“มือของฉันไม่ได้สกปรกนะคะ ฉันเพิ่งจะล้างมือมาเอง” เธอพูดจบเผยเซียวก็มองมาทางเธอด้วยสายตาเย็นชา สายตานี้ทำเอาเธอตกใจจนแทบบ้า “ฉันเช็ดค่ะ เช็ดเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” แค่นี้ก็จบแล้วใช่ไหม? กู้อิ๋นดึงกระดาษทิชชู่เปียกออกมาอย่างน้อยใจ เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองค่อนข้างที่จะเข้าใจเผยเซียวนะ แต่ดูจากตอนนี้แล้วมันกลับไม่ใช่แบบนั้น อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่เธอถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้ เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด เห็นท่าทางยอมรับฟังของเธอ ความโมโหในใจของเผยเซียวก็ค่อยๆสลายหายไป แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “ท่องข้อบังคับเวลาไปคุยธุรกิจของบริษัท!” “อะไรนะคะ?” นี่มันเรื่องอะไรกันอีกละเนี่ย? “ท่อง!” เผยเซียวพูด คำๆเดียวเต็มไปด้วยความเย็นชาและอันตราย ตอนนี้กู้อิ๋นเพิ่งจะรู้ว่าเผยเซียวโมโหมากจริงๆ เขาก็ไม่ได้ดื่มนี่นา โมโหขนาดนี้เห็นทีจะโกรธขึ้นมาจริงๆ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งทีก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเริ่มพูดด้วยเสียงเบาๆ “ห้ามหัวร่อต่อกระซิกกับลูกค้า ห้ามมีการสัมผัสตัวกับลูกค้า ห้ามออกไปค้างคืนกับลูกค้า ห้ามมีความสัมพันธ์ลับหลังกับลูกค้า!” “แล้วเมื่อกี้เธอทำอะไร?” เมื่อกี้? ที่ลู่ซือเ
กู้อิ๋นในตอนแรกกำลังจะพยักหน้าและจะไปอีกห้องกับเฉินซิงหลี แต่เธอกลับถูกเผยเซียวผลักกลับเข้าไปในห้องเดิม “ไปอาบน้ำ ตัวเหม็นจะแย่!” “.…..” กู้อิ๋นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “.…..” เฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่ ทั้งสองคนเห็นท่าทีที่เผยเซียวมีต่อกู้อิ๋นก็ชะงักไป โดยเฉพาะหลีเวยเยว่ เธอยืนหน้าเขียวหน้าแดงอยู่ที่เดิมแบบนั้น!เฉินซิงหลีในตอนแรกตั้งใจจะพาตัวกู้อิ๋นไปเพื่อจะเว้นช่องว่างให้กับเผยเซียวและหลีเวยเยว่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเผยเซียวจึงรู้ได้เลยว่าคงไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเห็นใบหน้าที่ซีดไปแล้วของหลีเวยเยว่ เฉินซิงหลีก็อดจะตะโกนออกมาไม่ได้ “พี่รอง” เผยเซียวไม่สนใจเฉินซิงหลี แต่หันกลับไปจ้องกู้อิ๋นแทน “ฉันไปแล้วค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เลย” ตัวเธอเหม็นขนาดนั้นเลยหรือไง? ทำไมเธอไม่เห็นได้กลิ่นเลย? กลิ่นคงไม่ได้มาจากตัวเธอหรอกมั้ง? แต่เมื่ออยู่ภายใต้สายตาข่มขู่ของเผยเซียว กู้อิ๋นเองก็ไม่กล้าแย้งอะไร ได้แต่รีบเดินกลับไปที่ห้อง หลีเวยเยว่มองไปทางเผยเซียวอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเรียกเขา “อาเซียว” “พี่รองอย่าทำแบบนี้กับเธอสิ แค่นี้เธอก็เจ็บปวดมากแล้ว” เฉินซิงหลีพูด คิดถึงตอนที่พวกเขาจากไปเธอก็เ
“อาเซียว……!” เธอมองไปทางเผยเซียวอย่างน้อยใจ น้ำตาของเธอคลออยู่ที่นัยน์ตา เหมือนกับว่ากู้อิ๋นพูดอะไรที่ผิดไปอย่างไรอย่างนั้น เดิมทีเฉินซิงหลีก็ไม่ชอบในตัวกู้อิ๋นอยู่แล้ว เธอคิดว่ากู้อิ๋นเข้ามาแย่งทุกอย่างจากหลีเวยเยว่ไป ตอนนี้เห็นหลีเวยเยว่ถูกกู้อิ๋นว่าจนพูดอะไรไม่ออก เธอก็โกรธจนอยากจะพุ่งเข้าไปตบหน้ากู้อิ๋น “เธอมันก็แค่เมียน้อยที่ได้โอกาสมายืนอยู่ตรงนี้ แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องนี้กับพวกฉัน” ในตอนที่มือของเธอกำลังจะไปกระทบที่หน้าของกู้อิ๋น เผยเซียวก็เอื้อมมือมาจับเอาไว้ เฉินซิงหลีรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดก็หันไปมองทางเผยเซียว “พี่รอง นี่!” เผยเซียวสะบัดมือเธอออก “หยุดได้แล้ว!” “พี่รองต่างหากที่หยุดได้แล้ว เธอขอโทษพี่แล้วนะ ทำไมพี่ถึงยังทำร้ายจิตใจเธออยู่ล่ะ” เฉินซิงหลีถาม ตอนนี้ใบหน้าของเผยเซียวเคร่งขรึมลงจนถึงขีดสุด เขาไม่สนใจเฉินซิงหลีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลั่วเหยียน ลั่วเหยียนก็กดรับอย่างรวดเร็ว “อาเซียว” เวลาหลังเลิกงาน ปกติแล้วลั่วเหยียนกับเผยเซียวจะสนิทกันพอสมควร “นายช่วยยกเลิกสัญญาทั้งหมดที่ทำกับตระกูลเฉินด้วย!” เผยเซียวพูด “เกิดอะไรขึ้น?” คน
เฉินซิงหลีกัดฟันพูดประโยคพวกนั้นออกมา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจแต่เมื่อคิดได้ว่าเรื่องนี้มีผลกระทบไปถึงบริษัทเธอจะไม่ยอมก้มหัวก็ไม่ได้! แต่ในตอนที่เธอกำลังจะลุกขึ้นนั้นก็ได้ยินเผยเซียวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ต้อง” “อาเซียว~!” เมื่อได้ยินเผยเซียวพูดว่า ‘ไม่ต้อง’ ในใจของเธอก็ร้อนรนขึ้นมา เธอรู้นิสัยของเผยเซียวมาโดยตลอด ตอนนี้เขาพูดว่าไม่ก็รู้ได้เลยว่าผลลัพธ์ของมันจะร้ายแรงสักแค่ไหน เผยเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะได้โอกาสใหม่จากฉันคนนี้” “.…..” หลีเวยเยว่ “.…..” เฉินซิงหลี มองเธอมองกันอย่างตกใจ ต่างฝ่ายต่างเห็นแววตาของอีกคนที่สื่อออกมาว่าไม่อยากจะเชื่อ เผยเซียวพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรที่เรียกว่าใครก็ได้? พวกเธอเป็นแค่ใครก็ได้ในชีวิตเขางั้นหรอ? หลีเวยเยว่มองไปทางเผยเซียว ความเจ็บปวดทางแววตายิ่งชัดเจนมากขึ้น “อาเซียว นี่มัน!” เฉินซิงหลีนั่งลงไปที่พื้นพรมอย่างหมดอาลัยตายอยาก เผยเซียวหมายความว่าอะไรกันแน่? หมายความว่าตอนนี้พวกเธอยอมลงให้ และไปหากระเป๋ามาคืนก็ไม่ได้งั้นหรอ? “เผยเซียวนายทำเกินไปแล้ว!” เฉินซิงหลีตะโกนออกมาก่อนจะลุกขึ้นมาจ
ถึงแม้ว่าต่อหน้าเผยเซียวเธอจะอดกลั้น แต่ในใจของเธอตอนนี้ก็นึกโมโหขึ้นมาแล้วเช่นกัน เธอหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที “งั้นคุณกู้จะให้ทำยังไงล่ะคะ?” ทำยังไง? เธออยากจะปัดปัญหานี้มาให้กู้อิ๋นสินะ? ทำให้เผยเซียวคิดว่ากู้อิ๋นเป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยสินะ? กู้อิ๋นกอดอกตัวเองเอาไว้ “คุณหนูหลีพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะคะ ฉันก็แค่อยากให้เฉินซิงหลีมาขอโทษฉัน มันคงไม่มากเกินไปหรอกใช่ไหมคะ?” ยังอยากจะปัดปัญหามาให้เธอ สายตาของเผยเซียวนี่แย่จริงๆ ชอบอะไรไม่ชอบดันมาชอบแม่ดอกบัวขาว(ผู้หญิงที่ลุคเรียบร้อยแต่ในใจร้ายกาจ)คนนี้ ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ในใจของกู้อิ๋นหลีเวยเยว่ของคือแม่ดอกบัวขาวดีๆนั่นเอง! ทั้งๆที่คนผิดคือพวกเธอแท้ๆ แต่กลับมาทำเหมือนว่ากู้อิ๋นเป็นคนผิดเองซะอย่างนั้น แต่เสียใจด้วย กู้อิ๋นไม่ใช่คนที่จะยอมใคร หลีเวยเยว่เองก็จะพอจะรู้มาบ้างแล้วว่ากู้อิ๋นเป็นยังไงจากตอนนั้นที่โรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าต่อหน้าเผยเซียวเธอก็จะไม่เก็บอาการแบบนี้ ในใจเธอโกรธมากๆ แต่ว่าตอนนี้...... หลีเวยเยว่อดทนอีกครั้ง สุดท้ายจึงพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณกู้พูดถูก ซิงหลีควรจะมาขอโทษคุณค่ะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้เขามาขอโทษฉันเขา
เผยเซียวเห็นว่ากู้อิ๋นไม่ยอมใส่ก็ตีหน้าขรึมใส่เธอ “หนาวอะไรกัน ไปอาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียงนอนไปเลย” ไม่ว่าจะยังไงก็ออกไปข้างนอกคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด! กู้อิ๋นมองไปทางเขาอย่างน้อยใจ เธออยากจะใส่ชุดนอนหนาๆจริงๆนะ แบบนั้นสบายกว่าตั้งเยอะ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเผยเซียวไม่ต้องการให้เธอออกไป กู้อิ๋นมองไปทางเขาอย่างน้อยใจ! ตอนนี้หลีเวยเยว่อยากจะพูดอะไรสักคำ แต่พูดไม่ออก เผยเซียวมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความไม่แยแสแต่ก็ยังลุกขึ้นยืน “งั้นก็ไปสิ!” “หา?” กู้อิ๋น “ไม่ได้จะไปซื้อชุดนอนหรือไง? ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวห้างก็ปิดหรอก” “คุณ คุณจะไปกับฉันหรอคะ?” กู้อิ๋นหันไปมองทางหลีเวยเยว่ เผยเซียวมองจ้องไปทางเธอ กู้อิ๋นรีบพยักหน้า “ขอบคุณนะคะประธานเผย ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ได้ยินว่าเผยเซียวอนุญาตให้เธอไปซื้อเสื้อผ้าเธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองในตอนนี้และท่าทางของเผยเซียวมันเหมือนกับการเหยียบย่ำลงไปบนหัวใจของหลีเวยเยว่สักแค่ไหน หลีเวยเยว่เห็นเผยเซียวจะพากู้อิ๋นออกไปก็ลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ แต่ในตอนนี้เผยเซียวกลับหันมามองเธอ ก่อนจะทิ้งคำพ
“อะไรนะ? นี่พี่รองพายายนั่นไปซื้อเสื้อผ้าเองเลยหรอ?” เฉินซิงหลีรู้สึกเหมือนจะบ้า! ทำไมเรื่องราวถึงได้เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้กันนะ? กู้อิ๋นเป็นปีศาจตัวไหนกันนะ? ทำไมถึงทำให้พี่รองไปด้วยได้ เขาไม่เคยคิดจะไปห้างมาก่อนด้วยซ้ำ? นอกจากความโกรธแล้วเฉินซิงหลีก็รู้สึกตกใจมากๆ! ในแววตาของหลีเวยเยว่มีแต่ความเจ็บปวด ตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว เฉินซิงหลีมองไปทางเธออย่างสงสาร “พี่รองเค้าคงตั้งใจจะทำให้เธอโกรธ เธอไม่ต้องไปสนใจหรอกนะ” ตอนนี้เฉินซิงหลีก็ไม่รู้ว่าจะปลอบหลีเวยเยว่ยังไงดีเหมือนกัน และก็ไม่รู้ว่าคำนี้คือปลอบหลีเวยเยว่หรือว่าปลอบตัวเองกันแน่ เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของทั้งกู้อิ๋นและเผยเซียว ถ้าไม่ใช่เพื่อจะทำให้หลีเวยเยว่โมโห งั้นก็เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ “ถ้าเขาจะทำแค่ให้ฉันโมโหก็คงจะดี!” หลีเวยเยว่พูด ถ้าเธอสำคัญมากพอขนาดทำให้เขาเอาเรื่องแบบนี้มายั่วโมโหได้ก็แปลว่าเธอยังมีพื้นที่ในใจของเขาอยู่ แต่ก็กลัวแค่ว่าเขาจะจริงจังนี่สิ! เมื่อกี้ก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ได้มีความอดทนมากมายอะไรกับกู้อิ๋นนัก แต่ก็ยังยอมพาเธอออกไปซื้อเสื้อผ้า หลีเวยเยว่ไม่คิดว่านั่นเป็นการทำเพื่อใ
จากห้างสรรพสินค้ากลับมาที่ห้อง ตอนนี้ไม่มีเงาของเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าการจัดการของเผยเซียวที่มีต่อตระกูลเฉินก็พอจะทำให้พวกเธอรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม เห็นห้องตกอยู่ในความเงียบกู้อิ๋นก็หันไปมองเผยเซียว! “มองอะไร? เสื้อผ้าก็ซื้อแล้วนี่ ยังไม่รีบไปอาบน้ำอีกหรือไง?” เผยเซียวถาม สำหรับนิสัยแบบนี้ของกู้อิ๋นเผยเซียวก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายใจ!ทั้งๆที่เป็นเด็กบ้านนอกแท้ๆ ชีวิตก็วุ่นวายขนาดนั้นแต่ยังจะเรื่องมากอยู่ดี จะนอนก็ต้องเป็นชุดนอนผ้าคอตตอน กู้อิ๋นหยิบเอาชุดที่ถูกซักแห้งเรียบร้อยแล้วจากที่ร้านวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ……! ตอนที่เธออาบน้ำออกมาเสร็จแล้ว เผยเซียวที่อาบน้ำจากอีกห้องหนึ่งก็เสร็จพอดี ตอนที่กำลังจะเข้านอนกู้อิ๋นก็เดินกลับไปที่ห้องที่เธอนอนเมื่อกลางวัน แต่เดินไปได้เพียงสองก้าว เสียงของเผยเซียวก็ดังขึ้นด้านหลัง “จะไปไหน?” “ไปนอนสิคะ!” กู้อิ๋นพูด วันนี้ยุ่งมาทั้งวันแล้วขนาดนั้น ตอนนี้เธอเองก็เหนื่อยมากๆ อยากจะนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มจะแย่แล้ว “ไปนอนห้องนอนหลัก” “.…..” กู้อิ๋น ไม่ใช่แล้วมั้ง พวกเราต้องนอนห้องเดียวกันห