เผยเซียวเห็นว่ากู้อิ๋นไม่ยอมใส่ก็ตีหน้าขรึมใส่เธอ “หนาวอะไรกัน ไปอาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียงนอนไปเลย” ไม่ว่าจะยังไงก็ออกไปข้างนอกคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด! กู้อิ๋นมองไปทางเขาอย่างน้อยใจ เธออยากจะใส่ชุดนอนหนาๆจริงๆนะ แบบนั้นสบายกว่าตั้งเยอะ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเผยเซียวไม่ต้องการให้เธอออกไป กู้อิ๋นมองไปทางเขาอย่างน้อยใจ! ตอนนี้หลีเวยเยว่อยากจะพูดอะไรสักคำ แต่พูดไม่ออก เผยเซียวมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความไม่แยแสแต่ก็ยังลุกขึ้นยืน “งั้นก็ไปสิ!” “หา?” กู้อิ๋น “ไม่ได้จะไปซื้อชุดนอนหรือไง? ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวห้างก็ปิดหรอก” “คุณ คุณจะไปกับฉันหรอคะ?” กู้อิ๋นหันไปมองทางหลีเวยเยว่ เผยเซียวมองจ้องไปทางเธอ กู้อิ๋นรีบพยักหน้า “ขอบคุณนะคะประธานเผย ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ได้ยินว่าเผยเซียวอนุญาตให้เธอไปซื้อเสื้อผ้าเธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองในตอนนี้และท่าทางของเผยเซียวมันเหมือนกับการเหยียบย่ำลงไปบนหัวใจของหลีเวยเยว่สักแค่ไหน หลีเวยเยว่เห็นเผยเซียวจะพากู้อิ๋นออกไปก็ลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ แต่ในตอนนี้เผยเซียวกลับหันมามองเธอ ก่อนจะทิ้งคำพ
“อะไรนะ? นี่พี่รองพายายนั่นไปซื้อเสื้อผ้าเองเลยหรอ?” เฉินซิงหลีรู้สึกเหมือนจะบ้า! ทำไมเรื่องราวถึงได้เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้กันนะ? กู้อิ๋นเป็นปีศาจตัวไหนกันนะ? ทำไมถึงทำให้พี่รองไปด้วยได้ เขาไม่เคยคิดจะไปห้างมาก่อนด้วยซ้ำ? นอกจากความโกรธแล้วเฉินซิงหลีก็รู้สึกตกใจมากๆ! ในแววตาของหลีเวยเยว่มีแต่ความเจ็บปวด ตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว เฉินซิงหลีมองไปทางเธออย่างสงสาร “พี่รองเค้าคงตั้งใจจะทำให้เธอโกรธ เธอไม่ต้องไปสนใจหรอกนะ” ตอนนี้เฉินซิงหลีก็ไม่รู้ว่าจะปลอบหลีเวยเยว่ยังไงดีเหมือนกัน และก็ไม่รู้ว่าคำนี้คือปลอบหลีเวยเยว่หรือว่าปลอบตัวเองกันแน่ เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของทั้งกู้อิ๋นและเผยเซียว ถ้าไม่ใช่เพื่อจะทำให้หลีเวยเยว่โมโห งั้นก็เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ “ถ้าเขาจะทำแค่ให้ฉันโมโหก็คงจะดี!” หลีเวยเยว่พูด ถ้าเธอสำคัญมากพอขนาดทำให้เขาเอาเรื่องแบบนี้มายั่วโมโหได้ก็แปลว่าเธอยังมีพื้นที่ในใจของเขาอยู่ แต่ก็กลัวแค่ว่าเขาจะจริงจังนี่สิ! เมื่อกี้ก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ได้มีความอดทนมากมายอะไรกับกู้อิ๋นนัก แต่ก็ยังยอมพาเธอออกไปซื้อเสื้อผ้า หลีเวยเยว่ไม่คิดว่านั่นเป็นการทำเพื่อใ
จากห้างสรรพสินค้ากลับมาที่ห้อง ตอนนี้ไม่มีเงาของเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าการจัดการของเผยเซียวที่มีต่อตระกูลเฉินก็พอจะทำให้พวกเธอรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม เห็นห้องตกอยู่ในความเงียบกู้อิ๋นก็หันไปมองเผยเซียว! “มองอะไร? เสื้อผ้าก็ซื้อแล้วนี่ ยังไม่รีบไปอาบน้ำอีกหรือไง?” เผยเซียวถาม สำหรับนิสัยแบบนี้ของกู้อิ๋นเผยเซียวก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายใจ!ทั้งๆที่เป็นเด็กบ้านนอกแท้ๆ ชีวิตก็วุ่นวายขนาดนั้นแต่ยังจะเรื่องมากอยู่ดี จะนอนก็ต้องเป็นชุดนอนผ้าคอตตอน กู้อิ๋นหยิบเอาชุดที่ถูกซักแห้งเรียบร้อยแล้วจากที่ร้านวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ……! ตอนที่เธออาบน้ำออกมาเสร็จแล้ว เผยเซียวที่อาบน้ำจากอีกห้องหนึ่งก็เสร็จพอดี ตอนที่กำลังจะเข้านอนกู้อิ๋นก็เดินกลับไปที่ห้องที่เธอนอนเมื่อกลางวัน แต่เดินไปได้เพียงสองก้าว เสียงของเผยเซียวก็ดังขึ้นด้านหลัง “จะไปไหน?” “ไปนอนสิคะ!” กู้อิ๋นพูด วันนี้ยุ่งมาทั้งวันแล้วขนาดนั้น ตอนนี้เธอเองก็เหนื่อยมากๆ อยากจะนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มจะแย่แล้ว “ไปนอนห้องนอนหลัก” “.…..” กู้อิ๋น ไม่ใช่แล้วมั้ง พวกเราต้องนอนห้องเดียวกันห
เผยเซียวรับสายโทรศัพท์เสร็จบะหมี่ของเขาก็มาส่งพอดี ในตอนที่กู้อิ๋นเดินกลับไปที่ห้องตัวเองอีกครั้งเขาไม่ได้รั้งเอาไว้! แต่กู้อิ๋นเหมือนจะดูเบาอาการละเมอของตัวเองเกินไปแล้ว เมื่อคืนเธอแยกห้องนอนกับเผยเซียวแล้ว แต่เช้าวันต่อมาในตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ไม่ต้องถามเลยว่าคือเรื่องอะไร เธอ......มาปีนเตียงของเผยเซียวอีกแล้ว เธอเงยหน้าสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเผยเซียว ตอนนี้กู้อิ๋นรู้สึกเหมือนจะชาไปทั้งตัว เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ “ประธานเผย นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ คุณเชื่อไหมคะ?” “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?” เผยเซียวร้องเหอะ! “.…..” กู้อิ๋น เธอมาที่ห้องนี้ได้ยังไงกันนะ? ตอนอยู่ที่ซ่างเหอหยวนก็ว่าไปอย่าง เธอคุ้นเคยกับรูปแบบของห้อง และเธอก็ยังนอนห้องเดียวกันกับเผยเซียวด้วย แต่ตอนนี้ เธอ...... เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอหลับไปเธอจำไม่ได้เลยสักนิด ในตอนนี้เธอได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเผยเซียวก็ได้แต่กลืนน้ำลายก่อนจะพูด “นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ!” เธอพูดอย่างมั่นใจ กลัวก็แต่ว่าเผยเซียวจะไม่ยอมเชื่อเธอ! “เธอคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดก็ดีแล้ว” เผยเซีย
เขาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ขอแค่เพียงไปทำให้เขาโกรธ เขาก็จะทำให้รู้ว่าผลลัพธ์นั้นมันเป็นยังไง เฉินซิงหลีตกใจ……! “แต่นั่นมันคนอื่นนะ!” “แกจะหมายความว่าแกไม่เหมือนกับคนอื่นงั้นหรอ? แกอย่ามองตัวเองสูงส่งขนาดนั้น” ต่อหน้าเผยเซียวประธานเฉินก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครเป็นคนสำคัญในใจของเขา ขนาดพ่อของเขาเองอย่างเผยสิงเฟิงเขาก็ยังมองด้วยสายตาเย็นชา ลูกสาวของเขาไม่รู้อะไรเลยสักนิดทำไมถึงกล้าคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าใครต่อหน้าเผยเซียว? คิดว่ามีดีอะไร? เพราะเป็นเพื่อนของเขางั้นหรอ? ถ้าอีกฝ่ายยังสนใจจะนับด้วยก็ถือว่าเป็นเพื่อน! แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่สนใจก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรทั้งนั้น...... และเฉินซิงหลีแบบนี้ ถ้าเผยเซียวยังคงคิดถึงก็นับว่าเป็นเพื่อน แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น “.…..” เฉินซิงหลีง ได้ยินเสียงแบบนี้ของบิดา ว่าเป็นเพราะความโง่ของเธอเมื่อวานทำให้บริษัทเจอกับปัญหาใหญ่เข้าแล้ว ไม่รอให้เธอได้พูดอะไรต่อ อีกฝ่ายก็เป็นคนพูดขึ้นมาก่อน “หลีเวยเยว่ก็ไปด้วยใช่ไหม?” เมื่อคิดถึงหลีเวยเยว่ก็เธอตอบไปว่า ‘อืม’ เพียงคำเดียวสั้นๆ ตอนนี้ประธานเฉินก็พอจะรู้แล้วว่าทำไมลูกสาวของตนเองถึงได้
เฉินซิงหลีในตอนนี้อยากจะบดกู้อิ๋นให้กลายเป็นผุยผง หลีเวยเยว่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามาหา เห็นท่าทีโมโหของเฉินซิงหลีก็ถามออกมาอย่างสงสัย “ซิงหลี เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” “ฉันจะไม่มีทางปล่อยกู้อิ๋นไปแน่ๆ ไม่มีทาง!” เฉินซิงหลีพูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น เห็นบัตรเครดิตของตัวเองถูกยกเลิกทีละใบ!เฉินซิงหลีในตอนนี้โกรธซะจนหน้าสั่นไปหมด หลีเวยเยว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆเธอ “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น?” เธอดึงมือเฉินซิงหลี ท่าทางเหมือนกับพี่สาวคนโต เฉินซิงหลีเล่าเรื่องที่เธอคุยกับพ่อให้อีกฝ่ายฟังจนหมดอีกหนึ่งรอบ!ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งโมโห “ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้ล่ะคะ? ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆของเขา!” เฉินซิงหลีพูดอย่างโมโห หลีเวยเยว่ไม่คิดเลยว่าน้าของเธอจะทำแบบนี้กับลูกสาวสุดที่รักของเขาได้ “ทั้งหมดก็เป็นเพราะกู้อิ๋นนั่นแหละ!” หลีเวยเยว่ทอดถอนใจ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย!และยังชักนำความโกรธของหลีเวยเยว่ทั้งหมดไปลงที่กู้อิ๋นด้วย เฉินซิงหลีเดิมทีก็โมโหเพราะเรื่องนี้อยู่แล้ว ได้ยินหลีเวยเยว่พูดแบบนี้เธอก็ยิ่งโมโหเข้าไปกันใหญ่ “ใช่ เป็นเพราะยายนั่นค
เฉินซิงหลีเห็นว่าเรื่องนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำยอม!หลีเวยเยว่เห็นท่าทีแบบนั้นจึงถอนหายใจออกมา เธอรู้ว่าน้าของตัวเองเป็นคนยังไง คนที่ฉลาดแบบนั้นจะต้องสืบหาเรื่องราวเมื่อคืนแน่ๆ ถ้าตอนนี้เธอไม่กล่อมให้เฉินซิงหลีไปจัดการเรื่องนี้ แม่ของเธอคงจะกลับบ้านไม่ได้แล้ว! และเธอก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากทางน้าของเธอด้วย! ทั้งสองคนจัดการตัวเองจนเสร็จก็มาที่ห้องของกู้อิ๋นและเผยเซียว ในตอนที่เคาะประตูห้องนั้นกู้อิ๋นกับเผยเซียวกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ ทั้งสองคนนั่งทานอาหารด้วยกันที่โต๊ะอาหารตัวเล็ก มองดูแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ กู้อิ๋นหันมาเจอเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่ ก็ขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีกแล้ว หลีเวยเยว่ลากเฉินซิงหลีที่ยังมีท่าทีไม่จำยอมให้เดินตามเข้ามา เธอมองไปทางเผยเซียวก่อนจะเรียกเขา “อาเซียว!” เผยเซียวเห็นเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่อยู่ด้วยกันก็รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เขาจอบรับเพียงสั้นๆก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดื่มต่อ หลีเวยเยว่รับรู้ถึงท่าทางไม่สนใจของเผยเซียวก็รู้สึกอึดอัดใจ! แต่เธอก็ไม่กล้าจะพูดอะไร เผยเซี
เขาไม่ให้โอกาสเธอได้ทำแบบขอไปทีด้วยซ้ำ “งั้นก็ยังไม่ขอโทษเขาอีก?” เผยเซียวว่า “พี่รอง~!” เมื่อกี้เธอขอโทษไปแล้วไม่ใช่หรือไง? เฉินซิงหลีมองไปทางเผยเซียวอย่างน้อยใจ เห็นได้ชัดเลยว่าเธออยากให้เขาปล่อยเธอไปเพื่อเห็นแก่หน้าเธอที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน “ถ้าไม่ได้จะมาขอโทษก็ออกไปซะ!” เผยเซียวพูด น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอันตราย หลีเวยเยว่และเฉินซิงหลีฟังแล้วก็ตกใจมากกว่าเดิม พวกเธอไม่คิดเลยว่าเผยเซียวจะโมโหเพราะกู้อิ๋นได้มากขนาดนี้ “คุณกู้ ฉันขอโทษนะคะ!” เฉินซิงหลีกัดฟัน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดกับกู้อิ๋น เห็นได้ชัดว่ากำลังขอโทษ แต่การที่เธอกัดฟันแบบนี้กลับเต็มไปด้วยความแค้นเคือง กู้อิ๋นฟังคำขอโทษพลางส่งเกี๊ยวที่เผยเซียวคีบมาวางในจานให้เข้าปาก “นี่คุณหนูเฉินกำลังขอโทษหรอคะ? ทำไมฉันฟังแล้วรู้สึกเหมือนคุณจะกินฉันลงไปเลยล่ะคะ!?” กู้อิ๋นไม่ใช่คนที่ใครจะมาทำอะไรแบบขอไปทีด้วยได้ และเธอก็ไม่ใช่คนที่ใจกว้างด้วย! เมื่อคืนวานเฉินซิงหลีเอากระเป๋าเดินทางเธอไปทิ้ง เรื่องที่น่าอับอายแบบนี้เธอไม่อยากปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ “งั้นคุณจะเอายังไงคะ?” เฉินซิงหลีเก็บกักคว