เห็นได้ชัดว่า เมื่อตะกี้นี้คำพูดของพนักงานโรงแรม เธอได้ยินทั้งหมดแล้ว!“พี่ค่ะ”“ไม่คิดเลยว่า เขายังจะให้ฉันรีบๆออกห้องนี้ไป” หลีเวยเยว่พูดด้วยความเจ็บปวดเธอก็นึกว่าการกลับมาครั้งนี้ เผยเซียวจะดีใจเสียอีกแต่สิ่งที่เห็นในตอนนี้ เขาทำตัวหลบหลีกหนีออกห่างจากเธอโดยครั้งแล้วครั้งเล่านึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เฉินหลีซิงโทรหาเขาบอกเรื่องตัวเองเมาแล้วนั้น ในใจเธอก็ยังเต็มไปด้วยความหวัง คิดว่าเขาจะต้องมารับตัวเธอแต่ใครจะคิดล่ะ ในที่สุดก็รอจนเขาไม่ได้มาหา สุดท้ายเฉินซิงหลีก็เรียกโทรตาม แต่เขาก็ไม่ได้รับสายดูๆไปแล้ว เขาทำกับตัวเธอแทบจะไม่มีเยื่อใยแก่กันแล้วจริงๆ!เฉินซิงหลีฟังน้ำเสียงของหลีเวยเยว่ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก็ทนรับไม่ไหว “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะยัยแม่มดกู้นั่นแน่ๆ ดูแล้วไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง คิดไม่ถึงจะเป่าแต่หูพี่รองได้!”พูดถึงกู้อิ๋น เฉินซิงหลีก็ชักสีหน้าหงุดหงิดโมโห สีหน้าของหลีเวยเยว่ก็ค่อนข้างหน้าซีดเรื่อยๆไม่ว่าในใจพวกเธออยากร้องความอยุติธรรมอย่างไรในตอนนี้ แต่ก็ต้องยอมรับ ในตอนนี้กู้อิ๋นได้เป็นภรรยาของเผยเซียวแล้ว!และงานแต่งของพวกเขาก็จะเกิดขึ้นอีกไม่ช้าเมื่อ
ถึงแม้ว่าเผยเซียวก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ง่ายต่อการรับมือ!แต่ลู่ซือเหยี่ยนคนนี้ กู้อิ๋นคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาเป็นอย่างมาก......!เผยเซียวเป็นคนเฉียบแหลมแต่ไหนแต่ไร แค่ได้ก็ฟังน้ำเสียงอารมณ์ของกู้อิ๋นก็เข้าใจทันทีเขาอมยิ้มมองเธอ “ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจเขาสักเท่าไหร่นะ?”“ไม่ใช่ไม่พอใจ เพียงแต่คิดว่าเขาไม่น่าไว้ใจ” กู้อิ๋นเอ่ยด้วยความสัจจริงเผยเซียวเก็บสีหน้าเอาไว้ สายตาจ้องมองเธอเข้าไปลึกๆสายตานี้ทำให้กู้อิ๋นเปิดเผยความรู้สึกออกมา แต่แล้วก็เก็บอาการ “ฉันผิดไปแล้วค่ะ!”“คุณสมบัติเขาเป็นอย่างไรนั้น เธอไม่ต้องสนใจ!สนใจแค่เขามีประโยชน์หรือไม่มีเท่านั้นก็พอ”“รับทราบค่ะ ขอบคุณท่านประธานที่ชี้แนะค่ะ!”กู้อิ๋นเบะปาก!เพียงแค่ คุณสมบัติของผู้ที่จะร่วมมือกัน จริงอย่างที่เผยเซียวพูดมาเยี่ยงนี้ มันไม่สำคัญเลยสักนิดเลยหรือ?กู้อิ๋นไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปด้วยกับเขาเลยสักนิดเธอคิดว่า คุณสมบัติของคนบางคน อันที่จริงแล้วมันก็ยังค่อนข้างสำคัญเผยเซียวแลมองเธอบ่นพึมพำ นัยน์ตาเขาแอบแฝงรอยยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่เมื่อทั้งสองมาถึงห้องโถงนั้นคนที่รอพบอยู่ก็มาถึงแล้ว!“ประธานเผย” ลู่ซือเหยี่
ดังนั้น...... “ท่านประธานลู่คะ ดิฉันขออนุญาตดื่มแทนท่านประธานเผยค่ะ”ว่าแล้วกู้อิ๋นก็รีบยกแก้วเหล้าดื่มแทนเผยเซียวทันทีลู่ซือเหยี่ยนได้ฟังเช่นนั้นก็อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง มองกู้อิ๋นด้วยความไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุ แล้วกลับหันมามองที่เผยเซียว “ท่านประธานเผยครับ?” “อ๋อ ผมดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ครับ”เผยเซียวตอบอย่างเย็นชาลู่ซือเหยี่ยนเป็นคนที่ช่างสังเกตคำพูดและสีหน้าของผู้อื่น เมื่อได้ฟังเผยเซียวพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่ออีกนอกจากพูดไปว่า “ถ้างั้นก็รบกวนผู้ช่วยกู้แล้วนะครับ?”คำพูดนี้พูดอย่างค่อนข้างคลุมเคลืออย่างมากกู้อิ๋นได้ฟังแล้วชักสีหน้าไม่ค่อยดี!หากไม่ใช่เผยเซียวอยู่ เธอก็คงจ้องตาเขียวปั๊ดกับลู่ซือเหยี่ยนเป็นแน่แต่ว่าเผยเซียวอยู่ด้วย สรุปเธอทำได้ก็คือเก็บอารมณ์ของเธอเอาไว้แต่ทว่าเผยเซียวที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับได้กลิ่นอายของลู่ซือเหยี่ยนที่ไม่ชอบมาพากลนั้นขึ้นมา จึงนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งลู่ซือเหยี่ยนน่าจะมีแผนการของเขาอยู่แล้ว อย่างไรเสียท่าทีที่สั่งให้เสี่ยวเย่มารินเหล้าให้เผยเซียวเมื่อตะกี้นั้น มันก็เห็นได้อย่างชัดเจนมาก เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าเผยเซียวไม่ดื่
สมแล้วที่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของเป่ยเฉิง ที่เป่ยเฉิงลู่ซือเหยี่ยนขึ้นชื่อเลยว่าเป็นพยัคฆ์ร้ายในคราบคนใจดี จากที่ฟังมา เขาเป็นคนที่ดุมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นคนที่ยืดหยุ่นได้ในทุกสถานการณ์ด้วย! วันนี้ก็ถือว่าเธอได้พบเจอด้วยตัวเองแล้ว ตอนที่ประสบสอพลอก็ทำตัวให้ต่ำจนแทบจะจมลงไปอยู่กับทราย แต่พอหันหลังกลับก็โผล่ร่างที่เหมือนกับราชาขึ้นมาทันที……! และการที่เผยเซียวสามารถดึงด้านนี้ของเขาออกมาได้ ก็แปลว่าสำหรับเขาแล้วเผยเซียวก็มีค่ามากๆ ความรู้สึกแรกของกู้อิ๋นสำหรับการทำงานร่วมกับคนคนนี้คือ......อันตรายมากๆ! “ผมพาคุณไปเที่ยวเล่นดีไหม?” เห็นเธอไม่พูดอะไรเขาจึงเอื้อมมือมาบีบที่ใบหน้าของเธอ ความร้ายกาจที่ออกมาจากตัวเขาเมื่อสักครู่มันเหมือนกับไม่ใช่ความจริงอย่างไรอย่างนั้น เพราะแค่เพียงพริบตาเดียวเขาก็เปลี่ยนกลับมาเป็นคนที่ดูเสเพลตามเดิม “ฉันไม่ไปค่ะ ฉันจะกลับไปหาประธานเผย” กู้อิ๋นพูด ลู่ซือเหยี่ยนจับเธอเอาไว้ด้วยมือเดียว “ไปหาประธานเผยอะไรกัน คืนนี้ประธานเผยมีคนคอยดูแลแล้ว” กู้อิ๋นรู้ว่าที่ลู่ซือเหยี่ยนพูดมันหมายความว่าอะไร “ประธานเผยไม่ใช่คนแบบนั้น” “อะไรท
“มือของฉันไม่ได้สกปรกนะคะ ฉันเพิ่งจะล้างมือมาเอง” เธอพูดจบเผยเซียวก็มองมาทางเธอด้วยสายตาเย็นชา สายตานี้ทำเอาเธอตกใจจนแทบบ้า “ฉันเช็ดค่ะ เช็ดเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” แค่นี้ก็จบแล้วใช่ไหม? กู้อิ๋นดึงกระดาษทิชชู่เปียกออกมาอย่างน้อยใจ เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองค่อนข้างที่จะเข้าใจเผยเซียวนะ แต่ดูจากตอนนี้แล้วมันกลับไม่ใช่แบบนั้น อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่เธอถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้ เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด เห็นท่าทางยอมรับฟังของเธอ ความโมโหในใจของเผยเซียวก็ค่อยๆสลายหายไป แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “ท่องข้อบังคับเวลาไปคุยธุรกิจของบริษัท!” “อะไรนะคะ?” นี่มันเรื่องอะไรกันอีกละเนี่ย? “ท่อง!” เผยเซียวพูด คำๆเดียวเต็มไปด้วยความเย็นชาและอันตราย ตอนนี้กู้อิ๋นเพิ่งจะรู้ว่าเผยเซียวโมโหมากจริงๆ เขาก็ไม่ได้ดื่มนี่นา โมโหขนาดนี้เห็นทีจะโกรธขึ้นมาจริงๆ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งทีก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเริ่มพูดด้วยเสียงเบาๆ “ห้ามหัวร่อต่อกระซิกกับลูกค้า ห้ามมีการสัมผัสตัวกับลูกค้า ห้ามออกไปค้างคืนกับลูกค้า ห้ามมีความสัมพันธ์ลับหลังกับลูกค้า!” “แล้วเมื่อกี้เธอทำอะไร?” เมื่อกี้? ที่ลู่ซือเ
กู้อิ๋นในตอนแรกกำลังจะพยักหน้าและจะไปอีกห้องกับเฉินซิงหลี แต่เธอกลับถูกเผยเซียวผลักกลับเข้าไปในห้องเดิม “ไปอาบน้ำ ตัวเหม็นจะแย่!” “.…..” กู้อิ๋นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “.…..” เฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่ ทั้งสองคนเห็นท่าทีที่เผยเซียวมีต่อกู้อิ๋นก็ชะงักไป โดยเฉพาะหลีเวยเยว่ เธอยืนหน้าเขียวหน้าแดงอยู่ที่เดิมแบบนั้น!เฉินซิงหลีในตอนแรกตั้งใจจะพาตัวกู้อิ๋นไปเพื่อจะเว้นช่องว่างให้กับเผยเซียวและหลีเวยเยว่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเผยเซียวจึงรู้ได้เลยว่าคงไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเห็นใบหน้าที่ซีดไปแล้วของหลีเวยเยว่ เฉินซิงหลีก็อดจะตะโกนออกมาไม่ได้ “พี่รอง” เผยเซียวไม่สนใจเฉินซิงหลี แต่หันกลับไปจ้องกู้อิ๋นแทน “ฉันไปแล้วค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เลย” ตัวเธอเหม็นขนาดนั้นเลยหรือไง? ทำไมเธอไม่เห็นได้กลิ่นเลย? กลิ่นคงไม่ได้มาจากตัวเธอหรอกมั้ง? แต่เมื่ออยู่ภายใต้สายตาข่มขู่ของเผยเซียว กู้อิ๋นเองก็ไม่กล้าแย้งอะไร ได้แต่รีบเดินกลับไปที่ห้อง หลีเวยเยว่มองไปทางเผยเซียวอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเรียกเขา “อาเซียว” “พี่รองอย่าทำแบบนี้กับเธอสิ แค่นี้เธอก็เจ็บปวดมากแล้ว” เฉินซิงหลีพูด คิดถึงตอนที่พวกเขาจากไปเธอก็เ
“อาเซียว……!” เธอมองไปทางเผยเซียวอย่างน้อยใจ น้ำตาของเธอคลออยู่ที่นัยน์ตา เหมือนกับว่ากู้อิ๋นพูดอะไรที่ผิดไปอย่างไรอย่างนั้น เดิมทีเฉินซิงหลีก็ไม่ชอบในตัวกู้อิ๋นอยู่แล้ว เธอคิดว่ากู้อิ๋นเข้ามาแย่งทุกอย่างจากหลีเวยเยว่ไป ตอนนี้เห็นหลีเวยเยว่ถูกกู้อิ๋นว่าจนพูดอะไรไม่ออก เธอก็โกรธจนอยากจะพุ่งเข้าไปตบหน้ากู้อิ๋น “เธอมันก็แค่เมียน้อยที่ได้โอกาสมายืนอยู่ตรงนี้ แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องนี้กับพวกฉัน” ในตอนที่มือของเธอกำลังจะไปกระทบที่หน้าของกู้อิ๋น เผยเซียวก็เอื้อมมือมาจับเอาไว้ เฉินซิงหลีรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดก็หันไปมองทางเผยเซียว “พี่รอง นี่!” เผยเซียวสะบัดมือเธอออก “หยุดได้แล้ว!” “พี่รองต่างหากที่หยุดได้แล้ว เธอขอโทษพี่แล้วนะ ทำไมพี่ถึงยังทำร้ายจิตใจเธออยู่ล่ะ” เฉินซิงหลีถาม ตอนนี้ใบหน้าของเผยเซียวเคร่งขรึมลงจนถึงขีดสุด เขาไม่สนใจเฉินซิงหลีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลั่วเหยียน ลั่วเหยียนก็กดรับอย่างรวดเร็ว “อาเซียว” เวลาหลังเลิกงาน ปกติแล้วลั่วเหยียนกับเผยเซียวจะสนิทกันพอสมควร “นายช่วยยกเลิกสัญญาทั้งหมดที่ทำกับตระกูลเฉินด้วย!” เผยเซียวพูด “เกิดอะไรขึ้น?” คน
เฉินซิงหลีกัดฟันพูดประโยคพวกนั้นออกมา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจแต่เมื่อคิดได้ว่าเรื่องนี้มีผลกระทบไปถึงบริษัทเธอจะไม่ยอมก้มหัวก็ไม่ได้! แต่ในตอนที่เธอกำลังจะลุกขึ้นนั้นก็ได้ยินเผยเซียวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ต้อง” “อาเซียว~!” เมื่อได้ยินเผยเซียวพูดว่า ‘ไม่ต้อง’ ในใจของเธอก็ร้อนรนขึ้นมา เธอรู้นิสัยของเผยเซียวมาโดยตลอด ตอนนี้เขาพูดว่าไม่ก็รู้ได้เลยว่าผลลัพธ์ของมันจะร้ายแรงสักแค่ไหน เผยเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะได้โอกาสใหม่จากฉันคนนี้” “.…..” หลีเวยเยว่ “.…..” เฉินซิงหลี มองเธอมองกันอย่างตกใจ ต่างฝ่ายต่างเห็นแววตาของอีกคนที่สื่อออกมาว่าไม่อยากจะเชื่อ เผยเซียวพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรที่เรียกว่าใครก็ได้? พวกเธอเป็นแค่ใครก็ได้ในชีวิตเขางั้นหรอ? หลีเวยเยว่มองไปทางเผยเซียว ความเจ็บปวดทางแววตายิ่งชัดเจนมากขึ้น “อาเซียว นี่มัน!” เฉินซิงหลีนั่งลงไปที่พื้นพรมอย่างหมดอาลัยตายอยาก เผยเซียวหมายความว่าอะไรกันแน่? หมายความว่าตอนนี้พวกเธอยอมลงให้ และไปหากระเป๋ามาคืนก็ไม่ได้งั้นหรอ? “เผยเซียวนายทำเกินไปแล้ว!” เฉินซิงหลีตะโกนออกมาก่อนจะลุกขึ้นมาจ