านได้หรือไม่" ชัดหันไปถามคุณชายหลี่ แต่มือของเขาก็ดึงดาบของคุณชายหลี่ออกมาจากฝักแล้ว ถึงเขาจะใช้ดาบไม่เป็น แต่ก็ดีกว่าไม่มีอาวุธอะไรเลย เพราะว่าซิงเยียนเองก็ต้องควบม้าหนี คงจะเอามีดสั้นมาให้เขาไม่ได้"เจ้าใช้ดาบเป็นเช่นนั้นรึ" หลี่หยางถามด้วยนํ้าเสียงที่เป็นห่วง สายตาของเขาก็มองไปข้างหน้า เพื่อที่จะหนีพวกโจรให้ได้"พวกเจ้าตามมา อยากได้ของมีค่าใช่หรือไม่" ชัดเอี้ยวหน้าไปถามพวกโจร โดย