ถึงแม้ว่าต่อหน้าเผยเซียวเธอจะอดกลั้น แต่ในใจของเธอตอนนี้ก็นึกโมโหขึ้นมาแล้วเช่นกัน เธอหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที “งั้นคุณกู้จะให้ทำยังไงล่ะคะ?” ทำยังไง? เธออยากจะปัดปัญหานี้มาให้กู้อิ๋นสินะ? ทำให้เผยเซียวคิดว่ากู้อิ๋นเป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยสินะ? กู้อิ๋นกอดอกตัวเองเอาไว้ “คุณหนูหลีพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะคะ ฉันก็แค่อยากให้เฉินซิงหลีมาขอโทษฉัน มันคงไม่มากเกินไปหรอกใช่ไหมคะ?” ยังอยากจะปัดปัญหามาให้เธอ สายตาของเผยเซียวนี่แย่จริงๆ ชอบอะไรไม่ชอบดันมาชอบแม่ดอกบัวขาว(ผู้หญิงที่ลุคเรียบร้อยแต่ในใจร้ายกาจ)คนนี้ ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ในใจของกู้อิ๋นหลีเวยเยว่ของคือแม่ดอกบัวขาวดีๆนั่นเอง! ทั้งๆที่คนผิดคือพวกเธอแท้ๆ แต่กลับมาทำเหมือนว่ากู้อิ๋นเป็นคนผิดเองซะอย่างนั้น แต่เสียใจด้วย กู้อิ๋นไม่ใช่คนที่จะยอมใคร หลีเวยเยว่เองก็จะพอจะรู้มาบ้างแล้วว่ากู้อิ๋นเป็นยังไงจากตอนนั้นที่โรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าต่อหน้าเผยเซียวเธอก็จะไม่เก็บอาการแบบนี้ ในใจเธอโกรธมากๆ แต่ว่าตอนนี้...... หลีเวยเยว่อดทนอีกครั้ง สุดท้ายจึงพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณกู้พูดถูก ซิงหลีควรจะมาขอโทษคุณค่ะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้เขามาขอโทษฉันเขา
เผยเซียวเห็นว่ากู้อิ๋นไม่ยอมใส่ก็ตีหน้าขรึมใส่เธอ “หนาวอะไรกัน ไปอาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียงนอนไปเลย” ไม่ว่าจะยังไงก็ออกไปข้างนอกคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด! กู้อิ๋นมองไปทางเขาอย่างน้อยใจ เธออยากจะใส่ชุดนอนหนาๆจริงๆนะ แบบนั้นสบายกว่าตั้งเยอะ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเผยเซียวไม่ต้องการให้เธอออกไป กู้อิ๋นมองไปทางเขาอย่างน้อยใจ! ตอนนี้หลีเวยเยว่อยากจะพูดอะไรสักคำ แต่พูดไม่ออก เผยเซียวมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความไม่แยแสแต่ก็ยังลุกขึ้นยืน “งั้นก็ไปสิ!” “หา?” กู้อิ๋น “ไม่ได้จะไปซื้อชุดนอนหรือไง? ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวห้างก็ปิดหรอก” “คุณ คุณจะไปกับฉันหรอคะ?” กู้อิ๋นหันไปมองทางหลีเวยเยว่ เผยเซียวมองจ้องไปทางเธอ กู้อิ๋นรีบพยักหน้า “ขอบคุณนะคะประธานเผย ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ได้ยินว่าเผยเซียวอนุญาตให้เธอไปซื้อเสื้อผ้าเธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองในตอนนี้และท่าทางของเผยเซียวมันเหมือนกับการเหยียบย่ำลงไปบนหัวใจของหลีเวยเยว่สักแค่ไหน หลีเวยเยว่เห็นเผยเซียวจะพากู้อิ๋นออกไปก็ลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ แต่ในตอนนี้เผยเซียวกลับหันมามองเธอ ก่อนจะทิ้งคำพ
“อะไรนะ? นี่พี่รองพายายนั่นไปซื้อเสื้อผ้าเองเลยหรอ?” เฉินซิงหลีรู้สึกเหมือนจะบ้า! ทำไมเรื่องราวถึงได้เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้กันนะ? กู้อิ๋นเป็นปีศาจตัวไหนกันนะ? ทำไมถึงทำให้พี่รองไปด้วยได้ เขาไม่เคยคิดจะไปห้างมาก่อนด้วยซ้ำ? นอกจากความโกรธแล้วเฉินซิงหลีก็รู้สึกตกใจมากๆ! ในแววตาของหลีเวยเยว่มีแต่ความเจ็บปวด ตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว เฉินซิงหลีมองไปทางเธออย่างสงสาร “พี่รองเค้าคงตั้งใจจะทำให้เธอโกรธ เธอไม่ต้องไปสนใจหรอกนะ” ตอนนี้เฉินซิงหลีก็ไม่รู้ว่าจะปลอบหลีเวยเยว่ยังไงดีเหมือนกัน และก็ไม่รู้ว่าคำนี้คือปลอบหลีเวยเยว่หรือว่าปลอบตัวเองกันแน่ เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของทั้งกู้อิ๋นและเผยเซียว ถ้าไม่ใช่เพื่อจะทำให้หลีเวยเยว่โมโห งั้นก็เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ “ถ้าเขาจะทำแค่ให้ฉันโมโหก็คงจะดี!” หลีเวยเยว่พูด ถ้าเธอสำคัญมากพอขนาดทำให้เขาเอาเรื่องแบบนี้มายั่วโมโหได้ก็แปลว่าเธอยังมีพื้นที่ในใจของเขาอยู่ แต่ก็กลัวแค่ว่าเขาจะจริงจังนี่สิ! เมื่อกี้ก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ได้มีความอดทนมากมายอะไรกับกู้อิ๋นนัก แต่ก็ยังยอมพาเธอออกไปซื้อเสื้อผ้า หลีเวยเยว่ไม่คิดว่านั่นเป็นการทำเพื่อใ
จากห้างสรรพสินค้ากลับมาที่ห้อง ตอนนี้ไม่มีเงาของเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าการจัดการของเผยเซียวที่มีต่อตระกูลเฉินก็พอจะทำให้พวกเธอรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม เห็นห้องตกอยู่ในความเงียบกู้อิ๋นก็หันไปมองเผยเซียว! “มองอะไร? เสื้อผ้าก็ซื้อแล้วนี่ ยังไม่รีบไปอาบน้ำอีกหรือไง?” เผยเซียวถาม สำหรับนิสัยแบบนี้ของกู้อิ๋นเผยเซียวก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายใจ!ทั้งๆที่เป็นเด็กบ้านนอกแท้ๆ ชีวิตก็วุ่นวายขนาดนั้นแต่ยังจะเรื่องมากอยู่ดี จะนอนก็ต้องเป็นชุดนอนผ้าคอตตอน กู้อิ๋นหยิบเอาชุดที่ถูกซักแห้งเรียบร้อยแล้วจากที่ร้านวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ……! ตอนที่เธออาบน้ำออกมาเสร็จแล้ว เผยเซียวที่อาบน้ำจากอีกห้องหนึ่งก็เสร็จพอดี ตอนที่กำลังจะเข้านอนกู้อิ๋นก็เดินกลับไปที่ห้องที่เธอนอนเมื่อกลางวัน แต่เดินไปได้เพียงสองก้าว เสียงของเผยเซียวก็ดังขึ้นด้านหลัง “จะไปไหน?” “ไปนอนสิคะ!” กู้อิ๋นพูด วันนี้ยุ่งมาทั้งวันแล้วขนาดนั้น ตอนนี้เธอเองก็เหนื่อยมากๆ อยากจะนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มจะแย่แล้ว “ไปนอนห้องนอนหลัก” “.…..” กู้อิ๋น ไม่ใช่แล้วมั้ง พวกเราต้องนอนห้องเดียวกันห
เผยเซียวรับสายโทรศัพท์เสร็จบะหมี่ของเขาก็มาส่งพอดี ในตอนที่กู้อิ๋นเดินกลับไปที่ห้องตัวเองอีกครั้งเขาไม่ได้รั้งเอาไว้! แต่กู้อิ๋นเหมือนจะดูเบาอาการละเมอของตัวเองเกินไปแล้ว เมื่อคืนเธอแยกห้องนอนกับเผยเซียวแล้ว แต่เช้าวันต่อมาในตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ไม่ต้องถามเลยว่าคือเรื่องอะไร เธอ......มาปีนเตียงของเผยเซียวอีกแล้ว เธอเงยหน้าสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเผยเซียว ตอนนี้กู้อิ๋นรู้สึกเหมือนจะชาไปทั้งตัว เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ “ประธานเผย นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ คุณเชื่อไหมคะ?” “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?” เผยเซียวร้องเหอะ! “.…..” กู้อิ๋น เธอมาที่ห้องนี้ได้ยังไงกันนะ? ตอนอยู่ที่ซ่างเหอหยวนก็ว่าไปอย่าง เธอคุ้นเคยกับรูปแบบของห้อง และเธอก็ยังนอนห้องเดียวกันกับเผยเซียวด้วย แต่ตอนนี้ เธอ...... เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอหลับไปเธอจำไม่ได้เลยสักนิด ในตอนนี้เธอได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเผยเซียวก็ได้แต่กลืนน้ำลายก่อนจะพูด “นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ!” เธอพูดอย่างมั่นใจ กลัวก็แต่ว่าเผยเซียวจะไม่ยอมเชื่อเธอ! “เธอคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดก็ดีแล้ว” เผยเซีย
เขาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ขอแค่เพียงไปทำให้เขาโกรธ เขาก็จะทำให้รู้ว่าผลลัพธ์นั้นมันเป็นยังไง เฉินซิงหลีตกใจ……! “แต่นั่นมันคนอื่นนะ!” “แกจะหมายความว่าแกไม่เหมือนกับคนอื่นงั้นหรอ? แกอย่ามองตัวเองสูงส่งขนาดนั้น” ต่อหน้าเผยเซียวประธานเฉินก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครเป็นคนสำคัญในใจของเขา ขนาดพ่อของเขาเองอย่างเผยสิงเฟิงเขาก็ยังมองด้วยสายตาเย็นชา ลูกสาวของเขาไม่รู้อะไรเลยสักนิดทำไมถึงกล้าคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าใครต่อหน้าเผยเซียว? คิดว่ามีดีอะไร? เพราะเป็นเพื่อนของเขางั้นหรอ? ถ้าอีกฝ่ายยังสนใจจะนับด้วยก็ถือว่าเป็นเพื่อน! แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่สนใจก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรทั้งนั้น...... และเฉินซิงหลีแบบนี้ ถ้าเผยเซียวยังคงคิดถึงก็นับว่าเป็นเพื่อน แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น “.…..” เฉินซิงหลีง ได้ยินเสียงแบบนี้ของบิดา ว่าเป็นเพราะความโง่ของเธอเมื่อวานทำให้บริษัทเจอกับปัญหาใหญ่เข้าแล้ว ไม่รอให้เธอได้พูดอะไรต่อ อีกฝ่ายก็เป็นคนพูดขึ้นมาก่อน “หลีเวยเยว่ก็ไปด้วยใช่ไหม?” เมื่อคิดถึงหลีเวยเยว่ก็เธอตอบไปว่า ‘อืม’ เพียงคำเดียวสั้นๆ ตอนนี้ประธานเฉินก็พอจะรู้แล้วว่าทำไมลูกสาวของตนเองถึงได้
เฉินซิงหลีในตอนนี้อยากจะบดกู้อิ๋นให้กลายเป็นผุยผง หลีเวยเยว่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามาหา เห็นท่าทีโมโหของเฉินซิงหลีก็ถามออกมาอย่างสงสัย “ซิงหลี เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” “ฉันจะไม่มีทางปล่อยกู้อิ๋นไปแน่ๆ ไม่มีทาง!” เฉินซิงหลีพูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น เห็นบัตรเครดิตของตัวเองถูกยกเลิกทีละใบ!เฉินซิงหลีในตอนนี้โกรธซะจนหน้าสั่นไปหมด หลีเวยเยว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆเธอ “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น?” เธอดึงมือเฉินซิงหลี ท่าทางเหมือนกับพี่สาวคนโต เฉินซิงหลีเล่าเรื่องที่เธอคุยกับพ่อให้อีกฝ่ายฟังจนหมดอีกหนึ่งรอบ!ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งโมโห “ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้ล่ะคะ? ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆของเขา!” เฉินซิงหลีพูดอย่างโมโห หลีเวยเยว่ไม่คิดเลยว่าน้าของเธอจะทำแบบนี้กับลูกสาวสุดที่รักของเขาได้ “ทั้งหมดก็เป็นเพราะกู้อิ๋นนั่นแหละ!” หลีเวยเยว่ทอดถอนใจ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย!และยังชักนำความโกรธของหลีเวยเยว่ทั้งหมดไปลงที่กู้อิ๋นด้วย เฉินซิงหลีเดิมทีก็โมโหเพราะเรื่องนี้อยู่แล้ว ได้ยินหลีเวยเยว่พูดแบบนี้เธอก็ยิ่งโมโหเข้าไปกันใหญ่ “ใช่ เป็นเพราะยายนั่นค
เฉินซิงหลีเห็นว่าเรื่องนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำยอม!หลีเวยเยว่เห็นท่าทีแบบนั้นจึงถอนหายใจออกมา เธอรู้ว่าน้าของตัวเองเป็นคนยังไง คนที่ฉลาดแบบนั้นจะต้องสืบหาเรื่องราวเมื่อคืนแน่ๆ ถ้าตอนนี้เธอไม่กล่อมให้เฉินซิงหลีไปจัดการเรื่องนี้ แม่ของเธอคงจะกลับบ้านไม่ได้แล้ว! และเธอก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากทางน้าของเธอด้วย! ทั้งสองคนจัดการตัวเองจนเสร็จก็มาที่ห้องของกู้อิ๋นและเผยเซียว ในตอนที่เคาะประตูห้องนั้นกู้อิ๋นกับเผยเซียวกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ ทั้งสองคนนั่งทานอาหารด้วยกันที่โต๊ะอาหารตัวเล็ก มองดูแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ กู้อิ๋นหันมาเจอเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่ ก็ขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีกแล้ว หลีเวยเยว่ลากเฉินซิงหลีที่ยังมีท่าทีไม่จำยอมให้เดินตามเข้ามา เธอมองไปทางเผยเซียวก่อนจะเรียกเขา “อาเซียว!” เผยเซียวเห็นเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่อยู่ด้วยกันก็รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เขาจอบรับเพียงสั้นๆก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดื่มต่อ หลีเวยเยว่รับรู้ถึงท่าทางไม่สนใจของเผยเซียวก็รู้สึกอึดอัดใจ! แต่เธอก็ไม่กล้าจะพูดอะไร เผยเซี