เผยเซียวรับสายโทรศัพท์เสร็จบะหมี่ของเขาก็มาส่งพอดี ในตอนที่กู้อิ๋นเดินกลับไปที่ห้องตัวเองอีกครั้งเขาไม่ได้รั้งเอาไว้! แต่กู้อิ๋นเหมือนจะดูเบาอาการละเมอของตัวเองเกินไปแล้ว เมื่อคืนเธอแยกห้องนอนกับเผยเซียวแล้ว แต่เช้าวันต่อมาในตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ไม่ต้องถามเลยว่าคือเรื่องอะไร เธอ......มาปีนเตียงของเผยเซียวอีกแล้ว เธอเงยหน้าสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเผยเซียว ตอนนี้กู้อิ๋นรู้สึกเหมือนจะชาไปทั้งตัว เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ “ประธานเผย นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ คุณเชื่อไหมคะ?” “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?” เผยเซียวร้องเหอะ! “.…..” กู้อิ๋น เธอมาที่ห้องนี้ได้ยังไงกันนะ? ตอนอยู่ที่ซ่างเหอหยวนก็ว่าไปอย่าง เธอคุ้นเคยกับรูปแบบของห้อง และเธอก็ยังนอนห้องเดียวกันกับเผยเซียวด้วย แต่ตอนนี้ เธอ...... เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอหลับไปเธอจำไม่ได้เลยสักนิด ในตอนนี้เธอได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเผยเซียวก็ได้แต่กลืนน้ำลายก่อนจะพูด “นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ!” เธอพูดอย่างมั่นใจ กลัวก็แต่ว่าเผยเซียวจะไม่ยอมเชื่อเธอ! “เธอคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดก็ดีแล้ว” เผยเซีย
เขาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ขอแค่เพียงไปทำให้เขาโกรธ เขาก็จะทำให้รู้ว่าผลลัพธ์นั้นมันเป็นยังไง เฉินซิงหลีตกใจ……! “แต่นั่นมันคนอื่นนะ!” “แกจะหมายความว่าแกไม่เหมือนกับคนอื่นงั้นหรอ? แกอย่ามองตัวเองสูงส่งขนาดนั้น” ต่อหน้าเผยเซียวประธานเฉินก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครเป็นคนสำคัญในใจของเขา ขนาดพ่อของเขาเองอย่างเผยสิงเฟิงเขาก็ยังมองด้วยสายตาเย็นชา ลูกสาวของเขาไม่รู้อะไรเลยสักนิดทำไมถึงกล้าคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าใครต่อหน้าเผยเซียว? คิดว่ามีดีอะไร? เพราะเป็นเพื่อนของเขางั้นหรอ? ถ้าอีกฝ่ายยังสนใจจะนับด้วยก็ถือว่าเป็นเพื่อน! แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่สนใจก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรทั้งนั้น...... และเฉินซิงหลีแบบนี้ ถ้าเผยเซียวยังคงคิดถึงก็นับว่าเป็นเพื่อน แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น “.…..” เฉินซิงหลีง ได้ยินเสียงแบบนี้ของบิดา ว่าเป็นเพราะความโง่ของเธอเมื่อวานทำให้บริษัทเจอกับปัญหาใหญ่เข้าแล้ว ไม่รอให้เธอได้พูดอะไรต่อ อีกฝ่ายก็เป็นคนพูดขึ้นมาก่อน “หลีเวยเยว่ก็ไปด้วยใช่ไหม?” เมื่อคิดถึงหลีเวยเยว่ก็เธอตอบไปว่า ‘อืม’ เพียงคำเดียวสั้นๆ ตอนนี้ประธานเฉินก็พอจะรู้แล้วว่าทำไมลูกสาวของตนเองถึงได้
เฉินซิงหลีในตอนนี้อยากจะบดกู้อิ๋นให้กลายเป็นผุยผง หลีเวยเยว่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามาหา เห็นท่าทีโมโหของเฉินซิงหลีก็ถามออกมาอย่างสงสัย “ซิงหลี เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” “ฉันจะไม่มีทางปล่อยกู้อิ๋นไปแน่ๆ ไม่มีทาง!” เฉินซิงหลีพูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น เห็นบัตรเครดิตของตัวเองถูกยกเลิกทีละใบ!เฉินซิงหลีในตอนนี้โกรธซะจนหน้าสั่นไปหมด หลีเวยเยว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆเธอ “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น?” เธอดึงมือเฉินซิงหลี ท่าทางเหมือนกับพี่สาวคนโต เฉินซิงหลีเล่าเรื่องที่เธอคุยกับพ่อให้อีกฝ่ายฟังจนหมดอีกหนึ่งรอบ!ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งโมโห “ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้ล่ะคะ? ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆของเขา!” เฉินซิงหลีพูดอย่างโมโห หลีเวยเยว่ไม่คิดเลยว่าน้าของเธอจะทำแบบนี้กับลูกสาวสุดที่รักของเขาได้ “ทั้งหมดก็เป็นเพราะกู้อิ๋นนั่นแหละ!” หลีเวยเยว่ทอดถอนใจ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย!และยังชักนำความโกรธของหลีเวยเยว่ทั้งหมดไปลงที่กู้อิ๋นด้วย เฉินซิงหลีเดิมทีก็โมโหเพราะเรื่องนี้อยู่แล้ว ได้ยินหลีเวยเยว่พูดแบบนี้เธอก็ยิ่งโมโหเข้าไปกันใหญ่ “ใช่ เป็นเพราะยายนั่นค
เฉินซิงหลีเห็นว่าเรื่องนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำยอม!หลีเวยเยว่เห็นท่าทีแบบนั้นจึงถอนหายใจออกมา เธอรู้ว่าน้าของตัวเองเป็นคนยังไง คนที่ฉลาดแบบนั้นจะต้องสืบหาเรื่องราวเมื่อคืนแน่ๆ ถ้าตอนนี้เธอไม่กล่อมให้เฉินซิงหลีไปจัดการเรื่องนี้ แม่ของเธอคงจะกลับบ้านไม่ได้แล้ว! และเธอก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากทางน้าของเธอด้วย! ทั้งสองคนจัดการตัวเองจนเสร็จก็มาที่ห้องของกู้อิ๋นและเผยเซียว ในตอนที่เคาะประตูห้องนั้นกู้อิ๋นกับเผยเซียวกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ ทั้งสองคนนั่งทานอาหารด้วยกันที่โต๊ะอาหารตัวเล็ก มองดูแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ กู้อิ๋นหันมาเจอเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่ ก็ขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีกแล้ว หลีเวยเยว่ลากเฉินซิงหลีที่ยังมีท่าทีไม่จำยอมให้เดินตามเข้ามา เธอมองไปทางเผยเซียวก่อนจะเรียกเขา “อาเซียว!” เผยเซียวเห็นเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่อยู่ด้วยกันก็รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เขาจอบรับเพียงสั้นๆก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดื่มต่อ หลีเวยเยว่รับรู้ถึงท่าทางไม่สนใจของเผยเซียวก็รู้สึกอึดอัดใจ! แต่เธอก็ไม่กล้าจะพูดอะไร เผยเซี
เขาไม่ให้โอกาสเธอได้ทำแบบขอไปทีด้วยซ้ำ “งั้นก็ยังไม่ขอโทษเขาอีก?” เผยเซียวว่า “พี่รอง~!” เมื่อกี้เธอขอโทษไปแล้วไม่ใช่หรือไง? เฉินซิงหลีมองไปทางเผยเซียวอย่างน้อยใจ เห็นได้ชัดเลยว่าเธออยากให้เขาปล่อยเธอไปเพื่อเห็นแก่หน้าเธอที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน “ถ้าไม่ได้จะมาขอโทษก็ออกไปซะ!” เผยเซียวพูด น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอันตราย หลีเวยเยว่และเฉินซิงหลีฟังแล้วก็ตกใจมากกว่าเดิม พวกเธอไม่คิดเลยว่าเผยเซียวจะโมโหเพราะกู้อิ๋นได้มากขนาดนี้ “คุณกู้ ฉันขอโทษนะคะ!” เฉินซิงหลีกัดฟัน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดกับกู้อิ๋น เห็นได้ชัดว่ากำลังขอโทษ แต่การที่เธอกัดฟันแบบนี้กลับเต็มไปด้วยความแค้นเคือง กู้อิ๋นฟังคำขอโทษพลางส่งเกี๊ยวที่เผยเซียวคีบมาวางในจานให้เข้าปาก “นี่คุณหนูเฉินกำลังขอโทษหรอคะ? ทำไมฉันฟังแล้วรู้สึกเหมือนคุณจะกินฉันลงไปเลยล่ะคะ!?” กู้อิ๋นไม่ใช่คนที่ใครจะมาทำอะไรแบบขอไปทีด้วยได้ และเธอก็ไม่ใช่คนที่ใจกว้างด้วย! เมื่อคืนวานเฉินซิงหลีเอากระเป๋าเดินทางเธอไปทิ้ง เรื่องที่น่าอับอายแบบนี้เธอไม่อยากปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ “งั้นคุณจะเอายังไงคะ?” เฉินซิงหลีเก็บกักคว
เผยเซียวเห็นท่าทีที่ไม่เหมือนเดิมของกู้อิ๋นเขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “ตอนนี้กลัวฉันแล้วหรือไง?”“.…..” กู้อิ๋นกลัวสิ เธอกลัวจะบ้าแล้ว!แต่เมื่อกี้เฉินซิงหลีก็น่าโมโหจริงๆ เธออดทนไม่ไหวแล้วแต่ตอนนี้พอนึกขึ้นมาได้ก็เพิ่งจะพอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับเสือโคร่งตัวใหญ่หลีเวยเยว่เป็นรักแรกที่ติดค้างอยู่ในใจเขา แต่ตอนนี้เธอทำแบบนี้กับรักแรกของเขา เขาคงไม่ยอมแน่ใช่ไหม?ตอนนี้เธอเตรียมพร้อมจะตายแล้ว!จริงๆนะ คนเราไม่ควรจะวู่วามจนเกินไปเผยเซียวเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรก็พูดออกมาเสียงเย็นชา “ท่าทางเธอเมื่อกี้กล้ามากนี่ ไม่เห็นจะพูดติดอ่างเลย!”พูดจริงๆนะ ตอนที่เธอไม่กลัวสมองของเธอประมวลผลเร็วมาก แล้วยังมีเหตุผลมากๆด้วย“ขะ...ขอโทษนะคะ!” กู้อิ๋นพูดเอาอีกแล้ว!“ทำไมต้องขอโทษ?” เผยเซียวว่า“เมื่อครู่ฉันไม่ควรจะวู่วาม แล้วก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณหนูหลี” กู้อิ๋นถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องระหว่างเธอกับเฉินซิงหลี แต่เธอก็กลัวเผยเซียวจะเข้าใจผิดกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าเธอตั้งใจจะว่าหลีเวยเยว่!พอคิดมาถึงตรงนี้กู้อิ๋นก็อธิบายเพิ่มอีกหนึ่งประโยค “เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจจะว่าอะไรคุณห
เห็นท่าทางของเผยเซียวเมื่อสักครู่นี้ในใจของเธอก็ผิดหวังอย่างพูดออกมาไม่ได้เธอจากไปแค่สามปีแต่ทำไมเผยเซียวถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?ท่าทางของเขาในตอนนี้เหมือนกับว่าแต่ก่อนเธอกับเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันมาก่อนเลย“นี่พี่ไม่โกรธเลยหรือไง?”เฉินซิงหลีเห็นหลีเวยเยว่ปลอบตัวเองได้ก็ยิ่งโมโหมากไปกว่าเก่าถ้าสามปีก่อนคนคนนั้นเป็นเธอ ตอนนี้คงถูกท่าทางของเผยเซียวทำให้โมโหจนแทบบ้าแน่ๆ!หลีเวยเยว่ถอนหายใจออกมาก่อนจะก้มหน้า “โกรธสิ แต่ฉันทำอะไรได้ล่ะ!?”“ตอนนี้สำหรับเขาฉันเป็นแค่คนแปลกหน้าคนนึงเท่านั้น! แต่ว่ามันก็ต้องอยู่ต่อหน้าคนที่ใส่ใจเราเท่านั้นถึงจะมีค่าพอให้โกรธ”ตอนนี้ต่อให้เธอโกรธแต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?เฉินซิงหลีได้ยินน้ำเสียงไร้เรี่ยวแรงของหลีเวยเยว่ก็รู้สึกสงสาร ในใจก็ยิ่งไม่พอใจเผยเซียวมากขึ้นไปอีก“พี่รองเขาใส่ใจพี่นะ แค่เพราะตอนนี้ข้างกายเขามีกู้อิ๋นอยู่ด้วย!”กู้อิ๋นพูดออกมาอย่างนึกโมโห!จากที่เธอดู เมื่อก่อนเผยเซียวเอาแต่รอหลีเวยเยว่ให้กลับมาก็ไม่รู้ว่ากู้อิ๋นใช้วิธีอะไรถึงได้แต่งงานกับเผยเซียวได้สำเร็จ!ก็ต้องรู้นะ......ในช่วงสามปีมานี้มีผู้หญิงล้อมรอบกาย
หลีเวยเยว่รีบกดส่งข้อความไปหาเผยเซียวแต่ข้อความของเธอกลับไม่ได้รับการตอบกลับใดๆไม่รู้ว่าเพราะเผยเซียวไม่เห็นหรือว่าเป็นเพราะเขาไม่สะดวกคุยผ่านโทรศัพท์!เธอรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกกระวนกระวายมากๆ“เขาจะใช่แบบที่เธอพูดแน่ๆใช่ไหม?” ตอนที่เธอถามคำถามนี้น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยแต่เผยเซียวก็เป็นแบบที่เฉินซิงหลีพูด เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้!เพราะแบบนี้ในใจของเธอถึงได้เชื่อ!“มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เธอไปหาเขาเลยดีกว่า” เฉินซิงหลีพูด“……” ไปหาเผยเซียวเลยงั้นหรอ!แค่เพียงคิดถึงท่าทางของเผยเซียวที่มีต่อตนเองหลีเวยเยว่ก็ไม่อยากจะไปเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ไม่มีใครรู้หรอกว่าช่วงเวลาที่เธอกลับมานี้เธอต้องแบกรับกับความเจ็บปวดอะไรบ้างท่าทีของเผยเซียวทำให้เธอเหมือนจะขาดอากาศหายใจทุกครั้ง!ไม่รอให้หลีเวยเยว่พยักหน้าเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเฉินซิงหลีก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดูเป็นบิดาของเธอที่โทรเข้ามา!เฉินซิงหลีสูดหายใจก่อนจะกดรับสาย “ค่ะ”“นี่แกไปทำอะไรนายหญิงของคุณเผยอีกหะ?” เสียงตะโกนดังมาจากปลายสายและเพราะเสียงนี้ทำเอาเธอตกใจจนมือถือแทบจะร่วงหล่นลงจากมือเ